ต้องรู้อะไรบ้าง ก่อนติดตั้งแอร์ การเลือกซื้อแอร์ ขนาดบีทียูให้เหมาะสมกับห้อง ช่วยประหยัดไฟ

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 5 ก.ย. 2024
  • ฤดูร้อนย่างกรายเข้ามาแล้ว
    สิ่งที่ขาดไม่ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
    คือ เครื่องปรับอากาศ
    สำหรับบ้านที่อยู่อาศัยโดยทั่วไป
    จะนิยมใช้ แอร์ติดผนัง
    เพราะเหมาะกับการใช้งานในแต่ละห้อง
    มากกว่า แอร์ประเภทอื่นๆ
    แต่นอกจากการเลือกเครื่องปรับอากาศที่เหมาะสมกับห้อง
    ซึ่งมีผลต่อประสิทธิภาพความเย็นโดยตรงแล้ว ตำแหน่งติดแอร์ ก็สำคัญไม่แพ้กัน
    ก่อนอื่นเรามาดูกันสิว่า แอร์มีกี่ชนิดอะไรบ้าง
    1.แอร์แบบติดผนัง (Wall type) เป็นเครื่องปรับอากาศที่มีรูปแบบเล็กกะทัดรัด เหมาะสำหรับห้องที่มีพื้นที่น้อย
    เช่น ห้องนอน ห้องรับแขกขนาดเล็ก
    ข้อดี:
    รูปแบบทันสมัย และมีให้เลือกหลากหลาย
    เงียบ
    ติดตั้งง่าย
    ข้อเสีย:
    ไม่เหมาะกับงานหนัก เนื่องจากคอยล์เย็นมีขนาดเล็กส่งผลให้คอยล์สกปรก และอุดตันง่ายกว่าคอยล์ที่มีขนาดใหญ่กว่า
    2) แอร์แบบตั้ง/แขวน (Ceiling/Floor type) เป็นเครื่องปรับอากาศที่เหมาะสำหรับห้องที่มีพื้นที่ตั้งแต่เล็ก เช่น ห้องนอน ไปจนถึงห้องที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น สำนักงาน ร้านอาหาร ห้องประชุม
    ข้อดี:
    สามารถเลือกการติดตั้งได้ทั้งตั้งพื้น หรือแขวนเพดาน
    สามารถใช้งานได้หลากหลาย เข้าได้กับทุกสถานที่
    การระบายลมดี
    ข้อเสีย:
    ไม่มีรูปแบบให้เลือกมากนัก
    แอร์มีขนาดใหญ่กว่าแบบติดผนัง ไม่กะทัดรัดในบางพื้นที่
    3) แอร์แบบตู้ตั้ง (Package type) เป็นเครื่องปรับอากาศ ที่มีลักษณะคล้ายตู้ มีขนาดสูง และมีกำลังลมที่แรง เหมาะกับบริเวณที่มีคนเข้าออกอยู่ตลอดเวลา เช่น ร้านค้า ร้านอาหาร ห้องประชุม โรงแรม
    ข้อดี:
    ติดตั้งง่าย โดยสามารถตั้งกับพื้นได้เลย ไม่ต้องทำการยึด
    ทำความเย็นได้เร็วเนื่องจากมีเส้นผ่านศูนย์กลางใบพัดลมที่ใหญ่ ซึ่งให้กำลังลมที่แรงกว่า
    ข้อเสีย:
    เสียพื้นที่ใช้สอย
    4.) แอร์แบบฝังเพดาน (Built-in type) เป็นเครื่องปรับอากาศที่เน้นความสวยงามโดยการซ่อน หรือฝังอยู่ใต้ฝ้าหรือเพดานห้อง เหมาะกับห้องที่ต้องการเน้นความสวยงาม โดยที่ต้องการให้เห็นเครื่องปรับอากาศน้อยที่สุด
    ข้อดี:
    สวยงาม โดยสามารถทำตู้ซ่อน หรือ ฝังเรียบไว้บนเพดานห้อง
    ข้อเสีย:
    ติดตั้งยาก เนื่องจากต้องทำการฝังเข้าตู้ หรือเพดานห้อง
    การดูแลรักษาทำได้ไม่ค่อยสะดวก
    5) แอร์แบบหน้าต่าง (Window type) เป็นเครื่องปรับอากาศที่รวมทั้ง คอนเดนซิ่ง ยูนิต และ แฟนคอยล์ ยูนิต อยู่ในเครื่องเดียว ซึ่งสามารถติดตั้งโดยการฝังที่กำแพงห้องได้เลย โดยที่ไม่ต้องเดินท่อน้ำยา ดังนั้นการติดตั้งจึงต้องติดตั้งบริเวณช่องหน้าต่างหรือเจาะช่องที่ผนังแข็งแรง
    ต่อไปเรามาทำความรู้จักกับ BTU
    BTU คืออะไร?
    BTU ย่อมาจากBritish Thermal Unit คือ หน่วยวัดปริมาณความร้อนของเครื่องปรับอากาศ ซึ่งเรามักจะพบว่า แอร์ที่ขายตามท้องตลาดนั้น จะมีให้เลือกขนาด BTU ตามที่ผู้ใช้ต้องการ ซึ่งการเลือกขนาด BTU ของแอร์ว่าควรมีกี่ BTU นั้น ขึ้นอยู่กับ ขนาดตารางเมตรของห้องที่ต้องการจะติดตั้ง
    แอร์สำหรับติดตั้งในห้องนอนปกติควรมีกี่BTU
    5-7ตรม. 5,000BTU
    10-14ตรม. 9,000BTU
    14-18ตรม. 12,000BTU
    18-22ตรม. 15,000BTU
    22-26ตรม. 18,000BTU
    25-29ตรม. 20,000BTU
    27-31ตรม. 22,000BTU
    30-34ตรม. 24,000BTU
    38-42ตรม. 30,000BTU
    46-50ตรม. 36,000BTU
    51-55ตรม. 40,000BTU
    สิ่งที่ควรคำนึงถึงเมื่อต้องการซื้อแอร์นอกเหนือจากขนาด BTU ต่อห้องแล้ว
    จำนวนเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ที่ตั้งอยู่ภายในห้องที่ต้องการติดตั้งแอร์
    จำนวนผู้ใช้ หรือ อยู่อาศัยภายในห้องที่ต้องการติดตั้งแอร์
    หลังคา หรือ วัสดุก่อสร้างของห้องที่ต้องการติดตั้งแอร์
    ทิศทางที่แดดส่องห้องพัก
    ค่า EER/SEER
    การจะซื้อแอร์ดีดีสักเครื่องนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ
    ก่อนจะตัดสินใจซื้อควรเลือกสิ่งที่ดี
    และเข้ากับจุดประสงค์การใช้งานของเราให้มากที่สุด
    เพื่อการคุ้มค่าในการใช้จ่าย
    รวมถึงการใช้สอยด้วย

ความคิดเห็น •