ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
สำหรับผู้ที่ยังไม่เข้าใจวิธีในการฝึกฝนเจริญสติ ขอแนะนำให้ดูคลิปใน [ส่วนที่ 1]th-cam.com/play/PL85WQjF_Yosp_X82mqKLaEx2g-cIyvh5f.htmlจะรวบรวมประเด็นที่ผู้ฝึกฝนควรรู้ โดยไล่ดูตามลำดับที่จัดเรียงไว้ ก็จะช่วยลำดับความเข้าใจให้ได้มากขึ้นหลวงพ่อเทียนใช้คำว่า "เห็นความคิด ดูความคิด หรือ เห็นจิต ดูจิต" ไม่ได้หมายถึง ให้เราเอาจิตใจไปเฝ้าจ้องว่า เมื่อไหร่จะเกิดความคิด เมื่อไหร่ใจจะเผลอคิด เผลอไปในอารมณ์ต่างๆ หรือ เมื่อเผลอคิดไปแล้ว ก็ไปตามดูความคิด ว่ามันคิดอะไร ไปหาสาเหตุไปหานิยาม ไปหาทางแก้ หรือหลงไปปรุงแต่งเป็นความรู้สึก/อารมณ์ต่างๆ เช่น ไปหงุดหงิด ไปยินดียินร้ายกับมัน ฯลฯ ..ไม่ใช่แบบนั้น!!แต่หลวงพ่อเทียนต้องการสื่อถึง "การเห็นความคิด หรือดูความคิด" โดยไม่หลงเข้าไปในความคิด ไม่หลงไปตามความคิดหรืออารมณ์ ไม่ไปปรุงแต่งต่อเติม ฯลฯเปรียบเหมือนเราเป็นคนดูมัน เห็นมันห่างๆ จากข้างนอก โดยเราไม่ได้เข้าไปคลุกวงในกับมัน ไม่เข้าไปพัวพันกับมันวิธีฝึกฝน ก็เป็นวิธีฝึกเจริญสติ หรือฝึก "ความรู้สึกตัว" ที่ "มือใหม่" ได้ถูกย้ำเตือนบ่อยๆ คือ ฝึกให้มี "ความรู้สึกตัว" กับการเคลื่อนไหวร่างกายในทุกอิริยาบถ และ/หรือ ให้เจตนาสร้างการเคลื่อนไหวร่างกาย (สร้างจังหวะ) แล้วรู้สึกเบาๆ สบายๆ กับกายที่เคลื่อนไหวหรือจะเรียกว่า ให้จิตใจตั้งอยู่กับ "ความรู้สึกตัว" หรือการระลึกรู้ในอาการต่างๆ ของร่างกาย (เช่น กายมีการเคลื่อนไหว มีการหยุดนิ่ง มีการตึง/หย่อน มีการกระทบสัมผัสต่างๆ เป็นต้น)...ไม่ใช่เอาจิตใจไปเฝ้าจ้องเพื่อจะเห็นหรือตามดูความคิด/อารมณ์ต่างๆเมื่อ "รู้สึกตัว" ไปสักพัก จิตใจมันจะเผลอคิดขึ้นมาเองตามธรรมชาติของมันสำหรับผู้ฝึกใหม่ กว่าจะรู้ตัว รู้ทัน หรือระลึกได้ว่า ตัวเองกำลังเผลอคิดอยู่ก็อาจจะเผลอคิดไปแล้วนานหลายนาที แต่เมื่อฝึกฝนมากๆ เข้า สติแข็งแรงขึ้น เราจะรู้ทัน "การเผลอคิด" ได้ไวขึ้น และบ่อยขึ้นเอง เมื่อฝึกจนชำนาญมากๆ อีกหน่อยพอเผลอคิดปุ๊บ เราก็รู้ทันปั๊บ!!เมื่อ "รู้ทัน-รู้ตัว-ระลึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองกำลังเผลอคิด กำลังเผลอไปกับอารมณ์ต่างๆ" แล้วควรทำอย่างไรต่อไป? ก็ให้ทิ้งความคิด/อารมณ์ต่างๆ ทันที!! .. เมื่อใดที่รู้ตัวว่าเผลอคิดปุ๊บ ก็ให้ทิ้งความคิดไปทันทีไม่คิดต่อ ไม่ปรุงแต่งต่อเติม ไม่ไหลไปตามความคิด/อารมณ์ต่างๆ ไม่ต้องไปหาความหมาย ไม่ต้องไปหาสาเหตุใดๆ ทั้งสิ้น..ให้ทิ้งความคิด/อารมณ์ต่างๆ ทันที!! ..แล้ว "กลับมารู้สึกตัว"คือการพาใจกลับมาตั้งไว้กับความรู้สึกตัวในการเคลื่อนไหวร่างกายเช่นเดิม!!เดี๋ยวสักพัก ใจก็อาจจะเผลอคิดไปอีก พอเรารู้ทันว่าใจมันเผลอไปอีก ก็ทิ้งความคิดทันทีแล้ว "กลับมารู้สึกตัว" ทำแบบนี้วนๆ ไปเช่นเดิมฝีกแบบนี้ซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ จนเมื่อสติตั้งมั่น แข็งแรง ว่องไวมากขึ้นก็จะพัฒนาไปสู่ "การเห็นความคิด โดยไม่หลงเข้าไปในความคิด"และจะพาไปสู่การปล่อยวางความคิด/อารมณ์ ได้มากขึ้น หรือเมื่อมีอะไรมากระทบกายและใจ ไม่ว่าจะ "เรื่องทุกข์หรือสุข"เราก็จะรับรู้สิ่งเหล่านั้นด้วยจิตใจที่เป็นปกติ เป็นกลางๆ ใจไม่ไหลจมดิ่งไปกับความทุกข์ และไม่หลงลอยไปกับความสุขคลายความยึดมั่นในเรื่องต่างๆ ได้มากขึ้นการปรุงแต่งฟุ้งซ่านจะน้อยลงเรื่อยๆ และทำให้ใจยอมรับในสัจธรรมของชีวิตได้มากขึ้นมีสติปัญญารับมือกับเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตได้ดีขึ้นซึ่งทั้งหลายเหล่านี้ มันจะเป็นไปเองตามกลไกธรรมชาติขอเพียงแค่เพียรฝึกฝนอย่างถูกต้องและต่อเนื่องมากพอเราสามารถหาโอกาสฝึกการเจริญสติ หรือ ฝึก "ความรู้สึกตัว" ให้ผสมผสานกับชีวิตประจำวัน ได้ทุกวัน ทุกที่ ทุกเวลาคำแนะนำเพิ่มเติม - แนะนำการเจริญสติตามแนวทางหลวงพ่อเทียน โดย พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล th-cam.com/video/GWwIGxicOMA/w-d-xo.html - หลวงพ่อเทียนสอบอารมณ์ th-cam.com/video/477997jEPdg/w-d-xo.html- วิธีเจริญสติง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน th-cam.com/video/qoK88FDoO_E/w-d-xo.html- หลักการง่ายๆ ภายใน 1 นาที.."กลับมารู้สึกตัว" th-cam.com/video/df0Nls10qX0/w-d-xo.html- ดูกายเห็นจิต ดูคิดเห็นธรรม th-cam.com/video/0F9Uc8gt1gU/w-d-xo.html- เห็นความคิด-อารมณ์ โดยไม่หลงเข้าไป "อิน" จะทำได้อย่างไร? th-cam.com/video/NwSKqJFaE6U/w-d-xo.html- ไฮไลท์ คือ เมื่อหลงไป แล้วกลับมาได้ th-cam.com/video/oGLkbmKypBg/w-d-xo.html- เจริญสติไม่ยาก แต่ที่ว่ายาก เพราะอยากได้ดั่งใจ th-cam.com/video/ocG1E6O-zGo/w-d-xo.html- สภาพเดิมของจิต คือ รู้ซื่อๆ รู้เฉยๆ th-cam.com/video/lVAhyfIoeGg/w-d-xo.html- วิธีง่ายๆ เพื่อดับทุกข์ใจ th-cam.com/video/yUyob1-DKlk/w-d-xo.html
สำหรับผู้ที่สนใจฝึกฝนเจริญสติ (สติปัฏฐาน) ตามแนวทางของหลวงพ่อเทียน 1. การเริ่มต้นฝึกฝนในแนวทางของหลวงพ่อเทียน หากสะดวกหรือสนใจที่จะได้เรียนรู้โดยตรงกับครูอาจารย์ต่างๆ ก็ลอง search หาใน google ว่าสะดวกจะไปที่ไหน หรือลองดูจาก link นี้facebook.com/Sanamnai/photos/a.365802240102946.108142.361998700483300/1319466311403196/?type=3เป็นสถานที่ต่างๆ เพื่อการเรียนรู้ในแนวทางของหลวงพ่อเทียน2. หรือหากจะเริ่มต้นฝึกฝนโดยดูคลิปต่างๆ จาก channel "มือใหม่หลวงพ่อเทียน" ก็ให้เข้าไปที่ [ส่วนที่ 1] th-cam.com/play/PL85WQjF_Yosp_X82mqKLaEx2g-cIyvh5f.htmlซึ่งจะรวบรวมประเด็นต่างๆ ที่มือใหม่ควรจะรู้ เราพยายามจัดเรียงลำดับของคลิปไว้ตามหมายเลข เพื่อลำดับความเข้าใจให้มือใหม่ไม่สับสน ไล่ดูไปเรื่อยๆ ตามลำดับที่เรียงไว้ไม่เกินคลิปหมายเลข 7.8 หรือใกล้เคียงกันนั้น ก็จะเป็นการปูพื้นฐานจนเกือบครบถ้วนแล้วส่วนคลิปหลังจากนั้น ก็เป็นการขยายความบ้าง เป็นส่วนเสริมบ้าง หรือเป็นการตอกย้ำบ้างเพราะฉะนั้น ไม่ได้หมายความว่า "มือใหม่" จะต้องดูคลิปใน [ส่วนที่ 1] จนหมดให้ครบถึงคลิปสุดท้ายแล้วจึงค่อยลงมือเริ่มฝึกฝน ไม่ใช่แบบนั้น!!คือ ดูไปเรื่อยๆ สัก 2-3 คลิป จนเริ่มรู้หลักการคร่าวๆรู้วิธีฝึกคร่าวๆ แล้วก็เริ่มเอาวิธีการไปลงมือฝึกได้เลยแล้วพอว่างๆ ก็ค่อยๆ มาดูคลิปเพิ่มเติมไปเรื่อยๆ เมื่อพอจะเริ่มเข้าใจวิธีฝึก ก็ให้ลงมือฝึกฝนบ่อยๆ หากมีข้อสงสัยอะไร ก็ทิ้งคำถามไว้ที่ใต้คลิปนั้น เราก็จะพยายามหาคำแนะนำของครูอาจารย์มาช่วยคลี่คลายให้3. หรือหากมีเวลาพอสมควร พอที่จะดูคอร์สการบรรยายที่ยาวหน่อยได้ ก็อยากให้ดูการสอนกรรมฐานแบบเข้าใจง่ายใน [ส่วนที่ 2]th-cam.com/play/PL85WQjF_Yosrqwu1E23iCftSJobZU6sK8.html จะช่วยปูพื้นฐานอย่างละเอียด ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
ดูแล้ว ฟังแล้ว ตริตรองด้วยป้ญญาแล้ว รู้สึกเพิ่มศรัทธาในพุทธแท้ ธรรมแท้ สงฆ์แท้ และทำให้เห็นได้เลยว่าแม้อยู่ในเพศฆราวาสก็สามารถบรรลุธรรมขั้นสูงสุดได้ ขอนมัสการท่านอาจารย์กำพล ทองบุญน่ม ด้วยความเคารพสูงสุด ท่านเป็นสามีจิปฏิปันโน ภควโตสาวกสังโฆ โดยแท้.
ฟฟๆๆ
กราบในความดี ของท่านอาจารย์กัมพล และครูบาอาจารย์ หลวงพ่อคำเขียน หลวงพ่อเทียน🙏🙏🙏
@ พอฝึกมากๆเข้า ทำให้ต่อเนื่อง จนเกิดความชำนาญ เริ่มเป็นสติอัตโนมัติ / พอเห็นความคิดแล้วมันดับเลย จิตไม่ตามความคิดไป / แล้วเห็นว่าจิตที่รู้มันรู้มาจากข้างใน...เห็นกายเคลื่อนไหวมันอยู่ข้างนอก
น้อมโมทนาส่าธุ
น้อมกราบสาธุ...ธรรมนี้สุดยอดมากขอน้อมนำมาปฎิบัติอย่างต่อเนื่องเจ้าค่ะ🙏🙏🙏😇❤️
อาจารย์ กำพล ท่านเป็นแบบอย่างที่สอนให้เห็นได้ชัดเป็นรูปธรรมทั้งทางโลกและทางธรรม ธรรมที่ท่านแสดงเข้าใจง่าย, ลึกซึ้ง, ปฏิบัติ ตามท่านได้ต่อเนื่องจะได้พบแสงสว่างแห่งปํญญา น้อมกราบบูชาคุณหลวงพ่อเทียน, อ.กำพล ด้วยเศียรเกล้า 🙏🙏🙏🌼🌼🌼🌼🌼
กราบสาธุๆในธรรมะของอ.เจ้าค่ะ
กราบรำลึกท่านอาจารย์กำพลค่ะ ฟังบ่อยๆเจริญสติดีมากค่ะ
สาธุครับอาจารย์ คนกำลังท้อแท้ควรฟัง รู้สึกมีกำลังใจขึ้นเยอะครับ
น้อมจิตรับฟังท่านอาจารย์ สาธุๆๆจ้าวค่ะ
น้อมกราบบูชาคุณ ท่านอาจารย์กำพล ทองบุญนุ่ม ด้วยเศียรเกล้า น้อมกราบอนุโมทนาสาธุค่ะ🙏🙏🙏🌼🌼🌼🌼🌼
ท่านบรรยายธรรมมีสาระเ เข้าใจง่าย ทำตามได้ ทำไปด้วยเข้าใจดี มีความสุข สาธุ สาธุ สาธุ ครับ
อ.กำพลพูดถูกค่ะมากๆเลยที่สุดเลยมีแต่รัก โลภ โกรธ หลง สติไม่ค่อยจะมีกันค่ะเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นเพราะความคิดจิตมันนำไปจริงๆค่ะแล้วกว่าจะคิดกับได้ก็สายเกินไปเสมอ 🌸🌸🌸
สุดยอดสาธุ สาธุขอฟังบ่อย ๆ ค่ะ เบสิคพืเนฐานการเจริญสติพอรู้แนวทาง แต่ต้องฟังบ่อย ๆ เพื่อนำมาปฏิบัติ ขออนุโมทนาบุญกับแอดมิน ที่เผยแผ่ธรรมะค่ะ
ฟังอาจารย์บรรยายธรรม เหมือนมีเครื่องครัวแต่ไม่รู้จักปรุงกิน ติดตามอาจารย์บรรยายธรรมครับ สาธุ สาธุ
ฟังอาจารย์แล้วจิตใจสงบลงมาก
ดูกาย เห็นจิต ดูจิต เห็นธรรม สาธุ ด้วยครับ
ของแท้เลยค่ะ..ท่าน.กำพลถือเป็นครูบาอาจารย์ที่สอนการปฏิบัติเมื่อทำตามแล้วเกิดอาการตามจริงนี้เลยหากทุกท่านได้ฟังหล่ยๆคลิปให้เข้าใจและรู้สึกตัว(รู้กาย)ให้คล่องชำนาญ...การันตีโสดาบันไม่ไกลเกินเอื้อมในชาตินี้แน่นอน
น้อมกราบสาธุธรรมค่ะ🙏
กราบสาธุค่ะ
Veerachat Rachamuangphangฟังซ้ำ 1 ม.ค. 2566
@ สติปัฏฐานสี่ คือวิปัสสนา / จิตรู้กายละกาย , รู้เวทนา ละเวทนา , รู้ความคิด ละความคิด , รู้สมมุติ ละสมมุติ@ ตัวตน เกิดจากความคิด / ขณะที่ไม่คิด ความรู้สึกว่ามีเรา ก็ไม่เกิด@ เพราะเจริญสติน้อย / มันจึงตัดทำลายความคิดฟุ้งซ่านออกไปไม่ได้
กราบสาธุธรรม🙏คะ
กราบอาจาย์ผู้ชี้แนะแนวทางค่ะ🙏🙏
ผมชอบฟังอ.กำพล พูดมากๆครับ...🙏🙏🙏🙏
น้อมกราบสาธุ ๆๆ ขอบพระคุณมากค่ะ❤❤❤❤
สาธุๆๆๆ
สาธุคาฟผม🙏🙏🙏☺
อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุบุญด้วยนะคะ🙏🙏🙏 ขอบคุณพระคุณค่ะ☘️🌷🙏
สาธุครับ
@@satipunya 🙏🙏🙏
มือใหม่สมาธิภาวนาค่ะเริ่มต้นยังไงดีคะ ขอถามท่านผู้รู้ช่วยให้ความกระจ่างหน่อยค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะสาธุ
1. การบรรยายของครูอาจารย์ต่างๆ ในช่องยูทูบ "มือใหม่หลวงพ่อเทียน"เน้นไปที่การฝึกสติปัฏฐาน หรือจะเรียกว่า ฝึกสติ ฝึกเจริญสติ ก็ได้ครับการภาวนาทางพุทธ ที่จะสร้างความเข้มแข้งให้จิตใจ สร้างสัมมาสติ สร้างสัมมาสมาธิ สร้างปัญญา พาไปสู่การทุกข์ใจน้อยลง จนไปถึงหมดทุกข์ใจอย่างถาวรนั้น ต้องฝึกตามหลักสติปัฏฐานครับถ้าเรียกแบบยาวๆ คือ การฝึกวิปัสสนาภาวนา (หรือวิปัสสนากรรมฐาน) ตามหลักสติปัฏฐานหรือเรียกแบบสั้นๆ ได้หลายแบบ เช่น ฝึกวิปัสสนา / ฝึกภาวนา / ฝึกกรรมฐาน / ฝึกสติ / ฝึกเจริญสติ / ฝึกสติปัฏฐาน และอื่นๆแต่ทั้งหมดนี้ สื่อความไปถึงเรื่องเดียวกันคือ เป็นการฝึกภาวนาตามหลักสติปัฏฐาน(ซึ่งแตกต่างจากการฝึกสมาธิแบบทั่วไป)2. ครูอาจารย์หลายท่านและคนทั่วไปจำนวนมากนิยมเรียกการฝึกจิตใจหรือการภาวนาในทางพุทธว่า"การฝึกสมาธิ นั่งสมาธิ ทำสมาธิ" อะไรประมาณนี้ซึ่งมันเป็นคำที่ผู้คนนิยมใช้ติดปากหรือคุ้นเคยกันมานานแต่ผู้ฝึกฝนควรรู้ว่า การฝึกจิตใจหรือการภาวนาในทางพุทธมีหลักการฝึกตามหลักสติปัฏฐานซึ่งมีความต่างจากการฝึกสมาธิแบบทั่วไปที่ผู้คนเข้าใจกัน[ดูคลิป] ความเข้าใจผิดเรื่องสมาธิth-cam.com/play/PL85WQjF_YosregLGCXtH2nYLbdv5k9S6b.htmlเพราะฉะนั้น ครูอาจารย์หลายท่านก็สอนตามหลักสติปัฏฐานแต่อาจจะใช้คำเรียกอันเป็นที่นิยมว่า "ฝึกสมาธิ นั่งสมาธิ ทำสมาธิ" (ซึ่งคำว่า "สมาธิ" ย่อมาจากคำเต็มๆ คือ คำว่า "สัมมาสมาธิ") แต่ประเด็นสำคัญ ก็คือ ไม่ว่าจะใช้คำเรียกว่าอย่างไรหากจะฝึกอย่างถูกต้องตามแนวทางพุทธ จะไม่ใช่การฝึกสมาธิแบบทั่วไปที่มีอยู่ในหลายศาสตร์...แต่การฝึกสมาธิ (สัมมาสมาธิ) ตามแนวทางพุทธ ต้องฝึกตามหลักสติปัฏฐาน (เริ่มต้นจากการฝึกให้เกิดสัมมาสติ แล้วพัฒนาไปเกิดสัมมาสมาธิ แล้วพัฒนาไปเกิดภาวนามยปัญญา)ซึ่งในยุคหลังๆ คนที่ฝึกฝนสติปัฏฐาน จะไม่นิยมใช้คำเรียกว่า "ฝึกสมาธิ นั่งสมาธิ ทำสมาธิ" เท่าไหร่นักแต่จะนิยมใช้คำเรียกว่า ฝึกสติปัฏฐาน หรือเจริญสติ หรือฝึกสติ หรือฝึกภาวนา ฯลฯ3. ส่วนคำว่า "สมาธิภาวนา" นั้น อาจทำให้ตีความไปได้คลาดเคลื่อนหรือสับสนได้ในหลายกรณีเพราะในหลักการที่ระบุไว้ตามตำรา การภาวนาทางพุทธ จะแยกเป็น 2 แนวทางหลักๆ คือ 3.1 สมถภาวนา หรือเรียกอีกอย่างว่า สมาธิภาวนา หรือจิตตภาวนา 3.2 วิปัสสนาภาวนา หรือเรียกอีกอย่างว่า ปัญญาภาวนาซึ่งสองแนวทางนี้ จะมีบางส่วนคล้ายกันในวิธีการฝึก แต่มีเป้าหมายปลายทางที่ต่างกันไปและผู้ฝึกฝนก็ต้องมีการใช้งานทั้งสองวิธีร่วมกันไปเพราะฉะนั้น ในทางตำรา "สมาธิภาวนาหรือสมถภาวนา" ต่างจาก "วิปัสสนาภาวนา"และ "สมาธิภาวนาหรือสมถภาวนา" ไม่ได้ฝึกตามหลักสติปัฏฐานเอาเป็นว่า หากกลัวว่าจะสับสน ก็อย่าเพิ่งไปสนใจประเด็นนี้ครับแค่เริ่มต้นเรียนรู้ว่า จะฝึกเจริญสติ หรือสติปัฏฐาน นั้น มีหลักการคร่าวๆ ง่ายๆ อย่างไร และมีวิธีฝึกอย่างไร?ซึ่งขอส่งกำลังใจให้ว่า เข้าใจได้ไม่ยาก และฝึกได้ไม่ยากครับแต่ถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็น "สมถะและวิปัสสนา" ก็ลองฟังคลิปนี้ได้ครับ[ดูคลิป]สมถะ กับ วิปัสสนา โดย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ปยุตฺโต)th-cam.com/video/Nsu0TT9z5m4/w-d-xo.html(มีต่อด้านล่าง)
4. การเริ่มต้นฝึกฝนในแนวทางของหลวงพ่อเทียน 4.1หากสะดวกหรือสนใจที่จะได้เรียนรู้โดยตรงกับครูอาจารย์ต่างๆ ก็ลอง search หาใน google ว่าสะดวกจะไปที่ไหน หรือลองดูจาก link นี้facebook.com/Sanamnai/photos/a.365802240102946.108142.361998700483300/1319466311403196/?type=3เป็นสถานที่ต่างๆ เพื่อการเรียนรู้ในแนวทางของหลวงพ่อเทียน4.2 หรือหากจะเริ่มต้นฝึกฝนโดยดูคลิปต่างๆ จาก channel "มือใหม่หลวงพ่อเทียน" ก็ให้เข้าไปที่ [ส่วนที่ 1] th-cam.com/play/PL85WQjF_Yosp_X82mqKLaEx2g-cIyvh5f.htmlซึ่งจะรวบรวมประเด็นต่างๆ ที่มือใหม่ควรจะรู้ เราพยายามจัดเรียงลำดับของคลิปไว้ตามหมายเลข เพื่อลำดับความเข้าใจให้มือใหม่ไม่สับสน ไล่ดูไปเรื่อยๆ ตามลำดับที่เรียงไว้ไม่เกินคลิปหมายเลข 7.8 หรือใกล้เคียงกันนั้น ก็จะเป็นการปูพื้นฐานจนเกือบครบถ้วนแล้วส่วนคลิปหลังจากนั้น ก็เป็นการขยายความบ้าง เป็นส่วนเสริมบ้าง หรือเป็นการตอกย้ำบ้างเพราะฉะนั้น ไม่ได้หมายความว่า "มือใหม่" จะต้องดูคลิปใน [ส่วนที่ 1] จนหมดให้ครบถึงคลิปสุดท้ายแล้วจึงค่อยลงมือเริ่มฝึกฝน ไม่ใช่แบบนั้น!!คือ ดูไปเรื่อยๆ สัก 2-3 คลิป จนเริ่มรู้หลักการคร่าวๆรู้วิธีฝึกคร่าวๆ แล้วก็เริ่มเอาวิธีการไปลงมือฝึกได้เลยแล้วพอว่างๆ ก็ค่อยๆ มาดูคลิปเพิ่มเติมไปเรื่อยๆ เมื่อพอจะเริ่มเข้าใจวิธีฝึก ก็ให้ลงมือฝึกฝนบ่อยๆ หากมีข้อสงสัยอะไร ก็ทิ้งคำถามไว้ที่ใต้คลิปนั้น เราก็จะพยายามหาคำแนะนำของครูอาจารย์มาช่วยคลี่คลายให้4.3 หรือหากมีเวลาพอสมควร พอที่จะดูคอร์สการบรรยายที่ยาวหน่อยได้ ก็อยากให้ดูการสอนกรรมฐานแบบเข้าใจง่ายใน [ส่วนที่ 2]th-cam.com/play/PL85WQjF_Yosrqwu1E23iCftSJobZU6sK8.html จะช่วยปูพื้นฐานอย่างละเอียด ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
สาธุคะพระอาจารย์🙏🏻🙏🏻🙏🏻
สาธุค่ะ🙏
ตอนนี้ทำงานด้วยปฏิบัติด้วยค่ะ
ขอบคุณมากค่ะผอ.
อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุค่ะ
สาธุๆๆค่ะขอบคุณมากค่ะอาจารย์
สาธุสาธุสาธุ อนุโมทามิ
สาธุ🙏🙏🙏☺️
อนุโมทนาสาธุๆๆ
ສາທຸ ອະນຸໂມທະນາ ພຣະອາຈານ ຊອບຟັງອາຈານມາກໆ🙏🙏🙏
สาธุ สาธุ สาธุค่ะ🙏🙏🙏
สาธุ...ครับ
สาธุในธรรมครับ❤❤❤
🙏🙏🙏☺สาธุๆๆ
สาธุค่ะ
สาธุเจ้าค่ะ
สาธุ🙏
@ เจริญสติมากๆ จะทำให้เห็นความคิดได้เร็ว / แล้วทิ้งความคิดให้เร็ว ไม่ต้องไปอิน หรือไปหาเหตุผลกับมัน...แต่ไม่ได้หมายถึงไปห้ามความคิด / แล้วกลับมารู้อยู่กับเคลื่อนไหวมือ....มารู้อิริยาบถย่อยในกาย คือต้องฝึกตามรูปแบบไปก่อน ให้จิตมีเครื่องอยู่ จิตส่งออกนอก มันก็จะกลับฐานได้เร็ว@ แค่เข้าใจหลักธรรมตามตำรา มันยังไม่พอ / ต้องมีการฝึกสมถะ และวิปัสสนาควบคู่กันไปในรอบวัน
สาธุสาธุครับ🙏🙏🙏
โมทนาบุญคาฟ🙏🙏🙏☺
สาธุ
ทำให้เห็นทางครับอาจารย์ สาธุๆครับ
สาธุขอบคุณ ครับ
11:50 14 จังหวะ รู้มือที่เคลื่อนแบบแตะๆ ไม่เข้าไปอยู่ หัดรู้กายเคลื่อนไหวให้ชำนาญ แล้วจิตจะตื่นรู้ สามารถเห็นความคิด เห็นจิต เมื่อเห็นแล้วให้ทิ้งกลับมารู้กาย
พึ่งเข้ามาฟังคะชอบเลย
กราบสาธุๆๆเจ้าค่ะ
ทำได้จริงค่ะ
อนุโมทนาสาธุครับ
@ สงบ ปิติ สุข / เป็นอาการ ที่เกิดดับได้ / ถ้าจิตไปหลงจมแช่อยู่ ก็ให้กลับมาเจริญสติในอิริยาบถย่อยสลับกันไป มันจะได้เข้าใจความไม่เที่ยงดีขึ้น....จะได้ไม่ติดในรูปฌาน (รูปราคะ)@ การภาวนา เราไม่ได้เอา ไม่ได้พัฒนา สิ่งที่ถูกรู้ ...ไม่ได้ให้ความสำคัญมัน / แต่เราพัฒนาจิตที่รู้ ว่ามันรู้แบบเป็นกลางหรือไม่.....เป็นสักว่ารู้หรือไม่..!!?...
ความอยากมาจากความคิด
ขอไห้มีอายุยืนนะค่ะท่าน
ว่างตามดูจิต
🙏🙏🙏☺
🙏🙏🙏😇❤️
# อยากบรรลุธรรม / นี้เป็นกำแพงขวางกั้น วางมันลงซ่ะ / แล้วท่านก็จะบรรลุธรรม
สาธุๆๆค่ะ🌷🙏🙏🙏🌷กราบพระธรรมที่อาจารย์แนะแนวทางให้ค่ะ17/1/65😴😴
@ ความคิดคือโลก จิตเห็นโลกไม่ยึดโลก / จิตจึงจะเริ่มเห็นความเบาสบาย ผ่อนคลาย@ พอเป็นสติปัญญาอัตโนม้ติแล้ว / จิตก็จะวางความคิด วางสัญญาอารมณ์ได้เอง เป็นอัตโนมัติ...ถึงขั้นนี้จึงจะวางรูปแบบได้ ขี้เกียจเจริญสติ ไม่ฝึกสติปัฏฐานสี่ / ก็เหมือนไก่ขี้เกียจกกไข่ ไข่ก็เน่า ไม่สามารถฟักออกเป็นตัวได้
ขอไห้พระอาจารย์จงมีสุขภาพแขงแรงตลอดชีวิตนะค่ะเพราะท่านมีบุญบรมีสอนญาติธรรมได้ดีมากๆๆเจ้าค่ะ
อาจารย์กำพล ทองบุญนุ่ม ท่านเสียชีวิตแล้วเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2559 ผู้สนใจสามารถหาอ่านหรือฟังเรื่องราวเกี่ยวกับท่านหรือคลิปคำบรรยาย หนังสือ ฯลฯ ซึ่งมีอยู่ไม่น้อยใน internet และสื่ออื่นๆ อีกไม่น้อยค่ะลอง google หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ค่ะ หรือจะดูคลิปต่างๆ ของ อ.กำพล ทองบุญนุ่ม ได้ในช่องยูทูบ "มือใหม่หลวงพ่อเทียน" ก็มีอยู่จำนวนไม่น้อยค่ะ
😘😘😘
จิตคือเราหรือเปล่าคะ เรากับจิต เป็นอันเดียวกันหรือเปล่าคะ
ขอที่จะไม่ตอบคำถามนี้นะคะ^^ ด้วยสาเหตุหลายประการ เช่น ผู้จัดทำฯ อาจจะมีภูมิความรู้ไม่มากพอที่จะให้ข้อมูลที่ถูกต้องได้ครบถ้วนหรือ การสื่อสารอธิบายความด้วยตัวอักษรนั้น เป็นการยากที่จะอธิบายเรื่องราวที่ซับซ้อนได้ครอบคลุมชัดแจ้ง และเหตุผลอื่นๆ แต่ขอส่งกำลังใจให้ลองศึกษาและฝึกฝนเจริญสติดูนะคะ หากฝึกอย่างถูกต้อง และมีความเพียรที่เหมาะสม หลายคำถามก็จะมีคำตอบให้กระจ่างใจได้ค่ะ^^
ความเมตตา ความปรารถนาดีไม่หวังสิ่งตอบแทน เป็นความหลงหรือเปล่าคะ
ขอออกตัวก่อนว่า ผู้จัดทำฯ อาจจะมีภูมิความรู้ไม่มากพอที่จะให้ข้อมูลที่ถูกต้องได้ครบถ้วนหรือ การสื่อสารอธิบายความด้วยตัวอักษรนั้น เป็นการยากที่จะอธิบายเรื่องราวที่ซับซ้อนได้ครอบคลุมชัดแจ้ง และเหตุผลอื่นๆ แต่เอาเป็นว่า "กุศลเป็นปัจจัยแก่อกุศลก็ได้ อกุศลเป็นปัจจัยแก่กุศลก็ได้"แต่จะสรุปว่า "ความเมตตา ความปรารถนาดีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน"จะถือเป็นความหลงแบบหนึ่งหรือไม่? ก็มีปัจจัยหรือองค์ประกอบอื่นๆ ที่ต้องพิจารณาร่วมกันไปค่ะความสำคัญ คือ การมีปัญญารู้ความจริง รู้สัจธรรม และใช้ปัญญาพิจารณาว่า อะไรควรเชื่อ อะไรควรทำ ทำอย่างไร กับผู้ใด... ฯลฯคือมีปัญญารู้ว่า จะต้องทำอย่างไรถึงจะเป็นการประพฤติปฏิบัติที่ถูกต้องเหมาะสมในแต่ละวาระ แต่ละสถานการณ์เอาเป็นว่า ขอส่งกำลังใจให้ลองศึกษาและฝึกฝนเจริญสติดูนะคะ หากฝึกอย่างถูกต้อง และมีความเพียรที่เหมาะสม หลายคำถามก็จะมีคำตอบให้กระจ่างใจได้ค่ะ^^
@@satipunya สาธุค่ะ ที่ได้กรุณาให้ความกระจ่าง ในส่วนที่ท่าน ผู้รู้ตอบได้ ดิฉันจะพยายามศึกษาด้วยความเพียรค่ะ หวังว่าจะมาถูกทาง ที่บ้านชอบทำทานต่อสัตว์จนเป็นนิสัย เป็นการทำตามกำลัง เท่าที่สามารถทำได้ สิ่งที่ทำอยู่ ทุกวันคือการให้ทาน พยายามรักษาศีล เท่าที่ทำได้ในใจไม่คิดเบียดเบียนใคร ไม่ว่าคนหรือสัตว์ ตอนนี้พยายามศึกษา เรื่องของการเจริญสมาธิภาวนา ให้ถ่องแท้ให้ได้ค่ะ จะพยายามนะคะ ขอบพระคุณมากๆเลยค่ะที่ให้ความกระจ่าง สาธุค่ะ
@@wikosasa4668 ขอส่งกำลังใจให้นะคะ^^ การทำบุญทำทาน รักษาศีล ถือเป็นเรื่องกุศลทั้งนั้นค่ะ เป็นเรื่องที่น่าสนับสนุนค่ะ แต่อย่างไรแล้ว ก็ตามที่คุณ wiko sasa ถามไว้ว่า "มันถือเป็นความหลงได้หรือเปล่า?" ก็ตามคำที่ยกไว้ คือ "กุศลเป็นปัจจัยแก่อกุศลก็ได้ อกุศลเป็นปัจจัยแก่กุศลก็ได้" หมายความว่า ถ้าเราทำสิ่งที่เป็นกุศล โดยเราคิดว่าเราทำอย่างถูกต้องแล้ว แต่จริงๆ แล้ว เราอาจทำอย่างไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสมก็ได้ มันก็ส่งผลกลายเป็นอกุศลได้เช่นกันค่ะ^^ เช่น เราหวังดีต่อเพื่อนที่เจ็บป่วย เราก็หาซื้ออาหารบำรุง อาหารเสริมให้เพื่อนกิน โดยที่เราอาจจะไม่ได้เจตนา หรือไม่ได้หาความรู้ให้ชัดเจนว่า โรคที่เพื่อนเป็นนั้น ไม่ควรกินอาหารประเภทใด? อาหารที่เราซื้อให้เพื่อนด้วยความปรารถนาดี ก็อาจจะไปส่งผลทำร้ายสุขภาพของเพื่อนได้ อันนี้ ก็ยกตัวอย่างให้เห็นเล่นๆ นะคะ^^เพราะฉะนั้น ในทางพุทธ ถึงให้ความสำคัญกับ "ปัญญา" คือ ถ้าเรามีปัญญารู้ความจริง รู้ข้อมูลด้านโภชนาการ หรือรู้เกี่ยวกับอาการป่วยของเพื่อน ไม่ว่าจะรู้จากการศึกษาเอง หรือถามคุณหมอ เราก็จะพิจารณาได้ดีขึ้นว่า ควรซื้ออาหารเสริมให้เพื่อนหรือไม่? หรือถ้าจะซื้อ ควรซื้ออาหารประเภทไหน? ที่ไม่แสลงกับโรคของเพื่อน ฯลฯ จะเห็นได้ว่า เจตนาที่ดี ก็ต้องประกอบไปด้วย "ปัญญา" ด้วยเช่นกันค่ะ มิฉะนั้น เจตนาดี แต่พอลงมือทำ ก็อาจทำแบบไม่ถูกต้องเหมาะสมได้ค่ะในทางพุทธนั้น การฝึกภาวนา ทำให้เกิด "ปัญญาจากการภาวนา (ภาวนามยปัญญา)" ซึ่งปัญญาชนิดนี้ ไม่ใช่การรู้ความรู้ทางโลก รู้วิชาการใดๆ แต่เป็นการรู้สัจธรรมของชีวิต รู้ซึ้งถึงไตรลักษณ์ แล้วจะทำให้จิตใจคลายจากการยึดมั่นลงไปเรื่อยๆ จนพัฒนาไปถึงการสิ้นทุกข์อย่างถาวรตามแนวทางของพระพุทธองค์ค่ะ^^ การทำให้เกิด "ภาวนามยปัญญา" นั้น มีหนทางเดียว ก็คือ มีความเพียรในการฝึกภาวนาตามหลักสติปัฏฐานค่ะ อย่างไรแล้ว ขอส่งกำลังใจให้นะคะ^^
การภาวนาทางพุทธ ที่จะสร้างความเข้มแข้งให้จิตใจ สร้างสติ สร้างสมาธิ สร้างปัญญา พาไปสู่การทุกข์ใจน้อยลง จนไปถึงหมดทุกข์ใจอย่างถาวรนั้น ต้องฝึกตามหลักสติปัฏฐานค่ะถ้าเรียกแบบยาวๆ คือ การฝึกวิปัสสนาภาวนา (หรือวิปัสสนากรรมฐาน) ตามหลักสติปัฏฐานหรือเรียกแบบสั้นๆ ได้หลายแบบ เช่น ฝึกวิปัสสนา / ฝึกสติ / ฝึกเจริญสติ / ฝึกสติปัฏฐานทั้งหมดนี้ สื่อความไปถึงเรื่องเดียวกันค่ะ คือ เป็นการฝึกภาวนาตามหลักสติปัฏฐานสำหรับผู้ที่สนใจฝึกฝนเจริญสติ (สติปัฏฐาน) ตามแนวทางของหลวงพ่อเทียน 1. การเริ่มต้นฝึกฝนในแนวทางของหลวงพ่อเทียน หากสะดวกหรือสนใจที่จะได้เรียนรู้โดยตรงกับครูอาจารย์ต่างๆ ก็ลอง search หาใน google ว่าสะดวกจะไปที่ไหน หรือลองดูจาก link นี้facebook.com/Sanamnai/photos/a.365802240102946.108142.361998700483300/1319466311403196/?type=3เป็นสถานที่ต่างๆ เพื่อการเรียนรู้ในแนวทางของหลวงพ่อเทียน2. หรือหากจะเริ่มต้นฝึกฝนโดยดูคลิปต่างๆ จาก channel "มือใหม่หลวงพ่อเทียน" ก็ให้เข้าไปที่ [ส่วนที่ 1] th-cam.com/play/PL85WQjF_Yosp_X82mqKLaEx2g-cIyvh5f.htmlซึ่งจะรวบรวมประเด็นต่างๆ ที่มือใหม่ควรจะรู้ เราพยายามจัดเรียงลำดับของคลิปไว้ตามหมายเลข เพื่อลำดับความเข้าใจให้มือใหม่ไม่สับสน ไล่ดูไปเรื่อยๆ ตามลำดับที่เรียงไว้หากมีข้อสงสัยอะไร ก็ทิ้งคำถามไว้ที่ใต้คลิปนั้น เราก็จะพยายามหาคำแนะนำของครูอาจารย์มาช่วยคลี่คลายให้3. หรือหากมีเวลาพอสมควร พอที่จะดูคอร์สการบรรยายที่ยาวหน่อยได้ ก็อยากให้ดูการสอนกรรมฐานแบบเข้าใจง่ายใน [ส่วนที่ 2]th-cam.com/play/PL85WQjF_Yosrqwu1E23iCftSJobZU6sK8.html จะช่วยปูพื้นฐานอย่างละเอียด ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง-----------------------------ส่วนคำว่า "สมาธิภาวนา" นั้น อาจทำให้ตีความไปได้คลาดเคลื่อนในหลายกรณีค่ะเพราะการภาวนาทางพุทธ จะแยกเป็น 2 แนวทางหลักๆ คือ 1. สมถภาวนา หรือเรียกอีกอย่างว่า สมาธิภาวนา หรือจิตตภาวนา และ 2. วิปัสสนาภาวนา หรือเรียกอีกอย่างว่า ปัญญาภาวนาซึ่งสองแนวทางนี้ จะมีบางส่วนคล้ายกันในวิธีการฝึก แต่มีเป้าหมายปลายทางที่ต่างกันไปและผู้ฝึกฝนก็อาจจะต้องมีการใช้งานทั้งสองวิธีร่วมกันไปค่ะเอาเป็นว่า หากกลัวว่าจะสับสน ก็อย่าเพิ่งไปสนใจประเด็นนี้ค่ะ^^แค่เริ่มต้นเรียนรู้ว่า จะฝึกเจริญสติ หรือสติปัฏฐาน นั้น มีหลักการคร่าวๆ ง่ายๆ อย่างไร และมีวิธีฝึกอย่างไร?ซึ่งขอส่งกำลังใจให้ว่า เข้าใจได้ไม่ยาก และฝึกได้ไม่ยากค่ะแต่ถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็น "สมถะและ วิปัสสนา" ก็ลองฟังคลิปนี้ได้ค่ะสมถะ กับ วิปัสสนา โดย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ปยุตฺโต)th-cam.com/video/Nsu0TT9z5m4/w-d-xo.html
@@satipunya ขอบพระคุณมากๆเลยค่ะที่แนะนำตรงใจเลย ฉันเคยตั้งเป้าหมายไว้ หนทางแห่งนิพพาน ต้องตัดสังโยชน์ 10 ด้วยคำถามที่มันคาใจมานาน ความรักความผูกพัน ระหว่างพ่อแม่ลูก ความรักแบบนี้ถือเป็นสังโยชน์หรือเปล่าคะ ขอเป็นคำถามสุดท้ายค่ะ ท่านผู้รู้ ขอบพระคุณค่ะ
@ นอนพลิกมือหนึ่งเดือนเริ่มรู้ทางดำเนิน ฝึกวันละแปดชั่วโมง / ฝึกอาทิตย์แรกยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง เหนื่อย เครียดก็ให้ทนทำไปก่อน / ต่อมาทำแบบไม่เพ่ง จิตมันรู้สึกสบาย เห็นกายเคลื่อนไหวอยู่ข้างนอก รู้มันอยู่ข้างใน...จิตเริ่มแยกออกจากกาย...จิตแยกจากเวทนา อยากบวช คนพิการเขาไม่ให้บวช เราก็เจริญสติของเราไป......อ๋อนี่ความคิด นี่ตัณหาความอยาก เข้าใจแล้วนี่สมมุติ แล้ววางมันลง
25:19 อาศัยรู้กายไปเรื่อยๆต่อเนื่อง จะเห็นกายที่เคลื่อนไหวอยู่ข้างนอก จิตที่รู้ๆออกมาจากข้างใน คือเห็นจิตได้โดยไม่ได้ดูจิต = แยกรูปแยกนาม
เรามองดูจิตหรือว่าจิตมองดูขันธ์ 5 คะ
@@satipunya เห็นด้วยครับ...ผู้ที่ตั้งใจจะภาวนา ควรศึกษาทำความเข้าใจให้ดีเสียก่อนแล้วทดลองฝึกทำตามปฏิบัติในรูปแบบ ซึ่งขั้นตอนนี้ไม่รีบร้อน,ไม่ตั้งความหวังเพื่อความบรรลุ,.,..เราภาวนาเพื่อ "ศึกษา"และการสังเกตุกายใจเราด้วยสติเป็นหัวใจหลักของการปฎิบัติ...สาธุครับ
ตัวอย่างนะคะเช่น เมื่อเราถูกทำร้ายร่างกายแล้วเรารุ้สึกโกรธใครมากๆแค้นมากกๆ แล้วเราอยุ่ๆกลับคิดขึ้นทันทีว่าอ้อมันเป้นเรื่องของกรรม คงทำเขามาก่อน แล้วความรู้สึกนั้น ไม่จับมันไว้ บอกกับใจว่าไม่เป็นไร คำว่าไม่เป็นไรของฉันนี่คือไม่เป็นไรจริงๆคือเห็นหน้าแล้วไม่โกรธไม่เกลียด ประมาณว่า ปล่อยวางแล้ว ตรงส่วนนี้ ถ้าดิฉันมาใช้กับความทุกข์ ที่รุ้สึกเกิดที่ใจ แล้วคิดแบบแนวเดียวกัน ก็คือปล่อยวางให้ได้เหมือนการโกรธ ฉันมาถูกทางไหมคะ รบกวนด้วยค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
ตามที่ได้รับรู้มาจากครูอาจารย์ต่างๆ และตามที่เคยได้ให้ข้อมูลไว้แล้วว่า "การปล่อยวางที่แท้จริง" หรือการที่จิตใจจะละวางจากความยึดมั่น ละวางจากอารมณ์ต่างๆ ได้ ต้องฝึกภาวนาตามหลักสติปัฏฐานค่ะ เมื่อฝึกจน "เกิดปัญญาจากการภาวนา" ทำให้รู้จริง เข้าถึงสัจธรรม ใจมันจะเข้าใจและยอมรับได้เองว่า สิ่งต่างๆ ไม่ควรยึดมั่น แล้วใจมันจะละวางด้วยตัวมันเองการที่เราจะใช้ความคิดไปบอก ไปสั่งจิตใจให้ปล่อยวาง ไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้องค่ะย้ำว่า "เมื่อฝึกภาวนาจนเกิดปัญญา จิตใจมันจะปล่อยวางด้วยตัวมันเอง"หรือเมื่อเริ่มต้นฝึกเจริญสติไปสักพัก จิตใจมันก็จะเริ่มปล่อยวางเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไปได้เรื่อยๆ ค่ะเวลาเจอเรื่องทุกข์ใจหนักๆ สูญเสียหนักๆมันไม่ง่ายค่ะ ที่ปุถุชนจะปล่อยวางอารมณ์ได้เช่น คนที่รักเสียชีวิต หรือเราประสบอุบัติเหตุหนักจนต้องตัดแขนตัดขา หรือไฟไหม้บ้าน หรืออื่นๆ ลองจินตนาการตามไปดูนะคะการที่เกิดเหตุไม่ดี แล้วเราคิดขึ้นมาในใจ ปลอบใจตัวเองว่า "ไม่เป็นไรนะ เราต้องปล่อยวางมันไป มันเป็นเวรกรรม เราต้องไม่โกรธ ไม่เศร้า ไม่กังวลนะ เราต้องไม่ทุกข์ใจนะ "ถามว่า การคิดแบบนี้ เราสามารถปล่อยวางได้จริงหรือ?เราสามารถหลุดจากอารมณ์เศร้าโศกได้อย่าง 100% หรือ?มันอาจมีผลดีอยู่บ้างตรงที่ว่า เป็นการปลอบใจตัวเอง หรือ เป็นการเตือนใจตัวเองหรือเป็นการให้กำลังใจตัวเองในเบื้องต้น ซึ่งอาจช่วยได้ 5% หรือ 10% หรือ 20% หรือ อื่นๆ แต่มันไม่ใช่วิธีที่จะช่วยให้ "จิตใจปล่อยวางได้อย่างแท้จริง ปล่อยวางได้อย่าง 100% ตามแนวทางพุทธ"สรุปคือ "การใช้ความคิดไปสั่งหรือไปบอกจิตใจให้ปล่อยวาง" นั้น ไม่ถูกต้องตามแนวทางการภาวนาทางพุทธมีประโยชน์อยู่บ้าง คือ เป็นแค่การบรรเทาปัญหาแค่ชั่วคราว แค่ขั้นพื้นฐาน แต่ไม่ได้ขจัดปัญหาที่สาเหตุค่ะเราอาจจะเคยรับรู้เรื่องของบางคน ที่เจอทุกข์หนักๆ แล้วเขาก็คิดปลอบใจตัวเองให้ปล่อยวาง ให้สู้ต่อไปโดยที่เขาก็ไม่เคยฝึกภาวนา ซึ่งก็ถือว่า จิตใจของแต่ละคนมีบารมีที่สั่งสมมาต่างกันค่ะบางคนจิตใจเข้มแข็งมาก บางคนจิตใจเข้มแข็งน้อยแต่สุดท้ายแล้ว ถ้าไม่ฝึกภาวนา จิตใจก็ไม่มีทางปล่อยวางได้อย่างแท้จริงตามแนวทางพุทธค่ะย้ำว่า "การปล่อยวางอย่างแท้จริง" ไม่ใช่การคิดเอาเอง ไม่ใช่สั่งใจตัวเองให้ปล่อยวาง ต้องฝึกภาวนาค่ะตามที่เคยได้ย้ำไว้ค่ะคลิปนี้ เคยได้แนะนำไว้ ลองค่อยๆ ฟัง ค่อยๆ ทำความเข้าใจดูนะคะ"ทางสายกลางและการไม่ยึดมั่น โดย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์"th-cam.com/video/JYqIxkGLtzU/w-d-xo.html------------------------------คำแนะนำสำคัญ คือ หากจะเริ่มฝึกเจริญสติ ต้องทิ้งคำถาม ทิ้งความสงสัยต่างๆ ไปก่อนค่ะเพราะมันจะมีเรื่องมากมายให้เราสงสัย ซึ่งแสดงว่า เรากำลังจมอยู่ในความคิด ความสงสัยคิดจากเรื่องนี้ ไปเรื่องนั้น ไปเรื่องต่างๆ สารพันเรื่องค่ะ การฝึกเจริญสติ เราจะวางความสงสัยไปก่อน ไม่ต้องตั้งใจใช้ความคิดใดๆ ทำใจสบายๆ ผ่อนคลาย และใช้แค่ความรู้สึกตัว
หากร่างกายสุขภาพยังไหว ปัจจัยต่างๆ พอที่จะเอื้อให้เริ่มต้นได้ ก็ควรจะเริ่มต้นศึกษาและลงมือฝึกเจริญสติค่ะแล้วจะเริ่มต้นศึกษาและลงมือฝึกเจริญสติยังไง? ก็เริ่มต้นตามข้อมูลที่เคยแนะนำไว้แล้วในวันก่อนๆ ค่ะสำหรับผู้ที่สนใจฝึกฝนเจริญสติ (สติปัฏฐาน) ตามแนวทางของหลวงพ่อเทียน 1. การเริ่มต้นฝึกฝนในแนวทางของหลวงพ่อเทียน หากสะดวกหรือสนใจที่จะได้เรียนรู้โดยตรงกับครูอาจารย์ต่างๆ ก็ลอง search หาใน google ว่าสะดวกจะไปที่ไหน หรือลองดูจาก link นี้facebook.com/Sanamnai/photos/a.365802240102946.108142.361998700483300/1319466311403196/?type=3เป็นสถานที่ต่างๆ เพื่อการเรียนรู้ในแนวทางของหลวงพ่อเทียน2. หรือหากจะเริ่มต้นฝึกฝนโดยดูคลิปต่างๆ จาก channel "มือใหม่หลวงพ่อเทียน" ก็ให้เข้าไปที่ [ส่วนที่ 1] th-cam.com/play/PL85WQjF_Yosp_X82mqKLaEx2g-cIyvh5f.htmlซึ่งจะรวบรวมประเด็นต่างๆ ที่มือใหม่ควรจะรู้ เราพยายามจัดเรียงลำดับของคลิปไว้ตามหมายเลข เพื่อลำดับความเข้าใจให้มือใหม่ไม่สับสน ไล่ดูไปเรื่อยๆ ตามลำดับที่เรียงไว้หากมีข้อสงสัยอะไร ก็ทิ้งคำถามไว้ที่ใต้คลิปนั้น เราก็จะพยายามหาคำแนะนำของครูอาจารย์มาช่วยคลี่คลายให้3. หรือหากมีเวลาพอสมควร พอที่จะดูคอร์สการบรรยายที่ยาวหน่อยได้ ก็อยากให้ดูการสอนกรรมฐานแบบเข้าใจง่ายใน [ส่วนที่ 2]th-cam.com/play/PL85WQjF_Yosrqwu1E23iCftSJobZU6sK8.html จะช่วยปูพื้นฐานอย่างละเอียด ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งหมายเหตุ : อยากให้อ่านคำแนะนำและข้อมูลต่างๆ ที่เขียนไว้ให้ทั้งหมดตั้งแต่วันก่อนๆ อ่านอย่างช้าๆ ค่อยๆ ทำความเข้าใจกับมัน ไม่ต้องรีบค่ะ^^แล้วหากอยากรับมือกับความทุกข์หรืออยากเรียนรู้เพื่อการปล่อยวาง ก็ต้องเริ่มลงมือฝึกเจริญสติค่ะ หากไม่ลงมือฝึกเจริญสติ จะมีอีกหลายคำถามที่ไม่สามารถหาคำตอบได้ด้วยการอธิบายค่ะ ขอส่งกำลังใจให้นะคะ^^
@@satipunya ขอบพระคุณค่ะ ฉันคงต้องใช้เวลาอีกนาน จะพยายามค่ะ ไปให้สุดเท่าที่ทำได้นะคะ อย่างน้อยก็ยังรู้สึกโชคดี มีกัลยาณมิตรเช่นคุณคอยแนะนำ เป็นกำลังใจให้เช่นกันค่ะ ขอบคุณนะคะ
@@wikosasa4668 ขอส่งกำลังใจให้ค่ะ และยังยืนยันว่า การฝึกเจริญสตินั้น ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเข้าใจ หรือ ยากที่จะฝึก ผู้จัดทำฯ ก็เป็นผู้ที่ไม่เคยสนใจธรรมะเท่าไหร่ ไม่เคยอยากจะปฏิบัติธรรม ไม่เคยอยากฝึกภาวนา ไม่เคยรู้จักคำว่า "เจริญสติ" ด้วยซ้ำค่ะ เคยคิดว่าชีวิตนี้ตัวเราจะเข้าใจการฝึกภาวนาได้เหมือนคนอื่นๆ เขามั้ย? รู้สึกว่ามันยากและมันห่างไกลตัวมากๆ แต่แล้วก็มีโอกาสได้รับรู้ว่า มันไม่ยากอย่างที่คิด ก็เลยเริ่มต้นนับหนึ่งได้ เพราะฉะนั้น อยากส่งกำลังใจให้มากๆ ค่ะ มีคนที่ไม่เคยเริ่มต้นมากมาย แต่ไม่ได้หมายความว่า จะไม่สามารถเริ่มต้นได้ อย่างไรแล้ว วิธีการรับมือกับทุกข์ใจแบบชั่วคราว วิธีการปล่อยวางแบบชั่วคราว ที่คุณ wiko sasa ใช้อยู่ ก็สามารถใช้แก้ปัญหาเบื้องต้นไปก่อนได้ค่ะ ไม่ได้ห้ามอะไร และหากคิดว่า ยังไม่พร้อมจริงๆ ในการศึกษาเรื่องเจริญสติ ผู้จัดทำ "มือใหม่หลวงพ่อเทียน" ก็ไม่มีความประสงค์ที่จะบังคับกดดันอะไรค่ะ^^ ขอให้ทำใจให้สบายๆ หากอยากจะฟังธรรม ทำบุญทำทาน สวดมนต์ ไหว้พระ ไปวัด ฯลฯ ก็ทำได้ค่ะ เพื่อให้จิตใจปลอดโปร่ง และอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เป็นบุญเป็นกุศลไว้เสมอแต่วันไหนที่คิดว่า วิธีเดิมๆ นั้นไม่ได้ผลแล้วในการคลายทุกข์ใจหรืออยากพัฒนาไปสู่การแก้ปัญหาที่ได้ผลมากกว่าเดิม หรือมีข้อสงสัยต่างๆ ที่อยากหาคำตอบให้กระจ่างใจ ก็ต้องหาโอกาสเริ่มต้นฝึกเจริญสติค่ะ ขอให้พบหนทางที่เหมาะสมกับตัวคุณนะคะ^^
ขอบพระคุณมากค่ะสำหรับคำแนะนำดีๆ พี่มอบให้ทุกครั้งเป็นกำลังใจให้ทุกครั้ง ฉันจะพยายาม นะคะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ
จะติดค่อพระอาจารย์ได้ยังไงคะ
ช😊😊😊
จิต มาจากไหนครับ
👃👃👃
สาธุสาธุครับ
อนุโมทนาสาธุค่ะ
🙏กราบสาธุเจ้าค่ะ
สาธุครับ🙏🙏🙏
กราบสาธุสาธุสาธุเจ้าค่ะ😇🙏🙏🙏🌻❤️❤️❤️
สาธุสาธุสาธุค่ะ
สาธุค่ะ
พึ่งเคยฟังอาจาร์ครั้งแรกอนุโมทนาสาธุสาธุสาธุค่ะ❤❤❤
🙏🙏🙏
สาธุสาธุคะ🙏🙏
ความคิดนี่แหละค่ะมันควบคุมได้ยากจะต้องฟังอาจารย์บ่อยๆและตลอดไปขอบคุณอาจารย์มากๆค่ะ
กราบขอบพระคุณมากๆค่ะสาธุสาธุสาธุค่ะ🙏🙏🥰🌸🌳
สำหรับผู้ที่ยังไม่เข้าใจวิธีในการฝึกฝนเจริญสติ ขอแนะนำให้ดูคลิปใน [ส่วนที่ 1]
th-cam.com/play/PL85WQjF_Yosp_X82mqKLaEx2g-cIyvh5f.html
จะรวบรวมประเด็นที่ผู้ฝึกฝนควรรู้ โดยไล่ดูตามลำดับที่จัดเรียงไว้ ก็จะช่วยลำดับความเข้าใจให้ได้มากขึ้น
หลวงพ่อเทียนใช้คำว่า "เห็นความคิด ดูความคิด หรือ เห็นจิต ดูจิต"
ไม่ได้หมายถึง ให้เราเอาจิตใจไปเฝ้าจ้องว่า เมื่อไหร่จะเกิดความคิด
เมื่อไหร่ใจจะเผลอคิด เผลอไปในอารมณ์ต่างๆ
หรือ เมื่อเผลอคิดไปแล้ว ก็ไปตามดูความคิด ว่ามันคิดอะไร ไปหาสาเหตุ
ไปหานิยาม ไปหาทางแก้ หรือหลงไปปรุงแต่งเป็นความรู้สึก/อารมณ์ต่างๆ
เช่น ไปหงุดหงิด ไปยินดียินร้ายกับมัน ฯลฯ
..ไม่ใช่แบบนั้น!!
แต่หลวงพ่อเทียนต้องการสื่อถึง "การเห็นความคิด หรือดูความคิด"
โดยไม่หลงเข้าไปในความคิด ไม่หลงไปตามความคิดหรืออารมณ์ ไม่ไปปรุงแต่งต่อเติม ฯลฯ
เปรียบเหมือนเราเป็นคนดูมัน เห็นมันห่างๆ จากข้างนอก
โดยเราไม่ได้เข้าไปคลุกวงในกับมัน ไม่เข้าไปพัวพันกับมัน
วิธีฝึกฝน ก็เป็นวิธีฝึกเจริญสติ หรือฝึก "ความรู้สึกตัว" ที่ "มือใหม่" ได้ถูกย้ำเตือนบ่อยๆ
คือ ฝึกให้มี "ความรู้สึกตัว" กับการเคลื่อนไหวร่างกายในทุกอิริยาบถ
และ/หรือ ให้เจตนาสร้างการเคลื่อนไหวร่างกาย (สร้างจังหวะ)
แล้วรู้สึกเบาๆ สบายๆ กับกายที่เคลื่อนไหว
หรือจะเรียกว่า ให้จิตใจตั้งอยู่กับ "ความรู้สึกตัว" หรือการระลึกรู้ในอาการต่างๆ ของร่างกาย
(เช่น กายมีการเคลื่อนไหว มีการหยุดนิ่ง มีการตึง/หย่อน มีการกระทบสัมผัสต่างๆ เป็นต้น)
...ไม่ใช่เอาจิตใจไปเฝ้าจ้องเพื่อจะเห็นหรือตามดูความคิด/อารมณ์ต่างๆ
เมื่อ "รู้สึกตัว" ไปสักพัก จิตใจมันจะเผลอคิดขึ้นมาเองตามธรรมชาติของมัน
สำหรับผู้ฝึกใหม่ กว่าจะรู้ตัว รู้ทัน หรือระลึกได้ว่า ตัวเองกำลังเผลอคิดอยู่
ก็อาจจะเผลอคิดไปแล้วนานหลายนาที
แต่เมื่อฝึกฝนมากๆ เข้า สติแข็งแรงขึ้น
เราจะรู้ทัน "การเผลอคิด" ได้ไวขึ้น และบ่อยขึ้นเอง
เมื่อฝึกจนชำนาญมากๆ อีกหน่อยพอเผลอคิดปุ๊บ เราก็รู้ทันปั๊บ!!
เมื่อ "รู้ทัน-รู้ตัว-ระลึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองกำลังเผลอคิด กำลังเผลอไปกับอารมณ์ต่างๆ"
แล้วควรทำอย่างไรต่อไป?
ก็ให้ทิ้งความคิด/อารมณ์ต่างๆ ทันที!!
.. เมื่อใดที่รู้ตัวว่าเผลอคิดปุ๊บ ก็ให้ทิ้งความคิดไปทันที
ไม่คิดต่อ ไม่ปรุงแต่งต่อเติม ไม่ไหลไปตามความคิด/อารมณ์ต่างๆ
ไม่ต้องไปหาความหมาย ไม่ต้องไปหาสาเหตุใดๆ ทั้งสิ้น
..ให้ทิ้งความคิด/อารมณ์ต่างๆ ทันที!! ..แล้ว "กลับมารู้สึกตัว"
คือการพาใจกลับมาตั้งไว้กับความรู้สึกตัวในการเคลื่อนไหวร่างกายเช่นเดิม!!
เดี๋ยวสักพัก ใจก็อาจจะเผลอคิดไปอีก
พอเรารู้ทันว่าใจมันเผลอไปอีก ก็ทิ้งความคิดทันทีแล้ว "กลับมารู้สึกตัว"
ทำแบบนี้วนๆ ไปเช่นเดิม
ฝีกแบบนี้ซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ จนเมื่อสติตั้งมั่น แข็งแรง ว่องไวมากขึ้น
ก็จะพัฒนาไปสู่ "การเห็นความคิด โดยไม่หลงเข้าไปในความคิด"
และจะพาไปสู่การปล่อยวางความคิด/อารมณ์ ได้มากขึ้น
หรือเมื่อมีอะไรมากระทบกายและใจ ไม่ว่าจะ "เรื่องทุกข์หรือสุข"
เราก็จะรับรู้สิ่งเหล่านั้นด้วยจิตใจที่เป็นปกติ เป็นกลางๆ
ใจไม่ไหลจมดิ่งไปกับความทุกข์ และไม่หลงลอยไปกับความสุข
คลายความยึดมั่นในเรื่องต่างๆ ได้มากขึ้น
การปรุงแต่งฟุ้งซ่านจะน้อยลงเรื่อยๆ
และทำให้ใจยอมรับในสัจธรรมของชีวิตได้มากขึ้น
มีสติปัญญารับมือกับเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตได้ดีขึ้น
ซึ่งทั้งหลายเหล่านี้ มันจะเป็นไปเองตามกลไกธรรมชาติ
ขอเพียงแค่เพียรฝึกฝนอย่างถูกต้องและต่อเนื่องมากพอ
เราสามารถหาโอกาสฝึกการเจริญสติ หรือ ฝึก "ความรู้สึกตัว"
ให้ผสมผสานกับชีวิตประจำวัน ได้ทุกวัน ทุกที่ ทุกเวลา
คำแนะนำเพิ่มเติม
- แนะนำการเจริญสติตามแนวทางหลวงพ่อเทียน โดย พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล th-cam.com/video/GWwIGxicOMA/w-d-xo.html
- หลวงพ่อเทียนสอบอารมณ์ th-cam.com/video/477997jEPdg/w-d-xo.html
- วิธีเจริญสติง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน th-cam.com/video/qoK88FDoO_E/w-d-xo.html
- หลักการง่ายๆ ภายใน 1 นาที.."กลับมารู้สึกตัว" th-cam.com/video/df0Nls10qX0/w-d-xo.html
- ดูกายเห็นจิต ดูคิดเห็นธรรม th-cam.com/video/0F9Uc8gt1gU/w-d-xo.html
- เห็นความคิด-อารมณ์ โดยไม่หลงเข้าไป "อิน" จะทำได้อย่างไร? th-cam.com/video/NwSKqJFaE6U/w-d-xo.html
- ไฮไลท์ คือ เมื่อหลงไป แล้วกลับมาได้ th-cam.com/video/oGLkbmKypBg/w-d-xo.html
- เจริญสติไม่ยาก แต่ที่ว่ายาก เพราะอยากได้ดั่งใจ th-cam.com/video/ocG1E6O-zGo/w-d-xo.html
- สภาพเดิมของจิต คือ รู้ซื่อๆ รู้เฉยๆ th-cam.com/video/lVAhyfIoeGg/w-d-xo.html
- วิธีง่ายๆ เพื่อดับทุกข์ใจ th-cam.com/video/yUyob1-DKlk/w-d-xo.html
สำหรับผู้ที่สนใจฝึกฝนเจริญสติ (สติปัฏฐาน) ตามแนวทางของหลวงพ่อเทียน
1. การเริ่มต้นฝึกฝนในแนวทางของหลวงพ่อเทียน
หากสะดวกหรือสนใจที่จะได้เรียนรู้โดยตรงกับครูอาจารย์ต่างๆ
ก็ลอง search หาใน google ว่าสะดวกจะไปที่ไหน หรือลองดูจาก link นี้
facebook.com/Sanamnai/photos/a.365802240102946.108142.361998700483300/1319466311403196/?type=3
เป็นสถานที่ต่างๆ เพื่อการเรียนรู้ในแนวทางของหลวงพ่อเทียน
2. หรือหากจะเริ่มต้นฝึกฝนโดยดูคลิปต่างๆ จาก channel "มือใหม่หลวงพ่อเทียน"
ก็ให้เข้าไปที่ [ส่วนที่ 1] th-cam.com/play/PL85WQjF_Yosp_X82mqKLaEx2g-cIyvh5f.html
ซึ่งจะรวบรวมประเด็นต่างๆ ที่มือใหม่ควรจะรู้
เราพยายามจัดเรียงลำดับของคลิปไว้ตามหมายเลข
เพื่อลำดับความเข้าใจให้มือใหม่ไม่สับสน ไล่ดูไปเรื่อยๆ ตามลำดับที่เรียงไว้
ไม่เกินคลิปหมายเลข 7.8 หรือใกล้เคียงกันนั้น
ก็จะเป็นการปูพื้นฐานจนเกือบครบถ้วนแล้ว
ส่วนคลิปหลังจากนั้น ก็เป็นการขยายความบ้าง
เป็นส่วนเสริมบ้าง หรือเป็นการตอกย้ำบ้าง
เพราะฉะนั้น ไม่ได้หมายความว่า "มือใหม่"
จะต้องดูคลิปใน [ส่วนที่ 1] จนหมดให้ครบถึงคลิปสุดท้าย
แล้วจึงค่อยลงมือเริ่มฝึกฝน ไม่ใช่แบบนั้น!!
คือ ดูไปเรื่อยๆ สัก 2-3 คลิป จนเริ่มรู้หลักการคร่าวๆ
รู้วิธีฝึกคร่าวๆ แล้วก็เริ่มเอาวิธีการไปลงมือฝึกได้เลย
แล้วพอว่างๆ ก็ค่อยๆ มาดูคลิปเพิ่มเติมไปเรื่อยๆ
เมื่อพอจะเริ่มเข้าใจวิธีฝึก ก็ให้ลงมือฝึกฝนบ่อยๆ
หากมีข้อสงสัยอะไร ก็ทิ้งคำถามไว้ที่ใต้คลิปนั้น
เราก็จะพยายามหาคำแนะนำของครูอาจารย์มาช่วยคลี่คลายให้
3. หรือหากมีเวลาพอสมควร พอที่จะดูคอร์สการบรรยายที่ยาวหน่อยได้
ก็อยากให้ดูการสอนกรรมฐานแบบเข้าใจง่ายใน [ส่วนที่ 2]
th-cam.com/play/PL85WQjF_Yosrqwu1E23iCftSJobZU6sK8.html
จะช่วยปูพื้นฐานอย่างละเอียด ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
ดูแล้ว ฟังแล้ว ตริตรองด้วยป้ญญาแล้ว รู้สึกเพิ่มศรัทธาในพุทธแท้ ธรรมแท้ สงฆ์แท้ และทำให้เห็นได้เลยว่าแม้อยู่ในเพศฆราวาสก็สามารถบรรลุธรรมขั้นสูงสุดได้ ขอนมัสการท่านอาจารย์กำพล ทองบุญน่ม ด้วยความเคารพสูงสุด ท่านเป็นสามีจิปฏิปันโน ภควโตสาวกสังโฆ โดยแท้.
ฟฟๆๆ
กราบในความดี ของท่านอาจารย์กัมพล และครูบาอาจารย์ หลวงพ่อคำเขียน หลวงพ่อเทียน🙏🙏🙏
@ พอฝึกมากๆเข้า ทำให้ต่อเนื่อง จนเกิดความชำนาญ เริ่มเป็นสติอัตโนมัติ / พอเห็นความคิดแล้วมันดับเลย จิตไม่ตามความคิดไป / แล้วเห็นว่าจิตที่รู้มันรู้มาจากข้างใน...เห็นกายเคลื่อนไหวมันอยู่ข้างนอก
น้อมโมทนาส่าธุ
น้อมกราบสาธุ...ธรรมนี้สุดยอดมากขอน้อมนำมาปฎิบัติอย่างต่อเนื่องเจ้าค่ะ🙏🙏🙏😇❤️
อาจารย์ กำพล ท่านเป็นแบบอย่างที่สอนให้เห็นได้ชัดเป็นรูปธรรมทั้งทางโลกและทางธรรม ธรรมที่ท่านแสดงเข้าใจง่าย, ลึกซึ้ง, ปฏิบัติ ตามท่านได้ต่อเนื่องจะได้พบแสงสว่างแห่งปํญญา น้อมกราบบูชาคุณหลวงพ่อเทียน, อ.กำพล ด้วยเศียรเกล้า 🙏🙏🙏🌼🌼🌼🌼🌼
กราบสาธุๆในธรรมะของอ.เจ้าค่ะ
กราบรำลึกท่านอาจารย์กำพลค่ะ ฟังบ่อยๆเจริญสติดีมากค่ะ
สาธุครับอาจารย์ คนกำลังท้อแท้ควรฟัง รู้สึกมีกำลังใจขึ้นเยอะครับ
น้อมจิตรับฟังท่านอาจารย์ สาธุๆๆจ้าวค่ะ
น้อมกราบบูชาคุณ ท่านอาจารย์กำพล ทองบุญนุ่ม ด้วยเศียรเกล้า น้อมกราบอนุโมทนาสาธุค่ะ🙏🙏🙏🌼🌼🌼🌼🌼
ท่านบรรยายธรรมมีสาระเ เข้าใจง่าย ทำตามได้ ทำไปด้วยเข้าใจดี มีความสุข สาธุ สาธุ สาธุ ครับ
อ.กำพลพูดถูกค่ะมากๆเลยที่สุดเลยมีแต่รัก โลภ โกรธ หลง สติไม่ค่อยจะมีกันค่ะเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นเพราะความคิดจิตมันนำไปจริงๆค่ะแล้วกว่าจะคิดกับได้ก็สายเกินไปเสมอ 🌸🌸🌸
สุดยอดสาธุ สาธุขอฟังบ่อย ๆ ค่ะ เบสิคพืเนฐานการเจริญสติ
พอรู้แนวทาง แต่ต้องฟังบ่อย ๆ เพื่อนำมาปฏิบัติ ขออนุโมทนาบุญกับแอดมิน ที่เผยแผ่ธรรมะค่ะ
ฟังอาจารย์บรรยายธรรม เหมือนมีเครื่องครัวแต่ไม่รู้จักปรุงกิน ติดตามอาจารย์บรรยายธรรมครับ สาธุ สาธุ
ฟังอาจารย์แล้วจิตใจสงบลงมาก
ดูกาย เห็นจิต ดูจิต เห็นธรรม สาธุ ด้วยครับ
ของแท้เลยค่ะ..ท่าน.กำพลถือเป็นครูบาอาจารย์ที่สอนการปฏิบัติเมื่อทำตามแล้วเกิดอาการตามจริงนี้เลยหากทุกท่านได้ฟังหล่ยๆคลิปให้เข้าใจและรู้สึกตัว(รู้กาย)ให้คล่องชำนาญ...การันตีโสดาบันไม่ไกลเกินเอื้อมในชาตินี้แน่นอน
น้อมกราบสาธุธรรมค่ะ🙏
กราบสาธุค่ะ
Veerachat Rachamuangphang
ฟังซ้ำ 1 ม.ค. 2566
@ สติปัฏฐานสี่ คือวิปัสสนา / จิตรู้กายละกาย , รู้เวทนา ละเวทนา , รู้ความคิด ละความคิด , รู้สมมุติ ละสมมุติ
@ ตัวตน เกิดจากความคิด / ขณะที่ไม่คิด ความรู้สึกว่ามีเรา ก็ไม่เกิด
@ เพราะเจริญสติน้อย / มันจึงตัดทำลายความคิดฟุ้งซ่านออกไปไม่ได้
กราบสาธุธรรม🙏คะ
กราบอาจาย์ผู้ชี้แนะแนวทางค่ะ🙏🙏
ผมชอบฟังอ.กำพล พูดมากๆครับ...🙏🙏🙏🙏
น้อมกราบสาธุ ๆๆ ขอบพระคุณมากค่ะ❤❤❤❤
สาธุๆๆๆ
สาธุคาฟผม🙏🙏🙏☺
อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุบุญด้วยนะคะ
🙏🙏🙏 ขอบคุณพระคุณค่ะ☘️🌷🙏
สาธุครับ
@@satipunya 🙏🙏🙏
มือใหม่สมาธิภาวนาค่ะเริ่มต้นยังไงดีคะ ขอถามท่านผู้รู้ช่วยให้ความกระจ่างหน่อยค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะสาธุ
1. การบรรยายของครูอาจารย์ต่างๆ ในช่องยูทูบ "มือใหม่หลวงพ่อเทียน"
เน้นไปที่การฝึกสติปัฏฐาน หรือจะเรียกว่า ฝึกสติ ฝึกเจริญสติ ก็ได้ครับ
การภาวนาทางพุทธ ที่จะสร้างความเข้มแข้งให้จิตใจ
สร้างสัมมาสติ สร้างสัมมาสมาธิ สร้างปัญญา พาไปสู่การทุกข์ใจน้อยลง
จนไปถึงหมดทุกข์ใจอย่างถาวรนั้น ต้องฝึกตามหลักสติปัฏฐานครับ
ถ้าเรียกแบบยาวๆ คือ การฝึกวิปัสสนาภาวนา
(หรือวิปัสสนากรรมฐาน) ตามหลักสติปัฏฐาน
หรือเรียกแบบสั้นๆ ได้หลายแบบ เช่น
ฝึกวิปัสสนา / ฝึกภาวนา / ฝึกกรรมฐาน / ฝึกสติ / ฝึกเจริญสติ / ฝึกสติปัฏฐาน และอื่นๆ
แต่ทั้งหมดนี้ สื่อความไปถึงเรื่องเดียวกัน
คือ เป็นการฝึกภาวนาตามหลักสติปัฏฐาน
(ซึ่งแตกต่างจากการฝึกสมาธิแบบทั่วไป)
2. ครูอาจารย์หลายท่านและคนทั่วไปจำนวนมาก
นิยมเรียกการฝึกจิตใจหรือการภาวนาในทางพุทธว่า
"การฝึกสมาธิ นั่งสมาธิ ทำสมาธิ" อะไรประมาณนี้
ซึ่งมันเป็นคำที่ผู้คนนิยมใช้ติดปากหรือคุ้นเคยกันมานาน
แต่ผู้ฝึกฝนควรรู้ว่า การฝึกจิตใจหรือการภาวนาในทางพุทธ
มีหลักการฝึกตามหลักสติปัฏฐาน
ซึ่งมีความต่างจากการฝึกสมาธิแบบทั่วไปที่ผู้คนเข้าใจกัน
[ดูคลิป]
ความเข้าใจผิดเรื่องสมาธิ
th-cam.com/play/PL85WQjF_YosregLGCXtH2nYLbdv5k9S6b.html
เพราะฉะนั้น ครูอาจารย์หลายท่านก็สอนตามหลักสติปัฏฐาน
แต่อาจจะใช้คำเรียกอันเป็นที่นิยมว่า "ฝึกสมาธิ นั่งสมาธิ ทำสมาธิ"
(ซึ่งคำว่า "สมาธิ" ย่อมาจากคำเต็มๆ คือ คำว่า "สัมมาสมาธิ")
แต่ประเด็นสำคัญ ก็คือ ไม่ว่าจะใช้คำเรียกว่าอย่างไร
หากจะฝึกอย่างถูกต้องตามแนวทางพุทธ
จะไม่ใช่การฝึกสมาธิแบบทั่วไปที่มีอยู่ในหลายศาสตร์
...แต่การฝึกสมาธิ (สัมมาสมาธิ) ตามแนวทางพุทธ ต้องฝึกตามหลักสติปัฏฐาน
(เริ่มต้นจากการฝึกให้เกิดสัมมาสติ แล้วพัฒนาไปเกิดสัมมาสมาธิ แล้วพัฒนาไปเกิดภาวนามยปัญญา)
ซึ่งในยุคหลังๆ
คนที่ฝึกฝนสติปัฏฐาน จะไม่นิยมใช้คำเรียกว่า "ฝึกสมาธิ นั่งสมาธิ ทำสมาธิ" เท่าไหร่นัก
แต่จะนิยมใช้คำเรียกว่า ฝึกสติปัฏฐาน หรือเจริญสติ หรือฝึกสติ หรือฝึกภาวนา ฯลฯ
3. ส่วนคำว่า "สมาธิภาวนา" นั้น
อาจทำให้ตีความไปได้คลาดเคลื่อนหรือสับสนได้ในหลายกรณี
เพราะในหลักการที่ระบุไว้ตามตำรา
การภาวนาทางพุทธ จะแยกเป็น 2 แนวทางหลักๆ คือ
3.1 สมถภาวนา หรือเรียกอีกอย่างว่า สมาธิภาวนา หรือจิตตภาวนา
3.2 วิปัสสนาภาวนา หรือเรียกอีกอย่างว่า ปัญญาภาวนา
ซึ่งสองแนวทางนี้ จะมีบางส่วนคล้ายกันในวิธีการฝึก
แต่มีเป้าหมายปลายทางที่ต่างกันไป
และผู้ฝึกฝนก็ต้องมีการใช้งานทั้งสองวิธีร่วมกันไป
เพราะฉะนั้น ในทางตำรา
"สมาธิภาวนาหรือสมถภาวนา" ต่างจาก "วิปัสสนาภาวนา"
และ "สมาธิภาวนาหรือสมถภาวนา" ไม่ได้ฝึกตามหลักสติปัฏฐาน
เอาเป็นว่า หากกลัวว่าจะสับสน ก็อย่าเพิ่งไปสนใจประเด็นนี้ครับ
แค่เริ่มต้นเรียนรู้ว่า จะฝึกเจริญสติ หรือสติปัฏฐาน นั้น
มีหลักการคร่าวๆ ง่ายๆ อย่างไร และมีวิธีฝึกอย่างไร?
ซึ่งขอส่งกำลังใจให้ว่า เข้าใจได้ไม่ยาก และฝึกได้ไม่ยากครับ
แต่ถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็น "สมถะและวิปัสสนา"
ก็ลองฟังคลิปนี้ได้ครับ
[ดูคลิป]
สมถะ กับ วิปัสสนา โดย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ปยุตฺโต)
th-cam.com/video/Nsu0TT9z5m4/w-d-xo.html
(มีต่อด้านล่าง)
4. การเริ่มต้นฝึกฝนในแนวทางของหลวงพ่อเทียน
4.1หากสะดวกหรือสนใจที่จะได้เรียนรู้โดยตรงกับครูอาจารย์ต่างๆ
ก็ลอง search หาใน google ว่าสะดวกจะไปที่ไหน หรือลองดูจาก link นี้
facebook.com/Sanamnai/photos/a.365802240102946.108142.361998700483300/1319466311403196/?type=3
เป็นสถานที่ต่างๆ เพื่อการเรียนรู้ในแนวทางของหลวงพ่อเทียน
4.2 หรือหากจะเริ่มต้นฝึกฝนโดยดูคลิปต่างๆ จาก channel "มือใหม่หลวงพ่อเทียน"
ก็ให้เข้าไปที่ [ส่วนที่ 1] th-cam.com/play/PL85WQjF_Yosp_X82mqKLaEx2g-cIyvh5f.html
ซึ่งจะรวบรวมประเด็นต่างๆ ที่มือใหม่ควรจะรู้
เราพยายามจัดเรียงลำดับของคลิปไว้ตามหมายเลข
เพื่อลำดับความเข้าใจให้มือใหม่ไม่สับสน ไล่ดูไปเรื่อยๆ ตามลำดับที่เรียงไว้
ไม่เกินคลิปหมายเลข 7.8 หรือใกล้เคียงกันนั้น
ก็จะเป็นการปูพื้นฐานจนเกือบครบถ้วนแล้ว
ส่วนคลิปหลังจากนั้น ก็เป็นการขยายความบ้าง
เป็นส่วนเสริมบ้าง หรือเป็นการตอกย้ำบ้าง
เพราะฉะนั้น ไม่ได้หมายความว่า "มือใหม่"
จะต้องดูคลิปใน [ส่วนที่ 1] จนหมดให้ครบถึงคลิปสุดท้าย
แล้วจึงค่อยลงมือเริ่มฝึกฝน ไม่ใช่แบบนั้น!!
คือ ดูไปเรื่อยๆ สัก 2-3 คลิป จนเริ่มรู้หลักการคร่าวๆ
รู้วิธีฝึกคร่าวๆ แล้วก็เริ่มเอาวิธีการไปลงมือฝึกได้เลย
แล้วพอว่างๆ ก็ค่อยๆ มาดูคลิปเพิ่มเติมไปเรื่อยๆ
เมื่อพอจะเริ่มเข้าใจวิธีฝึก ก็ให้ลงมือฝึกฝนบ่อยๆ
หากมีข้อสงสัยอะไร ก็ทิ้งคำถามไว้ที่ใต้คลิปนั้น
เราก็จะพยายามหาคำแนะนำของครูอาจารย์มาช่วยคลี่คลายให้
4.3 หรือหากมีเวลาพอสมควร พอที่จะดูคอร์สการบรรยายที่ยาวหน่อยได้
ก็อยากให้ดูการสอนกรรมฐานแบบเข้าใจง่ายใน [ส่วนที่ 2]
th-cam.com/play/PL85WQjF_Yosrqwu1E23iCftSJobZU6sK8.html
จะช่วยปูพื้นฐานอย่างละเอียด ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
สาธุคะพระอาจารย์🙏🏻🙏🏻🙏🏻
สาธุค่ะ🙏
ตอนนี้ทำงานด้วยปฏิบัติด้วยค่ะ
ขอบคุณมากค่ะผอ.
อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุค่ะ
สาธุๆๆค่ะขอบคุณมากค่ะอาจารย์
สาธุสาธุสาธุ อนุโมทามิ
สาธุ🙏🙏🙏☺️
อนุโมทนาสาธุๆๆ
ສາທຸ ອະນຸໂມທະນາ ພຣະອາຈານ ຊອບຟັງອາຈານມາກໆ🙏🙏🙏
สาธุ สาธุ สาธุค่ะ🙏🙏🙏
สาธุ...ครับ
สาธุในธรรมครับ❤❤❤
🙏🙏🙏☺สาธุๆๆ
สาธุค่ะ
สาธุเจ้าค่ะ
สาธุค่ะ
สาธุ🙏
@ เจริญสติมากๆ จะทำให้เห็นความคิดได้เร็ว / แล้วทิ้งความคิดให้เร็ว ไม่ต้องไปอิน หรือไปหาเหตุผลกับมัน...แต่ไม่ได้หมายถึงไปห้ามความคิด / แล้วกลับมารู้อยู่กับเคลื่อนไหวมือ....มารู้อิริยาบถย่อยในกาย คือต้องฝึกตามรูปแบบไปก่อน ให้จิตมีเครื่องอยู่ จิตส่งออกนอก มันก็จะกลับฐานได้เร็ว
@ แค่เข้าใจหลักธรรมตามตำรา มันยังไม่พอ / ต้องมีการฝึกสมถะ และวิปัสสนาควบคู่กันไปในรอบวัน
สาธุสาธุครับ🙏🙏🙏
โมทนาบุญคาฟ🙏🙏🙏☺
สาธุ
ทำให้เห็นทางครับอาจารย์ สาธุๆครับ
สาธุขอบคุณ ครับ
สาธุครับ
11:50 14 จังหวะ รู้มือที่เคลื่อนแบบแตะๆ ไม่เข้าไปอยู่ หัดรู้กายเคลื่อนไหวให้ชำนาญ แล้วจิตจะตื่นรู้ สามารถเห็นความคิด เห็นจิต เมื่อเห็นแล้วให้ทิ้งกลับมารู้กาย
พึ่งเข้ามาฟังคะชอบเลย
กราบสาธุๆๆเจ้าค่ะ
ทำได้จริงค่ะ
อนุโมทนาสาธุครับ
@ สงบ ปิติ สุข / เป็นอาการ ที่เกิดดับได้ / ถ้าจิตไปหลงจมแช่อยู่ ก็ให้กลับมาเจริญสติในอิริยาบถย่อยสลับกันไป มันจะได้เข้าใจความไม่เที่ยงดีขึ้น....จะได้ไม่ติดในรูปฌาน (รูปราคะ)
@ การภาวนา เราไม่ได้เอา ไม่ได้พัฒนา สิ่งที่ถูกรู้ ...ไม่ได้ให้ความสำคัญมัน / แต่เราพัฒนาจิตที่รู้ ว่ามันรู้แบบเป็นกลางหรือไม่.....เป็นสักว่ารู้หรือไม่..!!?...
ความอยากมาจากความคิด
ขอไห้มีอายุยืนนะค่ะท่าน
ว่างตามดูจิต
🙏🙏🙏☺
🙏🙏🙏😇❤️
# อยากบรรลุธรรม / นี้เป็นกำแพงขวางกั้น วางมันลงซ่ะ / แล้วท่านก็จะบรรลุธรรม
สาธุๆๆค่ะ🌷🙏🙏🙏🌷กราบพระธรรมที่อาจารย์แนะแนวทางให้ค่ะ17/1/65😴😴
@ ความคิดคือโลก จิตเห็นโลกไม่ยึดโลก / จิตจึงจะเริ่มเห็นความเบาสบาย ผ่อนคลาย
@ พอเป็นสติปัญญาอัตโนม้ติแล้ว / จิตก็จะวางความคิด วางสัญญาอารมณ์ได้เอง เป็นอัตโนมัติ...ถึงขั้นนี้จึงจะวางรูปแบบได้
ขี้เกียจเจริญสติ ไม่ฝึกสติปัฏฐานสี่ / ก็เหมือนไก่ขี้เกียจกกไข่ ไข่ก็เน่า ไม่สามารถฟักออกเป็นตัวได้
ขอไห้พระอาจารย์จงมีสุขภาพแขงแรงตลอดชีวิตนะค่ะเพราะท่านมีบุญบรมีสอนญาติธรรมได้ดีมากๆๆเจ้าค่ะ
อาจารย์กำพล ทองบุญนุ่ม ท่านเสียชีวิตแล้วเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2559
ผู้สนใจสามารถหาอ่านหรือฟังเรื่องราวเกี่ยวกับท่านหรือคลิปคำบรรยาย หนังสือ ฯลฯ ซึ่งมีอยู่ไม่น้อยใน internet และสื่ออื่นๆ อีกไม่น้อยค่ะ
ลอง google หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ค่ะ หรือจะดูคลิปต่างๆ ของ อ.กำพล ทองบุญนุ่ม ได้ในช่องยูทูบ "มือใหม่หลวงพ่อเทียน" ก็มีอยู่จำนวนไม่น้อยค่ะ
😘😘😘
จิตคือเราหรือเปล่าคะ เรากับจิต เป็นอันเดียวกันหรือเปล่าคะ
ขอที่จะไม่ตอบคำถามนี้นะคะ^^ ด้วยสาเหตุหลายประการ เช่น ผู้จัดทำฯ อาจจะมีภูมิความรู้ไม่มากพอที่จะให้ข้อมูลที่ถูกต้องได้ครบถ้วน
หรือ การสื่อสารอธิบายความด้วยตัวอักษรนั้น เป็นการยากที่จะอธิบายเรื่องราวที่ซับซ้อนได้ครอบคลุมชัดแจ้ง
และเหตุผลอื่นๆ แต่ขอส่งกำลังใจให้ลองศึกษาและฝึกฝนเจริญสติดูนะคะ
หากฝึกอย่างถูกต้อง และมีความเพียรที่เหมาะสม หลายคำถามก็จะมีคำตอบให้กระจ่างใจได้ค่ะ^^
ความเมตตา ความปรารถนาดีไม่หวังสิ่งตอบแทน เป็นความหลงหรือเปล่าคะ
ขอออกตัวก่อนว่า ผู้จัดทำฯ อาจจะมีภูมิความรู้ไม่มากพอที่จะให้ข้อมูลที่ถูกต้องได้ครบถ้วน
หรือ การสื่อสารอธิบายความด้วยตัวอักษรนั้น เป็นการยากที่จะอธิบายเรื่องราวที่ซับซ้อนได้ครอบคลุมชัดแจ้ง
และเหตุผลอื่นๆ แต่เอาเป็นว่า "กุศลเป็นปัจจัยแก่อกุศลก็ได้ อกุศลเป็นปัจจัยแก่กุศลก็ได้"
แต่จะสรุปว่า "ความเมตตา ความปรารถนาดีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน"จะถือเป็นความหลงแบบหนึ่งหรือไม่?
ก็มีปัจจัยหรือองค์ประกอบอื่นๆ ที่ต้องพิจารณาร่วมกันไปค่ะ
ความสำคัญ คือ การมีปัญญารู้ความจริง รู้สัจธรรม และใช้ปัญญาพิจารณาว่า อะไรควรเชื่อ อะไรควรทำ ทำอย่างไร กับผู้ใด... ฯลฯ
คือมีปัญญารู้ว่า จะต้องทำอย่างไรถึงจะเป็นการประพฤติปฏิบัติที่ถูกต้องเหมาะสมในแต่ละวาระ แต่ละสถานการณ์
เอาเป็นว่า ขอส่งกำลังใจให้ลองศึกษาและฝึกฝนเจริญสติดูนะคะ
หากฝึกอย่างถูกต้อง และมีความเพียรที่เหมาะสม หลายคำถามก็จะมีคำตอบให้กระจ่างใจได้ค่ะ^^
@@satipunya สาธุค่ะ ที่ได้กรุณาให้ความกระจ่าง ในส่วนที่ท่าน ผู้รู้ตอบได้ ดิฉันจะพยายามศึกษาด้วยความเพียรค่ะ หวังว่าจะมาถูกทาง ที่บ้านชอบทำทานต่อสัตว์จนเป็นนิสัย เป็นการทำตามกำลัง เท่าที่สามารถทำได้ สิ่งที่ทำอยู่ ทุกวันคือการให้ทาน พยายามรักษาศีล เท่าที่ทำได้ในใจไม่คิดเบียดเบียนใคร ไม่ว่าคนหรือสัตว์ ตอนนี้พยายามศึกษา เรื่องของการเจริญสมาธิภาวนา ให้ถ่องแท้ให้ได้ค่ะ จะพยายามนะคะ ขอบพระคุณมากๆเลยค่ะที่ให้ความกระจ่าง สาธุค่ะ
@@wikosasa4668 ขอส่งกำลังใจให้นะคะ^^ การทำบุญทำทาน รักษาศีล ถือเป็นเรื่องกุศลทั้งนั้นค่ะ เป็นเรื่องที่น่าสนับสนุนค่ะ
แต่อย่างไรแล้ว ก็ตามที่คุณ wiko sasa ถามไว้ว่า "มันถือเป็นความหลงได้หรือเปล่า?"
ก็ตามคำที่ยกไว้ คือ "กุศลเป็นปัจจัยแก่อกุศลก็ได้ อกุศลเป็นปัจจัยแก่กุศลก็ได้" หมายความว่า ถ้าเราทำสิ่งที่เป็นกุศล โดยเราคิดว่าเราทำอย่างถูกต้องแล้ว แต่จริงๆ แล้ว เราอาจทำอย่างไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสมก็ได้ มันก็ส่งผลกลายเป็นอกุศลได้เช่นกันค่ะ^^ เช่น เราหวังดีต่อเพื่อนที่เจ็บป่วย เราก็หาซื้ออาหารบำรุง อาหารเสริมให้เพื่อนกิน โดยที่เราอาจจะไม่ได้เจตนา หรือไม่ได้หาความรู้ให้ชัดเจนว่า โรคที่เพื่อนเป็นนั้น ไม่ควรกินอาหารประเภทใด? อาหารที่เราซื้อให้เพื่อนด้วยความปรารถนาดี ก็อาจจะไปส่งผลทำร้ายสุขภาพของเพื่อนได้ อันนี้ ก็ยกตัวอย่างให้เห็นเล่นๆ นะคะ^^
เพราะฉะนั้น ในทางพุทธ ถึงให้ความสำคัญกับ "ปัญญา" คือ ถ้าเรามีปัญญารู้ความจริง รู้ข้อมูลด้านโภชนาการ หรือรู้เกี่ยวกับอาการป่วยของเพื่อน ไม่ว่าจะรู้จากการศึกษาเอง หรือถามคุณหมอ เราก็จะพิจารณาได้ดีขึ้นว่า ควรซื้ออาหารเสริมให้เพื่อนหรือไม่? หรือถ้าจะซื้อ ควรซื้ออาหารประเภทไหน? ที่ไม่แสลงกับโรคของเพื่อน ฯลฯ
จะเห็นได้ว่า เจตนาที่ดี ก็ต้องประกอบไปด้วย "ปัญญา" ด้วยเช่นกันค่ะ มิฉะนั้น เจตนาดี แต่พอลงมือทำ ก็อาจทำแบบไม่ถูกต้องเหมาะสมได้ค่ะ
ในทางพุทธนั้น การฝึกภาวนา ทำให้เกิด "ปัญญาจากการภาวนา (ภาวนามยปัญญา)" ซึ่งปัญญาชนิดนี้ ไม่ใช่การรู้ความรู้ทางโลก รู้วิชาการใดๆ แต่เป็นการรู้สัจธรรมของชีวิต รู้ซึ้งถึงไตรลักษณ์ แล้วจะทำให้จิตใจคลายจากการยึดมั่นลงไปเรื่อยๆ จนพัฒนาไปถึงการสิ้นทุกข์อย่างถาวรตามแนวทางของพระพุทธองค์ค่ะ^^
การทำให้เกิด "ภาวนามยปัญญา" นั้น มีหนทางเดียว ก็คือ มีความเพียรในการฝึกภาวนาตามหลักสติปัฏฐานค่ะ อย่างไรแล้ว ขอส่งกำลังใจให้นะคะ^^
การภาวนาทางพุทธ ที่จะสร้างความเข้มแข้งให้จิตใจ สร้างสติ สร้างสมาธิ สร้างปัญญา พาไปสู่การทุกข์ใจน้อยลง
จนไปถึงหมดทุกข์ใจอย่างถาวรนั้น ต้องฝึกตามหลักสติปัฏฐานค่ะ
ถ้าเรียกแบบยาวๆ คือ การฝึกวิปัสสนาภาวนา (หรือวิปัสสนากรรมฐาน) ตามหลักสติปัฏฐาน
หรือเรียกแบบสั้นๆ ได้หลายแบบ เช่น ฝึกวิปัสสนา / ฝึกสติ / ฝึกเจริญสติ / ฝึกสติปัฏฐาน
ทั้งหมดนี้ สื่อความไปถึงเรื่องเดียวกันค่ะ คือ เป็นการฝึกภาวนาตามหลักสติปัฏฐาน
สำหรับผู้ที่สนใจฝึกฝนเจริญสติ (สติปัฏฐาน) ตามแนวทางของหลวงพ่อเทียน
1. การเริ่มต้นฝึกฝนในแนวทางของหลวงพ่อเทียน
หากสะดวกหรือสนใจที่จะได้เรียนรู้โดยตรงกับครูอาจารย์ต่างๆ
ก็ลอง search หาใน google ว่าสะดวกจะไปที่ไหน หรือลองดูจาก link นี้
facebook.com/Sanamnai/photos/a.365802240102946.108142.361998700483300/1319466311403196/?type=3
เป็นสถานที่ต่างๆ เพื่อการเรียนรู้ในแนวทางของหลวงพ่อเทียน
2. หรือหากจะเริ่มต้นฝึกฝนโดยดูคลิปต่างๆ จาก channel "มือใหม่หลวงพ่อเทียน"
ก็ให้เข้าไปที่ [ส่วนที่ 1] th-cam.com/play/PL85WQjF_Yosp_X82mqKLaEx2g-cIyvh5f.html
ซึ่งจะรวบรวมประเด็นต่างๆ ที่มือใหม่ควรจะรู้
เราพยายามจัดเรียงลำดับของคลิปไว้ตามหมายเลข
เพื่อลำดับความเข้าใจให้มือใหม่ไม่สับสน ไล่ดูไปเรื่อยๆ ตามลำดับที่เรียงไว้
หากมีข้อสงสัยอะไร ก็ทิ้งคำถามไว้ที่ใต้คลิปนั้น
เราก็จะพยายามหาคำแนะนำของครูอาจารย์มาช่วยคลี่คลายให้
3. หรือหากมีเวลาพอสมควร พอที่จะดูคอร์สการบรรยายที่ยาวหน่อยได้
ก็อยากให้ดูการสอนกรรมฐานแบบเข้าใจง่ายใน [ส่วนที่ 2]
th-cam.com/play/PL85WQjF_Yosrqwu1E23iCftSJobZU6sK8.html
จะช่วยปูพื้นฐานอย่างละเอียด ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
-----------------------------
ส่วนคำว่า "สมาธิภาวนา" นั้น อาจทำให้ตีความไปได้คลาดเคลื่อนในหลายกรณีค่ะ
เพราะการภาวนาทางพุทธ จะแยกเป็น 2 แนวทางหลักๆ คือ
1. สมถภาวนา หรือเรียกอีกอย่างว่า สมาธิภาวนา หรือจิตตภาวนา
และ 2. วิปัสสนาภาวนา หรือเรียกอีกอย่างว่า ปัญญาภาวนา
ซึ่งสองแนวทางนี้ จะมีบางส่วนคล้ายกันในวิธีการฝึก แต่มีเป้าหมายปลายทางที่ต่างกันไป
และผู้ฝึกฝนก็อาจจะต้องมีการใช้งานทั้งสองวิธีร่วมกันไปค่ะ
เอาเป็นว่า หากกลัวว่าจะสับสน ก็อย่าเพิ่งไปสนใจประเด็นนี้ค่ะ^^
แค่เริ่มต้นเรียนรู้ว่า จะฝึกเจริญสติ หรือสติปัฏฐาน นั้น
มีหลักการคร่าวๆ ง่ายๆ อย่างไร และมีวิธีฝึกอย่างไร?
ซึ่งขอส่งกำลังใจให้ว่า เข้าใจได้ไม่ยาก และฝึกได้ไม่ยากค่ะ
แต่ถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็น "สมถะและ วิปัสสนา" ก็ลองฟังคลิปนี้ได้ค่ะ
สมถะ กับ วิปัสสนา โดย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ปยุตฺโต)
th-cam.com/video/Nsu0TT9z5m4/w-d-xo.html
@@satipunya ขอบพระคุณมากๆเลยค่ะที่แนะนำตรงใจเลย ฉันเคยตั้งเป้าหมายไว้ หนทางแห่งนิพพาน ต้องตัดสังโยชน์ 10 ด้วยคำถามที่มันคาใจมานาน ความรักความผูกพัน ระหว่างพ่อแม่ลูก ความรักแบบนี้ถือเป็นสังโยชน์หรือเปล่าคะ ขอเป็นคำถามสุดท้ายค่ะ ท่านผู้รู้ ขอบพระคุณค่ะ
@ นอนพลิกมือหนึ่งเดือนเริ่มรู้ทางดำเนิน ฝึกวันละแปดชั่วโมง / ฝึกอาทิตย์แรกยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง เหนื่อย เครียดก็ให้ทนทำไปก่อน / ต่อมาทำแบบไม่เพ่ง จิตมันรู้สึกสบาย เห็นกายเคลื่อนไหวอยู่ข้างนอก รู้มันอยู่ข้างใน...จิตเริ่มแยกออกจากกาย...จิตแยกจากเวทนา
อยากบวช คนพิการเขาไม่ให้บวช เราก็เจริญสติของเราไป......อ๋อนี่ความคิด นี่ตัณหาความอยาก เข้าใจแล้วนี่สมมุติ แล้ววางมันลง
25:19
อาศัยรู้กายไปเรื่อยๆต่อเนื่อง จะเห็นกายที่เคลื่อนไหวอยู่ข้างนอก จิตที่รู้ๆออกมาจากข้างใน คือเห็นจิตได้โดยไม่ได้ดูจิต = แยกรูปแยกนาม
เรามองดูจิตหรือว่าจิตมองดูขันธ์ 5 คะ
ขอที่จะไม่ตอบคำถามนี้นะคะ^^ ด้วยสาเหตุหลายประการ เช่น ผู้จัดทำฯ อาจจะมีภูมิความรู้ไม่มากพอที่จะให้ข้อมูลที่ถูกต้องได้ครบถ้วน
หรือ การสื่อสารอธิบายความด้วยตัวอักษรนั้น เป็นการยากที่จะอธิบายเรื่องราวที่ซับซ้อนได้ครอบคลุมชัดแจ้ง
และเหตุผลอื่นๆ แต่ขอส่งกำลังใจให้ลองศึกษาและฝึกฝนเจริญสติดูนะคะ
หากฝึกอย่างถูกต้อง และมีความเพียรที่เหมาะสม หลายคำถามก็จะมีคำตอบให้กระจ่างใจได้ค่ะ^^
@@satipunya เห็นด้วยครับ...ผู้ที่ตั้งใจจะภาวนา ควรศึกษาทำความเข้าใจให้ดีเสียก่อนแล้วทดลองฝึกทำตามปฏิบัติในรูปแบบ ซึ่งขั้นตอนนี้ไม่รีบร้อน,ไม่ตั้งความหวังเพื่อความบรรลุ,.,..เราภาวนาเพื่อ "ศึกษา"และการสังเกตุกายใจเราด้วยสติเป็นหัวใจหลักของการปฎิบัติ...สาธุครับ
ตัวอย่างนะคะเช่น เมื่อเราถูกทำร้ายร่างกายแล้วเรารุ้สึกโกรธใครมากๆแค้นมากกๆ แล้วเราอยุ่ๆกลับคิดขึ้นทันทีว่าอ้อมันเป้นเรื่องของกรรม คงทำเขามาก่อน แล้วความรู้สึกนั้น ไม่จับมันไว้ บอกกับใจว่าไม่เป็นไร คำว่าไม่เป็นไรของฉันนี่คือไม่เป็นไรจริงๆคือเห็นหน้าแล้วไม่โกรธไม่เกลียด ประมาณว่า ปล่อยวางแล้ว ตรงส่วนนี้ ถ้าดิฉันมาใช้กับความทุกข์ ที่รุ้สึกเกิดที่ใจ แล้วคิดแบบแนวเดียวกัน ก็คือปล่อยวางให้ได้เหมือนการโกรธ ฉันมาถูกทางไหมคะ รบกวนด้วยค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
ตามที่ได้รับรู้มาจากครูอาจารย์ต่างๆ และตามที่เคยได้ให้ข้อมูลไว้แล้วว่า
"การปล่อยวางที่แท้จริง" หรือการที่จิตใจจะละวางจากความยึดมั่น ละวางจากอารมณ์ต่างๆ ได้
ต้องฝึกภาวนาตามหลักสติปัฏฐานค่ะ
เมื่อฝึกจน "เกิดปัญญาจากการภาวนา" ทำให้รู้จริง เข้าถึงสัจธรรม
ใจมันจะเข้าใจและยอมรับได้เองว่า สิ่งต่างๆ ไม่ควรยึดมั่น แล้วใจมันจะละวางด้วยตัวมันเอง
การที่เราจะใช้ความคิดไปบอก ไปสั่งจิตใจให้ปล่อยวาง ไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้องค่ะ
ย้ำว่า "เมื่อฝึกภาวนาจนเกิดปัญญา จิตใจมันจะปล่อยวางด้วยตัวมันเอง"
หรือเมื่อเริ่มต้นฝึกเจริญสติไปสักพัก จิตใจมันก็จะเริ่มปล่อยวางเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไปได้เรื่อยๆ ค่ะ
เวลาเจอเรื่องทุกข์ใจหนักๆ สูญเสียหนักๆ
มันไม่ง่ายค่ะ ที่ปุถุชนจะปล่อยวางอารมณ์ได้
เช่น คนที่รักเสียชีวิต หรือเราประสบอุบัติเหตุหนักจนต้องตัดแขนตัดขา หรือไฟไหม้บ้าน
หรืออื่นๆ ลองจินตนาการตามไปดูนะคะ
การที่เกิดเหตุไม่ดี แล้วเราคิดขึ้นมาในใจ ปลอบใจตัวเองว่า "ไม่เป็นไรนะ เราต้องปล่อยวางมันไป
มันเป็นเวรกรรม เราต้องไม่โกรธ ไม่เศร้า ไม่กังวลนะ เราต้องไม่ทุกข์ใจนะ "
ถามว่า การคิดแบบนี้ เราสามารถปล่อยวางได้จริงหรือ?
เราสามารถหลุดจากอารมณ์เศร้าโศกได้อย่าง 100% หรือ?
มันอาจมีผลดีอยู่บ้างตรงที่ว่า เป็นการปลอบใจตัวเอง หรือ เป็นการเตือนใจตัวเอง
หรือเป็นการให้กำลังใจตัวเองในเบื้องต้น ซึ่งอาจช่วยได้ 5% หรือ 10% หรือ 20% หรือ อื่นๆ
แต่มันไม่ใช่วิธีที่จะช่วยให้ "จิตใจปล่อยวางได้อย่างแท้จริง ปล่อยวางได้อย่าง 100% ตามแนวทางพุทธ"
สรุปคือ "การใช้ความคิดไปสั่งหรือไปบอกจิตใจให้ปล่อยวาง" นั้น ไม่ถูกต้องตามแนวทางการภาวนาทางพุทธ
มีประโยชน์อยู่บ้าง คือ เป็นแค่การบรรเทาปัญหาแค่ชั่วคราว แค่ขั้นพื้นฐาน แต่ไม่ได้ขจัดปัญหาที่สาเหตุค่ะ
เราอาจจะเคยรับรู้เรื่องของบางคน ที่เจอทุกข์หนักๆ แล้วเขาก็คิดปลอบใจตัวเองให้ปล่อยวาง ให้สู้ต่อไป
โดยที่เขาก็ไม่เคยฝึกภาวนา ซึ่งก็ถือว่า จิตใจของแต่ละคนมีบารมีที่สั่งสมมาต่างกันค่ะ
บางคนจิตใจเข้มแข็งมาก บางคนจิตใจเข้มแข็งน้อย
แต่สุดท้ายแล้ว ถ้าไม่ฝึกภาวนา จิตใจก็ไม่มีทางปล่อยวางได้อย่างแท้จริงตามแนวทางพุทธค่ะ
ย้ำว่า "การปล่อยวางอย่างแท้จริง" ไม่ใช่การคิดเอาเอง
ไม่ใช่สั่งใจตัวเองให้ปล่อยวาง ต้องฝึกภาวนาค่ะตามที่เคยได้ย้ำไว้ค่ะ
คลิปนี้ เคยได้แนะนำไว้ ลองค่อยๆ ฟัง ค่อยๆ ทำความเข้าใจดูนะคะ
"ทางสายกลางและการไม่ยึดมั่น โดย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์"
th-cam.com/video/JYqIxkGLtzU/w-d-xo.html
------------------------------
คำแนะนำสำคัญ คือ หากจะเริ่มฝึกเจริญสติ ต้องทิ้งคำถาม ทิ้งความสงสัยต่างๆ ไปก่อนค่ะ
เพราะมันจะมีเรื่องมากมายให้เราสงสัย ซึ่งแสดงว่า เรากำลังจมอยู่ในความคิด ความสงสัย
คิดจากเรื่องนี้ ไปเรื่องนั้น ไปเรื่องต่างๆ สารพันเรื่องค่ะ
การฝึกเจริญสติ เราจะวางความสงสัยไปก่อน ไม่ต้องตั้งใจใช้ความคิดใดๆ
ทำใจสบายๆ ผ่อนคลาย และใช้แค่ความรู้สึกตัว
หากร่างกายสุขภาพยังไหว ปัจจัยต่างๆ พอที่จะเอื้อให้เริ่มต้นได้
ก็ควรจะเริ่มต้นศึกษาและลงมือฝึกเจริญสติค่ะ
แล้วจะเริ่มต้นศึกษาและลงมือฝึกเจริญสติยังไง?
ก็เริ่มต้นตามข้อมูลที่เคยแนะนำไว้แล้วในวันก่อนๆ ค่ะ
สำหรับผู้ที่สนใจฝึกฝนเจริญสติ (สติปัฏฐาน) ตามแนวทางของหลวงพ่อเทียน
1. การเริ่มต้นฝึกฝนในแนวทางของหลวงพ่อเทียน
หากสะดวกหรือสนใจที่จะได้เรียนรู้โดยตรงกับครูอาจารย์ต่างๆ
ก็ลอง search หาใน google ว่าสะดวกจะไปที่ไหน หรือลองดูจาก link นี้
facebook.com/Sanamnai/photos/a.365802240102946.108142.361998700483300/1319466311403196/?type=3
เป็นสถานที่ต่างๆ เพื่อการเรียนรู้ในแนวทางของหลวงพ่อเทียน
2. หรือหากจะเริ่มต้นฝึกฝนโดยดูคลิปต่างๆ จาก channel "มือใหม่หลวงพ่อเทียน"
ก็ให้เข้าไปที่ [ส่วนที่ 1] th-cam.com/play/PL85WQjF_Yosp_X82mqKLaEx2g-cIyvh5f.html
ซึ่งจะรวบรวมประเด็นต่างๆ ที่มือใหม่ควรจะรู้
เราพยายามจัดเรียงลำดับของคลิปไว้ตามหมายเลข
เพื่อลำดับความเข้าใจให้มือใหม่ไม่สับสน ไล่ดูไปเรื่อยๆ ตามลำดับที่เรียงไว้
หากมีข้อสงสัยอะไร ก็ทิ้งคำถามไว้ที่ใต้คลิปนั้น
เราก็จะพยายามหาคำแนะนำของครูอาจารย์มาช่วยคลี่คลายให้
3. หรือหากมีเวลาพอสมควร พอที่จะดูคอร์สการบรรยายที่ยาวหน่อยได้
ก็อยากให้ดูการสอนกรรมฐานแบบเข้าใจง่ายใน [ส่วนที่ 2]
th-cam.com/play/PL85WQjF_Yosrqwu1E23iCftSJobZU6sK8.html
จะช่วยปูพื้นฐานอย่างละเอียด ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
หมายเหตุ : อยากให้อ่านคำแนะนำและข้อมูลต่างๆ
ที่เขียนไว้ให้ทั้งหมดตั้งแต่วันก่อนๆ
อ่านอย่างช้าๆ
ค่อยๆ ทำความเข้าใจกับมัน ไม่ต้องรีบค่ะ^^
แล้วหากอยากรับมือกับความทุกข์หรืออยากเรียนรู้เพื่อการปล่อยวาง
ก็ต้องเริ่มลงมือฝึกเจริญสติค่ะ
หากไม่ลงมือฝึกเจริญสติ
จะมีอีกหลายคำถามที่ไม่สามารถหาคำตอบได้ด้วยการอธิบายค่ะ
ขอส่งกำลังใจให้นะคะ^^
@@satipunya ขอบพระคุณค่ะ ฉันคงต้องใช้เวลาอีกนาน จะพยายามค่ะ ไปให้สุดเท่าที่ทำได้นะคะ อย่างน้อยก็ยังรู้สึกโชคดี มีกัลยาณมิตรเช่นคุณคอยแนะนำ เป็นกำลังใจให้เช่นกันค่ะ ขอบคุณนะคะ
@@wikosasa4668 ขอส่งกำลังใจให้ค่ะ และยังยืนยันว่า การฝึกเจริญสตินั้น
ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเข้าใจ หรือ ยากที่จะฝึก
ผู้จัดทำฯ ก็เป็นผู้ที่ไม่เคยสนใจธรรมะเท่าไหร่ ไม่เคยอยากจะปฏิบัติธรรม
ไม่เคยอยากฝึกภาวนา ไม่เคยรู้จักคำว่า "เจริญสติ" ด้วยซ้ำค่ะ
เคยคิดว่าชีวิตนี้ตัวเราจะเข้าใจการฝึกภาวนาได้เหมือนคนอื่นๆ เขามั้ย?
รู้สึกว่ามันยากและมันห่างไกลตัวมากๆ แต่แล้วก็มีโอกาสได้รับรู้ว่า
มันไม่ยากอย่างที่คิด ก็เลยเริ่มต้นนับหนึ่งได้
เพราะฉะนั้น อยากส่งกำลังใจให้มากๆ ค่ะ
มีคนที่ไม่เคยเริ่มต้นมากมาย แต่ไม่ได้หมายความว่า จะไม่สามารถเริ่มต้นได้
อย่างไรแล้ว วิธีการรับมือกับทุกข์ใจแบบชั่วคราว
วิธีการปล่อยวางแบบชั่วคราว ที่คุณ wiko sasa ใช้อยู่
ก็สามารถใช้แก้ปัญหาเบื้องต้นไปก่อนได้ค่ะ ไม่ได้ห้ามอะไร
และหากคิดว่า ยังไม่พร้อมจริงๆ ในการศึกษาเรื่องเจริญสติ
ผู้จัดทำ "มือใหม่หลวงพ่อเทียน" ก็ไม่มีความประสงค์ที่จะบังคับกดดันอะไรค่ะ^^
ขอให้ทำใจให้สบายๆ หากอยากจะฟังธรรม ทำบุญทำทาน สวดมนต์ ไหว้พระ ไปวัด ฯลฯ
ก็ทำได้ค่ะ เพื่อให้จิตใจปลอดโปร่ง และอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เป็นบุญเป็นกุศลไว้เสมอ
แต่วันไหนที่คิดว่า วิธีเดิมๆ นั้นไม่ได้ผลแล้วในการคลายทุกข์ใจ
หรืออยากพัฒนาไปสู่การแก้ปัญหาที่ได้ผลมากกว่าเดิม
หรือมีข้อสงสัยต่างๆ ที่อยากหาคำตอบให้กระจ่างใจ
ก็ต้องหาโอกาสเริ่มต้นฝึกเจริญสติค่ะ
ขอให้พบหนทางที่เหมาะสมกับตัวคุณนะคะ^^
ขอบพระคุณมากค่ะสำหรับคำแนะนำดีๆ พี่มอบให้ทุกครั้งเป็นกำลังใจให้ทุกครั้ง ฉันจะพยายาม นะคะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ
จะติดค่อพระอาจารย์ได้ยังไงคะ
อาจารย์กำพล ทองบุญนุ่ม ท่านเสียชีวิตแล้วเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2559
ผู้สนใจสามารถหาอ่านหรือฟังเรื่องราวเกี่ยวกับท่านหรือคลิปคำบรรยาย หนังสือ ฯลฯ ซึ่งมีอยู่ไม่น้อยใน internet และสื่ออื่นๆ อีกไม่น้อยค่ะ
ลอง google หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ค่ะ หรือจะดูคลิปต่างๆ ของ อ.กำพล ทองบุญนุ่ม ได้ในช่องยูทูบ "มือใหม่หลวงพ่อเทียน" ก็มีอยู่จำนวนไม่น้อยค่ะ
ช😊😊😊
จิต มาจากไหนครับ
ขอที่จะไม่ตอบคำถามนี้นะคะ^^ ด้วยสาเหตุหลายประการ เช่น ผู้จัดทำฯ อาจจะมีภูมิความรู้ไม่มากพอที่จะให้ข้อมูลที่ถูกต้องได้ครบถ้วน
หรือ การสื่อสารอธิบายความด้วยตัวอักษรนั้น เป็นการยากที่จะอธิบายเรื่องราวที่ซับซ้อนได้ครอบคลุมชัดแจ้ง
และเหตุผลอื่นๆ แต่ขอส่งกำลังใจให้ลองศึกษาและฝึกฝนเจริญสติดูนะคะ
หากฝึกอย่างถูกต้อง และมีความเพียรที่เหมาะสม หลายคำถามก็จะมีคำตอบให้กระจ่างใจได้ค่ะ^^
👃👃👃
สาธุสาธุครับ
อนุโมทนาสาธุค่ะ
สาธุ
🙏กราบสาธุเจ้าค่ะ
สาธุครับ
สาธุครับ🙏🙏🙏
🙏🙏🙏☺
กราบสาธุสาธุสาธุเจ้าค่ะ😇🙏🙏🙏🌻❤️❤️❤️
สาธุครับ
สาธุสาธุสาธุค่ะ
สาธุค่ะ
สาธุ
สาธุครับ🙏🙏🙏
พึ่งเคยฟังอาจาร์ครั้งแรกอนุโมทนาสาธุสาธุสาธุค่ะ❤❤❤
🙏🙏🙏
สาธุสาธุสาธุค่ะ
สาธุครับ
สาธุสาธุคะ🙏🙏
🙏🙏🙏
ความคิดนี่แหละค่ะมันควบคุมได้ยากจะต้องฟังอาจารย์บ่อยๆและตลอดไปขอบคุณอาจารย์มากๆค่ะ
🙏🙏🙏
กราบขอบพระคุณมากๆค่ะสาธุสาธุสาธุค่ะ🙏🙏🥰🌸🌳