ไคโตซาน (Chitosan) ลดไขมันได้จริงหรือ ? | เภสัชกรออนไลน์
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 14 ต.ค. 2024
- ไคโตซาน ลดไขมันได้จริงหรือ
หลายคนอาจจะเคยได้ยินว่าไคโตซาน สามารถช่วยลดไขมันและลดความอ้วนได้ และหลายคนก็สงสัยใช่ไหมครับว่ามันช่วยลดไขมันได้จริงหรือ แล้วมันช่วยลดได้อย่างไร วันนี้เราจะมาคลายข้อสงสัยนี้ และหาคำตอบไปพร้อมกันนะครับ
ในปัจจุบันได้มีการนำไคโตซานไปประยุกต์ใช้มากมาย เนื่องจาก คุณสมบัติของไคโตซาน ที่ไม่เป็นพิษ เข้ากันได้ทางชีวภาพกับสารหลายชนิด และไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม
การประยุกต์ใช้ไคโตซาน ในวงการเกษตร
นำไคโตซานมาใช้ในการเคลือบเมล็ดพันธุ์เพื่อป้องกันไม่ให้เมล็ดพันธ์ติดโรคหรือเน่าเสีย
ในวงการเครื่องสำอาง
นิยมนำไคโตซาน มาเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ เช่น แป้ง ครีมกันแดด ครีมบำรุง ยาย้อมผม ยาเคลือบสีผม หรือแม้กระทั่งในยาสีฟัน
ในวงการสิ่งแวดล้อม
นำมาใช้ดักจับไขมัน สี และโลหะหนักที่ปนเปื้อนอยู่ในน้ำเสีย หรือดูดซับสารพิษได้ในกระบวนการบำบัดน้ำเสีย
และในวงการแพทย์
ได้นำไคโตซาน มาเป็นส่วนประกอบในการขึ้นรูปเป็นเม็ดเจลยา , ทำแคปซูลยา หรือเป็นส่วนประกอบของยาบางชนิด
มาถึงตรงนี้แล้วหลายคนคงจะสงสัยใช่ไหมครับว่าไคโตซานคืออะไรแล้วมันมาจากไหน ไคโตซานนั้นเป็นสารพอลิเมอร์ธรรมชาติที่สกัดได้จากไคตินที่พบได้ในเปลือกของสัตว์ทะเล เช่น เปลือกกุ้ง กระดองปู และแกนปลาหมึก
โดยในไคโตซานจะมีหมู่อะมิโนที่มีสมบัติในการละลายได้ในกรดอินทรีย์ เป็นสารที่ชอบไขมัน และเนื่องจากไคโตซานเป็นโพลีเมอร์ที่มีประจุบวก จึงสามารถจับกับไอออนหรือสารที่มีประจุลบได้เป็นอย่างดี เช่น โลหะและไขมัน
สำหรับการนำไคโตซานมาดักจับไขมันในทางเดินอาหาร อาศัยหลักการที่ไคโตซานมีโมเลกุลขนาดใหญ่มากทำให้ไม่ถูกดูดซึม แต่จะถูกขับถ่ายออกมา และไคโตซานมีประจุบวกจึงสามารถจับกับไขมันซึ่งเป็นสารที่มีประจุลบได้เป็นอย่างดี ในวงการเภสัชกรรมจึงได้ใช้คุณสมบัติในการดักจับไขมันในทางเดินอาหารของไคโตซาน มาใช้เป็นผลิตภัณฑ์ในการรับประทานเพื่อลดน้ำหนัก ลดคอเลสเตอรอล และ ไตรกรีเซอร์ไรด์ โดยที่เมื่อเรารับประทานไคโตซานร่วมกับมื้ออาหาร ไขมันที่มาจากอาหารจะจับตัวกับไคโตซาน แล้วจะไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสโลหิต แต่จะถูกขับถ่ายออกมาพร้อมอุจจาระ ซึ่งหมายความว่า ไขมันในอาหารที่เรารับประทานเข้าไป จะถูกดักจับก่อนที่จะมีการดูดซึมเข้าร่างกาย ทำให้ร่างกายได้รับไขมันจากอาหารน้อยลงนั่นเองครับ
แต่อย่างไรก็ตามการใช้ไคโตซานข้อระวังในการใช้เช่นกันนะครับ โดยที่ไม่ควรใช้ไคโตซานในผู้ที่แพ้อาหารทะเล เนื่องจากไคโตซานเป็นสารที่สกัดได้จากสัตว์ทะเล เพราะถ้าหากว่ารับประทานเข้าไปก็จะทำให้เกิดอาการแพ้ได้เช่นกัน, รวมทั้งเด็ก หญิงมีครรภ์ และหญิงให้นมบุตรก็ไม่ควรรับประทานไคโตซาน, ไม่ควรรับประทานต่อเนื่องกันนานเกินกว่า 2 สัปดาห์ เนื่องจากไคโตซานจะดูดซับวิตามินที่ละลายในไขมัน เช่น วิตามินเอ, วิตามินดี, วิตามินอี และวิตามินเค ไปด้วย ทำให้ร่างกายขาดวิตามินได้นะครับ
เพราะฉะนั้นจึงควรรับประทานไคโตซานเฉพาะช่วงเวลาที่จำเป็นเท่านั้น และหากคุณจำเป็นต้องรับประทานไคโตซาน ก็ควรรับประทานอาหารที่มีวิตามินที่ละลายในไขมันและกรดไขมัน หรือรับประทานวิตามินที่จำเป็นเพิ่มขึ้นด้วยนะครับ
** กดติดตามจะได้ไม่พลาดคลิปใหม่ของเรา **
qrgo.page.link...
** เป็นเพื่อนกันและติดตามข่าวสารช่องทางอื่นๆ **
Facebook ► / propharmacist.drugstore
IG ► / propharmacist.online
TikTok ► / propharmacist.online
Line ► lin.ee/iUlx1Vm
ขอบคุณสำหรับควาามรู้ดีๆค่ะ
เสียงก้อง ฟังยากไปหน่อย แต่ข้อมูลเข้าใจง่าย ให้ความรู้ดีค่ะ
ขอบคุณค่ะ เราจะพัฒนาให้ดีมากขึ้นค่ะ 🙏🙏
ค้นหาครั้งแรกไปเจอสำหรับบำรุงต้นไม้ตกใจหมด ว่ากินได้รึเปล่า ขอบคุณข้อมูนดีๆค่ะ
ผมแกะซองมาแล้วเห็นซ้ายล่างซองเขียน3
เลยกิน3เข้าไปแล้ว แต่ตะหงิดใจเลยเิาไปสแกนแปลภาษา แต่บังเอิญเครื่องแบตหมดดับไปคามือ เปิดมาอีกทีก็ขี้เกียดแล้ว วันค่อมามื้อแรกก็3 แต่พอมื้อเที่ยงเลยมาสแกนอีก ดีนะไม่ตาย
้เคยทานลดลง12โลแต่ตอนนี้หาซื้อไม่ใด้..
ควรแยกเวลากินกับวิตตามินตัวอื่นยังไงครับ ไหนกินก่อนไหนกินหลัง
ถ้าเราทานอาหารเสริมพวกน้ำมันปลา เลซิติน แล้วทานไคโตซานมันจะทำให้น้ำมันปลาที่เราทานไปสูญเปล่าไหมคะ
แยกเวลาทานกันค่ะ
Nice 👍👍👍👍
เสียงดนตรีดังเกินไปค่ะ