พื้นฐาน 08 สรุป ความลับ❗️เดาฉลากสกินแคร์ ให้ได้ความสตรอง ฉบับเภสัชกร | Chemistly
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 30 มิ.ย. 2024
- Disclamer
ผมเป็นเภสัชกร (Pharmacist) ไม่ใช่แพทย์ผิวหนัง (Dematologist) การใช้ผลิตภัณฑ์เฉพาะด้าน ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยเฉพาะยาอันตราย เภสัชกร (Pharmacist) ทำหน้าที่เพียงช่วยคัดกรองผลิตภัณฑ์สุขภาพเบื้องต้นให้ประชาชนอย่างเหมาะสมเท่านั้น และดูแลผู้ที่มีปัญหาผิวระดับไม่รุนแรงเท่านั้น นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ที่ตนเองนำมาประกอบคลิป อาจมีสูตรตำรับไม่ดี มีจุดต้องกังวล หรือเป็นเพียงผลิตภัณฑ์จากผู้ใช้คนอื่น ไม่สามารถนำมาอ้างอิงซื้อตามได้ เนื่องจากสภาพหน้าแตกต่างกัน หากนิยาม ใช้ศัพท์ไม่ตรง คลุมเครือ ขออภัย แพทย์ เภสัชกร ผู้ที่เกี่ยวข้องท่านอื่นมา ณ ที่นี้
ผมมี Fb page เกี่ยวกับสกินแคร์ ติดตามได้ที่
👉 / gotinon
00:00 intro
00:45 การอ่านและเดาฉลากสำคัญอย่างไร?
02:40 กลีเซอรีน
04:01 ดูTop 10 หรือ Top 5
06:00 สารกันเสีย
08:51 สารก่อเจล&สารเพิ่มความหนืด
09:52 วิตามินอี
10:19 ความลับการเรียงส่วนผสม
14:40 สรุป
15:10 ปิดคลิป
หมายเหตุ
คลิปนี้ผมอาจอ่านออกเสียงผิด ขออภัยในการ pronounce เสียงรบกวนจากธรรมชาติ รวมถึงข้อผิดพลาดด้านการพิมพ์เพราะพิมพ์ในมือถือ
แหล่งอ้างอิง
Paula's Choice database
Incidecoder.com
Related studies
ข้อจำกัดของกฏ กฎทุกกฎมีข้อยกเว้น
1. อนุมานว่าสารทุกตัวเรียงจากมากไปน้อย
2. สูตรที่ส่วนผสมไม่เกิน 10 ตัวเดายากมาก
3. หากไม่อยากคาดเดาควรโทรถามบริษัท
4. กฏทุกกฎไม่ได้มีความแม่นยำ 100% เพียงช่วยให้ผู้บริโภคคัดกรองสูตรตำรับ และมั่นใจก่อนควักเงินจ่ายเท่านั้น
หากข้อมูลผิดพลาดคลาดเคลื่อนประการใดสามารถแลกเปลี่ยนกันได้เลยครับ
#เภสัชกร #อ่านฉลาก #chemistly
สรุป สารบอกใบ้ แบบง่ายๆ
1. สกินแคร์ทั่วไปดูที่ Top 10 เซรั่ม ดูที่ Top 5 เพราะมีโอกาสเรียงตามความเข้มข้นมาก ไปหาน้อยสูงมากๆ (Top5,10 ยังช่วยบอกลักษณะเนื้อผลิตภัณฑ์ซึ่งจะพูดในประเด็นพื้นฐานเรื่องมอยเจอร์ไรเซอร์ภายหลังต่อไป)
2. สารกันเสีย ได้แก่ Methyparaben,Propylparaben,Phenoxyethanol,Chlorphenesin ให้เดาไปเลยว่า 0.5% จะได้ไม่งง
3. สารเพิ่มความหนืด สารก่อเจล เช่น acacia, พวกลงท้ายด้วย -gum, carrageenan, carbomer ส่วนใหญ่นิยมใส่มา 0.5% กรณีผลิตภัณฑ์เนื้อเหนียว หนืด มากอาจเดาสูงถึง 1-2% แต่พบน้อยมาก
4. คำใบ้อื่นๆ เช่น วิตามิน อี ส่วนใหญ่ใส่มา 0.5%
5. Disodium EDTA 0.1-0.2% (ตัวนี้ผมไม่พูดเพราะจะทำให้งง และสร้างความสับสนในการประเมิน ลำดับจะอยู่ท้ายสุด ingredient list หรือกระโดดสลับมาก่อนสารกันเสียก็ได้)
👉ปริมาณสารที่น่าสนใจ พบบ่อยในเทรนด์ปัจจุบัน โดยผมได้ให้ความเข้มข้นที่ควรมีเพื่อออกฤทธิ์ได้ และนิยมใส่ในสกินแคร์ทั่วไป
(อาจพบ % มากน้อยกว่านี้ได้ในชีวิตจริง)
1.กลุ่มสาร active ที่ผมสนใจมากๆ
-Niacinamide (วิตามินบี 3) 2-5% อาจสูงถึง 10% แต่แนะนำที่ 4-5%
-L-ascorbic acid 5-15% แนะนำที่ 10-15%
-Ethy ascorbic acid 1-10%
-Ascobyl palmitate 1-8%
-Ascobyl glucoside 2-10%
-Magnesium ascobyl phosphate 0.5-10%
-Tetrahexy ascorbate 1-10%
-Capryloyl salicylic acid (LHA) 0.5-2%
-Salicylic acid (BHA) 0.5-2%
-Glycolic acid (AHA) 5-10% แนะนำที่ 5%
-Mandelic acid (AHA) 6%
-Retinol 0.05-1% แนะนำช่วงความแรงปานกลาง 0.03-0.3%
-Retinaldehyde (Retinal) สูงถึง 0.1%
-Bakuchiol 0.5-2%
2. กลุ่มสารที่ผมสนใจเพิ่มเติม
-ไฮยารูลอน 0.2-2%
-ZincPCA 0.1-1%
-Dl-panthenol (โปรวิตามินบี 5) 1-5%
-Betaine 1-8%
-allantoin 0.5-2%
-adenosine 0.1-1%
-alpha-glucan Oligosaccharide 0.25-3%
-Ectoine (ectoin) 0.5-5% แนะนำ 1-2%
- Bisabolol (น้ำมันดอกคาโมมายด์)
ฮรืออออ ชอบคลิปนี้มาก ขอบคุณมากๆเลยนะค้าาา🙏🏼🧴🌷🌈 ทำงานหนักรักษาสุขภาพนะคะ
จะพยายามครับ strees เป็นแรงต้านกับ ครีม anti aging ที่ดีมาก 555