4รุ่น รถยนต์ไฟฟ้า ที่วิ่งไกลมากกว่า 1,000 กม/ชาร์จ
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 7 ม.ค. 2022
- ก้าวเข้าสู่ ปี 2022 อย่างเป็นการการ ซึ่งในปีนี้ถือได้ว่าเป็นปีที่รถยนต์ไฟฟ้ามีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก นั่นคือมีเหล่าค่ายยานยนต์หลายค่าย ได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าของตนเอง ที่สามารถทำระยะทางได้เกินกว่า 625 ไมล์ หรือมากกว่า 1,000 กม/ชาร์จแล้วนั่นเอง แน่นอว่ากับระยะทางขนาดนี้ คุณหมดกังวลเรื่องสถานีชาร์จระหว่างทางไปได้เลย เพราะแบตเตอรี่เมื่อชาร์จเต็ม สามารถขับได้รวดเดียวจากกรุงเทพ-เชียงใหม่ได้สบายๆ แล้วยังเหลือแบตไว้ให้ๆดขับเที่ยวไปอีกหลายวัน แล้วปัจจุบัน มีรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นไหนบ้างที่สามารถวิ่งได้ไกลมากกว่า 1,000 กม/ชาร์จ ถ้าพร้อมแล้วไปลุยกันครับ
► ติดตามข่าวสารและพูดคุยกับเราได้ที่
เฟสบุ็ค : / carraver
เว็บไซต์ : www.carraver.com
► เราจะพยายามทำคอนเทนต์ใหม่ๆออกมาให้เพื่อนๆชมทุกวัน หากเพื่อนๆคนไหนอยากให้เราทำวิดีโอเกี่ยวกับอะไร สามารถคอมเม้นบอกเราได้ที่ใต้วิดีโอเลยครับ
► สุดท้ายต้องขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุนจากทุกคน ข้อมูลบางอย่างอาจมีผิดพลาด เราต้องขออภัยด้วยครับ และหากอยากให้เราปรับปรุงในเรื่องไหนบอกเราได้เลยครับ เราคาดหวังว่าช่องจะเติบโต และมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ชมทุกท่านครับ.
#รถยนต์ไฟฟ้า
#รถยนต์ไฟฟ้าวิ่งไกลสุด
#ข่าวรถยนต์ไฟฟ้า
Source : - ยานยนต์และพาหนะ
เห็นหลายคนยังสงสัยเรื่องมาตรฐานการวัดระยะทาง ทางเรากำลังสรุปข้อมูลของมาตรฐานแบบต่างๆ โดยเฉพาะ CLTC แล้วจะทำคลิปออกมาอีกทีครับ
ส่วนความแตกต่างระหว่าง NEDC WLTP และ EPA ดูได้ในคลิปนี้นะครับ th-cam.com/video/-gEL0o0HoSw/w-d-xo.html
จะรอนะครับ
ขอทราบราคาด้วยครับ
ชชชชขบ
บริษัทไหนก็ทำได้แหละ แต่ยัดแบตเข้าไปเยอะๆ แต่รถคงหนักมาก
เยี่ยมครับ คอยอยู่ถ้ามรรถวิ่งด้วยความเร็ว 120 กม./ชม. การทดลองยิ่งดี
วิ่งไกล = แบตใหญ่ = ชาร์ตนานกว่า
ขอแค่มีสถานีชาร์ต DC 200 kW กับรถที่รับ HPC 15 นาทีได้ 45 kWh ราคาแถว ๆ 1.5-1.6 ล้านก็น่าใช้แล้ว
ปกติ ก็มีคนขับ กรุงเทพ-หาดใหญ่(สงขลา)ซึ่งมีระนะทางเกือบ1000กิโล มีเยอะแยะ และสมัยเราเป็นเซลเขตใต้ ก็วิ่งแบบนี้ตลอด ออกตี5ถึง5โมงเย็น หรือออก20.00น. ถึง 8.00น.ของวันใหม่ ไม่เห็นพัก (จะมีก็พัก เข้าห้องน้ำ หรือทานข้าว) ...จะบอกว่าไม่มีคนขับยาวแบบนี้ก็ไม่ใช่นะคะ คนเป็นเซล เค้าก็ขับทางไกลแบบนี้ตลอด แม้แต่ตอนนี้ถ้าจะขับไปอีก ก็ยังทำแบบนี้คือขับยาวเลย ไม่สะดวกแวะนอนกลางทางเช่นนโรงแรม ครึ่งทางแล้วค่อยขับต่อพรุ่งนี้ ไม่ค่อยทำกัน นอกเสียจากต้องการขับเที่ยวแวะจังหวัดท่องเที่ยวเพื่อชมวิว ชมสถานที่ท่องเที่ยว ถึงจะขับ6ชั่วโมงแล้วแวะโรงแรมนอน และเดินทางขับต่อไป....
แวะทานข้าวก็คือแวะพักนะครับ ไม่ใช่แค่พักนอนโรงแรมนะครับ ซึ่งช่วงเวลาทานข้าวนั้นก็คือชาร์จแบตได้
แวะกินข้าวมันคือกันพักปะละครับ แหม่
รถเติมอะไรครับไม่พักเลย....คนขับไม่แวะเข้าห้องน้ำบ้างหรือครับ ชาร์จ10นาทีวิ่ง100กิโล คุณทานข้าว30นาทีเพิ่มมาอีกตั้ง300กิโลนับเวลาที่คุณพักก็คงเพียงพอให้วิ่งไปกลับได้สบายนะครับถ้ามันจริงอย่างที่เค้าพูดจริงๆนะครับ
ยังไง. เวลานี้. หากจุดชาร์ทยังไม่ครอบคลุม
ทั่วประเทศ.ต่อให้วิ่งได้.
800-900กม.ต่อชาร์ทเต็ม
ก็ยังไม่เหมาะที่จะใช้
ราคารถก็ยังสูงอยู่ แบตฯยังแพงอยู่
@@sanpechleejansiri371บ่นเป็นยังเดียว หมึงไม่มีเงินซื้อหรอก รำคาญ บลูลี่ตัวเองเถอะ
แต่อยากให้ Nio เข้ามาตลาดในบ้านไวๆจังดูจากหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคาที่ให้มาถ้ามาทำตลาดในไทยถือว่าลูกพอสู้ได้และอ๊อฟชั้นเขาก็ใส่มาเต็มถ้าเป็นแบรน์ดถือว่าราคายังสูงลูกค่าก็คงจะหันมาที่ Nio มากกว่าเพราะราคาน่าจะจับต้องได้
เป็นทางออกที่สุดยอดเลย ในเวลาน้ำมันแพง
2023 ระยะทางที่รถวิ่งได้คงมี 600+ กม.ต่อชาร์จ กันส่วนมากละมั้ง
ยิ่งวิ่งได้ไกล แบตยิ่งแพง เมืองไทย ขอแค่ 600-700 ต่อชาร์ทก็พอแล้ว ถ้าไม่ได้ไปต่างจังหวัดบ่อยๆ
ถ้าจะซื้อ ขอแนว suv 5-7 ที่นั่ง วิ่งได้ไกลเกิน 500 พอแล้วล่ะ ไงซะก็ต้องหยุดพักแทบทุกปั๊มอยู่ดี
รอ nio ET5 อยู่ครับ
มีในไทยจะซื้อเลย อยากช่วยลดมลพิษ
ส่วนใหญ่ที่ลงทุนซื้อรถไฟฟ้าเพราะคิดว่าจะประหยัดค่าใช้จ่ายจากการเติมน้ำมันของรถสันดาป ถ้าจะล้อคสเปครถเพื่อจอดชารจไฟก้ไม่ต่างไปจากเดิม
ถ้าคนทั่วไปจับต้องได้ก้อดีนะครับ.อยากให้มีมาบ้าง
วิ่งได้1,000กิโล Wowน่าสน เดี๋ยวจะเลิกใช้รถน้ำมันแล้วล่ะ
500 กม.ขึ้นไป เริ่มน่าใช้แบบจริงจัง
ถ้าเป็น 700+800 ผมนักลงทุนก็หน้าจะเริ่มสนใจนะครับ ( เดาข้อมูลนะครับ)
Amazing👍👍👍👍
สุดๆ
มาตรฐานในอนาคตต้อง1000กทมเท่านั้น เมื่อพัฒนาไปไกลกว่านี้ราคาพอๆกับรถน้ำมัน
วิ่งไกล ชาร์จเร็ว แบตถูก ปลอดภัย
เริ่มที่ 500/ครั้งก็น่าจะโอเคครับ
ใส่แบตเยอะๆ เพื่อการใช้งานไม่กี่ครั้งต่อปี ไว้เป็นค่าใช้จ่ายตอนแบตหมดอายุ
ยิ่งไปได้ไกลเท่าไหร่ เตรียมใจไว้เลย ค่าแบตรี่ โหดมากแน่นนอน อีกอย่างถ้ายางต่างๆ ที่ป้องกันไม่ให้ไฟรั่ว ถ้าหากระบบเกิดล้มเหลว เราจะมั่นใจได้ไงว่า จะไม่ได้ ไฟช็อตตาย ใครว่าไฟรถไม่แรง เถียงขาดใจ มีสะดุ้งแน่นนอน
555555 กูตลกวิศวกรคนนี้จังว่ะ สงสัยเงินเติมเนตจะหมด
@@bangbun09 เออค่ะตลกเหมือนกัน
ไปลงนรกเถอะ บ่นอยู่ได้ เคยขับหรือเปล่า
สุดยอดครับ1000ก ม
หมดค่าไฟฟ้าไม่ถึง400-
ผมกังวลอยู่ 2 เรื่อง คือ ถ้ามีคนใช้เยอะๆ ตอนเราจะเข้าไปชาร์ต กลัวว่าคิวจะยาว ถ้ารอไม่เกิน 1 ชั่วโมง พอรับได้ ถือว่าเป็นการแวะพักในระหว่างการเดินทาง อีกประเด็นคือ ราคายังแพงกว่ารถน้ำมันอยู่มาก
เหมือนกับตอนที่ก๊าซกำลังรุ่งต้องจองคิวเข้าเติม..
รอเปลี่ยนรัฐบาลไหม่ราคาจะลดลงเยอะเลยครับ เพราะตอนนี้ติดหนี้เยอะ
ต้องรีดภาษีจากค่าน้ำมัน
@@user-fi4fi4vc6e น่าจะยากใครๆเข้ามาก็อยากมาใช้เงินภาษีกันทั้งนั้น นอกจากบ.รถจะทำราคาลงมาเองเพราะแข่งกันหนัก
@@dontreekhrutdilakanan8548 ไม่มีทางถูกครับ ธุรกิจ ยิ่งขายได้ ยิ่งแพง เหมือนน้ำมัน ไม่เคยถูก มีเเต่แพงขึ้นทุกปี
Review vinfast pleees
...มันชาร์ทง่าย ๆ เหมือนมือถือซะที่ไหนเล่า รถมีแต่ที่เติมปะจุพลังงานไฟฟ้าหายาก...
แค่ 600-700 กิโลเมตร ในรถยนต์ไฟฟ้าธรรมดา ๆ ก็อยากซื้อมากขึ้นละครับ
ในเมืองไทย ปีใหม่สงกรานต์ ถ้ารถติด 1พันกิโลเมตร ไม่น่าจะถึง
ส่วนตรูไม่สะออนกับรถไฟฟ้า พอแบตเตอรี่เริ่มเสื่อมมันจะวิ่งระยะทางได้น้อยลง เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ราคาแพง 3-5 แสนกว่าบาทและถ้าเป็นรถมือสองจะไม่มีราคา อย่างน้อยเต้นรถหักราคาค่าแบตเตอรี่ใหม่ แล้วมันจะเหลืออะไร
ที่สำคัญไม่ต่างจากระยะทางต่อชาร์ท คือราคาแบตเตอรี่ครับ เพราะแบตฯต้องชาร์ททุกวัน อายุการใช้งานไม่น่าเกิน5-6ปี ก็เสื่อมแล้ว ถ้าต้องเปลี่ยนแบตราคา 60-70%ของราคารถ ไหนจะค่าบำรุงรักษาต่างๆ ภาระระดับนั้น คนทำงานทั่วไปที่เงินเดือนไม่ได้สูงมาก ไม่น่าจะไหว มันเป็นข้อด้อยที่ทำให้ในประเทศเราคนไม่ค่อยให้ความสนใจใช้รถยนต์ไฟฟ้า
...เห็นด้วยครับ...
เรื่องแบต
60-70%น่ากลัว
นะ
ถ้าคนจน
ที่มีอยุ่90%
ของไทลาน
ซื้อคันใหม่ได้เลย
นะนั้น
ตอนนี้ผู้คนส่วนใหญ่สนใจซื้อรถไฟฟ้าคันที่ไม่แพงมาก แถวบ้านผมที่เห็นวิ่งกันเยอะๆ ก็มี NETA กับ BYD รองลงมาก็เห็น FOMM ONE, Wuling, Volt, ORA good cat ครับ ยังไม่มีวี่แววของรถยี่ห้อเทสล่ามาวิ่งให้เห็นเลยครับ
ถูกลอต
จะซื้อ
คนแรก
ของ
หมู่บ้าน
อะ
รถปิคอัพมีไหม
ทนรึเปล่า..คือ คำตอบ ผู้บริโภค
ถ้ารถไฟฟ้าคันละ1.5 - 2 ล้าน ผมขอเลือกซื้อรถใช้น้ำมันต่อไป เช่น ฟอร์จูเนอร ซีอารวี หรือแอคคอรด. หรือ ดึแมกซ์ รี โว่ เอาส่วนต่างค่าตัวรถ มาเป็นค่าน้ำมัน. ดีกว่า ไปใช้รถไฟฟ้า ที่อยู่ในช่วงกำลังพัฒนา
ใช่ครับ ถ้าเปรียบรถไฟฟ้าตอนนี้กับยุคของคอมพิวเตอร์ ก็ยังเป็นยุคแรกของคอมพิวเตอร์ที่ใช้หลอดสุญญากาศอยู่ครับ
ขายเป็นร้านลดภาษีบ้างสิคับ
พูดแต่ในประเทศอืนประเทศเราไม่เห็นมีแววที่จะผลิตรถไฟฟ้าออกมาเลย ประเทศลาวเขานำหน้าไปแล้ว ที่สะหวันนะเขต เขาผลิตรถไฟฟ้าขายในประเทศ ยี่ฮ้อเกียและฮุ่นได
ประเทศเรา ค้าแป้ง
4:35 wrong typing...1 kW•hr/ 10 km. Not 100 km. (6 miles not 60 miles)
And 100 kW•hr × 10 km.= 1,000 km per one charge, correct.!!
ในไทยละครับรุ่นไหนถึง1000 กิโล
เปลี่ยนแบตทีซื้อรถน้ำมันได้คัน ผ่อนรถยังไม่หมดผ่อนแบตต่อ
เจอถนนมิตรภาพเส้นอีสานช่วงเทศกาลหน่อยจะเป็นไรมั้ย
รอ isuzu ไฟฟ้าผู้นำต้อง isuzuขายดีที่ 1love love d-maxพลานุภาพไร้ขีดจํากัด
อยากใช้รถดีดีแต่ที่มีมันแสนแพงรถไฟฟ้าดีต่อโลกดีต่อเราคงได้แต่มอง
ราคายังสูงอยู่คนทั่วไปยังเข้าถึงได้ยาก เรื่องระยะทางไม่เท่าไหร่เอาเรื่องราคาก่อนดีไหม
ลดภาษีให้เท่าประเทศลาวก่อนดีไหมครับ
ราคาถูกซื้อแน่นอน
NEO ET 5
...
BENZ
TESLA
OK
รุ่นที่วิ่งไกลพันโลต่อชาตยากให้มาขายในประเทศไทยไวๆจังครับรอซื้อนะรุ่นใหนเข้ามาขายก่อนราคาไม่แพงเกินไปรับรองขึ้นอันดับ1แน่ๆๆ
ถ้ามีรถกระบะไฟฟ้าเข้ามาและราคาคนไทยเข้าถึงได้ก็จะดีมากๆคับ
เว่อร์ ๆ 1000 กม/ชาร์จ ต้องรถจีน
ORA Good Cat ขึ้นเนินหน่อยเดียว
ต้องจอดพัก เพราะมอเตอร์โอเวอร์
โหลดร้อนจัด
1000 กม ต้องทางเรียบ ความเร็วคงที่ 20 กม/ชม.
ลงเนินได้ แต่ห้ามขึ้นเนิน เรื่อย ๆ เด๋วก็ถึง 5 5 5
ในคลิปก็มีรถจีนถึง2เจ้าเลยน่ะครับ nioกับGAC ทำเป็นเล่นไป ไปเเซะเค้าเเบบนี้เป็นผมอายเเทนครับ เพราะเเบร์นGMWยังไม่ใช่เเบร์นระดับไฮเอนของจีนครับ
อยากให้สมาชิกเทียบกันที่ราคาตัวรถด้วยครับ อยากให้ดีกว่านี้ก็ต้องพร้อมจ่ายอีกเท่าตัวหรือมากกว่า ส่วนตัวผมว่าบ้างท่านอาจไม่ได้ใช้รถไฟฟ้าครับ
1.5 ล้านพอเข้าบ้านเรา30-40ล้านนู้นล่ะมั้ง หาช้าวกินค่ำคงสุดที่จะเอื้อม
ถ้า 1.5 ล้าน ผมซื้อรถน้ำมัน 6 แสน อีก 9 แสนไว้เติมน้ำมัน คุณว่าเติมได้กี่ปี?
เพราะรถใช้น้อย ใช้ตามจริง ไม่จำเป็นต้องเสียเงินล่วงหน้าถึง 9 แสน
@@user-ge4ii5if2t มันก็แล้วแต่มุมมองความคิดของแต่ล่ะคนครับ ต้นทุนมันไม่เท่ากัน
คนที่เค้ามีเงินเยอะอยากได้เค้าก็ซื้อ....คนมีเงินซื้อรถคันล่ะ50ล้าน ส่วนเราเอาเงิน50ล้านซื้อรถเก๋งคันล่ะ7-8แสน เหลือเงินใช้อย่างอื่นอีกเยอะ ทั้งที่มันก็ขับไปไหนได้เหมือนกัน ผมว่าค่านิยมมันไม่เหมือนกัน ส่วนผมซื้อตามกำลังและประโยชน์ที่ใช้ให้คุ้มค่ากับสิ่งที่เสียไปดีกว่าครับ
@@user-qd6yx4fv4x ถูกต้องเลยครับ เพราะกำลังน้อยผมก็คิดตามที่ผมคิด
ok
รถจีนมีมากมายหลายสิบยี่ห้อถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีของผู้ซื้ออยู่ที่การวิเคราะห์ข้อมูลของยี่หัอต่างๆให้ดีก่อนที่จะซื้อ
มาแต่ละทีคนทั่วไปไม่อาจแตะต้องได้เลย แม้แต่เอื้อมไม่ถึงด้วยซ้ำ
ของไทยอีก 5 ปีจะมีตัวเลือกเยอะไหมครับเเอดอนาคตรถคันที่สองก็เล็งรถไฟฟ้าไว้เหมือนกันเเต่ขอรถปกติไม่พลีเมี่ยมหรูหราพอ
ถ้า 5 ปีข้างหน้า คงแน่นเลยครับ แค่ปี 2022 นี้ แน่ๆคือ มี 4-5 รุ่นจ่อคิวเปิดตัวครับ เริ่มจาก เดือนหน้าเป็นคิวของ Volvo XC40 EV ส่วนรุ่นที่ไม่ใช่ระดับหรู ถ้าไม่มองรถจีนก็อาจต้องรออีกหน่อยครับ
AION
เขาทำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้กันแต่ทำไมไม่ทำให้มัน-ช้าร์จไปในตัวของมันได้เอง-อย่างรถยนต์ที่ใช้น้ำมันไม่ได้หรืออย่างไร?หรือยังคิดไปตรงนั้นยังไม่ได้เลย?
ถ้าเปรียบกับยุคคอมพิวเตอร์ นี่ยังเป็นยุคแรกของคอมพิวเตอร์ที่ใช้หลอดสุญญากาศ ต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะมีไอแพด
ราคาล้านเจ็ดเข้าไทสองล้านห้า กับไปใช้อีโก้คา ห้าแสนห้า เหมือนเดิม😮😮😮 คนจนไม่มีสิทธิ์เลือก😂😂😂
น้ำมันก็เป็น12'000-
จากที่ผมได้ยินข่าวมามาตรฐาน CLTC (China light-duty vehicle test cycle) ตัวเลฃมันเกินความเป็นจริงนี่ครับ ผมว่าเชื่อถือมาตรฐานนี้ไม่ได้นะ
ทุกมาตรฐานเกินกว่าความเป็นจริงหมดครับ NEDC เกิน ราว 30% wltp ~15% ที่ใกล้เคียงสุดคือ EPA ของสหรัฐอเมริกา ส่วน CLTC คล้ายกับ WLTP ที่มองว่า NEDC นั้นให้ตัวเลขที่ไม่สมเหตุผล จึงถูกเพิ่มระยะเวลาทดสอบ รวมไปถึงตัวแปรอื่นๆ เข้าไปเพิ่มเติม รวมถึงการจำลองสภาพแวดล้อมการขับขี่ในประเทศจีน มาตรฐานดังกล่าวจึงแม่นยำกว่า NEDC เมื่อใช้ในจีนครับ
@@CarRaver ถ้า CLTC เหมาะกับในจีนตามที่ว่าเวลาขายหรือนำเสนอข้อมูลสู่ตลาดโลกควรจะนำเสนอข้อมูลของมาตรฐานอื่น ๆ ด้วย ไม่ใช่ว่าผมมีอคติกับรถจีนนะ ผมอยากได้ good cat จนตัวสั่น แต่ผมมองในมุมผู้บริโภคว่าข้อมูลที่เราควรได้รับมันต้องตรงไปตรงมามากที่สุดไม่ใช่บอกว่า 1000 กิโลตาม CLTC แต่ใช้จริงในประเทศอื่นๆวิ่งได้แค่ 600 แล้วคนที่ซื้อรถกะวิ่งไกล ๆ พอมาพบความจริงว่ามันไม่ถึงเขาจะคิดยังไง สิ่งมี่ควรทำคือบอกกันตรง ๆ ไม่ใช่เอาตัวเลขสูง ๆ มาบอก ถ้ามัวแต่ทำแบบนี้รถไฟฟ้าจะมีภาพลักษณ์ยังไง ยิ่งตอนนี้กำลังเริ่มก็ควรจริงใจและหามาตรฐานที่ตรงที่สุดมาใช้เพื่อสร้างความมั่นใจสิไม่ใช่กำหนดมาตรการที่ตัวเองที่เชื่อถือไม่ได้
ถ้าเอาความจริงคือตอนนี้ไม่มีมาตรฐานกลางครับ NEDC และ WLTP ก็คือมาตรฐานของยุโรป การทดสอบก็ทดสอบตามสภาพแวดล้อมยุโรป EPA เป็นมาตรฐานของอเมริกา การทดสอบก็เป็นแบบอเมริกา CLTC ก็มาตรฐานของจีน จำลองและทดสอบในสภาพแวดล้อมของจีน เพราะการขับรถ สภาพการจราจร และภูมิประเทศของแต่ละที่ไม่เหมือนกัน เขาจึงสร้างมาตรฐานที่แม่นยำที่สุดขึ้นมาสำหรับตลาดของตนเองครับ ส่วนในอนาคตจะมีมาตรฐานกลางหรือไม่นั้นต้องรอติดตามครับ ส่วนคนซื้อก็อาจต้องศึกษาเรื่องมาตรฐานการวัดระยะครับ ว่าพื้นที่เรานั้นเหมาะกับมาตรฐานแบบไหนครับ
@@CarRaver ถ้าเป็นผมจะทดสอบมันทุกมาตรฐานเลยและแสดงข้อมูลให้ครบให้คนซื้อตัดสินใจเอาเองคิดว่ามันไม่ยากเกินไปถ้าจะทำถึงแม้ว่ามันน่าจะสร้างความสับสนให้กับคนซื้อในตอนแรกแต่ในเมื่อคนซื้อต้องศึกษาข้อมูลมาตรฐานต่าง ๆ อยู่แล้วผมมองว่าควรทำ
@@bse27 ง่ายๆครับคุณไม่มีความเชื่อใจ มาตราฐาน จีน เพราะกลัวอะไรต่างๆเเต่กลับเชื่อใจ มาตราฐานพวกเมกายุโรป เป็นผมน่ะทุกเจ้าเค้าวันมาตราฐานที่มีในโลกทั้งหมดไปเลยเพราะอะไร1หมดปัญหาเรื่องการให้ข้อมูล2ทำให้ประชาชนทั่วไปตัดสินใจได้ง่ายๆ3มีความน่าเชื่อถือมากกว่าใช้มารฐานของตัวเองเพียงเจ้าเดียวครับ
vinfast Việt Nam
รว่ม รถรุ่นนี้ราคาแพง เกีน 30 ล้านบาทแน่นอน
ในประเทศไทยมี สตาร์ทอัพหรือผู้ประกอบการ(สัญชาติไทย) ที่ผลิดรถยนต์ไฟฟ้าบ้างหรือไม่
มี skun C และ mine mobility ครับ
ไม่นิยมสินค้าจีน