ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
สำหรับมือใหม่ที่ฟังแล้วยังสงสัย หรือไม่เข้าใจวิธีการและหลักการในการฝึกฝนเจริญสติ ขอแนะนำให้ดูคลิปใน [ส่วนที่ 1]th-cam.com/play/PL85WQjF_Yosp_X82mqKLaEx2g-cIyvh5f.htmlจะรวบรวมประเด็นที่ผู้ฝึกฝนควรรู้ โดยไล่ดูตามลำดับที่จัดเรียงไว้ ก็น่าจะช่วยลำดับความเข้าใจให้ได้มากขึ้นหลวงพ่อเทียนใช้คำว่า "เห็นความคิด หรือ ดูความคิด" ไม่ได้หมายถึง ให้เราเอาจิตใจไปเฝ้าจ้องว่า เมื่อไหร่จะเกิดความคิด เมื่อไหร่ใจจะเผลอคิด-เผลอไปในอารมณ์ต่างๆ หรือ เมื่อเผลอคิดไปแล้ว ก็ไปตามดูความคิด ว่ามันคิดอะไร ไปหาสาเหตุไปหานิยาม ไปหาทางแก้ หรือเผลอใจไปปรุงแต่งเป็นความรู้สึก-อารมณ์ต่างๆ เช่น ไปหงุดหงิด ไปยินดี-ยินร้ายกับมันฯลฯ ...ไม่ใช่แบบนั้น!!!แต่หลวงพ่อเทียนต้องการสื่อความหมายถึง "การเห็นความคิด หรือดูความคิด" โดยไม่หลงเข้าไปในความคิด ไม่หลงไปตามความคิดหรืออารมณ์ ไม่ไปปรุงแต่งต่อเติม ฯลฯเปรียบเหมือนเราเป็นคนดูมัน-เห็นมันห่างๆ จากข้างนอก โดยเราไม่ได้เข้าไปคลุกวงในกับมัน ไม่เข้าไปพัวพันกับมันวิธีฝึกฝน ก็เป็นวิธีฝึกเจริญสติ หรือฝึก "ความรู้สึกตัว" เดิมๆ ที่ "มือใหม่" ได้ถูกย้ำเตือนบ่อยๆ คือ ฝึกให้มีความรู้สึกตัวกับการเคลื่อนไหวร่างกายในทุกอิริยาบถ และ/หรือ ให้เจตนาสร้างการเคลื่อนไหวร่างกาย (สร้างจังหวะ) แล้วรู้สึกเบาๆ สบายๆ กับกายที่เคลื่อนไหวให้จิตใจตั้งอยู่กับ "ความรู้สึกตัว" หรือการระลึกรู้ในการเคลื่อนไหวของร่างกาย (ไม่ใช่เอาจิตใจไปเฝ้าจ้องเพื่อจะเห็นหรือตามดูความคิด-อารมณ์ต่างๆ) เมื่อ "รู้สึกตัว" ไปสักพัก จิตใจมันจะเผลอคิดขึ้นมาเองตามธรรมชาติของมันสำหรับผู้ฝึกใหม่ ... กว่าจะรู้ตัว รู้ทัน หรือระลึกได้ว่า ตัวเองกำลังเผลอคิดอยู่ก็อาจจะเผลอคิดไปแล้วนานหลายนาที แต่เมื่อฝึกฝนมากๆ เข้า สติแข็งแรงขึ้น เราจะรู้ทัน "การเผลอคิด" ได้ไวขึ้น และบ่อยขึ้นเอง เมื่อฝึกจนชำนาญมากๆ อีกหน่อยพอเผลอคิดปุ๊บ..เราก็รู้ทันปั๊บ!!!!เมื่อ "รู้ทัน-รู้ตัว-ระลึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองกำลังเผลอคิด กำลังเผลอไปกับอารมณ์ต่างๆ" แล้วควรทำอย่างไรต่อไป?? ก็ให้ทิ้งความคิด-อารมณ์ต่างๆ ทันที!! .. เมื่อใดที่รู้ตัวว่าเผลอคิดปุ๊บ ก็ให้ทิ้งความคิดไปทันทีไม่ไปคิดต่อ ไม่ปรุงแต่งต่อเติม ไม่ไหลไปตามความคิด-อารมณ์ต่างๆ ไม่ต้องไปหาความหมาย ไม่ต้องไปหาสาเหตุใดๆ ทั้งสิ้น ....ให้ทิ้งความคิด-อารมณ์ต่างๆ ทันที!!! ...แล้ว "กลับมารู้สึกตัว"...คือการพาใจกลับมาตั้งไว้กับความรู้สึกตัวในการเคลื่อนไหวร่างกายเช่นเดิม!!เดี๋ยวสักพัก ใจก็อาจจะเผลอคิดไปอีก พอเรารู้ทันว่าใจมันเผลอไปอีก ก็ทิ้งความคิดทันทีแล้ว "กลับมารู้สึกตัว" ทำแบบนี้วนๆ ไปเช่นเดิมฝีกแบบนี้ซ้ำๆ บ่อยๆ ไปเรื่อยๆ จนเมื่อสติตั้งมั่น แข็งแรง ว่องไวมากขึ้น ก็จะพัฒนาไปสู่ "การเห็นความคิด โดยไม่หลงเข้าไปในความคิด"และจะพาไปสู่การปล่อยวางความคิด/อารมณ์ ได้มากขึ้น หรือเมื่อมีอะไรมากระทบกายและใจ ไม่ว่าจะ "เรื่องทุกข์หรือสุข"เราก็จะรับรู้สิ่งเหล่านั้นด้วยจิตใจที่เป็นปกติ เป็นกลางๆ ใจไม่ไหลจมดิ่งไปกับความทุกข์ และไม่หลงลอยไปกับความสุขคลายความยึดมั่นถือมั่นในเรื่องต่างๆ ได้มากขึ้นการปรุงแต่งฟุ้งซ่านจะน้อยลงเรื่อยๆ และทำให้ใจยอมรับในสัจธรรมของชีวิตได้มากขึ้นมีสติปัญญารับมือกับเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตได้ดีขึ้นซึ่งทั้งหลายเหล่านี้ มันจะเป็นไปเองตามกลไกธรรมชาติขอเพียงแค่เพียรฝึกฝนอย่างถูกต้องและต่อเนื่องมากพอเราสามารถหาโอกาสฝึกการเจริญสติ หรือ ฝึก "ความรู้สึกตัว" ให้ผสมผสานกับชีวิตประจำวัน ได้ทุกวัน ทุกที่ ทุกเวลาคำแนะนำเพิ่มเติม - แนะนำการเจริญสติ ตามแนวทางหลวงพ่อเทียน โดย พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล th-cam.com/video/GWwIGxicOMA/w-d-xo.html - หลวงพ่อเทียนสอบอารมณ์ th-cam.com/video/477997jEPdg/w-d-xo.html- วิธีเจริญสติง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน th-cam.com/video/qoK88FDoO_E/w-d-xo.html- หลักการง่ายๆ ภายใน 1 นาที.."กลับมารู้สึกตัว" th-cam.com/video/df0Nls10qX0/w-d-xo.html- ดูกายเห็นจิต ดูคิดเห็นธรรม th-cam.com/video/0F9Uc8gt1gU/w-d-xo.html- เห็นความคิด-อารมณ์ โดยไม่หลงเข้าไป "อิน" จะทำได้อย่างไร? th-cam.com/video/NwSKqJFaE6U/w-d-xo.html- ไฮไลท์ คือ เมื่อหลงไป แล้วกลับมาได้ th-cam.com/video/oGLkbmKypBg/w-d-xo.html- เจริญสติไม่ยาก แต่ที่ว่ายาก เพราะอยากได้ดั่งใจ th-cam.com/video/ocG1E6O-zGo/w-d-xo.html- สภาพเดิมของจิต คือ รู้ซื่อๆ รู้เฉยๆ th-cam.com/video/tfsJI9_KeUw/w-d-xo.html- วิธีง่ายๆ เพื่อดับทุกข์ใจ th-cam.com/video/yUyob1-DKlk/w-d-xo.html
อนุโมทนาบุญครับผม
สำหรับผู้ที่สนใจฝึกฝนเจริญสติ (สติปัฏฐาน) ตามแนวทางของหลวงพ่อเทียน 1. การเริ่มต้นฝึกฝนในแนวทางของหลวงพ่อเทียน หากสะดวกหรือสนใจที่จะได้เรียนรู้โดยตรงกับครูอาจารย์ต่างๆ ก็ลอง search หาใน google ว่าสะดวกจะไปที่ไหน หรือลองดูจาก link นี้facebook.com/Sanamnai/photos/a.365802240102946.108142.361998700483300/1319466311403196/?type=3เป็นสถานที่ต่างๆ เพื่อการเรียนรู้ในแนวทางของหลวงพ่อเทียน2. หรือหากจะเริ่มต้นฝึกฝนโดยดูคลิปต่างๆ จาก channel "มือใหม่หลวงพ่อเทียน" ก็ให้เข้าไปที่ [ส่วนที่ 1] th-cam.com/play/PL85WQjF_Yosp_X82mqKLaEx2g-cIyvh5f.htmlซึ่งจะรวบรวมประเด็นต่างๆ ที่มือใหม่ควรจะรู้ เราพยายามจัดเรียงลำดับของคลิปไว้ตามหมายเลข เพื่อลำดับความเข้าใจให้มือใหม่ไม่สับสน ไล่ดูไปเรื่อยๆ ตามลำดับที่เรียงไว้หากมีข้อสงสัยอะไร ก็ทิ้งคำถามไว้ที่ใต้คลิปนั้น เราก็จะพยายามหาคำแนะนำของครูอาจารย์มาช่วยคลี่คลายให้3. หรือหากมีเวลาพอสมควร พอที่จะดูคอร์สการบรรยายที่ยาวหน่อยได้ ก็อยากให้ดูการสอนกรรมฐานแบบเข้าใจง่ายใน [ส่วนที่ 2]th-cam.com/play/PL85WQjF_Yosrqwu1E23iCftSJobZU6sK8.html จะช่วยปูพื้นฐานอย่างละเอียด ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
#กราบสาธุในธรรมเทศนาหลวงพ่อฯ...*สาธุ.*สาธุ *สาธุ...ครับ
น้อมกราบอนุโมทนาสาธุเจ้าค่ะ
น้อมกราบหลวงพ่อด้วยเคารพศรัทธายิ่งสาธุสาธุ สาธุ เจ้าข้า
ขอบคุณ.ผู้จัดทำ..ฝึกแล้วผลคือมันติดตัวไปเองแกะให้มันออกไม่ได้ครับผม
นอ้มกราบสาธุเจ้าคะ
กราบนมัสการพระคุณเจ้าสาธุๆๆ
สาธุคะ หนูเปิดฟังแล้วเข้าใจสิ่งที่เรียกว่า ชีวิตขึ้นเยอะเลยคะ ฟังแต่ละบทไปเรื่อยๆพิจารณาตาม กราบสาธุๆๆคะ🙏🏻🌸
สาธุ เจ้าค่ะ
กราบสาธุ สาธุ สาธุ
กราบนมัสการหลวงพ่อ ด้วยความนอบน้อมคำสอนแนบใจ เป็นบุญเหลือเกินค่ะ สาธุ สาธุ สาธ
กราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุค่ะพระอาจารย์
สาธุขอบคุณครับ
สาธุครับ
พระนิพพานนั้น ไม่ยากอย่างที่คิด เพียงดูจิต ให้รู้ละ อย่าสงสัย ละพอใจ ไม่พอใจ อยู่ร่ำไป อีกไม่นาน ใจก็ว่าง ทางนิพพานพระนิพพานนั้น ไม่ยากอย่างที่คิด เพียงดูจิต ให้รู้ละ อย่าสงสัย จงหมั่นเพียร เร่งรีบทำ อย่าอ่อนใจ นิพพานนั้น อยู่ใกล้ๆ ใจว่างนั้นเอง
กราบสาธุเจ้าค่ะ
สาธุค่ะ
น้อมกราบสาธุทำไมหนอยิ่งฟังยิ่งไพเราะ...ยิ่งฟังยิ่งให้ความเป็นธรรมกับตังเองขึ้นมาได้ชีวิตกลับคืนมาชีวิตธรรมดาที่ไม่ต้องทุกข์
สาธุ ครับหลวงพ่อ
อนุโมทนา สาธุค่ะ
กราบอนุโมทนาสาธุเจ้าค่ะ
กราบอนุโมทนาสาธุในธรรมเจ้าค่ะ 🙏🏻🙇♀️
กราบ สาธุ สาธุ สาธุ 13 มกราคม 256505.27 น.
🙏🏻 หลวงพ่อให้กำลังใจ
กราบ สาธุ ค่ะ
สาธุ... ขอบคุณครับ🙏🏻
สาธุคร๊าบ ^_____^
สาธุ น้อมกราบหลวงพ่อคำเขียน และขออนุโมทนาบุญกับผู้นำมาเผยแพร่ด้วยค่ะ
สาธุ
กราบนมัสการเจ้าค่ะ สาธุๆๆ
สติเป็นนักศึกษา กายใจเป็นตำรา ... ศึกษาสภาวะสดๆจากกายใจเราเอง กราบหลงพ่อคำเขียน ครับ ขอบคุณนะครับ นำคำสอนเชิงภาวนาของหลวงพ่อคำเขียน ที่นำออกมาให้กำลังใจญาติธรรมอย่างสม่ำเสมอ
ขอบคุณเช่นกันครับ ที่มาช่วยเสริมข้อมูลความเห็น อันเป็นประโยชน์ต่อผู้ปฏิบัติครับ ... จากการได้ฟังคลิปต่างๆ เพื่อคัดสรรนำมาเผยแผ่ ก็พบว่า สิ่งที่หลวงพ่อฯ บอกสอน ไม่ใช่เรื่องธรรมะทั่วไป ที่ให้ฟังเพื่อความสบายใจเพลิดเพลิน ...แต่สิ่งที่ท่านบอกสอน เน้นไปที่การนำไปลงมือทำ เป็นทั้งการตอกย้ำแนวทางการปฏิบัติ ซึ่งเอาไปปรับปรุง พัฒนาการฝึกฝนได้ หรือที่คุณ Pattanapong เขียนว่า "คำสอนเชิงภาวนา" รวมทั้ง บ่อยครั้ง ท่านก็ "ให้กำลังใจ" แก่ผู้ปฏิบัติ ทำให้ "มือใหม่" อย่างผู้จัดทำฯ หรือผู้ฝึกฝนท่านอื่นๆ คลายความท้อถอย คลายกังวล มีแรงฮึดสู้ เราจึงหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ปฏิบัติทุกท่านครับ สาธุ
Pattanapong Kosaiyakanon a
กราบสาธุเจ้าค่ะ 🙏🏻
คือตอนนี้ขอปรึกษาปัญหาหน่อยหรือเปล่า ตอนนี้ และหลายๆ ครั้งคิดฆ่าตัวตายตลอดเลยค่ะ เคยกินยาพาราเป็นกำๆ ตอนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย แต่ก็ไม่ตายทรมานมาก และอีก 2 ครั้งคือผูกคอตายค่ะ แต่ก็ยังมีสติเลิกทำได้ ครั้งแรกชักเกร็ง ส่วนครั้งล่าสุดเส้นเลือดฝอยในคอแตกค่ะ จริงๆก็กลัวบาปนะคะ แต่กรรมที่ทำไว้คงหนักจริงๆ ค่ะ พยายามศึกษาธรรมะตลอดเลยค่ะ แต่พยายามแล้วไม่เป็นผล ทีมานมากเลยค่ะ 😢 ขอโทษนะคะที่รบกวน 🙏🏻
ขอส่งกำลังใจให้นะคะ ^^ ขอแนะนำว่า นอกจากการศึกษาธรรม ปฏิบัติธรรมแล้ว วิธีอื่นๆ ก็สามารถช่วยได้ค่ะเช่น การไปพบแพทย์ ก็น่าจะมีคำแนะนำที่เหมาะสมได้ค่ะ หรือลองปรึกษาพูดคุยก่อนก็ได้ค่ะ กรมสุขภาพจิต ได้จัดให้มีช่องทางเพื่อรับปรึกษาปัญหาเบื้องต้นโดยผู้สนใจสามารถเข้าชมได้ที่ facebook.com/helpline1323หรือ โทร 1323 สายด่วนสุขภาพจิต หากเชื่อในธรรมของพระพุทธองค์ หรือศรัทธาในครูอาจารย์ขอให้มั่นใจว่า ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ยังมีโอกาส มีทางออกเสมอค่ะเรื่องกรรมไม่ดีที่เคยทำไว้ ไม่มีใครไม่เคยทำกรรมไม่ดีค่ะ แต่เมื่อได้เกิดเป็นคนในชาตินี้ แล้วยังได้ศึกษาธรรมของพระพุทธองค์แสดงว่า กรรมดีที่ทำไว้ ต้องมีมากกว่ากรรมไม่ดีแน่ๆ ค่ะ ขอส่งกำลังใจให้นะคะ ^^
กราบขอบคุณนะคะ สำหรับคำแนะนำดีๆค่ะ ขอให้จิตที่ดีของคุณได้ประสบพบเจอแต่สิ่งที่ดีที่งามนะคะ 🙇♀️
ขอส่งกำลังใจและความปรารถนาดีให้นะคะ ^^ ผลบุญกุศลใดๆ ที่ข้าพเจ้าได้ทำมาทั้งในชาติก่อนๆ และชาติปัจจุบัน ขอให้ส่งผลดลใจให้คุณได้พบทางออกในชีวิต ได้พบความสงบของจิตใจและมีกำลังใจ/กำลังกาย ที่จะใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีสติ อย่างมีคุณค่าทั้งต่อตนเองและต่อผู้อื่นนะคะ
ตอนที่่หลวงพ่อ พูดถึงสมัยเป็น ฆาราวาส ตอนที่เณรถาม เรื่องรูปนาม ตรงนี้ผมมีคำถามครับ เณรน้อยยังเด็ก ความคิดปรุงแต่งยังน้อยไม่เหมือนผู้ใหญ่จะมีความคิดปรุงแต่งเยอะหมายถึงผมนะครับ หลวงพ่อเลยเลยให้กำลังใจตัวเอง ผมฟังแล้วมีกำลังใจเลยครับ ทำไปๆๆไม่เป็นไรๆๆ
สาธุๆๆขอบพระคุณที่แนะนำครับ ผมนี่ก็นั่งอ่านนั่งไฟในโซนที่มันมาใช้กับตัวเองให้เกิดผลมากที่สุดครับ ตามแนวทางหลวงพ่อเทียนเหมาะสำหรับผมล่ะครับ ส่วนใหญ่งานผมก็หนักไปทางคิดทางจินตนาการซะมากๆๆพอมันเหนื่อยล้ก็มาทำเจริญสติในการเดิน นั่งเป็นกิจวัตร ฮ่าๆๆรู฿้ๆๆหลงๆๆตลอดทั้งวัน มือใหม่นี่ ผมชอบเลยนะครับ ความสดใหม่ทุกวันนี่ดีสุล่ะครับ
สาธุครับ ขอแลกเปลี่ยนคห. ในฐานะ "มือใหม่"เช่นกันนะครับ ไม่ใช่ผู้รู้ในขั้นสูงอะไรครับ ผู้เริ่มฝึกฝน หรือ "มือใหม่" หลายท่านก็จะมีปัญหา คำถาม หรือ มีความรู้สึกอะไรที่เจอคล้ายๆ กันครับ นี่เป็นสาเหตุหลัก ที่ผู้จัดทำฯ ซึ่งเป็น "มือใหม่" เช่นกัน จึงได้ลองใช้ช่องทาง youtube นี้ เพื่อรวบรวม คัดสรร ข้อมูลต่างๆ ที่คิดว่า น่าจะมีประโยชน์ต่อ "มือใหม่" มารวมกันไว้ เพื่อเป็นทางเลือกในการศึกษาและนำไปปฏิบัติครับ กรณีที่บอกว่า "ผู้ใหญ่จะมีความคิดปรุงแต่งเยอะ" ก็เห็นด้วยครับ คนเราได้รับรู้เรื่องราว ข้อมูล มากมายจากการเรียน จากการใช้ชีวิต ฯลฯ พอรู้เยอะ มันก็อดไม่ได้ ที่จะคิดเยอะ ปรุงแต่งไปได้สารพัน เปรียบเหมือน มีเชื้อฟืนให้จุดไฟเยอะ มันก็อดไม่ได้ที่จะจุดติดการปรุงแต่งในสารพัดเรื่องที่เรามีอยู่ในหัว บางคนรู้ทฤษฎีหรือหัวข้อธรรมะเยอะ เวลาฝึกฝนแล้วก็เผลอคิดเอาข้อมูลต่างๆ ที่เคยรู้มา มาปรุงแต่งไปได้ จนบางคนก็เข้าใจว่าตัวเองบรรลุธรรมไปแล้ว ทั้งๆ ที่มันเป็นการปรุงแต่งอย่างนึงครับจากประวัติของหลวงพ่อเทียน ท่านก็รู้หนังสือน้อย รู้บาลีน้อย แต่ท่านก็เข้าใจธรรมะที่แท้จริงได้ ไม่ใช่เข้าใจจากการได้รับรู้รับฟังจากคนอื่น หรือคิดวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆแต่ด้วยการลงมือฝึกฝนแล้วพบเจอของจริงด้วยตัวเอง ในแนวทางนี้ จึงไม่เน้นทฤษฎีอะไรมากนักครับ เน้นการลงมือฝึกฝนอย่างถูกต้องต่อเนื่อง คหสต. ของผู้จัดทำ คือ เราไม่ได้ต่อต้านการเรียนรู้ภาคทฤษฏี ปริยัติ ฯลฯ แต่ละท่านก็ต้องหา "ความพอดี" ในชีวิตตนเองว่า เรียนรู้ภาคทฤษฎีมากแค่ไหน จึงจะพอทำให้เข้าใจ ทำให้เกิดศรัทธา แล้วเอาไปลงมือฝึกฝนได้อย่างถูกต้องถ้าเรียนรู้ทฤษฎีมาเยอะ แล้วแบกไว้เยอะ ปล่อยวางได้ยาก แล้วปรุงแต่งเก่ง ชอบเอาสิ่งที่รู้มาคิด บางทีก็สับสน "ทฤษฏีนั้นบอกอย่างนี้ แต่ครูอาจารย์ท่านนี้สอนอีกอย่าง... ฯลฯ"บางทีสิ่งที่รู้มาเยอะแยะมากไปก็ขัดแย้งกันในใจ...ฯลฯ Keyword หรือคำสำคัญ อันนึง ที่คิดว่าเหมาะกับ "มือใหม่"หรือเหมาะกับชาวพุทธทุกท่าน จึงเป็นคำว่า "ความพอดี" ครับ แต่ละท่านต้องลองหา "ความพอดี" ของตัวเองในทุกเรื่องของการใช้ชีวิตและการปฏิบัติธรรมครับ "การรู้ซื่อๆ รู้เฉยๆ" ตามแนวทางนี้ จึงเป็นการกลับสู่สภาพปกติของจิตใจ ปล่อยวางสารพันการยึดติด การปรุงแต่ง การยินดียินร้ายทั้งปวง แล้วเอาใจกลับมาสู่ความเป็นปกติ ความเป็นกลาง แค่กลับมารู้สึกตัว มารู้ซื่อๆ เฉยๆ กับทุกสิ่งที่มากระทบกายและใจซึ่งการรู้ซื่อๆ รู้เฉยๆ หรือการไม่ปรุงแต่งต่อเติม ไม่ไหลไปกับความคิด ฯลฯ มันจะเกิดขึ้นได้ก็ต้องฝึกฝนอย่างถูกต้องและต่อเนื่องเพียงพอและมันไม่ได้ใช้ความรู้ภาคทฤษฎีอะไรมากมาย แต่เน้นภาคปฏิบัติมากกว่าครับ เณรน้อยในกรณีนี้ ก็คงประมาณนี้ครับ เปรียบเป็นแก้วน้ำที่ว่างเปล่า หรือน้ำในแก้วมีอยู่น้อย ก็จะใส่น้ำใหม่ๆ ได้เยอะ ได้ง่ายกว่าครับเขียนมาซะยาว 55 แต่ยินดีที่ได้สนทนาด้วยครับ เราเป็น "มือใหม่" เช่นกัน ก็ส่งกำลังใจให้กันครับ
มารู้จักกันหน่อยไหม
ปล. ผู้จัดทำฯ ก็ทำงานในอาชีพที่ปรุงแต่งเก่งครับสำหรับเรา ในการปฏิบัติธรรม การรู้เยอะไปมากไป ยิ่งทำให้ปรุงแต่งเยอะครับ คือ คนปกติก็มีการปรุงแต่งเรื่องทั่วไปเยอะอยู่แล้ว แต่พอมาปฏิบัติธรรม ถ้าแบกเอาสิ่งที่รู้เกี่ยวกับหัวข้อธรรมะ หรือทฤษฎี หรือปริยัติมาไว้เยอะ..เวลาฝึกฝนไป ก็อดคิดสงสัยจิปาถะไม่ได้ ฝึกไปก็สับสนไปบ้าง เพราะเอาภาคทฤษฎี หรือสิ่งที่ได้อ่านได้ฟังมาคิดวิเคราะห์ เปรียบเทียบว่าตัวเองฝึกถูกหรือฝึกผิดบางทีก็เปรียบเทียบข้อมูลจากตำราโน้น ทำไมไม่ตรงกับตำรานี้หรือครูอาจารย์ท่านโน้น ทำไมอธิบายไม่ตรงกับอีกท่านนึงใครสอนผิด ใครสอนถูก ??? .. ฯลฯ สารพันการคิดฟุ้ง การปรุงแต่งต่างๆ นาๆแนวทางหลวงพ่อเทียน จึงเป็นแนวทางที่เราคิดว่าเหมาะกับเรา และหลายท่านที่ไม่ต้องรู้มาเยอะ มีความรู้ธรรม รู้ปริยัติมาน้อย ก็ไม่เป็นไรเพียงหาความรู้พื้นฐานบางอย่างมาเพิ่มเติมเล็กน้อย ก็เพียงพอต่อการที่จะเข้าใจวิธีการฝึกฝนได้ แต่สำหรับท่านที่ "รู้มาเยอะแล้ว" รู้ทฤษฎี รู้ปริยัติ รู้บาลี หรือรวมทั้งฝึกฝนมาแล้วหลายวิธี กับหลายครูอาจารย์ เราก็ไม่คิดว่า มันเป็นปัญหาใหญ่เกินกว่าจะลองมาฝึกแนวทางของหลวงพ่อเทียนได้ครับครูอาจารย์ในแนวทางหลวงพ่อเทียนหลายท่าน มีทั้งเคยเรียนรู้ขั้นสูงในด้านทฤษฏีหรือบางท่านก็เคยฝึกมาแล้วหลายรูปแบบ หรือบางท่านเคยเรียนวิชาเกี่ยวกับคาถาอาคม ก็มีแต่ก็สามารถมาเรียนรู้และก้าวหน้าได้ในแนวทางของหลวงพ่อเทียนครับสรุปว่า คนปกติทั่วไป เมื่อรู้เยอะ ก็มีเรื่องให้ปรุงแต่งเยอะครับ เป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าฝึกฝนเจริญสติจนพัฒนาไปเรื่อยๆ "จะรู้มาเยอะหรือน้อยแค่ไหน? อย่างไร? ..เราก็จะมีสติ มีปัญญา ที่จะเลือกใช้ความรู้ที่มีอย่างเหมาะสม พิจารณาได้ว่า ความรู้อะไรเป็นประโยชน์ต่อเรื่องใดหรือเลือกที่จะปล่อยวางสิ่งที่ไม่จำเป็นลงไปได้" สู้ๆ ครับ
น้อมกราบสาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ
ท่านให้กำลังใจในการปฏิบัติได้มากๆ..
สาธุครับ.🙏
🙏
🙏🙏🙏🙏
น้อมกราบพ่อแม่ครูอาจารย์ด้วยเศียรเกล้า
ลงมือทำ
กราบสาธุหลวงพ่อ🙏🙏🙏
🙏🙏🙏น้อมกราบสาธุเจ้าค่ะ
น้อมกราบสาธุเจ้าค่ะ
สาธุสาธุครับ
น้อมกราบสาธุ สาธุ สาธุครับ 🙏🙏🙏
กราบสาธุ🙏🙏🙏
สาธุสาธุสาธุค่ะ
🙏🙏🙏
สาธุ...ครับ
กราบสาธุในธรรมคำสอนขององค์หลวงพ่อด้วยความเคารพอย่างสูงเจ้าค่ะ
กราบสาธุๆๆเจ้าค่ะ
กราบนมัสการหลวงพ่อด้วยความเคารพสูงสุด
น้อมกราบสาธุเจ้าค่ะ🙏🏼🙏🏼🙏🏼
อนุโมทนาสาธุธรรมและขอบคุณผู้จัดทำฯด้วยครับ
สำหรับมือใหม่ที่ฟังแล้วยังสงสัย หรือไม่เข้าใจวิธีการและหลักการในการฝึกฝนเจริญสติ ขอแนะนำให้ดูคลิปใน [ส่วนที่ 1]
th-cam.com/play/PL85WQjF_Yosp_X82mqKLaEx2g-cIyvh5f.html
จะรวบรวมประเด็นที่ผู้ฝึกฝนควรรู้ โดยไล่ดูตามลำดับที่จัดเรียงไว้ ก็น่าจะช่วยลำดับความเข้าใจให้ได้มากขึ้น
หลวงพ่อเทียนใช้คำว่า "เห็นความคิด หรือ ดูความคิด"
ไม่ได้หมายถึง ให้เราเอาจิตใจไปเฝ้าจ้องว่า เมื่อไหร่จะเกิดความคิด
เมื่อไหร่ใจจะเผลอคิด-เผลอไปในอารมณ์ต่างๆ
หรือ เมื่อเผลอคิดไปแล้ว ก็ไปตามดูความคิด ว่ามันคิดอะไร ไปหาสาเหตุ
ไปหานิยาม ไปหาทางแก้ หรือเผลอใจไปปรุงแต่งเป็นความรู้สึก-อารมณ์ต่างๆ เช่น ไปหงุดหงิด ไปยินดี-ยินร้ายกับมันฯลฯ
...ไม่ใช่แบบนั้น!!!
แต่หลวงพ่อเทียนต้องการสื่อความหมายถึง "การเห็นความคิด หรือดูความคิด"
โดยไม่หลงเข้าไปในความคิด ไม่หลงไปตามความคิดหรืออารมณ์ ไม่ไปปรุงแต่งต่อเติม ฯลฯ
เปรียบเหมือนเราเป็นคนดูมัน-เห็นมันห่างๆ จากข้างนอก
โดยเราไม่ได้เข้าไปคลุกวงในกับมัน ไม่เข้าไปพัวพันกับมัน
วิธีฝึกฝน ก็เป็นวิธีฝึกเจริญสติ หรือฝึก "ความรู้สึกตัว" เดิมๆ ที่ "มือใหม่" ได้ถูกย้ำเตือนบ่อยๆ
คือ ฝึกให้มีความรู้สึกตัวกับการเคลื่อนไหวร่างกายในทุกอิริยาบถ
และ/หรือ ให้เจตนาสร้างการเคลื่อนไหวร่างกาย (สร้างจังหวะ) แล้วรู้สึกเบาๆ สบายๆ กับกายที่เคลื่อนไหว
ให้จิตใจตั้งอยู่กับ "ความรู้สึกตัว" หรือการระลึกรู้ในการเคลื่อนไหวของร่างกาย
(ไม่ใช่เอาจิตใจไปเฝ้าจ้องเพื่อจะเห็นหรือตามดูความคิด-อารมณ์ต่างๆ)
เมื่อ "รู้สึกตัว" ไปสักพัก จิตใจมันจะเผลอคิดขึ้นมาเองตามธรรมชาติของมัน
สำหรับผู้ฝึกใหม่ ... กว่าจะรู้ตัว รู้ทัน หรือระลึกได้ว่า ตัวเองกำลังเผลอคิดอยู่
ก็อาจจะเผลอคิดไปแล้วนานหลายนาที
แต่เมื่อฝึกฝนมากๆ เข้า สติแข็งแรงขึ้น เราจะรู้ทัน "การเผลอคิด" ได้ไวขึ้น และบ่อยขึ้นเอง
เมื่อฝึกจนชำนาญมากๆ อีกหน่อยพอเผลอคิดปุ๊บ..เราก็รู้ทันปั๊บ!!!!
เมื่อ "รู้ทัน-รู้ตัว-ระลึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองกำลังเผลอคิด กำลังเผลอไปกับอารมณ์ต่างๆ" แล้วควรทำอย่างไรต่อไป??
ก็ให้ทิ้งความคิด-อารมณ์ต่างๆ ทันที!!
.. เมื่อใดที่รู้ตัวว่าเผลอคิดปุ๊บ ก็ให้ทิ้งความคิดไปทันที
ไม่ไปคิดต่อ ไม่ปรุงแต่งต่อเติม ไม่ไหลไปตามความคิด-อารมณ์ต่างๆ
ไม่ต้องไปหาความหมาย ไม่ต้องไปหาสาเหตุใดๆ ทั้งสิ้น
....ให้ทิ้งความคิด-อารมณ์ต่างๆ ทันที!!! ...แล้ว "กลับมารู้สึกตัว"
...คือการพาใจกลับมาตั้งไว้กับความรู้สึกตัวในการเคลื่อนไหวร่างกายเช่นเดิม!!
เดี๋ยวสักพัก ใจก็อาจจะเผลอคิดไปอีก พอเรารู้ทันว่าใจมันเผลอไปอีก ก็ทิ้งความคิดทันทีแล้ว "กลับมารู้สึกตัว"
ทำแบบนี้วนๆ ไปเช่นเดิม
ฝีกแบบนี้ซ้ำๆ บ่อยๆ ไปเรื่อยๆ จนเมื่อสติตั้งมั่น แข็งแรง ว่องไวมากขึ้น ก็จะพัฒนาไปสู่ "การเห็นความคิด โดยไม่หลงเข้าไปในความคิด"
และจะพาไปสู่การปล่อยวางความคิด/อารมณ์ ได้มากขึ้น
หรือเมื่อมีอะไรมากระทบกายและใจ ไม่ว่าจะ "เรื่องทุกข์หรือสุข"
เราก็จะรับรู้สิ่งเหล่านั้นด้วยจิตใจที่เป็นปกติ เป็นกลางๆ
ใจไม่ไหลจมดิ่งไปกับความทุกข์ และไม่หลงลอยไปกับความสุข
คลายความยึดมั่นถือมั่นในเรื่องต่างๆ ได้มากขึ้น
การปรุงแต่งฟุ้งซ่านจะน้อยลงเรื่อยๆ และทำให้ใจยอมรับในสัจธรรมของชีวิตได้มากขึ้น
มีสติปัญญารับมือกับเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตได้ดีขึ้น
ซึ่งทั้งหลายเหล่านี้ มันจะเป็นไปเองตามกลไกธรรมชาติ
ขอเพียงแค่เพียรฝึกฝนอย่างถูกต้องและต่อเนื่องมากพอ
เราสามารถหาโอกาสฝึกการเจริญสติ หรือ ฝึก "ความรู้สึกตัว" ให้ผสมผสานกับชีวิตประจำวัน ได้ทุกวัน ทุกที่ ทุกเวลา
คำแนะนำเพิ่มเติม
- แนะนำการเจริญสติ ตามแนวทางหลวงพ่อเทียน โดย พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล th-cam.com/video/GWwIGxicOMA/w-d-xo.html
- หลวงพ่อเทียนสอบอารมณ์ th-cam.com/video/477997jEPdg/w-d-xo.html
- วิธีเจริญสติง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน th-cam.com/video/qoK88FDoO_E/w-d-xo.html
- หลักการง่ายๆ ภายใน 1 นาที.."กลับมารู้สึกตัว" th-cam.com/video/df0Nls10qX0/w-d-xo.html
- ดูกายเห็นจิต ดูคิดเห็นธรรม th-cam.com/video/0F9Uc8gt1gU/w-d-xo.html
- เห็นความคิด-อารมณ์ โดยไม่หลงเข้าไป "อิน" จะทำได้อย่างไร? th-cam.com/video/NwSKqJFaE6U/w-d-xo.html
- ไฮไลท์ คือ เมื่อหลงไป แล้วกลับมาได้ th-cam.com/video/oGLkbmKypBg/w-d-xo.html
- เจริญสติไม่ยาก แต่ที่ว่ายาก เพราะอยากได้ดั่งใจ th-cam.com/video/ocG1E6O-zGo/w-d-xo.html
- สภาพเดิมของจิต คือ รู้ซื่อๆ รู้เฉยๆ th-cam.com/video/tfsJI9_KeUw/w-d-xo.html
- วิธีง่ายๆ เพื่อดับทุกข์ใจ th-cam.com/video/yUyob1-DKlk/w-d-xo.html
อนุโมทนาบุญครับผม
สำหรับผู้ที่สนใจฝึกฝนเจริญสติ (สติปัฏฐาน) ตามแนวทางของหลวงพ่อเทียน
1. การเริ่มต้นฝึกฝนในแนวทางของหลวงพ่อเทียน
หากสะดวกหรือสนใจที่จะได้เรียนรู้โดยตรงกับครูอาจารย์ต่างๆ
ก็ลอง search หาใน google ว่าสะดวกจะไปที่ไหน หรือลองดูจาก link นี้
facebook.com/Sanamnai/photos/a.365802240102946.108142.361998700483300/1319466311403196/?type=3
เป็นสถานที่ต่างๆ เพื่อการเรียนรู้ในแนวทางของหลวงพ่อเทียน
2. หรือหากจะเริ่มต้นฝึกฝนโดยดูคลิปต่างๆ จาก channel "มือใหม่หลวงพ่อเทียน"
ก็ให้เข้าไปที่ [ส่วนที่ 1] th-cam.com/play/PL85WQjF_Yosp_X82mqKLaEx2g-cIyvh5f.html
ซึ่งจะรวบรวมประเด็นต่างๆ ที่มือใหม่ควรจะรู้
เราพยายามจัดเรียงลำดับของคลิปไว้ตามหมายเลข
เพื่อลำดับความเข้าใจให้มือใหม่ไม่สับสน ไล่ดูไปเรื่อยๆ ตามลำดับที่เรียงไว้
หากมีข้อสงสัยอะไร ก็ทิ้งคำถามไว้ที่ใต้คลิปนั้น
เราก็จะพยายามหาคำแนะนำของครูอาจารย์มาช่วยคลี่คลายให้
3. หรือหากมีเวลาพอสมควร พอที่จะดูคอร์สการบรรยายที่ยาวหน่อยได้
ก็อยากให้ดูการสอนกรรมฐานแบบเข้าใจง่ายใน [ส่วนที่ 2]
th-cam.com/play/PL85WQjF_Yosrqwu1E23iCftSJobZU6sK8.html
จะช่วยปูพื้นฐานอย่างละเอียด ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
#กราบสาธุในธรรมเทศนาหลวงพ่อฯ...*สาธุ.*สาธุ *สาธุ...ครับ
น้อมกราบอนุโมทนาสาธุเจ้าค่ะ
น้อมกราบหลวงพ่อด้วยเคารพ
ศรัทธายิ่งสาธุสาธุ สาธุ เจ้าข้า
ขอบคุณ.ผู้จัดทำ..ฝึกแล้วผลคือมันติดตัวไปเองแกะให้มันออกไม่ได้ครับผม
นอ้มกราบสาธุเจ้าคะ
กราบนมัสการพระคุณเจ้าสาธุๆๆ
สาธุคะ หนูเปิดฟังแล้วเข้าใจสิ่งที่เรียกว่า ชีวิตขึ้นเยอะเลยคะ ฟังแต่ละบทไปเรื่อยๆพิจารณาตาม
กราบสาธุๆๆคะ🙏🏻🌸
สาธุ เจ้าค่ะ
กราบสาธุ สาธุ สาธุ
กราบนมัสการหลวงพ่อ ด้วยความนอบน้อมคำสอนแนบใจ เป็นบุญเหลือเกินค่ะ สาธุ สาธุ สาธ
กราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุค่ะพระอาจารย์
สาธุขอบคุณครับ
สาธุครับ
พระนิพพานนั้น ไม่ยากอย่างที่คิด เพียงดูจิต ให้รู้ละ อย่าสงสัย
ละพอใจ ไม่พอใจ อยู่ร่ำไป อีกไม่นาน ใจก็ว่าง ทางนิพพาน
พระนิพพานนั้น ไม่ยากอย่างที่คิด เพียงดูจิต ให้รู้ละ อย่าสงสัย
จงหมั่นเพียร เร่งรีบทำ อย่าอ่อนใจ นิพพานนั้น อยู่ใกล้ๆ ใจว่างนั้นเอง
กราบสาธุเจ้าค่ะ
สาธุค่ะ
น้อมกราบสาธุทำไมหนอยิ่งฟังยิ่งไพเราะ...ยิ่งฟังยิ่งให้ความเป็นธรรมกับตังเองขึ้นมาได้ชีวิตกลับคืนมาชีวิตธรรมดาที่ไม่ต้องทุกข์
สาธุ ครับหลวงพ่อ
อนุโมทนา สาธุค่ะ
สาธุค่ะ
กราบอนุโมทนาสาธุเจ้าค่ะ
กราบอนุโมทนาสาธุในธรรมเจ้าค่ะ 🙏🏻🙇♀️
กราบ สาธุ สาธุ สาธุ
13 มกราคม 2565
05.27 น.
🙏🏻 หลวงพ่อให้กำลังใจ
กราบ สาธุ ค่ะ
สาธุครับ
สาธุ... ขอบคุณครับ🙏🏻
สาธุคร๊าบ ^_____^
สาธุค่ะ
สาธุ น้อมกราบหลวงพ่อคำเขียน และขออนุโมทนาบุญกับผู้นำมาเผยแพร่ด้วยค่ะ
สาธุ
สาธุค่ะ
กราบนมัสการเจ้าค่ะ สาธุๆๆ
สติเป็นนักศึกษา กายใจเป็นตำรา ... ศึกษาสภาวะสดๆจากกายใจเราเอง กราบหลงพ่อคำเขียน ครับ
ขอบคุณนะครับ นำคำสอนเชิงภาวนาของหลวงพ่อคำเขียน ที่นำออกมาให้กำลังใจญาติธรรมอย่างสม่ำเสมอ
ขอบคุณเช่นกันครับ ที่มาช่วยเสริมข้อมูลความเห็น อันเป็นประโยชน์ต่อผู้ปฏิบัติครับ ... จากการได้ฟังคลิปต่างๆ เพื่อคัดสรรนำมาเผยแผ่ ก็พบว่า สิ่งที่หลวงพ่อฯ บอกสอน ไม่ใช่เรื่องธรรมะทั่วไป ที่ให้ฟังเพื่อความสบายใจเพลิดเพลิน ...แต่สิ่งที่ท่านบอกสอน เน้นไปที่การนำไปลงมือทำ เป็นทั้งการตอกย้ำแนวทางการปฏิบัติ ซึ่งเอาไปปรับปรุง พัฒนาการฝึกฝนได้ หรือที่คุณ Pattanapong เขียนว่า "คำสอนเชิงภาวนา" รวมทั้ง บ่อยครั้ง ท่านก็ "ให้กำลังใจ" แก่ผู้ปฏิบัติ ทำให้ "มือใหม่" อย่างผู้จัดทำฯ หรือผู้ฝึกฝนท่านอื่นๆ คลายความท้อถอย คลายกังวล มีแรงฮึดสู้ เราจึงหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ปฏิบัติทุกท่านครับ สาธุ
Pattanapong Kosaiyakanon a
กราบสาธุเจ้าค่ะ 🙏🏻
สาธุค่ะ
คือตอนนี้ขอปรึกษาปัญหาหน่อยหรือเปล่า ตอนนี้ และหลายๆ ครั้งคิดฆ่าตัวตายตลอดเลยค่ะ เคยกินยาพาราเป็นกำๆ ตอนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย แต่ก็ไม่ตายทรมานมาก และอีก 2 ครั้งคือผูกคอตายค่ะ แต่ก็ยังมีสติเลิกทำได้ ครั้งแรกชักเกร็ง ส่วนครั้งล่าสุดเส้นเลือดฝอยในคอแตกค่ะ จริงๆก็กลัวบาปนะคะ แต่กรรมที่ทำไว้คงหนักจริงๆ ค่ะ พยายามศึกษาธรรมะตลอดเลยค่ะ แต่พยายามแล้วไม่เป็นผล ทีมานมากเลยค่ะ 😢 ขอโทษนะคะที่รบกวน 🙏🏻
ขอส่งกำลังใจให้นะคะ ^^ ขอแนะนำว่า นอกจากการศึกษาธรรม ปฏิบัติธรรมแล้ว วิธีอื่นๆ ก็สามารถช่วยได้ค่ะ
เช่น การไปพบแพทย์ ก็น่าจะมีคำแนะนำที่เหมาะสมได้ค่ะ หรือ
ลองปรึกษาพูดคุยก่อนก็ได้ค่ะ กรมสุขภาพจิต ได้จัดให้มีช่องทางเพื่อรับปรึกษาปัญหาเบื้องต้น
โดยผู้สนใจสามารถเข้าชมได้ที่ facebook.com/helpline1323
หรือ โทร 1323 สายด่วนสุขภาพจิต
หากเชื่อในธรรมของพระพุทธองค์ หรือศรัทธาในครูอาจารย์
ขอให้มั่นใจว่า ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ยังมีโอกาส มีทางออกเสมอค่ะ
เรื่องกรรมไม่ดีที่เคยทำไว้ ไม่มีใครไม่เคยทำกรรมไม่ดีค่ะ
แต่เมื่อได้เกิดเป็นคนในชาตินี้ แล้วยังได้ศึกษาธรรมของพระพุทธองค์
แสดงว่า กรรมดีที่ทำไว้ ต้องมีมากกว่ากรรมไม่ดีแน่ๆ ค่ะ
ขอส่งกำลังใจให้นะคะ ^^
กราบขอบคุณนะคะ สำหรับคำแนะนำดีๆค่ะ ขอให้จิตที่ดีของคุณได้ประสบพบเจอแต่สิ่งที่ดีที่งามนะคะ 🙇♀️
ขอส่งกำลังใจและความปรารถนาดีให้นะคะ ^^ ผลบุญกุศลใดๆ ที่ข้าพเจ้าได้ทำมา
ทั้งในชาติก่อนๆ และชาติปัจจุบัน ขอให้ส่งผลดลใจให้คุณได้พบทางออกในชีวิต ได้พบความสงบของจิตใจ
และมีกำลังใจ/กำลังกาย ที่จะใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีสติ อย่างมีคุณค่าทั้งต่อตนเองและต่อผู้อื่นนะคะ
ตอนที่่หลวงพ่อ พูดถึงสมัยเป็น ฆาราวาส ตอนที่เณรถาม เรื่องรูปนาม ตรงนี้ผมมีคำถามครับ เณรน้อยยังเด็ก ความคิดปรุงแต่งยังน้อยไม่เหมือนผู้ใหญ่จะมีความคิดปรุงแต่งเยอะหมายถึงผมนะครับ หลวงพ่อเลยเลยให้กำลังใจตัวเอง ผมฟังแล้วมีกำลังใจเลยครับ ทำไปๆๆไม่เป็นไรๆๆ
สาธุๆๆขอบพระคุณที่แนะนำครับ ผมนี่ก็นั่งอ่านนั่งไฟในโซนที่มันมาใช้กับตัวเองให้เกิดผลมากที่สุดครับ ตามแนวทางหลวงพ่อเทียนเหมาะสำหรับผมล่ะครับ ส่วนใหญ่งานผมก็หนักไปทางคิดทางจินตนาการซะมากๆๆพอมันเหนื่อยล้ก็มาทำเจริญสติในการเดิน นั่งเป็นกิจวัตร ฮ่าๆๆรู฿้ๆๆหลงๆๆตลอดทั้งวัน มือใหม่นี่ ผมชอบเลยนะครับ ความสดใหม่ทุกวันนี่ดีสุล่ะครับ
สาธุครับ ขอแลกเปลี่ยนคห. ในฐานะ "มือใหม่"เช่นกันนะครับ ไม่ใช่ผู้รู้ในขั้นสูงอะไรครับ
ผู้เริ่มฝึกฝน หรือ "มือใหม่" หลายท่านก็จะมีปัญหา คำถาม หรือ มีความรู้สึกอะไรที่เจอคล้ายๆ กันครับ
นี่เป็นสาเหตุหลัก ที่ผู้จัดทำฯ ซึ่งเป็น "มือใหม่" เช่นกัน จึงได้ลองใช้ช่องทาง youtube นี้ เพื่อรวบรวม คัดสรร
ข้อมูลต่างๆ ที่คิดว่า น่าจะมีประโยชน์ต่อ "มือใหม่" มารวมกันไว้ เพื่อเป็นทางเลือกในการศึกษาและนำไปปฏิบัติครับ
กรณีที่บอกว่า "ผู้ใหญ่จะมีความคิดปรุงแต่งเยอะ" ก็เห็นด้วยครับ
คนเราได้รับรู้เรื่องราว ข้อมูล มากมายจากการเรียน จากการใช้ชีวิต ฯลฯ
พอรู้เยอะ มันก็อดไม่ได้ ที่จะคิดเยอะ ปรุงแต่งไปได้สารพัน
เปรียบเหมือน มีเชื้อฟืนให้จุดไฟเยอะ
มันก็อดไม่ได้ที่จะจุดติดการปรุงแต่งในสารพัดเรื่องที่เรามีอยู่ในหัว
บางคนรู้ทฤษฎีหรือหัวข้อธรรมะเยอะ เวลาฝึกฝนแล้วก็เผลอคิดเอาข้อมูลต่างๆ
ที่เคยรู้มา มาปรุงแต่งไปได้ จนบางคนก็เข้าใจว่าตัวเองบรรลุธรรมไปแล้ว
ทั้งๆ ที่มันเป็นการปรุงแต่งอย่างนึงครับ
จากประวัติของหลวงพ่อเทียน ท่านก็รู้หนังสือน้อย รู้บาลีน้อย
แต่ท่านก็เข้าใจธรรมะที่แท้จริงได้
ไม่ใช่เข้าใจจากการได้รับรู้รับฟังจากคนอื่น หรือคิดวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ
แต่ด้วยการลงมือฝึกฝนแล้วพบเจอของจริงด้วยตัวเอง
ในแนวทางนี้ จึงไม่เน้นทฤษฎีอะไรมากนักครับ
เน้นการลงมือฝึกฝนอย่างถูกต้องต่อเนื่อง
คหสต. ของผู้จัดทำ คือ เราไม่ได้ต่อต้านการเรียนรู้ภาคทฤษฏี ปริยัติ ฯลฯ
แต่ละท่านก็ต้องหา "ความพอดี" ในชีวิตตนเองว่า เรียนรู้ภาคทฤษฎีมากแค่ไหน
จึงจะพอทำให้เข้าใจ ทำให้เกิดศรัทธา แล้วเอาไปลงมือฝึกฝนได้อย่างถูกต้อง
ถ้าเรียนรู้ทฤษฎีมาเยอะ แล้วแบกไว้เยอะ ปล่อยวางได้ยาก แล้วปรุงแต่งเก่ง
ชอบเอาสิ่งที่รู้มาคิด บางทีก็สับสน
"ทฤษฏีนั้นบอกอย่างนี้ แต่ครูอาจารย์ท่านนี้สอนอีกอย่าง... ฯลฯ"
บางทีสิ่งที่รู้มาเยอะแยะมากไปก็ขัดแย้งกันในใจ...ฯลฯ
Keyword หรือคำสำคัญ อันนึง ที่คิดว่าเหมาะกับ "มือใหม่"
หรือเหมาะกับชาวพุทธทุกท่าน จึงเป็นคำว่า "ความพอดี" ครับ
แต่ละท่านต้องลองหา "ความพอดี" ของตัวเองในทุกเรื่องของการใช้ชีวิตและการปฏิบัติธรรมครับ
"การรู้ซื่อๆ รู้เฉยๆ" ตามแนวทางนี้
จึงเป็นการกลับสู่สภาพปกติของจิตใจ ปล่อยวางสารพันการยึดติด การปรุงแต่ง
การยินดียินร้ายทั้งปวง แล้วเอาใจกลับมาสู่ความเป็นปกติ ความเป็นกลาง
แค่กลับมารู้สึกตัว มารู้ซื่อๆ เฉยๆ กับทุกสิ่งที่มากระทบกายและใจ
ซึ่งการรู้ซื่อๆ รู้เฉยๆ หรือการไม่ปรุงแต่งต่อเติม ไม่ไหลไปกับความคิด ฯลฯ
มันจะเกิดขึ้นได้ก็ต้องฝึกฝนอย่างถูกต้องและต่อเนื่องเพียงพอ
และมันไม่ได้ใช้ความรู้ภาคทฤษฎีอะไรมากมาย แต่เน้นภาคปฏิบัติมากกว่าครับ
เณรน้อยในกรณีนี้ ก็คงประมาณนี้ครับ เปรียบเป็นแก้วน้ำที่ว่างเปล่า
หรือน้ำในแก้วมีอยู่น้อย
ก็จะใส่น้ำใหม่ๆ ได้เยอะ ได้ง่ายกว่าครับ
เขียนมาซะยาว 55 แต่ยินดีที่ได้สนทนาด้วยครับ
เราเป็น "มือใหม่" เช่นกัน ก็ส่งกำลังใจให้กันครับ
มารู้จักกันหน่อยไหม
ปล. ผู้จัดทำฯ ก็ทำงานในอาชีพที่ปรุงแต่งเก่งครับ
สำหรับเรา ในการปฏิบัติธรรม การรู้เยอะไปมากไป ยิ่งทำให้ปรุงแต่งเยอะครับ
คือ คนปกติก็มีการปรุงแต่งเรื่องทั่วไปเยอะอยู่แล้ว
แต่พอมาปฏิบัติธรรม ถ้าแบกเอาสิ่งที่รู้เกี่ยวกับหัวข้อธรรมะ หรือทฤษฎี
หรือปริยัติมาไว้เยอะ
..เวลาฝึกฝนไป ก็อดคิดสงสัยจิปาถะไม่ได้ ฝึกไปก็สับสนไปบ้าง
เพราะเอาภาคทฤษฎี หรือสิ่งที่ได้อ่านได้ฟังมาคิดวิเคราะห์
เปรียบเทียบว่าตัวเองฝึกถูกหรือฝึกผิด
บางทีก็เปรียบเทียบข้อมูลจากตำราโน้น ทำไมไม่ตรงกับตำรานี้
หรือครูอาจารย์ท่านโน้น ทำไมอธิบายไม่ตรงกับอีกท่านนึง
ใครสอนผิด ใครสอนถูก ??? .. ฯลฯ สารพันการคิดฟุ้ง การปรุงแต่งต่างๆ นาๆ
แนวทางหลวงพ่อเทียน จึงเป็นแนวทางที่เราคิดว่าเหมาะกับเรา
และหลายท่านที่ไม่ต้องรู้มาเยอะ
มีความรู้ธรรม รู้ปริยัติมาน้อย ก็ไม่เป็นไร
เพียงหาความรู้พื้นฐานบางอย่างมาเพิ่มเติมเล็กน้อย
ก็เพียงพอต่อการที่จะเข้าใจวิธีการฝึกฝนได้
แต่สำหรับท่านที่ "รู้มาเยอะแล้ว" รู้ทฤษฎี รู้ปริยัติ รู้บาลี
หรือรวมทั้งฝึกฝนมาแล้วหลายวิธี กับหลายครูอาจารย์
เราก็ไม่คิดว่า มันเป็นปัญหาใหญ่เกินกว่าจะลองมาฝึกแนวทางของหลวงพ่อเทียนได้ครับ
ครูอาจารย์ในแนวทางหลวงพ่อเทียนหลายท่าน
มีทั้งเคยเรียนรู้ขั้นสูงในด้านทฤษฏี
หรือบางท่านก็เคยฝึกมาแล้วหลายรูปแบบ
หรือบางท่านเคยเรียนวิชาเกี่ยวกับคาถาอาคม ก็มี
แต่ก็สามารถมาเรียนรู้และก้าวหน้าได้ในแนวทางของหลวงพ่อเทียนครับ
สรุปว่า คนปกติทั่วไป เมื่อรู้เยอะ ก็มีเรื่องให้ปรุงแต่งเยอะครับ เป็นเรื่องธรรมดา
แต่ถ้าฝึกฝนเจริญสติจนพัฒนาไปเรื่อยๆ
"จะรู้มาเยอะหรือน้อยแค่ไหน? อย่างไร? ..เราก็จะมีสติ มีปัญญา
ที่จะเลือกใช้ความรู้ที่มีอย่างเหมาะสม พิจารณาได้ว่า ความรู้อะไรเป็นประโยชน์ต่อเรื่องใด
หรือเลือกที่จะปล่อยวางสิ่งที่ไม่จำเป็นลงไปได้" สู้ๆ ครับ
น้อมกราบสาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ
สาธุครับ
ท่านให้กำลังใจในการปฏิบัติได้มากๆ..
สาธุครับ
สาธุครับ.🙏
สาธุครับ
🙏
สาธุค่ะ
สาธุค่ะ
🙏🙏🙏🙏
สาธุครับ
สาธุครับ
น้อมกราบพ่อแม่ครูอาจารย์ด้วยเศียรเกล้า
สาธุครับ
ลงมือทำ
กราบสาธุหลวงพ่อ🙏🙏🙏
🙏🙏🙏น้อมกราบสาธุเจ้าค่ะ
น้อมกราบสาธุเจ้าค่ะ
สาธุสาธุครับ
น้อมกราบสาธุ สาธุ สาธุครับ 🙏🙏🙏
สาธุครับ
กราบสาธุ🙏🙏🙏
สาธุสาธุสาธุค่ะ
สาธุครับ
🙏🙏🙏
สาธุ...ครับ
สาธุครับ
กราบสาธุในธรรมคำสอนขององค์หลวงพ่อด้วยความเคารพอย่างสูงเจ้าค่ะ
สาธุค่ะ
กราบสาธุๆๆเจ้าค่ะ
สาธุครับ
สาธุ...ครับ
สาธุค่ะ
กราบนมัสการหลวงพ่อด้วยความเคารพสูงสุด
น้อมกราบสาธุเจ้าค่ะ🙏🏼🙏🏼🙏🏼
อนุโมทนาสาธุธรรมและขอบคุณผู้จัดทำฯด้วยครับ