ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
ถ้าเรามองข้ามเรื่องว่าใส่แล้วดูแปลกๆได้ ผู้ผลิตก็จะก้าวข้ามเรื่องการออกแบบที่ไม่ต้องยึดติดกับทรงเดิมๆ ทำให้เกิดรูปทรงใหม่ๆความสามารถจัดเต็ม แล้วโลกของเราก็จะเข้าสู่ยุคอานาคตเมือนในการ์ตูนที่ผู้คนใส่ของแปลกๆเดินกันเต็มเมือง นี่คืออีกก้าวที่สำคัญเลยนะ😄
ผมว่าง่ายๆเลยที่ทำให้คนสนใจ Vision pro มากกว่าแว่น VR อื่นๆก็คือ คนทั่วไปไม่ได้อยากเข้าไปอยู่ในโลกเสมือน มาร์คซัค ควรตื่นได้แล้วว่าตนไม่ได้อยากไปอยู่ในโลก CG เค้าอยากอยู่ในโลกนี้แหละ แล้วก็ใส่แว่นเพื่อทำงาน หรือเสพความบันเทิงที่ไม่หลุดไปที่อื่นApple เข้าใจจุดนี้เลยออกมาน่าสนใจ แต่นี่คือสินค้าเจนแรก คิดว่าพัฒนาต่อไป แว่นจะเล็กลง แบตใช้นานขึ้น ใช้งานได้ดีขึ้น ราคาจับต้องได้ ทีนี้มันจะแมส
ที่คุณพูดมามัน nreal air เลยนะ ราคาหมื่นต้นเอง ไม่ต้องมีฟีเจอร์มีกล้องเวอร์ๆ หน้าตาเหมือนแว่นกันแดดสวยๆต่อสาย
เจ้าอื่นทำก็ไม่เท่าไหร่ แต่ถ้า แอปเปิ้ลทำแล้ว ผมว่า มันมาแน่ครับ
คอนโทรลเลอร์มีคนทำเพิ่มแน่นอน แบตอึด แบตนาน มีคนทำเพิ่มแน่นอน สายรัดแปลกๆ มีคนทำแน่นอน ส่วนเกมนี้ไม่แน่ใจจะมีคนทำมั้ย อย่างเครื่องแม็คแทบไม่มีเกมเกรด AA เลย เรื่องวิชวลคีย์บอร์ด เราดูตอนนี้ยังไงก็ไม่น่า work แต่เอาเข้าจริงๆ อาจจะปรับตัวกันแล้วใช้คล่องก็ได้ เหมือนตอนไอโฟนออกมาใหม่ๆ คนก็บอกว่าโทรศัพท์ไม่มีปุ่มใช้ไม่เวิรค์หรอก แล้วดูตอนนี้พิมพ์กันโคตรจะเร็ว ส่วนเรื่องเลนส์สายตา ถ้าใครเล่นโดรนแล้วใช้แว่นก๊อกเกิ้ล จะรู้ว่าเค้าจะให้กรอบเลนส์เปล่ามาด้วยที่เราต้องทำคือเดินเข้าร้านแว่น สั่งตัดแล้วให้กรอบเลนส์เค้าไปแค่นั้น แอปเปิ้ลก็น่าใช้หลักการเดียวกัน
เดียวติดน่ะครับ ได้รองทำ เล่น VIDEO พอแล้ว
ลูกอิช่างติ
อธิบายละเอียดดีครับฟังแล้วอธิบายแบบคนรู้รายละเอียดจริงMeta/Oculus ตอนนี้จะเน้นไปที่เกมซะเยอะ ถ้าสายเกมVRยังไงก็น่าจะนำอยู่แล้วของ Meta พวกmeetingจะทำแนว avatar เป็นการ์ตูนน่ารักๆอยู่ในโลกpolygon แต่Appleจะเน้นเป็นตัวคล้ายคนจริงแล้วดึงเอาenvironmentสมจริงมาใช้มากกว่า ในแง่กราฟฟิค Apple ใช้กราฟฟิคสวยกว่า มันก็เลยดูดีกว่าและAppleก็น่าสนใจตรงที่มีกล้อง3dที่ถ่ายบรรยากาศได้ เหมือนเจ้าอื่นยังไม่ได้โฟกัสจะทำในส่วนนี้แต่อย่างที่ช่องคุณอู่+ซี ที่เค้าตื่นเต้นตอนได้ลอง vision proก็ไม่แน่เป็นเพราะว่าเค้าไม่เคยลองเล่นแว่นVRมาก่อนรึเปล่า หรือว่ามันดีกว่าVRของเดิมจริงๆเนอะแต่โดยรวม เข้าใจว่าพวกแว่นVRพวกนี้ จะไปรอดไม่รอดก็อยู่ที่แอปด้วยถ้าไม่ติดเรื่อง hardware (เช่น กล้อง3D/eye tracking/processor ที่น้อยกว่า) เรื่องอื่นๆ เช่น interface/UI ถึงappleคิดอะไรใหม่ๆมาได้ ถ้ามีไอเดียแล้ว ฝั่งmetaก็น่าจะทำได้เหมือนละกันมั้ง
คุณอู๋กับคุณc ไม่เคยลองvrอันนี้ตัดไปได้เลย
คนไทยเรา มีแค่ไม่กี่ช่องที่ ได้ไปลองใช้งานจริง เสียดายที่พี่ไม่ได้ ไปลองทดสอบ เหมือนช่องอื่นๆได้ลอง
เหมือนแว่นดูหนัง imax 3D ที่ตอนนั้นฉายที่เมเจอร์รัชโยธิน แต่อันนี้สามารถสัมผัสกับวัตถุต่างๆได้ ควบคุมได้เอง ประเด็นคือถ้าเป็นเมตาเวอร์ส เครือข่ายอินเตอร์เนต จะแสดงภาพในเมตาเวอร์สยังไงให้เป็นภาพ 3มิติเสมือนจริง รู้แบบที่เป็นเบราเซอร์คงไม่ได้ นึกๆดูวิทยาการจะล้ำไปอีกก้าว เหมือนจะหลุดไปเข้าอีกมิติ
11:00 meta ไม่เกิด แม้ช่วง covid แต่ตอนนี้คนหันมาสนใจ AIChatGPT แทน (ความต่างเพราะ ?)นี้แหละหลายฝ่ายพยายามดัน VR Facebook ก็ดัน แต่ไม่เกิด คนใช้น้อยมากๆ ไม่เหมือน ChatGPT (เตรียมจำนวนมาก)
ผมว่าตอนใส่ต้องมองภาพเหมือนแว่นอะเห็นขอบแว่นแปลกๆ 555
เข้าข้างตัวเอง 5555
ถ้าเรามองข้ามเรื่องว่าใส่แล้วดูแปลกๆได้ ผู้ผลิตก็จะก้าวข้ามเรื่องการออกแบบที่ไม่ต้องยึดติดกับทรงเดิมๆ ทำให้เกิดรูปทรงใหม่ๆความสามารถจัดเต็ม แล้วโลกของเราก็จะเข้าสู่ยุคอานาคตเมือนในการ์ตูนที่ผู้คนใส่ของแปลกๆเดินกันเต็มเมือง นี่คืออีกก้าวที่สำคัญเลยนะ😄
ผมว่าง่ายๆเลยที่ทำให้คนสนใจ Vision pro มากกว่าแว่น VR อื่นๆก็คือ คนทั่วไปไม่ได้อยากเข้าไปอยู่ในโลกเสมือน มาร์คซัค ควรตื่นได้แล้วว่าตนไม่ได้อยากไปอยู่ในโลก CG เค้าอยากอยู่ในโลกนี้แหละ แล้วก็ใส่แว่นเพื่อทำงาน หรือเสพความบันเทิงที่ไม่หลุดไปที่อื่น
Apple เข้าใจจุดนี้เลยออกมาน่าสนใจ แต่นี่คือสินค้าเจนแรก คิดว่าพัฒนาต่อไป แว่นจะเล็กลง แบตใช้นานขึ้น ใช้งานได้ดีขึ้น ราคาจับต้องได้ ทีนี้มันจะแมส
ที่คุณพูดมามัน nreal air เลยนะ ราคาหมื่นต้นเอง ไม่ต้องมีฟีเจอร์มีกล้องเวอร์ๆ หน้าตาเหมือนแว่นกันแดดสวยๆต่อสาย
เจ้าอื่นทำก็ไม่เท่าไหร่ แต่ถ้า แอปเปิ้ลทำแล้ว ผมว่า มันมาแน่ครับ
คอนโทรลเลอร์มีคนทำเพิ่มแน่นอน แบตอึด แบตนาน มีคนทำเพิ่มแน่นอน สายรัดแปลกๆ มีคนทำแน่นอน ส่วนเกมนี้ไม่แน่ใจจะมีคนทำมั้ย อย่างเครื่องแม็คแทบไม่มีเกมเกรด AA เลย เรื่องวิชวลคีย์บอร์ด เราดูตอนนี้ยังไงก็ไม่น่า work แต่เอาเข้าจริงๆ อาจจะปรับตัวกันแล้วใช้คล่องก็ได้ เหมือนตอนไอโฟนออกมาใหม่ๆ คนก็บอกว่าโทรศัพท์ไม่มีปุ่มใช้ไม่เวิรค์หรอก แล้วดูตอนนี้พิมพ์กันโคตรจะเร็ว ส่วนเรื่องเลนส์สายตา ถ้าใครเล่นโดรนแล้วใช้แว่นก๊อกเกิ้ล จะรู้ว่าเค้าจะให้กรอบเลนส์เปล่ามาด้วยที่เราต้องทำคือเดินเข้าร้านแว่น สั่งตัดแล้วให้กรอบเลนส์เค้าไปแค่นั้น แอปเปิ้ลก็น่าใช้หลักการเดียวกัน
เดียวติดน่ะครับ ได้รองทำ เล่น VIDEO พอแล้ว
ลูกอิช่างติ
อธิบายละเอียดดีครับ
ฟังแล้วอธิบายแบบคนรู้รายละเอียดจริง
Meta/Oculus ตอนนี้จะเน้นไปที่เกมซะเยอะ ถ้าสายเกมVRยังไงก็น่าจะนำอยู่
แล้วของ Meta พวกmeetingจะทำแนว avatar เป็นการ์ตูนน่ารักๆอยู่ในโลกpolygon
แต่Appleจะเน้นเป็นตัวคล้ายคนจริงแล้วดึงเอาenvironmentสมจริงมาใช้มากกว่า ในแง่กราฟฟิค Apple ใช้กราฟฟิคสวยกว่า มันก็เลยดูดีกว่า
และAppleก็น่าสนใจตรงที่มีกล้อง3dที่ถ่ายบรรยากาศได้ เหมือนเจ้าอื่นยังไม่ได้โฟกัสจะทำในส่วนนี้
แต่อย่างที่ช่องคุณอู่+ซี ที่เค้าตื่นเต้นตอนได้ลอง vision pro
ก็ไม่แน่เป็นเพราะว่าเค้าไม่เคยลองเล่นแว่นVRมาก่อนรึเปล่า หรือว่ามันดีกว่าVRของเดิมจริงๆเนอะ
แต่โดยรวม เข้าใจว่าพวกแว่นVRพวกนี้ จะไปรอดไม่รอดก็อยู่ที่แอปด้วย
ถ้าไม่ติดเรื่อง hardware (เช่น กล้อง3D/eye tracking/processor ที่น้อยกว่า)
เรื่องอื่นๆ เช่น interface/UI
ถึงappleคิดอะไรใหม่ๆมาได้ ถ้ามีไอเดียแล้ว ฝั่งmetaก็น่าจะทำได้เหมือนละกันมั้ง
คุณอู๋กับคุณc ไม่เคยลองvrอันนี้ตัดไปได้เลย
คนไทยเรา มีแค่ไม่กี่ช่องที่ ได้ไปลองใช้งานจริง เสียดายที่พี่ไม่ได้ ไปลองทดสอบ เหมือนช่องอื่นๆได้ลอง
เหมือนแว่นดูหนัง imax 3D ที่ตอนนั้นฉายที่เมเจอร์รัชโยธิน แต่อันนี้สามารถสัมผัสกับวัตถุต่างๆได้ ควบคุมได้เอง ประเด็นคือถ้าเป็นเมตาเวอร์ส เครือข่ายอินเตอร์เนต จะแสดงภาพในเมตาเวอร์สยังไงให้เป็นภาพ 3มิติเสมือนจริง รู้แบบที่เป็นเบราเซอร์คงไม่ได้ นึกๆดูวิทยาการจะล้ำไปอีกก้าว เหมือนจะหลุดไปเข้าอีกมิติ
11:00 meta ไม่เกิด แม้ช่วง covid แต่ตอนนี้คนหันมาสนใจ AI
ChatGPT แทน (ความต่างเพราะ ?)
นี้แหละ
หลายฝ่ายพยายามดัน VR Facebook ก็ดัน แต่ไม่เกิด คนใช้น้อยมากๆ ไม่เหมือน ChatGPT (เตรียมจำนวนมาก)
ผมว่าตอนใส่ต้องมองภาพเหมือนแว่นอะเห็นขอบแว่นแปลกๆ 555
เข้าข้างตัวเอง 5555