growth mindset | 69podcast EP49
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 14 ม.ค. 2022
- ฟังที่ spotify
open.spotify.com/show/0NtVUvE...
หรือที่อื่นๆ keyword ค้นหา "69podcast"
facebook 69podcast
bit.ly/30BjQG1
#podcast
#69podcast
#คอเย็น
#แก๊งคอเย็น
#gssspotted
#bigboungstudio - บันเทิง
อันนี้ผมอยากแชร์วิธีการส่วนตัวของผมสำหรับคนที่อยากลองหรือพัฒนาบางอย่างแล้วรู้สึกว่ามันยากเหลือเกิน วิธีของผมคือลองทำมันเป็น routine ครับ โดยอาจจะเริ่มจากน้อยๆก็ได้ เช่น เมื่อก่อนผมอยากลองอ่านหนังสือ ผมก็เริ่มจากอ่านวันละหน้า(จริงๆนะ5555) แล้วพออ่านวันละหน้าไปถึงจุดๆนึง มันจะเกิด flow และ habit ขึ้น จนบางครั้งหากวันนั้นไม่ได้อ่านหนังสือจะรู้สึกขาดอะไรบางอย่างไป ทำให้เราทำสามารถทำสิ่งๆนั้นต่อได้ต่อเนื่องครับ ส่วนหากจู่ routine นั้นพังลง ลองฮึบให้มันกลับมาอีกสักรอบโดยอาจจะเริ่มน้อยๆเหมือนเดิม ก็จะกลับมา routine เดิมได้ไม่ยากครับ
ขอเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังและอยากพัฒนาในทุกๆเรื่องครับ ^^
อยากให้พูดถึงเรื่องภาษาครับ โดยเฉพาะภาษาของปลาไหลไฟฟ้า ว่าพวกมันสามารถใช้กระแสไฟฟ้าสื่อสารกัรได้ไหม เพราะเคยได้ยินว่าสัตว์จะสื่อสารด้วยวิธีที่ต่างจากมนุษย์
555555+
+1ค่ะ 5555555
ลองเอามือจุ่มลงไปแล้วจับมันดูว่าเราจะได้ยินอะไรบ้าง
ถ้าเรื่องภาษาลองไปฟัง Ep.อาจารย์แดงก็ได้ครับเหมือนเคยพูด
จริงๆแล้วปลาไหลไฟฟ้า เป็น ไฟฟ้า หรือ ปลาไหล
คิดว่าการมี Fix mindset นั้นไม่ใช้การคิดแบบ negative และ Growth mindset นั้นก็ไม่ใช่การคิดแบบ positive เช่นกัน แต่การที่ผมได้ลองฟังมาหลายคน คนเหล่านั้นกำลังพยายามให้ตนไม่มี Fix mindset และบอกว่าการมี Fix mindset มันเป็นสิ่งไม่ดีแต่จริงๆแล้วมันแค่มีข้อดี-เสียต่างกันไป
Fix mindset
ข้อดีคือใช้พลังงานน้อย
ข้อเสียคือการที่ความคิดเราไม่ได้เปลี่ยนแปลงหรือเปลี่ยนน้อยมากจนไม่ส่งผลให้เราสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมหรือมุมมองเราได้
Growth mindset
ข้อดีคือความคิดเราได้มีการเปลี่ยนแปลงที่มากพอที่ส่งผลถึงพฤติกรรมและมุมองของเรา
ข้อเสีย คือเราต้องสูญเสียพลังงานในการเปลี่ยนความคิดอย่างมากเพราะความคิดคนไม่ได้เปลี่ยนง่ายๆ ไหนจะไปนั่งศึกษาเพื่อเปลี่ยนแปลงมัน
ต่อไปก็คงเป็นยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น คงจะเป็นการใส่เสื้อตัวเดิมของพี่บ่วง ทำไมพี่บ่วงถึงใส่เสื้อตัวเดิมตลอดส่วนตัวนั้นผมคิดว่าพี่บ่วงมี Fix mindset ในเรื่องการเปลี่ยนเสื้อผ้า(ไม่ใช่ว่าไม่ดี)แต่ถ้าเรารีบตีตราบอกว่าพี่บ่วงเป็นคนที่มีความคิดแบบลบๆก็คงจะเห็นแก่ตัวเกินไป เพราะพี่บ่วงอาจมีเรื่องที่ตั้งค่าเป็น Growth mindset อยู่แล้วหลายตัวและไม่อยากเสียพลังงานที่มีค่าไปกับสิ่งที่พี่บ่วงไม่สนใจหรือพูดง่ายๆก็เหมือน ลำดับความสำคัญของสิ่งที่บ่วงสนใจและอยากตั้งค่าเป็นแบบ Growth mindset และอันไหนไม่อยาก เช่นลำดับ 1เป็นเรื่องการงาน 2ความมั่งคั่ง 3สนใจเรื่องความสัมพันธ์ แต่พี่บ่วงให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนเสื้อเป็นอันดับสุดท้ายแล้วทำไมพี่บ่วงต้องเอาพลังงานมาให้อันดับสุดท้ายหล่ะทำไมไม่ให้อันดับต้นๆก่อน สิ่งที่พี่บ่วงทำก็แค่ตั้งค่าการเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็น Fix mindset และประหยัดพลังงานให้แต่สิ่งที่สำคัญสำหรับพี่บ่วงแค่นั้นเอง(การยกตัวอย่างและคิเอาเอง เพื่อสมมติเฉยๆเพื่อให้ได้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีครับ)
แต่เราก็ต้อง bring the balance ตามคำทำนายของจักรวาล(star wars)ให้ไม่มี Fix mindset มากไปเพราะมุมมองและพฤติกรรมเราจะไม่เปลี่ยนอะไรไปเลย และผมเชื่อว่าอะไรที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงคือสิ่งที่ตายไปแล้ว และถ้า Growth mindset มากไปก็จะเหนื่อยและรู้สึกอึดอัดได้นั้นเอง แต่การไม่มีความสมดุลอาจเป็นความคิดแบบลบๆก็อาจเป็นได้ จากบทความทั้งหมดนั้นเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวถ้าทำให้ไม่พอใจตรงไหนก็ขออภัยครับ ขอบคุณครับ
27:50 Star
1:54:47 Q&A
1:59:21 อันนี้ปักไว้ เผื่อกูลืม
ในที่สุดก็ตามฟังมาจน EP ล่าสุดจาก EP1 ใช้เวลา เกือบสองเดือน ชอบมากครับ ทำต่อไปนะครับ บางเรื่องถึงแม้จะไม่ได้เห็นด้วยทุกเรื่องแต่ ก็พยามเข้าใจและรับฟังครับ สนุกดีครับ บ่วงกับไนท์
ตอนนี้ผมอยู่ ม.5 ครับ ช่วงนี้ที่โรงเรียนงานและสอบเยอะมาก เอาเวลานอนมารวมยังไม่พอจะทำงานและอ่านทั้งหมดได้เลยครับ (ไม่รวมงานที่ทำไม่เสร็จในคาบหรือการบ้าน) เด็กทุกคนโหมงานกันหนักมาก ล่าสุดเพื่อนผมก็ทำงานหนัก ปั่นงานตอนกลางคืนจนป่วยเข้าโรงพยาบาล ลองปรึกษาครอบครัว เค้าบอกว่าคุยกับรองผู้อำนวยการในโรงเรียนบ้างแล้ว แต่ก็ดูจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย ควรแก้ปัญหาอย่างไรดีครับ เพราะถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ทั้งผมทั้งเพื่อนไม่ไหวกันแน่ ๆ อยากทราบมุมมองพี่ทั้งสองว่าควรแก้ที่อะไร และทำอะไรได้บ้างครับ
1:45:00 ผมจะเอา The power of yet ไปพูดให้นักเรียนที่ห้องฟัง
ขอบคุณมากๆครับ, ในที่สุดก็หาคำตอบให้ตัวเองได้แล้วว่าทำไมตอนผมเด็กๆ ผมถืงเรียนได้ยาก เข้าใจยาก แต่พอโตมาผมกลับเข้าใจมัน และ สอนให้กับนักเรียนได้.
F.C from Lao ครับ
ผมเพิ่งได้ยินคำนี้เป็นครั้งแรกครับ พอจะสรุปตามความเข้าใจของตัวเองว่า พอเราเจอเหตุการใดเป็นครั้งแรกเราก็จะนำมาผ่านกระบวนการคิดของตัวเอง แล้วเราก็จะมีคำตอบของตัวเองอยู่แล้ว ซึ้งถ้าไม่ได้มี growth mindset เราก็จะเชื่อตามคำตอบของเราอยู่แบบนั้น ไม่ว่าจะมีคนมาแย้งในภายหลังเราก็ไม่คิดจะเปลี่ยนคำตอบของตัวเอง แต่ถ้ามี growth mindset เกิดขึ้นเราก็จะนำมันมาผ่านกระบวนการคิดของเราอีกครั้งหนึ่ง แต่คำตอบมันอาจจะเหมือนเดิมหรือเปลี่ยนไปก็ได้ เพราะคำตอบมันก็ขึ้นอยู่ตามค่าประสบการณ์ของแต่ละคน
ตัวอย่างคงเป็น DOTA ที่มีการพูดถึง ทุกคนในทีมอาจจะมี growth mindset กันอยู่แล้ว มีการรับฟังความคิดของคนอื่นและผ่านกระบวนการคิดของตัวเองมาแล้ว เพียงแต่คำตอบของแต่ละคนแค่ไม่ตรงกันเฉยๆ และตอนนั้นข้อแย้งของคนอื่นๆ ก็ยังเป็นข้อเดิม ทำให้คำตอบของแต่ละคนก็ยังเหมือนเดิม(ประมาณว่าตัวแปรเหมือนเดิมผลลัพมันก็ต้องเหมือนเดิม) หรืออาจจะเป็น fixed mindset ทุกคนเลยก็ได้
อย่างที่พี่บ่วงพูด ถึงเขาจะแสดงออกมายังไง แต่เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเขาได้เอาไปผ่านการบวนการคิดของเขาแล้ว หรือแค่รับฟังไว้เฉยๆ ไม่ได้คิดจะเปลี่ยนคำตอบของตัวเองตั้งแต่แรกแล้ว
//ครั้งหน้าอยากฟังเครื่องความสำคัญของตัวเองครับ เพราะเป็นคนที่จะเห็นคนอื่นสำคัญกว่าตัวเองเสมอเลยครับ ไม่ได้โฟกัสชีวิตตัวเอง จนช่วงนี้รู้สึกตัวเองไม่เป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง
พี่ๆอย่าพึ่งหายไปไหนนะ เวลาฟังpodcastช่องพี่ๆแล้วมันเหมือนได้คิดอยู่ตลอดเวลา ไม่ล่องลอยมันไม่ได้อัดไปด้วยความรู้ตลอดช่วง2-3ชั่วโมง ฟังแล้วมันสบายสมองไปเลย ช่องโปรดเลยแหละรอฟังอีพี69อยู่นะ5555555555
ผมว่าเราทุกคนล้วนแต่เติบโตมาด้วย Fix Mindset และมันไม่เกี่ยวกับว่าจะเปิดกว้างหรือปิดกั้น เราทุกคนรับรู้ภาพรวมของ กรอบ ภาพเดียวกัน ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกจะอยู่ด้านในหรือด้านนอก ในเมื่อเรารับรู้ถึงมิติที่แตกต่าง แล้วถอดบทบาทของความผิดและถูกออก เราจะพบว่า กรอบ ยังคงมีอยู่ เราต่างเป็นเผด็จการกันทั้งคู่ เราต่างฝ่ายต่างต้องการก่อกรอบให้หนาขึ้น หรือทำลายมันทิ้งเสมอ เราต่างชุดกระฉากหรือไม่ก็ผลักไสอีกฝ่ายตลอดเวลา กรอบควรจะมีอยู่แบบนั้น มันไม่ควรหนาเกินไป ในทางกลับกันกรอบต้องสมบูรณ์ไม่โหว่แหว่ง เราไม่จำเป็นต้องใช้ Pressing หรือ Tension เพื่อนเปลี่ยนเขาหรือเปลี่ยนเรา Just to be Flow or Follow up นี่แหล่ะคือ Growth Mindset มันเป็นเรื่องยากเย็นที่แสนจะง่ายดาย แต่จะยากหรือง่ายมันก็แค่เราทำได้
กล่าวมามีแต่น้ำและโคตรจะนามธรรม แต่ที่จะสื่อออกไปคือ Growth Mindset คือประตูหรือสะพานที่เชื่อมโยง Fix Mindsets เอาไว้ด้วยกัน ......ว่าแต่นี่ผมกำลังมี Growth Mindset หรือกำลังโดน Fix Mindset มิติใหม่หลอกอยู่นี่สิ 😂
ความงามของภาษา ทรรศนะแห่งชนช่างยากแท้หยั่งถึง
เรื่องเพศสำหรับหนู หนูว่ามันอาจจะ born to be นะคะ แต่เราจะค้นพบ หรือรู้ตัวเองเมื่อไหร่ก็อีกเรื่อง อย่างเช่น ถ้าหนูเป็นเลสเบี้ยนตั้งแต่เกิด แต่พอลองมีความสัมพันธ์ไม่ว่าจะกับเพศไหน ได้รับประสบการณ์ชีวิตไปเรื่อยๆแล้วรู้ว่าสามารถชอบผญในเชิงชู้สาวได้ แต่กลับไม่เคยรู้สึกกับเพศอื่นแบบนั้นเลย ก็เหมือนจะเป็นการค้นพบตัวเองค่ะ เหมือนกับพรสวรรค์หรือความชอบที่(อาจจะ)มีมาตั้งแต่เกิดน่ะค่ะ บางเรื่องที่ชอบก็ชอบ บางเรื่องที่ไม่ชอบก็ไม่ชอบไปเลยแบบไม่มีเหตุผล ก็เหมือนกับผญที่เกิดมาเป็นเลสเบี้ยนจะไม่สามารถชอบเพศอื่นได้เลยนอกจากเพศหญิง คนๆนั้นจะรู้ตัวเมื่อไหร่ก็ว่ากันไป แต่เรื่องนี้หนูก็ไม่แน่ใจเหมือนกันเลยค่ะ มนุษย์มันซับซ้อนจัง
อยากบอกว่าชอบฟังพอดแคสของพี่ๆมากเลยค่ะ ชอบแต่ละหัวข้อ พี่ๆพูดคุยกันสนุกมาก หนูได้ความรู้ได้เปิดโลกขึ้นมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ
โรงเรียนของไทยเราจะเป็นการปลูกฝังค่านิยมเด็กดี 10 ประการให้เด็กครับ ว่าถ้าทำตามนี่คุณก็คือเด็กดี
1. นับถือศาสนา
2. รักษาธรรมเนียมมั่น
3. เชื่อพ่อแม่ครูอาจารย์
4. วาจานั้นต้องสุภาพอ่อนหวาน
5. ยึดมั่นกตัญญู
6. เป็นผู้รู้รักการงาน
7. ต้องศึกษาให้เชียวชาญ ต้องมานะบากบั่นไม่เกียจไม่คร้าน
8. รู้จักออมประหยัด
9. ต้องซื่อสัตย์ตลอดกาล น้ำใจนักกีฬากล้าหาญให้เหมาะกับการสมัยชาติพัฒนา
10. ทำตนให้เป็นประโยชน์ รู้บาปบุญคุณโทษสมบัติชาติต้องรักษา เด็กสมัยชาติพัฒนาจะเป็นเด็กที่พาชาติไทยเจริญ
ตีกรอบให้เด็กตั้งแต่อยู่ในโรงเรียนแล้ว คำถามคือ แล้วถ้าผมเป็นเด็กไม่นับถือศาสนาละ ผมก็ไม่ใช่เด็กดีแล้วหรอ?? ทำเป็นเพลงให้เด็กๆร้องกันทุกๆวัน จนเป็นกรอบมาครอบเด็กไว้ไม่ให้คิดนอกกรอบและทำตาม10ข้อนี่จะเป็นเด็กดีย์!!!
สรุปผมเป็นเด็กไม่ดี !? :()
พูดถึงเรื่องการยกมือถามตอบทำให้ผมนึกถึงผมตอนประธมเลย
ผมเคยเป็นเด็กที่ยกมือตอบ/ถามตลอด สำหรับผมมันทำให้ผมเข้าใจการเรียนมากขึ้นกว่ามากจนกระทั่งช่วงป.ปลาย ผมยกมือถามตามเดิม สิ่งที่เกิดขึ้นคือโดนครูด่ากลับมาว่าถามทำไม ไม่ตั้งใจเรียนเหรอถึงถามหลายครั้ง (ซึ่งผมถามในเรื่องที่ครูไม่สอนเพราะไม่มีในหนังสือ แต่อยู่ใน topic เดียวกัน) มันทำให้ผมเลิกยกมือถามตอบไปเลย ซึ่งทำให้รู้สึกได้เลยว่าการเรียนตัวเองมันได้ประโยชน์น้อยลง แต่มันก็กลัวการถามไปแล้วอะนะเพราะไม่รู้จะถูกด่าอีกตอนไหน
ผมว่า G/F mindset มันคือ Mindset เกี่ยวกับการพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นครับ ถึงจะมีความคิดที่แตกต่างกัน แต่ยังมี mindset ที่อยากจะพัฒนาให้ตัวเองดีขึ้นใน Topic นั้นๆอยู่ก็ถือว่ามี G mindset ครับ ซึ่งคนนึงๆอย่างที่เข้าใจก็คือจะมี G F ในเรื่องที่ต่างกันไป ยกตัวอย่างพ่อผมเขาจะมี G กับทุกเรื่องที่เป็นเกี่ยวกับการวิเคราะห์ คำนวณ เขาเลยหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้อยู่ตลอดเวลา แต่เขาจะมี f ทางด้าน arts เขาเชื่อว่าตัวเองฝึกให้ตายยังไงก็ไม่เก่งศิลปะ หรือ วาดภาพได้ดีขึ้นหรอก แต่ส่วนตัวผมคิดว่าการที่เราฝึกและพัฒนาตัวเอง(อันนี้พูดใน condition คนทั่วไปนะครับ) เราจะสามารถพัฒนาตัวเองได้ครับ ต่อให้ฝึกวาดภาพแล้วสุดท้ายเราไม่ได้เก่งแบบปิกัสโซ่ แต่เราก็ยังพัฒนามาจากวันแรกที่เราเริ่มฝึกแน่นอน(แต่จะพูดให้ครอบคลุมด้วยคงต้องพูดกระบวนการที่เราฝึกตัวเองด้วยว่าฝึกแบบไหนด้วย) ทั้งนี้ทั้งนั้น อันนี้เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวของผมครับ ซึ่งอาจจะจริงหรือไม่จริงก็ได้ หรืออาจจะจริง 50% ก็ได้ครับ
อยากให้พูดถึงเรื่อง introvert กับ Extrovert ค่ะ
ยินดีล่วงหน้าสำหรับ Podcast ตอนที่ 50 ด้วยครับ ปกติจะไม่ค่อยแสดงความคิดเห็นกับคลิปต่างๆสักเท่าไหร่แต่ Podcast ของพวกพี่สองคนช่วยเติมเต็มช่วงเวลาอันว่างเปล่าโหวงเหว๋งโหลงเหลง ไม่ว่าจะอยู่เฉยๆ ขับรถ กินข้าว อาบน้ำ หรือเล่นเกมส์ผมก็จะปิดเสียงเกมส์แล้วฟังพวกพี่ทั้งสองคน(หรือสามคน)แทน ผมไม่ขอละกันว่าต้องการจะฟังเรื่องอะไร ขอแค่ทำต่อไปก็พอครับ เรื่องอะไรก็ฟังได้หมด ฟังแล้วลื่นหูเหมือนน้ำหล่อลื่นรูกิ๋ม
อยากให้พูดถึงเรื่องintrovert กับextrovertครับ
รอครั้งหน้าเลยครับ
การที่มนุษย์ไม่ได้มี Growth Mindset ทุกคน เพราะธรรมชาติสุ่มมาแบบนี้หรือเปล่า เพราะโดยหลักแล้วการพัฒนาของมนุษย์ก็เป็นทั้งสัญชาตญาณและ Growth Mindset
@ENTERTAIN bbibibbbn b bbbbnbbbbobbkibobnbnonno
ผมได้คติประจำพอดแคสนี้เลยครับ
ทำอะไรก็ตามยังไม่สำเร็จ ถึงจะไม่ yet ปีนี้แต่ก็จะไป yet ปีหน้า
ส่วนตัวผมคิดว่าเรื่องเพศพี่บ่วงไม่ใช่ fix mindset นะครับ ผมก็คิดว่าความจริงแล้วทุกคนควรเท่าเทียมกัน (ทุกคนคือคน) ไม่จำเป็นต้องเรียกร้องความเท่าเทียมทางเพศเลย (เพราะเมื่อทุกคนเท่ากัน ทุกอย่างก็จบโดยสมบูรณ์)
ผมเชื่อใน concept ของ equality of opportunity เหมือนพี่บ่วงครับ
พี่บ่วงไปออกวีทูเบอร์ช่องไหนหรอครับ อยากดู
เพิ่งดูep.การพนันจบแปลว่าพี่เพชรเอาทุกอย่างไอจำนองหมดเลยต้องมาขายก๋วยเตี๋ยวใช่ไหมครับ
อยากให้ทำเรื่องการรักตัวเองครับ
เริ่ม 27:50
อยากให้ทำเกี่ยวกับเรื่อง ((คนถนัดมือซ้ายกับคนถนัดมือขวา)) นั้นเกิดจากอะไร มีผลอย่างไร หรือมีทฤษฏีอะไรบ้างไหมที่พูดถึงเรื่องประมาณนี้ครับพี่..
#ผมถนัดซ้ายครับ
ผมอยากให้พี่พูดเรื่องแนวนี้บ่อยๆครับ จริงๆเรื่องพวกนี้มันไม่ใช่เรื่องที่หนักหนาสาระอะไรขนาดนั้นเลย ผมไม่ค่อยเข้าใจคนที่บอกขอเรื่องสบายๆ มันต้องสบายขนาดไหน เรื่องเครียดกับเรื่องสาระไม่เหมือนกันนะ
Epต่อไปอยากฟังเรื่อง don't look up ที่พวกพี่จะพูด
ผมว่าเรื่องความเท่าเทียมเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากคับเราจะสร้างความเท่าเทียมยังไงในเมื่อเราเกิดมาพื้นฐานชีวิตแต่ละคนก็ไม่เท่าเทียมกันอยู่แล้วหรือต่อให้พื้นฐานชีวิตเท่ากันก็ไม่ได้หมายความว่าพื้นฐานสังคมหรือครอบครัวจำนวนกันเข้าใจง่ายๆก็คือเราไม่ได้มีพ่อแม่คนเดียวกันไม่ได้เป็นคนคนเดียวกันมันย่อมมีความแตกต่างในแต่ละตัวบุคคลอยู่แล้วคำถามคือเราจะผลักดันให้มีความเท่าเทียมยังไงส่วนตัวผมคิดว่าการที่จะทำให้ทุกคนเท่าเทียมกันเป็นไปไม่เพราะเรายังไม่มีพื้นฐานวัดเรื่องความเท่าเทียมด้วยซ้ำอะไรคือความเท่าเทียมมากขนาดไหนถึงจะเรียกว่าความเท่าเทียมมากไปก็ไม่ได้น้อยไปก็เลื้อมล้ำผมคิดว่าการทำให้ทุกคนเท่าเทียมเป็นไปไม่ได้ก็จริงแต่ไม่ต้องเท่าเทียมในระดับที่ว่ารวยพันล้านเท่ากันหมดแต่เท่าเทียมในระดับที่ว่ามีปัจจัย 4 ครบมีความสามารถพอที่จะได้รับข้อมูลข่าวสารต่างๆหรืออุปกรณ์อำนวยความสะดวกบางชนิดที่มันควรจะได้รับอาทิเช่นโทรศัพท์รถ/จักรยานต่างๆ ป.ลนี่เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับคิดเห็นยังไงcommentต่อมาคุยกันได้พิมพ์ผิดตรงไหนขอโทษด้วยนะครับ
อยากให้พูดเรื่อง phobia จริงๆนะครับ โคตรน่าสนใจ ส่วนตัวผมเป็น phobia กลัวการสัมผัสหรือจับสัตว์น้ำตอนที่กำลังมีชีวิตทั้งน้ำจืดน้ำเค็ม เช่น ไม่กล้าจับปลา ไม่กล้าจับกุ้ง ตอนที่กำลังมีชีวิตอยู่ เคยลองจับแล้ว ตอนมันดิ้นผมรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว และขยะแขยง แต่ตอนมันตายแล้วผมลองจับแล้วไม่รู้กลัวไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็น phobia ที่แปลกมั้ย
เห็นด้วยค่ะ
ใครที่ปีนี้ยังไม่ YET ปีหน้าก็ยัง YET ได้นะครับ สู้ๆ
ขอยาดจดเล็คเชอร์คลาส + Reflective thought ค่า
- เห็นด้วยเรื่องความอคติในบางเรื่องที่ทำให้เราไม่สามารถสร้าง Growth Mindset แต่นึกถึงเคสที่ต่างกัน แบบทรอม่าอะไรซักอย่างจนเราไม่อยากเปิดรับ หรือเปิดรับแล้วเจอแต่อะไรก็ไม่รู้จนทำให้เราไม่อยากเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ แล้วหรือไม่อยากเสียเวลาใช้ Analysis thinking ต่อสิ่งๆนั้นอีกต่อไปแล้วว่าผลลัพธ์ในอนาคตหลังเปิดรับมามันคืออะไร เชื่อมโยงไปเรื่องอารมณ์ เรื่องความชอบ ในอีกมุมนึง มันน่าจะเป็นเหมือนคล้าย ๆ Safe zone แฮะ คนที่ชอบ แต่ไม่เปิดรับ เพราะชอบอยู่แล้ว ไม่ได้แปลว่าเขาไม่มี Growth Mindset แต่เพียงแค่เขาอาจจะสบายใจมากกว่าในการทำในสิ่งที่ชอบ ใน Safe Zone ของตัวเอง ซึ่งยังคิดไม่ออกว่า เราจะแยกของพวกนี้ออกจากกันได้ยังไงระกว่าง Fixed Mindset กับ Safe Zone หรือมันอาจจะเป็นอย่างเดียวกันไปเลย?
- รู้สึกโดน close mindset อัดหน้าตลอดช่วงเรียนเหมือนกัน เพราะเป็นคนวาดรูปเล่นในห้องตลอด กับวาดรูปมาตลอดเวลาที่เรียนมัธยม ขนาดพ่อแม่ยังไม่สนับสนุนให้เรียนด้านศิลปะ ด่าทุกวัน แต่ก็อยากทำให้เขาเห็น แต่พอมาถึงจุดนี้ก็สงสัยว่า ในขณะเดียวกันที่เขามี Fixed Mindset ในด้านของการที่ "เราทำไม่ได้" เราที่พยายามสู้ด้วยความเชื่อว่า "เราทำได้" ถือว่ามันเป็น Fixed Mindset ด้วยหรือเปล่า และทำให้เห็นว่าจริง ๆ การที่มี Fixed Mindset ก็มีประโยชน์ด้วยหรือเปล่าในด้านการมี determination? มันก็จะไปเชื่อมโยงกับการทำให้ทุกคนเท่าเทียมกันด้วยถ้าเราเชื่อว่าทำได้ และอะไรคือ growth mindset ที่แท้จริง
- จริงมากเรื่องการใช้ Analysis Thinking หลังจากการรับข้อมูลเข้ามา เพราะปกติมันมักจะมีกลุ่มคนที่มีมุมมองที่เปิดกว้างนะ แต่พอรับอะไรมาปั๊บ เฮ้ย แม่งจริง เชื่อทันทีโดยไม่กรองซักอย่าง
- พอพูดเรื่องคนไทย นึกถึงเรื่องแรกตอนลงคลิปอนิเมชั่นอมองอุสแล้วชอบมีมนุษย์คนไทยที่ไหนไม่รู้ชอบมาเม้นถาม "พี่คนไทยป่าวคับ" "พี่คนไทยจริง ๆ หรอคับ" เออสิวะไอ้ชาย ตูพิมพ์ไทยขนาดนี้ค่ะ ไม่ไทยมั้งคะ
- FC พี่กิ๊ฟค่า
- ช่วง 1.30.00 เชรด พี่บ่วงแม่ง ทำนุงง สมองพังไปสามนาที แต่ยังไงใด ๆ มนุษย์ทุกคนยังมีอคติอยู่ โดยสรุปนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมันต้องมีและควรมีมุมมองที่เปิดกว้างในเมื่อมันไม่สามารถเป็นยูโทเปียได้ในตอนนี้
ขอบคุณพื้นที่ที่ให้จดเลคเชอร์ค่า
ส่วนตัวคิดว่า คำว่า Growth Mindset แต่ละคนมีแต่ละมุม เช่น อยากเรียนรู้ในงานที่ทำ หรือ อยากเล่นเกมให้ดีขึ้น ลองอะไรใหม่ๆ แต่สุดท้ายแล้ว ก็ไม่ได้ เป็นคนที่ Growth mindset ในทุกๆ มุมของบุคคล คนนั้นครับ
อยากฟัง ep. ที่หัวข้อ casual ๆ บ้างครับ ที่แบบ เออคุยกันชิวๆ เล่าเรื่อง /ประสบการณ์ / ปั่นสมองเหลว ต้องย้อนไปฟังepก่อนๆเช่นเหนือธรรมชาติ roleplay โลกแตก ครั้งแรก โคตรเติมเต็มเลย เหมือนได้นั่งคุยกับเพื่อนๆในวงเหล้า…. ดังนั้นหัวข้อปลาไหลไฟฟ้าก็ต้องมาแล้วล่ะ!!
อยากฟังเรื่อง เมืองหลวง ที่เอาเมืองหลวงประเทศต่างๆหรือเมืองหลวงแบบแปลกๆมาคุยกันรวมทั้งข้อดีที่สามารถนำมาใช้กับประเทศเราได้ Feat. คุณชัชชาติ ครับ
Ep 69 ทำเรื่อง 69 podcast
ความชอบก็น่าจะแบ่งได้ทั้ง fix และ growth
ถ้าคุณชอบเพลงแนวนี้ พอมีคนแนะนำแนวอื่นที่คุณไม่เคยฟัง คุณก็จะเปิดใจลองดู >> growth
แต่ถ้ามีคนแนะนำ แล้วคุณแบบ ไม่อะ ก็ชอบแนวนี้ จะให้ฟังแนวอื่นทำไม >> fix
พี่ป่วงนี้ สกิลการเกาคำไม่เคยตกจริงๆ
ในประเด็นเรื่องความเท่าเทียม ผมมองว่ามันต้องมีขอบเขตนะ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ถ้ามันสุดโต่งจนเกินไป มักจะพ่วงผลเสียมาด้วยเสมอ ส่วนขอบเขตนั้นจะอยู่ตรงไหน อันนี้แหละที่ผมว่าน่าจะเป็นสิ่งที่สังคมต้องมาคุยกัน
แล้วพี่รู้มั้ยครับว่าใน Minecraft ก็มีอัลปาก้าเหมือนกัน
ตอนไนท์พูดแล้วหันมาคุยกับบ่วง เหมือนนั่งอยุ่ด้วยกันเลย จริงๆ อยุ่คนล่ะที่ใช่ป่ะคับ แล้วทำไงให้ได้ feeling แบบนี้ หรือมีจอแสดงหน้าบ่วงอยุ่ขวามือ
ถ้าพูดเรื่องสังคม มนุษย์ ระบบพวกนี้อยากให้เชิญแขกรับเชิญช่องพูด(Pud)มามากครับ เขามีมุมมองที่น่าสนใจ คิดว่าน่าจะแลกเปลี่ยนกันได้ดี แชแนลนี้มีจัดกจกรรมเรียกร้องสิทธิ สหภาพแรงงานพวกนี้อยู่บ้างครับ น่าจะเป็นโอกาสให้เจอกันได้
ผมอยากให้พวกพี่พูดถึงความเชื่อใจหน่อยอะครับ โดยเฉพาะพี่บ่วงอะครับ เพราะผมได้ยินพี่บ่วงเล่นเกมไหนทุกเกมพี่บ่วงจะพูดว่า “ผมจะไม่เชื่อใจใครอีกแล้ว”
การที่เราขำแห้งนั้นสามารถพัฒนาเป็นขำเปียกได้มั้ยครับ ขอบคุณครับ
EP69 อยากให้พี่ทำหัวข้อเกี่ยวกับ 69 ครับซึ่ง 69 พวกพี่จะตีความยังไงก็แล้วแต่เลยครับ
ครั้งหน้าอยากให้ลองพูดเรื่องคำว่า "เสียเวลา"
ในมุมมองของผมคือไม่ว่าจะทำเรื่องดีหรือแย่แต่ถ้าเราได้ทำไปแล้วมันไม่เรียกเสียเวลา แล้วเสียเวลาคืออะไร
"เสีย" "ศูนย์เสีย" ในอีกความหมาย กล่าวถึงการ"ถูกช่วงชิงบางสิ่งไป" ก็ได้ด้วย
ตัวอย่างเช่น ผมเสียเวลามานั่งอธิบายเม้นที่ไม่ได้ประโยชน์อะไร น่าจะเอาไปทำอย่างอื่น
หรือถ้า พี่บ่วง กับ ลุงไนท์ ดัน เออออ บ้าจี้ เอาหัวข้อหัวนี้ไปทำจริงๆ ผมก็รู้สึกเสียดายเวลาที่จะดู
หรือรู้สึกเสียดายเวลาที่น่าจะเอาไปพูดเรื่องอื่นที่ดีกว่านี้ได้
ตอบคำถามข้างต้น "เสียเวลา" คืออะไร คือ การเสียดายเวลา
และเกณฑ์ที่จะใช้วัดคืออะไร ตอบคือ "ความพึงพอใจ" ส่วนบุคคลว่าใช้สัพยากรที่หาเพิ่มไม่ได้นี้ คุ้มค่าแค่ไหน
@@Winnerpowenite โอ้เปิดมุมมองเลยฮะ
@ENTERTAIN ขอบคุณที่มาแชร์กันฮะ
2:04:03 เขาจะเล่นมุก growth hormone ครับ มันส่งผลต่อความสูง
1:55:26
อยากให้คุณไนท์ คุณบ่วง พูดถึงเรื่องขี้เกียจครับ น่าจะมีเรื่องเล่าเยอะ 555
อยากให้คุยเรื่อง ความเบื่อ อะไรทำให้เราเบื่อได้เเละจะเบื่อเมื่อไหร่เเละอะไรที่เราจะไม่มีวันเบื่อ
อยากให้ทำเรื่องใครถูกใครผิดในww2ครับเเบบว่าถ้าฝั่งสัมพันธมิตรชนะก็เขียนอะไรก็ได้นะครับ
ผมว่าเสียงพี่โล เหมือนคนที่ชื่อตั้ม ในเกมGTA V ของน้าหมู basgammer เลยอะ พอย้อนไปฟังดูละคล้ายมาก
นึกว่ารายการนี้หายไปแล้วซะอีก ลืมเลย
30:47 โมโหแบบ Don't look up
คำถามตอน 2.45.10น. มีความหมายมากครับ ถามมาดีมากๆเลยแถมคำตอบของพี่บ่วงมีความรู้มากครับผมชอบมากๆเลย ว้าวว
นอกเรื่องครับ เสื้อคุณไนท์เท่ดีไม่ทราบว่าซื้อที่ไหนครับ
เชื่อว่าเราจะทำได้ในพื้นฐานของความจริง
ใครรู้บ้างว่าลุงไนท์ใช้หูฟังอะไร
ตอน ป.3 เคยมะ้นหน้ายกมือตอบ แค่ตอบสลับ พาดหัวข่าว กับ ข่าวพาดหัว
ครูแขวะอะไรสักอย่างเพื่อนฮาทั้งห้อง
ผมนี่เป็นปมยาว ไม่กล้าทำอะไรหน้าชั้นเลย โตมาหน้าด้านแล้วครับ โนสน 55
ถ้าจะจัดตั้งลัทธิปลาไหลไฟฟ้าก็คงมีคนอยู่ไม่มากก็น้อยแหละ (และผมคือหนึ่งในนั้น)
👍
ผมมีเป่าหมายคือ งดชักเ_่า 3 เดือน ขอบคุญสำหรับ แรงกรตุ้นนะครับ ปรี่บ่วง 2:48:41 - 2:49:19
ผมที่หูได้ยินข้างเดียว แล้วแพื่อนชอบชวนไปเล่นเกม fps 5555
2:09:00
How to catch a trend early
ผมสงสัยว่าถ้าโลกกลม แสดงว่าถ้าเอาไม้บรรทัดยาวเท่าโลก วางในแนวตรงมันต้องไม่ติดพื้นโลก(ทุกส่วนของไม่บรรทัด)เป็นเหมือนคานโยกเยกใช่มั้ย
มันก็ต้องติดสิครับ มันต้องมีฐานเพื่อวางไว้รึปล่าว
ติดพื้นโลกครับ แต่เป็นคานแบบที่คุณบอก
ถ้าไม้บรรทัดคงสมดุลของมวลทั้งหมดไว้ได้ มันจะตรงครับ แล้วยื่นออกไปในอวกาศ
แต่ถ้าไม่ มันจะถูกทำให้งอและโค้งตามแรงโน้มถ่วง
ติดพื้นหมายถึงติดทุกส่วนเลย ผมอาจใช้คำผิดไป
อยากฟังหัวข้อ "ถ้าเกิดมนุษย์ไม่มีสติปัญญา โลกจะเป็นไปในทิศทางไหน" ไม่ก็เรื่องปลาไหลไฟฟ้าครับ
ชอบ สาวรัสเซีย ON.1
พี่บ่วงชอบชุดนักศึกษาตัวไหนมากที่สุดครับ
อยากให้พูดเรื่องความcomedyครับ ว่าเรื่องที่คนเรารับมุกต่างกัน บางคนว่าไอ้นี่ตลก ไอนี่ไม่ตลก ไอนี่ครินจ์ หรือบางมุกไม่ควรเล่น รวมไปถึงปัจจัยที่ทำให้เกิดความตลกแบบเจาะลึกไปเลยครับ น่าจะเป็นหัวข้อที่แตกประเด็นให้พูดได้เยอะดี
คิดยังไงกับคำว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่คะ
50:25 แปะไว้ดูต่อ
รบกวนเหล่าอรหันต์ชี้เป้าเสื้อของคุณไนท์หน่อยครับ
2:28:10
+1ปลาไหลไฟฟ้า
43:18
ส่วนเรื่องของความเท่าเทียมอะ มันมีระบบการปกครองแบบนั้นละ ที่แบบทุกอย่างเท่ากดันหา้มมากกว่าหรือน้อยกว่ามันคือ"คอมมิวนิสต์" ตอนแรกมันมาเป้นแนวคิดของ คาร์ล มาร์กซ์ โดยที่โอะพอจำได้ว่าเขาวางไว้เป้าหมายแล้วว่า เราจะืำให้ทุกคนเท่าเทียมกัน ความคิดของเขาเน้นในด้านการเท่าเทียม และเท่าเทียมกับเสมอภาคต่ากงันยังไง? เท่าเทียม ในดา้นคำศัพท์มันยังบัดยัดไม่ชัดเจนนะ แต่สำหรับโอะ เท่าเทียมกับเสมอภาคต่ากงัน เท่าเทียมคืทอเรามีสรรพยากรเท่ากันทกุอย่างหมดเลยการศึกษษเท่ากันทุกอย่างหมกห้ามมากเกินห้าม น้อยเกินสังคมนิยมเอาง่ายๆ ฐานะเท่ากัน ก็คือ ความคิดมันดี แต่มันออกไปแนว utopia เพราะตามหลักประวัติศาสตร์แล้วเรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นแล้วก้คอืเรื่องคอมมิวนิสต์ มันเป็นไปไม่ได้เพราะคนที่เป็นdiactorอะ
ที่แบบพอทุกคนเท่เาทียมแล้วมันมีช่องโหว่ที่เราจะเข้าไปดึงอำนาจไว้ควบคุมทุกอย่างไว้ ควบคุมสือ่หรืออะไรแบบนี้ได้หมดช่องโหว่และวิธีโกงมันเยอะกว่า คืออยากจะบอกนะว่าฐานะเอาให้เท่กาันอะมันไม่มีจริงอะ เพราะว่ามันคือธรรมชาติของมนุษย์ เท่าเทียมคือมันเมหือนการกดดไม่ให้มนุาย์พัฒนาต่อซึ่งมันไม่ได้ ควาเมท่าเทียมอะเค้านับกันที่สิ่งที่คนให้ เขาจะให้"เท่ากัน" ส่วนเรื่องของ เสมอภาค คือคนที่ฐานสูงเขาไม่ต้องมีอะรไหนุนคนกลางๆก็หนุนกลางๆส่วนคนที่ไม่มอีะรไเลยก็หนุนเป้นค่าเริ่มต้นให้เขา แบบให้ทุกคนอยู่ระดับเดียวกันแต้่การให้มันต่างกันการให้ไม่ได้ให้เท่ากัน แต่คือผลทีอ่อกมามันเท่ากัน
มันเคยมีการทดลองๆนึงอยู่อะที๋โอะเคยไปฟังมา มันคือการทดลองของประเทศไรสักอย่างนี่แหละที่เขาหใ้เงินทุนเริ่มต้นให้ทุกคนเท่าๆกันเลยแต่ไม่ได้ปิดกั้นให้อยู่สูงกว่าแบบนึดของหรือไรพวกนั้นอะ เขา่แค่ทดบลองว่าแต่บละคนจะใช้เงินนั้นในการพัฒนาไหม คนที่เขาฐานะไม่ค่อยดีอะ เขาใช้โอกาสนี้ในการพัฒนาเสริมสร้างโอกาสและมันช่วยลดปัญหาการว่างงาน ซึ่งัมนได้ผลจากการใ้ชเงินรัฐ
____
โอวเคอันนี้มาเรื่องส่วนตัวนิดหน่อยบ้างแบบคุยเล่นๆอะนะ(?) fixed mindset อะสามารถพัฒนาได้นะ แค่ต้องมีสิ่งที่เรียกว่า"ความพยายาม"มันก็ได้ละ สำหรับตัวโอะเองโอะคิดว่าfixed mindsetของโดอะก็คือเรื่องเดียวหลักๆเลย ศีลธรรมในจิตใจ โอะจะไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องศีลธรรมในใจหรือความรสส่วนตัวโอะสักเท่าไหร่นะ ส่วนเรื่องfixed mindsetอื่นๆอะก็คงมีแต่อย่าเงดียว เวลาเพื่อนชวนดูอนิเมะใหม่ โอะไม่ดูเลย(?)โอะแบบไม่ชินอะถ้ามีอะรไทพให้อยากก็ค่อยเอาละกัน เพราะ"ความ รส." มันยังรสเหมือนแบบ ต้องการให้ความรู้สึกของเราหาเรื่องที่เราสนใจมาอยู่ในเะให้ได้ก่อน เพราะถ้าเราโดนบังคับให้ดูอะเรายิ่งำม่อินและเกลียดใหญ่เลย
ส่วนตัวก็งงนิดหน่อยนะว่า อคติ กับ fixed mindsetนี่ต่ากงันไหมหรือว่ามันอันเดียวกัน (Also ถ้าข้อมูลไหนผิดพลาดก็ขอโทษด้วยนะสามรถพิมพ์มาแก้ได้เลยด้านล่าง อินี่ค่อนข้างนอนน้อยเลยเบลอ(?) )
ที่สำคัญไม่น่าใช่เรื่องข้อมูล หรือมายเช็ตความคิดเห็นหรอก กับการพิมพ์ยาวๆ~
คือ อย่างน้อย ถ้าตรวจคำที่พิมพ์มาหน่อยว่าเวลาอ่านแล้วมันออกมาเป็นอย่างไง
ก็จะช่วยผู้รับสารไม่มากเลย = )
(แต่อย่างน้อยก็ยังอุตส่าห์เว้นบรรทัดให้อ่านง่าย ขอบคุณ)
@@Winnerpowenite อห ลืมเช็คเลยคือ ง่วงมากแล้วพิมพ์สภาพเลยออกมาเป้นแบบนี้ไว้ตอนที่ตื่นจะมาพิมพ์แก้นะ
2:13:00
ที่บอกว่าพี่บ่วงไปออกช่องวีมานี่ไปช่องไหนครับจะได้ไปดู 2:28:25
Davina V.
ประมาณ 2 อาทิตย์ก่อน
01:10:10
อยากให้พวกพี่ถ่ายรายการที่ห้องบริษัท อยากเห็นพี่ไนท์นั่งตักพี่บ่วง
5555555
หมาไฟฟ้า
ค่ตแย่เลยย ตอนพวกพี่ไลฟ์
แม่งยูทูปไม่แจ้ง 😭😭😭
69podcast ep69 หัวข้อเรื่องคือ "แมวบินได้"
mindset ไม่ใช่ทัศนคติ เหรอครับ
ใช่เลยโดนเรื่องภาษาอังกฤษ พอครูถามยกมือตอบ พอผิดครูด่าโง่ หลังจากนั้นหนี้จากภาษอังกฤษตั้งแต่ประถม การเป็นครูแม้งหาคนดียากจริงมาเจอตอนป.ว.ช
เมื่อไรจะมีเรื่องปั่นๆ มาบันทอนสมองอีกครับ เหมือนตอนกล้วย ผมชอบความไร้สาระ เรื่องเครียดๆต้องให้คิดไม่ค่อยชอบ อยากๆด้เรื่องปั่นๆ ละลายสมองไปเลยครับ
D
รอบหน้าอยากให้พูดหัวข้อวันสิ้นโลกที่ทุกคนเอาตัวรอดแต่มีใครก็ไม่รู้บีบแตรเรียกซอมบี้มาฆ่าคนที่รอดชีวิตครับ
หรือคุยหัวข้อ ตัวร้ายในหนังซอมบี้ก็ได้ครับพวกนี้ชอบทำอะไรแปลกๆอยสกรู้ว่าทำไมถึงทำแบบนั้นเช่นบีบแตรเป็นต้น