The Science of Interstellar เป็นหนังสือที่อธิบายวิทยาศาสตร์ในหนังครับ ไม่รู้ว่าได้อ่านหรือยัง ถ้าอ่านแล้วอาจมีความคิดเกี่ยวกับทฤษฎีทั้งสามที่หยิบยกมาบางอันเปลี่ยนไปก็ได้ครับ😊
@Aynon ผมเข้าใจครับ ผมก็ลองฟังดูก่อน พอจบผมก็ค่อยมาคิดว่าเออมันเป็นไปได้ไหม ถ้าเคยเห็นถาพ3มิติการบิดเบือนของ space time ของสมการไอสไตนที่ทำให้เกิดหลุมดำผมเลยคิดว่ายิ่งไม่น่าทำให้คิดแบบนี้ได้ครับ
เป็นการตีความที่น่าสนใจดี แต่ปกติการตีความมักจะเกิดกับหนังที่จบไม่เคลียร์ เปิดโอกาสให้คนดูถกเถียงกัน แต่กับเรื่องนี้ผมว่าไม่ใช่ หนังค่อนข้างเคลียร์ มีทั้งนิยาย และหนังสือวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องออกมามากมาย มันสนุกแหละครับการจินตนาการของเราน่ะ เพียงแต่มันไม่ใช่ข้อเท็จจริง
ส่วนตัวคิดว่ามันขึ้นอยู่กับแนวคิดของแต่ละคนว่าจะ สรุปตอนจบของหนังเรื่องนี้ยังไง เอาเฉพาะแค่คนที่ดูแบบหนังนะครับไม่นับนิยาย ส่วนตัวผมก็ไม่ชอบนะถ้าจบอย่างที่ช่องนี้ สรุปมาให้แต่มันก็ เป็นแนวคิด และเขาก็ดูมีเหตุผลด้วย มันทำให้อินไปมากกว่าเดิมอีก😢
ข้อเท็จจริงส่วนไหนครับ? หนังไม่ได้นำเสนอข้อเท็จขนาดนั้นนะครับหลายอย่างเป็นทฤษฎีที่ต้องรอการพิสูจน์ ถ้าจะจบแบบนี้ที่ทางช่องวิเคราะห์มาก็ไม่ได้แปลกแหวกแนวหรือต้องมีข้อเท็จจริงอะไรซัพพอร์ทเลยครับ และต่อให้ตีความตอนจบอีกกี่ร้อยแบบก็ถือว่าเป็นแนวคิดที่ต่อยอดโดยไม่ต้องยึดจับข้อเท็จจริงอะไรเลยก็ได้ ผมว่าจบแบบไหนก็โอเคหมดเพราะหนังจับเอาทฤษฎีต่างๆออกมาให้เห็นภาพได้สมบูรณ์ดีแต่หลายอย่างที่จะบอกว่าเป็นข้อเท็จจริงได้ต้องมีการพิสูจน์ครับ เช่นรูปธรรมของหลุมดำก็ถูกพิสูจน์ลักษณะหลังจากหนังเรื่องนี้ออกฉาย
ใช่ไอ้คนตีความโง่
อิหยังวะ😂
@@ppwsw ข้อเท็จจริงชัดเจนมากครับ มีหนังสือที่ออกโดยคิปทรอน คนให้กำเนิด interstellar (โนแลนถูกจ้างให้มากำกับให้สนุก) ส่วนเรื่องการตีความ คือมุมมองของคนที่ไม่เข้าใจสิ่งที่ผู้กำกับกับผู้สร้างพยายามจะสื่อ หนังมันชัดเจน แต่คนดูบางกลุ่มดูหนังไม่แตกฉานครับ เลยคิดเข้าข้างตัวเอง หนังมันชัดมากๆๆๆ ยังจะมาตีความอะไรอีก
กฏของของสไตล์บอกเราว่า เวลาคือสิ่งที่สามารถทำให้บิดเบี้ยวได้ มันอยู่ในรูปธรรม ไม่ใช่นามธรรม แต่มันเป็นเนื้อเดวกับกาลอวกาศ นั้นหมายความว่า เราสามารถบิดเบี้ยวกาลเวลาได้ แต่ต้องใช้พลังมหาศาล ถ้าจะย้อนเวลาต้องใช้ พลังงานลบในการเปิดรูหนอน ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ในธรรมชาติ แต่หลุมดำคือสิ่งเดียวที่มันไม่สนกฏฟิสิกส์ห่าเหวอะไรทั้งนั้น มันอยู่เหนือกฏฟิสิกส์ที่เรารู้จักเพราะเลยขอบฟ้าเหตุการณ์ไปแล้วไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเพราะตรงจุดนั้นกฏเกณต่างๆจะพังทลายลง
หลุดดำเป็นฟิสิกส์คับ แล้วอยู่ที่ว่าคุยกันข้างในหรือข้างนอก ข้างนอกเกิดตามหลักฟิสิกส์เลย ข้างในเป็นการจำลองและในหนังไม่ใช่การย้อนเวลา แต่เป็นเหมือนหนัง ที่เลื่อนไปมาได้ อดีตที่เราไปคืออนาคตของเรา ยังไงเวลาก็จะเดินไปข้างหน้า อยู่ที่ช้าหรือเร็ว หรือถ้าทำได้ย้อนเวลาได้ด้วยการเร็วกว่าแสง คุณจะไม่เห็นอะไรเลย เพราะเราต้องอาศัยแสงไปกระทบวัตถุ แล้ววิ่งมาที่ตาเรา
Spaceกับtime มันคือสิ่งเดียวกัน แยกกันไม่ได้เรียกspacetime (มันอาจขัดต่อสามัญสำนึก)
Spacetime บิดโค้งได้โดยสสาร มากน้อยแล้วแต่มวล มดมวลน้อยก็บิดโค้งได้ ดวงอาทิตย์มวลมากก็บิดมาก การบิดโค้งทำให้เราเข้าใจว่ามันคือ gravity แต่จริงๆมันคือการที่สสารรวมถึงแสงโฟตอน เคลื่อนไปตามspacetime ที่ถูกบิดโค้ง (เรามองว่ามันถูกดูด gravity)
หลุมดำคือดาวฤกษ์ขนาดใหญ่ยุบตัวเพราะเผาพลังนิวเคลียร์ที่ต้านการบิดโค้งจนหมดเลยยุบ บิดspacetime เป็นอนันต์ ใจกลางที่เป็น singularity เรายังไม่ค่อยเข้าใจ แสงหรือสะสารที่ผ่านเข้าไป(เลยขอบ event horizon) จะนิ่ง และออกมาไม่ได้ ในนั้นเปนไงไม่รู้
(ถ้าผมคิดนะ ในนั้นสสาร โฟตอน electron ไม่ขยับ ก็เหมือน นิ่ง จนด้านนอกผ่าน เกิด big bang big crunch เรื่อยๆ อธิบายยาก ตอนนี้ยังไม่รู้)
ในจักรวาลมีกฎฟิสิกส์ค่ะ ไม่มีอะไรสุ่ม แค่กฎฟิสิกส์นิวตันกับกฎฟิสิกส์ควอนตอมยังต่างกันเลย แค่เรายังสร้างสูตรฟิสิกส์ของหลุมดำไม่ได้ ไม่ได้แปลว่ามันไม่มีกฎค่ะ อย่าเบียวมากแล้วหาข้อมูลเพิ่มเติมนะคะ
@@panchanatbueraung258ถูกส่วนเดียว ข้างในหลุมดำ ยังไม่มีสมการฟิสิกส์อธิบายได้นะครับ
การบิดเวลาทำได้2 อย่างครับ
1. ความเร็วที่ใกล้แสง
2. น้ำหนักของมวล ขนาดที่ใหญ่และหนักมากๆ จะบิดเวลารอบๆมัน ให้เดินช้าลง
แนวคิดที่ 1 : They มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นมนุษย์ในอนาคต (มากว่าจะเป็นเผ่าพันธุ์ทรงปัญญาอื่น) แต่ไม่คิดว่าจะเป็นตัว Cooper เอง เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องใช้ Cooper เป็นตัวกลางส่งข้อมูลควอนตั้มกลับไปให้เมอร์ฟี่ ส่งเองเลยต่อเดียวก็ได้
แนวคิดที่ 2 : ไม่เห็นด้วยเลย คิดดูว่า ถ้าเป็นแค่ "สิ่งที่ Cooper จินตณาการเอาเอง" ทำไม Cooper ถึงจะต้องกลับมาตอนเมอร์ฟี่จะตาย แทนที่จะกลับมาตอนลูกยังสาวๆ แค่แว้บเดี่ยวหลังส่งข้อมูลเสร็จแล้ว แบบนั้งน่าจะมีความสุขมากกว่า และที่เหล่าหลานๆเหลนๆไม่สนใจ ก็เพราะทุกคนเชื่อว่าเมอร์ฟี่ทำสำเร็จด้วยตัวเอง Cooper เป็นแค่คนที่ทิ้งลูกไปทำภาระกิจที่สุดท้ายก็ล้มเหลว และการกลับมาจากหลุมดำ หรือการหน่วงเวลาจนไม่แก่ลงเลยแม้จะอายุร้อยกว่าปี มันยังเหนือสามัญสำนึกมากเกินไป เหตุการณ์นี้จึงเป็นแค่ "ใครวะ?" เท่านั้นเอง
แนวคิดที่ 3 : เป็นไปได้ แต่ฉากจบทั้งหมดก็จะไม่มีความหมายอะไรเลย เป็นไปได้ในแง่ความน่าจะเป็น แต่หาเหตุผลมารองรับไม่ได้เลย ถ้าคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ผู้สร้างผลงานนี้ต้องการจะทำออกมาให้เราดู
สรุป ความเข้าใจเดิมที่คนดูส่วนใหญ่เข้าใจ น่าจะเพียงพอแล้ว ส่วน 3 แนวทางในคลิปนี้ คงเป็นการเขย่าให้ตะกอน "คิดต่าง" มันฟุ้งขึ้นมาเฉยๆเท่านั้น
ผมคิดเห็นตรงกับทั้ง3ข้อเลยครับ ก่อนมาดูคลิปนี้ ปล.เมื่อวานไปดู imax มา อินมากๆ
ผมก็เพิ่งไปดูมาครับเมื่อวาน 😊
แต่ตอนจบผมคิดว่าในหนังสื่อออกมาตรงตัวครับ คือคูเปอร์ไม่ได้เสียชีวิตในหลุมดำครับ
เพราะว่าอาจารย์ Kip Thorne ที่ Christopher Nolan เชิญมาเป็นที่ปรึกษาเรื่องทางวิชาการ ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าตอนจบคือคูเปอร์ถูกช่วยเอาไว้โดย “They” ครับ
คือคูเปอร์ถูกย้ายไปอยู่ใน Tesseract ที่เป็นเขตแดน 5 มิติ ก่อนที่จะถูกดูดเข้าใจกลางหลุมดำครับ
ถ้าคิดในกรอบของหนัง theory ของคุณจะค่อนข้างฉีกไปไกลไปหน่อยครับ เหมือนคิดเลยข้อมูลของหนังที่ให้มาออกไปไกลเกิน
ด้วย story ตอนแรก กับตอนจบมันผูกกันได้พอดี visual ก็บอกหมดอยู่ละนะ อันนี้ออกไปทางจินตนาการไปนิดนึงครับ
หนังของโนแลนทุกเรื่อง ตอนจบเราจะอยู่ในโลกจริงเสมอครับ ลองย้อนดูทุกผลงานของโนแลนครับ มันมีเหตุผลที่ทำเรื่องแบทแมนให้สมจริง แค่ทุกฉากจบจะทำให้คนคิดว่ามันอาจจะไม่จริง เช่นเรื่อง อินเชพชั่น ส่วยเรื่องนี้ they อาจจะเป็นใครก็ได้ที่สร้างหลุมดำ ซึ่งไม่ต้องสนใจจุดเริ่มต้น แค่ให้สนใจว่า มันจนวนลูปแบบนี้ไปตลอด เหมือนไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน
การสรุปว่าหนังโนแลนตอนจบต้องเป็นโลกจริงเสมอ อาจเป็นมุมมองแค่ด้านเดียวของคนดูเอง
ลองย้อนดูผลงานของโนแลน จะเห็นว่าหลายเรื่องสามารถตีความได้หลากหลายแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริง เรื่องฝัน หรือเรื่องมโน ตัวโนแลนเองชอบแนวจิตวิทยาและมักจะนำไปผสมกับธีมหลักของหนังหลายเรื่องที่เขาทำ ทฤษฎีทางจิตวิทยา+ความสมจริง คือเสน่ห์ของการทำหนังของโนแลน จึงสามารถทำหนังให้ตีความได้หลากหลาย คนเชื่อทฤษฎีทางจิตก็มีทฤษฎีรองรับ คนเชื่อว่าเป็นโลกจริงก็มีหลักฐานสนับสนุนข้อเท็จจริง
ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้ชวนโต้เรื่องไหนจริงเรื่องไหนไม่จริง เพราะหนังโนแลนมีดีเทลที่ใส่มาเพื่อสนับสนุนทุกแนวคิดความเป็นไปได้ ที่เยอะมากๆ ถ้าโต้กันไปก็เหมือนคุยกันเรื่องไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน วนลูปอยู่ในtesseractที่โนแลยสร้างขึ้น
@ แน่นอนว่าโนแลนให้ตีความได้แน่ๆครับ แค่ผมบอกว่า หนังของโนแลน จะไม่มีเรื่องไหนติดอยู่ในโลกเสมือน หรือติดในความคิด มันมีเหตุผลที่แบทแมนทำออกมาให้อิงโลกของความจริง คุณลองกลับไปดูได้ทุกเรื่องครับ
@@ASHURA.Officalแค่นี้ก็รู้แล้วว่าคุณดูหนังน้อย Inception ตอนจบยังทิ้งปริศนาถึงทุกวันนี้ว่าจบแบบไหนระหว่างความจริงกับความฝัน
@ 5555 ดูหนังน้อย คุณนั้นแหละตามน้อย ไปดูเยอะๆสักล้านรอบนะ เขารู้กันหมดแล้ว ว่าพระเอกอินเซบชั่น ถ้าปรากฏตัวอยู่กับพ่อ นั้นคือความจริง โทเทมกระดิกก็บอกหมดแล้ว สงสารจัง สมองน้อ ไปดู อย่าเบลมคนอื่นว่าดูหนังน้อย ถ้าตัวเองดูน้ิยกว่า
@@peekayla3110 เค้ารู้กันนานแล้วนะ ว่าตอนจบพระเอกไม่ได้ฝัน อย่าเคลมว่าตัวเองดูหนังเยอะเลยครับ ถ้าไม่รู้ว่าโทเทมของพระเอกคืออะไร ลูกข่างมันโทเทมของเมียพระเอก
อาจารย์ Kip Thorne ที่ Christopher Nolan เชิญมาเป็นที่ปรึกษาทางวิชาการ ออกมาให้สัมภาษณ์ครับ ว่าตอนจบคือคูเปอร์ไม่ได้เสียชีวิตครับ แต่ถูกช่วยไว้โดย “They” ที่เป็นสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญา (คาดว่าจะเป็นมนุษย์ในอนาคตที่มีวิทยาการในระดับ 5 มิติ) ครับ
คูเปอร์ถูก “They” ดึงเข้า Tesseract ที่เป็นเขตแดน 5 มิติ ก่อนที่จะถูกดูดเข้าใจกลางหลุมดำครับ
และที่คูเปอร์มองเห็นห้วงเวลาเป็นลักษณะเชิงปริมาณ เป็นสิ่งจับต้องได้ เพราะ They ทำให้ใน Tesseract ถูกมองเห็นในแบบ 3 มิติ ที่คูเปอร์รับรู้ได้ครับ มิติของเวลาก็เลยกลายเป็นปริมาตร เป็นสิ่งที่จับต้องได้
แต่คูเปอร์ไม่สามารถติดต่อเมิร์ฟทางกายภาพหรือทางเสียงได้ ทำได้แค่บังคับแรงโน้มถ่วงที่สามารถทะลุมิติเวลาไปได้ เพื่อที่จะสื่อสารกับเมิร์ฟทั้งในอดีตและตอนโตด้วยรหัสมอร์ส และรหัสเลขไบนารี่ครับ (เอาจริงๆ คูเปอร์ก็สื่อสารกับตัวเองด้วย โดยบอกพิกัดฐานลับของนาซ่าให้ตัวเองในอดีตรับรู้ครับ)
และอีกอย่างคือข้อมูลของ Singularity ที่หุ่น TARS เก็บรวบรวมได้จากกลางหลุมดำ ที่จำเป็นต้องใช้เพื่อให้สามารถแก้สมการแรงโน้มถ่วงโลกได้ คูเปอร์เป็นคนส่งให้เมิร์ฟตอนโตครับ ไม่งั้นเมิร์ฟจะแก้สมการต่อจากด็อกเตอร์แบรนด์ไม่ได้
การแก้สมการแรงโน้มถ่วงได้ ทำให้สามารถควบคุมแรงโน้มถ่วงโลกให้ลดลง เพื่อที่จะให้สถานีอวกาศขนาดใหญ่ที่เอาไว้อพยพคนจำนวนมาก สามารถหนีจากแรงโน้มถ่วงโลกออกไปได้ครับ
มนุษย์โลกหนีออกจากโลกได้เพราะข้อมูลที่คูเปอร์ส่งมาให้เมิร์ฟ แล้วเมิร์ฟแก้สมการต่อได้สำเร็จครับ สรุปคือคูเปอร์ไม่ได้เสียชีวิตครับ
ที่ลูกหลานเมอฟี่ เฉยๆกับคูเปอร์ ไม่ค่อยสนใจเพราะ มันห่างเหิน ไม่มีความผูกพันธ์อะไร แล้วคนที่อพยพรอด ส่วนใหญ่ ยกย่องเมอฟี่มากกว่าใครๆอยู่แล้ว เพราะพาทุกคนหนีโลกออกมาได้
สำหรับประเด็นที่ว่าทำไมลูกหลานของเสิร์ฟไม่สนใจคูเปอร์ เหมือนไม่เห็นตัวคูเปอร์ ผมว่าต้องลองกลับไปดูในหนังนะครับ
ลูกหลานเมิร์ฟ เห็นคูเปอร์เดินเข้าไปในห้องครับ แต่พวกเค้าหลีกทางให้คูเปอร์ได้คุยกับเมิร์ฟกันสองคนครับ
คูเปอร์ไม่ได้เสียชีวิตครับ
ตอนจบที่ผมกล่าวมาทั้งหมดในเรื่องเป็นเพียง ‘การตีความจากความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น’ ไม่ได้หยิบยกหรืออ้างอิงมาจากแหล่งข้อมูลใดๆ ดังนั้น หากมีช่องโหว่ หรือมีแนวคิดอื่น ที่น่าสนใจ ก็สามารถคอมเมนท์พูดคุยหรือแชร์กันได้ครับ
พระพุทธเจ้าสอนไว้ว่า อย่าเชื่อเพราะว่าเขาคนนั้นคือ..ดร.แมว😊
ความคิดเห็นส่วนตัว ผมเป็น FC เจ้าพ่อโนแลน ทุกเรื่องครับ Interstellar (ดูจบ3 รอบ) โนแลน มักทำฉากจบและทฤษฎีปลายเปิด เพื่อให้คนดูเพิ่มรอยหยักในสมอง ให้คิด,วิเคราะห์+จินตนาการต่างๆ ผมเห็นด้วยกับ แอดฯ ครับ.. เพราะรู้สึกว่า Cooper ตอนเดินเข้ามาหา Murphy ไม่มีใครสนใจ(รู้สึกแปลกๆ) อาจเพราะโนแลน กำลังบอกใบ้เป็นนัยๆ ว่า "สิ่งสุดท้ายที่เราจะเห็นก่อนตาย คือคนที่เรารักมากที่สุด" Dr.Man ได้กล่าว❤❤😅😅
ผมว่าเค้าตั่วใจทำให้คิดแบบนั้นจริง เหมือนตอนจบinception ให้ทุกคนมีตอนจบในใจของตัวเอง
ทำไมพวกคุณถึงเชื่อดร.แมวกันหมดเลย😊
เป็นสมมุติฐานที่น่าสนใจมาก
และยิ่งย้อนกลับไปดูฉาก ตอนเมอฟี่แก่ซ้ำๆก็ยิ่งชัดเจนเลยว่า ผู้กำกับน่าจะบรีฟว่า ตอนที่คูเปอร์เปิดประตูเข้ามา ให้ทุกคนทำเหมือนคูเปอร์ไม่มีตัวตน ไม่มีใครมองเห็น ไม่มีใครสนใจเหมือนเป็นแค่ผี วิญญาณ มีแค่เมอฟี่คนเดียวที่เห็น
มันไม่ใช่การกลับมาของฮีโร่ ไม่สิ ไม่เป็นแม้แต่การมาเยี่ยมญาติคนหนึ่งด้วยซ้ำ เหมือนเป็นซีนที่สร้างขึ้นให้มีแค่สองคนคือ เมอฟี่(แก่)กับคูเปอร์(หนุ่ม)
.
ก็เป็นเรื่องปรกติที่จะมีคนค้านเยอะเพราะการจบแบบนั้นมันเป็นBad Ending หนักมาก คือ สุดท้ายที่ทำมาเนี่ยมันสูญเปล่าหมดเลย มนุษยชาติล่มสลายพังทลาย ความพยายามตลอดเรื่อง อะไรทั้งหลายเป็นแค่ความเปล่าไร้ ดิ้นรนเต็มที่สุดกำลังก็สูญสิ้นทั้งเผ่าพันธุ์ไปพร้อมกับโลกอยู่ดี ซึ่งมันก็ไม่ได้ขัดแย้งอะไรกับต้นกลางเรื่องที่เดิมที แผนการตั้งใจจะให้คูเปอร์กับลูกสาวด็อกเตอร์ไปเป็นอดัม-เอวา โลกใหม่เพราะโลกมันไม่มีทางไปต่อแล้วจริงๆ
เราอาจจะมัวแต่ดูภาพสวย ดราม่าพ่อลูก ความเนิร์ดเชิงทฤษฏีกาลเวลาหลุมดำอะไรต่อมิอะไรจนลืมสารที่เขาต้องการจะบอกกับคนดูตรงๆก็ได้ว่า "โลกกำลังเดินทางเข้าสู่ความวิบัติอยู่" ก็เป็นได้...
ขอบคุณสำหรับการตีความแบบนี้ด้วยครับ เปิดมุมมองดี
ฝรั่ง(ไม่ใช่คนไทย)เค้าไม่คุยกับคนที่เค้าไม่รู้จักมั้งครับ😊
ถ้าคูเปอร์ไม่มีตัวตนอยู่จริง ญาตเค้าจะแห่กันเดินออกนอกห้องไปทำไมล่ะครับ หนังมันวนลูป ถ้าเหตุการณ์ตอนสุดท้ายไม่เกิด มันจะไม่เกิดเหตุการณ์ตั้งแต่แรก อย่าไปตีความอะไรฟุ้งซ่านครับ มันเหมือนดูหนังไม่แตกฉาน
บางคนอาจสงสัยนะครับ เอ… แล้วถ้าตอนจบแบทที่2เป็นจริง พิกัดของ NASA ที่คูเปอร์ไปแกะมาได้ STAY จากผีในชั้นหนังสือ มันมาได้ยังไง เราอาจมองให้อยู่ในรูปแบบของ ‘ความบังเอิญ’ ที่คูเปอร์ดันไปแกะรหัสแล้วดันไปเจอพิกัด NASA จริงๆ(ผมรู้ว่าเป็นไปได้ยากมากแต่มันเป็นไปได้) หรือในส่วนของ STAY อาจเป็นสิ่งที่ Murphy เขียนขึ้นมาเองเพราะไม่อยากให้พ่อไปจริงๆ เราสามารถมองได้หลายแบบมาก ปล.ย้ำอีกครั้งทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวโปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม
ใน Pantip ก็มีคนคิดแบบนี้นะคับ แต่ก็มีคนคิดอีกแบบว่า They ในที่นี้หมายถึงมนุษย์เราในโลกความเป็นจริงโดยอิงจากแนวคิดเรื่อง Simulation Hypothesis สมมติฐานโลกจำลอง เพราะถ้ามองจากมุมมองของมนุษย์ในหนัง พวกมนุษย์เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่เหนือมิติของจักรวาลเขา เพราะเป็นคนสร้างหนังและจักรวาลภายในเรื่อง คนที่วางรูหนอนก็มนุษย์เรา คนที่ช่วยคูเปอร์ก็ คือ เรา มองจากมุมมนุษย์ในหนัง เราก็คือสิ่งมีชีวิตขั้นสูง 😅😅😅😅
ข้อที่ 2. ที่บอกว่าญาติๆดูจะไม่สนใจ อาจจะเพราะว่า เมิฟเคยบอกทุกคนไปแล้วว่่าคนที่ช่วยเมิฟคือพ่อ แต่ก็ไม่มีใครเชื่อ แล้วคิดว่าเมิฟ ทำได้เองเพราะความเก่งหรือป่าวคับ แล้วเมิฟก็คือคนที่ช่วยทุกคนไว้ ในความคิดของประชาชนบนโลก
ตีความแบบนี้ทำให้หนังดูสนุกน้อยลงเลยครับ แนวคิดคนใกล้ตายแล้วเห็นภาพหลอนสามารถพบเห็นได้ในหนังทั่วๆไป ซึ่งมันคงเป็นมุขที่ธรรมดามากๆเมื่อเทียบกับหนังทุกๆเรื่องของโนแลน
ที่โนแลนทิ้งปมไว้ไม่เฉลยว่าเดคืออะไรนี้ละคือการ ทิ้งให้คนดูสรุปตอนจบได้ตามแบบที่ตัวเองจินตนาการ และผมเชื่อว่าเขาตั้งใจไว้แบบนั้น ถ้าถามจินตนาการผมละก็ คูเปอร์นี้ละคือผู้กอบกู้ด้วยพลังแห่งความรักที่มีลูก เพราะผมมีลูกไง ผมจึงต้องการแบบนี้
เดี๋๋ยวนะครับ ฉากอีกเพียบเลยนะ ที่ลูกสาวเอาข้อมูลจากคูเปอร์ไปแก้สมการได้ อันนี้ไม่ได้อยู่ในมโนสำนึกของคูเปอร์แน่ ๆ อันนี้เป็นการตีความตอนจบที่มองข้ามฉากอื่น ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ คนทำหนังไม่มีทางทำอย่างนั้น
บางคนอาจสงสัยนะครับ เอ… แล้วถ้าตอนจบแบทที่2เป็นจริง พิกัดของ NASA ที่คูเปอร์ไปแกะมาได้ STAY จากผีในชั้นหนังสือ มันมาได้ยังไง เราอาจมองให้อยู่ในรูปแบบของ ‘ความบังเอิญ’ ที่คูเปอร์ดันไปแกะรหัสแล้วดันไปเจอพิกัด NASA จริงๆ(ผมรู้ว่าเป็นไปได้ยากมากแต่มันเป็นไปได้) หรือในส่วนของ STAY อาจเป็นสิ่งที่ Murphy เขียนขึ้นมาเองเพราะไม่อยากให้พ่อไปจริงๆ เราสามารถมองได้หลายแบบมาก
สำหรับการแก้ไขสมการผมได้พูดไว้แล้วในคลิปว่า ” คนบนโลกไม่ได้ถูกช่วย“ อันนี้คุณน่าจะไม่ได้ยินตอนที่ผมพูดไปนะครับ
ปล.ย้ำอีกครั้งโปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม
@ ผมว่ามันเป็นไปได้หมด แล้วแต่เราจะมโน แต่ผมโฟกัสที่เจตจำนงค์คนสร้างหนัง เค้าไม่น่าทำหนังที่วกวนหรอกครับ ไม่งั้นฉากอื่น ๆ มันจะกลายเป็นไร้ความหมาย อย่างฉากยูเรก้า ฉากเผาไร่พี่ชายฯ จะกลายหนังแบบตื่นแล้วตื่นอีก อันไหนจริงปลอมก็ไม่รู้ ซึ่งเรื่องอื่น ๆ เค้าก็ทำกันมาหลายเรื่องแล้ว อันนี้เรียกว่าเดาใจคนสร้างครับ
ผมเคยคิดแบบนี้กับหนังทุกเรื่อง ที่มีฉากหมดสติแล้วฟื้น 😂
นี้เป็นสิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้มันสุดยอดขนาดไหน และช่องนี้มีคุณภาพมากแค่ไหน
ที่คนไม่สนใจ เพราะคิดว่าเมิฟเป็นคนช่วยคนเดียวครับ ขนาดเมิฟบอกว่าคูเปอร์เป็นคนช่วย ก็ยังไม่มีใครเชื่อ ไม่แปลกที่คนจะไม่สนใจคูเปอร์
ผมมองว่าเป็นไปไม่ได้ครับ เพราะถ้าจิตสำนึกการตายจริง จะไม่มีเหตุการณ์ของสนามแม่เหล็กแปรปรวนจนทำให้รถเกี่ยวข้าววิ่งมาบ้านคูเปอร์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นเรื่องแน่นอน รวมถึงเรื่องของแรงโน้มถ้วงข้ามชั้นหนังสือ ตอนต้นเรื่องเช่นกัน
ยอมรับว่าโนแลนด์ เก่งในการเอาวิทยาศาสตร์มาผสมกับความแฟนตาซี แล้วเก่งในการเปิดช่องประเด็นเล็กๆในหนังเป็นระยะให้คนดูคิดตามแตกออกไปถึงหลายคำตอบ ซึ่งจะไม่มีถูกผิด เพราะไม่มีใครเฉลยได้อยู่แล้ว ถ้าดูหนังโนแลนมาจะเป็นอารมณ์นี้ตลอด ตอนจะจบก็จะยิ่งเป็นคำถามปลายเปิดให้คนดูคิดหาคำตอบเอาเอง ตามจริตของคนดูเลย แบบนี้ก็จะทำให้หนังดังเพราะคนดูสนุกคิดจินตนาการต่อยอดเอาเอง
ผมว่าคูเปอร์หลงเหลือแค่ข้อมูล หลังจากตกลงไปในหลุมดำ ทุกอย่างภาพ5มิติเป็นแค่จิตสุดท้ายที่ยังห่วงเมิฟ สอดคล้องกับทุกคนที่เป็นหลานของคูเปอร์ ที่ไม่ได้สนใจในตัวคูเปอร์เลย น่าเศร้านะไม่มีอะไรรอดพ้นพลังหลุมดำไปได้
น่าสนใจมากครับ
อาจารย์ Kip Thorne ที่เป็นที่ปรึกษาของโนแลนตอนทำหนังเรื่องนี้ออกมาให้สัมภาษณ์นะครับ ว่าคูเปอร์ไม่ได้เสียชีวิตครับ แต่ถูก “They” ช่วยเอาไว้ครับ คูเปอร์ไม่ได้เป็นร่างจิตครับ
คนในโลกคิดว่าพระเอกตาย และคนในโลกคิดว่าเมอฟี่เป็นคนคิดค้นแรงโน้มถ่วงได้ด้วยตัวเอง ซึ้งเมอฟี่ก็ไม่ได้บอกใครว่าข้อความพี่พระเอกส่งมาคือส่งมาจากพ่อ ซึ้งตอนนั้นเมอฟี่คิดว่าเป็นผี แต่เรื่องราวมันเกิดก่อนพ่อจะไปเมอฟี่เลยนึกได้ว่าให้ผีคนนั้นเป็นพ่อของเธอ
สวยงามมากครับ
ปกติงานศิลปะที่ดี จะต้องสร้างให้ผู้ชมตีความได้หลายแบบ เพื่อล้อไปกับ Reality ที่เรากำลังอาศัยอยู่ ที่สามารถตีความได้หลายแบบเช่นกัน ตามระดับสติปัญญา/ประสบการณ์ของแต่ละคน. ซึ่ง Interstellar ก็เป็นงานศิลปะที่ดีในระดับนั้น.
และ Jonathan Nolan (ผู้เขียนบท) ตัวเขาเองก็เป็นคนที่มีความรอบรู้ ทั้งในด้านศิลปะ จิตวิญญาณ และวิทยาศาสตร์ และเขาสามารถเชื่อมโยงให้เป็นเรื่องเดียวกันได้ (จนถึงขั้นมีญาณหยั่งรู้เหนือคนทั่วไป) และต้องการถ่ายทอดความรู้ของเขาโดยผ่านสัญญะต่างๆ. คราวนี้มันก็ขึ้นอยู่กับผู้ชมแล้วว่า จะอยู่ใน "ระดับ" ไหน ซึ่งถ้าอยู่ในระดับเดียวกับเขา ก็จะเข้าใจว่าฉากนี้ๆ บทพูดนี้ๆ เขาต้องการสื่อสารถึงอะไร มีอยู่จริงแค่ไหนในโลกที่เราอาศัยอยู่จริง (เช่น They ).
ก็เป็นไปได้นะ แต่นึกดูเป็นใครไม่รู้ไม่เจอไม่รู้จักกันตั้งกี่สิบปี จะให้เข้าไปทักเลยก็ดูแปลกๆไหม ญาติๆคงคิดว่าอาจจะเป็นญาติก็ได้ ขนาดคนดังมีลูกแต่ลูกไม่รู้ว่าพ่อตัวเองดังก็ยังมีเลย แล้วบทสนทนาหลายๆอย่างถ้าคูเปอร์จินตนาการจริงๆ เมอฟฟี่คงไม่บอกให้คูเปอร์ไปหาดอกเตอร์แบรนด์ที่กำลังตั้งถิ่นฐานใหม่และจะไม่มีทางจินตนาการว่าตัวเองไปพบดอกเตอร์แบรนด์ในตอนเข้ารูหนอนหรอก มันจบดีแล้วแหละ นั้นคือสิ่งๆต่างๆที่ถูกกำหนดไว้อย่างถูกที่ถูกเวลา
ทุกทฤษฎีในตอนจบเป็นไปได้ทุกแบบ แต่เลือกให้จบแบบนี้ถือว่าดีที่สุดแล้ว🎉
ปิดแบบปลายเปิด ให้คนดูจินตนาการเอง ถ้าคิดบวก หนังก็จบแบบมีความหวัง คิดลบก็จบไป เปลี่ยนไปดูเรื่องอื่น สำหรับผมจบแบบมีความหวัง 😊
เรื่องไม่มีใครสนใจคูเปอร์ คิดกันแบบง่ายๆ คนที่คุณไม่รู้จัก เดินเข้ามาในห้องที่คุณอยู่กันหลายๆ คุณจะรู้สึกสนใจคนๆนั้นหรือเปล่า หรือก็แค่นิ่งๆไป
อย่าลืมว่าคูเปอร์หายตัวไปเป็นร้อยปี คนรุ่นถัดๆไป ไม่ได้มีความผูกพันธ์กับคูเปอร์ แถมเมิฟถูกมองว่าเป็นฮีโร่ที่ช่วยโลก ต่อให้เมิฟบอกว่าคูเปอร์มาช่วย แต่ก็ไม่มีใครเชื่อ ก็ไม่แปลกที่จะไม่มีใครสนใจในจังหวะที่เดินเข้าห้อง ก้แค่คนเดินเข้าห้อง เพราะเวลานั้นจุดสนใจของคนเหล่านั้นอยู่ที่เมิฟมากกว่า
แต่ถ้าตามความคิดผมก็มีความเป็นไปได้ที่เมอฟี้จะเอารูปคูเปอร์ให้ลูกๆหลานๆดูเพราะการที่แม่เอารูปปู่ย่าให้ดูก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร จึงอาจทำให้คนในห้องมีความรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตา
ผมเห็นด้วยว่าสิ่งที่ Cooper ทำ อาจไม่ได้มีผลต่อความรู้สึกของคนรุ่นหลังเท่าที่เราคาดหวังไว้ เพราะเมื่อเวลาผ่านไป ความสำคัญของเขาก็อาจถูกลืมเลือนไป แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ การเสียสละของเขายังคงสร้างผลกระทบต่อมวลมนุษยชาติอยู่ดี
คุณคิดว่า การที่ Cooper กลายเป็นคนที่ไม่มีใครจดจำ เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความจริงของมนุษย์หรือเปล่าครับ? ประมาณว่าไม่ว่าคุณจะทำสิ่งยิ่งใหญ่แค่ไหน หากไม่มีใครจดจำหรือยกย่องมันเลย หรือคิดว่าหนังตั้งใจจะชี้ให้เราเห็นอะไรในมุมนี้กันแน่
@@Aynon ถ้าผมจำไม่ผิดหลังจากคูเปอร์ฟื้นขึ้นมาก็มีการคุยกับคนที่รักษา รวมถึง คนที่พาคูเปอร์เดินสำรวจ ยังพูดว่าเค้าทำวิจัยเรื่องคูเปอร์สมัยเรียนด้วย
ผมเลยคิดว่าคูเปอร์ในตอนท้าย น่าจะยังมีชีวิตอยู่จริงๆ
เรื่องที่ว่าเป็นภาพในจิตใต้สำนึกของ copper ผมคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้
ก่อนหน้านี้ทั้งเรื่อง เราได้เห็นการปรากฏการณ์แปลกๆระหว่างที่อยู่บนโลก ไม่ว่าจะหนังสือตกเป็นรหัสมอส หรือฝุ่นที่วางเป็นพิกัด เรื่องเหล่านั้นเกิดขึ้นจริง และตอนที่copper ตกลงไปใน tesseract เราก็ได้เห็นว่าเขานี่แหละที่เป็นคนทำเรื่องเหล่านั้น แสดงว่าการที่เขาตกลงไปในtesseract เป็นเรื่องจริงครับ
อีกอย่างการที่ตกลงไปในหลุมดำแล้วเวลาของเราจะช้าจนหยุดนิ่งนั้นจริง แต่มันเป็นแค่กับมุมมองของคนนอกหลุมดำเท่านั้น กลับกันมันไม่ใช่สำหรับมุมมองของCopper ครับ ในมุมมองของ Copper ทุกอย่างจะเกิดขึ้นปกติ เวลาของเขายังเดินเท่าเดิม ดังนั้นที่ว่าเวลาของCopper หยุดลงจนเขามีเวลาที่จะจินตนาการตอนจบออกมาได้ ไม่น่าจะถูกครับ
เป็นไปได้เช่นกันคับ แต่ในที่นี้ผมไม่ได้มองว่าคูเปอร์เป็นคนพาตัวเองมาที่นี่ตั้งแต่แรก แต่ผมทุกอยากเป็น”ความบังเอิญ”ที่หมายถึง they ไม่มีอยู่จริง หรืออีกกรณีคือthey คนอื่นจริงๆที่ไม่ใช่ cooper ในส่วนของการหล่นลงไปในหลุมดำแล้วเวลาอาจจะไหลช้าลง นั่นเป็นมุมมองจากภายนอกจริงๆ ตรงนี้ผมตกหล่นข้อมูลไปจริงๆ ขอโทษด้วยครับ แต่ถึงกระนั้นผมก็ยังเชื่อว่ามันก็ยังไม่เกินความเป็นไปได้ที่สมองของเขาจะนึกภาพของความสำเร็จของภารกิจ ที่แสดงถึงความปราถนาสูงสุดของเจ้าตัวไว้ ปล.เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวนะคับ โปรดใช้วิจารณญาณในการรับฟัง
ผมก็งงเวลาจะช้าจะเร็วมันอยู่ที่บุคคลที่ 3 สังเกตจากภายนอก ส่วนบุคคลที่ 1 จะไปอยู่ส่วนไหนหลืบไหนหลุมไหนของจักรวาลเวลามันก็เดินเท่าเดิม
@gidthiphongphlubprasit9564 เวลามันสัมพัทธ์ครับ สำหรับบุคคลที่1 เวลาก็ไหลเท่าเดิม แต่ในมุมมองคนคนอื่นที่มองเข้าจะจึงจะเห็นว่า บุคคลที่1 กำลังเข้าไปในหลุมดำแต่เขาจะเดินทางเข้าไปช้าลงเรื่อยๆ จนคล้ายจะหยุดนิ่ง จนเราไม่เห็นเข้าอีกเลย ประเด็นอยู่ที่ไม่มีใครกระโดดเข้าไปในหลุมดำละออกมาบอกเราได้ เราถึงถกกันในรูปแบบของทฤษฎีเท่านั้น
@@Aynonผมก็บอกแล้วว่าในหลุมดำ มันเป็นจริงหรือป่าวไม่รู้ 555 จริงๆแล้วเรื่องราวในหนังควรจะให้มันจบตรงคูเปอปลดยานลงไปในหลุมดำ แล้วพูดกฎการเคลื่อนที่ข้อ3ของนิวตัน เท่ๆ จะเคลื่อนที่ไปข้างหน้าต้องทิ้งบางสิ่งไว้ ข้างหลัง จบ ในนั้นมันจำลอง เดียวจะเป็นบ้ากันปล่าวๆ😂 แค่นึกว่าเห็นวัตถุเกิดดับในเวลาเดียวกันก็พิลึกแล้ว
They คือ edmann เพราะเค้าไปถึงดาวที่เอื้อกับสิ่งมีชีวิต เระจุดหมายปลายทางของมนุษย์ก็คือที่นั่น เค้าจึงสร้างรูหนอนไว้ตรงดาวเสา เระให้คูเปอร์ เป็นคนส่งสาร มายังโลก ซึ่งพอคูเปอร์ทำได้ มันก็มีสถานีอวกาศมาเจอเค้าทันที เนื่องจากดาวที่ edman ค้นพบ มันคนล่ะกาแลคซี่ เค้าจึงวางรูหนอนไว้ ตรงนั้นเพื่อเป็นจุดที่หาได้ง่าย
น่าสนใจมากครับ
ฟิสิกส์ และดาราศาสตร์นี่มันล้ำลึกจริงๆ
ผมว่าถ้าหากตอนจบในเรื่องเป็นจิตสำนึกมันรู้สึกเหมือนคำใบ้ต่างๆทั้งหมดในเรื่องมันดูไร้ความหมายไปเลยเช่นการเล่นกับ Loop เวลาตั้งแต่ต้นเรื่อง การจับมือของคูเปอร์กับนักวิทยาศาสตร์สาว หรือ Loop เวลาตอนท้าย สำหรับผมๆก็ให้น้ำหนัก They คือ มนุษย์ในอนาคตอยู่ดีครับส่วนคำถามที่ว่าถ้า มนุษย์สูญพันธ์ุแล้ว They จะเกิดขึ้นได้อย่างไร มันก็คล้ายๆกับคำถามที่ว่าไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกันนั้นละครับ ไม่รู้ว่า Loop นี้เกิดได้ไง แต่มันต้องเกิดเหตุการณ์นี้ เหตุการณ์นั้นขึ้น คล้ายๆกับตอนที่คูเปอร์พบพิกัด Nasa นั้นละครับที่สุดท้ายเค้าก็เป็นคนส่งมาเองซึ่งไม่ว่าเค้าจะพยายามบอกให้ตัวเองอยู่กับลูกขนาดไหนสุดท้ายก็ไม่สำเร็จเพราะประวัติศาสตร์มันเขียนไว้อย่างนั้นเค้าไม่สามารถหรือไม่ได้มีหน้าที่ไปแก้มันเค้ามีหน้าที่คือการส่งพิกัดให้ตอนเองเพื่อที่ว่าตนเองจะพบ NASA เพื่อที่ว่าเค้าจะส่งค่าในหลุดดำออกมาเพื่อให้ลูกช่วยโลกเพื่อที่จะจบหรือปิด Loop เวลาแบบเปิดหรือ Loop เหตุและผลได้ ส่วนคำถามที่ว่าทำไมคนอื่นๆถึงไม่รู้จ้ักคูเปอร์มันก็ไม่แปลกเพราะภารกิจที่คูเปอร์ไปนั้นเป็นภารกิจลับแถมยังไปเมื่อ80-90ปีก่อนจะไม่รู้จักก็ไม่แปลกครับ ส่วนหากจะบอกว่าพิกัด NASA คือความบังเอิญผมว่ามันก็แปกๆ เพราะแรงโน้มถ่วงในห้องมันบิดเบี้ยวมาก่อนแล้วแสดงว่าห้องนั้นถูกทำให้ 1 ใน Loop เหตุและผล ที่They กำหนดไว้แต่แรกแล้วครับ ปล.ลิ้งค์ discode ที่ใส่ไว้ใต้ desciption เข้าไม่ได้นะครับ
The Science of Interstellar
เป็นหนังสือที่อธิบายวิทยาศาสตร์ในหนังครับ ไม่รู้ว่าได้อ่านหรือยัง ถ้าอ่านแล้วอาจมีความคิดเกี่ยวกับทฤษฎีทั้งสามที่หยิบยกมาบางอันเปลี่ยนไปก็ได้ครับ😊
ผมชอบที่คุณนำเสนอ
ถ้าปู่ทวดของผมตอนอายุ 50 เดินมาหาผมตอนนี้ แน่นอนว่าผมก็จำไม่ได้ ในหนัง murph บอกว่า พ่อย้อนเวลามาช่วย ตอนแก้สมการแรงโน้มท่วงได้ แต่ไม่มีคนเชื่อ Space Colony ตั้งชื่อว่า. คูเปอร์. แต่ไม่ได้ตั้งตาม joseph cooper แต่เป็น murphy cooper. นาย joseph cooper ในสายตาคนในโลก เขาเป็นใคร? 1.พ่อที่ทิ้งลูกไป, 2.หรือเป็นนักบินอวกาศที่ตามหาโลกใหม่ 99% ที่จะไม่ได้กลับมา ,3.หรือ คนที่เข้าไปในหลุมดำ แล้วออกมาได้ คุณคิดว่า ถ้าคุณเป็นคนบนโลกนั้น คุณคิดว่า joseph cooper เป็นใคร 1.2 หรือ 3?
ส่วนตัวผมคิดว่า Joseph Cooper เขาเป็นทั้งตัวแทนของความเสียสละและความหวังในระดับที่ใหญ่กว่ามนุษย์คนอื่นทั่วไป
ถ้าให้เลือกจากตัวเลือก 1, 2 หรือ 3 ผมมองว่าเขาอาจใกล้เคียงกับข้อ 3 มากที่สุด เพราะเขาไม่เพียงพยายามหาทางออกจากหลุมดำ แต่ยังพยายามสร้างโอกาสให้มนุษยชาติได้มีชีวิตรอดบนโลกใหม่ แม้ว่าผลลัพธ์จะไม่ได้รับการจดจำในแบบที่เราคาดหวัง
แล้วคำถามคือ ความหมายของ ‘Cooper’ ในสายตาของคนรุ่นต่อมา ควรถูกตีความในมิติใดมากที่สุดกัน?
ผมว่า น่าจะ 2 คือนักบินที่หายสาบสูญไปแล้ว แต่ดวงดีมีคนไปพบเจอว่าลอยอยู่กลางอวกาศ 3 นี่เป็นไปได้ยากถ้าจะบอกว่าเป็นคนที่เข้าไปในกลุมดำแล้วกลับมาได้ ตอนเมิฟคำค้นพบทฤษฎีก็ใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตถึงจะแก้ได้สมบูรณ์ และก็ไม่ได้คาดคิดว่าคูเปอร์ จะหลุดออกมาจากหลุมดำได้ด้วยซ้ำ มันก็เหมือนคนไปดวงจันทร์ ที่มีใครจำได้บ้างว่านักบินที่ไปด้วยมีกี่คน และชื่ออะไรบ้าง หน้าตาเป็นยังไง ถ้าไม่ถูกท่องหรือค้นคว้าจากใหนังสือ ก็คิดว่าคนทั่วไปคงไม่ได้จำว่าสำคัญอะไรทั้งๆที่เป็นคนกลุ่มแรกของมนุษย์ที่ออกไปเหยียบดาวนอกโลก
พอฟังจบแล้วผมคิดทั้งสองแบบควบเลยครับ 😅
❤…ในความเป็นจริง มนุษย์ บนโลกเรา NDA จะบันทึกความเสื่อมถอยของเซล ตามเวลาโลก …… ดังนั้น เราจะไปดาวดวงไหน เวลาเท่าไร ร่างกายเราจะแกไปตามวัยของเวลาโลก ……🎉 … อันนี้มโนเอง ล้วนๆ นะครับ ตามทฤษฎี ผีบอก 😅
แล้วตอนขับยานออกไปหา ดร. ที่ดาวสุดท้ายหละครับ
ภารกิจของคูเปอร์ มันเป็นความลับนี่ครับ ไม่แปลกที่คนจะไม่รู้จัก ในหนังก็บอกอยู่ นาซ่าโดนปิดไปแล้ว แล้วก็ตามเนื้อเรื่องนั้นคนที่แก้สมการแรงโน้มถ่วงได้คือเมอร์ฟครับ อันนี้ในหนังก็บอก เมอร์ฟพยายามบอกคนอื่นว่าพ่อเธอกลับมาช่วย แต่ไม่มีใครเชื่อ ใครจะไปคิดว่ามีคนตกลงไปในใจกลางหลุมดำ แล้วเจอกับมิติที่ 4 แล้วส่งข้อมูลข้ามเวลาผ่านแรงโน้มถ่วงกลับมา นอกเรื่อง จริงๆ เรื่องนี้น่าจะใช้ชื่อเรื่องว่า Gravity มากกว่าอีกเรื่องนะ 55 3:13
จริงครับ
จริงครับในหนังมันเฉลยทุกอย่างไว้หมดแล้ว
เมื่อมนุษย์ ย้ายไปอยู่ ดวงจันทร์ และ ดาวอังคาร / ร่างกายก็จะแปรเปลี่ยนไปตาม สภาพแวดล้อม ครับ
หนังเหมือนจะทิ้งคำใบ้มาตลอดเรื่องนะครับ ว่าคูเปอร์ในมิติที่ 4 ส่งข้อความมาอดีตตลอด ไม่น่าจะคิดไปเอง เพราะ รหัสมอส STAY เมิร์ฟก็ได้มาจากชั้นหนังสือ และพิกัดของ NASA คูเปอร์ก็ได้มาจากชั้นหนังสือ
สำหรับผม คนที่บอกว่าคลิปนี้มีความเป็นไปได้ก็แค่คนที่เพ้อเจ้อแล้วดูหนังไม่ลึกพอ หนังมันมีอะไรๆที่ต่อยอดมาเพื่อให้เกิดเหตุการณ์แบบตอนจบ ถ้าเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งไม่เกิดขึ้นจริง(มีบางคนหลอนคิดไปเอง) มันจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบต้นเรื่องตั้งแต่แรก
ความคิดใครความคิดมันครับ แต่เนื้อเรื่องของหนังคือคูปรอดกลับเจอลูก
พี่คิดเหมือนผมเลยครับไม่มีทางที่มนุษย์จะฝ่าเข้าไปในหลุมดำได้เพราะเเค่เข้าใกล่หลุมดำก็โดนยืดเป็นสปาเก็ตตี้เเล้วก็บี้จนเเหลกด้วยเเรงโน้มถ่วงอันมหาศาลที่เป็นอนันต์
👍🏻👍🏻
อย่าน่ะ อย่าเป็นอย่างที่คิดก็พอ😢
ไม่น่าจะใช่นะครับ ข้อ 1 ชั่วชิวิตของพระเอก ไม่น่าจะสามารถสร้างมิติที่ห้าได้ครับ อาจจะนับไปอีกหลายร้อยปี หลายพันปี ถึงทำได้ครับ ข้อสอง ที่ญาติๆไม่สนใจพระเอกเลย เพราะ ทุกๆคนตอนนั้นเข้าใจตรงกันหมดว่า ลูกสาวพระเอกเป็นคนคิดคนช่วยไว้ทั้งหมดไม่คิดว่าพระเอกมีส่วนหรือ ตอนนั้นคนยังไม่รู้ว่ามิติที่ห้ามีจริงครับ เท่านี้ก่อนครับผม
เพิ่มเติมนิดตรงญาติ ๆ ไม่ได้สนิทกับพระเอก ไม่เคยเจอไม่เคยคุยกันเลย และต้องการให้ช่วงเวลาสุดท้ายของลูกพระเอกได้อยู่กับพระเอกจึงชวนกันออกจากห้องให้ทั้งคู่ได้มีเวลาส่วนตัวอยู่ด้วยกันครับ
เราพูดกันถึงเชิงบุคคลทั้งที่คนคนนึงเปิดประตูเข้ามา ญาติคนอื่นกลับ ‘ไม่หันมามองประตูที่เปิด’ ถึงแม้ว่าจะรู้สึกว่าเขาคือคนแปลกหน้า แล้วทำไม ไม่เปลี่ยนคำถามเป็น เอ? “ไอนี่เป็นใครเปิดประตูเข้ามา หมอก็ไม่ใช่” แทนหละ หรือหากจะอ้างว่า Murphy กำลังเป็นจุดสนใจอยู่ไม่ว่าใครจะเปิดประตูเข้ามาเลยไม่สนใจ อย่างงี้ ผมว่าไม่เมคเซนต์นะครับ ปล.ผมไม่ได้บอกว่าแนวคิดของผมถูกแต่เป็นเพียงการตั้งคำถามถึงจุดน่าสงสัยในเรื่อง
แนวคิดที่1 ผมว่าไม่น่าใช่
แนวคิดที่2 มีความเป็นไปได้
และส่วนตัวคิดว่า ถ้ามีภาค2 สิ่งที่เกิดขึ้นกับคูเปอร์ อาจจะเป็นแค่ฉากจบคือเขาตายเท่านั้น
นำเสนอได้ดีครับ ให้กำลังใจ ส่วนตัวคิดว่าแบบ1 คือครอบคลุมหมดแล้วครับ แบบ2 มันตอบคำถามเรื่องพิกัดไม่ได้จริงๆ แล้วที่บอกว่าอาจบัญเอิญ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลยยิ่งกว่าถูกหวยอีกครับ เช่น พิกัดของสนามบินสุวรรณภูมิคือ 133109N 1004456E พิกัดนี้บังเอิญเดาไม่ได้เลยครับ
ขอเรื่องทรูแมนโชว์หน่อยครับ หนังในหนัง
น่าสนใจครับ เพราะว่าปมในใจของคนเป็นพ่อคือต้องการรักษาสัญญากับลูกสาวว่าพ่อจะกลับมา เขาคงไม่อยากจะตายไปโดยผิดสัญญากับลูกสาว
หนังมันก็ไม่ได้จบแบบปลายเปิดนะ ค่อนข้างที่จะเคลียร์เลยด้วยซ้ำ สรุปเท่าที่ฟังคุณพูดมามันก็แค่เป็นจินตนาการของตัวเองก็เท่านั้น
เป็นมุมมองที่น่าสนใจ แต่ ตัวหนังเล่าเป็นเส้นตรง มันไม่มีส่วนไหนจะสัมพันธ์กับจิตใจเลย อย่างอินเซปชั่น ว่าไปอย่าง ตัวหนังเป็น วิทยาศาสตร์จ๋า จู่ๆ จบด้วยจิตใต้สำนึก มันผิดวิธีคิดครับ
⭐️
ทำไมต้องสนใจอะ ไม่มีใครรู้นะว่าพระเอกเป็นผู้กอบกู้ มันเฉลยหมดแล้วนิ ภารกิจลับ เมิฟบอกคนอื่นว่าพ่อช่วย แต่ไม่มีใครเชื่อ ทุกคนคิดง่าเมิฟเป็นคนทำทั้งหมด
หนัง คริสโตเฟอร์ โนแลน ไม่มาทางที่จะตีความทฤษฎีต่างๆให้ออกมา100%ได้ เน้นเรื่องราวที่ดูจบแล้วกลับมาดูอีก และยังคงความรู้สึกเดิม เ
ตอนจบ เป็นสิ่งที่ผู้ชมอยากเห็น.
คูเปอร์ แก้ไขอดีตได้สำเร็จ แล้วเขาก็ได้มาอยู่ในที่ๆปลอดภัย.
ผิดแล้ว เขาได้ตายแล้วและนั้นค่อจิตสุดท้ายของเขา😂
@@CHSN0909คูเปอร์ไม่ได้เสียชีวิตครับ อาจารย์ Kip Thorne ที่ปรึกษาของโนแลนตอนทำหนังเรื่องนี้ออกมาพูดแล้วครับในประเด็นนี้
ผมว่าไม่ใช่ตีความละ มันคือการจิ้นละคร้บ
ผมมีความคิดแปลก ๆ จักรวาลมีล้าน ๆ จักรวาล เราเป็นแค่เศษฝุ่นเศษอะไรซักอย่าง เผลอ ๆ อาจจะเป็นอะไรซักอย่างที่เหมือนใต้ทะเลลึก ลึกที่ดูเหมือนมองไม่เห็น
เราเป็นฝุ่น
หนังมันสร้างมาเพื่อความบรรเทิงและหวังผลทางธุรกิจ เสียเวลามาตีความโน่นนี่นั่น ทำไมไม่ไปถาม ผกก. ตรงเลยว่ามันหมายความว่าอย่างไง
1 ถ้าคูเปอตาย แล้วใครเป็นคน เข้าไปในหลุมดำแล้วบอก รหัสมอสให้ลูกละ
2 ถ้าบอก เป็นคูเปอเองในอนาคต ในมิติที่5ทำเรื่องพวกนี้ เท่ากับเรื่องนี้ติดลูปเลยนะ ลองนึกดีๆ และ คูเปอคนแรกหายไปไหน?
1.ไม่ได้ส่งรหัสออกมาไงครับ ทุกตายบนโลก
2.มิติที่5เกี่ยวของดับเวลาคือพูดง่ายฟคือสามารถควบคุมเวลาได้แปลว่าลูปเวลาใดๆ ไม่มีผลครับ
ส่งมนุษย์ 2,500 คนเข้าไปในรูหนอน บรึ๊นเป็นจักรวาลใหม่
อะไรที่วิทยาศาสตร์ ยังหาคำตอบไม่ได้ ผมก็ตีความคล้ายกับเจ้าของคลิป ครับ ฉากจบมันเป็นเเค่จิตนาการของคูเปอก่อนตาย
เพราะตอนนี้เราไม่รู้ว่าในหลุมดำมันมีอะไร และยังพิสูจน์ไม่ได้ แต่ตามหลังวิทยาศาตร์ที่ค้นพบคือหลุมดำมีเเรงโน้มถ่วงมหาสาร สิ่งมีชีวิตและวัตถุต่างๆเข้าไป จะถูกเเรงกดหมาสาร ซึ่งเป็นไปได้ว่าคูเปอจะเสียชีวิต
แต่ความฝันเเละการจิตนาการของคนเรา มันพิสูจน์ ได้
2:49 ไม่แปลกครับ คูเปอร์หายไปตั้งแต่ลูกยังเป็นเด็ก มีแต่คนดูที่รู้ว่าคูเปอร์ทำอะไร ส่วนตัวละครคิดว่าเมิฟทำ อ้างอิงจาก หมอ พยาบาล นักวิทยาศาสตร์ ที่ยัฃเห็นคูเปอร์
ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ เดย์ ในที่นี้ อาจไม่ใช่มนุษย์ เพราะเรื่องราวทุกอย่างมันเริ่มต้นมาจากเกิดรูหนอน จนทำให้เกิดความแปรปวนของสนามโน้มถ่วง
แล้วก็เกิดเรื่องราวในหนัง และถ้าคิดตามความเป็นจริง เราจะตายกันหมดถ้าไม่มีรูหนอนนี่ คนตายจะวิวัฒนาการได้ยังไง
ความคิดส่วนตัวของหนังเรื่องนี้นะครับ ผมคิดว่าในอนาคต ก่อนที่จะเกิดหนังเรื่องนี้ มนุษย์อาจจะสร้างคอมพิวเตอร์ควอนตัม และมี AI ตัวแรกที่ทรงพลังจนสามมารถ Generated เพื่อให้พบวีธีให้มนุษย์ อยู่รอดและเกิดวิวัฒนาการ คือ มีหนทางเดียวคือสร้าง รูหนอน เปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ เจาะจง ให้เมิฟเป็นผู้แก้ไขปัญหา เพราะดูจากหนัง เหมือนมันจะวิกฤตเกิน แสดงว่าคงมีทางนี้ทางเดียวที่ AI สามารถประมวลผลได้
(และหนังตัดเอามาเฉพาะช่วงปลายของเรื่องเพื่อให้เกิดคำถาม) รวามคิดเห็นส่วนตัวนะ
น่าสนใจมากครับ
เดเป็นพวกเดียวกับเดที่อยู่ในเรื่อง contact
ฟังดูน่าสนใจ แต่ผมว่าเบียวครับ เรื่องจิตใต้สำนึกนี่ผมว่ายิ่งไม่ใช่เข้าไปใหญ่ หนังของเสด็จพ่อทุกเรื่องไม่มีเรื่องไหนที่เป็นแบบนั้นครับ ยิ่งเรื่องนี้แกพยายามอิงฟิสิกส์ เท่าที่จะเป็นไปได้ยิ่งแล้วใหญ่ การวิวัฒนาการที่ดาวอื่นมีโอกาศเป็นไปได้ครับ แต่ไม่มีทางเป็นไปได้ในทางสติปัญญาแน่ๆ มันจะมีก็แค่เรื่องสภาพแวดล้อมของแรงโรมถ่วงในดาวอื่นซะมากกว่า
ภาพทุกอย่างที่เกิดขึ้นในหลุมดำเป็นเพียง’ทฤษฎี‘ครับ ไม่มีใครยืนยันได้ว่าจริง จุดประสงค์ของคลิปนี้คือการชวนให้ทุกคน ’คิดนอกกรอบ‘ ไม่ใช่การเชื่อในทุกอย่างที่คนอื่นบอกว่าถูก ถ้าแบบนั้นก็จะไม่เกิดการพัฒนาหรือการเรียนรู้แต่เพียงจำต่อๆกันมา ดังนั้นในคลิปนี้ผมไม่ได้มาบอกว่าความคิดเห็นของผมถูกของคุณผิด แต่หวังจะเป็นเพียงการเริ่มต้นบนสนทนาใหม่ๆมากกว่า หลายคนคงจะเข้าใจวัตถุประสงค์ของคลิปนี้ผิดไป
@Aynon ผมเข้าใจครับ ผมก็ลองฟังดูก่อน พอจบผมก็ค่อยมาคิดว่าเออมันเป็นไปได้ไหม ถ้าเคยเห็นถาพ3มิติการบิดเบือนของ space time ของสมการไอสไตนที่ทำให้เกิดหลุมดำผมเลยคิดว่ายิ่งไม่น่าทำให้คิดแบบนี้ได้ครับ
ผมก็คืดเหมือนกัน
คิดในแบบแรกคับ
แรงโน้มถ่วงมันมีความเร็วไหมครับ
สมมุติว่าถ้าดวงอาทิตย์จู่ๆหายวับไปโลกของเราจะหลุดจากวงโคจรทันทีเลยไหมครับ ถ้าเป็นแสงของมันนี่เราต้องรอหลายนาทีกว่ามันจะหายไป
มีครับถ้าตามความเข้าใจผม แรงโน้มถ่วงจะเดินทางด้ยความเร็วแสงซึ่งตรวจวัดผ่านคลื่นความโน้มถ่วง ที่พึ่งตรวจได้จากการชนกันของหลุมดำหรือดาวนิวตรอน ดังนั้นหากดวงอาทิตย์หายไป โลกจะยังคงโคจรเหมือนเดิมเป็นเวลา 8 นาที ก่อนที่จะหลุดออกจากวงโคจรไปมั้งนะครับ
@@Aynonคุณเข้าใจถูกแล้ว แล้วความเร็วแสง กับความโน้มถ่วง เป็นค่าสมบรูณ์ บิดโค้งได้ เป็นแรงกริยา นามธรรม ไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า ดวงอาทิตย์หายไป 8นาทีจะเห็นผล อยู่ที่ว่าจะให้ดวงอาทิตย์ ดับไป หรือ หายไป
เอ.. แล้วลูกสาวจะคิดทฤษฎีควอนตั้มมายังไงครับ ถ้าตัวพ่อ ไม่ได้เป็นคนไอเดียว่าจะส่งข้อมูลเรื่องควอนตั้มไปให้ตัวลูกสาว ในขณะที่หลุดเข้าไปภายในหลุมดำ
ส่วนที่โลก เค้าไม่ได้มีปัญหาเรื่องย้ายคน แค่เค้าอยากย้ายไปตามแผนที่วางไว้ ว่าง่ายๆก็คือ พ่อ/ลูก คูเปอ โดนหลอกตั้งแต่แรก
ผิดถูก แนะนำด้วยครับ
ทุกคนฝันหมดตื่นๆ แยกยากไปทำงานของตัวเอง😂 อย่ามัวแต่ดู TH-cam
ตอนดูก็ีรู้สึกงงเหมือนกันว่าทำไมลูกหลานไม่สนใจคูเปอร์เลย เรื่องที่ว่าคนอื่นไม่เห็นพ่อในฉากจบสุดท้ายมีเปอร์เซ็นสูงเลยจริงๆ
ส่วนตัวไม่คิดว่าตอนจบจะจบแบบ Bad Ending เพราะฉากของการทำงาน ขั้นตอนที่คำนวนของเมิร์มันดูจริงมาก ขอไม่เปลี่ยนแนวคิดแล้วค่ะ 🥹
ขอบคุณที่เอาเรื่องนี้กลับมาตีความแนวทางใหม่ๆ สำหรับคนยังไม่เคยดู ต้องดูไปให้ได้นะคะ
น่าคิด..
ต้องไผถามคนเขียนบท ชะเระ😀
2 อันแรก ผมซื้อ
คูเปอร์ตายเเล้ว ฉากสุดท้ายคือจิตใต้สำนึกก่อนตายของเขาเอง สิ่งที่คูเปอร์กับทีมงานเจอทั้งอวกาศเวลารูหนอนหลุมดำเป็นเรื่องจริง เเต่ภารกิจของพวกเค้าไม่สำเร็จ
คูเปอร์ไม่ได้เสียชีวิตครับ ต้องลองไปดูคลิปสัมภาษณ์ของอาจารย์ Kip Thorne ที่เป็นที่ปรึกษาตอนโนแลนทำหนังเรื่องนี้ออกมาให้สัมภาษณ์ดูครับ อาจารย์บอกว่าคูเปอร์รอดมาได้เพราะ “They” ช่วยเอาไว้ครับ
หนังเรื่องนี้ต้องเรียกว่า อภิมหาอมตะนิรันดร์กาล อีกนานกว่าจะมีเรื่องไหนที่ลึกซึ้งกว้างไกลขนาดนี้
ข้อ2ไม่ใช่แน่นอน เพราะทุกคนในเรื่องรุ้แค่ว่าเมิฟคือคนกอบกุ้โลกไม่ใช่คูเปอร์ แล้วตอนคูเปอร์รักษาตัวแล้วคุยกับคนอื่นๆละคับ
ถ้าให้ผมเดา หลังจากเหตุการณ์ในหลุมดำเป็นการอนุมานขึ้นมาเองทั้งหมด ยกเว้นฉากที่เมอร์ฟนอนบนเตียง เพียงแค่บอกเราให้รู้ว่าคนที่เหลือรอดไม่มีใครเชื่อว่า cooper เป็นคนมาช่วยลูก แต่เป็น Murphy ที่แก้สมการเองทั้งหมด
จิตสุดท้ายก่อนตาย ในศาสนาพุทธ
คิดหลากหลายได้ครับ แต่ผิดหมดครับ แต่ชอบคลิปคุณมากครับได้เห็นความหลากหลาย
They คือ สมชว.ที่advance กว่าเรา หรือพลังงานอะไรที่ควบคุมความโน้มถ่วง เอารูหนอนมาวางให้ พาคูเปอร์เข้าออกจาก tesseract ( แต่ก็อาจเป็นคูเปอร์ในอีกหลายพันปีโลกก็ได้)
ตอนจบไม่ใช่การอยู่ในจิตสำนึก ฝัน มโน แต่เป็นคูเปอร์เข้าไปผ่าน event horizon จริงๆ ใน singularity spacetime ถูกบิดโค้งเป็นอนันต์ อาจจะไปมิติที่ห้า อาศัยมิติที่สี่tesseract เผื่อคงอยู่
คูเปอร์ออกมาหาเมิร์ฟจริงๆ ที่ซึ่งเมิร์ฟได้ใช้ความรู้ด้าน quantum gravitation พาทุกคนมา
เมิร์ฟแก่ทุกคนให้เกียรต นับถือมากกว่าคูเปอร์มากๆๆ เพราะมีความรู้เก่งสุดๆ(ความรู้ที่คูเปอร์ส่งรหัสมอสมาให้ คูเปอร์เป็นคนช่วย) ทุกคนมองเมิร์ฟว่าเป็น the hall of fame คนอื่น เค้าไม่สนใจคูเปิร์อ
ผมมีคลิปเรื่องนี้เหมือนกัน ลองดูได้ครับ
ประเด็นใน tesseract เป็นเนื้อหาที่น่าสนใจมาก ซึ่งพูดตามตรง ในส่วนที่เป็นทฤษฎีตรงนี้ผมยังไม่เข้าใจจริง 100% ผมเลยกำลังตามหาวิทยากรหรือผู้มีความรู้มาเป็นแขกรับเชิญในไลฟ์ครั้งถัดไป ถ้าไม่รังเกียจ ผมขอเรียนเชิญนะครับ ถ้าสนใจหรือยังติดต่อผมได้ที่ email : contact.aynon@gmail.com
มนุษย์วิวัฒนาการเป็น นิวไทป์
พุทธศาสนา ตอบไว้ทุกอย่างแล้ว
ใช่ๆน่าสังเกตทำไมไม่มีคนสนใจ คูเปอร์ ในห้องพยาบาล เหมือนเขาไม่มีตัวตน เป็นแค่จิตสำนึก หรือพลังงาน
แล้วหมอตอรสุดท้ายคุยกับใครล่ะครับ ตอนหมอพูดว่าเราอยู่คูเปอร์สเตชั่น
เป็นไปได้ที่จะคูเปอร์คิดไปเองทั้งหมด ฉากที่เกิดขึ้นจริงคือแค่เมอร์ฟที่อยู่บนเตียง แล้วนางก็จินตนาการว่าพ่อของเขามาเยี่ยม
@@Aynon ไม่น่าใช่นะครับ เพราะหนังเป็นแนว sci-fi คือเหตุการณ์ที่เกิดในเรื่องมันมีคนทำ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หรือคุณจะบอกว่าตอนคูเปอร์เข้าไปในหลุมดำคือคูเปอร์ตายแล้ว แต่วิญญาณสามารถควบคุมอดีตได้ ถ้าตีความแบบนี้จะไม่มีการทิ้งลูกของคูเปอร์แต่แรกครับ เพราะคูเปอร์ทำไม่สำเร็จและไม่สามารถส่งข้อมูลมาบอกพิกัดให้ตัวเองเดินทางไปหา NASA ได้
ผมไม่ได้จะสื่อว่าผีสามารถควบคุมอดีตได้ แต่มันคือ“เรื่องบังเอิญ” ที่ทำให้เขาหาพิกัดลับของ NASA ได้ ตัวcooperเองก็ไม่ได้เป็น they คูเปอร์ไม่ได้พาตัวเองมาที่นี่ แต่การคิดปะติดปะต่อ หรือ อนุมานเรื่องราวขึ้นมาเอง เหมือนเป็นการปลอบใจตนว่าเราพาตนเองมาที่นี่ เราทำเพื่อลูกและเราช่วยลูกได้สำเร็จจริงๆ
ต้องลองไปดูในหนังอีกทีครับ ลูกหลานเสิร์ฟมองเห็นคูเปอร์ครับ เพราะพวกเค้าหันมามองคูเปอร์ แต่พวกเค้าแค่ปล่อยให้คูเปอร์ได้คุยกับเมิร์ฟกันแค่สองคนครับ
คูเปอร์ไม่ได้เสียชีวิตครับ
อธิบายได้้สียงเบามาก
มีเหตุผลครับ
จากความเห็นส่วนตัวหนังโนแลน ไม่น่าจะจบแบบนี้ หากเขาจะตีความ คงไม่ยืดยาวทำฉากเสียไปหลายนาทีขนาดนั้น
เหมือนอินเซปชั่น ถ้าจะจบแบบนั้น ลูกข่างตั้งตรงไปเลยแบบจบๆ
ดูแล้วก็ยังไม่เข้าใจ งงมาก
Arcane พอจะผ่านตาบ้างมั้ยครับอยากเห็นช่องนี้วิเคราะห์
อยู่ในแพลนของเดือนหน้าครับ ฝากติดตามรับชม
@@Aynonรออยู่ครับ❤
😂
ไม่ใช่
2:33 ฉากนี้ เมิฟ ก็บอกอยู่แล้วไม่ใช่หรอว่า ทุกๆคนยกย่องว่า เมิฟ เป็นคนทำ แต่เมิฟบอกทุกคนแล้วว่า พ่อ ช่วยแต่เขาไม่เขื่อกัน
ดังนั้น ทุกคนยกย่องเมิฟ ไม่ใช่คูเปอร์ ถูกแล้ว และคิดว่า ฝรั่งปกติไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นมัง
ทำไมทุกคนจึงเชื่อดร.แมวทั้งที่เค้าโกหกตลอดทั้งเรื่อง🤗
ดูไม่รู้เรื่องฅรับ
ผมว่า ธี่หยด 2 มันกว่าเยอะ
คนละแนวกันเลยครับ ไม่น่าเอามาเปรียบเทียบกันครับ
หนังมันเชื่อมเกี่ยวกับความสัมพันธืพ่อลูกมันเชื่อมของมันอยู่แล้ว
ชอบสไตล์การเล่าเรื่องพี่มากเลยครับ
ใครมีหนังหรือซีรีย์แนะนำไหมครับแนวนี้หรือแนวอื่นก็ได้
ถูกต้องครับเพราะว่าปัจจุบันน่ะการเดินทางมีแค่ตัวเดียวคือการไปตั้งรกร้างใหม่เผ่าพันธุ์ใหม่สร้างนิคมใหม่เพราะโลกขาดทรัพยากรมากด็อกเตอร์ได้บอกไว้ตั้งแต่ต้นเรื่องแล้วขนย้ายคนไปแต่เป็นการสร้างอาณานิคมใหม่คนบนโลกก็คือคนที่อาจจะต้องอยู่และตายเดียวดาย