ปรัชญาปารมิตาสูตร - อ.ประมวล เพ็งจันทร์ (ตอนที่ 1/4)
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 20 ก.พ. 2019
- เหตุใดอาจารย์ประมวล เพ็งจันทร์ จึงปรารถนาที่จะเขียนหนังสือ ปรัชญาปารมิตาสูตร เพื่อแจกในงานศพ?
ถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่พวกเราจะได้ฟังทั้งเนื้อหา และความหมายที่สำคัญต่อใจของอาจารย์ประมวล ที่มีต่อพระสูตรนี้ จากการบอกเล่าของอาจารย์โดยตรง
_
ภาพจากกิจกรรม จุดเล็กๆ Body & Mind by Parn
หัวข้อ “ปรัชญาปารมิตาสูตร” โดย อาจารย์ประมวล เพ็งจันทร์
บันทึกวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2562
ณ อาคารปฏิบัติธรรม โรงเรียนอุดมศึกษา ลาดพร้าว
จัดกิจกรรมและดำเนินรายการโดย
จุดเล็กๆ Body & Mind by Parn
/ parn.supawan.5
บันทึกภาพและเสียง
กิตติกร วรวิทยาการ - hmorroll Film Production
เรียนอาจารย์ประมวลครับ
ผมได้อ่านหนังสือเดินสู่อิสรภาพ หลายรอบ
ครั้งแรกที่อ่าน มีความคิดว่าเป็นหนังสือสร้างแรงบรรดาลใจที่ดีเล่มหนึ่ง
ครั้งต่อต่อมา หยิบอ่านเนื่องจากอยากรับรู้ รู้สึกในกระแสเมตตาของเพื่อนร่วมโลก
ครั้งล่าสุด ที่อ่านถึงตอนที่ อาจารย์กล่าวถึงขณะเดินผ่านอุทยานแห่งชาติออบหลวง ตอนต่อเนื่งจากเกตุการณ์ที่อาจารย์บรรยายในคลิปนี้ และได้พบเห็นความเกี่ยวเนื่องกันของธรรมชาติ...หนอนที่เป็นอาหารของมด... น้ำตาไหลออกมาเอง แบบอาบแก้มเลยครับ
ดีใจที่ได้ฟังคลิปการบรรยายนี้ และได้ร่วมสัมผัสความไม่ธรรมดาของพระสูตร ผ่านตัวอักษรของอาจารย์ ทำให้พบคำพบเหตุที่ทำให้น้ำตาไหล ครับ
เป็นประสบการณ์ที่ทรงคุณค่า ให้อนุชน ญาติธรรมผู้ศึกษาหลักปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตรอยู่ ได้เข้าใจความหมายได้ยิ่งๆขึ้นไปครับ
อนุโมทนาสาธุ
อนุโมทนาสาธุๆๆค่า
ความจริงท่านไม่ควรนำสิ่งหรือเทพของนอกศาสนามากล่าวถึงเปรียบเทียบ อาจจะองค์เดียวกันหรือไม่
ผมว่าไม่ควรเพราะควรกล่าวถึงองค์แม่ปรัชญาก้อองค์เดียวพอครับ
เช่นกันเคยส่งพ่อแบบนี้เหมือนทา่นและส่งสามีทุกวันก็ฟังเสมอและภาวนาไปด้วยและฟังบทแปลเว่ยลางค่ะ
สาธุๆ
ผมพูดงี้.. สรุปความได้.ในรู้ไดีดียิ่ง..ในหน้าที่ท่าน..ต้องควรทำใัห้ดีที่สุด.ช่วยผมได้พูดกันงี้ได้.ผมก้อมีหน้าที่ผม.แค่รู้นี้ทะลุ..ในทุกๆมิติได้.ในกาลนี้.ในหน้าที่.ที่รับผิดชอบได้.นะครับได้.มั้งครับ.เร่งทำกันแค่นั้นได้..
ขอบคุณครับ
อยากรบกวนขอลิ้งค์มนต์ที่อาจารย์ใช้เปิดก่อนเริ่มสนทนาหน่อยครับ❤❤
สาธุๆๆ
กราบขอบพระคุณอาจารย์ครับ การบรรยายของอาจารย์มีประโยชน์กับผมมากครับ
กราบสาธุๆๆๆค่ะอาจารย์
กราบสาธุคะท่าน🙏💮
สาธุๆๆๆ
สาธุครับ ว่าด้วยการไม่มี แม้แต่ปรัชญาปารมิตาสูตร ก็ไม่มีเช่นกัน
พยายามถอดคำพูด แต่บางคำหาที่อ้างอิงไม่ได้ อาจมีความผิดพลาดขึ้น ขออภัย
ปรัชญาปารมิตาสูตร: อ.ประมวล เพ็งจันทร์
ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร ขอนอบน้อมแด่พระแม่ปรัชญาปารมิตาพระพุทธมารดา ข้าพเจ้าได้สดับมาดังนี้
สมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ประทับอยู่ ณ เขาคิชฌกูฏ ใกล้กรุงราชคฤห์ พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่และพระโพธิสัตว์จำนวนมาก
ก็ในสมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าครั้นตรัสแสดงธรรมโดยปริยายแล้ว ได้ทรงธำรงอยู่ในสมาธิชื่อว่าคำภีร์รโอภาส
ณ เวลาเดียวกันนั้นแล พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรผู้ทรงคุณอันประเสริฐ พระผู้เป็นมหาสัตว์ และบำเพ็ญอยู่ซึ่งปรัชญาปารมิตาภาวนาอันละเอียดลึกซี้ง
จนหยั่งลงเห็นขันธ์ทั้งห้าโดยสภาวะแห่งความหมายอันเป็นศูนย์
ขณะนั้นแลด้วยพุทธานุภาพแห่งพระองค์ ได้ดลบันดาลให้พระสาลีบุตรกล่าวถามพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ผู้ทรงคุณอันประเสริฐว่า หากแม้นมีกุลบุตร กุลธิดา ผู้ใดปรารถนาความรู้แจ้ง ประสงค์จะภาวนาปรัชญาปารมิตาอันลึกซึ้งนี้ เธอผู้นั้นพึงฝึกฝนภาวนาอย่างไร?
พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรผู้ทรงคุณอันประเสริฐ พระผู้เป็นมหาสัตว์ ได้กล่าวตอบพระสาลีบุตรว่า
ท่านสาลีบุตร หากกุลบุตร กุลธิดาผู้ใด ปรารถนาความรู้แจ้ง ประสงค์จะบำเพ็ญปรัชญาปารมิตาภาวนาอันลึกซึ้งนี้ เธอผู้นั้นพึงฝึกฝนภาวนาให้เกิดญาณ
หยั่งเห็นขันธ์ทั้งห้าเป็นสภาวะแห่งความหมายอันเป็นศูนย์
ท่านสาลีบุตร รูปนี้มีความหมายเป็นศูนย์ ความเป็นศูนย์นั้นแลปรากฎเป็นรูป รูปมีค่าไม่ต่างไปจากความเป็นศูนย์ และความเป็นศูนย์มีค่าไม่ต่างจากความเป็นรูป
รูปเป็นเช่นไร ศูนย์เป็นเช่นนั้น ศูนย์มีความหมายอย่างไร รูปก็มีความหมายอย่างนั้น
เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ก็เป็นเช่นเดียวกันนั้นแล
ท่านสาลีบุตรสังขตธรรมทั้งปวง มีความหมายเป็นศูนย์ คือ ไม่มีเกิดขึ้น ไม่มีดับไป ไม่มัวหมอง ไม่ผ่องแผ้ว ไม่พร่อง ไม่เต็ม
ท่านสาลีบุตรเพราะเป็นเช่นนี้แล ในสุญญตาวิหารธรรมนั้น จึงไม่มีรูป ไม่มีเวทนา ไม่มีสัญญา ไม่มีสังขาร ไม่มีวิญญาณ ไม่มีตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
ไม่มีรูป เสียง กลิ่น รส กายสัมผัส ธรรมารมณ์ ไม่มีจักษุธาตุ ไปจนถึงไม่มีมโนวิญญาณธาตุ ไม่มีวิชชาและไม่มีอวิชชา ไม่มีความแก่และความตาย ไม่มีทุกข์
สมุทัย นิโรธ และมรรค ไม่มีญาณ ไม่มีการบรรลุและไม่มีการไม่บรรลุ
ท่านสาลีบุตร เพราะพระโพธิสัตว์ธำรงอยู่ในสุญญตาวิหารธรรมเช่นนี้แล จิตจึงปราศจากธรรมอันเป็นเครื่องห่อหุ้ม และเมื่อจิตปราศจากธรรมอันเป็นเครื่องห่อหุ้ม
จึงไม่มีความวิปลาสอันเป็นเหตุให้เกิดความหวั่นไหว หวาดกลัว ถึงแล้วซึ่งนิพพานอันมั่นคง
พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ในกาลทั้งสาม เมื่อบำเพ็ญได้สมบูรณ์แล้วซึ่งปรัชญาปารมิตา จึงได้บรรลุถึงอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ เพราะฉะนั้นกุลบุตร กุลธิดา
ผู้ปรารถนาความรู้แจ้ง พึงรู้เถิดว่าปรัชญาปารมิตานี้ เป็นมหามนตรา เป็นมหาวิชชญามนตรา เป็นอนุตรมนตรา เป็นมนต์อันไม่มีมนต์อื่นใดเสมอเหมือน เป็นมนต์แห่งความเป็นจริงอันไม่ผิดพลาดคลาดเคลื่อน ที่สามารถดับสลายทุกข์ทั้งปวงได้ ดังนั้น จงบริกรรมภาวนาบทมนต์แห่งปรัชญาปารมิตานี้ว่า "โอม คเต คเต ปารคเต ปารสังคเต โพธิสวาหา"
ท่านสาลีบุตร พระโพธิสัตว์ผู้หวังรู้แจ้ง พึงบำเพ็ญปรัชญาปารมิตาภาวนาอย่างนี้แล
ลำดับนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงออกจากคำภีร์รโอภาสสมาธิและได้สดับ ได้ประธานสาธุการแก่พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรว่า สาธุ สาธุ ชอบแล้ว ถูกแล้ว กุลบุตร กุลธิดา
ผู้หวังรู้แจ้ง พึงบำเพ็ญภาวนาปรัชญาปารมิตาอย่างนี้แล พระตถาคตเจ้าทั้งหลายย่อมอนุโมทนาสรรเสริญ ความหมายที่ท่านยกขึ้นมาแสดงไว้ดีแล้วนี้
เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้ามีพระดำรัสจบแล้ว พระสาลีบุตร พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร พุทธบริษัททุกหมู่เหล่า พร้อมทั้งมนุษย์ เทวดา อสูร ครุฑ คนธรรพ ต่างมีจิตเบิกบาน
ชื่นชมพุทธภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยประการฉะนี้
🙏❤️
ขอบคุณมากๆครับสำหรับสาระดีๆครับ
กราบขอบพระคุณคะอาจารย์🙏🙏🙏
กราบขอบคุณท่านอาจารย์ค่ะ
อนุโมทนาสาธุด้วยนะครับ
ขออนุโมทนาด้วยค่ะ..สาธุ..สาธุ..สาธุ..
สาธุ สาธุ สาธุ
กราบขอบพระคุณอาจารย์ค่ะ /\ ขอขอบพระคุณทีมงานทุกๆท่านที่มีส่วนในการเผยแพร่การบรรยายนี้ค่ะ
🙏🙏🙏🙏🙏
ทุกคนล้วนมีสภาวะอันบริสุทธิ์กันทุกคน
โอวว!?!ผู้บรรลุมีอยู่จริงด้วยบางคอมเม้นท์😵
น่าเสียดายที่ได้เคยศึกษาศาสนาพุทธที่ประเทศอินเดีย และเคยศึกษาพุทธกับหลวงพ่อพุทธทาส แต่คงไม่เข้าใจถึงปรัชญาพุทธที่บอกว่า ชีวิตเกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไป ไม่ควรยึดมั่น ถือมั่น ควรปล่อยว่าง ไม่ควรปล่อยให้กิเลสพาไป ไม่ทราบว่าเข้าใจหรือเปล่า ความจริงควรปล่อยให้เป็นธรรมชาติ เพียรแต่รู้ตัวตลอดเวลา อย่าไปหลงยึดติด การเดินตัวสู่อิสระภาพก็ไม่มีความจำเป็น นอกจะเดินและกำหนดลมหายใจ พุทเข้า โธออก ตลอดเวลาจะดีกว่า นอกเสียจากว่าจะให้คนชมเชยในความเพียงเท่านั้น หรือจะเดินเพื่อการออกกำลังกายก็อีก
เรื่องหนึ่ง ผมไม่เข้าใจว่า ทำไม่คุณถึงยึดพิธีกรรมมากจริง ความจริงไม่จำเป็นเลย ท่องแค่บทสวดอิติปิก็พอ กำหนด.ลมหมายใจพุทโธๆๆก็พอ เพียงแต่ให้รู้
เท่าทันทุกลมหายใจ ก็พอ เท่าที่สังเกตุชาติก่อนคุณคงได้เกิดเป็นชาวอินเดียและคงนับถือศาสนาพราหมฌ์ คงไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ ชาตินี้เลยรู้พุทธ
น้อย สังเถตุจากพูดจาและความไม่เข้าใจในเนื้อหาที่พุทธทาสได้สอนไว้
การค้นหาความหมายของชีวิตจึงมักจะเพี้ยนไป โอ้ น่าเสียดายจริงหนอ!
Bodee Navawongs คุณน่านะเข้าใจประเด็นการเดินผิดนะครับ ในตอนนั้นการไปเรียนถึงต่างประเทศของ อ.หรือจากตำราต่างๆ มันเป็นแค่ความรู้ระดับปัญญา มันใช้วิธีการคิดการวิเคราะห์ ไม่ใช้ความรู้ระดับจิต. ดังนั้นการเดินทางจึงเป็นไปเพื่อ ค้นหาความหมายบางอย่าง ของจิต ตลอดเวลาที่เกินทาง อ.ก็บอกถึงความสภาวะต่างๆของจิตที่เจอไปในแต่ละบริบท หรือในช่วงเวลานั้นๆ ดังนั้นถ้าหากตีความของคุณต่อการการเดินทางเพียงเพื่อให้คนชื่นชมความเพียร แต่เริ่มคิด ก็หลงทางเสียแล้ว ยิ่งการกล่างอ้างถึงอดีตชาติก่อนเป็นเช่นไร ยิ่งแสดงเห็นชัดเลยว่าคุณเองยัง ยึดมั่นถือมั่นแม้แต่เรื่องซึ่งเป็นเหตุที่พิสูจน์ไม่ได้เสียด้วยซ้ำ อิติปิโสลมหายใจ ก็เป็นดั่งฟองน้ำ ความฝัน มายา สลายเสียเถิดครับ
รู้ไม่จริง คืออวดรู้ รู้จริงคือไม่พูด
Aonyoo Weerayut ขออภัย ไม่มีท่านผู้ใดรู้จริงเท่าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของพวกเรา และก็ไม่มีผู้ใดพูดมากเท่ากับพระองค์ท่านแล้ว อย่าไปยึดกับคำกล่าวของหลวงปู่ท่านหนึ่งที่ว่า ผู้รู้นิ่งเป็นใบ้ อนึ่ง ข้อเขียนนี้ไม่ได้ว่า คุณBodee Navawongs เป็นผู้รู้ ที่เขียนวิจารณ์มาแสดงถึงความไม่รู้. คนนิ่งในโลกนี้มีอยู่2ท่าน คือหนึ่งนั้นกลัวว่าจะพูดผิด อวดความโง่ และท่านที่สองนิ่งเพราะพูดไป คนฟังก็ไม่เข้าใจ นิ่งเสียดีกว่า
Yuttapong Wongchai
การแสดงความคิดเห็นของคุณ แสดงว่าการศึกษาธรรมชาติของพุทธศาสนาไม่ลึกซึ้ง ยิ่งถ้าอ้างว่าต้องการพิสูจน์หาความจริง แสดงว่ายิ่งยึดแนววิทยาศาสนย์ อย่างเดียว แต่ตาบอดทางธรรมชาติของพุทธ ยิ่งไม่เชื่อเรื่องการสวดมนต์บทอิติปิโสแล้ว ก็คงไม่ใช่ชาวพุทธ และเชื่อได้ว่ายังไม่เข้าใจการนั่งสมาธิและวิปัสนาอย่างเพียงพอ นอกจากนั้นก็คงเข้าใจว่าศีล 5 ไม่จำเป็นอีกด้วย 5 5 5 เป็นเรื่องปัจจตังครับ รู้ได้เฉพาะตนครับ บอกกันไม่ได้ครับ 5 5 5 อามิตาพุทธ
คนเราป่วยต้องรักษาเพราะต้องการให้หายเป็นปกตินั่นคือจุดหมายเดียวกัน ความป่วยทำให้เกิดทุกข์นั่นคือสิ่งที่เหมือนกัน แต่สิ่งที่ไม่เหมือนกันคืออาการป่วย วิธีการรักษา คนรักษา ยารักษา ศาสนาเราเป็นศาสนาแห่งการแนะนำไม่ใช่มาชี้หน้าด่าบังคับกันเข้าใจตรงนี้ไว้ก่อนก็ดีนะ
อา
มิ
ตา
พุทธ
เจ้าค่ะ
ขอพระเจ้าฯอวยพระพรเจ้าค่ะ อามีน อามืน อามีน