ชนชั้นทำงานกลางเมือง | Struggle life | echo
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 3 เม.ย. 2023
- คุณเป็นแซนวิชเจเนเรชั่นหรือเปล่า? คนที่เงินเดือนตัวเองไม่พอใช้ เพราะมีทั้งพ่อแม่อายุมากต้องส่งเงินให้ แล้วยังมีลูกต้องเลี้ยงดู ไหนจะค่าใช้จ่ายส่วนตัวอีกล่ะ ชนชั้นกลางทำงานในเมืองอย่างเราๆ จะรวยก็ไม่รวย จะจนก็ไม่จน ค่าครองชีพสูง ค่าแรงต่ำเตี้ย เราคือกลุ่มที่ส่งภาษีให้ประเทศมากที่สุด แล้วมันคืนกลับมาดูแลคนรุ่นเดอะแบกกันมากแค่ไหน???
-----------------------------------------------------------------------------------------------
หนับหนุน echo แบบเบิ้มๆ ทุกช่องทางได้ที่
👇👇👇👇👇👇👇👇👇👇👇👇👇
linktr.ee/fookingecho
☝️☝️☝️☝️☝️☝️☝️☝️☝️☝️☝️☝️☝️
จะได้ไม่พลาดคอนเทนต์ใหม่ๆ จากชาว Fooking friends 💚
#ค่าครองชีพ #แซนวิชเจเนเรชั่น #sandwichgeneration #โครงสร้างภาษี #รัฐสวัสดิการ #คนทำงาน #ชนชั้นกลาง #เลือกตั้ง #echo #fookingecho
----------------------------------------------------------------------------------------------- - บันเทิง
ขอบคุณทุกความคิดเห็น ทุกการถกเถียงแลกเปลี่ยนมุมมองที่หลากหลายและน่าสนใจ
มุ่งสู่ 500,000 subscribe ไปด้วยกัน ทุกยอดวิว ทุกความคิดเห็น ทุกการกด Subscribe คือแรงใจจากคนดู
อยากให้ echo ทำประเด็นเรื่องอะไรให้ดูอีก ลองพิมพ์ความเห็นไว้ได้เลย :)
อยากให้เสนอปัญหา พร้อมทางแก้ภายใต้เงื่อนไขของประเทศ การในเสนอแบบบ่นๆแบบวีดีโอ ดูแล้วมันtoxic อยากให้ลองถามคนที่เขาปรับตัวได้บ้าง มันต้องแก้ทั้งสองด้าน ทั้งทางรัฐด้วย และโดยตัวเองด้วย เพราะโครงสร้างรัฐ สังคม มันซับซ้อนและเปลี่ยนยาก สิ่งที่ควบคุมได้คือตัวเรา 100% ดังนั้นช่วยเสนออีกมุมที่ประชาชนทำได้จริง หรือลองเสนอมุมต่างด้าวที่เขาก็ได้ค่าแรงไม่ได้เยอะ แต่สามารถส่งเงินกลับไปได้ เขาทำได้ยังไง
@echo สวัสดีค่ะ ถ้าจะขออนุญาติยืมคำ หรือประโยคที่พูดในคลิปนี้ ไม่ตัดต่อ เพื่อเปรียบเทียบ การใช้ชีวิต การทำงาน การเป็นอยู่ ในประเทศออสเตรเลียได้ไหมคะ เพราะเห็นข้อแตกต่างอย่างชัดเจนมาก เพราะส่วนตัวทำงานอยู่ที่ออสเตรเลียค่ะ ซึ่งอาจจะสามารถช่วยเเนะนำ แนวทางการพัฒนาด้านการเป็นอยู่ หรือ work life balance ให้องค์กร หรือรัฐบาลไทยได้ ขอบคุณค่ะ
@@bbpatt5795 ยินดีค่ะ รบกวนแปะเครดิตที่มาเพื่อแนะนำช่อง echo ไว้ในเนื้อหาคลิปด้วยนะคะ :)
การเมืองมันเป็นเครื่องสะท้อนคนในสังคมนั้นๆ คนในประเทศเป็นอย่างไร การเมืองก็ เป็นอย่างนั้น
ภ้าคนในประเทศ มักง่าย ไม่เคารพกฎหมาย นึกจะทำอะไรก้อทำไม่สนใจกฎหมาย การเมืองมันก้อเป็นแบบคนในประเทศนั้น
เห็นแต่คนไทยโทษนักการเมืองบ้าง โทษคนชั้นในบ้าง แต่ไม่เห็นโทษตัวเองกันเลย ทั้งที่ตั้งแต่ออกจากบ้านเห็นคนทำ ผิดกฎหมาย มักง่าย เป็นเรื่องปรกติ เช่นนี้แล้วเราก้อได้การเมืองแบบ มักง่าย ชอบทำผิดกฎหมายอย่างที่เราเป็น
ส่วนนึงเพราะ เราๆและคนรุ่นก่อนๆละเลยเรื่องการเมืองเยอะเกินไป จนปัญหามันหมักหมมและสะสมจนมันกลับมาขย้ำเรานี่แหละ
จงรักสงบ คำนี้อันตราย เพราะเขาสอนให้เมินเฉยต่อความฉิบหายในอนาคต
ละเลย อันเนื่องมาจากปัญหาการศึกษาเลยค่ะ
@@eeuu-gn1vb เอาจริงก็ใช่ว่าคนรุ่นก่อนๆจะละเลยการเมือง ตัวอย่างคือ 14 ตุลา กับพฤษภาทมิฬ ที่ถูกบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ไทย และมีผลกระทบกับการเมืองไทยแบบมหาศาล ถ้าศึกษาประวัติศาสตร์ดูจะรู้ว่าคนรุ่นก่อนนี่ตีกับรัฐบาลเรื่องการเมืองหนักกว่ารุ่นปัจจุบันอีก คนที่เคลื่อนไหวทางการเมืองหลายคนหนีตายกันก็เยอะ แถมโดนยิงตายในเหตุการณ์รุนแรงก็เยอะ ถ้าว่าคนรุ่นก่อนไม่ทำอะไรเลยจริง ไทยคงเข้ายุคเผด็จการแบบ 100% ไปนานแล้ว แต่เหตุการณ์มันก็วนลูป ถึงจบเรื่องนึงไปได้มันก็มีคนใหม่มาทำรัฐประหารแบบเดิม ตรงนี้แหละที่มันเลวร้ายสุด ทั้งๆที่ประวัติศาสตร์มันซ้ำรอยมาไม่รู้กี่รอบแล้ว
ใช่ครับ ไม่มีคนต่อสู้เพื่อลูกหลานเราถึงได้แพ้มาจนวันนี้ทุกคนปิดปากกันหมด พูดเรื่องการเมืองเหมือนทำสงครามจิตวิทยา ถ้าพูดจะเป็น กบฏทางความคิด ของคนอื่นทันที สุดท้ายแล้ว ก็มาปลูกฝังคนรุ่นต่อไป😢
@@efgggueeeijikk2659 เอาจริงๆนะครับ ในประวัติศาสตร์ เขียนเหตุการนี้ก็จริง แต่ไม่มีการลงข้อมูลอะไรเลย เรารู้แค่ว่า มันเกิดเหตุการณ์นี้อันเนื่องมาจากน.ศ ที่โดนกล่าวหาว่าเป็นคอมมิวนิส์ แต่ความจริงทั้งหมดถูกรัฐปกปิดมาโดยตลอด มีแค่คนกลุ่มน้อยที่พูดถึงเท่านั้นแหละครับ
คลิปนี้ สะท้อนสังคมเมืองได้ชัดเจนจริงๆ ขอบคุณที่ทำคอนเทนท์ตีแผ่มุมองสังคมแบบนี้ครับ ขอให้ภาครัฐที่เป็นผู้กำหนดนโยบายและทิศทางต่างๆของประเทศ ตระหนักถึงชีวิตประชาชนด้วยครับ
เรื่องของการทำงาน กับ ชีวิตของคน ทุกวันนี้กลืนไปกับคำว่างาน อย่างเดียว จนส่วนมองไม่เห็นความสุขและความหมายของชีวิต จริงแล้วคืออะไรกันแน่ เรื่องแบบผมอยากเป็นที่พูดกันแบบจริงจังในวงกว้าง เรื่องของ การสร้าง passion and inspiration กับการทำงานหนัก มันแถบจะเป็นไปไม่ได้เลยครับ ที่จะหาความสุขในชีวิต (ผมพูดไม่เก่งน่ะครับ😢)
บางทีผมก็อยากจะจากโลกนี้ไปนะ มันเหนื่อยอ่ะเบื่อสังคมสมัยนี้มีแต่ toxic
ชฃ
ล
พูดเฉพาะมุมของพนักงานประจำนะครับ
ก่อนทำงาน:
ฉันจะหาเงินไปซื้อบ้านในฝัน
ฉันจะซื้อรถในฝัน
ฉันจะยอมเหนื่อยกับงานเพื่อใช้ชีวิตอย่างที่ฉันต้องการ
หลังมีงาน:
หาซื้อที่พักใกล้ที่ทำงาน
หาซื้อรถที่พอจะให้เดินทางไปทำงานได้
เหนื่อยแทบตายสุดท้ายก็ไม่ได้ใช้ชีวิต เพราะต้องถวายชีวิตให้กับงาน
มีเงินเก็บ มีอิสระทางการเงินอีกทีคือ อายุปาเข้าไป 60 กว่า ชีวิตที่เคยอยากใช้ในวัยรุ่นก็ทำไม่ได้
ถ้าร้าบานไม่เข้ามาช่วยในเรื่องอย่างว่า พนักงานประจำหลายๆคนก็วนลูปแบบนี้ไปเรื่อยๆ นอกจากจะออกไปทำธุรกิจเองและประสบความสำเร็จ แต่มันก็ไม่ใช่ทุกคน
แงะ
จริงมาก
สู้ๆ ครับ พยายาม หา อาชึพ ที่ 2-3 ครับ ให้เงิน ทำงาน อดออม (การหาเงิน สำคัญ แต่การใช้จ่าย สำคัญกว่า) ผม เคยผ่าน มาแล้วครับ
ผมอยู่บ้านนอก ได้วันละ300-400เองคับ
ถ้าใน ตจว มีโอกาสเหมือนใน กทม ก็คงดี คนหนุ่มสาวที่เรียนจบมามีความสามารถจะได้ ไม่ต้องเข้าเมืองเพื่อไปหาโอกาสที่คนแห่ไปแย่งกันเบียดกัน ปลดล็อกท้องถิ่น
เสียงของเรามีค่า เลือกพรรคที่ทำเพื่อประชาชนจริงๆ นะครับทุกคน
บางพรรคยังหาเสียง โดยเปิดเพลงปลุกใจแนวชาตินิยมและยังพูดว่า "ทุกคนต้องช่วยกัน" ดิฉันเกิดคำถามเลยว่า คุณมีอำนาจรัฐอยู่ในมือแล้ว(คุณคือตัวแทนผู้ใช้อำนาจรัฐ) และทุกคนก็จ่ายภาษีไปแล้วยังจะให้ทุกคนช่วยอะไรคุณอีก ใจร้ายมากๆ จิตใจทำด้วยอะไรกันนะ รู้สึกหดหู่มากๆค่ะ
เดี๋ยวก็ได้รู้ว่า ธาตุแท้
@@happylucky5076 เห็นมา8ปีกว่าละ 🧡
@@thgg8338 ตอนพูดก็ดูดี ลับหลังเขาอาจจะพูดว่า เด็กโง่พวกนี้หลอกง่ายดี การเมืองมันไม่ไก็สวยหรูหรอก แค่พูดให้ตัวเองดูดีมีคนเชื่อ
มันไม่มีพรรคนั้นไง ที่ทำเพื่อประชาชนจริงๆอ่ะ ก็รู้ๆกันอยู่
เศร้ามาก เรื่องจริง เห็นป้าย ชีวิตดีๆ นั้นทีไรรู้สึกว่ามัน Bullshit ที่สุดที่เคยเจอ
ชอบ content แบบนี้จริงๆ และ เป็นเรื่องจริงที่คนวัยทำงานที่ทำงานประจำ หลีกเลี่ยงไม่ได้ มันเหนื่อนมากเว้ยแก
กรุงเทพ ถูกออกแบบมาให้เป็นสวรรค์สำหรับคนรวยและมีเกินจะกินเท่านั้น
...
แต่ถ้าใครมีฐานะน้อยกว่านั้น ก็สู้ ๆ น้าาา ❤❤❤❤
ประเทศไทยทั้งประเทศไม่ใช่เหรอครับ
เหนื่อยจริง แบบมันรู้สึก เราอาจจะทำงานหนักกว่าคนประเทศอื่นๆมากด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่ได้ทำไมมันสวนทาง
ต้องกระจายงานออก ตจว ที่มีค่าครองชีพถูกกว่าครับ
แปลกมากที่ไทยจะพัฒนาประเทศด้วยอุตสาหกรรม 4.0 แต่งานทุกอย่างอยู่ในกรุงเทพหมด
เดี๋ยวนี้เขามีอินเตอร์เน็ตแล้วครับ ทำงานที่ไหนก็ได้
จริงครับไม่มีใครอยากมาทำงานไกลบ้านตัวเองหรอก
@@senselive6828ผมเป็นคน กทม แต่สนับสนุนให้กระจายความเจริญ สาธารณูปโภคครบครันทุกเมือง
ผมอยู่กทม.ตั้งแต่เกิดจนเรียนจบป.ตรี พออายุ 22 - 23 มาอยู่ตจว.ที่บ้านยาย แล้วก็ไม่หวนกลับไปอยู่กทม.อีกเลย อยู่กทม.ทุกอย่างรีบเร่งไปหมด ของแพง วุ่นวาย แต่ตจว.เวลาผมเหลืออย่างเยอะ ว่าง ๆ ไปนั่งดูทุ่งนา ดูภูเขา อยู่บ้านรดน้ำต้นไม้ ปลูกผัก ยิ่งผมเป็นขรก.ยิ่งชิลล์กับชีวิตมาก ที่ทำงานห่างบ้านแค่ 5 - 6 โล ขับมอไซด์ 10 - 15 นาที สบาย ๆ ตอนนี้ซื้อบ้านมือสองกลางทุ่งนาพร้อมที่ดิน 2 ไร่ ในราคาแค่ 8 แสน (ทั้งที่ตอนนี้เงินเดือนผมแค่ 35,000) ถ้าเป็นกทม. 8 แสนนี่ 20 ตารางวา จะได้หรือเปล่า(นี่กะว่าอีก 2 - 3 ปี ถ้าย้ายไปอยู่บ้านแฟนที่อยู่จังหวัดติดกันว่าจะซื้อบ้านอีกหลัง) แต่ระบบสาธารณูปโภคก็แย่หน่อยดีที่ว่าพอมีไฟมีน้ำมีเน็ต(ไฟฟ้าเพิ่งจะเดินเสาปูนให้เมื่อ 5 - 6 ปีที่แล้ว) ถ้าไม่มีรถก็ลำบากหน่อย ยิ่งอยู่ตจว.ยิ่งรับรู้ความทุกข์ยากของชาวบ้านยิ่งหดหู่ ทำเอาปลงชีวิตเลย ทำให้คนหนุ่มสาวที่นี่ดิ้นรนเข้าเมืองหางานตลอด น่าจะมีผมนี่แหละที่ทิ้งกทม.มาปักหลักที่ตจว. ถ้ารัฐไม่มีปัญญากระจายความเจริญ ไม่สร้างงานให้คนตจว.มันก็จะเป็นแบบนี้ไปตลอดชาติแหละครับ แค่หน้าฝนที่ผ่านมาแถวบ้านแฟนผมน้ำท่วมเสียหายหมดทั้งนาข้าว สวนลำไย ไหนจะวัวก็ไม่ได้ขาย(เพราะน้ำท่วมคอก ต้องเคลื่อนย้ายวัวทำให้วัวไม่กินอาหาร น้ำหนักเลยไม่ได้) แต่รัฐไม่ช่วยอะไรเลย ชาวไร่ชาวนาตายอย่างเดียว ถ้ารัฐบาลดีมีความสามารถอย่างน้อยยังพอมีนโยบายที่ช่วยเหลือชาวบ้านได้ แต่ก็อย่างที่เห็นนี่แหละ(ยกเว้นสลิ่มที่ไม่เห็น)...หึหึ
ก่อนอายุ 30 รายได้หักทุกอย่างแล้วคือครึ่งแสน เรายังไม่กล้าฝันจะแต่งงานมีลูกเลย เรารู้สึกว่าทุกอย่างมันแพงไปหมด นี่ขนาดตัวคนเดียว กินข้าววันละมื้อสองมื้อเพื่อประหยัด ทำกินเองตลอด เที่ยวก็ไม่เที่ยว จดบัญชีทุกวัน เราก็เห็นนะ เงินเดือนออกไปขั้นต่ำเดือนละ 25000+ เลย
มากกว่านั้นเรามองไม่เห็นอนาคตตัวเองในประเทศนี้จริงๆ
และตอนนี้ เรากลายเป็นหนึ่งในมนุษย์ที่กำลังอยู่ในสภาวะย้ายประเทศเรียบร้อย สิ้นหวังกับบ้านเมืองตัวเองมากๆ ตอนนี้ทำได้แค่ลงทะเบียนเลือกตั้งต่างแดน หวังว่าเสียงของเราจะช่วยได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งนะ
พวกเราไม่มีบุญวาสนาเหมือนพวกนักการเมืองครับ ถ้าทุกคนอยู่ระดับเดียวกับ อนุทิน เสี่อหนู ขึ้นไป คงจะดีมาก มันจะมีสักกี่คนที่ มี เงิน บารมี อิทธิพล มีอำนาจ ใครๆก็ต้องเกรงกลัว
ระบบที่ออกแบบให้ผู้คนต้องไม่พอกิน เพื่อจะได้มีชนชั้นแรงงานเยอะๆ
เขาทำเพื่อให้เราต้องง้อรัฐไง ความคิดที่จะต่อต้านอำนาจรัฐเลยมีน้อยถึงน้อยที่สุด
+1
ปัญหาคือการจ้างงานมากกว่า มันจะเกิดจากอาชีพที่ต้องทำงานเป็นกึ่ง Labor ในกรุง แล้วค่าครองชีพในกรุงก็ไม่ถูก รอบนอกก็ไม่มีงานให้ทำ การจัดสรรงานไปรวมศูนย์ กทม หมด ไม่แบ่งไป รอบนอกบ้าง ค่าใช้จ่ายเดินทางในกรุงถึงสูง
จะโทษแต่ภาครัฐก็ไม่ได้อีก เพราะในระบบการทำงานก็มีไอ้พวก ขี้เกียจแต่มาหวังทำงานไปวันๆ มาฉุดรั้ง อีก มันไม่ใช่แค่ตัวเราอย่างเดียว ตัวเราแก้ได้แต่แก้คนอื่นนี่ยากกว่า
เห็นด้วยกับการกระจุกตัวของงานอยู่แต่ในกรุงเทพ แต่ปัญหาค่าครองชีพสูงแต่ค่าแรงเท่าเดิมคือปัญหาใหญ่จริงๆ
15+ ปีที่แล้ว ข้าวจานละ 25 บาท รถเมล์ถูกสุด 3.5 บาท เงินเดือนเด็กจบใหม่ 15,000 ผ่านมาสิบกว่าปี ข้าวราคาขึ้นเท่าตัวแต่เงินเดือนเท่าเดิม
เด็กจบใหม่สมัยนี้เงินเดือนแค่นี้ถ้าไม่มีใครซับพอร์ตเงินรายเดือนให้ ไม่มีพ่อแม่ให้เงินก้อนไปลงทุน เค้าจะตั้งตัวได้ยากมาก
มันจะไม่โทษภาครัฐได้ยังไงล่ะครับ ก็ในเมื่อนโยบายเอย การบริหารจัดการความเป็นอยู่ ค่าครองชีพ สิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะ นโยบายด้านอาชีพ ด้านรายได้ ที่ผมบอกมาทั้งหมดอะ รัฐบาลล้วนควบคุมครับ เป็นถึงรัฐบาลเเต่ถ้าไม่มีอำนาจมาจัดการเรื่องพื้นฐานเเค่นี้ อย่าเป็นเลย เสียเเรงเลือก เป็นเเล้วก็ควรมีอำนาจบริหารเเบบครอบคลุมให้ได้ครับ
ตอนเป็น first jobber ทำงาน ที่ กทม เงินเดือน 15000 นี่แทบไม่มีเงินเก็บอะ แต่พอย้ายกลับบ้านที่ ตจว. หางานทำแถวบ้าน ยอมลดเงินเดือนเหลือ 9000 แม่งเสือกมีเงินเก็บวะ ตลกชีวิตตัวเองชิบหาย😂😂
คิดถูกแล้วครับ เหนื่อยน้อยลง
มีเวลามากขึ้น
จริง ยอมกลับมาหางานท้องถิ่นบ้านๆ อยู่กับบ้าน เงินเดือนน้อย แต่เหลือเก็บ
อยู่ต่างจังหวัดดีอย่างคือ ข้าวของค่อนข้างถูก
@@dr.d9923 ตามสั่ง บางร้าน ยัง 35-40 น้ำแข็ง+น้ำปล่าว ฟรีอีก
จริงครับเงินเดือน 13,000 ผมเก็บแม่งเดิอนละ 6,000 แม่งงงชิบหายมีตังเหลือไปเที่ยวไปซื้อน้ำหอมขวดละ 3,000-4,000 ปีนึง 5-6 ขวดได้เฉยเลย
ก่อน โควิด19 ทำงานมาได้ 2-3 ปี คิดว่าจะสะดวกสบายขึ้น
คิดจะซื้อคอนโด เพราะรู้สึกว่าเช่าอยู่มันไม่โอเคเลย ไหนจะค่าเดินทางค่าใช้จ่ายสารพัด
ทำเรื่องทุกอย่างเรียบร้อย โควิด19 มา เลยยกเลิกไป
WFH กลับมาอยู่บ้าน ตจว. กลายเป็นว่าโคตรรู้สึกดีเลย
ไม่มีค่าเช่า ไม่ต้องเดินทางรถติดๆ(หรือคนเบียดแน่นๆ แย่งกันใช้บริการ) ไม่เป็นหนี้ก้อนโต อากาศดี มีเงินเก็บ
ให้เข้าออฟฟิศที่กทม. คงตอบว่าเข้าได้บ้างครั้งคราว ให้เข้าเต็มทุกวันคงไม่เอาอีกแล้ว
วันๆหมดไปกับการเดินทาง คนแย่งกันกินแย่งกันใช้ ค่าใช้จ่ายบลาๆๆ พอแล้ว
ปัญหาสำคัญที่สุดของ กทม คือการจารจร เพราะวันๆต้องเสียเวลากับการจารจรหลายชั่วโมงต่อวันโดยไม่จำเป็นครับ แต่ก็นั่นละ
แต่เอาจริงนะ ประเทศนี้ ผมยังไม่กล้ามีลูกอะ กับค่าแรงนี้ ผมก็ชนชั้นกลาง แต่ยังคิดว่ามันลำบากทุกระดับจริงๆ ลองไปดูพนักงานค่าจ้างรายวัน พนักงานบริการ ยิ่งลำบาก ส่วนภาษีนั้นจ่ายกันหมดละทุกอย่างที่ซื้อ แถมชนชั้นกลาง ลดหย่อนนั้นนี้ ถามจริงจ่ายกันเท่าไร (ผมก็ด้วยคนห นึ่งลดหย่อน ได้คินอีกต่างหาก 🤬)
สำหรับคน Gen X อย่างผม มีความคิดว่า ลำบากวันนี้ สบายวันหน้า เลยใช้ชีวิตแบบคิด ค่อนข้างเยอะ จะใช้อะไร ต้องคิดก่อนคุ้มค่าเปล่า และต้องเก็บไว้ก่อนเผื่อวันข้างหน้าก่อน เรื่องผ่อนบ้าน รถ คอม มือถือนี้ เอาความสำคัญก่อน และไม่ต้องซื้อบ่อย ซื้อทีนึ่งใช้กันไปยาวๆ เพราะภาระของคน Gen X ยังผม ยังคงต้องเลี้ยงดูพ่อแม่ อีกด้วย เลยไม่มีปัญญาไป ใช้ฟุ่มเฟื่อยมากนัก
เพราะส่วนใหญ่รัฐจะเน้นการดูแลและช่วยเหลือคนจน คนชนชั้นกลางก็เลยถูกมองข้าม ทั้งที่ก็ทำงานหนักและเสียภาษีเหมือนกัน แต่แค่มีงานทำมีเงินเดือน แต่มันไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตจริงๆ ต่อให้ประหยัดแค่ไหนก็ตาม ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ค่าเงิน หรือรายรับรายจ่าย มันอยู่ที่ระบบการจัดการของรัฐบาล ถ้ารัฐบาลดี ต่อให้อยู่ส่วนไหนของประเทศ คุณภาพชีวิตก็ดี ไม่จำเป็นต้องดิ้นรนกันเข้ามาทำงานในกรุงเทพอย่างเดียว ส่วนคนรวยก็ตามนั้นเลย ประเทศนี้มันเอื้อสำหรับพวกเค้าอยู่แล้ว
ตอนจบใหม่ๆ 20ปีมาแล้ว นั่งคำนวน ยังงัยก็ไม่มีเงินเก็บ หากยังอยู่กรุงเทพต่อไป โชคดีที่อินเตอร์เน็ตมันเร็วขึ้น เลยออกมาอยู่ต่างจังหวัด อยากกินอะไรปลูกเอง รายได้ลดลง แต่มีเงินเก็บ แถมเพื่อนที่เงินเดือนเป็นแสนในเมืองกรุง ยังโทรมาขอยืมเงิน ก็ตลกดี ช่วงโควิดนี่ชัดมากครับ ใดๆคือพึ่งตัวเองครับ ไม่เคยคิดจะให้เค้าช่วยเลย อยู่แบบทำรังแต่พอตัว ผลิตอาหาร น้ำและพลังงานในที่ดินของตัวเองได้ คือคิดว่ารัฐบาลไหนมา ผมก็เฉยๆนะ เพราะไม่ได้ไปพึ่งเค้ามาก
คนรวยควรหัดเริ่มสังเกตุคนระดับล่างดูมั่ง เจ้าของบริษัทที่เคยเห็นมาคือมองว่าตัวเองฉลาด ทำธุรกิจประสบความสำเร็จ แต่ในความเป็นจริง พนักงานทำให้คุณรวยขึ้นทุกวัน - "เรา" สร้างความสำเร็จไปด้วยกัน โลกเป็นของคนทุกคน และอำนาจเป็นแค่หน้าที่ของคุณ
เรา อายุ23 อยู่บ้านที่ชนบท มีธุรกิจเลี้ยงควาย
แต่คนในหมู่บ้านชอบนินทาเรา หาว่าเราไม่ไปทำงาน ในกรุงเทพ หาประสบการณ์ชีวิต เขาไม่เข้าใจเราเลย 😂ขอบคุณที่สร้างคอนเท้นท์นี้มานะคะ ให้รู้ถึงมุมมองอีกมุมหนึ่ง เราว่าชนบทบ้านเราดีกว่าเยอะ ถึงแม้จะห่างไกลความเจริญก็ตาม 🥺
แนวคิดของคนชนบท รุ่นเก่าค่ะ
ถามอยู่นั่น จบแล้วไม่ไปทำงานหรอ
ทั้งที่เราอยู่บ้านคือทำธุรกิจครอบครัว
มีชีวิตเรียบง่าย เลี้ยงแมว ทำกับข้าวให้พ่อแม่กิน และนั่นคือเราพอใจแล้วอ่ะ ไม่มีหนี้ ได้อยู่ดูแลพ่อแม่ เลี้ยงแมวเป็นโขยง นอนไปพร้อมกับแก๊งค์แมวที่พันแข้งพันขา ในขณะที่ลูกเต้าเค้าคือ เข้ากรุงเทพทำงาน มีลูก เอาลูกส่งกลับมาให้ปู่ย่าตายายเลี้ยงให้ เงินก็ส่งให้บ้าง ไม่ส่งให้บ้าง เพราะเค้าก็แมเนจเงินแทบไม่พอใช้ แต่บรรดาคุณลุงคุณป้าข้างบ้านเค้าก็ยังจะใส่ใจเราอยู่นั่นแหละ ทั้ง ๆ ที่ลูกเค้า หลานเค้าคือจะเอาตัวไม่รอดแล้วอ่ะ
คนต่างจังหวัดบางส่วนอาจจะเห็นภาพสวยหรูของกรุงเทพผ่าน หนังละครในทีวี เลยคิดแบบนั้น อย่าใส่ใจเลยค่ะ
เราเองก็คนต่างจังหวัดที่ต้องไปทำงานกทม. บอกเลยว่าอิจฉาคุณ เพราะแค่กลับบ้าน ก็ได้ทั้งอากาศดีๆ อาหารสะอาด สังคมไม่วุ่นวาย ได้อยู่ใกล้ครอบครัวทุกวัน อยู่กทม. เหมือนออกไปต่อสู้แย่งกินแย่งใช้กับคนอื่นทุกวัน สู้แบบไม่สิ้นสุดแถมไม่ได้อะไรตอบแทนกลับมาด้วย
ตั้งใจเรียนเป็นหมอ เป็นวิศวะ แต่แรกก็สบายไปแล้ว ตอนเด็กๆไม่เชื่อนะ ตอนนี้เห็นด้วย100%
ใช่คับ😢
หมอเอง แม้จะเงินเดือนสูง แต่เพราะเงินเดือนสูง เลยกู้ได้เยอะ หมอจำนวนมากน่าจะเกิน 10%เลยเป็นหนี้ก้อนโต เพื่อให้มีที่อยู่อาศัยดีๆ มีรถดีๆขับ มีอุปกรณ์เสริมดีๆต่างๆใช้ การกู้ก้อนโต อาจทำให้ เหลือรายรับไม่ 50% ของรายได้ที่ควรได้ เงินเดือนได้ไม่ถึง 90% ของรายได้จริง
ถ้าใน กทม และปริมณฑล เงินเดือน 15,000 อยู่ไม่ได้ครับ
ค่าห้องต่ำๆ 2,xxx ,ค่าเดินทาง,ค่าอาหาร และค่าครองชีพอื่นๆอีก เดือนชนเดือนเลย แทบไม่เหลือเก็บ แบบนี้กลับบ้านนอกดีกว่าครับ
กรุงเทพชีวิตดีๆที่ลงตัว(จริงหรือ) สู้ชีวิตแต่ชีวิตสู้กลับ เอาใจช่วยทุกคนที่ดิ้นรนในกรุงเทพค่ะ ❤
สู้ๆนะครับ โอกาสของคนเราไม่เท่ากัน .. คนที่ไม่ได้อยุ่ตรงจุดเดียวกับเขาก็อย่าไปว่าเขาเลย
ชอบคอนเทนต์นี้มากเลยครับ มาในช่วงเลือกตั้งพอดี จะได้ให้พรรคการเมืองได้ฉุดคิดถึงมุมมองคนชั้นกลาง ที่ทำงนหนักไม่มีเวลาหยุด หาเช้ากินค่ำเดือนชนเดือน ตื่นเช้าเดินทางรถติดขึ้นรถไฟราคาก็แพง เงินเดือนไม่พอใช้ก็หมุนเงินจะไม่ทัน และไม่รู้ว่าอนาคตการงานจะมั้นคงเช่นไร
ปล.อยากจะถามถึงคนตัดคลิปนี้ ใช้เพลงประกอบชวนนึกถึงลงไปเล่นเกมเกนชินอิมแพคเมืองสุเมรุสุดๆ
ชอบ Content แบบนี้ครับ เหมือนมีเพื่อนร่วมชะตากรรม อย่างน้อยไม่ใช่เราคนเดียวที่เจอปัญหา
ส่วนตัวลาออกจากงาน กทม มาอยู่ต่างจังหวัด เงินน้อยกว่า แต่แลกมากับเวลาทำสิ่งอื่นๆ ต่อได้ ความสบายใจ
หนีเมืองหลวงมาทำงานตจว.ได้2ปีแล้วครับ รู้สึกมีเวลาชีวิตได้ใช้ชีวิตมากขึ้นมีความสุขมากครับ และคงจะไม่กลับไปใช้ชีวิตเมืองหลวงอีกแล้ว
ทำงานเงินเดือนเกือบสองหมื่น หลายคนบอกเยอะแล้ว อยู่สบายแล้ว
คำว่าสบายแต่ละคนไม่เท่ากัน ภาระแต่ละคนไม่เท่ากัน เงินเดือนเท่านี้รายจ่ายแน่นอนเกินครึ่ง มีรถมอไซค์ขี่ไปทำงานก็ช่วงเบาเวลาเบาค่ารถไปได้เยอะ แต่ค่าน้ำมันก็ขึ้นทุกวัน การจะต้องมาคำนวนค่าเติมน้ำมันทุกเดือนมันตีราคาแน่นอนไม่ได้ และค่ากินก็ขึ้นเรื่อยๆ อยากกินที่อยากก็ไม่ได้ อยากเที่ยวที่อยากก็ไม่ได้ ต้องเก็บไว้กินรายวันให้รอดไปวันๆ ค่าไฟก็ขึ้นและขึ้นแบบเราไม่รู้ด้วยว่าจะขึ้นเท่าไหร่จนบิลมันมาถึง เซ็ง
กราฟฟิก แมร่งเรื่องจริง ต้องทำเป็นแทบทุกอย่าง(สำหรับคนสกิลไม่ได้หวือหวานะ) ถึงจะเพิ่มโอกาสได้งานเยอะขึ้น
...ทุกวันนี้เดือนชนเดือน มีตังผ่อนคอม มือถือ มอไซสักคันก็หรูแล้ว
ชอบเสียงดนตรีนะ บิวอารมณ์ได้ดี ไม่หม่นหมองไป และ สดใสในเวลาเดียวกัน
ชอบค่ะ คลิปปนี้ โดนใจ ❤😂🎉
ดีมากเลยครับ นี่แหละสิ่งที่จับต้องได้ ที่ประชาชนทุกวันนี้ต้องการ ไม่ใช่เอาแต่รักชาติ ทดแทนแผ่นดินอะไรนั่น ไร้สาระมากๆ
ต้องกระจายความเจริญครับ ไม่ใช่กระจุกแค่ในเมือง ต้องเพิ่มงานในต่างจังหวัดให้ดี และมากขึ้น
ตกร้ายคืออยู่เมืองฟ้าก็ได้อยู่บนฟ้าจริง ครันพนักงานธรรมดาจะซื้อที่ปลูกบ้านแบบ ตจว. เป็นไปไม่ได้เลยในเมืองใหญ่ 😢
เมื่อปี 52 ตอนนั้นเข้าทำงานกรุงเทพ เงินเดือนเริ่ม 14000-15000 ไม่มีภาระผ่อนอะไร แทบแย่ครับเดือนชนเดือนขนาด ก๋วยเตี๋ยว 30 ข้าวราดแกง 30 ค่าที่พัก 4000 แต่พอมาอยู่ทำงานบนดอยแค่ 10000 เดียว มีเงินเก็บสามารถดาวน์รถได้ 150000 ภายใน 2-3 ปี แต่ตอนนี้ของแพงขึ้นแบบก้าวกระโดด สงสารคนในกรุงเหมือนกัน เคยผ่านจุดนั้นมา แต่ตอนนี้กลับมาทำอะไรที่บ้านเกิดแล้ว ถึงได้ไม่มากแต่ก็ไม่ได้จ่ายอะไรมาก ค่าแรงจะถูกจะแพง แต่ต้องกลับมามองตนเองว่า เหลือเท่าไรดีกว่าครับ
กลับมาดูคลิปนี้ แล้วมองสภาพรัฐ สิ่งที่ฝันมันก็คือสิ่งที่ฝันต่อไป... ประเทศกำลังพัฒนา.
“ ผมมองว่า เพราะผู้มีอำนาจ เอื้อประโยชน์ธุรกิจเฉพาะกลุ่มตัวเอง หากกระจายให้ประโยชน์ตกถึงผลประโยชน์ในธุรกิจทุกแขนงอย่างดีและตรงไปตรงมา อัตราการมีรายได้ก็่น่าจะมากขึ้น และ ผลก็จะตกถึงคนที่ทำงาน “
“ แต่ปัจจุบันประโยชน์ตรงนี้มันตกแก่คนแค่กลุ่มเดียว “
ผมเคยทำงานกลางคืนมาครับ เข้างาน 2 ทุ่ม เลิก 6 โมงเช้า ทำงาน 6 วัน หยุด 2 วัน กว่าจะได้หยุดตรงเสาร์-อาทิตย์ ต้องรอวนประมาณ 3 สัปดาห์ ไม่มีวันหยุดนักขัตฤกษ์ ดีอย่างเดียวคือไม่ค่อยได้ใช้เงิน แต่พอคิดจะสร้างครอบครัวผมเลยลาออก อยากมีเวลาแบบคนปกติ ฝันว่าสักวันกฏหมายแรงงานบ้านเราจะแข็งแรงปกป้องชนชั้นแรงงานได้ 😢
พี่ลูกปัดพูดแทนใจผมหมดเลยอ่ะ พูดถูกและจริงทุกคำพูดที่กล่าวมา
จบราชภัฏก็ยังดีกว่าคนไม่ได้เรียนหนังสือนะ
คนไม่ได้เรียนหนังสือหลายๆคนที่อยู่รายการอายุน้อยร้อยล้านประสบความสำเร็จกว่าคนเรียนเก่งจบม.มีชื่อเสียงก็มีมาก อย่าไปซีเรียส มันขึ้นอยู่กับแต่ละคนค่ะ ถ้าเราเก่งจริง เขาก็ยอมรับเราค่ะ สู้ๆ
ฝากถึงใครก็ตามที่มีอำนาจแวะมาเห็นข้อความนี้ อยากเสนอว่า
1.ช่วยแก้กฎหมายแรงงานหน่อย อย่างน้อย ให้ทำงาน 40ชม/สัปดาห์ มีวันหยุดต่อสัปดาห์อย่างน้อย 2 วันแบบติดกัน ให้คนยังคงความเป็นคนอยู่ ใ้มีเวลาได้ใช้ชีวิตไปทำอย่างอื่นบ้าง
2.ไม่ต้องขึ้นค่าแรง แต่ให้หาวิธีปรับลดค่าครองชีพเอา เพราะหลายคนต่างรู้ดี หากขึ้นค่าแรง ค่าครองชีพมักจะขึ้นต่อไปด้วยเสมอ
ฝากเสียงเล็กๆด้วยครับ
ลดทุนผูกขาด รับรองดีขึ้นแน่นอนคับ
คอนเทนท์แบบนี้ล่ะครับที่ผู้มีอำนาจจะเข้ามาดูน้อยที่สุด 😅 เค้าได้เป็นแล้วนี่ ทำไมต้องสนใจเราอีก
ใช้สินค้าเงินผ่อนแล้วบอกตัวเองเงินเดือนชน้ดือน แปลว่าตัวเองไม่มีวินัยทางการเงิน อย่าเอาแต่โทษคนอื่นเด้อ มองวินัยทางการเงินของตัวเองด้วย
คอนเท้นนี้เดี๋ยวเพจอวยรัฐบาลเขาจะร้อนตัวอีกนะครับ
"คนรวยจากออนไลน์เยอะแยะ คุณทำกันไม่ได้เอง"
เพราะโครงสร้างพื้นฐานในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพ มันแย่มากแบบขั้นสุด ที่รถติดเพราะคนไม่ไหวจะเดินทางในเมืองใหญ่เลยใช้รถตัวเองดีกว่า แล้วถนนก็เลยไม่พอต่อการจราจร เดินทางด้วยรถไฟฟ้าก็รู้ๆกันอยู่แพงฉิบ😂 แถมสถานีไม่ได้เข้าถึงแหล่งชุมชนจริงๆ ต้องต่อหลายต่อ คิดดูว่าคนกินค่าแรงขั้นต่ำจะเอาที่ไหนมาจ่าย พอจะหันไปหารถเมล์ก็ไปติดกันบนถนนนั่นแหละ แถมรถเมล์ก็คุณภาพแย่และเส้นทางก็ไม่ครอบคลุมกี่ต่อถึงจะถึงบ้าน ครั้นจะหนีออกจากเมืองใหญ่ไปทำงานที่จังหวัดอื่น ก็ไม่ได้อีกเพราะความเจริญมันกระจุกตัวแค่บางที่ เอาจริงโอกาสของคนไทยเนี่ย มันโตและหางานที่ได้เงินเดือนดีๆเนี่ย มีแค่ไม่กี่จังหวัดที่เป็นเมืองใหญ่ โอกาสช่างน้อยนิดจริงๆนะ 😂
ผมอยากให้นักการเมืองทุกคนดูคลิปและเเก้ไขปัญหาให้กับเเรงงานทั้งในเมืองเเละชานเมือง เหมือนคุณภาพชีวิตตอนนี้ถดถอยมากๆ
6 ปีก่อน เคยอยู่ในจุดนี้เลย ไอ้ป้ายกรุงเทพ..ชีวิตดี ๆ ที่ลงตัว ป้ายนี้ ผมเคยได้อ่านทุกวัน ชีวิตดีๆ ลงตัวสำหรับมิงคนเดียวน่ะสิ
บ้านชานเมือง ทำงานกลางเมืองแยกปทุมวัน จันทร์-ศุกร์ ฝ่ารถติด มันจำเป็นต้องขึ้นทางด่วน แต่บนทางด่วนก็เหมือนจ่ายเงินให้ไปติดกันข้างบน นรกบนดิน ซ้อมตกนรกทุกวัน แต่งานที่ทำก็มั่นคง มีสวัสดิการที่ดีมาก เงินก็ค่อนข้างดี แต่เสียตรงที่สำนักงานมีเฉพาะในกรุงเทพเท่านั้น ขอย้ายไปสาขาในชานเมือง กทม. ที่ใกล้บ้าน ก็ยากมาก สำหรับตำแหน่งเราทำนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย ต้องทำอยู่กลางเมืองนี้เท่านั้นไปจนเกษียน
เป็นเมืองแห่งการดิ้นรนสำหรับชนชั้นกลางจริง ๆ แต่ตอนนี้หลุดพ้นละ พยายามออกจาก comfort zone หาสมัครงานใหม่ ลาออกมาเริ่มต้นใหม่ หนีออกมาทำงานชานเมืองแทน โชคดีได้งานดีกว่าเดิม สวัสดิการดีกว่าเดิม มั่นคงมากกว่าเดิม ไม่ต้องเจอรถติด แถมมีโอกาสขอย้ายไปทำงานต่างจังหวัดได้ เพราะเป็นตำแหน่งหลัก ที่ย้ายสลับสับเปลี่ยนกันตลอด มีสำนักงานกระจายเกือบ 50 จังหวัดทั่วประเทศ แถมเบิกค่าเช่าบ้านได้อีก
คนจนเมืองด้วยปัจจัยที่ต่างกันไป แต่ถ้าคนทำงานก็ไม่พ้นกับดักมนุษย์เงินเดือน หมดไปเท่าไหรกับคำว่าของมันต้องมี ชีวิตนี้เลยขอไม่ทำบัตรเครดิตเลยกิเลศผมเยอะ 😂
คนรุ่นใหม่หลายคนประสบความสำเร็จ แต่มีบางคนที่ล้มเหลวแบบนี้
ชนชั้นกลางน่าสงสารสุด เสียภาษีเต็มที่ แต่เป็นกลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์จากนโยบายรัฐน้อยที่สุด
ต้นทุนชีวิตในเมืองสูงมากจริงๆครับ ทั้งเงิน ทั้งเวลา แทบไม่เหลือให้ครอบครัวเลย
เคยไปฝึกงาน คนที่ ทำงานกรุงเทพได้คือ แกร่งมาก แบบโคตรแข็งแกร่ง
ก็ว่ากันไปครับ ส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยเกือบหมดแหละ แต่ชนชั้นทำงานเองก็ต้องรู้จักประหยัดและช่วยตัวเองด้วย ดูกำลังตนเอง ลดกิเลสความอยากลงบ้าง เราจะเห็นค่านิยมบางอย่างจากคนชนชั้นนี้ทำนองว่า "เงินซื้อความสุขได้ ถ้ามันมากพอ , แพงไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้" "กินหรูอยู่แพง ก็เงินฉันๆมีปัญญาจ่าย " "แต่งงานแล้วชีวิตต้องดีขึ้น" หรือ "ลูกฉันต้องได้สิ่งที่ดีที่สุด (ต้องไม่ลำบากเหมือนฉันในอดีต)" มันสะท้อนทัศนคติว่าหน้าตา ชื่อเสียงฐานะทางสังคม(เงิน)เป็นค่านิยมหลักของสังคมสมัยใหม่ไปแล้ว ซึ่งทั้งหมดเพื่อสนองกิเลสและอัตตาของตัวเองทั้งนั้น ให้ไม่อยากรู้สึกว่าด้อยกว่าใครในสังคม ถึงจะต้องกู้หนี้ยืมสินมา หรือจ่ายผ่อนดอกเบี้ยโหดๆเกินกำลังหรือแม้แต่ฉ้อโกงคนอื่นก็ยอม...
ผมว่าคุณนั่นเเหละที่ตรรกะประหลาด คุณมองมุมเเคบเเละตื้นมากกกกกก เป็นมุมมองเเบบหลุดจากละครหลังข่าวมาอะ เลยคิดว่านี่ดูคลิปบ้างไหมก่อนมาเม้น จะบอกว่าไอ้ที่คุณบอกมาทั้งหมดอะโคตรมายาคติในหัวคุณเลย เเละมีคนไม่กี่เปอร์เซ็นด้วยที่จะเป็นมายาคติเเบบนั้น เพราะคนเราไม่ได้โง่ครับ ไม่งั้นเขาไม่มีปัญญาเรียนจบเเล้วมาสมัครงานทำถูกไหม ทุกคนที่ทำงานล้วนมีมันสมองที่จะพินิจพิจารณาว่าอะไรควรไม่ควร ถึงจะไม่ใช่ทุกคนเเต่ก็ส่วนใหญ่เลย เขารู้กิเลสของตนเองดีว่าควรทำอะไร อันไหนควรซื้อ อันไหนไม่ควร หรืออันไหนควรเก็บอันไหนควรจ่าย อย่าเอาตรรกะของตนเองไปลงว่าคนหมู่มากต้องเป็นเเบบนั้น เพราะทุกคนก็ล้วนสู้ชีวิตในฉบับของตนเอง
เเละอีกอย่างเลิกความคิดที่ว่าคนประเภทนี้ อยากได้หน้า รักสบาย ต้องการคุณภาพชีวิตที่ดีในเชิงเเซะได้เเล้วนะ เพราะว่า….. เรียนจบเเทบตาย มาทำงานก็หนักอีก ทุกคนมันก็ต้องล้วนเเล้วเเต่ต้องการชีวิตที่ดีกันทั้งนั้นครับ เเละควรได้รับด้วย ไม่งั้นจะเรียบสูงๆ ทำงานหนักๆ หาเงินทำพระเเสงทำซากอะไรอะ ถ้าคุณภาพชีวิตตนเองก็เท่าเดิม หรือต่ำเตี้ย เรี่ยดินเหมือนเดิม ตรรกะประหลาดมากบอกตรง ตรรกะละครหลังข่าวอะ😂
เข้าใจเลยครับ สังคมเมืองเองก็ไม่ต่างกับสังคมบ้านนอกเลยครับ
เป็นพลเมืองชั้น2ชั้น3 ในต่างประเทศ รายได้ยังดีกว่าเยอะ
ยกตัวอย่าง Iphone ที่เราเห็นว่ามันแพงแสนแพงบางคนต้องผ่อน มันเป็นเพราะเราโดนกดเงินเดือนจนคิดว่าแพงจริงๆค่ะ จนเราคิดว่าคงไม่มีสิทธิ์ได้ซื้อ ซึ่งความจริงแล้วอาชีพอะไรก็ควรจะซื้อของที่จำเป็นต่อชีวิตได้ ไม่ว่าจะที่อยู่อาศัย หรือโทรศัพท์ มันคือแบรนๆนึง ที่ต่างประเทศไม่ว่าแม่บ้านหรือใครๆ ทำงาน2 อาทิตก็ซื้อได้แล้วค่ะ นี่แหละที่เรียกว่าคุณภาพชีวิต
งั้นคนรวยก็โดนกดทับซิครับ เขาฝันว่าจะซื้อรถซื้อแพงๆโรงงานใหญ่ๆเพราะก็จำเป็นต่อชีวิตเขาและธุรกิจเขา แล้วถ้าเขามาบอกว่าเขาซื้อไม่ได้ก็คุณภาพชีวิตไม่ดีซิครับ
แล้วแบบนี้อะไรที่จะกำหนดคุณภาพชีวิตที่ดีละครับ เพราะแต่ละคนก็อ้างว่าซิ่งที่ซื้อจำเป็นทุกอย่าง
เห็นด้วยทั้งหมดครับ ยกเว้นที่เอาลูกมาอ้าง เพราะที่จริงก่อนจะมีลูกควรจะคิดเยอะๆ ก่อน
ถ้าได้ผู้แทนที่ถูกใจเมื่อไหร่ กินข้าวคลุกน้ำปลาก็อร่อย ก็เหมือนกับคนกรุงเทพตอนนี้ที่ได้ชัชชาติเป็นผู้ว่า น้ำท่วมคอหอยอยู่แล้วยังบอกว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ แค่จะสื่อว่าคุณพัฒนาคุณภาพชีวิตได้ทุกเมื่อไม่ต้องรออะไรทั้งน้น
คนระดับกลาง ยังอยู่ไม่ได้ แล้วจะกระจายรายได้สู่คนระดับล่างได้ยังไง
ประชาชนแค่ต้องการทำงานหาเลี้ยงชีพให้ชีวิตปกติ มีกินมีใช้ แค่เท่านั้นก็ดีแล้ว
คลิปนี้ทำให้รู้เลย หลายคนชีวิตเหมือนเรา เดือนชนเดือน😢
เอาจริงก็อยากทำงาน5วันต่อสัปดาห์ ด้วยที่ทำงานต่างจังหวัด ทุกวันนี้เหมือนใช้ชีวิตวนลูบ งานก็ชอบอยู่หรอกแต่ละวันมีอยู่แค่นี้เองหรอ
เรานั่ง mrt ไปทำงานตอนเช้าทุกวันจาก mrt 1-14 ไม่เคยเปลี่ยนสาย ยังทึ่งว่าคนที่เปลี่ยนสายรถไฟขึ้นลงไปมาทุกวันทำได้ไง มันเหนื่อยมากเห็นแต่ละคนดูสุขภาพไม่ค่อยดี ดูเร่งรีบ สงสัยเงินเดือนเป็นแสนบาท ถึงได้สู้กันขนาดนี้ 😅
คนชั้นกลางคือน่าเห็นใจตรงจ่ายภาษีเงินได้ ในขณะที่คนจน หรือพ่อค้าแม่ค้าเลี่ยงได้ แต่เอาจริงเงินเดือนสองหมื่นหักค่าใช้จ่ายลดหย่อนนู้นนี่ แทบไม่ต้องเสียภาษีเลย ดังนั้นสมควรควรขึ้นVatได่้แล้ว จะได้เท่าเทียม ใครร่ำรวยใช้จ่ายมากเสีย Vatมาก ใครจนใช้จ่ายน้อยเสียVatน้อย
นิดนึงตรงที่คนในวีดีโอ คุณก็รู้เงื่อนไขของประเทศนี้ว่ามันยากที่จะใช้ชีวิตเดือนต่อเดือน แต่คุณยังคิดมีลูกอีก กลัวเหลือเกินว่าจะมองลูกเป็นภาระ และในอนาคตลูกก็อาจจะมองว่าคุณคือภาระเขาเช่นกัน ส่วนพ่อแม่ที่ดี เขาจะไม่รบกวนค่าใช้จ่ายลูกตัวเองนะ เขาวางแผนหารายได้ให้ตัวเองมั่นคงก่อนมีลูก สมควรแก้ที่ต้นตอหยุดวงจรอุบาทว์โดยการสร้างรากฐานตัวเองให้มั่นคงก่อน แล้วค่อยมีลูก ค่อยช่วยคนอื่นได้ ไม่งั้นก็เตี้ยอุ้มค่อมไปอย่างนี้ รัฐอาจจะช่วยได้ส่วนนึง แต่หน้าที่หลักคือปัจเจกที่ต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเอง100% ถ้าที่นี่ไม่ดีก็ย้าย สร้างเนื้อสร้างตัวจนตัวเองรู้สึกว่ามีลูกไม่ใช่ภาระ แล้วค่อยมี ค่อยช่วยพ่อแม่
ตั้งใจทำงานให้ดีรายได้ดี เงยหน้ามาอีกทีแก่แล้ว แล้วก็โดนลุงแก่ๆบ่นเรื่องไม่ยอมมีลูก สมัยเขามีลูกตอน 20ต้นๆยังได้ เด็กสมัยนี้ไม่ได้เรื่อง
ลุงแก่ๆคนนั้นไม่ได้มาช่วยเลี้ยงลูกนะ ถ้าลุงคนนั้นมาช่วยเราสิ เราถึงฟังเขา 555 ไม่ต้องไปฟังลุงแก่ๆหรอกบริบทสังคมสมัยนู้นกับสมัยนี้ไม่เหมือนกัน การหยุดวงจรเตี้ยอุ้มค่อม หยุดได้ที่ตัวเราเอง
สหภาพเเรงงานเราโดนซื้อไว้หมดละ ประธานตำเเหน่งนี้รัฐดูเเลอย่างดี คงไม่ช่วยเราปรับค่าเเรงให้มันบาล้านกับค่าครองชีพ จะรวมตัวกันหยุดงานก็ไม่ค่อยจะมีคนมากัน ส่วนใหญ่ต้องรอให้เดือดร้อนกันถ้วนหน้าก่อนถึงค่อยจะออกมา เเสดงความคิดออกมาต่อต้านกับการที่เอกชนเอาเปรียบ รัฐก็ไม่ได้ซัพพอตประชาชนเล๊ย
จริงๆปัญหาทำงานเยอะเกิน เพื่อหารายได้มากขึ้น ถ้าเราไม่เทียบกับ ปท ฝรั่ง ทางเอเชียก็แบบนี้ส่วนมากนะครับ ผมอยู่มาหลายประเทศบอกเลยว่า แทบไม่ต่าง ทำงาน 7 โมงเช้าถึง 5 ทุ่ม ทำงาน 6 วันครึ่ง แทบไม่ต้องใช้ชีวิต ไม่งั้นไม่พอรายจ่าย
แต่สิ่งที่ไทยต่างกับเมืองนอกคือไทยมักซื้อกิน ทำเองแพงกว่า - ตปท ทำเอง ประหยัดกว่า
ไทยพักเบรคไปซื้อกาแฟ - ตปท ชงเอง แบบผง หรือไม่มีพักเลย
ไทยรถติด เสียเวลาชีวิต - ตปท รถไม่ติด อันนี้ข้อดี
ไทยค่ารถออกเอง - ตปท บางประเทศ บริษัทออกค่ารถให้
ภาษีถ้ามองว่าทุกคนจ่าย จริงๆแล้วคนไทยจ่ายใน % น้อยมากนะครับ หลายๆปท เค้าจ่าย 30%-50% ของเงินเดือนเลยทีเดียว เค้าถึงมีสวัสดิการเยอะ(ก็ไม่เสมอไปนะ อะไรละที่ได้สวัสดิการ ต้องมองอีกเยอะเลย เช่นค่าพยาบาล มีประกันใช่ แต่หักจากเงินเดือนเรานี้ละ แล้วตอนเข้ารพ ต้องจ่ายเองอีก 30% ใครบอกว่าฟรีมันไม่จริงทุก ปท เจริญแล้วนะ ฟรีแค่บางประเทศ) แต่รัฐไม่ได้มาจ่ายค่ารถให้นะครับ บริษัทคนออก
ค่าเรียน ฝรั่งหลายปท เรียนฟรี(เค้าหักภาษีคุณไปแล้วไงทุกเดือนแพงๆ)
ญี่ปุ่น(ฟรีเฉพาะต่างจังหวัด)
ผมมาให้มุมมองอีกมุมครับ อย่าโทษแต่รัฐ ไม่ว่าจะรัฐไหนก็เหมือนกัน ลองย้อนดูเกิดจากอะไร แต่เรื่องค่าครองชีพไทยสูง และเจริญแต่กทม อันนี้เห็นด้วย ทำให้ปัญหาเยอะมาก ถ้าเจริญกระจาย รถติดก็น้อยลง
การมีรถคนไทยมันง่ายเกินไป ทำใบขับขี่ง่าย ภาษีต่อปีแสนถูก
5:06 ใช่เลยยยยยย
บางทีต้นต่อปัญหา มันอาจจะมาจากเรื่องการกระจายความเจริญก็ได้นะ เมืองหลวงขยายตัวขึ้นทุกวัน แออัดขึ้นทุกวัน การแข่งขันก็สูงตาม พอคนเยอะ การแข่งขันสูง มาตราฐานคุณภาพของคนก็สูงขึ้นตาม ทำให้คนในตลาดแรงงาน ในเมืองหลวงจะต้องพยายามมากขึ้นไปเรื่อยๆ เหนื่อยมากขึ้นไปเรื่อยๆ ถ้าความเจริญยังกระจุกอยู่ที่เดียวแบบนี้ แก้อย่างอื่นให้ตาย ปัญหาก็ไม่จบ
อยู่บนถนนนานจนไม่อยากไปไหน ก็ส่งผลต่อเศรษฐกิจเหมือนกันนะ
กรรมกร ห้องแอร์ พอเรียนจบเจอความจริงเศร้านานกว่าจะรับได้
ชอบครับชอบ
เอาจริงๆรอบนี้ก็มีหลายพพรรคนะ แต่พูดกันตรงๆ ก็วนอยู่กับลุงตู่ที่ใครไม่รู้เลือกมา
นี่คือความจริง การสร้างตัวมันลำบากมากๆ ในยุคนี้
ยิ่งคนไม่ได้อยู่บ้าน แล้วไปเป็นพนักงานบริษัท ในชีวิตเราคือ หาเงินจ่ายค่าห้อง ไหนจะค่ากิน ซื้อของเล็กน้อย
ผมเชื่อว่าคนไทยฉลาดเเละเก่ง ที่จะเห็นอะไรใหม่ๆเปลี่ยนเเปลงไปด้วยกันครับ
เราเป็นคนนึงที่ตอนนี้อายุแค่25 ดูแลแค่ตัวเอง ไม่มีภาระ ไม่มีหนี้สินอะไรเลย เรายังจะไม่รอดในแต่ละเดือน รู้สึกเหนื่อยในการใช้ชีวิตมาก
ถึงขนาดสึมเศร้ากันเลยทีเดียว พอตอนเด้กวาดไว้เยอะโตมาใช้จริงยากสุดๆ
ผมเคยทำงานบริษัท outsource แห่งหนึ่งเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เขาส่งผมไปทำงานในเมือง แถวสีลม ผมพักอยู่แถวประเวศ ต้องฝ่ารถติดทุกวัน จ-ศ นั่งรถ 2-3 ต่อ กว่าจะถึงที่ทำงาน บอกตรงๆ ถ้าบริหารค่าใช้จ่ายไม่ดี เงินเดือนที่ได้มาอาจติดลบได้ ผมทำอยู่ 6 เดือน เลยลาออกจากต้นสังกัด แล้วมารับ job อิสระ รู้สึกมีความสุขกว่าตอนทำงานประจำ ฝ่ารถติด ชีวิตช่วง 3 ปีที่ผ่านมานั้นมันเป็นบทเรียนทำให้ผมแก้ไขข้อผิดพลาดในการใช้เงิน เพราะตอนนั้นผมไม่วางแผนทางการเงิน เพราะใช้เงินโดยไม่คิด ซื้อสิ่งของฟุ่มเฟือย จ่ายเงินไปกับสิ่งล่อตาล่อใจ ตอนหลังทำงานอิสระเลยแบ่งส่วนใช้และเก็บออม ชีวิตเลย ok ขึ้นกว่าเมื่อก่อน
เราก็เป็นชนชั้นทำงาน
แต่เราไม่ได้มีชีวิตธรรมดาที่วุ่นวายแบบ
ใช้จ่ายไปกับ ค่ากาแฟ
ค่าดื่ม ค่าเดินทาง ค่ากินของในห้าง ค่าเที่ยว แบบคนทั่วไปในคลิปนี้
เพราะเลือกทำงาน แล้วใช้สวัสดิการหอพัก เดินทางด้วยการเดินเท้าไปทำงาน
ใช้จ่ายปกติกับค่าอาหาร
ที่ไม่ดื่มกาแฟ ไม่ออกไปไหนบ่อย อยู่ห้องอ่านหนังสือ ดูซีรีย์ในมือถือวนไป ใช้ชีวิตสันโดษ ไม่ยุ่งกับใครไม่วุ่นวาย ไม่เรียกร้อง ไม่ร้องขอ ทำตัวเองให้ประหยัดลดตรงนู้น งดตรงนี้ ค่าอะไรที่ไม่ควรจ่ายก็งด ลดอยากได้นั่นนี้เพิ่ม แต่ชีวิตก็จะไม่มีสีสัน
แต่ก็แลกมากับ
อย่างน้อยก็ไม่ต้องเดือนชนเดือน
ทำงานเลี้ยงปรสิต
รบ. ก็เป็น time machine ย้อนเวลาให้ปรสิตกินต่อยาวๆ วนลูปอีกที
การแข่งขันมันเป็นเรื่องปกตินะครับ และการแข่งขันนี่แหละที่ดึงด้านดีของเราออกมา ถ้าจะให้รัฐเข้าไปแทรกแทรงตลาด มันยิ่งขัดกับหลักทุนนิยมครับ เห็นได้ในญี่ปุ่นหรือฝรั่งเศสที่ระบบบำนาญมีปัญหา หลายประเทศขยายเวลาเกษียณเพราะเริ่มขาดทุนเช่น ในเยอรมัน ลองคิดง่ายๆ คุณอยากเอาเงินฝากไว้ให้รัฐจ่ายบำนาญให้คุณ หรืออยากเอาไปซื้อประกันสะสมทรัพย์หรือประกันสุขภาพเอง
เห็นด้วยครับ
เพราะเราต่างก็ไม่เคยใช้สมองศักยภาพ เราถูกฝึกให้เชื่องตั้งแต่ใน ร.ร. จนเรียนจบ ทำงานก็ใช้รูปแบบเดิม แข่งขันเพื่อตำแหน่ง เงินเดือนค่าคอมที่มากขึ้น แล้วสุดท้ายเราก็รู้สึกตัวว่าไม่แฟร์ เพราะอะไรรู้ไหม เพราะเรามั่วแต่ก้มหน้ารับใช้นายทุนไง กลัวเป็นคนไม่เอาไหน กลัวไม่มีรถยนต์คันโก้เพื่อเป็นสถานะบอกถึงความก้าวหน้า คุณนั่นละเลือกทางชีวิตที่มันส้นตีน เเล้วก็มาบ่นว่าทำไมไม่มีกน่วยงานบ้าบออะไรมาช่วยชีวิตฉันให้ดีขึ้น ในเมื่อคุณยินยอมกับระบบส้นตีน ก็ยอมรับกับเรื่องส้นตีนที่เจอเถอะนะ
เศร้าชิบหาย สังคมประเทศเรา
ชอบเสียงเพลงประกอบกลับเนื้อหาในคลิป มีความกัดจิกสุดๆ😂
ชีวิตที่น่าเศร้าของคนในเมือง ทำงานไปจนกว่าจะสบาย หรือ ทำงานไปจนกว่าจะตาย ชีวิตแม่งมีแค่นั้นเองเหรอ โคตรเศร้า
น้องผมสั้น น่ารักจัง❤❤❤
ไม่ใช่แค่ในกรุงเทพฯในต่างหวัดก็ไมาต่างกัน เราทำงาน3งาน งานประจำ+ขับรถส่งอาหาร+ขายของออนไลน์ รู้สึกว่ารายได้ไม่พอกับรายจ่าย เหลือเงินแค่1ใน5
เน้นวัตถุนิยม มันก็เหนื่อยสิครับ รองไม่เน้นวัตถุนิยมมันเจะหนื่อยน้อยลงครับ แต่ยังทนอยู่มันก็แปลกครับ นะครับ
ร้องไห้
การเมืองมันเป็นเครื่องสะท้อนคนในสังคมนั้นๆ คนในประเทศเป็นอย่างไร การเมืองก็ เป็นอย่างนั้น
ภ้าคนในประเทศ มักง่าย ไม่เคารพกฎหมาย นึกจะทำอะไรก้อทำไม่สนใจกฎหมาย การเมืองมันก้อเป็นแบบคนในประเทศนั้น
เห็นแต่คนไทยโทษนักการเมืองบ้าง โทษคนชั้นในบ้าง แต่ไม่เห็นโทษตัวเองกันเลย ทั้งที่ตั้งแต่ออกจากบ้านเห็นคนทำ ผิดกฎหมาย มักง่าย เป็นเรื่องปรกติ เช่นนี้แล้วเราก้อได้การเมืองแบบ มักง่าย ชอบทำผิดกฎหมายอย่างที่เราเป็น
ชีวิตผมเลยแบบนี้
คนเบบี้บูมเมอร์โชคดีมากที่คนกลุ่มนี้รีไทร์ในยุคนี้พอดี
ยุคนี้บริษัทเรียกร้องทักษะเยอะมาก
ใช่เลย
ผมหนีจากมนุษย์เงินเดือนมาทำเกษตร+ขายของ
สรุปหนักกว่าเดิม เกษตรก็ต้องลงทุนเยอะมาก แถม ตจว.ขายของเงียบมาก ชาวบ้านไม่ค่อยมีเงิน เค้าต้องประหยัดกว่าคนกรุงเทพไปอีก
ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป สภาจะต้องถูกถล่มแน่ๆ
ตรงใจมาก ทำงานแทบตายไม่มีเงินเก็บสักบาท แค่ใช้ชีวิตให้พ้นเดือนก็ยากแล้ว
55555 ทำตัวเองรึเปล่า 5555
@@pitchy3094 คนเราต้นทุนชีวิตไม่เท่ากันค่ะ
รักประเทศไทย ประเทศนี้ยังมีโอกาสอีกเยอะมาก ๆ ถ้าเรามองอีกมุมให้เป็น
ถ้าคุณคิดว่าไป ตปท. สบายใจกว่า เชิญครับแล้วคุณจะรู้.... ผมผ่านมาแล้ว
ส่วนเรื่อง รัฐบาล ตั้งแต่เกิด ผมยังไม่เคยเหน รบ. ไหนที่คนบอกว่าดี 100% สัก รบ. เดียว
สู้ ๆ คับ
มันก็เรื่องจริงอะครับ ถ้าระบบขนส่งมันดีมันทั่วถึงหลายๆอย่างมันก็ดีขึ้นอะ
ลดค่าครองชีพ ค่าน้ำมัน ค่าแก๊ส ค่าไฟ ขอข้าวจานละ 25 พิเศษ 30 เงินเดือน15,000-20,000 ยังไงก็รอด ต่อคนนะครับ