สวดศพ “แหวน” คืนที่ 3 “ปันปัน” ยังร่ำไห้ “พี่เบิร์ด” ยืนอาลัยหน้าโลง
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 11 ก.ค. 2017
- 2017/07/12 สวดศพ “แหวน” คืนที่ 3 “ปันปัน” ยังร่ำไห้ “พี่เบิร์ด” ยืนอาลัยหน้าโลง โผกอดปลอบปันปัน “หนูเป็นรางวัลที่ดีที่สุด”
Official Website : www.manager.co.th
/ mgronlinelive
/ mgrnews1
ความสามารถในการถ่ายทอดคำพูดพี่เบิร์ด ยอดเยี่ยม มากๆ
เรื่องนี้ต้องยอมรับจริงๆ สมแล้วที่พี่เบิร์ดเป็นดาวค้างฟ้าคับ
ahpong888 ก
เห็นด้วยค่ะ พี่ชายอาลัยน้องสาว
ศิลปินยุคนั้น ไม่ต้องสร้างกระแสฉาว ก็มีชื่อเสียงได้ ความสามารถล้วนๆ
พี่แหวนเป็นเสมือนน้องสาวพี่เบิดร์คนหนึ่งแม้จะเข้าวงการมาก่อนแต่พี่เบิดร์รักเหมือนน้องสาวเลยพี่เบิดร์เขามีสัจธรรมในชีวิตเขาเคยสูญเสียแม่ พี่ชายมาแล้วเขาเลยรู้ว่าคนเรามีเกิดก็ต้องมีดับ
เสียใจด้วยนะคะ❤😊
มองที่ใจดีกว่าเนอะ รองท้งรองเท้าตัดออกไป เค้าไม่ได้ตั้งใจ
เรื่องแบบนี้มันทำใจใด้ยากค่ะ..เห็นใจน้องปันปันค่ะ
พี่เบิร์ด พูดดีมากเลย ประทับใจ
ดีมากเลยค่ะ
พี่แหวนเป็นนักร้องหญิงที่ชื่นชอบมากค่ะ ไปสู่สุขคติ ทรวงสวรรค์นะคะ
ลุงเบริดของเรา
ลุงเบิร์ดก็มากับเขาด้วยอ่ะ ลุงแกพูดดีนะ
ข้อติงนักข่าวที่โพสต์ลงหน่อยครับ เพราะใช้คำกับงานศพไม่ถูกต้องควรศึกษาคำในภาษาไทยให้ดีกว่านี้ เนื่องจากการนำเสนอข่าวลงหัวข้อหรือพาดหัวข่าว อาจต้องใช้คำที่กระชับได้ใจความโดนใจคนอ่านแล้ว ที่สำคัญต้องดูด้วยว่าคำที่ลงนั้นถูกต้องกับงานหรือสื่อความหมายถูกกาละเทศะหรือไม่ คำว่า สวดศพ คนอ่านบ้างคนไม่รู้ความหมายของพิธีในงานศพอยู่ก่อนแล้ว ยิ่งสื่อความหมายทำให้หลงเข้าใจผิดๆไปอีก และถ้าใช้คำนี้จนเคยชินเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา อนาคตการประกอบพิธีศพ คนก็เข้าใจผิดวัตถุประสงค์ ซึ่งทำให้ไม่เกิดประโยชน์ในการประกอบพิธีและไม่เกิดกุศลต่อผู้วายชนม์
** การประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนาเกี่ยวกับงานศพ อาจเรียกได้หลายอย่างที่สื่อความหมายถูกต้องเช่น การสวดพระอภิธรรมและเทศน์งานศพ.... หรือ การบำเพ็ญกุศพศพ.... เป็นต้น หากจะย่อคำควรทำเครื่องหมายตามหลักภาษาไทย เพื่อให้คนอ่านเข้าใจว่าเป็นการย่อคำ ซึ่งการสวดพระอภิธรรมและเทศน์ในงานศพ ไม่ใช่การสวดให้คนตายฟัง เพราะคนตายได้ตายไปแล้วไม่สามารถฟังได้ไม่สามารถรับรู้ได้ แต่การสวดพระอภิธรรมนั้น คือการสวดให้คนที่มาร่วมพิธีฟังให้เกิดปัญญาให้เกิดความสังเวทว่าร่างกายเป็นของไม่เที่ยงเป็นอนิจจังเกิดมาจะอยู่ในสถานะใดฐานะอย่างไรมีสมบัติมากแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องตาย และเพื่อให้สติกับญาติของผู้วายชนม์ ว่าชีวิต มีการเกิดขึ้นตั้งอยู่และดับตายไปเป็นธรรมดาของสัตว์โลก รักมากอย่างไร ห่วงมากแค่ไหน ก็ต้องปล่อยวาง เพราะทุกคนหนีไม่พ้น อย่างนี้เป็นต้น ซึ่งในแต่ละบทจะมีความหมายแฝงคำสอนของพระพุทธเจ้าเอาไว้ เพื่อให้คนที่มีชีวิตอยู่ใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท เพียงแต่การสวดนั้นนิยมใช้ภาษาบาลีในการสวด เพราะเชื่อมาแต่โบราณว่าเป็นภาษาที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นภาษาที่เก่าแก่ หากใครอยากรู้ความหมายของบทสวดพระอภิธรรมก็ไม่ยากในยุค 4 จี อย่างนี้ เปิดอินเทอร์เน็ตดูก็จะรู้ความหมาย ซึ่งการนำพระอภิธรรมมาสวดในงานศพนั้น เป็นความเชื่ออิงตามพุทธประวัติที่พระพุทธเจ้าเคยแสดงพระอภิธรรมปิฏกโปรดพุทธมารดา บนสวรรค์ชั้นดาวดึงค์ ซึ่งมีอานิสงค์มากและเป็นหลักธรรมขั้นสูง เป็นต้น รวมถึงการเทศน์ก็คือ การนำเอาเหตุการณ์ในพุทธประวัติที่พระพุทธเจ้าเคยแสดงธรรมโปรด ตามสถานที่ต่างๆหรือนำหัวข้อธรรม มาเทศน์สอนให้คนที่มาร่วมงานได้เกิดความรู้เกิดปัญญา อาจจะใช้เทศน์เป็นแบบโวหารของแต่ละท้องถิ่นหรือแบบ บรรยาย ก็ตามแต่ละท้องถิ่น ซึ่งหลักธรรมที่นำมาเทศน์ก็อยู่ในพระสุตันตปิฏก ซึ่งเมื่อคนที่มาร่วมงานนำหลักธรรมที่ได้ฟังมา ไปใช้ในชีวิตก็จะเกิดประโยชน์กับตัวเองต่อไป เมื่อผู้ที่มาร่วมงานมีสมาธิตั้งใจฟังการสวดพระอภิธรรมและการเทศน์ในงานศพแล้วก็เกิดเป็นพลังบุญที่จะอุทิศให้กับผู้วายชนม์ต่อไป **
++แต่ถ้าหากเข้าใจผิดคิดว่าการสวดพระอภิธรรมและเทศน์ในงานศพ คือการสวดและเทศน์ให้ผู้วายชนม์หรือคนตายฟัง คนที่มาร่วมงานก็จะไม่สนใจฟัง ไม่เกิดสมาธิ ไม่เกิดปัญญา ไม่เกิดความรู้ ในหลักธรรมที่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า เมื่อคนมาร่วมงาน ไม่เกิดสมาธิ ไม่เกิดปัญญา ไม่เกิดความรู้ในหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่นำมาแสดงในงาน แล้วก็ไม่เกิดเป็นพลังบุญ อย่างนั้นจะเอาพลังบุญที่ไหนอุทิศให้ผู้วายชนม์หรือคนตาย หากไปร่วมงานศพโดยที่ไม่รู้ว่าหัวใจสำคัญนอกจากไปไว้อาลัยต่อผู้ตายและให้กำลังใจญาติๆผู้ตายแล้ว เมื่อร่วมพิธีก็เข้าใจการประกอบพิธีที่ผิดๆ การจัดพิธีศพนั้นก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย มีแค่ได้จัดงาน หรือ ได้ร่วมงาน ก็เท่านั้น แต่หากผู้มาร่วมงานเข้าใจความหมายและหัวใจสำคัญของงานศพ คือเพื่อมาร่วมกันสร้างกองบุญสร้างพลังบุญ เพื่ออุทิศให้ผู้ตายซึ่งเป็นญาติเป็นคนใกล้ชิดเป็นคนสนิทเป็นคนรู้จักของตัวเอง ให้เขาได้รับพลังบุญที่อุทิศให้ จะได้ไปสู่ภพภูมิที่ดียิ่งๆขึ้นไม่ตกสู่อบายภูมิได้รับความทุกข์ทรมารเป็นต้น++
บา
ไม่ถอดรองเท้าหรอคับ
หมิง โชคบัณฑิต วัดค่อนข้าง vip ค่ะ สังเกตหลายท่านใส่รองเท้า
หมิง โชคบัณฑิต งงๅม่ชอบถอดรองเท้าขอตินิด
ช่ายต้องไหว้เสดละค่ะ
หมิง โชคบัณฑิต ไม่ถอดหรอก..กลัวรองเท้าหาย555
หมิง โชคบัณฑิต
มันเกิดอะไรขึ้นอะดารามาเสียชีวิตแบบติดๆๆๆกันเลยอะกลายงานเลยอะพร้อมกัน
shirly klankamnoed มีน้าเป้ามือกลองคนแรกของวงคาราบาวพึ่งเสียคืนก่อนด้วยค่ะ
หน้าแปลกไปป่ะเบริด
Suksnya Sukanya พี่แก รุ้สึก ตึงๆที่ปาก มั้งโบท้อกป่าวไม่รุ้
Ningky Rk. เหมือนแกทำปาก ปากบวมนิดๆ
Suksnya Sukanya แต่ต้องกราบพี่แกนะ 60แร้ะ หน้าเป้ะ!กว่า เรา40อี้กกก😁😁
ลุงแกเงินเยอะครับ ทำทั้งตัว
คนดังเขาทำตัวอย่างกันแบบนี้หรือไอ้เบิร์ด ไหว้แบบไม่ต้องถอดรองเท้า เกรียติและศักดิ์ศรีของคนดังมันมีตรงไหนว่ะ
Aaaกู Bbbกู เมิงเป็นรัยมากป่ะ
Aaaกู Bbbกู ไม่ชอบก็อย่าดูดิ
ว่าเขาเกินไปป่าว