เจาะลึกสถิติ! ทำไม The Marvels ถึงเจ๊งยับ ระดับสะเทือน MCU
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 21 พ.ย. 2023
- เสื้อคอล Fast กดได้เลยจ้า
👉 shop.line.me/@764oeezk/produc...
สามารถสนับสนุนช่องตีลังกาดูหนังไปพร้อมกันได้ โดยการซื้อค้า ผ่านลิ้งค์ shopee ด้านล่าง (เข้าลิงค์ไปซื้ออย่างอื่นก็สนับสนุนเราได้เหมือนกันนะ)
LESASHA ไดร์ ไดร์เป่าผม ปรับอุณหภูมิได้ 6 ระดับ MAXI AIR HAIR DRYER 1800W รุ่น LS0663 ลมแรง มีลมเย็น
shope.ee/1Avuf7cbBZ
สมัครสมาชิก
/ @tlg_dream
จ่ายทิปสำหรับสายอยากตะโกน
tipme.in.th/865bc7e08754c20a1...
ติดตามเราเพิ่มเติมได้ที่
FB: ตีลังกาดูหนัง / somersaultfilm
IG: Thornin thornin?hl=th
Tiktok: / dreamtlg
ช่่องทางการโดนเนท
ธรณิน เผือกโสภา
พร้อมเพย์ 0863774546
กสิกร 632-2-23666-0
กรุงเทพ 870-7-03782-9ก
กรุงศรี 531-1-40990-6
ติดต่อโฆษณา
ดรีม 0863774546
W.thoradream@gmail.com
#ตีลังกาดูหนัง
#themarvels
#MCU - บันเทิง
ในฐานะที่ผมติดตามMCUมาตั้งแต่ปี2008 (ตอนที่ Iron Man ภาคแรกฉายผมยังเรียนประถมอยู่เลย) ผมอยากจะบอกว่ามันหมดยุค "ถ้าไม่ได้ดู พรุ่งนี้จะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง" แล้ว...
ผมว่าตัวบทมีปัญหาครับ ช่วงหลังendgame ผมรู้สึกเหมือนเขาพยายามจะหนังระดับนั้นอีกเลยไปปูเนื้อเรื่องส่วนหลังเยอะ ไม่สนใจบทหรือเนื้อหาของหนังที่กำลังดำเนินในช่วงปัจจุบันสักเท่าไร
เรื่องอายุเห็นด้วยครับเพื่อนรอบตัว เลิกตามหลังจบ เอนเกม กันจริงๆ บวกกับ การที่ต้องไปนั่งไล่ตามซีรีส์อีก บางคนเขาเหนื่อยจากงานจากชีวิต ก็อยากเสพภาพยนตร์ที่มันง่ายๆ จบในตัว ไม่ใช่มาตามจักรวาลที่เน้นทำหนังเป็นแค่ทางผ่านเพื่อปูไปหาอะไรบ้างอย่าง ทุกวันนี้จะเลือกหนังหรืออะไรดู มักจะเลือกหนังที่ เพิ่งเปิดแฟรนไชส์ ไม่ก็จบในตัว
ซีรีส์ก็ เทใจไปให้ฝั่ง เกาหลี หรือพวกซีรีส์ที่เพิ่งค่อยๆขยาย
ส่วนตัวคิดว่า สไปเดอร์แมนยังคงจะเป็นสิ่งเดียวที่ ถ้าหยิบมาทำ ยังไงคนก็ไปดู ส่วนในฝั่ง โซนี่ ที่ไม่ใช่สไปเดอร์แมน แอบเป็นห่วง
เช่น คาเวน เป็นต้น ส่วนฝั่ง DC ถือว่า กำลังเดินหมากไปถูกทาง การเริ่มใหม่ที่ น่าสนใจ การปล่อยให้ หนังอย่าง The batman โจ็กเกอร์ เป็นไปในทางของตัวเอง ตอนนี้ในวัน 25 ปี หันมาตาม DUNE
เห็นด้วยกับการวิเคราะห์สถิติกลุ่มคนดูมากๆ และเรื่องที่ไม่สามารถสร้างฐานผู้ชมหน้าใหม่ได้ แต่อีกเรื่องที่มีผลมากๆ คือ บทที่ไม่ดีมาก เฉยๆและการเดินเรื่องที่มันดูจำเจ ใช้ลูกเล่นเดิมๆ อีกทั้งยังไม่สามารถทำให้คนดูผูกพันธ์กับตัวละครใหม่ได้ เด็กเจนใหม่ไม่รู้จัก และต้องพยายามตัดความผูกพันธ์กับเฟสเก่า เพราะถ้าเป็นเรา เราก็ขี้เกียจตามย้ายไปดู 10-20 เรื่อง
สมัยก่อน MCU เลือกทำหนังฮีโร่เป็นคนๆ มอบความผูกพันให้คนดู ทีละนิดๆ และจบหนังด้วยการหยอดความเชื่อมโยงไว้ทุกเรื่องของแต่ละตัว จนเกิดเป็น หนังเรื่อง Avengers ในที่สุดที่ทุกคนโครตอิน จากนั้นก็เริ่มทำซีรี่ส์ของตัวละครรองที่มีความสำคัญ เพื่อเพิ่มความอินให้กับหนังที่จะมาใหม่ๆ ในช่วงเวลาที่ทุกคนกำลังอินอยู่แล้ว จนสุดท้ายเกิดเป็นตอนจบที่โครตอินที่โครตดีที่สุดเท่าที่ MCU เคยทำมา คือ หนังเรื่อง Avengers: Endgame จากนั้น MCU เดินแนวทางผิดพลาดอย่างร้ายแรง เนื่องในขณะที่ทุกคนอินกับตอนจบของฮีโร่ในดวงใจ ทางMCU กลับพยายามสร้างฮีโร่ชุดใหม่ในรูปแบบของ ซีรี่ส์ ทั้งๆที่ มันควรทำเป็นหนังฮีโร่ตัวใหม่ขึ้นมาก่อนและค่อยๆสร้างไปทีละนิดๆเหมือนอย่างที่เคยทำมา แถมยังพยายามยัดตัวละครเข้ามาใหม่อย่างไม่แคร์ความรู้สึกของคนดูเลย คงคิดว่า หนังเรื่อง Avengers: Endgame ประสบความสำเร็จได้เนื่องจากคนชอบหนังฮีโร่ละมั้ง สำหรับผมที่ติดตามเพราะอยากติดตามชีวิตของฮีโร่นั้นๆที่เราได้คุ้นเคย และอยากรู้ตอนจบของฮีโร่ตัวนั้นๆ ซึ่งฮีโร่ตัวใหม่ๆที่เข้ามาส่วนใหญ่ไม่ได้พยายามทำให้เราอยากรู้จักหรืออยากเอาใจช่วยเลย MCUกลับทำให้เป็นแค่ หนังกลุ่มคนที่มีพลังมาสู้กันเท่านั้น ไม่ได้มอบมิติอื่นๆเลย ถ้าทำหนังแบบนี้สู้เสร็จแล้วก็ควรจบไปเลย แต่ยังจะมีมาทำภาคต่อภาคแยกอีก คือคนดูรู้หมดแล้วว่าตัวละครฮีโร่มันทำอะไรได้มันเก่งแค่ไหน แถมก็เดาได้เลยว่าหนังภาคต่อไปของพวกเนี้ยก็คือเอามาสู้กันแล้วก็จบแบบเดิมคือชนะ ถ้าย้อนกลับไปได้ควรนำ หนัง The Marvels มาฉายก่อนเลย จากนั้นค่อยๆปล่อยซีรี่ส์ของแต่ละตัวที่โผล่มาในหนัง ปล่อยสิ่งที่คนดูยังไม่เคยเห็นของฮีโร่ทั้งสามคนนี้ให้คนดูได้รู้จักมากขึ้น คนดูจะค่อยๆอินไปเอง โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ๆ สำหรับผมแล้วฮีโร่รุ่นใหม่ที่น่าสนใจที่อยากรู้จักคือ สาวน้อยพลังเทพที่อยู่กับทอร์ และลูกๆของสกาเล็ตวิช แค่นั้นเลยตอนนี้
ถ้าเอาเดอะมาเวลมาฉายก่อน มันก็ละเหมือนกับจัสติสลีค เพราะทุกคนยังไม่รู้จักตัวละครแต่ละตัวเลย แต่กลับเอามารวมกัน เขาเอาไปแยกเป็นซีรีย์ ก็ดีแล้วนี้ครับ แต่ที่ว่าทำไมถึงไม่ปังเพราะ ในส่วนตัวนะ ผมว่า มันเยอะไป ทั้งซีรี่ ทั้งหนัง มันเยอะไป ติดตามไม่หมด คนเลยเบื่อ
@@user-jm5no1dw1r ผมหมายถึงมีแผนทำซีรี่อยู่แล้ว การใส่รายละเอียดในซี่รี่ส์มันง่ายกว่า หนังมันแค่ 2 ชม ถ้ามันปังคนก็จะติดตามต่อในซีรี่ส์ แต่นี่คือไม่มีปังเลย คนมันไม่อินตั้งแต่ซีรี่ส์หนังมันจะไม่เจ๊งได้ยังไง ผมว่าต่างกันกับ DC เอาตัวมาเยอะเกิน แต่นี่แค่3ตัวเองนะ และเป็น3ตัวที่ ตัวประกอบสุดๆที่ผ่านมา
ดูหนังจักรวาลมาเวลครั้งแรก ตอนอายุ 28 😅😅😅 บอกเลยว่า ตอนนี้ไม่อิน เพราะว่าต้องเอาเวลาไปดูซีรี่ย์ เป็น10เรื่อง ดูตั้งกี่ตอน ไม่มีเวลาขนาดนั้น พอมาเป็นหนังรวมฮีโร่แบบนี้ จบเห่เลย ไม่รู้เลยว่ามีพลังได้ไง มายังไง คือใคร ถ้าจะดูแบบต่อเนื่องหลังจบ End game ต้องดูซีรีย์อีกเพียบ ขอโบกมือลา 😅
ส่วนตัว มันจบตั่งแต่
End game
พูดตรงๆ ไม่มีเวลาดูซีรี่ย์ เลย แล้ว เอามารวมกัน มันไม่เก็ต ครับ
เมื่อก่อนชอบดูหนัง superhero จนเขาเริ่มทำหนังรวมทีมนี่หละ เลิกตามเลย มารู้ทีหลังตอนโตว่าหนังพวกนี้มันเคยเป็น comic มาก่อน
ไม่ว่าจะหนังหรือ comic ส่วนตัวไม่ชอบ concept หลายจักรวาลของ franchise เลย มันเหมือนข้ออ้างทำให้ worldbuilding ไปต่อได้ มันทำให้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวละครในเรื่อง หรือ บทจะเขียนมิติตัวละครออกมาดีแค่ไหน ตัวละครจะดีใจ เสียใจ โกรธ ผมไม่รู้สึกมีอารมณ์ร่วมเลย
คนเรี่มเบื่อหนังซุปเปอร์ฮีโร่แล้ว เดียวนี้คนดูชอบหนังผี, หนังระทึกขัวญ...
woke ทะเล่อทะล่า แล้วเข้าใจเอาเองว่าถ้าเป็น disney คนดูจะโง่พอและหลับหูหลับตาเอาด้วย
ช่องนี้เสนอแนวคิดความผูกพันตัวละครกับคนดูคือ "ผิด" คือขายตรรกะป่วย
ดู gravity fall ดู steven univer ดู rick & morty
วันใครที่ดู rick & morty ตอนล่าสุดครั้งแรกไม่จำเป็นต้องดู 60 ตอนก่อนหน้าสนุกทันที
และทำให้คนดูมีความต้องการตามหาตอนก่อนหน้ามาดู
เพราะสิ่งที่สัมพันกับคนดู "ปมภารกิจและการวิเคราะทฤษฎีต่อเนื่อง"
disney ทำสิ่งนี้ได้ใน infinity saga หลังจากนั้นคือ "ทะเล่อทะล่า saga"
DC / SONY มีเปลี่ยนจักรวาลไปเรื่อย ๆ ผลกระทบจะน้อยกว่า Marvel ที่จักรวาลเดียวยาวๆ
มาเวลหนัง คงต้องทำคล้ายๆกับคอมมิค ที่มีการรีเซ็ตจักรวาลจริงจัง เพื่อเปิดโอกาสให้สามารถเกิดกลุ่มแฟนๆรุ่นใหม่ได้ และ มาเวลจำเป็นต้องแยกซีรีส์ออกจากหนังโรงให้ได้ เพื่อลดภาระคนตามด้วย
ได้ข่าวมาว่าเขามีมาเวลสปอตไลต์ คือจะไม่เกี่ยวกับจักรวาลหลักโดยตรง
ตามที่พูดมาเลย ตามอายุและเวลาบางทีอาจจะขี้เกียจออกจากบ้าน เดินทางไม่สะดวก ไม่มีเงิน ดูตัวอย่างหนังไม่น่าสนใจ ตัวนักแสดงไม่น่าสนใจ บางคนดูแล้วบอกต่อว่าหนังไม่สนุก บลาๆๆ
ซีรีย์เยอะเกิ้นครับmcu
ส่วนstarswar ทำได้เพราะรายละเอียดเยอะมากๆๆ
เพราะทีมงานสร้างและแฟนบางกลุ่มใช้อารมณืนำงานไม่อยู่กับโลกความจริง
ปล. หลอกตัวเองได้ แต่ได้ไม่นาน
ยังไงครับ อธิบายเพิ่มเติมหน่อย
อารมณ์คงเหมือนทำหนังสนองนิ้ดตัวเองมากกว่าละมั้งครับ ไม่แคร์แฟนบางส่วนหรือกลุ่มคนดูทั่วไปเท่าไหร่
สำหรับผมนะไม่มีเวลาจะเข้าไปดู รอดูในแอ็ปหรือบางคนก็รอดูหนังฟรีสะส่วนมากคับ ผมเป็นแฟนมาเวลมาหลายสิบปีละคับ
ไม่เกี่ยวถ้าหนังดีจริงยังไงคนก็ไปดูแล้วอีกอย่างรายได้ในประเทศไทยไม่ได้มีผลกับหนังเลยรายได้ไม่ถึง2ล้านดอลล่าด้วยซ้ำ เพราะมันฉายทั่วโลกต้องดูภาพรวม
ใช่ เลย ครับ ผมคือ 1 ในนั้น ซึ่ง ไม่ชอบดู ซีรี่ เพราะต้องใช้เวลานาน ... พอมาดู เรื่องนี้ งง เลย คือไรวะ.. อันนี้ คือ ใครวะ อันนี้ ทำไมวะเนี่ย...
4:57 ต่อไปจะเป็นยุค DCU แล้ว 😂 (ดูจากแคสนักแสดง Sup Legacy) ผมโคตรดีใจที่จะได้เห็นมาเวลพยายามแข่งขันและไม่มักง่ายอีกต่อไป
90% เพื่อนผมที่ตามมาเวลเลิกดูตั้งแต่หลัง End Game ตั้งแต่ซีรีส์มานี่แทบจะตัดขาดเลย ไอตัวผมอ่ะดูอยู่แล้วเพราะเป็นแฟน แต่ขาจรนี่หายแน่
ก่อนจะถึงยุคDCทำหนังให้ไม่เจ๊งก่อน😅
@@BLACK__80808 พูดเผื่ออนาคตครับ จักรวาล DCU ยังไม่เริ่ม เจมส์กันน์แกคุณภาพ
@@MCSnoFunDCก็หนักพอกัน20เรื่องปังไม่เกิน3เรื่อง
@@pukjr3500 ยุคเก่ามันพังจนคนชินแล้ว รอตาเจมส์ กันน์มากู้ (น่าจะทำได้ ถ้าคนอื่นให้ความร่วมมือดี)
ผมว่ามีเหตุผลมาก
เด็กยุคใหม่ไม่เอาหนัง marvel แต่ หนัง DC ที่พึ่งตั้งตัวใน 2025 อาจจะมี โอกาสแย่งกลุ่มนี้ก็เป็นไปได้
DCไม่มีทางครับ จักรวาลVenomล้อมไว้หมดแล้ว
@@kirksarun6916 มอเบียด 2
ต้องวัดกันปีหน้า ถ้าเปรี้ยงคงไปได้อีกไกล
@@kirksarun6916 หนังห่วยน่ะนะ แถมMobiusก็ไม่รอด แถมKravenกับMadam Webยังน่าเป็นห่วงอยู่เลย
dc พึ่งเริ่มต้นเอง
เจ๊งเพราะอะไรไม่รู้ แต่ผมรอดูหนังมาร์เวลในดิสนีย์พลัสเสมอ ลงไวๆนะพาวเวอร์พัฟเกิร์ล 🤪
สาเหตุที่เจ๊งคือเพราะ serie ไม่ทำแยกกับหนัง จะให้ไปดูรวมๆกันหมดได้ไง คนเราไม่ได้มีเวลาเยอะขนาดนั้นถ้าแยกหนังกับซีรีย์รายได้ดีไปละ นี่เอามายำรวมกันถ้าไม่ได้ดูซีรีย์ก็ไม่รู้เรื่อง พาลทำให้คนหมดอารมณ์
ส่วนตัวนะครับ ผมเป็นผู้ชายเลยไม่อินกะฮีโร่หญิงครับ ถ้าให้เปรียบเทียบก็คงประมาณ ชอบดราก้อนบอลไม่ใด้ชอบเซเลอร์มูนประมาณนั้นครับ
คนเบื่อฮีโร่ + หนังไม่น่าสนใจ + ตัวร้ายกากไม่มีคนอยากดูซ้ำ เคมีดีก็จริงแต่สั้นเหมือนเอารอบฉาย ฉากโดนตัดเยอะ (ซีนโมนิก้ากับแครอลหาย)
คนจะเลือกดูมากขึ้นจะดูเฉพาะที่มีเครดิตว่าดีแน่นอน เช่น แบทแมน กาเดี้ยน สไปเดอร์แมน
ประเด็นสำคัญที่สุดเลยนะคือ คนดูเหมือนถูกบังคับให้ดูซีรีย์มาก่อนเพื่อเข้าใจมัน คนเลยไม่อยากจะดู บางกลุ่มตัดสินใจไม่ดู พอ หรือไม่ก็รอดูดิสนีย์พลัสทีเดียวจบ
รู้สึกว่าหนังมาร์เวลช่วงนี้ที่ออกมาเนื้อเรื่องมันเดินไปนิดเดียว ตั้งแต่เอนเกมจบ แบล็คแพนเธอร์ก็รบระหว่างอนาจักร ด็อกเตอร์สเตรนจ์ก็แย้งคัมภีร์มืด แอนท์แมนก็ทะเลาะกับแคงเศษ1ส่วนล้าน มันไมเหมือนซีรี่ส์ที่บางเรื่อง บทมันส่งให้ผลตอนจบเป็นการพูกหรือแก้ปมใหญ่ๆของจักรวาล เข้าใจว่าต้องการปู แต่ยิ่งดูยิ่งจางโดยเฉพาะกับภาพยนต์ ปูพรมจนกว่างแล้วเนี่ย
เอาที่ส่วนตัวคิดว่าเป็นข้อเสีย
-หนังผูกกับเรื่องเก่าและซีรีส์มากไปต้องดูมาก่อนถึงจะอินกว่า
-เนื้อเรื่องตัวหนังเองไม่ได้สำคัญมากเหมือนเป็นทางผ่านให้เปิดเรื่องราวต่อไป (เหมือนกับหลายๆเรื่องที่ผ่านมา)
-คนที่ไม่ชอบการโว๊คพลังหญิงของดิสนีย์/มาร์เวลมากไป อันนี้ฮีโร่พลังหญิงแล้ว ตัวร้ายยังเปลี่ยนคาแรคเตอร์เป็นหญิงผิวดำด้วยอีก
-ตัวร้ายไม่ดึงดูดเหมือน MCU ก่อนๆ เทียบว่าเป็นตัวร้ายหญิงเหมือนกันเฮร่ายังดูน่าสนใจกว่า
-คนรำคาญมิสมาร์เวลเยอะ ส่วนตัวว่าน่ารำคาญน้อยลงกว่าในซีรีส์และดูน่ารักขึ้นหน่อยนึง แต่ก็ยังน่ารำคาญอยู่
-คนที่ไม่ชอบกัปตันมาร์เวลตั้งแต่ภาคแรกก็ไม่น้อย
-คนเห็นว่าเดี๋ยวอีกแป๊บก็เอาไปลงดิสนีย์พลัสไว้รอไปดูในนั้นก็ได้
หลังจาก endgame ผมก็ไม่ไปดูหนังของ mcu ในโรงหนังอีกเลย จะดูก็ใน D+ เท่านั้นเพราะมันสะดวกกว่า และจะดูตอนไหนก็ได้ที่ว่างๆ
เพราะโลโก้ MCU เลยมันแปะปั้บ เท่ากับต้องมีเชื่อมจักรวาลแน่นอน แล้วคนที่คิดแบบนั้นก็จะไม่อยากไปดูเพราะขี้เกียจไปไล่ดูเรื่องเก่าๆ ทั้งๆที่จริงๆในเรื่องมันอาจจะไม่ได้เชื่อมมากมายเท่าไหร่
อีกส่วนเพราะมันเชื่อมเยอะไปหน่อย เอาตัวละครมาลงในหนังเรื่องเดียวเยอะไป ทำให้ไม่มีตัวไหนเด่นจริงๆเลย (ส่วนตัว)
กลุ่มเป้าหมายหนังฮี่โร่ คือ วัยรุ่นผู้ชาย หนังฮีโร่ พลังหญิง ไม่ใช่สิ่งที่ เด็กผู้ชายเหล่านี้อยากดูอยู่แล้ว ยิ่งนักแสดงนำ บรี ลาร์สัน เทียบกับ นาตาชา โรมานอฟ ของ สกาเล็ต โจฮันสัน ความน่ามองชวนฝันสู้กันไม่ได้ ยิ่ง สมทบอีก 2 คน เป็น ผิวสี คน กับวัยรุ่น อาราเบีย ที่ตอนเป็นซีรีย์ก็ไม่ ป๊อปปูล่าอะไร แถมโดนวิจารณ์เละ นี่คือตัดคนดูไปจนเหลือแค่คนกลุ่มเล็กๆแทบจะเป็นหนังเฉพาะกลุ่มแล้ว ไม่แปลกที่เจ๊ง
โห ถ้าเด็กวัยรุ่นคิดงี้น่าเป็นห่วงมากๆนะครับ ทั้ง Sexist และมองผู้หญิงเป็นวัตถุทางเพศ
@@TLG_Dream เด็กวัยรุ่นทั่วไป เป็นวัยฮอร์โมนครับ อย่าไม่คาดหวังศีลธรรมอะไรเยอะ เด็กผู้ชายจะหมกมุ่นอยู่ไม่กี่อย่าง กีฬา เซ็ก เกมส์ รถ คุณเคยเห็นหนังวัยรุ่นที่ พระนางหน้าตาขี้เหร่ทั้งคู่มั๊ยล่ะ มันเป็นเรื่องของการดึงดูดทางเพศปกตินะ เมื่่อโตขึ้น การศึกษาและการอบรม จะขัดเกลาพวกเขาเอง
@@TLG_Dream อย่าโลกสวย เกณท์คนดูหนังเอาคัดแค่อายุ ไม่ใช่คัดศีลธรรม
ผมผู้ชอบ กัปตันมาเวล แต่สำหรับภาคนี้ ไม่คิดและไม่ขอดูเลย
จริงค่ะ ส่วนตัวชอบกัปตันมากนะ อยากให้เป็นเรื่องราวของนางจริงๆ และอยากได้มูทแอนด์โทนของหนังที่ดูจริงจังเหมาะสมกับสเกลพลังกว่านี้ และไม่ชอบซีรีย์มิสมาร์เวลเอามากๆ แต่ก็ต้องพยายามดูอ่ะ เพราะจะได้ดูหนังรู้เรื่อง
สำหรับผมคำพูดของ สกอเซซี่ ชัดเจนสุด ๆ
ในมาเวลเฟส 4 หนังไม่ได้ให้คุณค่าอะไรกับวงการภาพยนต์เลยสักนิด เเค่ความสนุกสำหรับเเฟนมาเวลเเละคนบางกลุ่มเเค่นั้นเอง
Thor 2 ที่ว่าเเย่ ๆ เลวร้ายในเฟสสาม ยังดีกว่าเดอะมาเวลเยอะ
สำหรับผมอายุก็อย่างหนึ่งถ้าสนุกจริงผมมีเวลาไปดูแน่นอนละ แต่ส่วนใหญ่ที่ผมเลิกเพราะตัวหนังที่ออกมาหลายเรื่อง มันสร้างดูถูกคนดูเกินไป ทำง่อยๆ แล้วคิดว่าจะมีคนดู บางก็ทำสนองตังเองไม่แคร์แฟนคลับ พอหนังเจ๊งก็ไปด่าว่าเหยียดบาง ไม่เปิดรับสิ่งใหม่บาง พอหลายเรื่องเข้า ถ้ามีชื่อค่ายหนังค่ายนี้คือผม อคติก่อนเลย
เห็นด้วยครับ การเก็บสถิติ target group เป็นอะไรที่ดีมากๆ มันสามรถกำหนดอะไรได้หลายๆอย่างเลย แล้วในกรณี mavel นิ ผมว่านอกจากเสียกลุ่มเป็าหมายเดิมที่เติมดตทางอายุบ้าง ไม่ชอบแนวทางของหนังยุคหลังๆอีก แล้วยังไม่สามารถดึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ได้อีก มันยากมากเลยนะผมว่าที่จะทำสื่อบันโดยที่ยังได้กลุ่มเป้าหมายใหม่ แล้วยังรักษากลุ่มเดิมไว้ ก็คล้ายกับเกมมั้ง ถ้าให้ยกตัวอย่างก็ เกม resident evil นี้แหละ แต่หลังๆอันนี้ยังดีที่ดึงกลุ่มเป้าหมาย เดิมกลับมาได้บางส่วนนะ
ความรู้สึกผมหลังจบเอ็นเกมส์หนังทำเอ็นเคดิสไม่ตรงปกแบบเราเห็นตอนจบหนังดูวาวเลยรอดู.แต่พอไปดูหนังไม่มีส่วนตรงเอ็นเคดิสเลยเสียอารมครับ...
โหหห เป็นช่องเดวของไทยเลยมั้งที่พูดถึง แบบนี้คือในแง่สถิติ เยี่ยมครับ 👍
รอดูใน disney+
2-3 เดือนก้อลงแล้ว
จุดด่างพร้อยของ...MCU เลยทีเดียว.
ช่องนี้วิเคราะห์ดีจัดๆ
วัยทำงานไม่ว่างมาดูทุกเรื่อง แต่ถ้าหนังกระแสดีจริงก็ควรได้ดูอยู่ดี หนังปัญหาตั้งแต่สร้าง ปัญหาคนดูแค่ส่วนหนึ่ง เช่นเด็กไม่รู้จักสตาร์วอร์แต่ถ้ามันฮิตพูดปากต่อปากก็จะสนใจไปดูเอง
ผมว่าปัญหานี้มันเป็นทั้งหมดในดิสนี่เลยนะ ไม่ใช่แค่มาร์เวล the marvel นี่โวล์คพลังหญิงแบบสุดๆ เราต้องยอมรับนะครับว่าคนดูส่วนใหญ่ของหนังฮีโร่คือเพศชาย นี่ยังไม่พูดความสมเหตุผลในเนื้อเรื่องนะ ผมเจอตอนจบเข้าไปนี่อิหยังวะเลย😅
ถ้าจริงตามที่คุณบอกมา ผมว่าน่าตั้งคำถามเหมือนกันนะว่าทำไมเพศชายถึงไม่สามารถดูหนังที่มีตัวละครเป็นผู้หญิงได้
ผมรับได้ที่มีตัวละครผู้หญิงเป็นตัวเอกหลักโดยเฉพาะบาร์บี้ชอบมากๆแต่สำหรับตัวมาเวลกับดิสนีย์มีปัญหาคือหนังที่ผลักดันตัวละครผู้หญิงมากเกินไปเหมือนคุณชอบกินข้าวผัดมากๆแต่คุณก็กินไม่ได้ตลอด
ใช่ การที่ผลักดันให้ผู้หญิงมาเป็นฮีโร่ มันไม่สนุก !!! ดูจากรายได้สิ 😊@@paruwatsirisokra4905
ดีสนีย์พลัสส... คือการเสียเงินดูหนังพวกเนี่ยราคาถูกลง.. และดูได้ทั้งบ้าน.... เราคงไม่ตื่นเต้นแล้วที่หนังเข้าฉาย.... รออีกหน่อยก็ได้ดู
และจำนวนเรื่องที่มากขึ้น... คนคุ้นชินกับการดูอยู่ที่บ้าน....
ดูหนังเรื่องนี้ ตอนแรกๆ ไม่เกินยี่สิบนาทีคือน่าเบื่อ เดินออกเลย
เดินออกจากโรง แล้วบ่นพึมพรึมกับตัวเองว่า "อะไรวะเนี่ย" เพื่อนถามว่าสนุกมั้ย ก็เลยไม่แนะนำให้ใครไปดู หนังที่คนไม่กล้าบอกต่อ มีแต่เจ้ง
เรื่องอายุ ถูกเผ็งหมดครับ ทีอยากให้ทำคือ บางเรื่องไม่ต้องทำอ่ะ แล้ว เคลียร์ซีเคร็ตวอร์ให้จบไวที่สุด และปิดฉากจักรวาลไป เพื่อคนรุ่นเก่าๆนั่นล่ะ ส่วนรุ่นใไม่ค่อยๆสร้างไป
ภาระคนดูเยอะไปหน่อยครับ ต้องตามโน่นตามนี่ แล้วก็ทั้งหมดสามารถดูได้บน Streaming ในเวลาอีกไม่นานหลังจากหนังฉาย เราดูที่เดียวกันเลยดีมั้ย /// เรื่องการเติบโตของกลุ่มผู้ชมนี่เห็นด้วยอย่างยิ่ง //// เราดู Blue Beetle เราสนุกมากเลยอ่ะ ไม่ต้องคำนึงว่าอะไรมันเชื่อมกับอะไร
ตอน Iron Man ภาคเเรกออกฉาย ผมอายุ 7 ขวบเอง ตอนนั้นที่บ้านยังไม่มีทีวีเลย 😂 เห็นแต่โปสเตอร์ ผมมาเริ่มดู MCU แบบจริงจังตอนอายุ 14 ซื้อแผ่นมาเรียงดูแบบภาคต่อภาคเลย หลังจากนั้นก็ดูมาตลอด เเต่หลังจากจบ Avengers End Game ที่เหลือผมก็ดูบ้างไม่ดูบ้าง ดูแต่เรื่องที่ชอบจริงๆเท่านั้นล่ะ เอาเวลาไปอ่าน Comic ดีกว่า
ถ้ามาเวลรีบูทบ่อยๆแบบคอมมิคคงไม่ดี ดูดีซีสิ แบทแมนเต็มไปหมด แต่ก็มีแค่ไตรภาคที่สุดยอด
เด็กรุ่นใหม่สนใจโลกแห่งความเป็นจริง มากขึ้นและมากกว่าจะอยู่ในโลกของจินตนาการ
บลียังไม่มีมนต์ขลังพอแบกหนังได้ ลองคิดดูว่าถ้ากับตันมาเวลบลี เป็น กัล กาด็อท ผมว่าดีกว่านี้แน่
ผมคือ1คนที่ การใช้ชีวิตเริ่มเปลี่ยน และไม่ค่อยมีเวลาดู mcu ครบทุกเรื่องเหมือนเฟส แรกๆเเล้ว
วิเคราะห์ดีครับ
มันลิเกเกินไม่ว่าจะเป็นขุดหรืออื่นๆรวมกัน ถ้าเป็นx menคงโดนวิจารย์ยับเรื่องชุดมันแฟนตาซีเกิน
สำหรับเรานะ MCU ช่วงหลังๆมามันดูยัดๆอ่ะ เราแค่ไม่ชอบดูอะไรที่มันยัดเยียดอ่ะ แต่ก็ดูนะเพราะเป็นติ่งหมอแปลก แล้วก็รอ จักวาล X-Menกับ F4 เพราะติ่งสองกลุ่มนี้ด้วย อ่อๆแล้วก็เฮียชางด้วย เพราะพลังผัวจากเฮียหลิวล้วนๆ❤
เรื่องอายุคือจริงมาก เราไม่อินกับมิสมาเวลเลย มันค่อนข้างจะเด็กเกินไป แม้แต่สไปเดอร์แมนเราก็ยังไม่อิน และรำคาญด้วยซ้ำ แบบความเด็กที่ยังคิดอะไรไม่รอบคอบ ขยันสร้างเรื่อง แต่ดันชอบเรื่องที่เน้นความสัมพันธ์แบบเอเธอร์นอลหรือการ์เดี้ยน3แทน รส.ตัวเองดูเปนป้าแก่ๆเลยแฮะ
อธิบายง่ายๆพอได้ใหมครับ ไม่มีโทนี่สตาร์ค หนังก็จบแล้วเก็ตใหมครับ
ผมว่า mcu ก็พยายามจะทำตลาดใหม่กับเด็ก gen ใหม่ เลยสร้าง ยังอเวนเจอร์ แต่ บ้ง คนกลุ่มใหม่ก็ไม่ค่อยมอง อาจเป็นเพราะตามที่พี่กล่าว คือมันรู้สึกไม่ต่อเนื่องขี้เกียจย้อนหาดูทำการบ้าน มุมมองผมถ้าจะแก้ต้องแบบกาเดี้ยน ฉายเดี่ยวเรื่องใครเรื่องมัน เปิดตัวละครใหม่ๆ อาจมีคามิโอบ้าง แต่ไม่ต้องผูกจักรวาล นานๆทีค่อยจัดอีเว้นเอาใจแฟนเดนตาย ก็น่าจะพอแก้ปัญหาได้ ส่วนตัวผมตอนนี้ 35 แล้ว ก่อนหน้านี้ปกติต้องดู day 1 แต่หลังจากจบ end game ผมก็ดูสัปดาห์ 2-3 เลย รู้สึกเปลือง รอราคาตั๋วลง รู้สึกว่ารอได้
เป็นการวิเคราะห์ที่สนุกมากครับ เถียงแทบไม่ออก แทบจะเหมือนแนวเพลงสมัยพ่อแม่เรา
หนังเริ่ม 2008 แล้ว หนัง 30 กว่าเรื่องแล้ว ครับ ตอนนั่นผมอายุ 13 ครับ
คนที่เขาไม่ได้ดูซีรี่ย์เขาไม่รู้ว่าอีก2คนมาไง
วิเคราะห์ได้ดีมากเลยครับมาร์เวลทุกวันนี้สำหรับเด็กยุคใหม่คือสตาร์วอร์ยุคที่เราเริ่มต้นดูแบบไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ
ฮีโร่มันเยอะจนเหมือนรู้สึกโดนยัดเยียดครับ
Iron Man กว่าผมจะได้ดูจริงจังก็ภาค 2 กัปตันอเมริกา ก็มีเวลาเล่าเรื่องของตัวเอง จนผมผูกพัน
ผมคิดว่า เรื่องเดอะมาเวล มันไใมาค่อยเท่าไหร่ สำหรับผมน่ะ ฉากต่อสู้ก็ดูไม่สุดไม่มันเเต่ผมไปตื่นเต้น ฉากเอนเครดิต มากกว่า ผมคิดว่า ถ้าจะให้ปังๆเลย ต้องรอดูเดทพลู 3 เรื่องนี้เเหละ ทำรายไดเสู้เเน่นอน
Marvel มันเป็นจักรวาลอีกอันหนึ่ง แทบจะไม่อ้างอิงจักรวาลที่เราอยู่เลย เหมือนอยู่ในโลกของตัวเอง คนที่เขาดูก็เลยอาจจะไม่อินด้วย อะไร ๆ ก็มาเวล ไม่มีความเป็นจริงในปัจจุบัน้ลย
ผมเสียดายนะครับ ที่หลังๆมา MCU ไม่สามารถทำรายได้มากขึ้นไปได้ และยังติดตาม ด็อคเตอร์สเตรนจ์ ภาคต่อ หวังว่ารายได้คงไม่หดไปมากกว่านี้
เห็นด้วยตามที่คุณวิเคราะห์ +ขอเสริมอีกนิดนึง คือ ตัวละครที่เราผูกพัน เติบโตมาด้วยกัน อย่างเช่น วูล์ฟเวอรีน + x-men, กัปตัน อเมริกา, Iron Man ฯลฯ ไม่ได้มีบทบาทแล้ว รายได้จากหนังที่จะได้จากตัวละครพวกนี้ก็จะหายไปด้วย คิดว่าทางมาร์เวล น่าจะนำตัวละครพวกนี้กลับมาจากแนวคิด multiverse เพื่อมาพยุงค่ายไปก่อน ส่วนเดดพูล, สไปเดอร์แมน ก็ยังพอไปได้ โดยเฉพาะสไปเดอร์แมนมีเกมที่ออกมาดีด้วย กระแสจึงน่าจะดีอยู่ถึงแม้เป็นการร่วมมือกันระหว่างค่าย ส่วนตัวละครใหม่ๆ น่าจะยังต้องใช้เวลาอีกพอสมควรในการปั้น กว่าจะแข็งแรง+ทำเงินเหมือนตัวละครเก่าๆในอดีตที่กล่าวไว้ข้างต้น
ผม จากที่เคยรอการเช้าฉายของหนัง มาเวล และไปดูทุกเรื่องในโรง
พอจบEND GAME ทุกอย่างก็จบลงแค่นั้น
พักหลัง มาเวลทำให้ผิดหวังบ่อย ด้วย ทำไห้หมดแพชชั่นในการดูสัปดาห์แรก บางเรื่องก้อไม่อยากดูเลย เพราะไม่ชอบทั้งภาคแรกหรือซีรียส์ the marvel คือตัวอย่าง
เห็นด้วยเลยครับ เมื่อก่อนยังมีเวลาดูเวลาอ่านคอมมิค ปัจจุบันโตขึ้น อายุมากขึ้นแล้ว ด้วยปัญหาเศรษฐกิจ เวลา เงิน เด็กรุ่นใหม่เขาก้อไปติดตามอย่างอื่นแทน เริ่มหมดยุคของวัยรุ่นอย่างเราๆแล้ว เมื่อก่อนมันดีมากนะ มีความสุขที่สุด 🥲
หมันใส่เรื่องโว๊คคะ
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ แทนที่จะชูตัวเอกที่มีบทบาทมาตั้งแต่ช่วง Endgame หนังดันไปชูผู้กำกับหญิงผิวสีคนแรกที่กำกับหนังให้มาร์เวล ผู้กำกับหญิงผิวดำคนแรกที่ทำรายได้หนังทะลุ 100 ล้านเหรียญ รวมทีมซุปเปอร์ฮีโร่หญิง ฮีโร่หญิงผิวสีอะไรทำนองนี้ การตลาดมันก็เน้นไปแนวนี้เกินไปหน่อย คนไม่ชอบก็คือไม่ชอบแหละ โดยเฉพาะต่างประเทศเค้ายิ่งเหยียดกันแรง
ช่วยนิยามคำว่า #เกินไปหน่อย หน่อยได้ไหมครับ กลัวอ่านแล้วเข้าใจผิด
@@TLG_Dream อันนี้ที่เห็นส่วนมากนะคะ อย่างใน IG ของทาง Marvel ก็โปรโมทหนังเรื่อง The Marvels ในแนวทางเช่นว่า หนังโดย ผู้กำกับสีผิวคนแรกของ MCU , ผู้กำกับหญิงผิวสีคนแรกที่ทำรายได้ทะลุ 100 ล้านเหรียญ , ฮีโร่หญิงผิวสี, หรือแม้แต่ theme sound ของหนังก็ถูกโปรโมทในแนวที่ว่า เป็นผลงานของศิลปินหญิง LGBTQ ส่วนตัวรู้สึกว่าเค้าเน้นย้ำในสิ่งๆนี้มากเกินไปหน่อย แทนที่จะโฟกัสที่ตัวหนังจริงๆ และโดยส่วนตัวไม่ได้มีอคติกับสิ่งๆนี้ แต่ค่อนข้างกังวล เพราะมันกระทบกับตัวหนังได้ สำหรับคนที่เห็นต่างในเพศและสีผิว โดยเฉพาะในต่างประเทศค่ะ
ส่วนตัวมองว่ามันไม่น่าสนใจอะ แค่นั้นเลย ถ้ามันมีฮีโร่ใหม่ที่น่าสนใจก็อาจจะดู แต่ตอนนี้ข้ามดีกว่า ดูเรื่องอื่นคุ้มกว่า
Mcu จบตั้งแต่ เอ็งเกมส์แล้วๆๆ
มันน่าเบื่อครับต้องไล่ดูทุกเรื่อง ตอนนี้ไปเป็นติ่งthe boysละ สะใจเรียลดี
ขนาดหนังที่ชอบมากๆ
ไทบ้าน สัปเหรอ
หนังเสด็จพ่อ โนแลน คืออยากไปดูแต่ไม่มีเวลาเลย
หลายคนที่รู้จักบอกว่า เดี่ยวมันก็เข้า ดีสนี พลัส รอนอนดูที่บ้านก็ได้ / และส่วนที่ผมคิดว่ามันทำให้การดูต้องใช้เวลามากเพื่อย้อนกลับไปศึกษาเรื่องราวตัวละครต่างๆ เพราะ เค้าเชื่อมจักรวาลลทั้งหมดไว้ด้วยกันนั่นแหละ มันมีข้อดีสำหรับคนติดตาม แต่มันก็เกิดข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ได้ตามทุกเรื่อง
ทำรายได้น้อยเพราะอ้างอิงซีรี่มากไป แฟนหนังเยอะไม่ได้ตามซี่รี่ ไม่ได้รู้จัก ผู้หญิงตัวรอง 2 คน มีพลังอะไร ไม่มีความน่าสนใจ ตัวร้ายก็ไม่มีที่มาที่ไป อยู่ๆตายเหมือนงบหมด
ในฐานะคนที่ไม่ใช่แฟนคลับมาเวล ดูแค่บางเรื่อง การที่จะดูมาเวลแต่ละเรื่องคือต้องทำการบ้านจริงๆครับ ต้องตามดูทุกเรื่องทุกซีรี่ย์ถึงจะเข้าใจ
❤❤❤❤❤ชอบนะ หนังสนุกดีไม่ได้แย่ขนาดนั้น ผมไปดูมาสองรอบแล้ว🎉🎉🎉
ปัญหาสำหรับผมและคิดว่าหลายๆคนอาจจะคิดเหมือนผม คือ การจะดูหนังเรื่องใหม่ของ MCU สักเรื่อง มันต้องไปดูจากเรื่องอื่นๆหรือภาคที่เคยฉายไปแล้ว รวมถึงต้องดูซีรี่ย์อีก เพื่อให้รู้ความเป็นมาเป็นไปของตัวละครแต่ละตัว หากไม่ดูมาก่อนเวลาดูหนังเรื่องใหม่ก็จะมีอาการ งง และ สงสัย ประมาณว่า คนนั้นคนนี้เป็นใคร ทำไมถึงมีพลังแบบนี้ ทำไมถึงมีความสำคัญหรือมีความสัมพันธ์อะไรกับคนนี้ ถ้าดูจนจบแล้วยังไม่ได้คำตอบที่สงสัย มันจะทำให้รู้สึกว่าดูแล้วไม่สนุกไม่รู้เรื่อง ทุกวันนี้เลยรู้สึกว่า ดูแล้วให้มันรู้เรื่องให้มันจบในตัวไม่ต้องไปดูอย่างอื่นมาก่อนได้หรือเปล่า ทำไมต้องเสียเวลาไปดูอย่างอื่นก่อนเพื่อที่จะดูหนังใหม่สักเรื่องนึง
ผมเลิกตามตั้งแต่ END GAME กับ กาเดี้ยน3 แล้วครับ
จากหนังระดับ พันล้าน
มันน่าเบื่อแล้วมันสุดๆแล้วรวมดาวฮีโร่เอาชนะตอนเอ็นเกม
ตัวละคร topๆ ไม่มีหนังเดียว กระแสเลยไม่มี
ก่อนหน้านี้ ผมเฝ้ารอดูทุกเรื่องที่จะออกเลย ไม่เคยพลาย พอจบ end game ซีรีย์ออกเยอะ แล้วผมไม่ได้ได้ดูเลย เลยกลายเป็นไม่อินไปเลย จนตอนนี้ จากแฟนคลับอันดับ1 กลายเป็นเฉยๆ
สัญญาณบ่งชี้ว่าอนาคตโรงหนังจะล่มสลาย เพราะช่องทางเลือกใหม่มีมากขึ้น และในประเทศไทยมีการเบื่อพฤติกรรมการบูลลี่คนรุ่นเก่าในโรงภาพยนตร์ คนรุ่นเก่าเลยไม่อยากดูในโรงภาพยนตร์
ไม่เกี่ยวครับ หนังจะดีต้องดูที่บทด้วย ไม่ใช่แค่CG และอีกอย่างหนังโรงยังไงก็ขายได้ ขนาดหนังไทยรายได้ถล่มทลาย เช่น สัปเหร่อ ธี่หยด เป็นต้น
คิดเยอะไป ดูหนังไทยสิ ตัวอย่างเลย รายได้ปาไป 800ล้านแล้ว
Onepiece พิสูจน์แล้วว่า ยืน 1 ตลอด 25 ปี ทั่วโลก
สัจธรรมมีขึ้นมีลงหนังแนวฮีโร่เกลื่อนไปหมดมันไม่สดแปลงใหม่แล้ว😂
มันดันมีซีรี่อนิเมชั่นฮีโร่ที่น่าสนใจกว่าอย่างThe boy ที่มีเนื้อหาแหวกแนว กับ Invincible ที่เนื้อหาจริงจังซีเรียสผมว่าน่าสนใจกว่า MCU ตอนนี้เยอะ คนชอบบอกว่าคนเอา endgame เป็นมาตรฐานทำให้ดู MCU ไม่สนุกมันไม่จริงเลยหนังมันไม่สนุกเองแล้วอ่างนู้นอ่างนี้ ดูอย่างกาเดี่ยนคนชอบเพราะมันดีไง
ตัว The Boy มันทำมาล้อขนบของการเป็นฮีโร่อยู่แล้วครับ ตัว MCU มันเป็นแบบนั้นให้ไม่ได้ ต้องหาทางที่แปลกใหม่ต่อไป
ส่วนการ์เดี้ยนภาคล่าสุด ก็รายได้น้อยกว่าที่คิดนะครับ ขนาดคนชอบกันมาก
รอรวมยอดรอบทั้งหมดละกันครับ ว่าเจ๊งหรือไม่เจ๊ง ส่วนตัวคือชอบ ใครไม่อิน ผมคิดว่าผมยังไหวกับหนังซุปเปอร์ฮีโร่ทุกค่าย
ผมพิมพ์ความเห็นไว้เยอะมาก แต่สุดท้ายก็ลบดีกว่า 555 เอาเป็นว่าสุดท้าย มันก็ขึ้นอยู่กับ "ความพอดี" นั้นแหล่ะครับ อย่าไปเทียบตัวละคร ชหรือญ คน สัตว์ สิ่งของ อะไรเลย สุดท้ายถ้ามันอยู่ในจุดที่ใช่ จุดที่พอดี มันจะลงตัวลงล็อคของมันเอง ซึ่งผมไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องง่ายนะ เป็นการบ้านที่ mcu ต้องแก้จริงๆ (หรือจะไม่แก้ก็แล้วแต่)
เอาตรงๆผมไม่ได้มีปัญหาเลยนะ ถ้าจะให้ตัวละครญอย่าง แคปมาเวลเป็นผู้นำทีมอเวนเจอร์คนต่อไป มันดูเหมาะสมด้วยซ้ำ
หนังหรืออนิเมชั่นเรื่องอื่นๆที่ ผู้ญ เป็นตัวแสดงหลักก็ทำได้สนุก คนก็ชอบเยอะแยะ หนังสนุกมันแทบไม่ต้องหาเหตุผลอ่ะ
ปล. ความน่าสนใจของ mcu ตอนนี้ มันไม่ได้อยู่ในระดับที่ต้อง day1 เท่านั้นแล้วอ่ะ หนังบางเรื่องตัวอย่างก็แทบจะเล่าเป็นฉากๆหมดละ end credit ยังดูน่าตื่นเต้นกว่า รอ 2 เดือนเข้าสตรีมมิ่งหรือเถื่อนก็ออกไวมาก (ผมดูในโรงนะ)
เหมือนรวมพลฮีโร่หญิง อะมาเวลเดี๋ยวนี้
เมื่อก่อนก็รวมพลังชายไง แบ่งๆกันบ้าง
สงสัยได้เวลาเริ่มใหม่จริงๆจังๆ หลัง secret war
ตอนนี้ผมเลี่ยงหนังฮีโร่แทบทุกค่ายละครับ เอาง่ายๆ เบื่อพลอตพิทักษ์โลกพิทักษ์โน่นนี่ละ กลับมาดูหนังธรรมดา หนังรางวัล แล้วดูชีวิตสนุกขึ้นเยอะเลย เรื่องสุดท้ายที่ดู GOTG3 เพราะเจมกันส์แค่นั้นเละครับ ปล.ผ่านสตรีมมิ่งด้วยนะเพราะใครจะสปอยก็ปล่อยละ เจอประสบการณ์ไม่ดีในโรงบ่อยจนขี้เกียจเจอละเลยเลือกรอหนังสตรีมมิ่งเอาอย่างเดียว
หลังๆ เหมือนดูเด็ก ม.ต้นเล่นละครหน้าห้องเรียน
โห ต้องเป็นเด็กม.ต้นที่เล่นหน้าห้องได้เก่งมาก
Marvel สมัยลุง Stan Lee ยังอยู่ผมว่า ลุงเค้าคุยกับ ผู้บริหารรู้เรื่อง แบบ เนื้อเรื่องจะเป็นยังไงอย่ามายุ่งกับตรูเว้ย แล้วลุงแกยืนยงมาเยอะ DC ยังนับถือแกเลย หมดลุงหลัง End Game เนื้อเรื่องตกเห็น ๆ ฝั่ง DC ก็เป็น ผู้บริหารลงมาล้วงลูก เจ๊งแหละ (Disney ก็ด้วย) ตอนนั้น Dc ผู้บริหาร แม่มอยากให้ JL ตลกแป๊กๆ แบบ Marvel สมัยรุ่ง ๆ มองไปทาง Batman ยังกะอึไม่ออกมาสามเดือน Superman ก็ปัญหาครอบครัวเยอะ Wonder woman ก็เครียด เล่นมุขคนมองเหยียดๆ ว่าอะไรของเมิง.. จะตลกยังไง ? เมิงอยากตลก ไปตลกกับ suicide squad สิ joker หัวเราะยังกันคนอัพยาตลอดเวลา กว่าจะคิดได้ ก็นานอ่ะ สรุป เจ๊งทุกค่าย ไม่ต้องเลือกเลย ยุคนี้ไปดูคนนั่งเล่นเกมส์ยาวๆจนจบ เนื้อเรื่องลึกกว่าอีก
Stan Lee ไม่ได้เกี่ยวข้องเชิงสร้างสรรค์กับ MCU ตั้งแต่เริ่มแล้วนะครับ
@@TLG_Dream ครับผม ผมไม่เถียงเรื่อง ลุงไม่ทำเนื้อเรื่องครับ แต่ ลุงน่าจะช่วยพูดถึงเรื่องล้วงลูกของผู้บริหารให้ครับผม เช่น.. อยากให้ใครซักคนแสดงให้ได้ หรือ ตัดต่ออะไรเป็นพิเศษลงไปในเรื่อง โดยไม่มีใครไป ค้านอะไรเลย ก็เหมือนตอนนี้แหละ Disney ลงมาสั่งนู่นนี่เอง เละหมด จะ MCU, Starwars หรือ การ์ตูน Disney เองก็เละ ผมต่อให้ออก Frozen เรียงปีเลยครับ 3,4,5,6, ไม่รอด เพราะผมรู้ว่า เนื้อเรื่องมันหมดตั้งแต่ภาค 1 แล้ว มี ภาค 2 ได้นี่ถือว่าเก่งมากแล้ว สั่งภาค 3 ยังไม่ทันทำอะไร การันตี ภาค 4 แล้ว .. โอ๊ะ บ้าแล้ว ใครก็ได้หยุดเค้าทีเหอะ
เพราะยัด Woke ครับ ยุคนี้คือยุคแห่งการคว่ำบาตร มันทำได้ง่ายเหมือนไฟลามทุ่ง ผมว่าเหตุผลต่างๆนาๆ มันเรื่องรอง เรื่องความพึงพอใจนี่แหละเรื่องใหญ่
มันยัดยังไงหรอครับ ช่วยอธิบายหน่อย
เป็นหนังที่ไมคิดจะดูเลย......,
แอคพลังหญิงเกินเขียนบทไม่ได้เรื่องกราฟฟิกไม่ได้
ถูกเลย Avengers: Endgame ผมยังไม่ดูเลย น่าเบื่อต้องไปนั่งดูภาดเก่าๆอีก