ศีลพระมีอะไรบ้าง? (๑๒) ปาจิตตีย์ ๖.สุราปานวรรค โดยพระมหาภาคภูมิ สีลานนฺโท

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 17 พ.ย. 2024

ความคิดเห็น • 4

  • @MahaSilananda
    @MahaSilananda  6 ปีที่แล้ว +2

    #วินิจฉัยเรื่องการไม่เอื้อเฟื้อเมื่อถูกตักเตือน
    ในเรื่องนี้ พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติสิกขาบทไว้ว่า
    อนาทริเย ปาจิตฺติยํ.
    เพราะการไม่เอื้อเฟื้อ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
    (อนาทริยสิกขาบท สิกขาบทที่ ๔ ของสุราปานวรรค)
    มีคำอธิบายตามลำดับดังนี้
    คำว่า #เพราะการไม่เอื้อเฟื้อ (อนาทริเย) ได้แก่ เพราะทำการไม่เอื้อเฟื้อบุคคลหรือธรรม (กงฺขา.อฏฺ.)
    บรรดาการไม่เอื้อเฟื้อ ๒ อย่างนั้น
    ภิกษุใดถูกอุปสัมบัน (คือภิกษุ) ตักเตือนด้วยพระบัญญัติ ทำการไม่เอื้อเฟื้อด้วยกล่าวว่า “ผู้นี้ถูกสงฆ์ลงอุกเขปนียกรรม ถูกสงฆ์ดูหมิ่น หรือถูกสงฆ์ตำหนิ คำพูดของผู้นี้ไม่น่าทำตาม” ภิกษุนี้ชื่อว่า #ทำการไม่เอื้อเฟื้อในบุคคล
    ส่วนภิกษุใดถูกอุปสัมบันตักเตือนด้วยพระบัญญัติ ทำการไม่เอื้อเฟื้อด้วยกล่าวว่า “ทำอย่างไร ธรรมข้อนี้จะพึงเสื่อม พึงสูญ หรือพึงอันตรธานไปได้” หรือว่าเธอไม่ประสงค์จะศึกษาพระบัญญัตินั้น จึงทำการไม่เอื้อเฟื้อ ภิกษุนี้ชื่อว่า #ทำการไม่เอื้อเฟื้อในธรรม (กงฺขา.นวฏี. ๔๒๗)
    เพราะเหตุนั้น ภิกษุใดถูกอุปสัมบันตักเตือนด้วยพระบัญญัติ ทำการไม่เอื้อเฟื้อคำของอุปสัมบันนั้นเพราะไม่ประสงค์จะทำ หรือทำการไม่เอื้อเฟื้อธรรมนั้นเพราะไม่ประสงค์จะศึกษา ในเพราะความไม่เอื้อเฟื้อนั้น ภิกษุนั้นต้องอาบัติปาจิตตีย์
    #จำแนกอาบัติ
    - ภิกษุตักเตือนด้วยพระบัญญัติ ไม่เอื้อเฟื้อ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
    - *อนุปสัมบัน (สามเณรหรือคฤหัสถ์) ตักเตือนด้วยพระบัญญัติ ไม่เอื้อเฟื้อ ต้องอาบัติทุกกฏ
    - เมื่อภิกษุถูกอุปสัมบันหรืออนุปสัมบันกล่าวตักเตือนด้วยเรื่องที่ไม่ใช่พระบัญญัติ โดยนัยว่า “สิ่งนี้ไม่เป็นไปเพื่อความขัดเกลา” เป็นต้น แม้ในเพราะการไม่เอื้อเฟื้อ ก็ต้องอาบ้ติทุกกฏทีเดียว
    #อนาบัติ (เหตุที่ทำให้ไม่ต้องอาบัติ)
    ภิกษุต่อไปนี้ไม่ต้องอาบัติ คือ
    ๑. ภิกษุผู้เรียนมาตามประเพณีแล้วกล่าวว่า “อาจารย์ของพวกเราเรียนกันมา สอบถามกันมาอย่างนี้”
    ๒. ภิกษุวิกลจริต
    ๓. ภิกษุต้นบัญญัติ (คือ พระฉันนะ)
    [คำว่า #มาตามประเพณี หมายถึง มาตามลำดับอาจารย์มีพระมหากัสสปะเป็นต้นตั้งแต่กาลแห่งสังคายนา
    แต่ถ้าภิกษุยึดถือการเรียนของอาจารย์ที่น่าตำหนิ (คืออาจารย์ที่วินิจฉัยวินัยตามความเห็นตนโดยไม่มีหลักการ) แล้วกล่าวว่า “อาจารย์ของพวกเราเรียนกันมา สอบถามกันมาอย่างนี้” ย่อมต้องอาบัติทีเดียว (กงฺขา.นวฏี. ๔๒๗)
    ในอรรถกถามหาปัจจรีท่านกล่าวว่า
    “การเรียนของพวกอาจารย์ผู้เรียนสูตร (หมายถึง พระบาฬี) และสุตตานุโลม (หมายถึง มหาปเทส ๔ และอรรถกถา) เท่านั้น จึงจะเป็นประมาณได้, ถ้อยคำของพวกอาจารย์ผู้ไม่รู้[สูตรและสุตตานุโลม] หาเป็นประมาณได้ไม่ (วิ.อฏฺ. ๒/๔๐๗)]
    #องค์อาบัติ (คือ องค์ประกอบที่ต้องมีครบจึงจะต้องอาบัติด้วยสิกขาบทนี้)
    อนาทริยสิกขาบทนี้ มีองค์ ๒ คือ
    ๑. ถูกอุปสัมบันตักเตือนด้วยพระบัญญัติ
    ๒. ทำการไม่เอื้อเฟื้อ
    #สรุปว่า ในเรื่องการไม่เอื้อเฟื้อนี้ ไม่ว่าจะเป็นภิกษุ สามเณร หรือคฤหัสถ์เป็นผู้ตักเตือนก็ตาม จะตักเตือนด้วยสิกขาบทบัญญัติหรือตักเตือนด้วยเรื่องเกี่ยวกับธรรมมีความมักน้อยสันโดษเป็นต้นก็ตาม หากภิกษุแสดงอาการไม่เอื้อเฟื้อ คือพูดดูหมิ่นบุคคลผู้ตักเตือนหรือดูหมิ่นสิกขาบท ก็ต้องอาบัติทั้งนั้น ต่างเพียงแค่ว่าจะเป็นปาจิตตีย์หรือทุกกฏ ฉะนั้น ภิกษุจึงควรระมัดระวังในท่าทีการแสดงออกเมื่อถูกตักเตือน ซึ่งหากภิกษุวางใจไว้ก่อนแล้วว่า ผู้ตักเตือนประดุจผู้ชี้ขุมทรัพย์ให้ ก็ย่อมจะไม่โกรธและแสดงอาการไม่เอื้อเฟื้อออกไปเป็นแน่ มีแต่จะรับฟังแล้วสอบทานดูว่าที่บุคคลนั้นๆ ตักเตือน ตนได้ทำผิดจริงหรือไม่ อย่างนี้เป็นต้น
    ในคัมภีร์ขุททกนิกาย ธรรมบท (ราชเถรวัตถุ) พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
    นิธีนํว ปวตฺตารํ ยํ ปสฺเส วชฺชทสฺสินํ
    นิคฺคยฺหวาทึ เมธาวึ ตาทิสํ ปณฺฑิตํ ภเช
    ตาทิสํ ภชมานสฺส เสยฺโย โหติ น ปาปิโย.
    บุคคลพึงเห็นผู้มีปัญญาใด ซึ่งเป็นผู้หมั่นกำราบ ชี้ข้อผิดพลาด ว่าเป็นเหมือนผู้บอกขุมทรัพย์ให้, พึงคบผู้มีปัญญาเช่นนั้น ซึ่งเป็นบัณฑิต, (เพราะว่า) เมื่อคบท่านผู้เช่นนั้น จะมีแต่ความเจริญถ่ายเดียว ไม่มีความเสื่อมเลย
    จิรํ ติฏฺฐตุ สทฺธมฺโม
    ขอพระสัทธรรมจงดำรงมั่นตลอดกาลนาน
    ธมฺเม โหนฺตุ สคารวา
    ขอชนทั้งหลายจงมีความเคารพในพระธรรม
    พระมหาภาคภูมิ สีลานนฺโท

  • @sangtham1053
    @sangtham1053 6 ปีที่แล้ว +2

    สาธุ ๆ ๆ

  • @panatpong
    @panatpong 5 ปีที่แล้ว +1

    แล้วพระธุดงค์ที่ก่อกองไฟในป่าเพื่อให้แสงสว่างตอนกลางคืน สุมควันไล่ยุง ต้มน้ำดื่ม อาบัติมั๊ยครับ

  • @กริชเพชรสร้อยสูงเนิน-ด9ล

    นมัสการครับ พระอาจารย์ ผมขออนุญาติถามข้อ กัปปะพินทุผ้า หน่อยครับ คือ ผ้าบริขาร เช่น ผ้ากราบ ย่าม ผ้ารัดอก ต้องพินทุด้วยใหมครับ