ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 25 มิ.ย. 2022
- @Carinner ขับทดสอบ NEW SUZUKI SWIFT GL PLUS
NEW SUZUKI SWIFT GL PLUS เป็นรุ่นตกแต่งพิเศษ ภายใต้แนวคิด “Limitless Edition สไตล์ท้าทาย ทุกขีดจำกัด” พร้อมเข้ามาเติมเต็มความต้องการของกลุ่มลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น โดยถูกพัฒนามาจากรุ่น SUZUKI SWIFT GL ด้วยชุดแต่งดีไซน์ใหม่ กับชุดสเกิร์ตรอบคันพร้อมด้วยสปอยเลอร์หลังเติมเต็มความสปอร์ตให้มากขึ้น เสาอากาศครีบฉลาม ซุ้มล้อสีดำ บ่งบอกถึงความพิเศษและเป็นเอกลักษณ์ด้วยชุดสติกเกอร์ GL PLUS ลายใหม่
ทั้งนี้ NEW SUZUKI SWIFT GL PLUS ยังคง เอกลักษณ์ ที่โดดเด่น ดีไซน์ภายนอก สปอร์ต ปราดเปรียว กระจังหน้าสีดำตกแต่งลายเส้นโครเมียม ไฟหน้าแบบแบบฮาโลเจนมัลติรีเฟลคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED บริเวณกันชนหน้ารถ พร้อมไล่ฝ้ากระจกหลัง ล้อกระทะพร้อมฝาครอบและยางขนาด 175/65R15 ภายในตัวรถทันสมัย ตกแต่งด้วยวัสดุสีเงินสไตล์สปอร์ต กว้างสบายรองรับการใช้งานได้หลากหลาย พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรง D-Shape เพิ่มพื้นที่วางขาและปรับระดับได้ 4 ทิศทาง เบาะนั่งโอบกระชับสรีระผู้ขับขี่ให้รู้สึกสบายตลอดการเดินทาง ที่นั่งคู่หน้าปรับตำแหน่งสูง-ต่ำบริเวณคนขับ พร้อมพนักพิงศีรษะแยกส่วน สำหรับที่นั่งด้านหลังสามารถปรับพับแบบ 60:40 พร้อมพนักพิงศีรษะแบบแยกส่วน 3 ตำแหน่ง รองรับทุกไลฟ์สไตล์ด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระขนาด 265 ลิตร
เครื่องยนต์รหัส K12M แบบเบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร หัวฉีดคู่หรือ DUALJET ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ด้วยกำลังสูงสุด 83 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมรองรับน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล E20 เคลมอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 23 กิโลเมตร/ลิตร
ระบบความปลอดภัยมาตรฐานด้วยแพลตฟอร์ม HEARTECT ที่เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของซูซูกิเพื่อช่วยเสริมให้รถมีน้ำหนักน้อยลงแต่คงความแข็งแกร่งและประหยัดน้ำมันมากขึ้น รวมถึงโครงสร้างตัวถังแบบ TECT ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของตัวรถ พร้อมระบบ NVH ช่วยกันการสั่นสะเทือน และลดเสียงรบกวนจากภายนอก
พร้อมระบบ TCS ช่วยในการควบคุมรถขณะขับขี่บนถนนลื่นหรือในทางโค้ง พร้อมระบบเบรก ABS และ EBD ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP และยังเหมาะกับการขับในเมืองด้วยระบบ Idling Stop ที่ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันขณะรถหยุดนิ่ง ขับขี่อย่างมั่นใจในทุกเส้นทางด้วยระบบ Hill Hold Control ที่ช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน ปลอดภัยมากขึ้นด้วยถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้าพร้อมคานกันกระแทกด้านข้าง อีกทั้งระบบล็อกนิรภัยป้องกันเด็กเปิดประตูหลัง และจุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก 2 ตำแหน่ง (ISOFIX & Top Tether anchorages 2 position)
NEW SUZUKI SWIFT GL PLUS มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีแดง Ablaze Red Pearl, สีน้ำเงิน Speedy Blue Metallic, สีเทา Star Silver Metallic, สีเทา Mineral Gray Metallic, สีดำ Super Black Pearl จำหน่ายในราคา 572,000 บาท และ สีขาว Pure White Pearl จำหน่ายในราคา 577,000 บาท
ทั้งนี้ ซูซูกิพร้อมจะมอบแคมเปญสุดคุ้มค่าเพื่อให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์สปอร์ตแฮทช์แบ็กคาร์รุ่นนี้ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น สำหรับผู้ที่จอง SUZUKI SWIFT GL PLUS “Limitless Edition สไตล์ท้าทาย ทุกขีดจำกัด” สามารถเลือกรับข้อเสนอผ่อนเริ่มต้นเดือนการเลือกรับข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 0.33% หรือเลือกรับผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 3,333 บาท พร้อม ส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่าสูงสุด 30,000 บาท หรือเลือกรับ ซูซูกิช่วยผ่อนสูงสุด 10 เดือน เดือนละ 3,000 บาท ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรก และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 3 ปี รายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆ เป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด โดยลูกค้าที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิกว่า 127 แห่งทั่วประเทศ - ยานยนต์และพาหนะ
สุดยอดครับ.รถสวยมากครับ
ขอบคุณครับ
พี่ต้อมผมจะเอารุ่นไหนดี gl ก็ดูไม่เต็มแต่ราคาโดน ส่วน glx ดูครบแต่ราคาเกิน
ผมชอบ GLX ครับ หาโชว์รูมที่มีส่วนลดเยอะๆ ผมว่าน่าจะมีนะครับตอนนี้
ค่าตัวน่ารักมากครับ ชุดสวยจัดเต็ม ได้เครื่องยนต์ตัวท็อป
ขอบคุณครับ
รอปลั๊กอินครับ
จะมีมาหรือครับ 😅😅
รถมันดูสูงขึ้นจากรุ่น gl plus เดิมปะค้บ
ความสูงเท่าเดิมทุกอย่างครับ
พี่ครับ มันจะมีใครบ้า ทดสอบแบบโง่ๆใหมครับ แบบ รถไม่มีน้ำมันเลย แล้วเติมเข้าไป1ขวด 1ลิตร แล้ววัดเลย วิ่งเปิดแอร์ขับได้กี่กิโลจริงๆ
ในถังน้ำมัน มันจะมีปั๊มขนาดเล็ก ที่เขาเรียกมันว่าปั๊มติ๊กและลูกลอย อยู่ในถังเพื่อวัดระดับน้ำมันในถัง ผมเคยยกลงมาตอนทดสอบคุณภาพน้ำมัน ปกติแล้วถ้าเข็มเตือนไฟเตือนจนรถดับ น้ำมันยังเหลือในถังอีกประมาณ 5 ลิตรเลยครับ เพราะฉะนั้นถ้าเราเอาถังเปล่าแบบไม่มีน้ำมันเลย เติมเข้าไปลิตรเดียว ไม่น่าจะพอครับ ปกติถ้าจริงจังมาก ก็จะมีถังแยกพร้อมกับมาตรวัดระดับน้ำมันเพื่อทำการวัดอัตราสิ้นเปลืองครับ หรือใช้เครื่องมือวัดโฟว์เลต การไหลผ่านของน้ำมัน มาวัดก็ได้ครับ แต่ต้องลงทุนมากพอสมควรครับ
@@Carinner เหลือประมาณตั้ง5 ลิตร แต่รถดับไปแล้ว 5ลิตร วิ่งได้เกิน50กิโลเมตรเลยนะครับ ทำไมรถเขาไม่ทำแบบ ใช้หมดจนหยดสุดท้ายเหรอครับ หรือมันเป็นปัญหาทางวิศวกรรม
@@bshwhjshsh959 ใช่ครับ ถังน้ำมันก็เหมือนแทงค์น้ำ เวลายกขึ้นมามีจะลูกลอย และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง เป็นทาวเวอร์ใหญ่พอสมควรครับ ง่ายๆ เลย คือ เรื่องการออกแบบ ตำแหน่งติดตั้ง ซึ่งเป็นหลักทางวิศวกรรม ด้วยครับ รวมถึงน้ำมันก้นถัง ใช้กันยาวๆ ทิ้งให้เป็นตะกอนดีกว่า ดูดขึ้นมาใช้เผลอๆ หัวฉีดตัน มีปัญหาอีกครับ
@@Carinner เป็ยอย่างงี้ทุกรุ่นทุกยี่ห้อเหรอครับ ที่ว่าถังน้ำมันยังเหลือๆ5ลิต
หลอดไฟมันสว่างไหมครับ รุนนี้
ประมาณนึงครับ ถ้าฟีล์มบานหน้ามืดมาก ก็ต้องเปลี่ยนหลอด ถ้าฟีล์มบานหน้าประมาณ 40% -50% ได้อยู่ครับ
รถเล็กคลาสนี้ไปต่างจังหวัดขื้นเขาชันไปนั่งไป4คน บั้นท้ายมีกระเปาเสื้อผ้าและของฝากเล็กน้อย(ไปเยี่ยมญาติต่างจังหวัด) กลัวว่าจะไปไม่ถืงขื้นเขาไม่ไหว ต้องได้กลับคืน เสียเวลาเสียตัง
ถ้าเขาไม่สูงมากขึ้นสบายครับ วันก่อนผมขับรุ่น GLX ขึ้นเขาเขียว บนเขาใหญ่ วิ่งสบาย ตอนแรกก็กังวล นั่งสองคนกับช่างภาพตัวใหญ่ด้วยครับ