หนังสือ"The Human Side "ซึ่งนักฟิสิกส์ผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลผู้นี้ ได้กล่าวทิ้งท้ายให้เป็นปริศนาแห่งโลกอนาคตว่า The religion of the future will be a cosmic religion. It should transcend personal God and avoid dogma and theology. Covering both the natural and the spiritual, it should be based on a religious sense arising from the experience of all things natural and spiritual as a meaningful unity. Buddhism answers this description. If there is any religion that could cope with modern scientific needs it would be Buddhism. (Albert Einstein) ...นักวิทยาศาสตร์อย่างไอน์สไตน์วิ่งรวมตัวกับพุทธศาสนาเสียนั่น ขำไรคะ ให้เอาคำแปลให้มั้ย
ความสิ้นสุด แต่ไม่สิ้นสุด หาที่สุด ไม่พบ วิทยาศาสตร์ เพิ่งค้นพบ แต่พระพุทธเจ้า ผู้หยั่งรู้ ลึกถึงจักวาลสองพันกว่าปี เป็นผู้วิเศษ ของโลก ก่อนที่ นักวิทยาศาสตร์จะศึกษา ด้วยเทคโนโลยี่ อัศจรรย์ยิ่ง สมแล้วที่ พระพุทธองค์ ซึ่งเป็นศาสดา แห่งโลก ยิ่งรู้ ยิ่งชื้นใจในพระองค์ท่าน สาธุ สาธุ สาธุ
ตาถาคต ได้แสดงธรรใว้ว่า " ถ้าการอ้อนวอน เป็นสำเร็จ ใครเล่าในโลกนี้จะเสื่อมด้วยเหตุอะไรได้ " นี่คือวิทยาศาสตร์ ของตถาคต พระพุทธเจ้าอีกหนึ่งพระสูตรครับ ที่น่าจะทำให้ทุกคนตาสว่างขึ้นมา เพราะไม่เห็นว่าการอ้อนวอนใดๆจะทำให้มนุษย์ หลีกหนีความเสื่อม เกิด แก่ เจ็บ ตาย ไปได้
พระตถาตค ทานเก่งมากๆ เห็นมาตั้งแต่ 2500 กว่าปีมาแล้ว นาซ่ากำลังค้นหาอยู่เลย
สาธุธรรมครับ
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ทุกเรื่อง
และเป็นอกาลลิโก
รุ้ทุกกาลเวลาไม่สิ้นสุด
เมื่อทำกาลละแล้วขอให้ขอให้ได้เห็นธรรมพระพุทธเจ้าตอดไปสาธุครับ
ทำกาละแล้ว
นี่เป็นคำสอนของพระพุทธจ้าวที่มีมาตั้ง 2500 ปี ที่แล้วน้ะครับ พระพุทธจ้าวของเราเก่งสุดๆ ครับ
สิ่งใดที่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์พระพุทธเจ้าไม่นำมาบอกสอน ทุกอย่างที่สอนล้วนแต่เป็นประโยชน์
ทุกสิ่งอย่างนั้นติดอยู่ในเงื่อนไขของกาลเวลาทั้งสิ้น แม้แต่การเกิดของเอกภพก็ตาม ก่อนมีเอกภพจะอยู่ในสถานะของกาลไม่มีอยู่ก่อน แม้กาลไม่มีอยู่ก็ตกอยู่ในเงื่อนไขของกาลเวลาเช่นกัน (วัฏสงสาร) อีกไม่มนานก็จัเปลียนสถานะของการมีกาลอีกครั้ง การมีกาลนี้เองคือจุดเริ่มของเอกภพ
ผมก็เคยศึกษาคริสต์อยู่หลายปี ทราบมาว่าชาวคริสต์ตั้งแต่โบราณมาจวบจนมาถึงยุคกาลิเลโอ(ไม่กี่ร้อยปีมานี่เอง)ต่างก็เชื่อตามพระคัมภีร์ว่าพระเจ้าสร้างโลกเรา โลกเราเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ดวงดาว ดวงอาทิตย์ต้องหมุนรอบโลกของเราเท่านั้น ถ้าใครสอนต่างจากนี้ถือว่ามีความผิดร้ายแรงก็ถูกจับฆ่า จับเผาทั้งเป็น จำนวนมากมายนับไม่ถ้วน มายุคนี้เป็นยุคฟิสิกส์เฟื่องฟูชาวคริสต์จำนวนไม่น้อยได้ทรยศต่อพระศาดาของตนอย่างน่าอับอาย ได้กระทำสัทธรรมปฏิรูปไปอ้างว่าพระเจ้าสร้างบิกแบง พระศาดาไม่เคยสอนเลย พระศาดาสอนว่าพระเจ้าสร้างโลกเท่านั้น ถ้านักฟิสิกสืค้นพบในอนาคตว่ามีระบบที่ใหญ่ก่วาบิกแบงมากๆอีกละ พวกทรยศต่อพระศาสดาก็จะอ้างอีกแหละว่าพระเจ้าสร้าง ตกลงใครสร้างพระเจ้ากันแน่ เอาให้แน่ๆซิครับ
ใครคิดทฤษฎีบิ๊กแบงครับ ใบ้ให้นะครับ เป็นบาทหลวงคาทอลิก
เมื่อก่อนเชื่อว่าโลกเเบน
อิสลามคือคำตอบทุกๆอย่าง
สาธุ สาธุ สาธุ เจ้าคะ
ขอบพระคุณอย่างยิ่งครับ ที่มีโอกาศได้ฟัง
อาจารย์กล่าวที่กล่าวไว้นั้นถูกแล้ว ท่านได้บอกเรื่องความว่างด้วยนั้นคือวิมุต เป็นความว่างที่ไม่มีเกิด ดับ ตรงนี้น่าสนใจครับ สาธุ
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
สาธุ อนุโมทามิ
สาธุครับ
สาธุค่ะ
เห็นความกว้างใหญ่ของมหาภูตรูปทั้ง 4 ที่ประกอบกันขึ้นมาให้เห็นในแบบรูป และนาม และน้อมเข้ามาใตตนว่าตัวเรานี้มีค่าเทียบไม่ได้เลย มองไม่เห็นแม้เทียบกับฝุ่นผงในอวกาศ เท่านี้ก็ทำให้เบื่อหน่าย คลายกำหนัดได้ ส่วนบุคคลบางคนนอกศาสนาที่ยกคำพูดข้างๆ คูๆ อธิบายเหตุผลแล้วยังไม่รับฟัง ทั้งที่ตนเองก็ไม่รู้จักใจตน นั่งสมาธิยังไม่เป็น พูดไปก็เหนื่อยเปล่า(ในปัจจุบันภพ) คงต้องรอให้เค้าตายแล้วเกิดซ้ำแล้ว ซ้ำเล่าต่อไป ส่วนบุคคลในศาสนานี้ ถ้าน้อมใจตนให้ดี เข้าใจคำว่า "ชี้โทษ" แปลว่าอะไร และคำว่า "เพ่งโทษ" แปลว่าอะไร จะมี "หิรริ" และ "โอตัปปะ" ใจยึดมั่นในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และปฏิบัติตนให้พ้นจากอบายภูมิเป็นอันดับแรก ให้จิตไม่มี พยาบาท และเบียดเบียน อิจฉา และตระหนี่
อาจารย์สอนให้รู้ความจิรงขอบพระคุณ...คับผม
ผมว่าบางคนคิดว่ามีคนสร้างจักรวาลนี้ขึ้น อาศัยการที่คิดไปว่ามนุษย์สร้างเครื่องจักรกลขึ้นมาได้ด้วยมันสมองของตัวเอง ไม่มีทางที่ธรรมชาติจะสร้างขึ้นได้ แต่มองอีกมุมหนึ่ง มนุษย์เองเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติที่ทำให้เราคิดนู่นคิดนี่ขึ้นมาได้ เราประเมินความสามารถธรรมชาติต่ำกว่าเราทั้งๆที่เราก็เป็นตัวธรรมชาติซะเอง อีกอย่างหนึ่งคือ ความสามารถในการออกแบบก็ไม่ได้มีแค่ในมนุษย์ มันมีอยู่ในแมลงและสัตว์อื่นๆด้วย เพียงแต่เรามีมันสมองมากกว่าเราเลยคิดว่าเราคิดได้เป็นอิสระ แต่แท้จริงแล้ว หากสมองซึ่งเป็นธรรมชาติที่ทำให้เราคิดได้พิการไปบางส่วน เราก็อาจจะพูดไม่ได้ เดินไม่ได้ รับรู้ไม่ได้ นั่นก็แปลว่าเราก็ฝืนธรรมชาติไม่ได้อยู่ดี
สรุปแล้วเราเป็นแค่ส่วนหนึ่งของธรรมชาติที่มีกฎของมันอยู่แล้ว และมันก็ไม่ได้กระจอกอย่างที่เราคิด ไม่จำเป็นต้องมีผู้ที่ชาญฉลาดเทียบมนุษย์มาออกแบบ เพราะความสามารถในการออกแบบก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งธรรมชาติเท่านั้น
พระพุทธองค์ตรัสรู้ธรรมชาติ และสอนให้เราออกจากธรรมชาติที่แตกดับ ไปสู่ธรรมชาติที่ไม่แตกดับ โดยอาศัยธรรมชาติที่เป็นร่างกายและธรรมชาติจิตใจเป็นเครื่องเรียนรู้ เป็นเครื่องออก ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีพลังอำนาจยิ่งใหญ่เหนือธรรมชาติใดๆเลย
ใช่เลยครับมนุษย์บางพวกชอบดูถูกธรรมชาติทั้งๆที่ตัวเองก็เกิดมาจากธรรมชาติแแท้ๆอธิบายแบบพุทธได้ดีมากๆครับสาธุ
สาธุ
การฝรั่งสอนว่า กาแล็คซี่ชนกันบ้าง บิงแบงค์บ้าง มันเป็นข้อสันนิฐานทฤษฏีที่หักล้างกันก็มีขึ้นมาเรื่อยๆเป็นข้อมูลที่มนุษย์พยายามค้นคว้า.....
พระพุทธเจ้าเลิศที่สุดในสากลโลก
ผมไม่รู้ เพราะผมไม่สามารถรู้ได้ มันเป็นอจินไตย ผมรู้แต่ว่า สิ่งต่างๆ ในโลก ในจักรวาลล้วนไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่รู้จบ บังคับบัญชาไม่ได้ มันไม่ใช่ของเรา ใจคนเราก็เช่นเดียวกัน ร่างกายก็เช่นกัน สรุปโดยรวมแล้ว ก็คือ ตาย ตาย ตาย ตาย กับตาย แล้วก็ตาย ท่องอย่างเดียวว่า กูเกิดมาเพื่อรอวันตาย มรณังเม ภวิสติ มรณะ กรรมฐาน นี่แหละคือยอดกรรมฐาน ทำให้เราเบื่อหน่าย และละความกำหนัด ยินดี ยินร้ายได้ในที่สุด ก็หมดกิเลส สิ้นอาสวะ ตัณหา และอุปปาทาน แค่นี้ก็จบกิจครับ อนุโมทนา กับผู้ใฝ่ในธรรมทุกท่าน
nucha eiamsuwan สมัยนี้คนบรรลุธรรมเยอะแท้ อย่างน้อยก็ชั้นต้น ส่วนคนที่ไม่เคยสัมผัสก็ไม่เคยเข้าใจ
สาธุคะ คุณได้ดวงตาเห็นธรรมแล้ว
สาธุครับ
ตรงกับที่นักดาราศาสตร์ฟิสิกซ์คำณวนไว้นะครับว่า อีกนาน น๊าาน นานไกล แกแล็กซี่เรา กะแกแล็กซี่หนึ่ง จะมาชนกัน .... จริงๆ จะมองจากมุมไกลคือ มันจะดูรวมๆ กัน ปนๆ กัน ทำนองนั้นน่ะครับ
ปกติแล้วในคำพูดของพระพุทธเจ้ามักจะมีความหมายที่ลึกซึ้ง ที่ท่านพูดออกมา หลายครั้งต้องคิดดีกว่า แปลว่าอะไร ผมว่าจะแปลความหมายตอนนี้มันเร็วไป
อยากเข้าใจจักรวาลในแบบพระพุทธเจ้า...คุณจะต้องฝึกสมาธิ.ให้ถูกส่วนจนถอดจิตได้..อาจเรียกญานคือเครื่องรู้...คือเห็นด้วยใจ..ไม่ใช่ดวงตาน่ะ..พอถอดจิตเป็นก็จะเข้าใจเพิ่มขึ้นมากๆๆครับ. th-cam.com/video/TJaaY0bwEXY/w-d-xo.html
12/5/62. 🙏🙏🙏
ยอดเยี่ยม
เคยสังเกตุเปล่า สัตว์แต่ละชนิด สัตว์สี่เท้า สัตว์เลี้อยคลาน ยุง อื่นๆ มีความแตกต่าง เกิดมาไม่เหมือนกัน เคยคิดไหมว่ามดอาจจะมทีวีดูได้ แต่ทีวีของมดก็คือการสร้างใบไม้มาทำที่นอน มดมีเตียงเหมือนคน คือมุมมุมนึงที่มันสร้าง มดมีพระเอกมีดาราเหมือนเรา จ่าฝูงมด มดมีชื่อเรียกเหมือนเรา เจอกันก็ทัก หยุดแล้วทัก มดมีไปต่างประเทศ ใช้เครื่องบิน ใบไม้ กิ่งไม้ ข้ามโลก คน คือสัตว์ ที่อาจใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยความคิดของตัวเอง มดมองเห็นเราเป็นเมฆ ที่ลอยไปมา เราเห็น หลังคาสูงที่สุดของมด ซึ่งเราเรียกว่าเมฆ รองเท้าที่เราเหยียบ มดมองว่าเป็น ดินทะหล่ม ถ้าเราซื้อรองเท้าใหม่มดอาจบอกหินทะกล่ม รองเท้าสกปรก มดอาจบอก ถังเก็บขยะมันหล่น เราฆ่ามดตาย มดถึงวันตายโดยไม่ได้ลาใคร เราจับมันมาเล่นมันก็นึกว่า พายุฤดูร้อน พัด เราบอกสิ่งที่เราเห็นตั้งชื่อ ตั้งนั้นนี้ เดียวเจอดาวเคราะห์นั้นนี้ เอ้าเจอแล้วตื่นเต้น ก็เห็นตอนนี้ นั่งคุย ดูข่าว ปี2020 ปี 3030 เห็นอะไร ก็มันเห็นตามที่คนเห็น เห็นเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น อันนี้ไม่รู้ แต่แบบ ไม่รู้ซิ
ไม่มีใครสร้างทั้งสิ้นแร้วมนุษย์จะเอาอะไรไปสร้างแร้วมนุษย์คนนั้นเกิดก่อนจัรรรวหรือยังไรเอาส่วนไหนมาคิด สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมาเองตามธรรมชาติของมันอยุ่ยังงั้นแหละ
สุริยา วันศุกร์ ธรรมชาติเกิดขึ้นเองก็จริง แต่อีกส่วน1ก็ต้องมีสิ่งๆๆ1สร้างมาเช่นกัน ถ้าธรรมชาติเกิดขึ้นเองงแล้ว ถ้าวัน1วันใด หรือนานแสนนานเป็นอจินไตย ต้องมีสักวันที่ธรรมชาติจะทำลายตัวมันเอง เรียกว่าดับสุญ กลับไปเป็นความว่างเปล่าแบบธรรมดาๆๆแห่งความมืดมิด ไร้ซึ่งพลังงานใดๆ และไม่มีอากศธาตุ ไม่มีจักรวาล แกแล็กซี่ สิ่งมีชีวิตนอกโลก และในโลก และพระนิพพาน และ3โลก ที่กล่าวมาจะถึงการดับสูญทั้งหมด แม้แต้จิตวิญาณทั้งหมด ในอภิมหาอนันตะจักรวาล จะสูญสิ้นไปทั้งหมด จะ กลับไปสู่สภาวะเดิม ดั่งเดิม นั้นคือจุดเริ่มต้นของมัน ในที่สุดจะไม่ได้อะไรเลย ที่มนุษย์สร้างมา หรือเทวดา พรหม พุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ ทุกสิ่งทุกอย่าง ก็จะถึงกาลอวสาน ก็คือจบ สาธุๆๆๆ
วินาทีที่ 18.11 เพราะเหตใด ท่านจึงเอา ภาพพวกนี้มาอ้างอิง ในบางครั้งกลับสอนว่าอย่าฟังคำที่ไม่ใช่คำสอนแต่บางครั้งไปเอาอะไรมาอ้างอิง สิ่งเหล่านี้ มันเป็นข้อมุลที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเพราะวิทยาศาสตร์ก็คือมนุษย์ธรรมดา ใช้จินตามยปัญญา ใช้การสังเกต...ไม่ใช่รู้ด้วยสมาธิไม่ใช่รู้ด้วยญาณ...ซึ่งมันอาจจะถูกก็ได้ หรือมันอาจจะผิดก็ได้...เราไม่ขัดข้องหากจะเอาข้อมุลเหล่านี้มาศึกษาแต่ที่สงสัยคือ ทำไม บางที ท่านสอนให้อย่าไปฟังโน้นฟังนี้ (ไม่อยากระบุ)
ตีความดีๆครับแล้วจะเข้าใจ ผมอธิบายเพิ่มให้ ที่บอกว่าอย่าไปฟังคำที่ไม่ใช่คำของพระพุทธเจ้านั้นหมายถึง คำแต่งที่ขัดกับพุทธวจนครับ พวกที่สอนให้ไปทางเสื่อม ห่างทางเจริญ เช่น เดรัชฉานวิชา บนบาลศาลกล่าว ทำนายดวงชะตา หรือพวกคำแต่งใหม่เช่น อายุศาสนา 5000 ปี เป็นต้น
0.50 เพิ่งตื่นนอนหรือ ถ้าง่วงก็ไปนอนต่อได้นะไม่ว่ากัน สุดๆเลย
😆😆😆😆😆คนตื่นธรรม
ธรรมะส่วนนี้ผมว่าไม่สันทิฎฐิโกสามารถรู้ได้เฉพาะพระพุทธองค์เท่านั้น ใครจะรู้ ได้เพราะฉะนั้นไร้ประโยชน์ที่จะบอกสอนไม่เปนไปเพื่อความเบื่อหน่ายคลายกำหนัด
ทำไมจะไม่เบื่อหน่าย ลดอัตตาตัวตนได้เยอะนะครับ
+Pot Wah พระเจ้าของคริสเตียนฉลาดสุดๆสิท่า สร้างโลกมนุษย์เรายังไม่ถูกเลย จะสร้างบิกแบงถูกรึ?
Sadhu Sadhu Sadhu..
หากเข้าใจผิด แล้วเอามาถ่ายทอด กรรมจริง ๆ ชมพูทวีป ท่านยังไม่รู่แห่งที่ตั้ง อย่างอื่น อย่ากล่าวเลย เป็นบาป
คล้ายการถ่ายทอดทีวีผ่านดาวเทียมนะ
ท่านคึกฤทธิ์บอกว่าไม่พูดคำอรรถกถา แต่ท่านไม่รู้ว่าที่พูดอยู่นั่นแหละคือคำอรรถกถา พระพุทธเจ้าจะไม่ตรัสคำที่ผู้อื่นรู้ไม่ได้.
+makbua sang พุทธวจน กับ อรรถกถา ที่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกเถรวาทนั้นท่านจำแนกไว้ชัดเจนครับ ท่านพจอ คึกฤทธิ์ นำแต่พระพุทธวจนมาเสนอมากล่าวให้ชาวพุทธได้ศึกษาแล้วนำไปปฏิบัติ พุทธวจนนั้นเข้าใจยากมาก ผมศีกษาโดยอาศัยองค์ความรู้ต่างๆที่ผมมีอยู่มาช่วยทำความกระจ่างพร้อมกับการปฏิบัติภาวนา(สมถะวิปัสสนา)มายาวนานร่วม40ปีได้ ก่วาจะรู้เรื่อง สุดคุ้มครับที่ได้ศึกษาและปฏิบัติ เถรวาทคือของแท้และดีที่สุด
ถ้าอธิบายแล้วลงกันได้มันก็ได้ ท่านโยงไปหาพระสูตรตลอด แต่ถ้าแต่งคำขึ้นใหม่ ใส่ความหมายใหม่ลงไปด้วย มันก็หาการเทียบเคียงยากครับ ในอรรถคาถาจะชอบเป็นแบบนั้น คาถาหลายๆอันที่ชาวพุทธสวดอยู่ ไปดูคำแปล คือขอให้พระอรหันต์และเทวดามาปกปักรักษา คือผิดหลักการเลยว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตน และความแก่เจ็บตายความพลัดพรากเป็นของที่เราต้องประสบพบเจอเป็นธรรมดา แทนที่จะเตรียมใจไว้เนิ่นๆคอยวางความยึดมั่นถือมั่นจะได้ไม่ทุกข์มาก กลับไปร้องขอต่อเทพ และผู้มีฤทธิ์ทั้งหลาย เหมือนการอ้อนวอนต่อพระเจ้าของศาสนาอื่นๆ แต่พุทธเราก็เพี้ยนมาเยอะ ด้วยกาลเวลาและการไม่เอาธรรมะของท่านมาเปิดเผย ว่าท่านสอนอะไรบ้างในหนังสือเล่มใหญ่ๆถึง45เล่ม พึ่งมีท่านคึกฤทธิ์นี่แหล่ะเอามาอ่านให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย พระพุทธองค์ท่านตรัสไว้อย่างไรบ้าง ส่วนใครจะฟังหรือไม่ฟัง เชื่อหรือไม่เชื่อ ก็ตามแต่กำลังของสติปัญญาที่สั่งสมมา
makbua sang เห็นด้วยครับ. เท่าที่ศึกษามา ท่านไม่สอนส่วนที่ไม่ใช่ทางดับทุกข์ไม้ใช่หรือครับ อย่างกรณีย์ใบไม้ในกำมือนั่นไง. อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาร. ท่านก็ห้าม. ท่านรู้ ท่านมี ศิษย์ของท่านก็มีแต่ท่านห้ามเพราะไม่เป็นประโยชน์ต่อมนุษย์หรือต่อมหาชนไม่ใช่หรือครับ ผมศิษย์ท่านพุทธทาสครับ
ถ้าพระเจ้าเป็นผู้สร้างจริงทำไมเยซูเชื่อว่าโลกแบนละทำไมไม่สอนเยซูว่าโลกกลมทำไมพระพุทธเจ้าจึงรู้ว่าโลกกลมรู้ก่อนนักวิทยาศาสตร์เสียอีกแล้วยังรู้เกี่ยวกับระบบจักรวาลอีกแต่ท่านเรียกชื่อดาวและจักรวาลเป็นภาษาบาลีดูตัวอย่างคร่าวๆจากพระอาจารอธิบายได้เลยครับ
วิทยานิพน วิทยานิพน คนโง่..นิ่งเสีย ก็ยังนับว่า..ฉลาด !@#$
+วิทยานิพน วิทยานิพน พระเยซูไม่เคยสอนว่าโลกแบนครับ ฟังเค้ามาใช่ป่ะ ลองไปหาคำพูดของพระเยซูที่พูดว่าโลกแบนมาซิครับ มันไม่มี
+Everyone เอาตามข้อเท็จจริงนะครับ คริสเตียนฝรั่งโบราณเชื่อว่าโลกแบนจริงๆ จนกระทั่งโคลัมบัส แล่นเรือพิสูจน์รอบโลกได้ จึงรู้ว่าโลกกลมมิใช่หรือ หลายสิบปีมาแล้วข่าวมีว่าทวดคริสเตียนอเมริกาที่มีการศึกษาน้อยยังเชื่อโลกแบนอยู่เลย ถ้าใครไม่ยอมรับความจริงจะหาสัจจธรรมที่เที่ยงแท้ไม่พบหรอก ได้แต่สิ่งหลอนๆที่เกิดจากความว่างเปล่า
วิทยานิพน วิทยานิพน เรามีมนุษย์มากี่เเสนปี เราอาจเคยอารยธรรมสูงมาก่อนเเล้วก้ได้
กาลิเลโอ. ต้องตายเพราะพิสูจน์ว่าโลกกลม
กาลนานไกล อาทิตย์ดวงที่12345678ปรากฎ แม่น้ำแห้งเขาสิเนรุลุกเป็นไฟ เขาสิเนรุอยุ่ตรงไหน ไฉนไฟลุก เขาสิเนรุคืออะไร
อุปมา บอกมนุษย์เกือบ2600ปีก่อนให้พอจะเข้าใจ แต่คนยุคนี้กลับมาถามนี่สิ เห้อ.. (ถอนหายใจเฉยๆไม่มีอะไร) เรียนวิทย์เพิ่มบ้างก็ดีนะครับ
@@Worachai. เหมือนรู้นะเหมือนเก่งนะ แต่ไม่ตอบกลับมากวนซะงั้น คนเขาถามก็หวังคำตอบ ผมฟังพุมธวจนปถมธรรม ก็สงสัยตามความเป็นคน แตุที่คุณมาตอบเม้นแน็บแนบแบบนี้ มันกวนกันป่าวๆ เชิญคุณเรียนวิทให้จบด๊อกต่อไป ผมจะสี่สิบแล้ว แค่หาความรู้ตามสงสัยพอ ไม่เรียนหรอกไม่มีประโยชน์ต่อการเลี้ยงชีพ
@@GohPikachuAmp ที่ไม่ตอบเพราะมันไม่ใช่สาระสำคัญครับ สิ่งสำคัญก็คือคุณเข้าใจสิ่งที่พระพุทธเจ้าจะสื่อหรือเปล่า ท่านอุปมาให้เห็นการเกิดดับของจักรวาลและดวงดาว ว่าสุดท้ายแล้วมันก็อยู่ภายใต้กฏไตรลักษณ์ มีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ เปลี่ยนแปลง เสื่อมสลาย แตกดับ เป็นวัฏจักร ถ้าคุณเข้าใจส่วนนี้แสดงว่าคุณเห็นสัจธรรม ก็หวังว่าคุณจะเข้าใจนะครับ แต่ไหนๆแล้วเห็นอยากรู้ก็จะตอบให้ก็ได้
เขาสิเนรุ=ดวงดาว
อยู่ตรงไหน=ล่องลอยอยู่ในอวกาศเป็นกลุ่มเรียกว่ากาแลคซี่(หรือจักรวาลในทางพุทธฯ)
ไฉนไฟลุก=อุณภูมิโดยรอบดวงดาวสูงขึ้นทำให้อุณหภูมิตนเองสูงหรือร้อนขึ้นตามไปด้วย สสารหรือธาตุทางวิทยฯที่ทนไม่ได้ก็จะเผาไหม้ เสื่อมสลาย แตกดับไปในที่สุด จบนะครับ
@@Worachai. สาธุอุตส่าตอบโดยไม่แฝงเจตนาใดๆ..ท่านผู้เจริญ
@@Worachai. เขาสิเนรุ กว้างหนึ่งหมื่นแปดพันโยชน์ สูงหนึ่งหมื่นแปดพันโยชน์ อยู่กึ่งกลางกันทวีปอยู่ คำตอบมันไม่น่าใช่ดาวงดาวหรอกท่านผู้รู้ หนึ่งโยชน์เท่ากับ16กิโลเมตร มันน่าจะเป็นนามรูปมากกว่ามองไม่เห็นด้วยคาเปล่า
ปัจจุบันเป็นที่รู้กันชัดเจนแล้วว่า โมเดลของจักรวาลนี้ไม่จริง เช่นพระจันทร์ไม่มีแสงในตัวเอง ดวงอาทิตย์ก็เป็นแค่ดาวฤกษ์ดวงเล็กๆในกาแล็คซี่ทางช้างเผือก จักรวาลไม่ได้มีขอบเขตจำกัดอยู่แค่พระอาทิตย์ส่องถึง ท่านพุทะทาสท่านพูดตรงกับท่านดาไลลามะว่า พระไตรปิฏกคงต้องตัดทิ้งไปสัก 30% ส่วนที่เหลือจึงเป็นหลักสำคัญของพุทธจริงๆ อย่าลืมว่า พระไตรปิฏกเขียนขึ้นหลังพระพุทธเจ้าสิ้นแล้ว 300 ปี มีอะไรๆใส่เติมไปมาก ไม่มีใครบอกได้ว่า ขาดเกินไปแค่ใหน
ถ้าพระไตรปิฎกไม่ใช่ของจริงคงไม่มีอริยสงฆ์เกิดขึ้นในประเทศไทยมากมายหรอก ยกเรือเส้นสายหลวงปู่มั่นที่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยที่มีมากกว่า 2500 ปีและได้ทำการสังคายนาสืบต่อกันมาถ้าพระไตรปิฎกเป็นของแต่งขึ้นคงไม่มีพระอรหันต์เกิดขึ้นในประเทศไทยพร้อมยกตัวอย่างเช่นสายหลวงปู่มั่นหลวงตามหาบัวหลวงปู่แหวน ผู้คนเคารพกราบไหว้แม้แต่ดับขันธ์ไปแล้วกระดูก็ยังกลายเป็นพระธาตุแสดงให้เห็นแล้วแต่คุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อของเรานี่มันเป็นประสบการณ์เฉพาะตน
@@user-ks1xo6nz5o ถูกต้องครับ
ผมบอกได้ว่าตำราดาราจักรสูตรหายไปทั้งที่เป็นพระสูตรสำคัญคงเหลืออยู่แถบทิเบตแถมยังไม่ครบ ส่วนเรื่องพระไตรปิฎกถูกเขียนหลังจากพระองค์นิพพานอาจารย์ผมก็พูดเหมือนกันครับว่า300ปี และคัมภีร์อีกอย่างทีผมจำชื่อไม่ได้หลังจากพระองค์นิพพานไป1000ปี
@@user-ks1xo6nz5o พระไตรปิฎกบางอย่างหายไปจริงครับ ทำไมหลวงปู่มั่นท่านถึงทิ้งตำรา เท่าที่ผมเคยศึกษามาบ้าง ฌานไม่ได้มีแค่8ขั้น ตำราอภัสราพรหม ตำราดาราจักรสูตรก็หายไปครับ
อาจารย์เสต๊ปซิลหน่อยไหม
หลายคลิปมาก ท่านคงระบบหายใจหายคอไม่คล่องไม่ดี คนก็ไปเอาแต่ธรรมกันจัง แห่กันไป ยกกันไป หาอะไรไปแก้คอ แก้ไอไห้ท่านบ้างดิ
ศาสนาในจักรวาล อาจไม่ได้มีแค่ พุทธ คริสต์ อิสลาม ความจริงก็เช่นกันอาจไม่ใช่ทั้งหมด
เฉพาะแค่ในโลกก็มากกว่านี้แล้วครับ
ลองศึกษาพุทธดูครับ แล้วจะรู้ว่าโชคดี
นายศีล5เมตตาความรัก korat อิสลามไม่มีส่วนคล้ายเลยแม้แต่นิสเดียวครับ
อิสลามเชื่อในพระเจ้าเป็นผุ้สร้างโลกสรรพสิ่งต่างๆทั้งนรกสวรรค์แบะมนุษยชาติครับ
ผิดกับพุทธมากๆเลยในทุกๆเรื่อง
เรื่องนรกสวรรค์ก็ไม่ตรงกันแล้วพุทธบอกได้มั้ยว่าใครเป็นสร้างนรกสวรรค์ครับ
แล้วใครเป็นคนกำหนดความดีและชั่วในการตัดสินเข้านรกสวรรค์ครับ
พุทธเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธหลายองค์แต่ไม่เชื่อว่ามีพระเจ้าแต่ก็เชื่อในนรกสวรรค์
ต่างกัยอิสลามโดยสินเชิงครับ
พุทธไม่สอดคล้องกับวิทยาศาสตร์ในการสร้างโลกสร้างมนุษย์และสัตว์มันขัดแย้งมาก
สิ่งมีขีวิตจะเกิดขึ้นมาได้ต้องเกิดจากสิ่งที่มีชีวิตเท่านั้น
ไม่ใช่เกิดจากธรรมชาติครับ
อิสลามมีอะไรหลายอย่างที่สอดคล้องกับวิทยาศาสตร์มาก
ลองศึกษาดูน่ะครับว่าจริงไหม
@@safeegatmanee162 พุทธสอดคล้องกับวิทยาศาสตร์มากกว่าอิสลามนะครับลองไปศึกษาพุทธให้ดีๆนะครับ พุทธเกิดมาก่อนและกล่าวมาก่อนอิสลามเป็นพันปีด้วย
Dumrongrit seangjun ตรงไหนที่สอดคล้องครับจักรวาลและโลกมนุษย์และสัตว์เกิดมาจากไหนครับ
ไอ้ที่ว่าเกิดก่อนนี่คือมีศาสนามาก่อนว่างั้นเหรอครับอันนี้ไม่น่าจะใช่แล้วครับ
ศาสนาอิสลามมีมาตั้งแต่พระเจ้าสร้างมนุษย์คนแรกครับคืออาดัมครับ
ประเด็นที่พุทธสอดคล้องกับวิทยาศาสตร์นี่ประเด็นไหนบ้างครับขอหลักฐานหน่อยครับ
@@safeegatmanee162 มนุษย์มาจากการวิวัฒนาการที่ยาวนานครับไม่ได้มีใครสร้าง ลองไปฟังกำเนิดมนุษย์ของพุทธดูแล้วจะเข้าใจครับ
🙏🙏🙏16-July-2018 ❤sengkham
ตั้งแต่จับได้ว่าไม่ได้เดิน7ก้าวองคุลีมาลเรื่องเล่า. ทีนี่วิ่งเข้าหาไอสไตลมั่งล่ะ. อ้างว่า พุดดารุ้ก่อนไอสไตลเห็น พุทธเผ่าไทย เเม่งสุดยอดดจริง. เรือง เเต่งเรื่องเนี่ยะ. ชอบอำ.
ไปศึกษาพุทธให้ดีๆก่อนเถอะ ไม่รู้เรืองแล้วบอกแบบนี้มีแต่ควายเท่านั้นที่เป็นเหมือนมึง
ไปศึกษาดีๆครับ เดิน7ก้าวแต่งขึ้นหรือจริงๆ
สอนให้คนเห็นธรรมชาติดีกว่านะธรรมชาติข้างกายสำคันหากไม่อยากเกิดสอนธรรมชาติข้างกายจะไม่มีอากาศหายใจแล้วภัยหนักขึ้นถูกวัน ไม่ใช่เรื่องไกลตัว
สงสัยฮะ ทำไม 'คนพุทธ' ไม่มีใคร เก่ง 'ฟิสิกส์อวกาศ' เลย (เวลาเทศน์ เวลาท่อง เวลาสวด ไมเก่งโคตรๆ ) จับโน่น ประสมนี่ ขนมประสมน้ำยา มั่วเละไปหมด !?, (เอาแต่ Meditation พอจะลงลึก Motivation กลับไม่เอาอ่าว !@#$)
krit romulus เท่าที่ทราบมา นักฟิสิกส์ควอนตัมที่นาซ่าเป็นพุทธเยอะอยู่นะคะ
และเรื่องที่นาซ่าค้นพบว่ามีดาวฤกษ์เกิดใหม่ในกาแล็กซี่ทุกๆปี เฉลี่ยปีละ 1 ดวง
ก็สอดคล้องกับที่พระพุทธเจ้าบอกว่าอีกกาลนานไกลจะมีพระอาทิตย์ 7 ดวงและโลกจะอยู่ไม่ได้
+krit romulus คุณเป็นคนพุทธป่าวครับ ลองศึกษาลึกๆ ครับมีหนังสือรายเล่มที่ระบุ ว่าที่พระพุทธเจ้าพบเป็นหลักวิทยาศาสปัจจุบัน แม้แต่ไอสไตก็ยังศึกษาจนค้นพบสูตรสำคุัญ
+aa xx ใช่ครับ ไอน์สไตล์ ค้นพบสูญตา แต่ไม่รู้วิธีใช้ พระพุทธเจ้าค้นพบสูญตา และพระพุทธองค์ก็รู้จักดี รู้ทุกอย่าง รู้แจ้งแทงตลอด สาธุครับ : อยากให้คุณ Krit romulus ลองศึกษาให้มากๆ คับ จะรู้เลยว่าพุทธเรานี้แหลสุดยอดยิ่งกว่า วิทยาศาสตร์
+Phizitt Chiablaemdee อันนี้ผมเป็นความคิดส่วนตัวน่ะครับ คือคนไทยเนี่ยอาจไม่เก่งในการแปลจากนามธรรมเป็นรูปธรรม เพราะเราศึกษาเพื่อการหลุดพ้นเป็นหลักเลยทำให้วิทยาศาสตร์เราอาจล้าหลัง แต่ถ้าฝรั่งมันนับถือพุทธและศึกษาวิทยาศาสนี้อาจจะก้าวหน้ากว่านี้อีก ในปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ รัสเซีย อเมริกาเริ่มศึกษาพลังจิตกันแล้วครับ
ไอ้นี่คลั่งศาสนาชัดเจน มึงอยากจะบอกว่าศาสนามึงเริศสุดๆเพราะเก่งฟิสิกใช่มั้ย ต่อให้เก่งแค่ไหนมีปัญญาหยุดสงครามสักสิทได้ป่าวว่ะ ทำใมคนอย่างพวกมึงชอบเหยียดศาสนาจังว่ะ ศาสนาพุทธเหยียดศาสนามึงตรงไหน มึงไม่เชื่อไม่มีใครว่ากูก็ไม่ได้สนใจนะ แต่นี่มันแสดงถึงการเหยียดศาสนาชัดเจน แม่งถึงว่าศาสนามึงมีแต่ความวุ่นวาย แต่ปากแม่งเรียกร้องแต่สันติ แต่ไม่ดูเลยว่าเชื้อชาติตัวเองมีสันติรึป่าว
ท่านไม่พูดอรรถถา แต่พูดของนาซ่า
นั่นดิ พวกที่นั่งๆฟังอยู่ ไม่ตะหงิดๆอะไรเลยเหรอ
พุทธวิทยาศาสตร์ เพื่อให้คนในปัจจุบันเข้าใจ ท่านเลย ต้อง refer. นาซ่า
สิ่งที่พระเจ้าตรัสรู้คือวิทยาศาสตร์
ถูกต้องครับ
บอกว่า พระ จันทร์ เปล่ง แสง เหรอ !!! ขำว่ะ !!
แล้วใครล่ะครับที่สร้างจักรวาล สรรพสิ่งที่สวยงาม มีระบบระเบียบ คงไม่ใช่ความบังเอิญนะครับ ความบังเอิญสร้างสรรพสิ่งไม่ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีผู้ออกแบบ แล้วใครล่ะครับออกแบบมา Bible เท่านั้นที่จะบบรยายได้อย่างมีหลักฐานหลักการ
+johnny Rock ทฤษฎีการมีอยู่ของพระจ้าวหรือครับ แค่ขึ้นต้นก็ผิดแล้ว
คุนนั้นแหละที่สร้างตัวตนของตัวเองขึ้นมา ทั้งๆที่เราและเขาไร้ซึ้งตัวตน
johnny Rock
รู้ไหมทำไมพระพุทธเจ้าถึงรู้ว่าโลกกลม เพราะชีวิตของมนุษย์อยู่ในหลูปที่เป็นวงกลม เกิด แก่ เจ็บ ตาย ทุกคนเดินวนอยู่ในสวรรค์กับนรก ธรรมชาติทุกอย่างเป็นวัฏจักรของวงกลมอยู่ ไม่ว่าจะมองสัจจะธรรมอะไรก็วนเวียนแบบวงกลมไปหมด พระพุทธองค์ฉีกกฏการเดิมแบบวงกลม แต่ให้เดินทางตรงเพื่อการดับวัฏจักรแบบนี้ พระพุทธเจ้าจึงเข้าใจสัจจะธรรมและรู้ว่าทุกอย่างเป็นงวงกลม จึงเข้าใจและตอบคำถามได้หมดเป็นกฏตายตัวที่ไม่สามารถหลุดออกมาได้ แต่พระพุทธเจ้าเป็นผู้รู้ความลับว่าทำไงถึงจะได้ออกจากกฏพวกนี้ได้ พระเจ้าที่คุณเชื่อกันยังหาตัวพระพุทธเจ้าไม่เจอเลยว่าพระพุทธเจ้าไปไหน? เพราะพระพุทธเจ้าออกจากกฏที่พระเจ้าสร้างขึ้น จะสวรรค์นรก พระพุทธเจ้าก็ไม่มียู่ใต้กฏอีกแล้ว เอาแค่ง่ายๆ แค่พระเจ้าหาตัวพระพุทธเจ้าไม่พบ ก็เหนือกว่าไปไกลแล้ว อย่าว่าแต่สร้างโลกเลยค่ะว่าใครสร้างมา ถ้าพระเจ้าสร้างมาจริงแต่คุมพระพุทธเจ้าไม่ได้ก็ไม่ได้หมายความว่าพระเจ้าจะเหนือกว่าสิ่งใดน่ะค่ะ ขนาดนักวิทยาศาสตร์สร้างนิวเคลียร์มาก็ยังคลุมนิวเคลียร์ที่สร้างเองไม่ได้เลย มันเป็นไปตามกฏ ถ้านิวเคลียร์ระเบิดนักวิทยาศาสตร์ก็ตาย จะดีกว่าไหมถ้าจะแหกกฏอย่างที่พระพุทธเจ้าแหก ไม่ต้องให้ใครมาพิพากษาว่าต้องอยู่ในสวรรค์หรือนรก ชีวิตเลือกเองค่ะ
@@edinnosstarot99 คุณเคยเห็นหรอว่านิพพานมีจริงมั้ย พิสูจน์ได้มั้ยว่าพระพุทธเจ้าไปนิพพานจริง?
@@user-jo7hm2kw6c นิพพานไม่ใช่สถานที่น่ะค่ะ เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า นิพพานคือการตัดอารมณ์ทั้งหมดได้ค่ะ เช่น แทนที่จะโกรธเค้าก็ไม่โกรธ มนุษย์มีอารมณ์ในกาม!! แต่พระพุทธเจ้าอยู่เหนือในเรื่องกามนั่นคือความไม่มี มีความอยากเป็นตัณหา มีอวิชชาเป็เครื่องกั้น แต่พระพุทธเจ้าหมดสิ่งเหล่านี้ ไม่อยากใคร่ ไม่มีอารมณ์ที่เหนือออกไปจากมนุษย์แล้วอ่ะค่ะ ไม่มีความกลัวด้วย สัตว์โลกย่อมี รัก โลภ โกรธ หลง ตัณหา ราคา ไฟปราถนา ทุกอย่างคือสิ่งที่สัตว์ทุกลำดับชั้นมี แต่ผู้ที่ไม่ทีและหมดสิ้นสิ่งเหล่านี้คือนิพพาน นิพพานไม่ใช่สถานที่ค่ะ แต่เป็นการทำลายอารมณ์เหล่านี้ทำให้ไม่มีเหตุปัจจัยอะไรเกิดเป็นกรรมหรือการกระทำอีก คุณตัดทั้งหมดนี้ได้ก็คือนิพพานค่ะ คุณคิดว่าตัดกันง่ายไหมล่ะค่ะ? เพราะสัจจะธรรมความจริง ธรรมชาติ ทุกคนมีสิ่งพวกนี้ คุณที่อยู่เหนือกิเลสเอาชนะใจตัวเองได้ก็เป็นนิพพาน เรายังทำไม่ได้หรอกค่ะ เพราะลำดับปัญญาของเราอยู่ที่ปุถุชนที่กำลังพยายามจะเข้าใจ เพราะเวลาคนอื่นมาทำให้เราไม่พอใจ เรายังรู้สึกโกรธ ต่อให้พยายามข่มมันก็แค่สงบลง แต่พระพุทธเจ้าไม่จำเป็นต้องโกรธก่อนและค่อยสงบ เพราะท่านไม่มีตั้งแต่ต้นทุกอารมณ์ ใครจะทำอะไรจะนินทราอะไร ท่านไม่มีอารมณ์ที่ก่อกิเลส ต่อสิ่งพวกนี้ นี่คือนิพพานคือการดับทุกชั้นอารมณ์ ไม่ใช่สถานที่ที่ควรไป
พระพุทธเจ้าท่าน ไม่ตอบในส่วนที่ไม่ใช่ทางดับทุกข์ไม่ใช่หรือครับ
และท่านยังห้ามดูหมอด้วย. แล้วพุทธทำนายมีมาได้อย่างไร. แล้วเรื่องใบไม้ในกำมือคือความรู้ที่ท่านนำมาสอน. ใบไม้ในป่าคือความรู้ของท่านแต่ท่านไม่นำมาสอนเพราะไม่มีประโยชน์ต่อนุษย์แล้วท่านก็ไม่ได้ทรงสอนไม่ใช่หรือครับ
คุณน่าจะรับข้อมูลที่ผิดมานะครับ
ใช้อภินิหารไม่ได้ผล โลกมันวิวัฒนาการ. ทีนี้ วิ่งรวมตัว กับวิทยาศาตรไปเรยย กูขำ
หนังสือ"The Human Side "ซึ่งนักฟิสิกส์ผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลผู้นี้ ได้กล่าวทิ้งท้ายให้เป็นปริศนาแห่งโลกอนาคตว่า
The religion of the future will be a cosmic religion. It should transcend personal God and avoid dogma and theology. Covering both the natural and the spiritual, it should be based on a religious sense arising from the experience of all things natural and spiritual as a meaningful unity. Buddhism answers this description. If there is any religion that could cope with modern scientific needs it would be Buddhism. (Albert Einstein)
...นักวิทยาศาสตร์อย่างไอน์สไตน์วิ่งรวมตัวกับพุทธศาสนาเสียนั่น ขำไรคะ ให้เอาคำแปลให้มั้ย
5555
ไอสไตนไม่เคยพูดถึงพุทธเลย .....คนไทยนี่สุดยอดดด เรื่องมโน
+Zom Sk ถุยยย โง่เเล้วสู่รู้อีกก มึงนี่โง่ เเล้วอวดฉลาด ความรู้เเค่หางอึ่ง ทะลึงมาสอนกู
เออๆ อีกอย่าสงกูไม่ใช่ พุทธ เสียใจ
เลิกอวยศาสนาตัวเอง อีจอมปลอมรักษาศีล ๕ มึงให้ได้ก่อนเเล้ว ค่อยมาสอนกู เครน่ะ
ไม่ได้ลบหลู่นะครับ แต่ผมไม่คิดว่าสิ่งเหล่านี้เรื่อง"โลกต่างๆ-ทวีปต่างๆ" ไม่มีหลักฐานทางด้านศาสตร์อื่นๆใดๆสนับสนุนเลย(นอกเหนือจากพุทธศาสนาเอง) จึงทำให้น้ำหนักมันน้อยมากๆ จนกลายเป็น"เป็นไปไม่ได้เลย"ครับ ดังนั้นหากคุณเชื่อเช่นนั้น "ความเชื่อ"ต้องมีหลักฐานตรรกะครับ ไม่ใช่ปิดตาเชื่อ ถ้าไม่งั้นมันก็เท่ากับคำว่า "งมงาย" เลยครับ...
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีทฤษฎีของนักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบลมากมายที่ถูกเปลี่ยนแปลงหรือถูกแย้งอย่างนิวตัน ตอนหลังยังถูกทฤษฎีของไอสไตน์แย้งได้ ผมเชื่อคุณเรื่องbigbang. เพราะมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์. แต่เรื่องพระผู้สร้างพอดีคุณไม่มีหลักฐานไม่มีสมการรองรับไม่มีนักวิทยาศาสตร์คนใหนเคยเห็น มีแต่ธาตุใหม่ที่เค้าเรียก hig bosson ที่พบในการทดลองขนาดยักเซิน (ขอโทษถ้าเขียนผิด) ที่เค้าเชื่อว่าเป็นประจุธาตุที่ทำให้เกินมวลต่างๆมากมายในจักรวาลจนทำให้เกิดเป็นสสารต่างๆ แค่นั้น อนุภาคพระเจ้า เห็นเค้าเรียกกัน ซึ่งก็เป็นธรรมชาติ และจะให้ผมเชื่อยังไงว่า มีพระเจ้าผู้สร้าง ในเมื่อทฤษฎีในตอนนี้หรือหลักฐานใดๆก็ไม่มี หรือคุณก็เชื่อในสิ่งที่ยังพิสูจไม่ได้ "งมงาย".ส่วนคนก่อนหน้านี้เค้าเอาข้อที่พิสูจน์ได้มาถก กับคุณ คุณบอกว่าเค้างมงาย
เอาหละครับ งั้นเราต้องเริ่มต้นกันที่ตรรกะนี้ก่อนเลยครับ ว่าคุณเห็นด้วยหรือไม่ ถ้าไม่-ผมขอหลักฐานหนุนด้วยนะครับ
นี่คือตรรกะเหตุผลที่นักวิทยาศาสตร์,ศาสนศาสตร์,ปรัชญาศาสตร์, และนักวิชาการชั้นนำของโลกคิดค้นขึ้นมาและยอมรับครับ ตรรกะนั้นคือ "การให้เหตุผลแบบนิรนัย" ทำให้เราได้รู้ว่า 1.ทุกๆอย่างที่มีจุดเริ่มต้นมีจุดกำเนิดครับ (คงไม่มีใครเถียงนะครับ) 2.จักรวาลมีจุดเริ่มต้น (จาก Big Bang *อย่าเถียงเลยครับ นี่เป็นทฤษฎีที่ได้การยอมรับจากคนทั่วโลกเลยครับ) 3."ดังนั้น" จักรวาลมีจุดกำเนิดครับ......คำถามคือ"คุณเห็นด้วยหรือไม่-ทำไม"??
+Pot Wah สงสัยไม่ได้อ่านข้อความ ผมบอกว่าเห็นด้วยเรื่อง bigbang งั้นผมขอหลักฐานทางวิชาการด้วยครับของการมีอยู่ของพระผู้สร้าง เพราะคุณอ้างหลักฐานที่มีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาตร์ มีการค้นพบ มีภาพถ่ายหลักฐาน มีสมการยอมรับ. แล้วคุณอ้างว่าทุกอย่างมีจุดกำเนิด มีเริ่มต้น คุณบอกเราเริ่มจากbigbang แล้วจุดกำเนิดพระเจ้าคืออะไร จุดกำเนิดผู้กำเนิดพระเจ้าคือใคร จุดกำเนิดผู้กำเนิด ผู้กำเนิดพระเจ้าคือใคร ถ้าคุณบอกพระเจ้าไม่กำเนิดมีอยู่แล้วแสดงว่าขัดกับหลักของคุณเอง มีเรื่องนึงเป็นเกร็ดเตือนความมั่นใจคุณ เมื่อก่อนคนมากมายเชื่อว่าโลกแบน มีคนนึงบอกว่าโลกกลม โดนด่าโดนวิจารณ์ เพราะในตอนนั้นนักวิทยาศาสตร์สมัยนั้นเชื่อและยอมรับว่าโลกแบน และตอนนี้นักวิทยาศาสตร์ทุกคนยอมรับตรงๆว่าพวกเค้ารู้เรื่องอวกาศแค่เพียง 10% แล้วคุณไปเอาความมั่นใจเรื่องนี้มาจากใหน. เอาละผมมีคำถามถามคุณไปแล้วช่วยเอาหลักฐานมาด้วยครับ
Tananut Puwanasuksuntorn เอาหละ ถ้าคุณยอมรับตรรกะทั้ง3ข้อนี้แล้วผมขอต่อนะครับ ดังนั้นคำถามต่อไปคือ "ใครหรืออะไร ทำให้เกิดBig Bang ขึ้นมาได้"??ครับ... เราเรียกสิ่งนั้นว่า "ผู้สร้างที่: ไม่มีขอบเขตทางด้านเวลา, ไม่ใช่สสาร, ทรงมหิทธิฤทธิ์, เป็นบุคคล, มีสติปัญญามหาศาล, และอยู่เหนือทุกสิ่ง" ที่คริสเตียนเรียกว่า "พระเจ้า" ดังนั้นคำถามที่ตามมาคือ "แล้วพระเจ้ามาจากไหน?" เป็นคำถามที่ไม่สมเหตุสมผลครับ เพราะพระเจ้าไม่มีจุดเริ่มต้น, ไม่มีใครสร้างพระองค์, และพระเจ้าไม่มีจุดเริ่มต้นหรือจุดจบครับ เพราะพระองค์ทรงอยู่เหนือและก่อนกาลเวลาและสสาร ดังนั้น ถ้าพระองค์อยู่เหนือกาลเวลา-พระองค์ก็ไม่สามารถมีจุดกำเนิดได้ (จริงไหมครับ?) 2.จากข้อ1 ถ้าพระเจ้าทรงอยู่ก่อนเวลาและสสาร ดังนั้นพระองค์ก็ไม่ใช่สสารที่เราสามารถมองเห็นได้ด้วยเช่นกัน แต่พระองค์คือพระวิญญาณที่มีพลังอำนาจมหาศาลครับ...ดังนั้นถ้าคุณยังไม่เชื่อว่าพระเจ้ามีจริง "คุณ" ต้องหาตรรกะเหตุผลที่จะมา"ขัดแย้ง"กับหลักปรัชญาของเหล่านักศาสตร์ทั้งหมดนี้ให้ได้ ซึ่งผมยินดีที่จะฟังเช่นกันครับ (ขอหลักฐานนะครับไม่ใช่ความคิดเห็น)
+Pot Wah คุณได้อ่านทฤษฎีเอกภพคู่ขนานหรือยัง กรุณาอ่านด้วยจะได้รู้ว่าบิกแบงเกิดได้อย่างไร นักฟิสิกส์เกือบทั้งหมดไม่ได้เชื่อว่ามีพระเจ้าสร้างบิกแบงเลย นักฟิสิกส์ไม่พบหลักฐานใดๆว่าพระเจ้าสร้างบิกแบง อย่าตู่ข้างๆคูสิครับ
รักษาสุขภาพให้ดีก่อนนะท่าน ตอนพูดมันไม่น่าฟัง
สาธุครับ
สาธุ
ขอขอบพระคุณทั้งคณะของท่านที่เปิดเผยคนที่ทำให้ลับแล้วเป็นบุญใหญหลวงค่าไม่ได้แต่ก็ยังมีศัตตรูที่เสียผลประโยชน์ขอท่านจงระวังอาหารการกินที่กินแล้วเป็นมะร็งตับ
สาธุ