ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
ผมว่าคุณยังเข้าใจคลาดเคลื่อนเสียเองนะ บุคคลก้าวล่วงพ้นปุถุชนภูมิจะตกไปเกิดในอบายนั้นไม่ใช่ฐานะ และอยากถามคุณว่า จิตไปรู้นิพพานได้หรือครับ?
ยังไม่เกิดโสดาปัตติมรรคจิต จะไปปิดกำเนิดอบายได้อย่างไรล่ะ? และเมื่อเกิดโสดาปัตติมรรคจิต โสดาปัตติผลจิตก็เกิดตามมาทันที เป็นโสดาบันจิตรู้นิพพานได้ เมื่อสิ้นกิเลสสังโยชน์3 นิพพานก็จ่ออยู่ตรงหน้านั่นแหละ
@arjarnsek5.0 ในนิพพานเป็นสภาวะที่ว่างเปล่า(สุญตา)จิต จึงไม่มีในนิพพาน ครับ บุคคลก้าวล่วงพ้นจากปุถุชนภูมิ มีตั้งแต่สะทธานุสารี-ธรรมานุสารี (โสดาบัน) ขั้นต้นๆครับ
@@User_ub3ts9mh5x เข้าใจผิดอย่างแรงครับ สัทธานุสารี และธัมมานุสารีเป็นโสดาปัตติมรรคที่บอกถึงวิธีการเข้าถึงแบบใช้ศรัทธานำหรือใช้ปัญญานำ เมื่อไปถึงโสดาปัตติมรรคจิต จะเกิดปรากฏการณ์มัคคสมังคี ละกิเลสสังโยชน์3 “เห็นนิพพาน” เกิดโสดาปัตติผลจิตขึ้นทันทีเลยจิตบริสุทธิ์ตั้งแต่โสดาบันขึ้นไปจึงจะเห็นนิพพาน และจะถึงนิพพานในที่สุดเมื่อถึงอรหัตผลจิต บริสุทธิ์จากกิเลสทั้งปวงนิพพานยังมี 2 ประเภท นิพพาน 2 (สภาพที่ดับกิเลสและกองทุกข์แล้ว, ภาวะที่เป็นสุขสูงสุด เพราะไร้กิเลสไร้ทุกข์ เป็นอิสรภาพสมบูรณ์ - Nirvana; Nibbana) 1. สอุปาทิเสสนิพพาน (นิพพานยังมีอุปาทิเหลือ - Nibbana with the substratum of life remaining) 2. อนุปาทิเสสนิพพาน (นิพพานไม่มีอุปาทิเหลือ - Nibbana without any substratum of life remaining) หมายเหตุ: ตามคำอธิบายนัยหนึ่งว่า 1. = ดับกิเลส ยังมีเบญจขันธ์เหลือ ( = กิเลสปรินิพพาน - extinction of the defilements) 2. = ดับกิเลส ไม่มีเบญจขันธ์เหลือ ( = ขันธปรินิพพาน - extinction of the Aggregates) หรือ 1. = นิพพานของพระอรหันต์ผู้ยังเสวยอารมณ์ที่น่าชอบใจและไม่น่าชอบใจทางอินทรีย์ 5 รับรู้สุขทุกข์อยู่ 2. = นิพพานของพระอรหันต์ผู้ระงับการเสวยอารมณ์ทั้งปวงแล้ว
@@arjarnsek5.0 : มีสุขอยู่ในนิพพานด้วยหรือครับ? ที่นั่นจะไม่มีอารมณ์ใดๆแล้วมิใช่หรือครับ? สุญตาคือสภาวะของนิพพาน คุณหลงผิดไปหรือเปล่า!
@@arjarnsek5.0 สัทธานุสารี/ธรรมานุสารีละสังโยชน์ได้กี่ตัวครับ?
ผมว่าคุณยังเข้าใจคลาดเคลื่อนเสียเองนะ บุคคลก้าวล่วงพ้นปุถุชนภูมิจะตกไปเกิดในอบายนั้นไม่ใช่ฐานะ
และอยากถามคุณว่า จิตไปรู้นิพพานได้หรือครับ?
ยังไม่เกิดโสดาปัตติมรรคจิต จะไปปิดกำเนิดอบายได้อย่างไรล่ะ? และเมื่อเกิดโสดาปัตติมรรคจิต โสดาปัตติผลจิตก็เกิดตามมาทันที เป็นโสดาบัน
จิตรู้นิพพานได้ เมื่อสิ้นกิเลสสังโยชน์3 นิพพานก็จ่ออยู่ตรงหน้านั่นแหละ
@arjarnsek5.0 ในนิพพานเป็นสภาวะที่ว่างเปล่า(สุญตา)จิต จึงไม่มีในนิพพาน ครับ
บุคคลก้าวล่วงพ้นจากปุถุชนภูมิ มีตั้งแต่สะทธานุสารี-ธรรมานุสารี (โสดาบัน) ขั้นต้นๆครับ
@@User_ub3ts9mh5x เข้าใจผิดอย่างแรงครับ สัทธานุสารี และธัมมานุสารีเป็นโสดาปัตติมรรคที่บอกถึงวิธีการเข้าถึงแบบใช้ศรัทธานำหรือใช้ปัญญานำ
เมื่อไปถึงโสดาปัตติมรรคจิต จะเกิดปรากฏการณ์มัคคสมังคี ละกิเลสสังโยชน์3 “เห็นนิพพาน” เกิดโสดาปัตติผลจิตขึ้นทันทีเลย
จิตบริสุทธิ์ตั้งแต่โสดาบันขึ้นไปจึงจะเห็นนิพพาน และจะถึงนิพพานในที่สุดเมื่อถึงอรหัตผลจิต บริสุทธิ์จากกิเลสทั้งปวง
นิพพานยังมี 2 ประเภท
นิพพาน 2 (สภาพที่ดับกิเลสและกองทุกข์แล้ว, ภาวะที่เป็นสุขสูงสุด เพราะไร้กิเลสไร้ทุกข์ เป็นอิสรภาพสมบูรณ์ - Nirvana; Nibbana)
1. สอุปาทิเสสนิพพาน (นิพพานยังมีอุปาทิเหลือ - Nibbana with the substratum of life remaining)
2. อนุปาทิเสสนิพพาน (นิพพานไม่มีอุปาทิเหลือ - Nibbana without any substratum of life remaining)
หมายเหตุ: ตามคำอธิบายนัยหนึ่งว่า
1. = ดับกิเลส ยังมีเบญจขันธ์เหลือ ( = กิเลสปรินิพพาน - extinction of the defilements)
2. = ดับกิเลส ไม่มีเบญจขันธ์เหลือ ( = ขันธปรินิพพาน - extinction of the Aggregates)
หรือ
1. = นิพพานของพระอรหันต์ผู้ยังเสวยอารมณ์ที่น่าชอบใจและไม่น่าชอบใจทางอินทรีย์ 5 รับรู้สุขทุกข์อยู่
2. = นิพพานของพระอรหันต์ผู้ระงับการเสวยอารมณ์ทั้งปวงแล้ว
@@arjarnsek5.0 : มีสุขอยู่ในนิพพานด้วยหรือครับ? ที่นั่นจะไม่มีอารมณ์ใดๆแล้วมิใช่หรือครับ?
สุญตาคือสภาวะของนิพพาน
คุณหลงผิดไปหรือเปล่า!
@@arjarnsek5.0 สัทธานุสารี/ธรรมานุสารีละสังโยชน์ได้กี่ตัวครับ?