วีดีโอ

ผมเกิด 2002 มีช่วงนึงสอบ admission แล้วก็เรียน Alevel math and physics ผมเร่งคลิปเรียน 2x แบบนี้เข้าข่ายไหมครับ แต่ปัจจุบันผมไม่มีปัญหานะ

ขอขอบคุณ

คุณจะบอกว่า content ซ้ำเป็นผลจาก algorithm หรือครับ ส่วนตัวผมมีแนวคิดว่า algorithm ไม่ได้เสริฟ content ซ้ำให้พวกคุณด้วยตัวเอง แต่ก็เพราะพวกคุณเป็นคนอื่นๆในสังคมต่างหากที่ train และ supervised บอกกับ algorithm ว่าวีดีโอปัญญาอ่อนพวกนี้ คนส่วนใหญ่ใช้เวลาไปกับมันเจอ ทำให้มันเรียนรู้ว่าสิ่งนี้เป็นไปตาม target / objective ของมันครับ

ส่วนตัวเดาว่ามันเกิดขึ้นเพราะอัลกอริทึมตัวใหม่ครับ สมมุติเราดูคลิปแนวการเงิน มันจะขึ้นการเงินมาทั้งฟีตเลย พอเปลี่ยนอีกแนวก็จะแนะนำอีกแนวมาเป็นยวง มันจะไม่ค่อยแนะนำช่องที่เราตามเหมือนแต่ก่อน คือก็แนะนำแหละ แต่อาจจะไม่เท่ายุคก่อน ทำให้เวลานี้ถ้าช่องใหญ่ที่อดีตเคยดังไม่ทำตามกระแสคือเตรียมฝัง นี่เลยเป็นเหตุผลทำให้หลายคนยอมทำคอนเทนต์ซ้ำ ๆ ออกมาถี่ๆจนทำให้แฟนยูทูปสมัยก่อนแบบผมก็เอียน เพราะเราไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายนั้น ทำอะไรใหม่ๆ ยุคนี้ยากครับ ผมทำยังไงก็ซ้ำ คนที่รอดคือคนเอนเตอร์เทนเก่ง ปล.เคยพยายามทำ TikTok กับเพจ FB เหมือนกัน แต่เจอ อัลกอริทึมปยอ. ผมพอเลย ไม่จ่ายหรือทำตามกระแสให้คนมุงคือจบ

สกีบีดี้ไม่ใช้เบินรอต😡

ผมก็มีเล้น แค้ps1 ตอนเด็ก เปิ่ดมาเกมแร้กก็ดราก้อนบอลแซ้ด

ผมมองว่าเป็นไปไม่ได้ครับ เพราะถ้าจิตสำนึกการตายจริง จะไม่มีเหตุการณ์ของสนามแม่เหล็กแปรปรวนจนทำให้รถเกี่ยวข้าววิ่งมาบ้านคูเปอร์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นเรื่องแน่นอน รวมถึงเรื่องของแรงโน้มถ้วงข้ามชั้นหนังสือ ตอนต้นเรื่องเช่นกัน

สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณนนท์

ผมอายุ 13 ไม่ติดbrainrotแต่เพื่อนในห้องผมนี้ติดbrainrot หนักมากครับ 🙏

👍👍

ผมคิดเห็นตรงกับทั้ง3ข้อเลยครับ ก่อนมาดูคลิปนี้ ปล.เมื่อวานไปดู imax มา อินมากๆ

The Science of Interstellar เป็นหนังสือที่อธิบายวิทยาศาสตร์ในหนังครับ ไม่รู้ว่าได้อ่านหรือยัง ถ้าอ่านแล้วอาจมีความคิดเกี่ยวกับทฤษฎีทั้งสามที่หยิบยกมาบางอันเปลี่ยนไปก็ได้ครับ😊

ในฐานะเด็ก 12 ธรรมดาคนนึงที่ไม่ได้ brain rot ผมอยากจะบอกว่า ดูเหมือนว่า brain rot จะ ดูเหมือนโดนล้อเป็นมุกตลก แต่พอมาได้ฟังคลิปนี้ก็เห็นว่า เอาจริงปัญหาเนี่ยมันก็ใหญ่เหมือนกันนะ [ตอน ป. 5 เคย brain rot about skibidi toilet lol] ที่เหลือนี้ก็ yapping เรื่องไม่จำเป็น ส่วนตัวเป็นคนชอบวาดรูป,เล่นเกม อยากทำ objectshow ด้วย

อ้าว ชินมึงทำยูทูปตอนไหนวะเพื่อนน

ผมคือ เจน sigma sickหมา

ชอบมากครับ❤

กว่าจะพูด แวะนู่นแวะนี่อยู่นั้นแหละ

ก็หวังว่า ผู้ปกครองจะช่วยคัดกรองคอนเทนต์ให้กับบุตรหลานมั่ง ไม่ใช่จะสักแต่ให้บุตรหลานเล่นมือถือเพียงลำพัง แล้วก็มาโทษครีเอเตอร์ เกม เจ้าของแอพพลิเคชั่น แล้วก็ผมขอบ่นนะ ผมรู้สึกเบื่อที่คอนเทนต์ขยะมันพุ่งทะยาน แต่คอนเทนต์ที่ผมและหลายท่านพยายามทำแทบตาย ไม่ดัง เซ็งโว้ย

ในมุมมองของคนทำคลิป ผมมองว่า มันเป็นอะไรที่หลุดพ้นยากมากๆ ไม่ว่าจะหนังหรือสื่อต่างๆ ถ้าไม่ปังก็เจ๊งจนไม่กล้าทำอีกเลย สุดท้ายก็ไปทำอะไรเดิมๆ คือต่อให้เปลี่ยนคอนเทนต์ไปซักกี่รอบคนดูส่วนใหญ่ก็อยากดูคอนเทนต์เดิมๆตลอด

สิ่งที่แย่ยิ่งกว่าคอนเทนต์ซ้ำซาก คืออัลกอริทึมยูทูปที่โครตแย่ บางคลิปโผล่มาแนะนำ ผมไม่สนใจเลื่อนผ่านไป รีเฟรช ก็เจออีก ซ้ำๆๆๆ เป็นสัปดาห์เป็นเดือน จนในที่สุดทนไม่ไหวแนะนำอยู่ได้ ต้องกด not interested ถึงจะหายไปสักที คือเลื่อนผ่านสิบรอบไม่กดดู AI มันควรรู้แล้วนะว่าเราไม่อยากดู ควรเปลี่ยนไปหาอย่างอื่นมาแนะนำแทน ซึ่งอัลกอริทึมแบบนี้มันแย่มาก ทำให้ช่องใหม่ๆคลิปใหม่ๆ ไม่เป็นที่รู้จัก ไม่ได้เติบโต

เพื่อนของผมเป็นเกือบทั้งห้องยกเว้นผม

ทุกวันนี้หาดูข้อมูลด้วยตัวเอง เคยดูตามอัลกอริทึมจัดเอามาไห้ดู ผมดูเรื่องเกี่ยวกับ การเงิน ธุรกิจ พัฒนาตัวเอง อัลกอริทึม พาวนอยู่ที่เดิมกับความรู้เรื่องเก่าๆ วนไปวนมากับคลิบทำซ้ำในหัวข้อเดิมๆ จนไม่ไปไหน มันน่ากลัวนะ นี้ขนาดคลิบความรู้นะ คลิปสั้นยิ่งหนักอีกเพราะเราไม่รู้ว่าอัลกอริทึมมันจะเอาอะไรมาให้เราดูอัลกอริทึมมันเหมือนเป็นกรงขังคนๆหนึ่งไว้เเต่ละคนไม่เหมือนกันครับ ผมนี่กายเป็นคนที่อคติอัลกอริทึม ไปทันทีเลย ทุกวันนี้ต้องตั้งสติ ในการใช้เราต้องเป็นคนคุมมันไม่ใช่มันคุมเรา

โจทย์มันท้าทายมากเลยครับถ้าจะทำอะไรใหม่ ๆ สักอย่างแล้วคนดูยังโอเครด้วย ผมทดลองว่าคนสร้างสรรค์จะฉีกได้แค่ไหน พบว่าขอบเขตการฉีกแนวคอนเทนต์ที่ไปสุดได้ ก็มีแค่ประมาณหนึ่งเท่านั้นเอง หรือเพราะคนเราสบายใจกับสิ่งเดิม ๆ ละมั้งนะ ❤

ผมอายุ 27 ปี ถ้าย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ผมติดโซเชี่ยลออนไลน์ค่อนข้างหนัก เวลาวัน ๆ นึงหมดไปกับมันเยอะมาก คอนเทนต์ที่เสพก็ค่อนข้างซ้ำ แต่ก็ดูได้ไม่เบื่อ รวมไปถึงชีวิตจะทำอะไรก็ต้องการคำแนะนำและคำตอบจากในนั้น ไม่เคยถามคนรอบข้างเลย ทั้งๆ ที่ทำได้อยู่แล้ว เพียงเพราะคิดว่าพวกเขาไม่สามารถให้คำตอบที่เราต้องการได้ ในช่วงท้ายที่เห็นพูดถึง social detox ผมเองก็ทำครับ อยากจะบอกว่ามันดีมาก ผมมีเวลาในชีวิตจริงมากขึ้น จากที่แต่ก่อน แป้บๆ ก็หมดวัน พอมาปัจจุบัน มีเวลาใช้ชีวิตเยอะขึ้น สมองผมโล่ง โปร่ง พอรู้ตัวอีกที ตัวเองก็จับโทรศัพท์มือถือน้อยลงกว่าแต่ก่อน เวลาปาร์ตี้แฮงเอาต์กับเพื่อน ๆ ก็เน้นคุย มากกว่าก้มหน้าก้มตาเล่นมือถือ มันทำให้ผมรู้ว่า ทักษะการพูดคุยของผม ถดถอยลงไปมาก บางคำพูดก็พูดไปไม่คิด ทำให้ช่วงเดือนแรกของ social detox ผมเริ่มมีสติ มีสมาธิมากขึ้น จนในทุกวันนี้คือ เอนจอยกับชีวิตมากครับ 😊

ตลกละ ที่บอกไม่คิดอะไรนอกกรอบ คอนเทนแนวใหม่มีทุกวัน เทรนก็เปลี่ยนตลอด เออ ถ้าในติกตอกมันมีแต่เต้นอย่างเดียวเหมือน 3-4 ปีก่อนที่ล้อ ๆ กันก็ว่าไปอย่าง ปล. มันก็เป็นงี้ทุกวันวงการแหละ อย่างวงการหนังสือพัฒนาตัวเอง เมื่อก่อนมีแต่แนวคิดเดิม ๆ จนมีพ่อรวยสอนลูก มาเปลี่ยนเทรน ก็แห่มาเขียนแบบพ่อรวยสอนลูก ต่างกันแค่เปลี่ยนจากกระดาษ เป็นภาพเคลื่อนไหวในมือถือ

ดีใจที่มีคนไทยมาคุยเรื่องปัญหาอะรแบบนี้ เหมือนพวกฝรั่งๆเขาจริงๆ ดีใจครับ 🥰🥰

Skibidi เอาจริงไม่ปัญญาอ่อนถ้าดูจริงๆ ก็ การ์ตูนตู่สู้ทั่ว ไป

ชอบพอดแคสแบบนี้มากครับ

สวัสดีปีใหม่นะครับ🎉

Brainrot จะกลายเป็น Alzheimer ไหม

เสียง microphone ฟังยากไปหน่อยครับ

ผมเสียใจกับสิ่งที่เด็กๆ ยุคนี้ต้องเจอ ผมเป็นเด็กที่โตมาในยุคเครื่องเล่น Playstation 1 เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก และตอนนี้ผมเป็นพ่อคนหนึ่งและครูของเด็กๆ อีกจำนวนหนึ่ง ที่พยายามปกป้องพวกเขาจากอะไรบางอย่างอยู่เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ผมก็ไม่ใช่คนที่ตามกระแสเมื่อเทียบกับคนในรุ่นเดียวกัน และตอนนี้ผมก็กำลังคิดจะซื้อจักรยานแม่บ้านธรรมดาๆ สักคันไว้ขี่ไปโรงเรียน มันเครียดพอตัวเพราะเราก็ไม่มีความรู้เกี่ยวกับมันมาก แต่คงเทียบกับเด็กๆ ในยุคนี้ไม่ได้ ผมเสียใจ แต่ผมจะพยายามปกป้องพวกเขาเท่าที่จะทำได้ และขอบคุณเจ้าของช่องด้วยนะครับ

ในฐานะครู คือ การเปลี่ยนแปลงต่อเด็ก น.ร. ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เห็นได้ชัดเจนมาก รุ่นเมื่อปี 2556 ป.4 รุ่นแรกของผม น.ร.ส่วนใหญ่สามารถจดจ่อกับการเรียน การท่องศัพท์ การทำกิจกรรม และงานกลุ่มกับเพื่อนได้ เทียบกับยุคปี 2566 ป.5 แล้ว หลายคนยังอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ ติดเล่น ติดคุยกับเพื่อน มีพฤติกรรมเรียกร้องความสนใจ เยอะขึ้นมาก ผลมาจากอาการสมาธิสั้นและขาดความอบอุ่นวัยเด็กเนี่ยแหละครับ บางคนกลับถึงบ้านพ่อแม่ยื่นโทรศัพท์ให้เลย ไม่ยอมทำการบ้าน พ่อแม่ขัดใจหน่อย ร้องแหกปาก พ่อแม่ก็อายคนมเลยตามใจ กลายเป็นพฤติกรรมที่แย่ติดตัวไปจนโต ซึ่ง อะไรแบบนี้พบเห็นได้น้อยนะ เมื่อตอนปี 2556 น.ร. ผมห้องนึงมี 25 คน จะมีปัญหาแบบนี้ แค่ 1-3 คน เท่านั้น ปี 2566-67 เพิ่มเป็น 4-7 คนต่อห้อง ในฐานะครู ผมก็ปรับแหละ ทั้งเรื่องสื่อ เรื่องวิธีสอน แต่พ่อแม่ ครอบครัวก็ต้องปรับด้วย เด็ก อยู่ที่บ้านมากกว่า ร.ร. อะไร ๆ จะมาด่ามาลงที่ครูอย่างเดียวก็ไม่ถูกครับ

มันสายเกินแก้ละคับ555555666655555555

สมัยผมเด็กๆไม่ค่อยได้เล่นมือถือผมก็ไปเล่นที่วัดรอกินขนมเล่นกับเพื่อนตอนนี้ผมย่างเข้า14ขาดมือถือผมก็ไม่ได้เป็นอะไรก็แค่ไปเล่นกะเพื่อนนอนหลับ

ส่วนผู้ใหญ่วัยใกล้30แบบผมจะเป็นอีกอาการนึง คือไถโซเชี่ยลแล้วเห็นคนนู้นคนนั้นได้ดีแล้วรู้สึก กดดันตัวเอง คิดว่าตัวเองล้มเหลวเพราะไม่ได้และไม่มีอย่างคนอื่นๆ

ผมเจอ Brain Rot ในโลกโซเชียลบ่อยมากเลยล่ะครับ ไม่ว่าจะดูคลิปอะไรก็จะเจอบ่อยมากๆ อย่างการเอา Sprunki ที่เป็นเกมดนตรีการ์ตูนน่ารักสดใสผสมความสยองอยู่แล้วมาทำให้มันดูอุจาดทโดยการใส่เนื้อหา 18+ ,การ X หรือที่เรียกกันว่าจิ้น,นมและอื่นๆอีกมากมาย ส่วนใหญ่พวกนี้มันมักจะเจอใน Shorts ครับ ผมแทบจะขว้างสมองทิ้งแล้วหรือไม่ก็สมองบินไปเลย

สมัยก่อน ตอนอินเตอร์เน็ตมาใหม่ๆ คนยังคิดและพิมอะไรกลับไปนะ แต่เดี๋ยวนี้คนเขาด่ากันง่ายจัง ขนาดเรื่องที่ยังไม่ชัดเจน หรือตีความไปผิด ก็ออกปากด่าเขาแล้ว ไม่รู้ว่าพฤติกรรมที่กล่าวมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ไหมนะ

ผมเป็น fc นักแสดงสองคนนี้ บทวิจารณ์ก็ทำออกมาได้ดีครับ ติเพื่อก่อ ทำต่อเพื่อหนังไทยที่ดีขึ้น

คนชอบบอกว่าผมสมองเน่าทั้งไปที่ คำว่า skibidi มันเป็นคำติดปากผมเฉยๆ

ผมคิดว่าการแก้ปัญหาเบื้องต้น 9:52 โทรศัพท์น่าจะมีจับเวลาการเล่น 1 ชั่วโมงแล้วหากเราเล่นเกิน 1 ชั่วโมงโทรศัพท์ก็จะปิดเครื่อง แล้วต้องรออีก1 ชั่วโมงถึงจะเปิดเครื่องมาใหม่แล้วตอนนั้นเนี่ยเราก็ไปหากิจกรรมอื่นๆทำเช่นเดินเล่นวิ่งเล่นเล่นกับหมาเล่นกับแมว

อันนี้จริงความอดทนผนแต่ก่อนมีมากกว่านี้ด้วยซ้ำความจำสั้นอันนี้ก็ใช่เหมือนกันฉันทำงานก็ยังบ้าๆบ๊องๆใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะเข้าใจในสิ่งที่เขาบอกtiktok นั่นแหละเอาคลิปมันจบไวมันก็ทำให้เราอยากเลื่อนไปคิปใหม่จนทำให้เราอดหลับอดนอนสมองไม่ได้พักผ่อนตื่นเช้ามาไปทำงานก็ไม่เต็มเล่นได้แต่แค่พอประมาณใช่ไหมครับ😮😢

ผมขอออกความคิดเห็นด้วยนะครับในฐานนะเด็กเจนอัลฟ่าผมอายุ1ขวบแล้ว แล้วผมก็จะดูทีวีต่อยกับส้วมมันให้ข้อคิดว่าใครตัวใหญ่กว่าชนะ😊

เด็กที่เกิดใหม่ช่วงนี้และพ่อแม่ให้เสพสื่อผ่าน tablet ผ่านสมาร์ทโฟน เริ่มสร้างเด็กออทิสติกและสมาธิสั้นเทียมขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ถ้าไม่พร้อมจะมีเวลาให้ลูกก็ไม่ควรมีลูกไหมอย่างนั้น ขอผลพวงที่ตัวเองทำกับลูกเกิดขึ้นในภายหลังขึ้นมาก็จะโทษที่ลูกเอาแต่สนใจหน้าจอไม่สนใจอะไร และเด็กก็จะมีความอดทนต่ำ

เอากฎหมายของออสเตรเลียเป็นตัวอย่าง

ผมอายุ 25 แล้ว ทุกวันนี้ผมก็ยังเป็นอยู่ เพราะผมอยากหาอะไรที่ทำให้ผมขำได้ก็พอ ความคิดอะไรที่ผมรู้สึกตลกผมก็ทำลงคลิปหมด

Tiktok น่ากลัวสุดล่ะถ้าผมมีลูกผมจะไม่ให้ลูกเล่นแน่นอน

Skibidi: มีอะไรโทษตูได้เลย รับทุกอย่าง

เอาตั้งแต่ตอนที่ยังไม่มีคลิปสั้น ตั้งแต่ต้น 2000’s จนถึง 2016-17 ผมโตมากับ รร ที่ห้ามเด็กเล่นมือถือจนกว่าจะเลิกเรียน แต่หลังจากนั้นผมก็ย้ายไป ม.ปลาย ที่ รร อื่น ที่ไม่มีกฎนี้ ผมรู้สึกว่าเด็ก รร ใหม่นี้ ส่วนใหญ่มีทักษะการควบคุมอารมณ์และความอดทนที่ค่อนข้างต่ำมาก รู้สึกอย่างไรก็แสดงออกอย่างนั้นเลย แต่พวกเขาก็เก่งทางวิชาการ มีความรู้ที่มากกว่า รร เก่าผม อยู่หลายเท่าตัวเลยทีเดียว ถ้ามองข้ามเรื่องกฎมือถือบ้าบอนี้ออกไป ผมว่ามันก็เห็นความแตกต่างระหว่างเด็กที่ถูกควบคุมการเล่นมือถือ กับเด็กที่โตมาอย่างอิสระ อยู่พอสมควรเลย

ผมเห็นเมนต์นึงบอกว่า จะมีเจนใหม่คือ gen beta เด็กที่เกิดวันที่ 1 ม.ค. ปี 2025 เป็นต้นไปจะถือว่าเป็นเด็กในเจนใหม่นี้ ก็เหลือแค่วันสุดท้ายแล้วนับตั้งแต่ผมคอมเมนต์ในวันนี้ ( 31 ธ.ค. 2024 ) ผมกังวลว่าเด็กที่เกิดหลังจากนี้จะต้องพบเจออะไรบ้าง หรืออาจจะหนักกว่าเจนที่ผ่านมาก็เป็นได้ครับ