‘บิ๊กโจ๊ก’ ยังเงียบ หลังถูกให้พ้นราชการ ‘นายกฯ’ แจง คำสั่งเด้งเป็นอำนาจรักษาการ ผบ.ตร.
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 17 เม.ย. 2024
- “บิ๊กต่าย” รักษาการ ผบ.ตร.เซ็นคำสั่ง “บิ๊กโจ๊ก” และตำรวจ รวม 5 นาย ออกจากราชการไว้ก่อน ขณะที่วันนี้ไร้เงา “บิ๊กโจ๊ก” เข้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด้าน “นายกฯ” แจง คำสั่งเด้งเป็นอำนาจรักษาการ ผบ.ตร.”
เมื่อวานนี้ พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ หรือ บิ๊กต่าย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า ได้ลงนามในคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อพิจารณาทางวินัยกับพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เนื่องมาจากถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยร้ายแรง พร้อมกับ ตำรวจอีก 4 นายแล้ว ในคดีฟอกเงิน เว็บพนัน บีเอนเค มาสเตอร์ และได้เซ็นคำสั่งให้ตำรวจทั้ง 5 นาย ออกจากราชการไว้ก่อน โดยมีผลตั้งแต่เมื่อวานนี้ (18 เมษายน)
โดยตำรวจทั้ง 5 คน ประกอบด้วย
1.พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
2.พันตำรวจเอก กิตติชัย สังขถาวร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา
3.พันตำรวจโท คริษฐ์ ปริยะเกตุ รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธร พระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ
4.สิบตำรวจเอก ณัฐวุฒิ หวัดแวว ผู้บังคับหมู่ (ทำหน้าที่จราจร) งานปฏิบัติการจราจรตามโครงการพระราชดำริ 1 กองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจจราจร
5.สิบตำรวจเอก ณัฐนันท์ ชูจักร ผู้บังคับหมู่ งานสายตรวจ 1 กองกำกับการ 1 กองบังคับการ ตำรวจจราจร
บิ๊กต่าย กล่าวว่าการลงนามในคำสั่งดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบ เพราะ หลังจากได้รับรายงานจากคณะพนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองวินัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่พิจารณาพบว่า บิ๊กโจ๊กและพวก ได้กระทำผิดจริงร้ายแรงจริง และมีหมายจับในคดีอาญา
โดยหลังจากนี้ บิ๊กโจ๊ก ยังมีสิทธิ์ในการอุทธรณ์ และชี้แจงข้อเท็จจริง รวมถึงร้องทุกข์หรืออุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรมของตำรวจได้ หรือหากจะฟ้องร้องไปยังศาลปกครองก็ถือเป็นสิทธิที่สามารถกระทำได้
รักษาการ ผบ.ตร. ยังบอกอีกว่า ทางพนักงานสอบสวนได้ใช้เวลาพิจารณาข้อเท็จจริงทั้งหมดจนชัดเจนแล้ว และไม่มีความหวั่นเกรงใดๆ หลังจากนี้ ส่วนนายกรัฐมนตรีได้กำชับเพียงว่าให้ดำเนินการตามกฎหมายระเบียบและคำสั่งอย่างเคร่งครัดและรอบคอบ
ขณะที่เช้าวันนี้ที่สำนักงานของบิ๊กโจ๊ก ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังไร้เงาของบิ๊กโจ๊ก มีเพียงตำรวจประจำสำนักงานเข้ามาทำงานตามปกติ
ซึ่งผู้สื่อข่าวสอบถามได้ความว่ายังไม่ได้รับแจ้งจากบิ๊กโจ๊กว่าจะเข้าที่สำนักงานเมื่อไหร่ สำหรับขั้นตอน หลังมีคำสั่งให้ออกจากราชการ ทางบิ๊กโจ๊กและตำรวจอีก 4 นายไม่จำเป็นต้องเข้ามารายงานตัวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และทางคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะต้องส่งหนังสือหรือเอกสารแจ้งให้ออกจากราชการไปยังภูมิลำเนาของตำรวจทั้ง 5 นายให้รับทราบ เมื่อทุกคนได้รับหนังสือแล้วจะต้องเข้ามาชี้แจงเพื่อแก้ข้อกล่าวหาต่อคณะกรรมการฯ แต่หากได้รับแจ้งแล้วไม่มา หรืออ้างว่าไม่ได้รับหนังสือ ทางคณะกรรมการจะถือว่าไม่ให้ความร่วมมือ และจะมีมติสรุปผลตามข้อมูลที่มีต่อไป
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อไปหาบิ๊กโจ๊ก แต่บิ๊กโจ๊กไม่รับสาย
ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี คำสั่งให้ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กลับไปที่ต้นสังกัด หลังให้มาช่วยราชการ ที่สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ก่อนที่พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะมีคำสั่งให้พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน ก็บอกว่า ช่วง 3-4 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีการตรวจสอบเรื่องนี้ พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ ได้มาพูดคุยกับตน เพื่อขอให้ส่งตัวพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ กลับต้นสังกัด เพื่อจะได้ไปดำเนินการ
ส่วนเหตุผลที่ให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพราะเกรงว่าจะไปแทรกแซงเรื่องคดีและยังมีอิทธิพลอยู่ใช่หรือไม่ ท่านนายกฯ ระบุว่าเป็นไปตามที่รักษาการผบ.ตร.บอก ว่า เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมและการตรวจสอบภายในของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีการดำเนินการกันมา
นักข่าวถามถึงความคืบหน้ากรณีของพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่อาจจะถูกนำมาเปรียบเทียบกันกับกรณีของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์
นายกฯ เชื่อว่าแต่ละกรณีก็มีความแตกต่างกันไป ก็บอกมั่นใจในกระบวนการยุติธรรม ว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 คน นายกรัฐมนตรี บอกว่า กรณีคำสั่งให้ "บิ๊กโจ๊ก" ออกจากราชการ เป็นคนละส่วนกับ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง 3 คน ที่ตั้งขึ้น
ช่วงหนึ่งนักข่าวสอบถามถึงความคืบหน้า ท่านนายกฯ บอกว่า ไม่อยากไปกดดัน อย่างที่ตนเคยบอกไว้ กระบวนการยุติธรรมไม่มีใครไปก้าวก่ายหรือเร่งรัดอะไร เข้าใจในความสามารถและความเป็นมืออาชีพของคณะกรรมการ ทั้ง 3 คน เพราะเป็นเรื่องที่สังคมจับตาอยู่
ซึ่งในการลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต มีพลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ รวมถึงนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย 1 ในคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีของพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ และพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ร่วมเดินทางไปกับนายกรัฐมนตรีด้วย โดยนายกได้พูดคุยกับทั้ง 2 คน ก่อนที่จะเข้าไปในห้องพักรับรอง
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : ch3plus.com/news/social/midda...
เที่ยงวันทันเหตุการณ์ วันที่ 19 เมษายน 2567
ออกอากาศ ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ 11.20 - 12.35 น.
#เที่ยงวันทันเหตุการณ์ (MiddayNews)
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่
ch3plus : ch3plus.com/news/programs/mid...
facebook : / 3plusnews
Twitter : / 3plusnews
TH-cam : / 3plusnews
TikTok : / 3plusnews
ใหญ่ๆล้มดังจังเลย
คงจุก😂😂😂เค้าทำถูกคนแล้วจุ๊กกรู๊
ทนายโจ็ก เงียบสนิท
ยิ่งสูงยิ่งหนาว ยิ่ใหญ่ ยิ่งล้มดัง😢😢😢
ส้กวันหนึงคงถงึคนทำบาบ
ความจริง พยาน หลักฐาน คือสิ่งยืนยัน กฎธรรมชาติ ความลับไม่มีในโลกนี้ คนอื่นไม่รู้ แต่ตัวเองย่อมรู้ ผิดถูก ชั่วดี
ชีวิตของคนมีดวงขึ้น ดวงลง แต่นี่ดวงตกแล้ว คราวนี้หนักมากด้วย ฟื้นยาก อาจโดนยึดทรัพย์หรือและติดคุก เพราะคิดว่าเป็นตำรวจใหญ่ ไม่มีใครกล้าจับ ความประมาทบ่อเกิดแห่งความตาย
0:18
ถูกไล่ออกแล้วต้องเรียกว่าบักโจ๊กมันถึงจะถูกไม่ไช่บิ๊กอีกแล้วละครับ
โจ็กเพือนเล่นมืงหรอไปว่าเขาแบบนั้น
เส้นงึนมันไม่ถึงผมสักเส้นเลยไม่มีๆครับไม่มี
สักวันหนึงคงเป็นวันของท่านบาง
ไม่ฟอกจะกลัวอะไร
ก็เป็นไม้ขวางทางเขา ก็ต้องโดนพวกเขาเล่น มันก็ถูกต้องแล้วครับ และยิ่งไปอะไรไม่ดีๆ อีก เขาก็ยิ่งขุดมาเล่น คำเดียว ปลิววว 😂😂🎉
คงไม่มีวันของโจ๊กแล้วละนะ(หวังว่านะ)
คงจุกน่าดูเลยเจ้าของเวฟไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกโจ๊กเองแหละครับนะครับนะคับนะ
เละอย่างโจ๊ก,ของแท่ร,,
ออกจากราชการน่ะไม่ได้ไปตายเสียหน่อยอายุยังน้อยธุรกิจคอยอยู่บานตะไทไม่ได้ไส้แห้งซักหน่อย