ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
ทำไมเจ้าของเดิมขนมที่ไทยดัดแปลงไม่ออกมาโวยวายว่าไทยขโมยเหมือนประเทศข้างบ้าน555 ออๆประเทศเหล่านั้นเข้ามีสมองเค้าแยกออกรู้จักความหมายของคำว่าดัดแปลง
การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญสินะ เคลมๆโบๆเดียๆ
เคลมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆโบบเดียยยยย
เพราะประเทศพวกนั้นเขาไม่มีกำแพงโดเรม่อนเหมือนประเทศเพื่อนบ้านไงอิอิอิ
นั้นดิ
หลายสิบปีก่อน ....ญี่ปุ่น โวยวายเรื่อง >>> สุกี้ยากี้ สไตล์ไทยในที่สุด ....เหลือแต่คำว่า "สุกี้" ไทยขอบลดทอน คำให้สั้นลงอยู่แล้ว ...วินวินแต่พวกยุคหลังมา ...ประเทศที่ ค่อนข้างการศึกษาสูง ไม่ค่อยโวยวายกันนะ ....มักจะดีใจก้วยซ้ำที่ ....ขาติอื่นเอาไปต่อยอด
อาหารไทยคืออาหาร fusion มาตั้งแต่ต้น หยิบนู่น หยิบนี่มาดัดแปลง จนเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งหลายๆประเทศก็เป็นแบบนี้อ่ะ มันคือวัฒนธรรมร่วมอย่างนึงนั่นแหละ
คนไทยเราเก่ง ดัดแปลงใด้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะอาหาร เครื่องยนต์ และอื่นๆ😁😁😁
ก็ใช่
อาหารจากไทยที่เขมรเอาไปสังเกตุได้ว่าจะมีชื่อคล้ายๆกับภาษาไทย เช่นห่อหมก=ออม๊อคทับทิมกรอบ=ทูทิมกรอบผัดไทย=ผัดไทแขมร์
อยากกดขำมาก เรื่อง ตุ๊บติมกร๊วบ ที่เหมรุก๊อปไปแล้วหาว่าของตัวเองเฉยเลย
นางเขมรร้ายจริงๆครับ เมืองสีปั้นเรื่อง
ชื่ออาหารที่คุณบอกมาทั้งหมด 3 อย่างนี้คนกัมพูชาไม่เคยเอ่ยว่าเป็นคนกัมพูชาที่คนคิดและเป็นเมนูของกัมพูชาโดยกำเนิดมันเป็นอาหารไทยที่คุณกัมพูชาเอาไปทำขายและดัดแปลงเพิ่มผักเพิ่มนิ่มนูนนั้นก็กลายเป็นอีกแบบแต่ที่จริงแล้วมันเป็นของไทยจากคนกัมพูชาฉันกินทั้งสองอย่างทั้งของไทยและของกัมพูชาฉันไม่เคยคิดว่าอาหารที่อยู่ฝั่งกัมพูชาเป็นของคนกัมพูชาโดยแท้มันเป็นของไทย
@@PpPp-nw8nr ไม่เชื่อว่าคนกัมพูชาจะยอมรับ
อาหารไทย ฟิวชั่นกับต่างประเทศเยอะมากจนถึงมากที่สุด- ข้าวหมูแดง-ขาหมู-ข้าวมันไก่ จากจีน ที่เขากินเป็นกับข้าว เราเอามาทำเป็นอาหารจานเดียว- พะโล้- แกงกะทิ จากอินเดีย-มุสลิม ที่เขาใช้เครื่องเทศแห้ง แต่เราดัดแปลงมาใช้เครื่องเทศสด- ข้าวผัด จากจีน เราดัดแปลงหลากหลายมาก - โรตี เขากินเป็นอาหารจานหลักกับกับข้าว เรามาทำเป็นของหวาน
ขาหมูเมื่อก่อนผมซื้อเป็นกับข้าวอยู่นะครับ ตอนผมเด็กๆจะมีลุงแก่ๆปั่นจักรยานมาขาย แกจะมีเตาเล็กๆกับหม้อต้มอยู่ ขายขาหมูน้ำส้ม น้ำเนื้อเข้มข้นจัดเต็ม ไม่มีมาเอามีดทุบให้เนื้อแตกแบบทุกวันนี้
@@chanonwisanmongkol2254 ทุกวันนี้ก็ยังมีอยู่ ตลาดแถวบ้านก็มีเป็นรถเข็น ซื้อเป็นกับข้าว เขียนเหมือนเดี๋ยวนี้ไม่มี คนอื่นจะเข้าใจผิด แต่สมัยนี้มีแบบ ใส่โค้ก ใส่โอวันติน ด้วยนะ เห็นแจกสูตรใน YT
ไม่ได้มีแค่สมับโบราณ สมัยใหม่ก็ยังทำอยู่ มะกะโรนี่ สปาเก็ตตี้ขี้เมานี่ เริ่มมาทำขายกันตอนอเมริกันมาตั้งฐานทัพที่อู่ตะเภาใช่มั้ยครับ เริ่มจากสูตรผัดใส่ซอสมะเขือเทศที่ ร้านข้าวแกง Jollibee ที่ฟิลิปปินส์ และเชสเตอร์ทำขาย ผัดขี้เมา น้ำพริกเผา และหอยลายนี่ คนไทยมาคิดค้นเองทีหลัง
ช่องนี้มีสาระความรู้หลายด้าน😊👑:)วัฒนธรรม,ประวัติศาสตร์(เบิ้บบูช่องนี้เยยย💖👏)
ขอบคุณครับ
คลิปหน้าอยากให้แอ๊ดทำคลิป 10 อันดับอาหารไทยแท้ 100% (ที่ไม่ได้ดักแปลงมาจากต่างประเทศ)
อาหารการกินของไทยมีการรับวัฒนธรรมจากต่างประเทศ ทั้งกรรมวิธีในการปรุงสุก และส่วนผสมบางประเภท ยกตัวอย่าการปรุงสุก อย่างเช่นอาหารที่ใส่กะทิได้รับอิทธิพลจากอาหรับ ขนมไทยที่ใส่ไข่ก็ได้รับมาจากโปรตุเกส ซึ่งขนมไทยโบราณมีการใช้วัตถุดิบแค่ แป้ง มะพร้าว และน้ำตาลปึกหรือที่เรียกว่าน้ำตาลมะพร้าว การทำอาหารให้สุกด้วยการนึ่งได้รับมาจากจีน แต่เพราะคนไทยเป็นคนช่างคิดช่างดัดแปลง จึงได้มีอาหารสไตล์ไทย อาหารขอไทยจึงมีความหลากหลายมาจนถึงวันนี้
ขนมโมจิเนี่ย เคยมีบันทึกว่า คุณยายคนหนึ่ง แกได้สามีเป็นชาวญี่ปุ่นตั้งแต่สงครามโลก แล้วก็ปรับเปลี่ยนสูตรจนกลายเป็นขนมโมจิแบบไทยๆ ที่ขายที่นครสวรรค์นี่แหล่ะค่ะเพราะเหมือนว่า คุณยายแกเป็นชาวนครสวรรค์ แอดคะ แผ่ อ่านว่า แผ่ ถ้าอ่านว่า แพร่ อาจจะเป็นชื่อจังหวัด หรือการแพร่โรคระบาดค่ะ
เคยได้ยินเหมือนกันค่ะ เพราะสามีคุณยายชอบทานมาก
ทำ20อันดับชื่ออาหารต่างประเทศที่ไม่ได้มาจากต่างประเทศแต่เกิดขึ้นฝีมือคนไทยหน่อยครับ(ตัวอย่างเช่นข้าวผัดอเมริกาที่ไม่ได้มาจากอเมริกาแต่มาจากไทย)ที่ฝรั่งเขางงกันหน่อยครับ
สิ่งที่ไทยเอาขอของกินมาจากประเทศอื่น🍅🥓🥗1ขนมจีน2ข้าวผัดอเมริกัน3หมากฝรั่ง4ฝรั่ง(ผลไม้)5มาม่าเผ็ดเกาหลี6ลอดช่องสิงค์โปร์7ตำลาวมีอะไรอีกไหมอ่ะ
ขนมโตเกียว
ข้าวผัดอเมริกันไทยไม่ได้ไปเอาที่ไหนมา แต่ต้นกำเนิดอยู่ในไทยเองนี่แหละ
ลอดช่องนี่ใช้หรอ?
กำลัง งง มาม่าเผ็ดเกาหลี
ตำลาวหมายถึงอีสาน คนภาคกลางและใต้เรียกอีสานว่าลาว
สวัสดีวันปีใหม่ครับคุณแอดมิน ผมขอสิบอันดับแบงค์เก่าที่คลาสสิกที่สุดในโลกหน่อยได้ไหมครับ🙏😁
สนุกมากเลยครับ
เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองค่ะว่า คำว่าแกงซาละหมั่นที่เราเรียกจนชินตามพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก จนพอโตขึ้นมีคนท้วงว่าเราเรียกผิดต้องเรียกว่ามัสหมั่น ที่แท้เป็นชื่อดั้งเดิมของมันนี่เอง
เพราะคนที่ทักท้วงคุณไม่รู้ประวัติที่มาของแกงมัสมั่นไง
กล่อมสุดมัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่ารสร้อนแรงไทยจะมีประวัติว่ากำเนิดมาจากไหนและไทยดัดแปลง แต่บางประเทศกำเนิดเองอยู่ข้างกำแพง
555555555555555555
แอดพูดถึงแล้วหิวเลย
ซะเต๊ะ ไม่ได้มาจากคาบับอินเดียแน่นอน เพราะซะเต๊ะเป็นอาหารมุสลิม ที่มาจากทางอินโดนิเซีย มาเลเซีย โดยมีเนื้อสะเต๊ะเป็นอาหารไทยมุสลิมบ้านเรา แต่ก็มีอีกแนวทางคือ สะเต๊ะ เพี้ยน จากคำว่า ซาแต๊ปึ้ง หรือไทยเราเรียกว่าข้าวพระรามลงสรงหรือไม่ ซึ่งซาแต๊ปึ่ง ก็มักจะขายคู่กับหมูซะเต๊ะ หรือบางที่ก็เรียกว่า หมูซาแต๊ ด้วยส่วนกะหรี่ปั๊บ แน่นอนเพี้ยนจากคำว่า เคอรี่พัฟ แต่น่าจะเป็นอาหารเลียนแบบ ซาโมซ่า ของอินเดีย และขนมพายของฝรั่ง ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นของปอร์ตูเกสหรือไม่ เพราะขนมชนิดนี้น่าจะเกิดจากแถวๆชุมชนกฎีจีน โบสถ์ซางตาครู้ส ฝรั่งธนบุรีมากกว่า ไอ้เรื่องอะไรสมัยอยุธยาราชวงศ์ปราสาททอง ราชวงศ์พระร่วง ราชวงศ์สุพรรณภูมิ มันแค่ตำนาน
เพิ่งรู้วันนี้แหละครับว่า ครั้งหนึ่ง พระรามลงสรง และสะเต๊ะ วางบขายบนแผงเดียวกันSamosa อินเดียเองก็ได้มากจากขนม pastry ยัดไส้ของโปรตุเกสนี่แหละ ตอนตั้งอณานิคมอยู่ที่เมือง Goa แต่เพิ่งฮิตกินเป็นอาหารเที่ยงสมัยอังกฤษปกครองชา masala สีส้มๆ ได้มาตอนอังกฤษเปิดไร่ชาแล้วพ่อค้าอินเดียเอาเศษใบชามาขาย ปรุงเป็นน้ำหวานกินแก้ร้อน ร้านแกงกะหรี่ที่ Birmingham น่ะแหละเอาไปยกระดับให้เป็นของหรูในตลาดอังกฤษหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
ขนมโมจิเข้ามาให้คนไทยได้รู้จักและได้ลิ้มลองเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยสมัยนั้นกองทัพของญี่ปุ่นมาตั้งฐานทัพที่จังหวัดนครนายก และชาวบ้านในอำเภอใกล้เคียงก็พากันมาขายสินค้ากันถ้วนหน้า หนึ่งในนั้นก็เป็นสาวน้อยบ้านนาวัย 18 ปี ที่ขายขนมพื้นบ้าน เช่น ซาลาเปาทอด กล้วยทอดให้กับทหารญี่ปุ่น จนสาวน้อยพันนาได้รู้จักสนิทสนมกับแพทย์ทหารญี่ปุ่นนามว่า ซาโต้ เมื่อสนิทกันได้สักพัก ซาโต้ก็ได้สอนพันนาทำขนมโมจิ ซึ่งลักษณะของขนมโมจิที่ทหารญี่ปุ่นสอนเป็นขนมที่ทำจากแป้งข้าวเหนียว มีใส้เป็นถั่วแดงกวน นำมาห่อกันแล้วนำไปต้มจนสุก หลังจากนั้นนำมาคลุกด้วยแป้งเพื่อป้องกันไม่ให้ขนมติดกัน รสชาติจะออกหวานนำนิดหน่อย สาวชาวบ้านก็ทำขนมโมจิให้ทหารหนุ่มชิม ปรากฏว่าซาโต้ประทับใจมากและบอกว่าเป็นขนมโมจิที่อร่อยที่สุดเท่าที่เขาเคยกินมาเลยทีเดียว อีกทั้งยังบอกกับพันนาว่า ให้ถือว่าขนมโมจิเป็นตัวแทนของเขา ถ้าคิดถึงเขาเมื่อไรให้เธอทำขนมโมจิกินเพื่อระลึกถึงเขาได้เสมอ หลังจากนั้นไม่นาน กองทัพญี่ปุ่นก็ย้ายฐานทัพไปอยู่ที่อื่น ปล่อยให้สาวพันนาทำขนมโมจิเฝ้ารอคนรัก เนิ่นนานเข้าก็ยังไร้วี่แววของซาโต้ พันนาก็เลยทำขนมโมจิขายให้ชาวบ้านได้กินกันถ้วนหน้า แต่จู่ ๆ วันหนึ่งก็มีทหารไทยมาสั่งห้ามไม่ให้ขาย ห้ามทำ และห้ามกินขนมโมจิอีกต่อไป เพราะเป็นขนมญี่ปุ่น จึงถือว่าเป็นขนมกบฏขัดต่อชาติ นับจากวันนั้นเป็นต้นมา ขนมโมจิก็ค่อย ๆ เลือนหายไป จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2547 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงทราบถึงประวัติขนมโมจิ และโปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชบริพารคนสนิทไปสืบหาขนมโมจิต้นตำรับชาวไทยมาให้เสวย บรรดาทหารก็นำขนมโมจิจากที่ต่าง ๆ มาถวาย แต่ก็ไม่ถูกพระทัย ไม่ใช่ขนมโมจิสูตรที่ตามหาอยู่ ต่อมาอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายกได้มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครนายก ได้ประชาสัมพันธ์และสืบหาจนได้ทราบจากนายมานพ ศรีอร่าม ข้าราชการพัฒนาชุมชนว่า ผู้ที่ทำขนมโมจิดังกล่าวคือ มารดาของตัวเอง ซึ่งตอนนี้มีอายุมากแล้ว แต่ก็ยังความจำดี สามารถเล่าเรื่องราวในครั้งอดีต และทำขนมโมจิถวายไหวอยู่ ซึ่งนางพันนาก็เต็มใจและยินดีอย่างยิ่งที่ได้ทำขนมโมจิด้วยตัวเองอีกครั้ง อีกทั้งยังเป็นการทำขนมโมจิถวายนางจึงปลื้มปิติเป็นล้นพ้น สมกับการรอคอยที่จะได้ทำขนมโมจิเพื่อระลึกถึงนายแพทย์ทหารซาโต้ที่ไม่ว่าจะนานเท่าไร สาวบ้านนาพันนาก็ยังไม่เคยลืม ปัจจุบันนางพันนาได้เสียชีวิตลงแล้ว และได้รับพระราชทานเพลิงศพเป็นการส่งท้าย และขนมโมจิก็ได้ถูกดัดแปลงปรับปรุงให้มีความหลากหลายมากขึ้น มีทั้งไส้ต่าง ๆ กลิ่น สีและรสให้เลือกมากมาย ที่ถึงแม้จะไม่ใช่สูตรต้นตำรับจริง ๆ จากญี่ปุ่น แต่ก็มีความคล้ายคลึงและอร่อยไม่แพ้กันค่ะ
ขนมโมจิ ญี่ปุ่น บ้านเราชื่อ คือ ขนมบัวหิมะ ทุกอย่างเหมือนกันต่างกันแค่ไส้ ผมเคยกินร้านของฝากที่ภาคใต้ เค้กท่าแค ขนมบัวหิมะ ร้านนั้นทำอร่อยมาก
บ่อฉี่ หม่อฉี่ เป็นแป้งเอาไปต้มแล้วเอามานวดห่อถั่วลิสงตำพอหยาบ น้ำตาล เกลือ ไม่แน่ใจว่าอะไรอีก ห่อเสร็จคลุกกับแป้งอีกรอบไม่ใช้มันติด มันจะเป็นลูกกลมๆแบบโมจินั้นแหละ แป้งเหนียวนุ่มอร่อยมาก เคยกินตอนเด็กๆ ย่าทำให้กิน
โมจิไทยเหมือนขนมเปี๊ยะถ้าเอาแบบใกล้เียงกับโมจิญี่ปุ่น มันต้องข้าวปุก
@@welder18b ขนมบัวหิมะ เหมือนกว่าเยอะ ถ้าเคยกิน 99% อะ
คนไทยเก่งๆมากเลยคับ😅😅😅
แต่เขมรรับไม่ได้กับ อาหมก😆😆😆
ขนมโมจิ นครสวรรค์ เกิดในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ทหารญี่ปุ่นที่ชอบผู้หญิงไทยสอนให้เธอทำครับ เรื่องนี้มีข้อมูลบันทึกไว้ด้วย ลองหาในอินเตอร์เน็ตครับ
ขนมโตเกียว ที่มาลึกลับ บอกไม่ได้ว่ามาจากไหน บางคนบอกว่าน่าจะมาจากเครป ส่วนที่บอกว่ามาจากโดรายากิ นี่ก็พึ่งเคยได้ยินครั้งแรกเลย
คนไทยนี่เป็นอะไรที่น่าทึ่ง.. จะยอมรับทุกอย่างตามความจริงว่าไทยรับวัฒนธรรมอะไรมาจากไหน๊.. ไม่เคยเคลมใครเอาดื้อๆ. ให้เครดิตประเทศนั้นๆ.. ไม่เหมือนบางประเทศเคลมไม่ลืมหูลืมตา..อ้างเป็นต้นฉบับอ้างกำแพงอย่างเดียว.ล่ะเหนื่อยใจ
มัสมั่น รสชาติที่ถูกคือเปลี้ยวนำนะครับไม่ใช่หวานนำแบบตอนนี่ ซึ่งผิด อยากให้หาข้อมูลให้ชัดเจนก่อนเอามาลงนะครับทจะได้ให้ความรู้กับเด็กๆรุ่นใหม่ทจะได้เข้าใจถูก
เมื่อใดที่ไทยเอาของต่างชาติมาเราก็จะประกาศว่าเราเอาแบบมาจากเขาเรียนมาจากเขานะไม่ของเราคิด เราแค่นำมาปรับปรุงให้เหมาะสมกับนิสัยของไทย แต่เขมรไม่ใช่เช่นนั้นเขมรเครมเอาเลยว่าของเขา เขมรเลยโตช้า
ลูกหลานพระยาละแวก เคลมปูเจีย วันๆ จ้องแต่จะเคลม
เขมรไม่พอใจสิ่งนี้ครับ หมก อาม็อก 555555
อาม็อก มีอยู่บนกำแพงวัด เป็นของเขมรแท้ๆแก้ต่างให้
ไทยพ่อเขมรทุกสถาบันก็มีอยู่บนกำแพงวัด ถ้ามีสงครามอยากจะระเบิดไอ้นครนี่แมร่งให้ราบไปเลย แล้วจะบอกอะไรให้นครวัดเขมรไม่ได้สร้างคนอินเดียเป็นคนสร้างเป็นเจ้าของเขมรก็เป็นแค่ทาสเป็นเป็นขี้ข้าชาวนครวัดซึ่งก็คือชาวอินเดียเขมรสร้างอะไรเองเป็นที่มันสร้างได้ก็คือทุ่งสังหาร คุกโตนสเลงโน้นโง่จนฆ่าล้างเผ่าพันธ์ประเทศตัวเอง5555
555+ กำแพงสารพัดนึก 555+
ตำนานขนมโมจิก็มีจุดเริ่มต้นมาจากทหารหนุ่มชาวญี่ปุ่นกับสาวชาวบ้านใน จ.นครนายก
เกิดมาพึ่งรู้ที่มาของอาหารไทยแต่ละประเภทก็วันนี้แหละ โดยเฉพาะแกงมัสมั่นและก๋วยเตี๋ยว ซึ่งเพี้ยนมาจากกั๋วเถียว ส่วนแต้จิ๋วเรียกก๊วยเตี๋ยว
คือไอ้ห่อหมกแบบของเขมรอะแถวอิสานทำแทบทุกจังหวัดเลยมั้ง ถ้าจำกรัดแค่ภาคกลาง อาหารอีสานก็โดนเพื่อนบ้านเครมไปหมดครับ
ทํา10อันดับตอนน่ากลัวในเรื่องชินจังหน่อยครับ#ผมเหนื่อยมากครับ😥😥😥
ผมชอบกินก๋วยเตี๋ยวเรือที่สุดถึงจะไม่ได้ซื้อจากเรือ
ชอบค่ะๆ
ขนมโมแบบไทย น่าจะมีการเรียกสลับกับ ขนมมันจู ซึ่งเป็นขนมญี่ปุ่นอีกแบบหนึ่งรูปร่างและรสชาติคล้ายกันมากๆ
ได้ความรู้ดีครับ
อาจารย์สุจริต บอกว่า อาหารไทยส่วนใหญ่ รับมาจากจีน เป็นส่วนใหญ่
ชอบขนมโมจิที่มาจากโมจิสิคึ ที่มาจากญี่ปุ่นมากครับ
ขนมโมจิ เคยได้ยินว่าทหารญี่ปุ่นสมัยสงครามสอนให้เมียที่เป็นคนไทยทำขายให้ทหารญี่ปุ่น แต่ช่วงหลังขาดวัตถุดิบ เลยออกมาแบบนี้ อันนี้ไม่รู้จริงไหม แต่ผมก็ชอบทั้งสองแบบเลย
มีห่อหมกบนกำแพงนครวัดด้วย:o OMG
ชอบสุดถึงกับนั่งขำ ก็เครป นี่แหละ นี่ล้ำไปถึง เครปหมูกระทะแล้วเหรอ จริงป่าวเนี่ย 🤣🤣
ข้อมูลขนมโมจิผิดครับมันดัดแปลงมาจากขนมเปี๊ยะ เป็นการทดลองทำขนมเปี๊ยะนมสด แต่ช่วงนั้นอิคิวซังการ์ตูนดังมาก คนขายเลยตั้งชื่อตามการ์ตูนเพื่อการค้าครับ และก็ได้ผล
ใช่ครับ ขนมโมจิของญี่ปุ่น ชื่อไทยคือ ขนมบัวหิมะ
อย่างน้อยไทยก็ยอมรับว่าได้รับอิทธิพล,น้ำเข้าจากต่างชาติไม่เหมือนบางประเทศเคลมไม่ดูต้นตำหรับเลย
ตอนนี้ป้าข้างบ้านเอาอาหารไทยไปเปิดขายเต็มประเทศ แล้วอีกสักพักก็คงเคลมว่าไทยไปปล้นขโมยมันมาเหมือนเดิม อะไรก็อยู่บนกำแพงนครทั้งนั้น
คนไทยเก่งมากๆคิดได้หมด🎉🎉
จุดเริ่มต้นที่ไทยยอมรับ
รักSpyมากครับ
สะเต๊ะมาจากชวา ครับ
ถ้าอยากได้ฟิวโมจิ ให้กินไดฟูกุ นครสวรรค์ อร่อยมาก
หาของใหม่ นุ่มๆ กินไม่ได้เลยครับ เจอแต่ของค้างแข็งโป๊ก แป้งร่วนๆ
คน1
6:08 ไทยพอครับ... Ohoooooooo!!!! Woahhhhhhhh!!!!!!!!! ท้ายคลิปไทยพอเช่นกัน! OMG!!!!
ขนมโมจิเกิดมาจากเจ้าของโมจิ นครสวรค์เจ้าแรกอยากทำร้านของฝากเอาไว้ขายนักท่องเที่ยวนี่ละครับ เขาคิดถึงโมจิเลยเอามาดัดแปลงให้เข้ากับคนไทย แล้วพอดังก็เลยมีเจ้าอื่นๆทำตามเลยกลายเป็นเอกลักษณ์ของฝากประจำจังหวัดไปเลย
เคยได้ยินมาว่ากล้วยแขกมาจากชวา/อินโดนะ จำไม่ได้แล้วว่าดูจากไหน คำว่าแขกน่าจะหมายถึงแขกชวา ไม่ใช่แขกอินเดีย เขาว่าเดี๋ยวนี้ อินโดก็ยังมีกล้วยทอดคล้ายๆ ในไทย แต่ไม่เคยไปอินโดนะ ฟังจากช่องแบบนี้มาอีกที เขาถ่ายวิดีโอมาให้ดูด้วย
2:38 ชอบท่นนี้😂
อาหารเหมนดีที่สุดในโลก🎉🎉🎉
4 ทุ่ม มาดู หิวสิคราบบบบ
ปาใส่หน้าเขมรน่าจะดีค่ะ คลิปนี้
กล้วยแขกจากเรื่องโจ๊กกลายเป็นเรื่องจริงเฉยเลย แขกงง โยนมาให้บังทำไม บังไม่รู้จักส่วนอาหารสยามไปเขมรมีหลายอย่าง ถ้าไปเดินตลาดจะเห็นทั้งของคาวของหวานแต่เพี้ยนเล็กน้อย ในลาวก็เหมือนกัน ข้าวแกงคงไม่ใช่อาหารลาวแน่สองประเทศนี้มีอาหารไทยเพราะเจ้านายเขาเข้ามาอยู่ราชสำนักไทย มีขุนนางไทยไปปกครองเคยดูคลิปสาวเขมรทำอาหาร มีแต่อาหารไทยทั้งเก่าใหม่ เครื่องปรุงก็สินค้าไทย
เวียดนาม แถวดานังก็มีแกง มีข้าวแกงแล้วนะ เมียเขมรที่ตามผัวทหารเวียดนามกลับไปหลังจากสงครามกลางเมืองเขมร เอาไปทำขาย มีทั้งแบบกินกับข้าว และกินกับเส้นเฝอ
ไม่ต้องย้อนไปไกลนักหรอกลูกจ้างร้านค้า ร้านข้าวแกงมีแต่ต่างด้าว มาเป็นสิบๆ ปีแล้วเค้ากลับบ้านยังไงก็ต้องเอาไปทำขายเคืองตรงสมัยนี้รสชาติอาหารในไทยมันเพี้ยนไปหมดนี่สิ
Belloงับ@ไทยเราสุดยอดยุแล้วความคิดของคนไทยชั้นเลิศ🇹🇭🇹🇭🇹🇭♥️♥️♥️
ใช่เลยครับ
พิซซ่าใส่สับปะรดอร่อยดี
Fc
ไทยก็เหมือนญี่ปุ่น ที่รับจากวัฒณธรรมอาหารจากที่อื่นมาแล้วมาปรับให้ถูกปากคนท้องถิ่นจนอร่อยฉีกตำราสร้างคาแรคเตอร์และซิกเนเจอร์โดดเด่นจนเป็นของตัวเองขึ้นมาใหม่
อีก100~200ปีขนมโตเกียว"คนก็จะบอกมาจากญี่ปุ่นขนมจีน"คนก็จะบอกมาจากจีนลอดช่องสิงคโปร์"คนก็จะบอกมาจากสิงคโปร์ข้าวผัดอเมริกัน"คนก็จะบอกมาจากอเมริกากล้วยแขกทอด*คนก็จะบอกมาจากแถบอินเดีย
admin ครับจัดอันดับ 10 อันดับประเทศที่คนฉลาดน้อยที่สุดได้ไหมครับ
หมูกะทะ มาจาก หมูย่างเจงกีสข่าน รูปทรงของกะทะที่ใช้ย่างมาจากหมวกทะหารในยุคเจงกีสข่าน
ซอสผัดดำหวานๆ นี่มาสมทบทีหลังจากไต้หวันนะครับ ไทยได้การใช้น้ำมันหอยมาจากพ่อครัวไต้หวัน รวมทั้งการผัดไฟแรงๆ บนแผ่นเหล็กร้อนนี่ก็ด้วย
อาหารไทยแท้จริงมีน้อยมากครับ แต่เพราะในช่วงหนึ่งของยุคสมัยมีชาวต่างชาตินำเข้าส่วนผสมต่างๆ มากมาย เราจึงได้เมนูเด็ดขึ้นมามากมาย อย่างเช่นผัดกะเพรา อินเดียถือว่าเป็นพืชเทพเจ้า แต่เราเอาเทพเจ้าของพวกเขามากินแล้ว งานนี้เจ็บปวด!
เคยมีนักเรียนไทยหนีตายออกจากหอพักในอินเดีย เพราะทำผัดกะเพราเนื้อในหอ🤣🤣🤣
@@oop_oops อันนั้นเทพเจ้าคูณสองเข้าไปเลยครับ ทั้งกะเพราและเนื้อ
@@นักเขียนคอมเม้นต์ ไอที่พีคคือใบกะเพราเอามาจากต้นที่แฟนสาวสวดภาวนารดน้ำเช้าเย็น แฟนถึงกับเป็นลมล้มตึงเลย ถ้าผัดกะเพรากลิ่นไม่แรง(เป็นไปไม่ได้อ่ะ)ความคงไม่แตก
@@oop_oopsอันนั้นก็นิสัยแย่เกินครับ ก็เห็นอยู่ว่าแฟนเขาสวดอะไรต่างๆกับต้นนี้ยังทะลึ่งไปเด็ดมาทำอาหาร ถ้าทนอยากไม่ได้ขนาดนั้นก็อย่าไปเลยต่างประเทศ
@@VJ.ANTIHERO อันนั้นก็แล้วแต่คน แต่เห็นว่าร้านดอกไม้ในอินเดียขายกะเพราไว้ใช้ในพิธีกรรม แต่ถ้าพ่อค้าเห็นหน้าว่าเป็นคยไทยจะไม่ขายให้ กลัวเอาไปทำผัดกะเพรามั้ง🤣🤣🤣
❤️❤️
ทำไมช่องนี้ทำอะไรก็มีกัมพูชาตลอดอะ?
ทุกวันนี้ยังมีคนไทยบางคนเข้าใจผิดในอาหารหลายๆอย่างว่าเป็นของไทยแท้ๆก็มีนะคะ โดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยวแล้ว1 😂😂😂😂😂😂
เหมนเคลมต่อเนื่องซ๊ะๆ?
คนไทยชอบ
สเต็ะหมูพวกอิสรามกินด้วยนิ😅
ก๋วยเตี๋ยว 粿條 มาจากเสียงภาษาจีนแต้จิ๋วอ่านว่า"ก๋วยเตี๊ยว" จีนกลางอ่านว่า"กั่วเถียว"
เคยฟังว่ามัสมั่นมาจากโปรตุเกสนะคะ
จากเปอร์เซีย ครับ ส่วนของหวาน มาจากโปรตุเกส ( โดยท้าวทองกีบม้า )
คนสอง
แล้วกัมพูชา จะมาว่า เราไปขโมย ห่อมกของเขามาไหมเนี่ย
ต้องมาทะเลาะกับคนลาวด้วยนะ เพราะเราชอบกินหมกหน่อไม้ของอีสานค่ะ น่าจะเป็นอาหารของชาวลาวด้วยมั้งคะ
😄😄😄
เดี๋ยวเขมรเค้าก็จะมาบอกว่า ห่อหมกมันเป็นอาหารประจำชาติของเค้า มันมีสลักอยู่บนกำแพง
แครมโบเดียเห็นคงบอกว่า ประเทศข้าเป็นคนต้นคิด เมืองสยามทำไมชอบก็อปทั้ง วัฒนธรรม/อาหาร ไปแล้วชอบบอกว่าประเทศข้านั้นก็อป 🙄😑🤣
เอะอะก็อ้างภาพที่กำแพงวัด อย่าลืมวัฒนธรรมที่แผ่กระจายไปทุกๆแห่ง แล้วจึงมีการบันทึกภายหลังแต่นี่ไม่ใช่การยืนยันต้นกำเนิด ห่อหมกน่าจะเป็นอาหารดัดแปลงมาจากแกงอีกทีเพราะต้องใช้กะทิราดแล้วนำมานึ่งให้สุก
ค1
เราไม่เคยบอกว่าเป็นอาหารไทยชื่ออาหารก็บอกอยู่บางชื่อความหมายเป็นอีกอย่างเราก็ไม่เคยเปลี่ยน
เม้น9
ถ้าไม่มีพริก ไม่มีมะนาว ไม่มีมะละกอ ยังไม่รู้อาหารไทยจะเปนยังใง
โมจินครสวรรค์คือขนมเปี๊ยะ มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับโมจิเลย มันเป็นการตลาด
ดูตอนเกือบตี 1 แบบหิว 😩
มั่วขนมโมจิมาจากตำนานรักทหารญี่ปุ่นกับสาวนครสวรรค์ นางพันนา กับ ซาโต้
ขนมโมจิแต่ผมชอบขนมมังกร
คอมเมนท์ชาตินิยมเกือบ50%
เขมรไม่รับไปครับมแต่เคลมไปเลย
อย่าว่าน้องสิ...
อ้าวเขมรไม่ใช่ จุ๋มเหม่ง หรอครับ
คนไทยทำได้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆThailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand,.................................................................................. ดอ้่่
ก๊อปเก่งแต่ขอโทษ ถ้ากินอาหารชนิดเดียวกันนี้ในบ้านพวกเค้าก็รับรองว่าไม่ถูกปากเท่าของก๊อปบ้านเราแน่ ไม่งั้นมัสมั่นจะดังไกลไปทั่วโลกเหรอ555
ตอนนี้ในเหมนมี Tub Tim Korb เป็นขนมชื่อดังของเหมน หน้าตาเหมือนทับทิมกรอบบ้านเราเลย 555 ชื่อก็คล้าย ... แต่ไม่ใช่ก็อปปี้หรอกมั้ง ชาติขี้เคลมคงไม่ทำแบบนั้น
ทุกอย่างมีอยู่บนคำแพงวัดคับ 555
มีคนบอกว่า มาจากเวียด และเวียดก็รับมาจากจีน
เคลมเก่งจังเนอะไทยแลนด์😅😅😅 หาตัวตนไม่เจอจริงๆ😅😅😅😅
แคมโบเดียก็เก่งงงง เก่งกว่าไทยอีกกควรศึกษาประวัติศาสตร์ก่อนนะครับ
ขนาดโขนนักวิทยาศาสตร์จากญี่ปุ่นบอกว่าเขมรได้รับอิทธิพลจากไทยนะครับ ผมคิดว่ามันเป็นวัฒนธรรมร่วม ไม่ใช่ของใครหรอกจ้าาา
@@PaixCB 😂😂😂😂อย่าลืมนะครับว่าสยามรับวัฒนธรรมจากเขมรมาก่อน แม่แต่ภาษาพูดภาษาเขียนก็ถอดมาจากภาษาเขมร70-80%เข้าไปแล้ว
@@phonnhoum1322 อย่าลืมว่าเขมรก็รับมาจากสยามมม แถมโขนสยามตอนนี้ ไม่เกี่ยวกับเขมรแล้วเพราะสยามไม่ชอบเขมรปล้วจะไปก็อปทำไม?????ฉะนั้นโขนของคุณที่รับมาจากสยามเนี่ยไม่มีวัฒนธรรมเขมรโบราณเพราะมันเสื่อมสลายไปนานแล้วว
@@phonnhoum1322 ทุกอย่างของสยามไม่ใช่เขมรเดิม เช่น ต้มยำกุ้ง หรือ สุนทรภู่
สเต๊ะลือ อร่อยจนรำลือ
แอดไปแหย่ เคลมบูเดียแล้วล่ะ
ขำโมจิมาก
ไทยก็ให้เครดิตทุกชาตินะ อาหารก็หน้าตาแตกต่างจากเดิมแปลว่าคิดค้นพัฒนาเป็นสูตรตัวเอง
เอ่อ ขอโทษนะคะ ขนมโตเกียวมาจากอันมากิ ไม่ใช่โดรายากิค่ะ มีคลิปให้ดูค่ะ th-cam.com/video/kw0gzwOjoWI/w-d-xo.html
ไม่น่าเชื่อ👁👄👁
ทำไมเจ้าของเดิมขนมที่ไทยดัดแปลงไม่ออกมาโวยวายว่าไทยขโมยเหมือนประเทศข้างบ้าน555 ออๆประเทศเหล่านั้นเข้ามีสมองเค้าแยกออกรู้จักความหมายของคำว่าดัดแปลง
การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญสินะ เคลมๆโบๆเดียๆ
เคลมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆโบบเดียยยยย
เพราะประเทศพวกนั้นเขาไม่มีกำแพงโดเรม่อนเหมือนประเทศเพื่อนบ้านไงอิอิอิ
นั้นดิ
หลายสิบปีก่อน ....ญี่ปุ่น โวยวายเรื่อง >>> สุกี้ยากี้ สไตล์ไทย
ในที่สุด ....เหลือแต่คำว่า "สุกี้"
ไทยขอบลดทอน คำให้สั้นลงอยู่แล้ว ...วินวิน
แต่พวกยุคหลังมา ...ประเทศที่ ค่อนข้างการศึกษาสูง ไม่ค่อยโวยวายกันนะ ....มักจะดีใจก้วยซ้ำที่ ....ขาติอื่นเอาไปต่อยอด
อาหารไทยคืออาหาร fusion มาตั้งแต่ต้น หยิบนู่น หยิบนี่มาดัดแปลง จนเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งหลายๆประเทศก็เป็นแบบนี้อ่ะ มันคือวัฒนธรรมร่วมอย่างนึงนั่นแหละ
คนไทยเราเก่ง ดัดแปลงใด้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะอาหาร เครื่องยนต์ และอื่นๆ😁😁😁
ก็ใช่
อาหารจากไทยที่เขมรเอาไปสังเกตุได้ว่าจะมีชื่อคล้ายๆกับภาษาไทย เช่น
ห่อหมก=ออม๊อค
ทับทิมกรอบ=ทูทิมกรอบ
ผัดไทย=ผัดไทแขมร์
อยากกดขำมาก เรื่อง ตุ๊บติมกร๊วบ ที่เหมรุก๊อปไปแล้วหาว่าของตัวเองเฉยเลย
นางเขมรร้ายจริงๆครับ เมืองสีปั้นเรื่อง
ชื่ออาหารที่คุณบอกมาทั้งหมด 3 อย่างนี้คนกัมพูชาไม่เคยเอ่ยว่าเป็นคนกัมพูชาที่คนคิดและเป็นเมนูของกัมพูชาโดยกำเนิดมันเป็นอาหารไทยที่คุณกัมพูชาเอาไปทำขายและดัดแปลงเพิ่มผักเพิ่มนิ่มนูนนั้นก็กลายเป็นอีกแบบแต่ที่จริงแล้วมันเป็นของไทยจากคนกัมพูชาฉันกินทั้งสองอย่างทั้งของไทยและของกัมพูชาฉันไม่เคยคิดว่าอาหารที่อยู่ฝั่งกัมพูชาเป็นของคนกัมพูชาโดยแท้มันเป็นของไทย
@@PpPp-nw8nr ไม่เชื่อว่าคนกัมพูชาจะยอมรับ
อาหารไทย ฟิวชั่นกับต่างประเทศเยอะมากจนถึงมากที่สุด
- ข้าวหมูแดง-ขาหมู-ข้าวมันไก่ จากจีน ที่เขากินเป็นกับข้าว เราเอามาทำเป็นอาหารจานเดียว
- พะโล้
- แกงกะทิ จากอินเดีย-มุสลิม ที่เขาใช้เครื่องเทศแห้ง แต่เราดัดแปลงมาใช้เครื่องเทศสด
- ข้าวผัด จากจีน เราดัดแปลงหลากหลายมาก
- โรตี เขากินเป็นอาหารจานหลักกับกับข้าว เรามาทำเป็นของหวาน
ขาหมูเมื่อก่อนผมซื้อเป็นกับข้าวอยู่นะครับ ตอนผมเด็กๆจะมีลุงแก่ๆปั่นจักรยานมาขาย แกจะมีเตาเล็กๆกับหม้อต้มอยู่ ขายขาหมูน้ำส้ม น้ำเนื้อเข้มข้นจัดเต็ม ไม่มีมาเอามีดทุบให้เนื้อแตกแบบทุกวันนี้
@@chanonwisanmongkol2254 ทุกวันนี้ก็ยังมีอยู่ ตลาดแถวบ้านก็มีเป็นรถเข็น ซื้อเป็นกับข้าว เขียนเหมือนเดี๋ยวนี้ไม่มี คนอื่นจะเข้าใจผิด แต่สมัยนี้มีแบบ ใส่โค้ก ใส่โอวันติน ด้วยนะ เห็นแจกสูตรใน YT
ไม่ได้มีแค่สมับโบราณ สมัยใหม่ก็ยังทำอยู่
มะกะโรนี่ สปาเก็ตตี้ขี้เมานี่ เริ่มมาทำขายกันตอนอเมริกันมาตั้งฐานทัพที่อู่ตะเภาใช่มั้ยครับ เริ่มจากสูตรผัดใส่ซอสมะเขือเทศที่ ร้านข้าวแกง Jollibee ที่ฟิลิปปินส์ และเชสเตอร์ทำขาย ผัดขี้เมา น้ำพริกเผา และหอยลายนี่ คนไทยมาคิดค้นเองทีหลัง
ช่องนี้มีสาระความรู้หลายด้าน😊👑
:)วัฒนธรรม,ประวัติศาสตร์
(เบิ้บบูช่องนี้เยยย💖👏)
ขอบคุณครับ
คลิปหน้าอยากให้แอ๊ดทำคลิป 10 อันดับอาหารไทยแท้ 100% (ที่ไม่ได้ดักแปลงมาจากต่างประเทศ)
อาหารการกินของไทยมีการรับวัฒนธรรมจากต่างประเทศ ทั้งกรรมวิธีในการปรุงสุก และส่วนผสมบางประเภท ยกตัวอย่าการปรุงสุก อย่างเช่นอาหารที่ใส่กะทิได้รับอิทธิพลจากอาหรับ ขนมไทยที่ใส่ไข่ก็ได้รับมาจากโปรตุเกส ซึ่งขนมไทยโบราณมีการใช้วัตถุดิบแค่ แป้ง มะพร้าว และน้ำตาลปึกหรือที่เรียกว่าน้ำตาลมะพร้าว การทำอาหารให้สุกด้วยการนึ่งได้รับมาจากจีน แต่เพราะคนไทยเป็นคนช่างคิดช่างดัดแปลง จึงได้มีอาหารสไตล์ไทย อาหารขอไทยจึงมีความหลากหลายมาจนถึงวันนี้
ขนมโมจิเนี่ย เคยมีบันทึกว่า คุณยายคนหนึ่ง แกได้สามีเป็นชาวญี่ปุ่นตั้งแต่สงครามโลก แล้วก็ปรับเปลี่ยนสูตรจนกลายเป็นขนมโมจิแบบไทยๆ ที่ขายที่นครสวรรค์นี่แหล่ะค่ะเพราะเหมือนว่า คุณยายแกเป็นชาวนครสวรรค์
แอดคะ แผ่ อ่านว่า แผ่ ถ้าอ่านว่า แพร่ อาจจะเป็นชื่อจังหวัด หรือการแพร่โรคระบาดค่ะ
เคยได้ยินเหมือนกันค่ะ เพราะสามีคุณยายชอบทานมาก
ทำ20อันดับชื่ออาหารต่างประเทศที่ไม่ได้มาจากต่างประเทศแต่เกิดขึ้นฝีมือคนไทยหน่อยครับ(ตัวอย่างเช่นข้าวผัดอเมริกาที่ไม่ได้มาจากอเมริกาแต่มาจากไทย)ที่ฝรั่งเขางงกันหน่อยครับ
สิ่งที่ไทยเอาขอของกินมาจากประเทศอื่น🍅🥓🥗
1ขนมจีน
2ข้าวผัดอเมริกัน
3หมากฝรั่ง
4ฝรั่ง(ผลไม้)
5มาม่าเผ็ดเกาหลี
6ลอดช่องสิงค์โปร์
7ตำลาว
มีอะไรอีกไหมอ่ะ
ขนมโตเกียว
ข้าวผัดอเมริกันไทยไม่ได้ไปเอาที่ไหนมา แต่ต้นกำเนิดอยู่ในไทยเองนี่แหละ
ลอดช่องนี่ใช้หรอ?
กำลัง งง มาม่าเผ็ดเกาหลี
ตำลาวหมายถึงอีสาน คนภาคกลางและใต้เรียกอีสานว่าลาว
สวัสดีวันปีใหม่ครับคุณแอดมิน ผมขอสิบอันดับแบงค์เก่าที่คลาสสิกที่สุดในโลกหน่อยได้ไหมครับ🙏😁
สนุกมากเลยครับ
เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองค่ะว่า คำว่าแกงซาละหมั่นที่เราเรียกจนชินตามพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก จนพอโตขึ้นมีคนท้วงว่าเราเรียกผิดต้องเรียกว่ามัสหมั่น ที่แท้เป็นชื่อดั้งเดิมของมันนี่เอง
เพราะคนที่ทักท้วงคุณไม่รู้ประวัติที่มาของแกงมัสมั่นไง
กล่อมสุด
มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่ารสร้อนแรง
ไทยจะมีประวัติว่ากำเนิดมาจากไหนและไทยดัดแปลง แต่บางประเทศกำเนิดเองอยู่ข้างกำแพง
555555555555555555
แอดพูดถึงแล้วหิวเลย
ซะเต๊ะ ไม่ได้มาจากคาบับอินเดียแน่นอน เพราะซะเต๊ะเป็นอาหารมุสลิม ที่มาจากทางอินโดนิเซีย มาเลเซีย โดยมีเนื้อสะเต๊ะเป็นอาหารไทยมุสลิมบ้านเรา แต่ก็มีอีกแนวทางคือ สะเต๊ะ เพี้ยน จากคำว่า ซาแต๊ปึ้ง หรือไทยเราเรียกว่าข้าวพระรามลงสรงหรือไม่ ซึ่งซาแต๊ปึ่ง ก็มักจะขายคู่กับหมูซะเต๊ะ หรือบางที่ก็เรียกว่า หมูซาแต๊ ด้วย
ส่วนกะหรี่ปั๊บ แน่นอนเพี้ยนจากคำว่า เคอรี่พัฟ แต่น่าจะเป็นอาหารเลียนแบบ ซาโมซ่า ของอินเดีย และขนมพายของฝรั่ง ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นของปอร์ตูเกสหรือไม่ เพราะขนมชนิดนี้น่าจะเกิดจากแถวๆชุมชนกฎีจีน โบสถ์ซางตาครู้ส ฝรั่งธนบุรีมากกว่า ไอ้เรื่องอะไรสมัยอยุธยาราชวงศ์ปราสาททอง ราชวงศ์พระร่วง ราชวงศ์สุพรรณภูมิ มันแค่ตำนาน
เพิ่งรู้วันนี้แหละครับว่า ครั้งหนึ่ง พระรามลงสรง และสะเต๊ะ วางบขายบนแผงเดียวกัน
Samosa อินเดียเองก็ได้มากจากขนม pastry ยัดไส้ของโปรตุเกสนี่แหละ ตอนตั้งอณานิคมอยู่ที่เมือง Goa แต่เพิ่งฮิตกินเป็นอาหารเที่ยงสมัยอังกฤษปกครอง
ชา masala สีส้มๆ ได้มาตอนอังกฤษเปิดไร่ชาแล้วพ่อค้าอินเดียเอาเศษใบชามาขาย ปรุงเป็นน้ำหวานกินแก้ร้อน ร้านแกงกะหรี่ที่ Birmingham น่ะแหละเอาไปยกระดับให้เป็นของหรูในตลาดอังกฤษหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
ขนมโมจิเข้ามาให้คนไทยได้รู้จักและได้ลิ้มลองเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยสมัยนั้นกองทัพของญี่ปุ่นมาตั้งฐานทัพที่จังหวัดนครนายก และชาวบ้านในอำเภอใกล้เคียงก็พากันมาขายสินค้ากันถ้วนหน้า หนึ่งในนั้นก็เป็นสาวน้อยบ้านนาวัย 18 ปี ที่ขายขนมพื้นบ้าน เช่น ซาลาเปาทอด กล้วยทอดให้กับทหารญี่ปุ่น จนสาวน้อยพันนาได้รู้จักสนิทสนมกับแพทย์ทหารญี่ปุ่นนามว่า ซาโต้
เมื่อสนิทกันได้สักพัก ซาโต้ก็ได้สอนพันนาทำขนมโมจิ ซึ่งลักษณะของขนมโมจิที่ทหารญี่ปุ่นสอนเป็นขนมที่ทำจากแป้งข้าวเหนียว มีใส้เป็นถั่วแดงกวน นำมาห่อกันแล้วนำไปต้มจนสุก หลังจากนั้นนำมาคลุกด้วยแป้งเพื่อป้องกันไม่ให้ขนมติดกัน รสชาติจะออกหวานนำนิดหน่อย สาวชาวบ้านก็ทำขนมโมจิให้ทหารหนุ่มชิม ปรากฏว่าซาโต้ประทับใจมากและบอกว่าเป็นขนมโมจิที่อร่อยที่สุดเท่าที่เขาเคยกินมาเลยทีเดียว อีกทั้งยังบอกกับพันนาว่า ให้ถือว่าขนมโมจิเป็นตัวแทนของเขา ถ้าคิดถึงเขาเมื่อไรให้เธอทำขนมโมจิกินเพื่อระลึกถึงเขาได้เสมอ
หลังจากนั้นไม่นาน กองทัพญี่ปุ่นก็ย้ายฐานทัพไปอยู่ที่อื่น ปล่อยให้สาวพันนาทำขนมโมจิเฝ้ารอคนรัก เนิ่นนานเข้าก็ยังไร้วี่แววของซาโต้ พันนาก็เลยทำขนมโมจิขายให้ชาวบ้านได้กินกันถ้วนหน้า แต่จู่ ๆ วันหนึ่งก็มีทหารไทยมาสั่งห้ามไม่ให้ขาย ห้ามทำ และห้ามกินขนมโมจิอีกต่อไป เพราะเป็นขนมญี่ปุ่น จึงถือว่าเป็นขนมกบฏขัดต่อชาติ นับจากวันนั้นเป็นต้นมา ขนมโมจิก็ค่อย ๆ เลือนหายไป
จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2547 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงทราบถึงประวัติขนมโมจิ และโปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชบริพารคนสนิทไปสืบหาขนมโมจิต้นตำรับชาวไทยมาให้เสวย บรรดาทหารก็นำขนมโมจิจากที่ต่าง ๆ มาถวาย แต่ก็ไม่ถูกพระทัย ไม่ใช่ขนมโมจิสูตรที่ตามหาอยู่
ต่อมาอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายกได้มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครนายก ได้ประชาสัมพันธ์และสืบหาจนได้ทราบจากนายมานพ ศรีอร่าม ข้าราชการพัฒนาชุมชนว่า ผู้ที่ทำขนมโมจิดังกล่าวคือ มารดาของตัวเอง ซึ่งตอนนี้มีอายุมากแล้ว แต่ก็ยังความจำดี สามารถเล่าเรื่องราวในครั้งอดีต และทำขนมโมจิถวายไหวอยู่ ซึ่งนางพันนาก็เต็มใจและยินดีอย่างยิ่งที่ได้ทำขนมโมจิด้วยตัวเองอีกครั้ง อีกทั้งยังเป็นการทำขนมโมจิถวายนางจึงปลื้มปิติเป็นล้นพ้น สมกับการรอคอยที่จะได้ทำขนมโมจิเพื่อระลึกถึงนายแพทย์ทหารซาโต้ที่ไม่ว่าจะนานเท่าไร สาวบ้านนาพันนาก็ยังไม่เคยลืม
ปัจจุบันนางพันนาได้เสียชีวิตลงแล้ว และได้รับพระราชทานเพลิงศพเป็นการส่งท้าย และขนมโมจิก็ได้ถูกดัดแปลงปรับปรุงให้มีความหลากหลายมากขึ้น มีทั้งไส้ต่าง ๆ กลิ่น สีและรสให้เลือกมากมาย ที่ถึงแม้จะไม่ใช่สูตรต้นตำรับจริง ๆ จากญี่ปุ่น แต่ก็มีความคล้ายคลึงและอร่อยไม่แพ้กันค่ะ
ขนมโมจิ ญี่ปุ่น บ้านเราชื่อ คือ ขนมบัวหิมะ ทุกอย่างเหมือนกันต่างกันแค่ไส้ ผมเคยกินร้านของฝากที่ภาคใต้ เค้กท่าแค ขนมบัวหิมะ ร้านนั้นทำอร่อยมาก
บ่อฉี่ หม่อฉี่ เป็นแป้งเอาไปต้มแล้วเอามานวดห่อถั่วลิสงตำพอหยาบ น้ำตาล เกลือ ไม่แน่ใจว่าอะไรอีก ห่อเสร็จคลุกกับแป้งอีกรอบไม่ใช้มันติด มันจะเป็นลูกกลมๆแบบโมจินั้นแหละ แป้งเหนียวนุ่มอร่อยมาก เคยกินตอนเด็กๆ ย่าทำให้กิน
โมจิไทยเหมือนขนมเปี๊ยะ
ถ้าเอาแบบใกล้เียงกับโมจิญี่ปุ่น มันต้องข้าวปุก
@@welder18b ขนมบัวหิมะ เหมือนกว่าเยอะ ถ้าเคยกิน 99% อะ
คนไทยเก่งๆมากเลยคับ😅😅😅
แต่เขมรรับไม่ได้กับ อาหมก😆😆😆
ขนมโมจิ นครสวรรค์ เกิดในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ทหารญี่ปุ่นที่ชอบผู้หญิงไทยสอนให้เธอทำครับ เรื่องนี้มีข้อมูลบันทึกไว้ด้วย ลองหาในอินเตอร์เน็ตครับ
ขนมโตเกียว ที่มาลึกลับ บอกไม่ได้ว่ามาจากไหน บางคนบอกว่าน่าจะมาจากเครป ส่วนที่บอกว่ามาจากโดรายากิ นี่ก็พึ่งเคยได้ยินครั้งแรกเลย
คนไทยนี่เป็นอะไรที่น่าทึ่ง.. จะยอมรับทุกอย่างตามความจริงว่าไทยรับวัฒนธรรมอะไรมาจากไหน๊.. ไม่เคยเคลมใครเอาดื้อๆ. ให้เครดิตประเทศนั้นๆ.. ไม่เหมือนบางประเทศเคลมไม่ลืมหูลืมตา..อ้างเป็นต้นฉบับอ้างกำแพงอย่างเดียว.ล่ะเหนื่อยใจ
มัสมั่น รสชาติที่ถูกคือเปลี้ยวนำนะครับไม่ใช่หวานนำแบบตอนนี่ ซึ่งผิด อยากให้หาข้อมูลให้ชัดเจนก่อนเอามาลงนะครับทจะได้ให้ความรู้กับเด็กๆรุ่นใหม่ทจะได้เข้าใจถูก
เมื่อใดที่ไทยเอาของต่างชาติมาเราก็จะประกาศว่าเราเอาแบบมาจากเขาเรียนมาจากเขานะไม่ของเราคิด เราแค่นำมาปรับปรุงให้เหมาะสมกับนิสัยของไทย แต่เขมรไม่ใช่เช่นนั้นเขมรเครมเอาเลยว่าของเขา เขมรเลยโตช้า
ลูกหลานพระยาละแวก เคลมปูเจีย วันๆ จ้องแต่จะเคลม
เขมรไม่พอใจสิ่งนี้ครับ หมก อาม็อก 555555
อาม็อก มีอยู่บนกำแพงวัด เป็นของเขมรแท้ๆ
แก้ต่างให้
ไทยพ่อเขมรทุกสถาบันก็มีอยู่บนกำแพงวัด ถ้ามีสงครามอยากจะระเบิดไอ้นครนี่แมร่งให้ราบไปเลย แล้วจะบอกอะไรให้นครวัดเขมรไม่ได้สร้างคนอินเดียเป็นคนสร้างเป็นเจ้าของเขมรก็เป็นแค่ทาสเป็นเป็นขี้ข้าชาวนครวัดซึ่งก็คือชาวอินเดียเขมรสร้างอะไรเองเป็นที่มันสร้างได้ก็คือทุ่งสังหาร คุกโตนสเลงโน้นโง่จนฆ่าล้างเผ่าพันธ์ประเทศตัวเอง5555
555+ กำแพงสารพัดนึก 555+
ตำนานขนมโมจิก็มีจุดเริ่มต้นมาจากทหารหนุ่มชาวญี่ปุ่นกับสาวชาวบ้านใน จ.นครนายก
เกิดมาพึ่งรู้ที่มาของอาหารไทยแต่ละประเภทก็วันนี้แหละ โดยเฉพาะแกงมัสมั่นและก๋วยเตี๋ยว ซึ่งเพี้ยนมาจากกั๋วเถียว ส่วนแต้จิ๋วเรียกก๊วยเตี๋ยว
คือไอ้ห่อหมกแบบของเขมรอะแถวอิสานทำแทบทุกจังหวัดเลยมั้ง ถ้าจำกรัดแค่ภาคกลาง อาหารอีสานก็โดนเพื่อนบ้านเครมไปหมดครับ
ทํา10อันดับตอนน่ากลัวในเรื่องชินจังหน่อยครับ#ผมเหนื่อยมากครับ😥😥😥
ผมชอบกินก๋วยเตี๋ยวเรือที่สุดถึงจะไม่ได้ซื้อจากเรือ
ชอบค่ะๆ
ขนมโมแบบไทย น่าจะมีการเรียกสลับกับ ขนมมันจู ซึ่งเป็นขนมญี่ปุ่นอีกแบบหนึ่งรูปร่างและรสชาติคล้ายกันมากๆ
ได้ความรู้ดีครับ
อาจารย์สุจริต บอกว่า อาหารไทยส่วนใหญ่ รับมาจากจีน เป็นส่วนใหญ่
ชอบขนมโมจิที่มาจากโมจิสิคึ ที่มาจากญี่ปุ่นมากครับ
ขนมโมจิ เคยได้ยินว่าทหารญี่ปุ่นสมัยสงครามสอนให้เมียที่เป็นคนไทยทำขายให้ทหารญี่ปุ่น แต่ช่วงหลังขาดวัตถุดิบ เลยออกมาแบบนี้ อันนี้ไม่รู้จริงไหม แต่ผมก็ชอบทั้งสองแบบเลย
มีห่อหมกบนกำแพงนครวัดด้วย:o OMG
ชอบสุดถึงกับนั่งขำ ก็เครป นี่แหละ นี่ล้ำไปถึง เครปหมูกระทะแล้วเหรอ จริงป่าวเนี่ย 🤣🤣
ข้อมูลขนมโมจิผิดครับ
มันดัดแปลงมาจากขนมเปี๊ยะ เป็นการทดลองทำขนมเปี๊ยะนมสด แต่ช่วงนั้นอิคิวซังการ์ตูนดังมาก คนขายเลยตั้งชื่อตามการ์ตูนเพื่อการค้าครับ และก็ได้ผล
ใช่ครับ ขนมโมจิของญี่ปุ่น ชื่อไทยคือ ขนมบัวหิมะ
อย่างน้อยไทยก็ยอมรับว่าได้รับอิทธิพล,น้ำเข้าจากต่างชาติไม่เหมือนบางประเทศเคลมไม่ดูต้นตำหรับเลย
ตอนนี้ป้าข้างบ้านเอาอาหารไทยไปเปิดขายเต็มประเทศ แล้วอีกสักพักก็คงเคลมว่าไทยไปปล้นขโมยมันมาเหมือนเดิม อะไรก็อยู่บนกำแพงนครทั้งนั้น
คนไทยเก่งมากๆคิดได้หมด🎉🎉
จุดเริ่มต้นที่ไทยยอมรับ
รักSpyมากครับ
สะเต๊ะมาจากชวา ครับ
ถ้าอยากได้ฟิวโมจิ ให้กินไดฟูกุ นครสวรรค์ อร่อยมาก
หาของใหม่ นุ่มๆ กินไม่ได้เลยครับ เจอแต่ของค้างแข็งโป๊ก แป้งร่วนๆ
คน1
6:08 ไทยพอครับ... Ohoooooooo!!!! Woahhhhhhhh!!!!!!!!!
ท้ายคลิปไทยพอเช่นกัน! OMG!!!!
ขนมโมจิเกิดมาจากเจ้าของโมจิ นครสวรค์เจ้าแรกอยากทำร้านของฝากเอาไว้ขายนักท่องเที่ยวนี่ละครับ เขาคิดถึงโมจิเลยเอามาดัดแปลงให้เข้ากับคนไทย แล้วพอดังก็เลยมีเจ้าอื่นๆทำตามเลยกลายเป็นเอกลักษณ์ของฝากประจำจังหวัดไปเลย
เคยได้ยินมาว่ากล้วยแขกมาจากชวา/อินโดนะ จำไม่ได้แล้วว่าดูจากไหน คำว่าแขกน่าจะหมายถึงแขกชวา ไม่ใช่แขกอินเดีย เขาว่าเดี๋ยวนี้ อินโดก็ยังมีกล้วยทอดคล้ายๆ ในไทย แต่ไม่เคยไปอินโดนะ ฟังจากช่องแบบนี้มาอีกที เขาถ่ายวิดีโอมาให้ดูด้วย
2:38 ชอบท่นนี้😂
อาหารเหมนดีที่สุดในโลก🎉🎉🎉
4 ทุ่ม มาดู หิวสิคราบบบบ
ปาใส่หน้าเขมรน่าจะดีค่ะ คลิปนี้
กล้วยแขกจากเรื่องโจ๊กกลายเป็นเรื่องจริงเฉยเลย แขกงง
โยนมาให้บังทำไม บังไม่รู้จัก
ส่วนอาหารสยามไปเขมรมีหลายอย่าง ถ้าไปเดินตลาดจะเห็นทั้งของคาวของหวาน
แต่เพี้ยนเล็กน้อย ในลาวก็เหมือนกัน ข้าวแกงคงไม่ใช่อาหารลาวแน่
สองประเทศนี้มีอาหารไทยเพราะเจ้านายเขาเข้ามาอยู่ราชสำนักไทย มีขุนนางไทยไปปกครอง
เคยดูคลิปสาวเขมรทำอาหาร มีแต่อาหารไทยทั้งเก่าใหม่ เครื่องปรุงก็สินค้าไทย
เวียดนาม แถวดานังก็มีแกง มีข้าวแกงแล้วนะ
เมียเขมรที่ตามผัวทหารเวียดนามกลับไปหลังจากสงครามกลางเมืองเขมร เอาไปทำขาย มีทั้งแบบกินกับข้าว และกินกับเส้นเฝอ
ไม่ต้องย้อนไปไกลนักหรอก
ลูกจ้างร้านค้า ร้านข้าวแกงมีแต่ต่างด้าว มาเป็นสิบๆ ปีแล้ว
เค้ากลับบ้านยังไงก็ต้องเอาไปทำขาย
เคืองตรงสมัยนี้รสชาติอาหารในไทยมันเพี้ยนไปหมดนี่สิ
Belloงับ@ไทยเราสุดยอดยุแล้วความคิดของคนไทยชั้นเลิศ🇹🇭🇹🇭🇹🇭♥️♥️♥️
ใช่เลยครับ
พิซซ่าใส่สับปะรดอร่อยดี
Fc
ไทยก็เหมือนญี่ปุ่น ที่รับจากวัฒณธรรมอาหารจากที่อื่นมาแล้วมาปรับให้ถูกปากคนท้องถิ่นจนอร่อยฉีกตำราสร้างคาแรคเตอร์และซิกเนเจอร์โดดเด่นจนเป็นของตัวเองขึ้นมาใหม่
อีก100~200ปี
ขนมโตเกียว"คนก็จะบอกมาจากญี่ปุ่น
ขนมจีน"คนก็จะบอกมาจากจีน
ลอดช่องสิงคโปร์"คนก็จะบอกมาจากสิงคโปร์
ข้าวผัดอเมริกัน"คนก็จะบอกมาจากอเมริกา
กล้วยแขกทอด*คนก็จะบอกมาจากแถบอินเดีย
admin ครับจัดอันดับ 10 อันดับประเทศที่คนฉลาดน้อยที่สุดได้ไหมครับ
หมูกะทะ มาจาก หมูย่างเจงกีสข่าน รูปทรงของกะทะที่ใช้ย่างมาจากหมวกทะหารในยุคเจงกีสข่าน
ซอสผัดดำหวานๆ นี่มาสมทบทีหลังจากไต้หวันนะครับ ไทยได้การใช้น้ำมันหอยมาจากพ่อครัวไต้หวัน รวมทั้งการผัดไฟแรงๆ บนแผ่นเหล็กร้อนนี่ก็ด้วย
อาหารไทยแท้จริงมีน้อยมากครับ แต่เพราะในช่วงหนึ่งของยุคสมัยมีชาวต่างชาตินำเข้าส่วนผสมต่างๆ มากมาย เราจึงได้เมนูเด็ดขึ้นมามากมาย อย่างเช่นผัดกะเพรา อินเดียถือว่าเป็นพืชเทพเจ้า แต่เราเอาเทพเจ้าของพวกเขามากินแล้ว งานนี้เจ็บปวด!
เคยมีนักเรียนไทยหนีตายออกจากหอพักในอินเดีย เพราะทำผัดกะเพราเนื้อในหอ🤣🤣🤣
@@oop_oops อันนั้นเทพเจ้าคูณสองเข้าไปเลยครับ ทั้งกะเพราและเนื้อ
@@นักเขียนคอมเม้นต์ ไอที่พีคคือใบกะเพราเอามาจากต้นที่แฟนสาวสวดภาวนารดน้ำเช้าเย็น แฟนถึงกับเป็นลมล้มตึงเลย ถ้าผัดกะเพรากลิ่นไม่แรง(เป็นไปไม่ได้อ่ะ)ความคงไม่แตก
@@oop_oopsอันนั้นก็นิสัยแย่เกินครับ ก็เห็นอยู่ว่าแฟนเขาสวดอะไรต่างๆกับต้นนี้ยังทะลึ่งไปเด็ดมาทำอาหาร ถ้าทนอยากไม่ได้ขนาดนั้นก็อย่าไปเลยต่างประเทศ
@@VJ.ANTIHERO อันนั้นก็แล้วแต่คน แต่เห็นว่าร้านดอกไม้ในอินเดียขายกะเพราไว้ใช้ในพิธีกรรม แต่ถ้าพ่อค้าเห็นหน้าว่าเป็นคยไทยจะไม่ขายให้ กลัวเอาไปทำผัดกะเพรามั้ง🤣🤣🤣
❤️❤️
ทำไมช่องนี้ทำอะไรก็มีกัมพูชาตลอดอะ?
ทุกวันนี้ยังมีคนไทยบางคนเข้าใจผิดในอาหารหลายๆอย่างว่าเป็นของไทยแท้ๆก็มีนะคะ
โดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยวแล้ว1 😂😂😂😂😂😂
เหมนเคลมต่อเนื่องซ๊ะๆ?
คนไทยชอบ
สเต็ะหมูพวกอิสรามกินด้วยนิ😅
ก๋วยเตี๋ยว 粿條 มาจากเสียงภาษาจีนแต้จิ๋วอ่านว่า"ก๋วยเตี๊ยว" จีนกลางอ่านว่า"กั่วเถียว"
เคยฟังว่ามัสมั่นมาจากโปรตุเกสนะคะ
จากเปอร์เซีย ครับ ส่วนของหวาน มาจากโปรตุเกส ( โดยท้าวทองกีบม้า )
คนสอง
แล้วกัมพูชา จะมาว่า เราไปขโมย ห่อมกของเขามาไหมเนี่ย
ต้องมาทะเลาะกับคนลาวด้วยนะ เพราะเราชอบกินหมกหน่อไม้ของอีสานค่ะ น่าจะเป็นอาหารของชาวลาวด้วยมั้งคะ
😄😄😄
เดี๋ยวเขมรเค้าก็จะมาบอกว่า ห่อหมกมันเป็นอาหารประจำชาติของเค้า มันมีสลักอยู่บนกำแพง
แครมโบเดียเห็นคงบอกว่า ประเทศข้าเป็นคนต้นคิด เมืองสยามทำไมชอบก็อปทั้ง วัฒนธรรม/อาหาร ไปแล้วชอบบอกว่าประเทศข้านั้นก็อป 🙄😑🤣
เอะอะก็อ้างภาพที่กำแพงวัด อย่าลืมวัฒนธรรมที่แผ่กระจายไปทุกๆแห่ง แล้วจึงมีการบันทึกภายหลังแต่นี่ไม่ใช่การยืนยันต้นกำเนิด ห่อหมกน่าจะเป็นอาหารดัดแปลงมาจากแกงอีกทีเพราะต้องใช้กะทิราดแล้วนำมานึ่งให้สุก
ค1
เราไม่เคยบอกว่าเป็นอาหารไทย
ชื่ออาหารก็บอกอยู่
บางชื่อความหมายเป็นอีกอย่าง
เราก็ไม่เคยเปลี่ยน
เม้น9
ถ้าไม่มีพริก ไม่มีมะนาว ไม่มีมะละกอ ยังไม่รู้อาหารไทยจะเปนยังใง
โมจินครสวรรค์คือขนมเปี๊ยะ มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับโมจิเลย มันเป็นการตลาด
ดูตอนเกือบตี 1 แบบหิว 😩
มั่วขนมโมจิมาจากตำนานรักทหารญี่ปุ่นกับสาวนครสวรรค์ นางพันนา กับ ซาโต้
ขนมโมจิแต่ผมชอบขนมมังกร
คอมเมนท์ชาตินิยมเกือบ50%
เขมรไม่รับไปครับมแต่เคลมไปเลย
อย่าว่าน้องสิ...
อ้าวเขมรไม่ใช่ จุ๋มเหม่ง หรอครับ
คนไทยทำได้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand, Thailand,.................................................................................. ดอ้่่
ก๊อปเก่งแต่ขอโทษ ถ้ากินอาหารชนิดเดียวกันนี้ในบ้านพวกเค้าก็รับรองว่าไม่ถูกปากเท่าของก๊อปบ้านเราแน่ ไม่งั้นมัสมั่นจะดังไกลไปทั่วโลกเหรอ555
ตอนนี้ในเหมนมี Tub Tim Korb เป็นขนมชื่อดังของเหมน หน้าตาเหมือนทับทิมกรอบบ้านเราเลย 555 ชื่อก็คล้าย ... แต่ไม่ใช่ก็อปปี้หรอกมั้ง ชาติขี้เคลมคงไม่ทำแบบนั้น
ทุกอย่างมีอยู่บนคำแพงวัดคับ 555
มีคนบอกว่า มาจากเวียด และเวียดก็รับมาจากจีน
เคลมเก่งจังเนอะไทยแลนด์😅😅😅 หาตัวตนไม่เจอจริงๆ😅😅😅😅
แคมโบเดียก็เก่งงงง เก่งกว่าไทยอีกก
ควรศึกษาประวัติศาสตร์ก่อนนะครับ
ขนาดโขนนักวิทยาศาสตร์จากญี่ปุ่น
บอกว่าเขมรได้รับอิทธิพลจากไทย
นะครับ ผมคิดว่ามันเป็นวัฒนธรรมร่วม ไม่ใช่ของใครหรอกจ้าาา
@@PaixCB 😂😂😂😂อย่าลืมนะครับว่าสยามรับวัฒนธรรมจากเขมรมาก่อน แม่แต่ภาษาพูดภาษาเขียนก็ถอดมาจากภาษาเขมร70-80%เข้าไปแล้ว
@@phonnhoum1322 อย่าลืมว่าเขมรก็รับมาจากสยามมม แถมโขนสยามตอนนี้ ไม่เกี่ยวกับเขมรแล้วเพราะสยามไม่ชอบเขมรปล้วจะไปก็อปทำไม?????
ฉะนั้นโขนของคุณที่รับมาจากสยามเนี่ยไม่มีวัฒนธรรมเขมรโบราณเพราะมันเสื่อมสลายไปนานแล้วว
@@phonnhoum1322 ทุกอย่างของสยามไม่ใช่เขมรเดิม เช่น ต้มยำกุ้ง หรือ สุนทรภู่
สเต๊ะลือ อร่อยจนรำลือ
แอดไปแหย่ เคลมบูเดียแล้วล่ะ
ขำโมจิมาก
ไทยก็ให้เครดิตทุกชาตินะ อาหารก็หน้าตาแตกต่างจากเดิมแปลว่าคิดค้นพัฒนาเป็นสูตรตัวเอง
เอ่อ ขอโทษนะคะ ขนมโตเกียวมาจากอันมากิ ไม่ใช่โดรายากิค่ะ มีคลิปให้ดูค่ะ th-cam.com/video/kw0gzwOjoWI/w-d-xo.html
ไม่น่าเชื่อ👁👄👁