รีวิว ทดลองขับ รถไฟฟ้า KIA EV5 รถเกาหลี ไส้ในจีน
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 5 ต.ค. 2024
- The Kia EV5 วางจำหน่ายในประเทศไทยถึง 4 รุ่น ได้แก่: The Kia EV5 Light, The Kia EV5 Air, The Kia EV5 Earth Long Range และ The Kia EV5 Earth Exclusive AWD ซึ่งเป็นรุ่นท็อปที่มาพร้อมการติดตั้งระบบส่งกำลังระดับสูงสุด และฟีเจอร์ชั้นนำคุณภาพดีที่สุดของเรา โดยมาพร้อมตัวเลือกระบบส่งกําลังไฟฟ้าหลากรูปแบบ โดยใน 2 รุ่นแรก คือ The Kia EV5 Light และ The Kia EV5 Air มีการติดตั้งแบตเตอรี่ขนาด 64.2 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหน้าขนาด 160 กิโลวัตต์ โดยทั้งรุ่น Light และรุ่น Air ให้ระยะทางจากพลังงานไฟฟ้าตามมาตรฐาน NEDC สูงสุดถึง 490 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง สามารถสร้างอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ภายในเวลา 8.5 วินาที ด้วยกําลังมอเตอร์สูงสุด 217 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดถึง 310 นิวตันเมตร มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว อีกทั้งยังมีฟีเจอร์มาตรฐานเพื่อความปลอดภัยมากมาย ได้แก่ ระบบเบรก ABS+EBD พร้อมระบบ Multi-Collision Brake (MCB), ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC), เซ็นเซอร์ช่วยเหลือการเข้าจอดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง, ระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่ในช่องจราจร (LFA และ LKA) ระบบป้องกันการชนด้านหน้า (FCAA) พร้อม Junction Assist และระบบควบคุมความเร็วและระยะห่างจากรถคันหน้าอัตโนมัติ Smart Cruise Control with Stop & Go โดยในรุ่น The Kia EV5 Air ยังมีระบบฟีเจอร์เพิ่มเติมอื่นๆ อาทิ ซันรูฟแบบ Panoramic, ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Electric Tailgate), ระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย (Wireless Charger) และระบบแสดงภาพรอบทิศทาง Surround View Monitor (SVM)
The Kia EV5 รุ่น Earth Long Range มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 88.1 กิโลวัตต์/ชั่วโมง และมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 160 กิโลวัตต์เช่นเดียวกับ 2 รุ่นแรก ในขณะที่ให้ระยะการวิ่งจากพลังงานไฟฟ้าตามมาตรฐาน NEDC ได้ไกลมากถึง 665 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง สำหรับ The Kia EV5 Earth Exclusive AWD ซึ่งเป็นรุ่นท็อป ติดตั้งแบตเตอรี่ขนาด 88.1 กิโลวัตต์/ชั่วโมง และมาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่ให้กําลังรวมถึง 308 แรงม้า หรือ 230 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุดถึง 480 นิวตันเมตร โดยการผสมผสานอันทรงพลังนี้ ช่วยให้รถเอสยูวีรุ่นนี้สามารถพุ่งทะยานขึ้นจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 6.1 วินาที โดยรถยนต์รุ่น The Kia EV5 Earth Exclusive AWD สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุดในระยะ 620 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน NEDC อีกทั้งยังรองรับการชาร์จไฟฟ้าแบบรวดเร็ว 141 kW (ผ่าน DC Fast Charge) โดยมีระยะเวลาในการชาร์จจาก 10% ถึง 80% ภายในเวลาเพียง 38 นาที โดยทั้ง The Kia EV5 Earth Long Range และ The Kia EV5 Earth Exclusive AWD มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว นอกเหนือไปจากระบบความปลอดภัยมาตรฐานรุ่นล่าสุดของเกียที่ติดตั้งใน The Kia EV5 ทุกรุ่นย่อยแล้ว The Kia EV5 รุ่น Earth Long Range และ รุ่น Earth Exclusive AWD ยังมีระบบความปลอดภัยเพิ่มเติม ทั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ซึ่งทำงานร่วมกับระบบป้องกันการชนขณะถอยหลัง (RCCA) ระบบป้องกันการชนจากมุมอับสายตาขณะแซง (BCAA) ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาบนหน้าจอ (BVM) ระบบ Smart Cruise Control (SCC) พร้อม Stop & Go รวมไปจนถึงระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่ในช่องจราจร (LFA และ LKA) ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่รักษาระยะห่างกับรถยนต์คันหน้าอย่างเหมาะสม ช่วยให้รถยนต์วิ่งอยู่ตรงกลางของช่องจราจร และช่วยเหลือผู้ขับขี่ขณะเปลี่ยนช่องจราจร ยิ่งไปกว่านี้ยังมีระบบช่วยเหลือเพื่อความปลอดภัยขณะลงจากรถ (Safe Exit Assist) อีกด้วย
นอกจากนี้ The Kia EV5 ยังมาพร้อมตัวเลือกการปรับที่นั่งอันหลากหลาย และวัสดุหุ้มเบาะโดยสารในรูปแบบต่างๆ ทั้งวัสดุหุ้มผ้า
รีไซเคิลจากพลาสติก PET และหนังสังเคราะห์ Bio-PU ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบสนองความต้องการของครอบครัว
ยุคมิลเลนเนียล โดยในรุ่น Earth Exclusive AWD มีเบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่แบบ Relaxation Seat ที่มาพร้อมฟังก์ชันการนวดถึง 4 รูปแบบ ระบบทำความอุ่น และระบายอากาศ 3 ระดับ รวมถึงหมอนรองน่องแบบปรับด้วยไฟฟ้า นอกจากนี้ใน The Kia EV5 รุ่น
Earth Exclusive AWD ยังมาพร้อมกับลิ้นชักอเนกประสงค์พร้อมฟังก์ชันปรับอุณหภูมิที่สามารถใช้เป็นตู้เย็น หรือตู้เก็บความร้อนสำหรับแช่เย็นเครื่องดื่ม หรือเก็บความร้อนของอาหารระหว่างการเดินทาง หรือการออกทริปแคมป์ปิ้งได้อย่างสะดวกสบาย โดยรถยนต์ The Kia EV5 ทุกรุ่นมาพร้อมแผงปิดสัมภาระอเนกประสงค์ที่สามารถปรับตั้งให้กลายเป็นโต๊ะทานข้าวสำหรับการรับประทานอาหารของสมาชิกในครอบครัวได้ทั้งแบบในรถและแบบเอาท์ดอร์ มากไปกว่านี้ ภายในห้องโดยสารของ The Kia EV5
ยังได้ระบการติดตั้งระบบอินโฟเทนเมนต์และเทคโนโลยีเพื่อการเชื่อมต่อที่ทันสมัย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกสบาย
ให้กับทุกการเดินทาง มาพร้อม ‘Panoramic Wide Display’ ประกอบด้วย หน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว, จอแสดงผลแบบคลัสเตอร์ขนาด 12.3 นิ้ว และจอแสดงผลสำหรับระบบปรับอากาศภายในห้องโดยสารขนาด 5 นิ้ว ที่ให้ข้อมูลและเนื้อหาที่ครอบคลุมแก่ผู้ขับขี่เพื่อสร้างประสบการณ์แบบอิมเมอร์ซีฟที่เหนือชั้น ด้วยเมนูคำสั่งที่ไม่ซับซ้อน ช่วยให้สามารถใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ที่เกี่ยวกับ EV ได้ง่ายยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบระยะและสถานะการชาร์จไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็วผ่านการมองเพียงครั้งเดียว
“ราคาจำหน่ายรถยนต์ The Kia EV5 ราคาพิเศษช่วงแนะนำ สำหรับผู้ที่สั่งจองภายในวันที่ 30 เมษายน พ.ศ.2567 มีรายละเอียดดังนี้ The Kia EV5 Light ราคา 1,249,000 บาท, The Kia EV5 Air ราคา 1,349,000 บาท, The Kia EV5 Earth Long Range ราคา 1,549,000 บาท และ The Kia EV5 Earth Exclusive AWD ในราคา 1,749,000 บาท ผู้ที่สั่งจองรถยนต์ The Kia EV5 ทุกรุ่นภายในวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2567 จะได้รับการรับประกันคุณภาพนานถึง 7 ปีเต็ม บริการช่วยเหลือฉุกเฉินฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี รวมถึงการรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ 8 ปี
ผมซื้อ EV9 มาใช้ ขับดีครับ แต่สิ่งหนึ่งที่รู้สึกเลยคือ ยิ่งแบตใหญ่ การเบรกยิ่งน่ากลัว คือเบรกเขาอะดีนะ แต่พอเบรกแรงๆแล้วรถมันยังไถลไปอีกเพราะน้ำหนักตัวรถนี่สิ
@@oT8o9Mo เหมาะกับลูกเล็ก(ใช้คาซีท) 2 คนมั๊ยครับ เวลาเดินทางไกล ผู้ใหญ่ 3 เด็ก 2 +สัมภาระ ลังเลมากระหว่าง ev9 กับรอ carnival hybrid
@@tlewatchanon9486 เหมาะสิคับ ดีมาก แต่มันเป็นรถไฟฟ้าก็มีข้อจำกัดที่ต้องปรับตัวอยู่ ถ้าไม่อยากปรับตัวก็ใช้ ซื้อโซเรนโต phev สิคับ ขับไฟฟ้าได้60โล ส่วน carnival เหมาะกับผดส หลายๆคน หรือครอบครัวใหญ่ หรือรับส่งพนง
th-cam.com/video/JhlH5XG0oA4/w-d-xo.html
@@tlewatchanon9486 ผมก็เดินทางผู้ใหญ่ 3 เด็ก 2 เหมือนกันครับ ลูกคนโตนั่งหลังสุดไม่ได้ใส่คาร์ซีท คนเล็กนั่งแถวกลางใส่คาร์ซีท เบาะแถวสามพับ1ข้างเพื่อให้เก็บสำภาระเพิ่มได้ ไปสบายๆครับ แต่ผมติดปัญหาอยู่อย่างคือไม่สามารถชาร์จของ EV Station Plus ได้ กี่ที่ก็ไม่ได้ ในกรุงเทพก็ไม่ได้โทรหาคอลเซ็นเตอร์เขาก็บอกว่าซอฟท์แวร์ไม่ลิ้งค์กัน ยังคงหาคำตอบและสอบถามเซลอยู่ แต่เซลก็ไม่สามารถให้คำตอบได้เช่นกัน เลยได้ชาร์จแต่ PEA Volta ซึ่งความเร็วในการชาร์จต่างจังหวัดได้แค่ 50KW จาก 30ว่าเปอร์เซ็นต์ ใช้เวลาอยู่เกือบ 2ชั่วโมงถึงเต็ม เคยมีโอกาสได้ลองขับ Carnival ตัวดีเซล ขับดีเช่นกัน แต่ไม่ชอบเพราะตอนนั้นเบาะเป็น 11ที่นั่ง นั่งไม่ค่อยสบาย ส่วนตัวยังไม่เคยขับตัว hybrid แต่รู้สึกเขามีตัว 7ที่นั่งมาขายด้วยแล้ว ผมว่าน่าจะตอบโจทย์กว่าถ้าจะไปต่างจังหวัดไกลๆ ยังไม่ได้ทดสอบระยะทางที่วิ่งได้จนแบตเกือบหมด แต่ตอนนั้นวิ่งไปโคราช ระยะทางประทาน 260กม. แบตจาก 100เปอร์เหลืออยู่ประมาน 40เปอร์ แต่ก็วิ่งทำความเร็วค่อนข้างสูงครับ แบตเลยอาจจะลดเร็วกว่าปกติ แต่บอกเลยว่าวิ่งร้อยห้ารถก็ยังนิ่ง ขับดีมาก เสียงข้างในห้องโดยสารก็เงียบ
@@planb2504 ขอบคุณครับ
ตอนแรกก็รู้สึกว้าว คิดว่าวัสดุหมือน EV9 แต่ที่ไหนได้มันลดต้นทุนทั้งคันเพื่อทำราคา(ในจีน) แต่ดันมาขายแพงในไทย คุณภาพวัสดุที่ได้ก็เลยเหมาะสมกับราคาจีน บางคนสับสนระหว่าง EV9 กับ EV5 แนะนำไปดูคันจริงก่อน ไปสัมผัสวัสดุด้านในแล้วค่อยตัดสินใจ 😀
โห ใจเย็นคับ แค่นี้ คนที่จะซื้อEV9 ก็เซ็งแล้ว EV5ได้ทั้งระบบจอหน้าคอนโซลแบบEV9 ไปเลย คนซื้อEV9 เกือบ4ล้านแต่มาใช้จอเดียวกับ EV5 แค่นี้ผมก็คิดแล้วคิดอยุ่นี่แหละ จะซื้อEV9 ดีมั้ย ผ่อนกันหัวโต
วันนี้เจอคันจริงวิ่งบนถนน สวยมากคันใหญ่จริง ชวนมองไม่เหมือนใคร
มีคนเจ็บให้ดูแล้ว รวมถึงผม
ใครจะซื้อคิดก่อนว่าควรซื้อรุ่นไหน ตอนไหน
จีนหมือนเป็นโรงงานรับผลิตที่พร้อมขายเองด้วย แบรนด์ใหญ่ไปนั่นหมดเลย
รีวิวดีมาก ลงรายละเอียดข้อมูลของรถได้ดีมากครับคุณมิน
ผมขับเส้นทาง พิษณุโลก-ลงไปแยกหนองบัว เจอ 1 คัน ตัวจริงใหญ่มาก และดูจากการวิ่ง วิ่งได้นิ่งมากบนเส้นทาง
ใหญ่มากนี่คือ รุ่น EV9 รึเปล่า เพราะรุ่นนี้มันก็พอๆกับ CRV กว้างกว่านิดนึง สั้นกว่าหน่อย ยิ่งที่บอกว่านิ่งนี่ใช่เหรอเห็นที่รีวิวส่วนใหญ่บอกยวบยาบ ถ้า EV9 นั่นนิ่งจริง รางวัลระดับโลก
ผมว่าช่องนี้ รีวิว ความรู้แน่นสุดละ
ชอบ ทั้งพี่มิน x พี่มิต ครับ ควรทำช่องออนไลน์ด้วยกันครับ เพราะลงรายละเอียดของรถได้ดีครับ เอารถมาจับนั่งคุยกันสองคนแบบนี้คลิปยาวซัก 25 นาที. หาสปอนได้ไม่ยากครับ.
รอชมรีวิวSorentoคัป จัดให้หน่อย
ราคาแรงไป สำหรับ5ที่ ถ้า7ที่นั่งน่าจะเกือบ2ล้านละมั้งหรือ2ล้าน+
กำลังรอรีวิว จากพี่อยู่เลยครับ
ทีแรก คิดจะซื้อ อีวี 9
ตอนนี้ผมหายอยากแล้ว
เบื่อพวกเกา ไม่ชอบ ไม่ซื้อ
ไม่สนับสนุน..!!!
อยากให้เปลี่ยนวัสดุเบาะ ให้ดีขึ้นอีกหน่อย (จากที่ไปลองนั่ง ลองจับแล้ว)
รอดูช่องนี้ ข้อมูลแน่นๆ
EV จะค่ายไหนก็ขอชมศึกษาก่อน ขอบคุณครับ
สัญลักษณ์รูปโทรศัพท์ควรจะเปลี่ยนได้แล้วครับ โทรศัพท์ทรงดรัมเบลแบบนี้ไม่มีใครไหนใช้แล้ว
ตอนนี้รถไฟฟ้าจีนทำเอาคนกลัวรถไฟฟ้าไปหมดแล้ว เกียอาจจะมีชื่อเสียงที่ดีกว่ารถแบรนด์จีน แต่มันมีปัญหาที่ตามมาเยอะ ชาร์จนาน ราคามือสองตกแรงมาก บริษัทประกันไม่รับ แบตเตอรี่ก็แพงมาก ส่วนตัวมองว่าอีก 10 ปี รถไฟฟ้าคงจะมั่นคงขึ้น หรือไม่งั้นก็อาจจะเปลี่ยนไปใช้ไฮโดรเจนแทน
ไฮโดรเจนริบหรี่เลยครับ ค่ายอื่นไม่สนใจเลยตอนนี้เทรนกำลังไปรถไฟฟ้าถ้าค่ายญี่ปุ่นปรับตัวช้าก็อาจเป็นแบบโนเกีย
เป็นรีวิวที่สนุกมาก ได้ทั้งความรู้และความฮ่า ชอบมาก 555
ตอนนี้กระแสพลิกเป็น "แบนเกาหลี" แล้วครับพี่มีน
ทั้งเรื่อง ตม. มาถึงเรื่อง ลิซ่า
😂😂😂
คุณก็ไปชื้อเบนล์เลย5ล้านใช้ได้1ปีขายมือ2เหลือ2ล้าน😅
ใช้ความเร็วเท่าไหร่ รถถึงเริ่มโยนครับ
Edit ได้คำตอบแล้วครับ ตอนถามยังไม่ได้ดูคลิปทั้งหมดครับ ขอบคุณครับ
ใดๆ คือ เสื้อสีสวยครับ
ขายจีน7.8แสน ขายไทย1.3ล้าน ภาษีEV0% เอาคนไปติดดอย 5แสน
ติดดอยยังไงครับ เห็นแต่ปรับขึ้นไป 5 หมื่น
@@tlewatchanon9486 น่าจะหมายถึง ดอยในเรื่องของความรู้สึก เหมือนใช้รถราคา 7.8 แสน ที่ซื้อมาในราคา 1.3 ล้าน
ดูเขารีวิว มันไม่ได้ดีเหมือนราคา
@@alongkornsansawat1685 คุณภาพไม่ต้องรอโดนเลย รถตํ่าล้านกับล้านกว่าต่างอยู่แล้ว
@@tlewatchanon9486 เดจาวูBYDตอนเปิดโชว์รูมเลย
เสียงพูดเบาไปนิดครับ ฟังไม่ชัดเลย
ตั้งราคาสูงเกิน ลองดูประวัติหากเคยเทลูกค้าไหม รถไฟฟ้า C SUV แนวโน้มไม่เกินล้าน ผมจะรออีกปี ทนใช้รถน้ำมันก่อน
เทียบกับ ora 07 performance เป็นไงบ้างครับ
ปลดเกียร์ว่าง จอดซ้อนคันได้ไหมครับ เห็น Kia บางรุ่นได้ บางรุ่นไม่ได้ครับ
อยากเห็นเทียบกับ S07
ยังถือว่าแพงอยู่😢ในความคิดของผม
ขอบคุณครับ🎉
ตัวเริ่มต้นราคาควรต่ำล้าน ตัวท็อปราคาสัก1.3ล้าน+/-กำลังสวย
ราคาในจีน 7.6 - 8.8 แสน มาไทย + 100 % เหมาะสำหรับคนฉลาดมีเงินพร้อมจ่าย 😂😂😂 ส่วนผม ผมขอไป NETA X ดีกว่า ไม่รู้สึกว่าโดนเอาเปรียบดี เหมาะกับเงินในกระเป๋า
ราคาขายในจีนใกล้เคียงกับ Atto3 เลย ราคาในไทยควรจะเท่าไหร่ ก็เทียบเอาละกัน แต่ซื้อก่อนหล่อก่อน อย่าคิดมาก555555
บวกราคาเยอะเกิน
แค่ชื่อคลิปก็เป็นการจบสรุปการรีวิวคันนี้แล้วครับ 😂
มันไม่ได้ดูดีสมราคา ดูไม่หรู วัสดุสัมผัสไม่ค่อยดี
เอามาขาย วัว
ตู้ปลา น่าเขา
😂
เอาจริงๆมันแพงมากเมื่อเทียบกับที่ขายในจีน