วีดีโอ

😀😀😀😀

ปัจจุบันทาง สมอ. หน่วยงานที่จด มอก. ยางที่ได้ มอก. สำหรับยางที่หน้ากว้าง ไม่เกิน 245 จะต้องมีเสียงไม่เกิน 72 เดซิเบลครับ ปัญหาที่เสียงยางดังเกิดจาก ดอกยางสึกเป็นบั้ง โดยเฉพาะล้อหลังด้านใน ซึ่ง CR-V ล้อหลังมุมแคมเบอร์จะติดลบมาก ถึง -2 องศา และล้อหลังน้ำหนักจะเบา เมื่อไม่สลับยางทุก 10,000 กิโลเมตร ก็จะส่งผลทำให้ดอกยางด้านในล้อหลัง สึกเป็นบั้ง จนทำให้เกิดเสียงดังครับ และอีกสาเหตุที่พบบ่อยก็คือ มักจะไม่เช็คลมเป็นประจำ ส่งผลทำให้ลมยางอ่อน ก็ยิ่งทำให้หน้ายางบิดตัวมาก ยิ่งทำให้สึกไม่เรียบ โดยปกติลมยางจะซึมเองตามธรรมชาติประมาณเดือนละ 1-2 ปอนด์ ส่วนเรื่องลมไนโตรเจน เป็นไปไม่ได้ครับ ไม่มีร้านค้าไหนสามารถทำได้ 100% เป็นเรื่องเข้าใจไม่หมด ดังนั้นยางแต่ละยี่ห้อ เมื่อเปลี่ยนใหม่ เมื่อขับออกจากร้าน เสียงยางก็จะเงียบครับ ส่วนเรื่องการนั่งนิ่ม กับยี่ห้อปัจจุบันใกล้เคียงกันแล้ว อีกปัญหาที่เจอบ่อย ที่ทำให้สะเทือน มักจะเกิดจากช็อกอัพ วาล์วค้าง ทำให้ไม่ยุบตัว ซึ่งเกิดกับรถเก๋งและรถ SUV รุ่นใหม่ๆ คือเมื่อขึ้นแม่แรงหรือยกรถลอย เวลาปล่อยรถลง โช้คอัพไม่ยุบตัวลงครับ

ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับงบประมาณด้วยครับ CR-V ปี2017 มีสองเบอร์ 235/65-17 เบอร์นี้ตัวเลือกน้อยมากครับ และร้านค้าจะไม่สต๊อก เนื่องจากขายยากมาก และมีเพียงรถรุ่นนี้รุ่นเดียวที่ใช้เบอร์นี้ครับ ส่วนตัวท็อปที่ขายเป็นประจำ จะเป็นเบอร์ 235/60-18 ซึ่งเบอร์นี้ แบรนด์ชั้นนำ เช่น มิชลิน ราคาสูงมากครับเกิน 7000 บาท ดันลอป โยโก ก็แพงครับ 4000 ปลายหรือ 5000 กว่าบาทกันทั้งนั้น ส่วน Giti H2 ประมาณ 4100 บาทครับ

Dunlop ดีกว่าครับ โอตานิเพิ่งหัดทำยางเล็กเมื่อเจ็ดปีที่แล้วเองครับ R&D ก็ไม่มี สนามทดสอบยางก็ไม่มี ดอกยางก็ยังก๊อปปี้บริษัทอื่นเค้าอยู่

😀😀😀

อยู่จังหวัดไหนและอำเภอไหนครับทางเราจะแนะนำตัวแทนจำหน่ายให้ครับ

⁠@@user-nr3ob2zv1e อยู่ อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม ครับ

ไทร์พลัส สยามการยาง ถ้าร้านเค้าไม่ได้สต๊อกไว้ก็ต้องมัดจำสั่งนะครับ

@@Tonphitak38 ไทร์พลัส สยามการยาง ถ้าร้านไม่ได้สต๊อกไว้ก็ต้องมัดจำสั่งครับ

@@Tonphitak38 maps.app.goo.gl/vNF2AS8vh1scReAV8

😀😀😀😀

ขอบคุณครับที่ติดตาม

ตั้งศูนย์ล้อเป็นการจัดมุมล้อครับ จะเป็นคนละงานกับการถ่วงล้อ การถ่วงล้อจะเป็นการแก้ปัญหาพวงมาลัยสั้น อันที่จริงจุดเหลืองหรือจุดแดงจะตรงหรือไม่ตรงกับจุ๊บ สำคัญคือต้องถ่วงให้ลงศูนย์ครับ แต่ชุดล้อจะมีความกลมมากที่สุดคือ จุดแดงต้องตรงกับจุดเหวี่ยงต่ำของล้อครับ ซึ่งล้อที่ขายตามท้องตลาดจะไม่มีจุดเวียงต่ำมาร์คไว้ให้

215/70R15 C เป็นยางบรรทุก ถ้าแบรนด์ดัง คุ้มสุด Dunlop LT37 ครับ ราคาไม่เกิน 2,300฿ ครับ ส่วน Giti Van600V1 ราคาราว 2,100฿ ครับ

@@user-nr3ob2zv1e ขอบคุณครับ

ถ้าใช้แรงดันลมยางอ่อนเป็นประจำก็มีปัญหานี้เหมือนกันครับ

ขอบยางเป็นลอยเหมือนเอาคัตเตอร์กรีดอันตรายมั้ยครับ

@@tnchannel609 ถ้าเป็นรอยสั้นๆ แค่จุดเดียว ไม่เป็นไรครับ ถ้าเป็นหลายตำแหน่งหรือมีความยาวมากก็อันตรายครับ

@@user-nr3ob2zv1e ขอบคุณมากครับ

ยางยุโรปกับยางญี่ปุ่น เมื่อก่อนไม่มีคู่แข่ง ก็ขายแพงเป็นเรื่องปกติครับ ก็เหมือนในยุคปัจจุบันที่เครื่องใช้ไฟฟ้ารวมถึงรถยนต์จากจีน ก็เป็นผลดีกับผู้บริโภคครับ

เริ่มต้นที่ได้ยางเกาหลี มาเป็นทางเลือกที่ดีในราคาที่ยุติธรรม รวมถึงยุคนี้ก็มียางจีน และยางไทยให้เลือก

😀😀😀😀😀 ขอบคุณครับ

ช่างอาจจะใส่ไว้อยู่ด้านในครับ ลองดูครับ

​@@user-nr3ob2zv1eขอบคุณครับ

185/65-15 = 621.5 mm 195/60-15 = 615 mm 195/65-15 = 634.5 mm 185/65-15 ย้อนหลังไป 20 ปีที่แล้วเบอร์นี้ยังใช้กันน้อยมาก อยู่ในรถนิสสันทีด้า ฮอนด้า ซีวิค ไดเมนชั่น ทำให้ร้านค้าไม่สต๊อก ร้านค้ายางมักจะจับใส่ เบอร์ 195 /60 -15 แทน ซึ่งถือเป็นเบอร์เทียบเท่ากันครับ หน้ากว้างกว่า 10mm. แต่เตี้ยกว่าเล็กน้อย ผลที่ได้ก็คือออกตัวเร็วขึ้น เพราะวงล้อเตี้ยกว่า หน้ากว้างขึ้น ก็เกาะนดีขึ้นอีกเล็กน้อย และโคลงตัวน้อยลงเนื่องจากแก้มยางบางกว่า แต่ความเร็วก็จะเพี้ยนเล็กน้อย คือความเร็วจริงจะน้อยกว่ามาตรวัด แต่ปัจจุบันจำนวนรถที่ใช้ 185/65-15 มีมากขึ้น จึงทำให้ร้านค้าสต๊อกทั้งสองเบอร์ 185 /65-15 ก็จะเน้นในเรื่องนั่งนิ่ม ประหยัดน้ำมัน

ส่วน195/ 65-15 ใหญ่เกินไปไม่แนะนำครับ ยางสูงขึ้น ถึงแก้มจะโตขึ้นก็จริง แต่ไม่ได้นั่งนิ่งกว่าเบอร์เดิม เนื่องจากน้ำหนักยางมากขึ้น ส่งผลทำให้ไม่มีแรงเตะกลับใต้สปริงเพิ่มขึ้น น้ำหนักยางมากขึ้นระยะเบรคก็ยาวขึ้น และสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากขึ้น โดยเฉพาะการขับรถในกรุงเทพที่รถติด ซึ่งเดี๋ยวเร่งเดี๋ยวเบรค ยางที่โตใช้กำลังในการออกตัวมากกว่ายางเล็ก

ส่วนผสมของยาง ไม่มียี่ห้อไหนระบุรายละเอียดครับ เพราะถึงแม้ระบุสารเคมีทั้งหมดผู้บริโภคเองรวมถึงร้านยางก็ไม่รู้เรื่องครับ และอีกอย่างหนึ่งคุณภาพดีหรือเปล่าขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายอย่างมากครับ

ใช่ครับ ราคาแพง เกิดจากยี่ห้อเหล่านั้นปิดตลาดมานาน ผมยกตัวอย่างเช่น 195/55-15 มิชลิน บริดจสโตน บ้านเราเกิน 3000 บาท แต่ที่ประเทศมาเลเซียไม่เกิน 2000 บาทครับ อย่างมากก็ 2000 นิดๆ ส่วนผสมไม่มียี่ห้อไหนระบุแน่นอนครับ ซึ่งมันไม่เหมือนของกินหรือเครื่องสำอาง ยางก็เหมือนสินค้าอย่างอื่น เมื่อมีสินค้าเกาหลีและจีนมาเป็นทางเลือก ก็ส่งผลทำให้ยางญี่ปุ่นและยางยุโรปและอเมริกาบางยี่ห้อ เน้นว่าบางยี่ห้อนะครับ ปรับราคาลงมา เช่น กู๊ดเยียร์ ดันลอป ส่วนยี่ห้อดังยี่ห้ออื่นก็ปรับลงมาแต่ไม่มาก ผู้บริโภคส่วนหนึ่งก็ยังฝังใจว่ายางญี่ปุ่นจะต้องดี ทั้งที่จริงคุณภาพใกล้เคียงกันหมดแล้ว

หากจะดูเทคโนโลยี ยี่ห้อที่ใช้ในมอเตอร์สปอร์ต ก็น่าจะเป็นข้อบ่งชี้ว่าเทคโนโลยีไม่ธรรมดา หรือได้นำไปประกอบรถยนต์ป้ายแดง เพราะนั่นหมายความว่าผู้ผลิตรถยนต์ได้นำไปทดสอบเรียบร้อยแล้ว

ทั้งหมดก็อยู่ที่รายละเอียดในคลิปนั่นแหละครับ

อันที่จริงจุดไหนก็ได้นะครับ หากสำคัญอันดับหนึ่ง เราต้องรู้จุดเหวี่ยงต่ำของล้อ แล้วเอาจุดแดงมาตรงตำแหน่งจุดเหวี่ยงต่ำของล้อ ก็จะได้ตำแหน่งที่นิ่งที่สุดครับ

แนะนำให้ดู EP 14. ครับ อันที่จริงตัวจุ๊บยาง น้ำหนักไม่เกิน 7 กรัม ส่งผลทำให้ตำแหน่งนั้นน้ำหนักเกินน้อยมากครับ จุดเหลือง เป็นตำแหน่งที่เบาที่สุด ก็ไม่จำเป็นที่ว่า ไว้ตรงตำแหน่งจุ๊บแล้ว จะให้ค่าน้ำหนักในการถ่วงล้อน้อยที่สุด หรือยางนิ่งที่สุดครับ

Vigo. ตัวเตี้ย 205/70-15 และ 215/65-16 ยางที่ติดรถมักจะเป็นยางสำหรับบรรทุกหนัก ซึ่งเนื้อยางจะแข็ง โครงสร้างจะหนา เน้นรับน้ำหนักและทนสึก ดังนั้นจะนั่งไม่นิ่ม และเกาะถนนไม่ค่อยดี ซึ่งร้านยางมักจะเรียกว่า ยาง 8ชั้น แต่ถ้าเราไม่ได้บรรทุกหนักตลอดเวลา แนะนำให้หายางโครงสร้างสี่ชั้นใส่จะดีกว่า น้ำหนักจะเบากว่าอย่างน้อย 2 กิโลกรัม ซึ่งเนื้อยางจะนิ่มกว่า เกาะถนนดีกว่า เมื่อน้ำหนักน้อยกว่า เนื้อนิ่มกว่า ระยะเบรคก็จะสั้นลงด้วยครับ แล้วก็จะประหยัดน้ำมันด้วย หากเป็นยางบรรทุก จะตบท้ายด้วยคำว่า C คือ 205/70R15 C. ดัชนี 106 8PR. ส่วนยางสี่ชั้น 205/70R15 ดัชนีราว 96 หรือ 98 ซึ่งหากเราใส่ยางแปดชั้นหรือสี่ชั้น ร้านยางก็เติมลมให้เท่ากัน คือประมาณ 32 หรือ 35 ปอนด์ หลังจากนั้นหากจะบรรทุกหนัก ก็ต้องไปเพิ่มลมกันเอาเองครับ ซึ่งยางสี่ชั้นก็ไม่ใช่ว่าจะบรรทุกไม่ได้ เพราะดัชนีสมมุติ 96 ก็รับน้ำหนักได้ถึง 700 กิโลกรัมต่อเส้น ซึ่งสี่เส้นก็เท่ากับ 2800 กิโลกรัม เหลือเฟืออยู่แล้วครับ แต่ร้านค้ามักจะสต๊อกแต่ยาง 8ชั้น สำหรับ Giti 205/70-15C รุ่น Van600 ถ้ารุ่นสี่ชั้น 205/70R15 รุ่น T20 ราคาเท่ากันครับ ประมาณ 2100 บาท 215/65R16 Giti มีแต่ยางสี่ชั้น รุ่น H2 ราคากลาง 2600 บาท สำหรับยี่ห้ออื่น ถ้ายี่ห้อคุ้นหูหน่อย ราคาไม่แพง ก็ ดันลอปครับ 205/70R15C. 8ชั้น รุ่น LT37 ราคาประมาณ 2300 บาท 205/70R15. 4ชั้น รุ่น LM705 ราคาประมาณ 2800 บาท 215/65R16C 8ชั้น รุ่น LT37 ราคาประมาณ 2900 บาท 215/65R16 4ชั้น รุ่น EC300+ ราคาประมาณ 2650 บาท

แต่ถ้าเป็น VIGO ตัวสูง มีหลายขอบครับ เช่น 255/70R15 265/70R16. หรือ 265/65R17 ทีนี้ตัวเลือกจะเยอะมากเลยครับ

หากล้อหลังไม่มีตะกั่วถ่วงล้อมา โอกาสทำให้พวงมาลัยสั้นน้อยมากๆครับ ตัวผมเองก็ยังไม่เคยเจอนะครับ ถ้าล้อหลังมีค่าที่ไม่สมดุลย์มากๆ อาจจะรับรู้ได้ที่ตัวเบาะนั่งครับ

ขอบคุณครับ

ขอบคุณที่ติดตามครับ

ครับ รถยนต์ชิ้นส่วนเยอะมากครับ ส่วนยางเป็นเรื่องของความปลอดภัยครับ และต้องทดสอบอย่างดีครับ สุดท้ายก็สำคัญที่ผู้บริโภคด้วยครับ ต้องหมั่นเช็คลมยางเป็นประจำหรือติดเซ็นเซอร์ลมเลยได้ยิ่งดี รวมถึงสลับยางทุก 10,000 กิโลเมตร และเช็คความสมบูรณ์ของระบบช่วงล่างครับ

ถ้าเป็นเบอร์ 195/65-15 จะเป็นดอก H2 ครับ

@@user-nr3ob2zv1e ของเดิม ใช้ 215 45r17ครับ แต่จำใช่ยี่ห้อกับรุ่นไม่ได้ รถไม่อยุ่บ้านครับ

215/45-17 Giti เป็นดอก Sport S2 Traction AA. เลยครับ ราคาน่าจะอยู่ประมาณไม่เกิน 2400 บาทครับ

Giti S2. เวลาต่างประเทศทดสอบยาง ตัวนี้อยู่ในกลุ่มเดียวกับมิชลิน ไพลอท สปอร์ต 5 เลยครับ แต่ราคาขายในเมืองไทย Giti กับ มิชลิน ต่างกัน 1 เท่าตัวเลยครับ

ต่างกัับ H2 ยังไงบ้างครับ @@user-nr3ob2zv1e

แถบเส้นสีบริเวณบริเวณหน้ายาง หลายยี่ห้อจะไม่มีแล้วนะครับ เพื่อเป็นการประหยัด รวมถึงเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย ยกเว้นบางยี่ห้อที่ยังคงอยู่เช่น บริดจสโตน หรือบางยี่ห้อหลักๆไม่มี จะมีเฉพาะล็อตการผลิตที่ส่งให้ผู้ผลิตรถยนต์ครับ สำหรับแต้มสีที่บริเวณแก้มยาง มิชลิน จะไม่มีแล้วครับ เค้าบอกว่าเค้าทำอย่างในกลมมากแล้ว รวมถึงร้านค้าจุดเหวี่ยงต่ำของล้อซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด หากจะอธิบายโดยละเอียดมันจะยาวมาก

แนะนำให้ดู EP ที่ 14 เรื่องจุดเหลืองและจุดแดง บนแก้มยาง ผมอธิบายไว้อย่างละเอียดรวมถึงมีการพิสูจน์ให้เห็นด้วยครับ ขอบคุณที่ติดตามนะครับ

มิชลิน เค้ามองว่าเค้าทำยางได้กลมมากแล้ว รวมถึงร้านยางก็ไม่รู้จุดเหวี่ยงต่ำของล้อ ซึ่งสิ่งสำคัญที่จะทำให้ยางกับล้อเมื่อประกอบแล้วสมดุลย์ให้ค่าตะกั่วถ่วงล้อน้อยที่สุดคือจุดแดงต้องตรงกับจุดเหวี่ยงต่ำของล้อครับ

Continental บางเบอร์ก็ไม่มีแสดงจุดสีบริเวณแก้มยางยกเว้นบางล็อตการผลิตที่ส่งผู้ประกอบรถยนต์ครับ จะมีจุดสีที่แก้มยางตามที่ผู้ผลิตรถยนต์ร้องขอ ส่วนองค์ประกอบบริษัทรถยนต์แล้วหากเหลือ ก็จะมีการส่งให้กับร้านค้าทั่วไปด้วยครับ

ขอบคุณครับ

ใช่ครับ อันดับโลกวัดจากยอดขาย ส่วนหนึ่งอาจเกิดจากการที่เขารับจ้างผลิต จึงทำให้ยอดขายอยู่ในอันดับ 9 และล่าสุดหน้าจะอันดับ 8 ชื่อดั้งเดิมที่จีนใช้ชื่อ เฉาหยาง ก็จะประกอบรถหลายรุ่น ส่วน GWM. BYD ฉางอัน ที่ผลิตในเมืองไทย จะใช้ยาง Giti ติดรถใหม่มาให้ครับ รวมถึงรายการใหญ่แข่งที่สนามช้างบุรีรัมย์ปีนี้ จะใช้ยางจีทีทั้งนั้นครับ Giti สัญชาติสิงคโปร์ เพียงแต่สิงคโปร์พื้นที่น้อย จึงตั้งแหล่งผลิตใหญ่ที่จีนครับ พีแรลลี ที่ขายที่บีควิกก็จะแหล่งผลิตใหญ่ที่จีน รวมถึง กู๊ดเยียร์ หลายเบอร์ก็ผลิตผลิตที่จีน ส่วนมิชลินมีบางเบอร์ ผลิตที่จีน แต่สิ่งสำคัญคือเทคโนโลยีครับ และการดูแลของผู้บริโภคไม่ว่าจะเป็นการสลับยางและหมั่นเช็คลมยางเป็นประจำ ขอบคุณที่ติดตามครับ

@@user-nr3ob2zv1e คนรู้กับคนรู้คุยกัน โอเครครับ ส่วนใหญ่ผมคุยให้เพื่อนๆหลายในสังคมออฟฟิศ หลายแห่ง ไม่มีคนร฿้เรื่องจริง รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าในจีน ที่Siemens ถ่ายทอดเทคโนโลยี การผลิตให้จีน ผมเปิด วีดีโอ ที่ทุกค่ายฐานยนต์ ใช้เทคโนโลยีsiemens มีแต่คนหัวเราะ และไม่เชื่อว่ารถยนต์ไฟฟ้า คนไทยจะซื้อ ทั้งที่ ยุโรป ใข้รถไฟฟ้ามานานแล้ว แต่จีนทำราคา จับต้องในเอเซียและทั่วโลกได้ ก็อยากจะบอกกลุ่มคนเหล่านั้น ว่าถ้าคุณไม่ศึกษา อนฝยู่ตลอดเวลา คุณจะไม่เห็นอนาคต ที่ยั้งยืน เหมือน ที่Siemens ผลักดัน การรักษ์โลก ให้โลกเราอย่างยั้งยืน

ก็แล้วแต่ข้อมูลครับ บริษัทก็ขายโอตานิมานานมากๆแล้วเพียงแต่จะขายเฉพาะยางรถบรรทุก ส่วนยางรถเล็กบริษัทนี้เพิ่งเริ่มผลิตเมื่อปี 2016 เรื่องเทคโนโลยีรวมถึงทีม R&D. และสนามทดสอบยาง มีหรือเปล่า ผู้บริโภคต้องลองค้นหาข้อมูลดูครับ แต่ในส่วนของ Giti อยู่ในระดับ ประกอบรถป้ายแดงที่มากเป็นอันดับหนึ่งในประเทศจีน รวมถึงประกอบด้วยยนต์ไฟฟ้ามาเป็นอันดับหนึ่ง BYD ฉางอัน ที่ผลิตในประเทศไทยก็สั่งยางจีที มาประกอบรถ ในด้านมอเตอร์สปอร์ต รายการใหญ่ที่สนามช้างบุรีรัมย์ ก็ใช้จีทีทั้งนั้นครับ รวมถึง F3 ก็ใช้จีทีในการแข่งขันมาเจ็ดปีแล้ว ส่วนอะไรจะดีกว่ากัน ผมให้เฉพาะข้อมูล เท่านั้นครับ

ผมอยู่ในวงการมานาน ราคาแพงเกิดจากผู้ผลิตเอากำไรเยอะครับ ให้เปรียบเทียบกับทีวี พอญี่ปุ่นมีคู่แข่ง ก็ทำให้สินค้าถูกลงมาเยอะ ส่วนรีวิวมีสองอย่างคือ รีวิวโดยผู้ใช้จริง กับรับจ้างรีวิว จากผู้ใช้จริงผมคิดว่าผลที่ได้อาจจะผิดพลาด เพราะที่จริงแล้วต้องขับเปรียบเทียบด้วยรถรุ่นเดียวกันในสนามเดียวกันก็คือในสิ่งแวดล้อมและปัจจัยที่ควบคุมได้ เหมือนที่ต่างประเทศเค้าทดสอบพร้อมกัน 7-8 ยี่ห้อ สำหรับในด้านราคา ผมยกตัวอย่างที่ประเทศมาเลเซียแล้วนะครับ ยี่ห้อดังราคาใกล้เคียงกันมากซึ่งจะต่างจากบ้านเรา ต้นทุนนำเข้ายางโดยเฉพาะยางญี่ปุ่น ที่จริงก็ไม่เท่าไหร่ แต่บวกกำไรเราเยอะมากครับ เช่น บริดจสโตน เบอร์ 17“ ของ CR-V ผู้นำเข้าอิสระ ส่งร้านยางเพียง 2500 บาท แต่บริษัทในเมืองไทย ส่งร้านยางเกือบเกือบ 5000 บาท อันนี้ยกตัวอย่างให้เห็นครับ ที่จริงมันมีอะไรเยอะมากมายมากกว่านั้น เพียงแต่พูดในไลฟ์สดไม่ได้ครับ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์นะครับ

ส่วนตัวผมชอบเนื้อยาง ML มากกว่า BS ครับ ส่วนสองยี่ห้อนี้ราคาสูงเนื่องจากยี่ห้อติดตลาดแล้ว T005A ราคาประมาณ 4500 บาท ขายยากมากครับ XM2+ ราคา 4,600 บาท ผมมักจะแนะนำให้ซื้อราคาไม่แพงมากแต่เน้นการสลับยางทุก 10,000 กิโลเมตร และเช็คลมทุกสองสัปดาห์ หรือถ้าให้ดีแนะนำให้ติดจุ๊บเซ็นเซอร์ (TPMS) 215/60-16 Giti F22 ราคา 2,200฿ การรับรับประกันช่วยเคลมยางเสียจากอุบัติเหตุ ก็ดีกว่า ปัจจุบัน Giti ได้รับความไว้วางใจ ให้เป็นยางติดรถ จากผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหลายราย ทั้งจีนและยุโรป และการแข่งขันรายการ super turbo และ Super endurance ที่สนามช้างบุรีรัมย์ ทุกคันก็ใช้ Giti ในการแข่งขันครับ

สำคัญคือหมั่นสลับยางและเช็คลมยางให้ได้ตามสเปคสม่ำเสมอครับ ปัจจุบันการแข่งขันสูงก็เป็นผลดีกับผู้บริโภคครับ ที่แพงก็คือแพงยี่ห้อครับ ถึงอายุอายุก็เสื่อมสภาพเช่นเดียวกันครับ

225/55-18 จะสูงขึ้น 22.5 mm คือด้านะ 11.25 mm ยางสูงกว่าเบอร์เดิมค่อนข้างเยอะ น้ำหนักยางก็จะหนักกว่ายางเบอร์เดิม ยางโตแล้วหนัก ส่งผลทำให้ ออกตัวอืดขึ้น กินน้ำมันมากขึ้นโดยเฉพาะเมื่อใช้ในเมือง เนื่องจากเดี๋ยวเร่งเดี๋ยวเบรค น้ำหนักยางมากขึ้น โมเมนตัมมากขึ้นทำให้ระยะเบรกยาวขึ้น บางทีแก้มยางหนาขึ้นอาจจะนั่งนิ่มขึ้นก็จริง แต่อาจจะลืมไปว่าน้ำหนักที่มากขึ้นกว่าเดิมเยอะ จะส่งแรงสะเทือนหรือแรงเตะกลับจากน้ำหนักใต้สปริงที่สูงขึ้น แนะนำเป็นเบอร์ 235 / 50-18 จะดีกว่าครับ เพราะจะสูงกว่าเดิม 10mm ก็คือด้านละ 5mm และยางเบอร์นี้จะมีตัวเลือกให้เลือกเยอะกว่า เพราะเป็นเบอร์ที่ขายดีเบอร์หนึ่งครับ

การเพิ่มขึ้นมา 5 ซีรี่ส์ ก็คือ แก้มยางโตขึ้น 5% จากความกว้างหน้ายาง ลองกดเครื่องคิดเลขดูครับ 225 × 5% เท่ากับ 11.25 mm ครับ

ก็เป็นรายละเอียดเชิงลึกของแต่ละยี่ห้อครับ เพราะสารเติมแต่งมีมากมายเต็มไปหมด ก็เคยมี Dunlop รุ่นหนึ่ง น่าจะ VE302. ใส่แป้งข้าวโพด ซึ่งพวกนี้ก็ใส่ไปไม่มากครับ

ผมเองก็เป็นตัวแทนจำหน่ายคอนติเนนทอลและโยโกฮามา เรื่อง Black chilli จะใส่อยู่ในยาง EU ตระกูลยางสปอร์ต Conti Sport Contact ครับ

ขอบคุณครับ ร้านที่ระยอง ถ้าคือ Tyreplus ของโรงงานตั้งน่ำเส็ง สาย 36 ตรงข้ามGWM และ ฟอร์ด ก็คือร้านผมเองครับ

ใช่ครับ เป็นประเทศเดียวในโลก ที่ยางเดือนธันวาคมบอกว่าเก่า แล้วยางมกรามกราคมบอกว่าใหม่ ไม่ซีเรียสก็ได้ของราคาถูกไปครับ สำคัญคือการสลับยางทุก 10,000 กิโลเมตรกิโลเมตรและการเช็คลมยางหรือลงทุนติดจุ๊บเซ็นเซอร์ไปเลยครับ อันนี้จะปลอดภัยสุด

บริดจสโตน ราคาสูงเพราะยี่ห้อติดตลาดในเมืองไทยมานานแล้ว เมื่อก่อนเทคโนโลยีอยู่ในวงแคบทำให้ยางญี่ปุ่นกับยางยุโรปตั้งราคาสูงมาก ซึ่งปัจจุบันไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว จะมีเกาหลีและจีนมาเป็นตัวเลือก ที่คุ้มค่าครับ ส่วนขอบ 20 ที่ไม่ทน แบ่งได้สองลักษณะคือ แก้มยางบางเมื่อตกหลุม แก้มยางก็จะบวม กับอีกกรณีก็คือ ใส่รถยุโรป โดยเฉพาะล้อหลังซึ่งมุมแคมเมอร์ติดลบมาก ก็จะส่งผลทำให้กินยาง ด้านในเยอะกว่าด้านนอก และรถบางรุ่นไม่สามารถสลับล้อหน้าและล้อหลังได้เนื่องจากใช้ยางคนละเบอร์

Steelmate รุ่น MT12+. รุ่นนี้ขายในเมืองไทยสามปีกว่าแล้ว มีแยกขายอะไหล่ให้ด้วย ส่วนอีกตัวแทนหนึ่ง จะขายรุ่น MT11 Pro ตัวแทนนี้เพิ่งมาทำตลาดในเมืองไทยได้เพียงครึ่งปีเท่านั้น

ยี่ห้ออื่นส่วนมากไม่มีตัวแทนจำหน่ายในเมืองไทยอย่างเป็นทางการเหมือน Steelmate MT12+

ราคา 2,670฿ ถือว่าไม่แพงและคุ้มครับ แต่ต้องเสียค่าบริการใส่ ตามร้านยาง อีกประมาณ 600-800 บาท

วงการยาง จะต้องใช้ E เซอร์ มาจด มอก. ครับ ใส่ซองไม่ได้เลยครับ แต่กับยางยี่ห้อยี่ห้ออื่นผมไม่แน่ใจครับ แต่หากเป็นแบรนด์ใหญ่ ทำไม่ได้ครับ และในหนึ่งปีจะต้องส่งยาง 2 เบอร์ ไปทดสอบ ที่ศูนย์ทดสอบยางล้อที่แปดริ้วครีบ แต่ละ EP อาจจะยาวหน่อย แต่ค่อนข้างละเอียดและอธิบายให้เข้าใจง่ายง่ายครับ ขอบคุณมากครับที่ติดตามรายการ เจาะยาง

แต่ช่วงหลังก็น่าจะมีการใส่ซองครับ เพราะผมดูแล้วบางรุ่น บางยี่ห้อ ไม่น่าจะผ่าน มอก. ได้เลย 555

😀😀😀😀

😀😀😀😀