เมื่อวิทยาศาสตร์บอกว่า "โลกหลังความตายไม่มีอยู่จริง!"
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 25 มี.ค. 2022
- สมัครสมาชิกช่องเรา:
/ @grandmastertvpj
FanPage: ► / grandmastertvpj
ร่วมสนับสนุนเรา (Support) ได้ที่นี่!
streamlabs.com/grandmastertv
โดย GrandMaster TV จะนำทุนสนับสนุนส่วนนี้ไปพัฒนาผลงานให้มีคุณภาพยิ่งๆขึ้นไป และจะนำไปอัปเกรดอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการสร้างสรรค์คลิป ขอบคุณสำหรับทุกๆการสนับสนุนนะคะ🙏😊 - วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ผมนับถือศาสนาวิหารแห่งเจได ตายแล้วผมจะไปรวมกับพลังฟอซครับ มาสเตอร์โยดาเคยสอนผมไว้ว่าความกลัวทำให้เสื่อม เจไดต้องไม่มีความกลัว ความกลัวนำไปสู่ความเกลียด ความเกลียดนำไปสู่ความโกรธ ความโกรธนำไปสู่ความเจ็บปวด ขอพลังจงสถิตอยู่กับท่าน
หลอนใช่มั้ย
ส่วนตัวผมนับถือศาสนาครับ แต่ผมคิดว่าศาสนากับวิทยาศาสตร์เป็นคนละเรื่องที่แยกจากกัน อย่างสมบูรณ์ อย่างน้อยก็ในยุคนี้ เพราะแต่ละเรื่องที่ศาสนาหลักของโลกตอนนี้อธิบายไว้ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ (ความเชื่อก่อนยุคนี้ถูกจัดการลบล้างไปเยอะมาก จนเหลือแค่ไม่กี่ศาสนาหลัก เพราะความเชื่อเหล่านั้นถูกหักล้างด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์) ผมมองว่าคำถามว่า นรกสวรรค์ หรือชีวิตหลังความตายมีจริงไหม เป็นคำถามประเภทเดียวกับคำถามที่ว่า ก่อนบิ๊กแบง มีอะไร พ้นขอบจักรวาลไปมีอะไร หรือในหลุมดำมีอะไร (คำถามพวกนี้ดูเหมือนจะพิสูจน์ได้ เพราะเป็นการคิดต่อยอดจากหลักการทางวิทยาศาสตร์แต่จริงๆ แล้วไม่มีนักวิทยาศาสตร์คนไหนพิสูจน์ได้ หรืออ้างตัวว่าพิสูจน์ได้ แล้วไม่ใช่ว่าเพราะเขาไม่พยายามนะครับ)
ใช่ครับ...ทุกสิ่งทุกอย่าง..รูปธรรม..นามธรรม..มนุษย์สร้างขึ้นเองทั้งหมด..เช่น ตัวหนังสือ...จินตนาการให้หลงของความเชื่อ..
ชีวิตหลังความตายมีจริงครับ ถึงจะพิสุจน์ทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้แต่มันมีอยู่จริง เพราะเครื่องมือวิทยาศาตร์นั้นใช้ได้เฉพราะสิ่งที่ตามองเห็นจับต้องได้ อันไหนที่มันละเอียดมากกว่าเครื่องมือนักวิทยาศาสตร์จึงพิสุจน์ ไม่ได้ ธรรมชาติ สร้างโลกทุกสิ่งบนโลกนี้ได้โดยที่ไม่ต้องใช้เครื่องมือใดๆ โดยที่มนุษย์นั้นต้องใช้เครื่องมือ นั่นก็หมายความว่าเราไม่สามารถรู้ความลับได้หมด และ ผมเชื่อว่าธรรมชาตินั้นได้สร้างสิ่งที่เรามองไม่เห็นด้วยตาเป่า กับ ผลกระทบ ทั้งทำดีและการทำชั่ว ด้วยเช่นกัน
@@user-du7pw6mj6t ถูกต้องครับ
@@user-du7pw6mj6t แล้วรู้ได้ไงว่าโลกหลังความตายมีจริง
@@skyaddict2482 ผมไม่รู้จะอธิบายยังไงดี จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่ละคนครับ เพราะสิ่งที่ผมจะบอกนี้เป็นความจริง ก่อนคนจะมาเกิด มีดวงจิตลอยมาเข้าครรภ์มารดา หรือ ผู้หญิงคนไหนท้องจะมีดวงจิตลอยไปที่อยู่อาศัยของคนนั้น ดวงจิต หญิงชายจะไม่เหมือนกันซึงผมเห็นบ่อยครับและถุกทุกครั้งที่ผมเห็นว่าบ้านไหนมีหญิงสาวกำลังจะท้องและบอกได้ว่าเป็นหญิงหรือชายมาเกิด เพราะ ฉะนั้นในเมื่อมีดวงจิตมาเกิด ก็ต้องมีที่มาของดวงจิตนั้น นั่นก็หมายความว่าต้องมีโลกหลังความตายด้วยเช่นกัน ธรรมชาติอาจมีกลไกลบางอย่างที่ยังไม่รู้อีกเยอะที่ผมพูดมาทั้งหมดด้วยความจริงทั้งหมดไม่โกหกหลอกลวงใดๆทั้งสิ้น🙏 ลายละเอียดมีอีกเยอะแต่ผมตัดบอกสั้นๆได้แค่นี้ครับ อย่าคิดว่าเครื่องมือวิทยาศาสตร์นั้นจะพิสุจน์ได้ทุกอย่างมันเป็นเพียงแค่การป้อนข้อมูลใส่เข้าไปในเครื่องมือนั้น ตามผู้สร้างได้แค่นั้น เพราะเครื่องมือไม่มีชีวิตจิตใจไม่มีความคิดความรู้สึกเหมือนคน นักวิทยาศาสตร์สร้างมันมาจากทรัพยากรของธรรมชาติ แม้แต่ร่างกายความคิดความรู้สึกของมนุษย์ที่มันซับซ้อนธรรมชาติยังสร้างขึ้นมาได้และรู้ว่าต้องสร้างยังไง เพราะฉะนั้นอย่าคิดว่าสิ่งทีมองไมเห็นนั้นไม่มีจริงธรรมชาติย่อมสร้างมันขึ้นมาด้วยเช่นกัน ธรรมชาติก็เหมือนสิ่งลี้ลับที่ทุกคนไม่รู้ธรรมชาตินั้นต้องย่อมฉลาดกว่าคนหลายเท่าไม่ยังงั้นคงสร้าง มนุษย์ทุกสิ่งบนโลกนี้ไม่ได้ อย่าคิดว่าวิทยาศาสตร์รู้หมดทุกอย่างในโลกแล้ว เพราะนักวิทยาศาตร์ไม่ใช่ผู้สร้างทุกสิ่งบนโลก
@@user-du7pw6mj6t ยกตัวอย่างง่ายๆ
1.ก่อนที่คุณจะเกิดมาเป็นคน เป้นน้ำเชื้ออสุจิผสมใข่ คุณรุ้สึกอะไรมั้ย คุณเห็นอะไร มีสวรรค์มั้ย คุณเห็นโลกก่อนเกิดมั้ย ผมยังจำอะไรไม่ได้เรย
2. แต่มารุ้สึกตอนเป้นเด็กทารกและตอนโตมาเรื่อยๆ ว่ามีภพที่เราอยู่ อาศัย คือโลก
3.เกิดคู่กับตาย ฉะนั่นความรุ้สึกจะเหมือนกัน คือไม่รุ้สึก ไม่มีนรกสวรรค์ ซึ่งตรงกับนักวิทยาศาสตร์ว่าไม่มีโลกหลังความตาย
4.ถ้ามีชีวิตหลังความตายจริง ก็ต้องมีชีวิตก่อนเกิด เช่นกัน
ตอนเด็กผมอ่านเรื่องเจตภูติ โลกหลังความตาย ประสบการณ์นรก-สวรรค์ ของคนที่เคยตายไปแล้ว
ตอนนั้นคลั่งไคล้เรื่องพวกนี้มาก เชื่อมั่นว่าชีวิตหลังความตายมีอยู่จริง
แต่พออายุมากขึ้นจนแก่ เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง ความคิดก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
ตอนนี้เชื่อว่าคนเราตายแล้วก็ตายเลยครับ จบแค่นี้
เราเป็นแค่สิ่งมีชีวิตเล็กๆในจักรวาลเหมือนสิ่งมีชีวิตอื่นๆนั่นแหละ เกิดมาแล้วก็ดับไป
เพียงแต่เรามีสมอง มีความคิดที่ซับซ้อน เราจึงคิดหาเรื่องราวเพื่อตอบสนองกับความอ้างว้าง ความหวาดกลัวของตัวเอง
ความคิดเหล่านี้ฝังรากลึกมานานนับหมื่นปี จนกลายเป็นวัฒนธรรม แยกจากมันไม่ได้
ต้องบอกก่อนว่าผมไม่ได้แอนตี้แนวความคิดเรื่องหลังความตายเลยนะ ชอบแนวคิดนี้ด้วยซ้ำ
เพราะมันช่วยให้สังคมมนุษย์ดำเนินอยู่ได้อย่างปกติสุข พวกเราถึงมาที่จุดนี้ได้
จนบางทีก็คิดว่า เรื่องพวกนี้ไม่ต้องไปหาความจริงมันหรอก บางเรื่องรู้ไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร
ปล่อยให้มันเป็นไปตามทางของมัน ก็น่าจะเหมาะสมดีอยู่แล้ว
ตายแล้วยังมีจิตวิญญาณอยู่ครับเรายังรู้สึกเป็นตัวเราแต่ไม่รับรู้ความรู้สึกทางกาย ร้อน หนาว เจ็บปวดไม่มี ผมไม่รู้จะอธิบายยังไงดี
@@user-du7pw6mj6t ถ้าเป็นยังงั้นก็ดีสิครับ
ตอนเด็กผมยังคิดเลยว่า ถ้าตายไปแล้วยังเหลือวิญญาณล่องลอยไปมา จะได้ท่องอวกาศไปให้ทั่วเลย กายเนื้อทุกวันนี้ทำอะไรไม่ค่อยได้เท่าไหร่
@@motojaja3440 เมื่อตายแล้วเราจะไม่มีร่างกายเหมือนตอนเป็น มนุษย์ เป็นเพียงแค่ดวงจิต กลมๆ เท่าลูกปิงปอง ที่ผมรู้เพราะผมเห็นดวงจิตตอนเด็กมาเกิดครับเห็นหลายครั้งและผมรู้ด้วยว่าดวงจิตนี้เป็นหญิงหรือชายมาเกิดเพราะสีของดวงจิตกับหญิงชายจะแตกต่างกันและมันก็ถุกทุกครั้งที่ผมเห็น วิทยาศาสตร์ พิสุจน์ไม่ได้จริงๆครับเรื่องนี้เพราะเครื่องมือวิทยาศาสตร์ใช้ได้กับสิ่งของที่จับต้องได้แค่นั้น ในเมื่อมีดวงจิตมาเกิดก็ต้องมีโลกหลังความตายด้วยเช่นกันครัยผมยืนยัน 100% ที่ผมพูดมา ด้วยความสัจจริงครับ🙏
@@user-du7pw6mj6t ครับ ขอบคุณที่แชร์ ปสก ครับ
ลองคิด ดูครับวันพรุ่งนี้มีจริงไหมทุกคนรู้ว่ามีจริง แต่ทุกคนไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรบ้าง เพราะยังไม่ถึงวันพรุ่งนี้นักวิจัยก็ตอบไม่ได้ ความตายมีจริงใหมทุกคนรู้ว่าความตายมีจริงแต่ทุกคนไม่รุ้ตายแล้วไปไหนเพราะยังไม่ถึงวันนั้น เพราะ ฉะนั้นชีวิตหลังความตาย กับ วันพรุ่งนี้คงไม่ต่างกัน อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่ามันไม่อะไร
ผมก็เชื่อว่า นรก หรือ สวรรค์ ไม่มีอยู่จริง บาปกรรม ก็ไม่มีจริง แต่ที่ผมไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน เพราะผมรู้ว่า ความเดือดร้อน เมื่อเกิดขึ้นกับตัวเอง มันเป็นเช่นไร เราทำดีกับคนอื่น เพราะต้องการให้คนอื่นทำดีกับเรา ก็แค่นั้น ไม่ได้ต้องการให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์มาเห็นแต่อย่างใด ผลตอบแทนคือการกระทำขณะที่เรามีชีวิตอยู่เท่านั้นแหละที่ผมต้องการ อยากให้ได้ดีก็ทำดี
โลกหลังความตายมีอยู่จริง วิทยาศาสตร์เป็นแค่สื่งสมสมุติ ทุกสิ่งคือภาพลวงตา มายาทางโลก..การเห็นอดีตระลึกชาติ เห็นแม้แต่อนาคต ..มนุษย์เราถ้าไม่มีเหตุผลทางด้านความเชื่อ ความเชื่อก็จะไม่มีความหมาย..กล่าวคือ ใครอยากได้ของใคร ก็แย่งเอา อยากได้ลูกใครเมียใครก็ฉุดเอาอุ้มเอา ไม่พอใจใครโกรธใครอยากฆ่าก็ฆ่า ตายแล้วก็จบอย่างนั้นหรือ มันก็ไม่กลัวในสิ่งที่ตัวเองก่อขึ้นมาซึ่งเรียกว่ากรรม(ถ้าไม่กลัวกฎหมายที่มนุษย์เองตั้งกฎขึ้นมาเพื่อความอยู่อย่างสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองและของโลก)มันจะวุ่นวายเพียงใด(นรกบนโลกก็คือ*คุก* ก็ยังมีคนที่ไม่กลัวบาปเข้าไปอยู่กันเต็ม) ...ถ้ามนุษย์ไม่มีความกลัวชีวิตหลังความตายเลย โลกอยู่ไม่ได้..นี่ขนาดกลัวๆกัน ยังวุ่นวายขนาดนี้ คนที่ไม่กลัวบาปมันถึงมีข่าวที่เราๆท่านๆได้เห็นได้ยินกันทุกๆวัน ขโมยจี้ชิงวิ่งราว พ่อฆ่าลูก ลูกฆ่าแม่ พี่น้องฆ่ากันเพราะสมบัติ เพื่อนฆ่าเพื่อนเพราะโมโห ต่างเชื้อชาติรบราฆ่ากันเพราะผลประโยชน์ และจะเป็นอยู่อย่างนี้ไปไม่รู้จบจนกว่าโลกจะแตก..(โลกหลังความตายไม่มีอยู่จริง ก็ลองรีบๆตายดูแล้วท่านจะรู้เมื่อวิญญาณออกจากร่าง)///ตรรกะทางวิทยาศาสตร์ตายตัวมาตลอดว่า สิ่งใดที่พิสูจน์ไม่ได้ สิ่งใดที่ไม่เห็นสิ่งนั้นเชื่อถือไม่ได้และไม่มีอยู่จริง(ศาสนาก็ไม่่ต้องมีกันแล้วถ้าคิดแบบนั้น ใหนล่ะพระเยซู ใหนล่ะยะโฮวา ใหนล่ะอัลเลาะฮ์ใหนล่ะเหล่ามหาเทพ ใหนล่ะยมทูต ...เคยกันกันเหรอ )ศีล สมาธิ ปัญญา จงอยู่ในความไม่ประมาท..ลูกหลานเอ้ยยย..(บทความของ ไอน์สไตน์ ยุค2000)
@@jormyuthchor6581 ปัจจุบันวิทยาศาสตร์อาจมุ่งเน้นทางผลประโยชน์ มากกว่าความเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น ถ้าคนเชื่อในสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์พิสุจน์และทำให้ทุกคนนั้นเห็นย่อมเกิดผลประโยชน์กับเขามากขึ้น โดยความเชื่อตามศาสนานั้นพิสุจน์อะไรไม่ได้ แต่ถ้าศาสนาทำให้คนรู้จักคิดรู้จักพอเพียง ไม่มีความโลภ ทำให้คนรู้สึกไม่อยากได้อะไรมากแล้ว ปล่อยวางมีความสุขเท่าที่มี มันจะไปทำให้ไปขัดแย้งผลประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์แน่นอน และ นักวิทยาศาตร์ก็จะดิ้นรนหาวิธีทำให้คนไปสนใจเขามากขึ้น ความเชื่อตามศาสนาก็จะค่อยๆลดลงไปเรื่อยๆและไม่คิดว่าสิ่งลี้ลับสิ่งที่มองไม่เห็นนั้นมีจริง เป็นไปตามแผนนักวิทยาศาสตร์เพื่อผลประโยชน์ของเขาจริงๆ
ในบางคนก็คิดว่าสิ่งที่มองไม่เห็นนั้นไม่มีจริงด้วยเหตุผลอะไร? จากนักวิทยาศาตร์ใช่ใหม หรือ จากประสบการณ์ของตัวเองที่ไม่รู้ไม่เห็นแล้วมาสรุปว่ามันไม่มี ใช่ใหม ลองคิดดูว่าโลกนี้และทุกสิ่งบนโลกนี้เกิดขึ้นมาได้ยังไง นักวิทยาศาตร์เป็นคนสร้างหรอ ก็ไม่ใช่อยู่ดี ร่างกายมนุษย์มีความคิดความรู้สึกเป็นของตัวเอง นักวิทยาศาสตร์ เป็นคนสร้างหรอ ก็ไม่ใช่อยู่ดี แต่ถ้าบอกว่าเกิดจาก อสุจิ มันก็ใช่แต่มันก็เป็นสิ่งที่รู้เห็นได้ ธรรมชาติหรือสิ่งที่เรามองไม่เห็นนั้นเป็นผู้สร้างต่างหากและรู้ด้วยว่าต้องสร้างยังไง ธรรมชาติ ย่อมฉลาดกว่าคน กว่านักวิท หลายเท่าพันเท่าหรือมากกว่านั้น เพราะฉะนั้นก็ต้องสร้างในสิ่งที่คนไม่รู้ไม่เห็นด้วยตาเป่าด้วยเช่นกัน ชีวิตหลังความตายก็ต้องมี ธรรมชาติ ก็เหมือนสิ่งลี้ลับ ที่นักวิทก็ยังหาคำตอบพิสุจน์ไม่ได้เช่นกัน ได้แต่สมมุติ ขนาดดวงอาทิตย์ ยังมีแสงในตัวเองได้ตลอดเวลาโดยไม่มีวันหมด อย่างน่าอัศจรร นักวิทยาศาสตร์ยังสมุติ ว่าเกิดจาก กา๊ซ ชนิดแบบนั้นนี้ แต่ก็ยังทำไม่ได้ และ พิสุจน์หาความจริงไม่ได้อยู่ดี ในเมื่อธรรมชาติในจักวาลนี้สร้างทุกสิ่งขึ้นมาได้ก็ต้องย่อมสร้างในสิ่งที่เรามองไม่เห็นมาด้วยเช่นกัน และให้ผลการกระทำทั้งทำดีและทำชั่ว ส่งผลไปถึงชีวิตหลังความตายด้วยเช่นกัน
@@ManHatyaithailand ถึงจะเป็นพระเจ้าองค์ไหนแต่ทุกๆองค์ก็ย่อมสอนให้ทุกคนเป็นคนดีีทั้งนั้น ถึงจะต่างสีผิว ต่างภาษา แต่ก็เป็นคนเหมือนกันมีแขนขารูปร่างเหมือนกัน มีความรู้สึกนึกคิดเหมือนกัน อยู่ในโลกเดียวกัน มีความหิวเจ็บป่วยเหมือนกัน ดวงอาทิตย์ดวงเดียวกันทำดีทำชั่วก็ได้รับผลกระทบของการกระทำเหมือนกันและตายเหมือนกันเมื่อถึงเวลา
ชีวิตหลังความตาย นรก สวรรค์ ก็คงไม่แตกต่างกัน อยู่ใน นรก เหมือนกันแต่แยกออกสัดส่วนตามกรรม
อยู่บนสวรรค์เหมือนกันแต่แยกเป็นสัดส่วนตามบูญวาสนา คงไม่ต่างจากประเทศที่อยู่บนโลกนี้เลย อยู่โลกเดียวกันแต่อยู่คนละสัดส่วน ถึงจะต่างศาสนาก็ยังมาเกิดอยู่บนโลกเดียวกัน เพราะ ฉะนั้นชีวิตหลังความตายก็คงไม่ต่างกัน
ลองกดเข้าไปดูทีมวิจัยได้ทดลองชีวิตหลังความตาย th-cam.com/video/DgW-z-XyM88/w-d-xo.html
ตายแล้วไปไหน? หนึ่งในคำถามคาใจมนุษย์ทุกคนตั้งแต่โบราณกาลเนิ่นนานมาจนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีคำตอบใดที่ฟันธงลงไปได้เพราะมันอยู่เหนือการพิสูจน์ทราบด้วยหลักวิธีทางวิทยาศาสตร์ แต่ไม่ว่าความจริงจะเป็นอย่างไรเราก็ทำได้เพียงคาดเดาตามภูมิหลังและประสบการณ์ส่วนตัวของแต่ละคนซึ่งผิดถูกอย่างไรก็ต้องละไว้ในฐานของความเชื่อส่วนบุคคลนั่นแหละครับผม และโดยส่วนตัวแล้วผมเชื่อว่าการเวียนว่ายตายเกิดเป็นเรื่องจริงแท้แน่นอน และมีกฏเกณฑ์บางอย่างเป็นกลไกควบคุมอยู่ ส่วนเรื่องปลีกย่อยที่ลึกซึ้งกว่านั้นผมก็รับฟังไว้และไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้เหล่านั้น.... ขอบคุณแอดแพรที่นำเสนอเรื่องราวดีๆ นี้ให้ทุกคนได้เปิดมุมมองกันนะครับผม ❤😇❤
เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ😊
ใช่ครับ....//โลกหลังความตายมีอยู่จริง วิทยาศาสตร์เป็นแค่สื่งสมสมุติ ทุกสิ่งคือภาพลวงตา มายาทางโลก..การเห็นอดีตระลึกชาติ เห็นแม้แต่อนาคต ..มนุษย์เราถ้าไม่มีเหตุผลทางด้านความเชื่อ ความเชื่อก็จะไม่มีความหมาย..กล่าวคือ ใครอยากได้ของใคร ก็แย่งเอา อยากได้ลูกใครเมียใครก็ฉุดเอาอุ้มเอา ไม่พอใจใครโกรธใครอยากฆ่าก็ฆ่า ตายแล้วก็จบอย่างนั้นหรือ มันก็ไม่กลัวในสิ่งที่ตัวเองก่อขึ้นมาซึ่งเรียกว่ากรรม(ถ้าไม่กลัวกฎหมายที่มนุษย์เองตั้งกฎขึ้นมาเพื่อความอยู่อย่างสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองและของโลก)มันจะวุ่นวายเพียงใด(นรกบนโลกก็คือ*คุก* ก็ยังมีคนที่ไม่กลัวบาปเข้าไปอยู่กันเต็ม) ...ถ้ามนุษย์ไม่มีความกลัวชีวิตหลังความตายเลย โลกอยู่ไม่ได้..นี่ขนาดกลัวๆกัน ยังวุ่นวายขนาดนี้ คนที่ไม่กลัวบาปมันถึงมีข่าวที่เราๆท่านๆได้เห็นได้ยินกันทุกๆวัน ขโมยจี้ชิงวิ่งราว พ่อฆ่าลูก ลูกฆ่าแม่ พี่น้องฆ่ากันเพราะสมบัติ เพื่อนฆ่าเพื่อนเพราะโมโห ต่างเชื้อชาติรบราฆ่ากันเพราะผลประโยชน์ และจะเป็นอยู่อย่างนี้ไปไม่รู้จบจนกว่าโลกจะแตก..///ตรรกะทางวิทยาศาสตร์ตายตัวมาตลอดว่า สิ่งใดที่พิสูจน์ไม่ได้ สิ่งใดที่ไม่เห็นสิ่งนั้นเชื่อถือไม่ได้และไม่มีอยู่จริง(ศาสนาก็ไม่่ต้องมีกันแล้วถ้าคิดแบบนั้น ใหนล่ะพระเยซู ใหนล่ะยะโฮวา ใหนล่ะอัลเลาะฮ์ใหนล่ะเหล่ามหาเทพ ใหนล่ะยมทูต ...เคยกันกันเหรอ )ศีล สมาธิ ปัญญา จงอยู่ในความไม่ประมาท..ลูกหลานเอ้ยยย..(บทความของ ไอน์สไตน์ ยุค2000)
ปวดขี้แล้วไปขี้ที่ไหน นั่นเป็นหนึ่งคำถามที่ยังคาใจมนุษย์ถึงทุกวันนี้ ถ้าตอบว่า "ก็ไปขี้ที่ส้วมซิถามได้" มันก็ถุกครับถ้าตอบแบบง่าย แต่ผิด❌ครับ ถ้าเป็นส้วมสาฐาระณะที่มีส้วมเป็น10ห้อง คุณจะรู้มั้ยว่าเขาจะเข้าไปขี้ห้องไหน นักวิทยาศาตร์ก็ยังหาคำตอบและพิสุจน์เรื่องนี้ไม่ได้ไม่มีเครื่องมือชนิดไหนเชื่อมต่อหาคำตอบกับความคิดของคนได้เลย มันแหกกฎวิทยาศาสตร์ได้ นอกจากจะเกิดขึ้นกับตัวเองรู้ของเขาเอง และ เขาเป็นผู้เลือกห้องส้วม นั่นเอง
ทีมวิจัยชีวิตหลังความตาย
th-cam.com/video/DgW-z-XyM88/w-d-xo.html
@@user-du7pw6mj6t จะไปกินข้าวร้านไหนยังลำบาคใจเลยครับบางที
นักวิทยาศาสตร์เชื่อในสิ่งที่พิสูจน์ได้ แต่โลกหลังความตายเป็นสิ่งที่เกินศักยภาพสมองของนักวิทยาศาตร์
เพ้อเจ้อหรือเปล่าครับนักวิทยาศาสตร์มีปัจจัยมีหลักการคิดอย่างมีเหตุผล แต่คุณแค่มาบอกว่าโลกหลังความตายเป็นสิ่งที่เกินศักยภาพของสมอง และของคุณยังพิสูจน์ไม่ได้เลยดูๆแล้วเขาเรียกคิดตื้นๆงมงายและไม่มีหลักการนะครับ
ใช่ฟาย
@@catnip9001 เห็นด้วยมาก
คือบอกวิทพิสจน์อะไรเกี่ยวกับสิ่งเหนือธรรมชาติมันสู้พระเจ้าไม่ได้เเน่นอน
ผมอยากจะบอกนะว่ามีไฟใช้ยังไงมีมือถือเล่นยังไง
ไม่ได้ว่า คุณ cat nip ผม ว่า manasorn
เพ้อเจ้อไปหน่อย เพราะมันไม่มีจริง ไม่ใช่เพราะเกินศักยภาพ แต่มันไม่มีจริง
การอธิบายชีวิตหลังความตายอธิบายได้ง่ายๆเลยที่หลักฐานที่สนับสนุนและหักล้างครับ ซึ่ง
1.ชีวิตหลังความตายไม่มีหลักฐาน แม้จะศึกษาบันทึกที่อธิบายรูปร่างและตำแหน่งที่อยู่ของมันเราจะพบว่ามันไม่อยู่ในจุดที่ระบุไว้และข้อมูลต่างๆของแหล่งขัดแย้งกัน
2.ในการศึกษาปัจจุบันพบว่า สิ่งที่คล้ายวิญญาณ หรือจิตใต้สำนึกของบุคคลนั้นเหมือนกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ สามารถคัดลอก ดัดแปลง แทนที่ ทำลายได้หากเราสามารถเข้าถึงข้อมูลสมองได้ แต่เช่นกันข้อมูลในลักษณะนี้จะถูกทำลายหากสิ่งที่บรรจุมันเสียหายหรือถูกทำลายตามไป และการศึกษาฟิสิกส์ชั้นสูงไม่เหลือช่องทางให้สิ่งที่สำคัญกับโลกหลังความตายอย่าง "วิญญาณ" มีอยู่
3.เมื่อเรามองย้อนกลับไปแนวคิดเรื่องชีวิตหลังความตายเป็น *เครื่องมือ* มากเสียกว่าเป็นความรู้ มันถูกสร้างขึ้นเพื่อให้มนุษย์มุ่งทำในสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยหวาดกลัวหรือไม่กลัวความตาย เช่น วัลฮัลลาของนักรบไวกิ้งที่ถูกสร้างมาเพื่อกระตุ้นไฃให้เขาไปยังในสนามรบ สวรรค์เพื่อกระตุ้นให้คนทำดี(ในแบบผู้ตีความ) นรกเพื่อให้คนกลัวความชั่ว(ในแบบผู้ตีความ) เห็นได้ชัดเลยว่า *ชีวิตหลังความตาย* ถูกใช้เป็นเครื่องมือมากกว่าความรู้ที่ถูก *สร้าง* ขึ้นมาเพื่อ -หลอก- ชี้นำมนุษย์ให้ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ชัดเจน...
@นิน นินๆๆ จา จาๆๆ ตามการให้เหตุผลไม่สามารถสรุปได้ครับ แต่ตามหลักชีวะวิทยาสรุปได้ว่าไข่เกิดก่อนครับซึ่งลำดับเป็นดังนี้ บรรพบุรุษของไก่→ไข่→ไก่รุ่นแรก ซึ่งถ้าไม่นับไข่ไก่ก็ยังมีไข่ของสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิตที่เกิดก่อนไก่ครับ
@นิน นินๆๆ จา จาๆๆ มาเรื่องวิญญาณ ปัจจุบันข้อมูลทั้งหลายบ่งชี้ว่าจิตสำนึก หรือวิญญาณเกิดทีหลังร่างกายครับ แน่นอนเพราะเหมือนกับคุณไม่สามารถเขียนโปรแกรมได้ถ้าไม่มีคอมพิวเตอร์
@นิน นินๆๆ จา จาๆๆ ไม่พบ อาจไม่เท่ากับไม่มี แต่ไม่พบในการทดลอง อาจนำไปสู่การสรุปว่า *ไม่มี* เช่นเดียวกับอีเธอร์ที่แต่ก่อนเคยคิดว่าเป็นตัวกลางของแสงแต่การทดลองของMichelson-Morle ที่มีผลสรุปออกมาว่าอีเธอร์ไม่มีอยู่จริงซึ่งมีหลักฐานชัดเจน การมานั่งโอหังว่า "ฉันรู้นะว่า *วิญญาณ* มีอยู่จริงแต่พวกนักวิทย์ทั้งหลายหาไม่พบ" ไม่ได้ทำให้ข้อเท็จจริงของโลกเปลี่ยนไปแต่อย่างไรและไม่ได้มีเหตุผลมาพิสูจน์ว่าวิญญานมีอยู่จริงครับ มีแต่จะมานั่งโอหังว่า "ฉันรู้จริงจักรวาลมันเป็นแบบนี้ไม่มีเหตุใดต้องมาสืบค้นหาอีกต่อไปแล้วเพียงเชื่อข้อมูลไม่มีมูลนี้ก็พอ"
@นิน นินๆๆ จา จาๆๆ ยกตัวอย่างง่ายๆ
1. ก่อนที่คุณจะเกิดมาเป็นคน เป้นน้ำเชื้ออสุจิผสมใข่ คุณรุ้สึกอะไรมั้ย คุณเห็นอะไร มีสวรรค์มั้ย คุณเห็นโลกก่อนเกิดมั้ย ผมยังจำอะไรไม่ได้เรย
2. แต่มารุ้สึกตอนเป้นเด็กทารกและตอนโตมาเรื่อยๆ ว่ามีภพที่เราอยู่ อาศัย คือโลก
3. เกิดคู่กับตาย ฉะนั่นความรุ้สึกจะเหมือนกัน คือไม่รุ้สึก ไม่มีนรกสวรรค์ ซึ่งตรงกับนักวิทยาศาสตร์ว่าไม่มีโลกหลังความตาย
4. ถ้ายังพิสูจน์ตามหลักวิทยาศาสตร์ไม่ได้ แล้วมโนคิดเอง ผมขอเชื่อสิ่งที่พิสูจน์ได้ก่อนเพราะมีน้ำหนักมากกว่า
สิ่งที่พุทธศาสนาสอน ที่แท้จริง คือ ความเชื่อเรื่อง ตายแล้วเกิดคือ มิจฉาทิฏฐิ ตายแล้วไม่เกิดหรือตายสูญก็เป็นมิจฉาทิฎฐิ และตายแล้วเกิดบ้าง ไม่เกิดบ้างก็ยิ่งเป็นมิจฉาทิฎฐิ นี่คือคำตอบที่ชัดเจนแบบภาษาโลก
หากเอาทฤษฎี ฟิสิกส์ของ ไอน์สไตน์ นักวิทยาศาสตร์และเป็นผู้ศึกษาจิตวิทยาอีกแขนงด้วย กล่าวว่าพุทธศาสนาคือวิทยาศาสตร์
ทฤษฎีไอน์สไตน์ว่าด้วยกฎแห่งความคงอยู่ของพลังงาน ได้แสดงว่า "พลังงานเป็นสิ่งที่ไม่สูญหายไปจากเอกภพ ในขณะที่สสารซึ่งเป็นรูปธรรมของพลังงานอาจแตกสลายไปได้" ดังนั้น ทฤษฎีรูปนาม (สสารพลังงาน) ของพระพุทธเจ้าจึงเป็นความจริง
ส่วนนักวิทย์คนอื่นๆ ยังเข้าใจทฤษฎีของไอน์สไตน์ ไม่ถ่องแท้ยังมีอีกมาก เช่นทฤษฎีของไอน์สไตน์ เคยกล่าวในการทดลองหนึ่งว่าแสงเป็นอนุภาคก็ถูกต้องเฉพาะการทดลองนั้น แต่คำนิยามของแสง ปัจจุบันนี้นักวิทย์ก็รู้ชัดเจนกันทั่วไป ว่าแสงเป็นได้ทั้งอนุภาค และคลื่นพลังงาน รูปในนิยามวิทยาศาสตร์ที่เล็กสุด คือ
อะตอม และในองค์ประกอบของอะตอมยังมีพลังงานที่เรียกว่า นิวตรอน อีเลคตรอนและโปรตรอน เกี่ยวข้องอยู่ และหมุนวนอยู่ไม่ใช่แค่มีอะตอมอยู่แบบลอยๆ นี่คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้เรื่องนามรูป แบบละเอียด และตรัสอีกว่าธรรมทุกอย่างหรือทุกสรรพสิ่งล้วนเกิดจากเหตุปัจจัย และมีการ วน Loop เป็นวงกลม พระไตรปิฎกเกิดหลังพุทธกาลมากกว่า 200 ปี การแทรกความเชื่อแบบพราหมณ์ ผี และเทพเจ้า เข้ามาในคัมภีร์พุทธศาสนาก็มีอยู่ไม่น้อย พุทธบริษัทผู้มีปัญญาจึงควรพิจารณาคำสอนของพระพุทธองค์ ที่แท้จริง คืออริยสัจสี่ และแนวทางปฏิจสมุปบาท ตามแนวทางมรรค 8 ส่วนเรื่อง สุตตันตปิฎกบางสูตรก็ค้านกันอยู่ในตัว ลงไม่ได้กับธรรมวินัยเดิม นิทานธรรมบท ชาดกต่างๆ อิทธิปาฏิหารย์ สารพัดคือเรื่องแต่งภายหลังทั้งสิ้น
การวิจารณ์ศาสนาควรศึกษาทั้งคำสอนที่แท้จริง ประวัติศาตร์ที่ถูกต้อง วัฒนธรรมประเพณี ที่มาของอักษรจารึก ให้ถ่องแท้ก่อนทำคลิปด้วยนะครับ
ผมก็ไม่เชื่อว่าโลกหลังความตายจะมีจริงพอตายแล้วพวกเราก็เป็นเพียงอนุภาคที่ล่องลอยอยู่ตามอากาศเป็นส่วนหนึ่งของดินน้ำอากาศต่อไป ผมนับถือพุทธนะครับแต่ผมเชื่อตามความเข้าใจของผมเองว่าคนเราตายไปแล้วก็เป็นเพียงอนุภาค ส่วนสิ่งที่ถูกสอนมาก็เพียงเพราะเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจคนเราไม่ให้ทำชั่วมากก็แค่นั้น
อาจจะดูแปลกๆนะแต่สอบผ่านเพราะคลิปของพี่ ขอบคุณมากนะครับ
ผมเคยเป็นลมนะมันทรมานกว่าที่คิดเหมือนกำลังจะตายเลย ตัวสั่น หน้ามืดควบคุมร่างกายไม่ได้อ่อนแอมาก มีเสียงแหลมๆในหูเต็มไปหมดแทบไม่ได้ยินเสียงเพื่อนเรียกเลย ใจเต็นช้าแต่แรงจนรู้สึกได้เหงื่อออกมากเลย หายใจลำบากด้วย มันทรมานมาก
ผมก็เคยเป็น อาการของผมแขนขาอ่อนแรง เหงื่อออกตามแขนและหน้าผาก และสุดท้ายก็วูบ ฟื้นอีกทีอยู่บนเตียง มีคนหามผมมานอน ตอนนั้นน่ากล้วมากครับ
ตอนเด็ก ผมเคยฝันว่าคุณยาย มาหาในฝัน ยื่นบางอย่างให้กับมือผม แล้ว ยิ้มให้ แล้วก็เดินทางต่อไปด้วยรถม้าสีขาวทั้งคันจนลับตาไป แล้วแม่ก็ปลุกตอนเช้า บอกว่า ยายเสียแล้ว รพ.โทรมาบอก ผมเชื่อว่าชีวิตหลังความตายมีจริง
คิดมาก
โลกหลังความตายหมายถึงเมื่อชีวิตสิ้นสุดลงแล้วเด็ดขาด(ตายแล้วฟื้นไม่อยู่ในความหมายนี้)ชีวิตกับวิญญาณมีอยู่จริงและเป็นวิทยาศาสตร์ ถ้าเปรียบเทียบกับวัตถุบนท้องฟ้า ก็จะเป็นส่วนที่เป็นบอดี้(body)กับการแผ่รังสี เมื่อตายลงวิญญาณจะไม่อาจอาศัยอยู่ในร่างได้ โดยมาอยู่ตามลำพังและมีพลังงานคล้ายแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถควบคุมอณูย่อยให้อยู่รวมกันเรียกว่าวิญญาณ ตัวพลังงานนี้เล็กมาก(เล็กกว่าควอนตัม)แต่สามารถรวมตัวกันให้มีขนาดใหญ่ได้ พลังงานนี้จะยังคงมีอยู่และสลายตัวเข้ากับพลังงานของจักรวาลในที่สุด(ไม่เป็นไปตามศาสนาใดๆ) การเกิดของวิญญาณเป็นไปได้ถ้าวิญญาณสามารถฝังตัวในไซโกสในขณะปฏิสนธิ จากประสบการณ์เคยเห็นวิญญาณในที่มืดถ้าจุดไฟตะเกียงก็มองไม่เห็นเนื่องจากแสงทับหมดแต่เมื่อดับไฟก็จะเห็นเช่นเดิมแต่คนอื่นที่อยู่ด้วยกันมองไม่เห็น อีกประสบการณ์หนึ่งเห็นดวงวิญญาณหลังความตายหนึ่งชั่วโมงในตอนเย็นใกล้หกโมงและยังมีแสงสว่างอยู่เห็นเฉพาะใบหน้าขนาดเต็มหน้าต่าง ทั้งที่ร่างไร้วิญญาณยังนอนห่างประมาณสิบเมตรโดยมีบุคคลอื่นเห็นด้วย กล้องสามารถจับภาพได้เช่นในยูทูปก็มีเมื่อเกิดอุบัติเหตุคนตายวิญญาณออกจากร่างปรากฏตัวทันที คนอยู่ใกล้ๆเข้าประคองวิญญาณแต่ไม่สามารถสัมผัสได้ชั่วครู่วิญญาณก็หายไป ยังเห็นตอนเกิดสึนามิน้ำท่วมคนตายวิญญาณหนีน้ำลอยขึ้นเป็นก้อนสีขาวสี่ห้าดวงแล้วก็หายไปในอากาศ สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าเมื่อตายแล้วยังมีปฏิกิริยาของวิญญาณอยู่ซึ่งอาจมองเห็นหรือไม่เห็นก็ได้ นักวิทยาศาสตร์ยังพิสูจน์ไม่ได้แล้วจะอ้างว่าไม่มีนั้นไม่ถูก สิ่งที่มนุษย์ยังไม่รู้มีอีกมากนัก ความรู้ที่มนุษย์ในอดีตและปัจจุบันมีอยู่นั้นยังไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของความรู้ของจักรวาลเลย.
เป็นกำลังใจให้ครับ...
ผมไม่อยากจะพูดอะไรนะ เอาเป็นว่าไม่มีเครื่องมือวิทยาศาสตร์อันใดสามารถพิสูจน์โลกหลังความตายได้เลยสรุปว่าไม่มี คุณรู้ไหมมันมีสิ่งที่มหัศจรรย์ที่เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้เพราะมันมหัศจรรย์เกินกว่าวิทยาศาสตร์เอาแค่นี้ดีกว่า
ชีวิตหลังความตายจะมีจริงหรือไม่ ไม่รู้ วันใดที่ตายไปก็คงจะทราบเอง แต่ที่รู้ทุกวันนี้ก็คือ การที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์บนโลกใบนี้นั้น เป็นโอกาสที่แสนวิเศษยิ่ง เพราะได้มารู้ เห็นความยิ่งใหญ่ของจักรวาล
นักวิทย์พูดถูก เพราะวิทย์จะต้องพิสูจน์ได้ แต่ปัญญหาที่ไม่สามารถเอามาอธิบายให้คนทั่วไปได้รู้เห็นจริงได้คือผู้ที่ได้ประสบพบเจอ ว่าคนที่ตายไปแล้วนั้นมีอยู่จริง ผมเองก็จนปัญญาจะอธิบาย จนได้ไปนั่งปฎิบัติธรรมในวัดเปิดหนังสืออ่านเจอคำที่ผมควรนำมาใช้นั่นภาษาบาลีที่ท่านว่า ปัตจัตตัง แปล ผู้รู้ก็ย่อมรู้ด้วยตัวเอง ไม่สามารถไปบอกเล่าอธิบายอะไรให้ใครฟังได้ ผมจึงรู้ต่ออีกว่า ถ้าคนยังจะมัวรอให้นักวิทย์มาอธิบายให้ คงไม่มีทางได้คำตอบ แม้ใครจะเดินไปพาวิญญาณผู้ตายนั้นมา ก็จะได้มาเพียงลักษณะเบาบางไม่สามารถเอาขึ้นโต๊ะผ่าพิสูจน์ให้เห็นจริงได้
มี เหตุผลส่วนตัวว่า ตอนเกิดทำไมเราเลือกเกิดเป็นชายหรือหญิงไม่ได้ เกิดที่นั้นที่นี้ไม่ได้ เราเกิดมาด้วยเหตุผลอะไร ถ้างั้นเราทำอะไรชาตินี้เราก็หนีได้ด้วยความตายนะซิ มันดูไม่สมเหตุสมผล ถ้าคิดแบบนี้คนจะทำอะไรแบบไม่กลัวบาปกรรมเลยล่ะเพราะตายก็จบกัน
ใช่ครับเราหนีด้วยความตายก็ได้จริงๆ แต่ก็ไม่ค่อยมีใครอยากจะทำ
เราถูกกำหนดโดยดีเอ็นเอครับ
เราถูกกำหนดด้วย D.N.A.W.X.Y.Z ครับ
"ขอเปรียบเทียบ ชีวิตกับแผ่นCD" ตอนกำเนิดคุณก็เหมือนแผ่นพลาสติกเปล่า พอเริ่มใช้งาน คุณก็บันทึกเรื่องราวต่างๆได้ เหมือนคุณไปอยู่สภาพแวดล้อมไหนคุณก็เป็นคนแนวนั้นไป แต่เมื่อถึงวาระ CDพลาสติกเสื่อมสภาพ สิ่งที่บันทึกไว้ก็หายหมด และเมื่อคุณตายความเป็นตัวตนคุณก็หมดเช่นเดียวกัน (เรายังไม่มีเทคโนโลยีย้ายความนึกคิดไปอยู่ร่างใหม่ได้ ความตายคือ จบ)
แต่มันยังมีความจำต้นกำเนิดอยู่ที่ต้นทาง เมื่อแผ่น CD นั้นหมดอายุ ก็ยังหาแผ่นใหม่ มากอ๊ปคัดลอกใส่ได้อีก เป็นร่างใหม่
การเชื่อว่า ชีวิตหลังความตายไม่มี ก็คือความเชื่อเหมือนกัน ใช่จะรู้จริง
การเชื่อว่ามีก็เหมือนกันกับเชื่อว่าไม่มีเเลัวเเต่คนที่จะเชื่อถ้าเชื่อจะเปลี่ยนความเชื่อคนนั้นยากมากกกก
เมื่อไม่รู้ว่าตัวเราคือใคร ร่างกายแตกสลายเราจะตายไปพร้อมร่างกาย เมื่อวิญญาณดับเราจะดับไปพร้อมวิญญาณ สิ่งที่เวียนเกิดเวียนตาย ไม่ใช่จิตวิญญาณ มันคือตัวตนที่แท้จริงของเราต่างหากที่ท่องเที่ยวไปในภพน้อยภพใหญ่ตลอดกาลนาน
ชีวิตนี้ ไม่จีรัง ไม่ยั่งยืน
แม้จะฝืน ขืนขัด สักแค่ไหน
ไม่อาจโกง โชคชะตา แม้อาลัย
ต่างก็ตาย จากกันไป ไม่ต่างกัน
เกิดมาครั้งเดียวตายครั้งเดียวนี่แหละความจริง
เพราะฉะนั้น ใช้ให้คุ้ม(ในทางที่ดี)👍
ดีนะผมขอพรไห้ไม่แก่ไม่ตายเลยอยุ่ยาว
เป็นแค๊ปชั่นคำคมเตือนใจดีมาก👍👍👍
.
ผมเชื่อว่า ถ้าชาตินี้ผมไม่ได้อุดหนุนช่องนี้ ผมจะเสียดายมากจนถึงวันตาย
ผมว่า เรื่องชีวิตหลังความตาย มันขึ้นกับความเชื่อของแต่ละบุคคล การเชื่อว่า ชีวิตหลังความตายมีจริงช่วยป้องกันไม่ให้คนทำชั่ว ชีวิตหลังความตายมีจริงหรือไม่ มันอยู่ที่ ปัจจัตตัง ของแต่ละคน ถ้าศึกษาดีๆ จะพบว่า มันมีจริง!
ปวดขี้แล้วไปขี้ที่ไหน นั่นเป็นหนึ่งคำถามที่ยังคาใจมนุษย์ถึงทุกวันนี้ ถ้าตอบว่า "ก็ไปขี้ที่ส้วมซิถามได้" มันก็ถุกครับถ้าตอบแบบง่าย แต่ผิด❌ครับ ถ้าเป็นส้วมสาฐาระณะที่มีส้วมเป็น10ห้อง คุณจะรู้มั้ยว่าเขาจะเข้าไปขี้ห้องไหน นักวิทยาศาตร์ก็ยังหาคำตอบและพิสุจน์เรื่องนี้ไม่ได้ไม่มีเครื่องมือชนิดไหนเชื่อมต่อหาคำตอบกับความคิดของคนได้เลย มันแหกกฎวิทยาศาสตร์ได้ นอกจากจะเกิดขึ้นกับตัวเองรู้ของเขาเอง และ เขาเป็นผู้เลือกห้องส้วม นั่นเอง
@@user-du7pw6mj6t แล้วแต่มุมมองของแต่ละคนครับ!
คนระลึกชาติได้มีถมเถ ถ้าจะหาข้อมูล เต่ามันบอกปลาว่า บนน้ำมีอากาศสดชื่นมีแดดอ่อนในตอนเช้า มีดินทั้งอ่อนทั้งแข็ง มีลมพัดเย็นสบาย ปลามันก็ถามพวกปลา เห้ยพวกเรามีใครเคยอากาศสดชื่นมีแดดอ่อนในตอนเช้า มีดินทั้งอ่อนทั้งแข็ง มีลมพัดเย็นสบายไหม พวกปลามันก็เชื่อว่าไม่มีเพราะมันไม่เคยเห็น รองสักวัน มันว่ายๆแล้วกระโดดขึ้นผิวน้ำซิ มันจะเจอแดด เจออากาศ เจอลมพัด เดี๋ยวสักวันมันจะรู้ว่ามีอย่างที่เต่าพูด แต่เต่าที่มันเคยเห็นนะ มันขี้เกียจพูดแล้ว เพราะมันรู้ด้วยตัวของมันเอง แล้วสักวันมันจะมีปลาฉลาดพอที่จะรู้ว่ามันมี
เป็น นิทาน ที่เปรียบเทียบ ได้เยี่ยมไปเลย
เอาว่ามาศึกษาปฏิบัติกันจริงๆจังๆก่อนเถอะครับ ถึงมาตัดสินว่าจริงหรือไม่จริง กว่าวิทย์จะพิสูจน์ได้ อาจใช้เวลาอีกยาวนาน
ว่าแต่ ทำไมพระพุทธเจ้าท่านบรรยายเรื่องจักรวาลไว้ได้อย่าวถูกต้อง เอาแค่บางส่วนนะ คือเรื่องกาแล็คซี่ ท่านบรรยายเขาสุเนรุ มีวงแหวนเจ็ดวงล้อมรอบ มีลักษณะแวววาว เปล่งแสง ซึ่งก็คือแขนของทางช้างเผือกที่มีเจ็ดวงจริงๆตรงกับทางช้างเผือกเป๊ะๆ ท่านยังพูดถึงจุดจบของโลกเรา ว่าอีกกาลนานไกล ดวงอาทิตย์จะขยายตัวเป็นสองเท่า และสามเท่า ไปเรื่อยๆจนเจ็ดเท่า นั้นคือโลกแหลกสลาย ท่านนังบอกตอนขยายแต่ละเท่าจะเป็นยังไง น้ำจะแห้งยังไง ละเอียดมาก
ซึ่งข้อสมมติฐานที่เชื่อถือได้ของวิทยาศาสตร์ดันมาสรุปตรงกันอีกว่าพระอาทิตย์จะขยายตัวก่อนที่จะระเบิด
นี่แค่ส่วนเล็กๆ เล็กจนิงๆที่หยิบมาเล่า
ถ้าได้มาศึกษา แถมปฏิบัติด้วยแล้ว จะย่อมเข้าใจได้เอง เกิดปัญญาได้เอง
แต่ถ้ายังไม่เคย ก็จะเชื่อตัดสินตามความคิด ประสบการณ์ของตนเองอยู่ร่ำไป
แล้วถ้าสิ่งที่บอกมาทั้งหมด มนุษย์ ที่มีความคิด เก่งๆ เขาคิดด้วยตัวเองหล่ะครับ แล้วถ้าคนนั้นเป็นนักวิทยาศาสตร์ หล่ะครับ ผมว่า คนนั้นต้องเก่งมากแน่ๆที่ควบคุมคนทั้งโลกได้
@@tiktokfunnyclip9154 ต้องเข้าใจคำว่าตรัสรู้ก่อนครับ คนเก่งๆอย่างมากก็เชื่อและตัดสินตามกระบวนการวิทยาศาสตร์ซึ่งไม่แน่นอน ไม่ชัวร์ แต่ตรัสรู้ คือการรับรู้และเห็นตามความเป็นจริงเท่านั้น ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องอะไร พระพุทธเจ้าท่านสามารถตรัสรู้ได้หมด แต่สุดท้ายท่านก็นำมาบอกสอนเฉพาะเรื่องที่จะทำให้พ้นทุกข์ ซึ่งก็คืออริยสัจจ์4 เท่านั้น เรื่องไหนไม่เกี่ยวข้อง ท่านก็รู้ แต่ไม่บอกสอนครับ
ความเชื่อส่วนตัวคิดว่าหลังจากที่ร่างกายมนุษย์เราสิ้นสุดลมหายใจแล้ว ถ้าจิตใจเราที่ยังยึดติดกับสิ่งต่างๆบนโลก จิตวิญญาณนั้นก็จะแสวงหาที่เกาะที่ยึดใหม่สร้างภพสร้างชาติใหม่ต่อไปเรื่อยๆไม่มีวันสิ้นสุดจนกว่าจิตจะไม่ยึดติดอะไรอีกต่อไป นั้นหมายความว่าเราพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดค่ะ ( พระอาจารย์หลายๆท่านสอนมาแบบนี้ค่ะ )
แล้ว การที่มีมนุษย์ เพิ่มขึ้นทุกวัน เท่ากัยว่า มีดวงจิต สร้างขึ้นใหม่ทุกวันงั้นหรอครับ
มันดูมั่วๆนะ
@@tiktokfunnyclip9154 ใช่คุณเก่งมาก 👍 ไม่มั่วหรอก😊
ครับ อ.ฌอน กับ อ.ฮอกิ้ง อาจารย์ทั้ง 2 เก่งมากๆ ครับ
อาจารย์ทั้ง 2 สามารถคำนวณหาช่องว่างระหว่างอะตอมได้ แต่อาจารย์ทั้ง 2 ก็ไม่สามารถที่จะเข้าไปช่องว่างระหว่างอะตอมได้
ใช่ไหมครับ????????
แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละบุคคล เวลาเราใกล้จะหมดลมหายใจจิตใต้สำนึกจะทำให้เห็นถึงสิ่งที่เคยกระทำมา ทุกสิ่งล้วนอยู่กับการกระทำ
ก็อาจจะมี สสารอะไรที่ออกจากร่างทำให้เรารำลึกบางสิ่งบางอย่างก็ได้นะครับ
หลังจากผมได้อ่านวิจัยเรื่องการกลับชาติมาเกิด ของคุณ เอียน สตีเฟนสัน บวกกับผมนั่งสมาธิจนผ่านปรากฏการต่างๆที่พระอริยสงฆ์บอกไว้ทั้งหมด ทำไห้ผมเริ่มเชื่อขึ้นมาบ้าง
คุณเห็นอะไรบ้างครับ
ผมเชื่อว่ามนุษย์เรามักจะกลัวการกระทำของตัวเอง
จึงพยายามหาเหตุผลมาลบล้างการกระทำของตัวเองโดยเฉพาะการกระทำที่ไม่ดี
ใช่ครับ 5555
ถุกครับ
มนุษย์พึ่งจะเรียนรุ้หาคำตอบหาความเป็นจิงของสิ่งต่างๆในโลกถ้าเป็นนักเรียนก็ประมาณอนุบาล
จึงบอกว่า ทำอะไรให้ดีที่สุดแต่ละวันยังมีชีวิตอยู่ โดยไม่ทำให้ใครเดือดร้อน
เรื่องโลกหลังความตายอันนี้ผมก็ไม่เคยเห็น เลยไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไง แต่วิญญาณน่ะมีแน่ เพราะเคยเห็น
ชีวิตหลังความตาย เป็นเรื่องที่พิสูจน์ยาก ว่ามีหรือไม่มีอยู่จริง อาจจะไม่มีจริง หรือวิทยาศาสตร์ยังพิสูจน์ไม่ได้ วิทยาศาสตร์เป็นเพียงทฤษฎีและการทดลองการทดสอบแบบวิทยาศาสตร์
เรื่องผีก็เช่นกัน ใครบอกผีไม่มีจริง พอให้ไปนอนคนเดียวที่ดงป่าช้า กลับกลัวไม่กล้าไป เพราะจิตเราปรุงแต่งไปก่อนแล้ว เรื่องแบบนี้คุยกันไม่จบหรอก
อีกสักสามสิบสี่สิบปีข้างหน้าวิวัฒนาการเมื่อคนตายไปแล้วร่างกายไม่มีแต่จะมีการโอนความจำในสมองเข้าสู่ระบบเอไอเข้าไปอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ตและพวกเราก็จะได้รู้จักกับคนทั่วโลกอย่างง่ายดาย
@@oyayanloos8887 แต่ความรู้สึกทางกายจิตใจไม่มีเป็นเพียงระบบ Ai ที่คัดลอกก๊อปปี้ลอกเลียนเฉยๆครับ เหมือนระบบตอบกลับอัตโนมัติไงครับ หรือ gps เท่านั้นซึ่งไม่ใช่ตัวเราแท้จริง
ลองกดเข้าไปดูการทดลอง ชีวิตหลังความตาย th-cam.com/video/DgW-z-XyM88/w-d-xo.html
ทีมวิจัยทดสอบชีวิตหลังความตาย
th-cam.com/video/DgW-z-XyM88/w-d-xo.html
ปริศนาเฉพาะบางคนครับ
ผมว่าหากเราทำสมาธิกันทุกวันและทุกคนเหมือนการกินอาหาร
คงมีคนจำนวนมากสามารถเข้าถึงได้
หากการทำสมาธิของผู้นั้นตรงกับทางรู้แจ้งในสิงนี้
และหากบุกคลนั้น
เป็นนักวิทยาศาสตร์ด้วย
ก็คงจะสามารถหาทางตีแผล่ให้โลก
ได้รับรู้ได้
เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้สมาธิเบื่องต้นทัวๆไปเพื่อเขัาถึงการรับรู้สิงนี้
ด้วยสภาวะของมนุษยทั่วๆไปในสิงแวดล้อมอย่างปัจจุบัน
แล้วคนที่ระลึกชาติได้คืออะไรครับ
ตั้งคำถามผิด..แน่นอน "โลก" หลังความตายย่อมไม่มีเพราะมันไม่ใช่โลก แต่เป็นการออกจากโลกไปอยู่อีกภพภูมิหนึ่งที่ไม่ใช่โลก การมีอยู่ของวิณญานมีจริงแต่ไม่เสถียรยังแปรรูปไปตามแรง....
แอดมินคนน่ารัก
เชื่อเรื่องโลกหลังความตายไหมเอ่ย
เราจะเชื่อในแง่มุมไหน ก็ถูกทั้งหมดหรือไม่ก็ผิดทั้งหมดเพราะมันพิสูจน์ไม่ได้ แต่สำหรับผมเองเชื่อในแนวทาง ธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าครับ เพราะผมเชื่อว่า บาปบุญมีผล ต่อมวลมนุษยชาติจริงๆ แต่ก็ไม่ไปตำหนิคนอื่นที่เขาเห็นต่างนะครับ ความเชื่อของใครของมันครับ นานาจิตรตัง 😊😄😃
ถ้าพิจารณาหลักธรรม ทุกวันอยู่เนืองๆ จะรู้ได้เองครับ ว่าเรื่องเหล่านี้มีจริงไหม
แม้แต่การเกิดของ มนุษย์ ยังมีดวงจิตลอยมาเลยครับ ผมเห็นดวงจิตแล้วกับตาหลายครั้ง และ ถุกทุกครั้งที่ผมเห็นว่าบ้านนั้นมีเด็กมาเกิด ถ้าดวงจิตนั้นเป็นหญิงจะสีขาว ถ้าเป็นชายมาเกิด ดวงจิตจะสีแดงอ่อน ต้องคืนเดือนมืดจะมองเห็นชัดดวงจิตแสงจะอ่อน กว่าไฟตามถนนและในบ้านดวงเท่าใข่ไก่โปร่งแสงมองทะลุอีกด้านได้ อยู่ต่างจังหวัดครับถ้าในเมืองจะมองเห็นยากไฟเยอะ ถ้าใครไม่เชื่อก็ตามใจผมบอกด้วยความจริงทุกอย่าง แต่ชีวิตหลังความตายผมไม่รู้ ถ้ามีดวงจิตแบบที่ผมเห็น ก็น่าจะมีโลกหลังความตายด้วยครับ
@@chavikarn4263 th-cam.com/video/DgW-z-XyM88/w-d-xo.html
ทีมวิจัยทดสอบชีวิตหลังความตาย
th-cam.com/video/DgW-z-XyM88/w-d-xo.html
จิตวิญญานมีจริง ชีวิตหลังความก็มีจริง ขนาด ตุ๊ด กระเทย เกย์ ยังมีเลยมันอยู่ที่จิตวิณญานข้างในครับเกิดมาก็เป็นแบบนั้นเลย พ่อก็เป็นผู้ชายแมนๆ แม่ก็เป็นหญิงแท้ๆ ก็เหมือนคู่แฝด บางคนแฝด3คน นิสัยไม่เหมือนกัน บางคนไม่มีนิสัยติดพ่อแม่เลย ผมเห็นมาแล้ว มันอยู่ที่จิตวิณญานข้างในครับ
มาจ้า
สวรรค์-นรกไม่มีอยู่จริง มันเป็นความเชื่อและศรัทธาของมนุษย์โดยเฉพาะศาสนาและลัทธิต่างๆ(เป็นเจตสิก)เท่านั้น ถ้ามีจริงต้องใช้หลักวิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้คร้บ หากแต่เป็นกลางไม่เอาความคิด ความเชื่อโดยเฉพาะของตนเองมาเกี่ยวข้อง
ครับ
ดูจนจบแล้ว สรุปว่านักวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์ตามวิชาการความรู้ที่มีในปัจจุบันยังพิสูจน์ไม่ได้ อาจจะไม่มีเครื่องมืที่จะใช้พิสูจน์ได้ในปัจจุบัน แต่ยังไม่เห็นนักวิทยาศาสตร์เหล่านี้ค้นความทางจิต ทางสมาธิ เพื่อพิสูจน์อีกด้านหนึ่ง เพราะม่คนที่จำอดีตชาติได้และพิสูจน์ได้จากที่บอกตัวบุคคลสิ่งของเครื่องใช้ที่มีในชาติที่แล้วได้ถูกต้อง นักวิทยาศาสนาน่ามาพิสูจน์ตรงนี้ด้วย เหมือนกับจิตนักวิทยาศาสตร์บอกว่ามาจากสมองสั่งการใช้งานร่างกาย แต่ในทางศาสนาพุทธบอกจิตไม่ได้มาจากสมอง แต่จิตสั่งงานโดยมีสมองเป็นเครื่องมือ ชีวิตประกอบด้วยรูปกับนาม (รูปคือร่างกาย นาม คือ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) และมี เจตสิก อีก นักวิทยาศาสตร์น่าจะมาพิสูจน์เรื่องนี้ด้วย
Admin เรื่องนี้ ติดตามมานาน พอสมควร วันนี้ ได้คำตอบ แล้วครับ 🔥🔥🌻🌹🙏🍷🍉🔥🔥
คนที่ไม่เชื่อเรื่องชีวิตหลังความตาย
เมื่อตายไปแล้วก้อจะได้รู้ความจริงทั้งหมด
นักวิทยาศาสตร์แค่สันนิฐานตามความคิดพวกเค้า ยังไม่มีใครพิสูจน์ได้จริงสักคน มันแปลกที่พวกคุณก้อยังเชื่อนักวิทยาศาสตร์ มันก้อไม่ต่างอะไรกับคนที่มีศาสนาและเชื่อพระเจ้า (ผมมุสลิมเชื่อในพระเจ้าองค์เดียวว่า " ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์และท่านศาสดามูฮัมมัด(ซ.ล)เป็นศานทูตของอัลลอฮ์ " )
*** สรุป ก้อยังไม่มีนักวิทยาศาตร์คนไหนลองตาย แล้วมาบอกได้สักคน สุดท้ายก้อเป็นเพียงการมโนไปเองของพวกนักวิทยาศาตร์เหมือนกัน เพราะนักวิทยาศาสตรเองก้อพิสูจน์ไม่ได้สักคนเช่นกัน
ถูกต้องครับ
ถุกต้องที่สุดดดด ครับ👍👍👍
มั่วจัดเลย แล้วศาสนา มีตั้งเยอะตั้งแยะคืออะไรครับ อย่าบอกว่านักวิทยาศาสตร์ ไม่เคยทดลองตาย เขาก็เคยมีทดลองตาย มาหลายเคส ตั้งแต่ไหนแล้วนะครับ ทดลองตายแล้วฟื้นเนี่ย
@@tiktokfunnyclip9154 ลองบอกชื่อนักวิทยาศาตร์ที่ทดลองตายแล้วฟื้นกลับมาดูว่ามีใครบ้างที่คุณกล่าวมา
นักวิจัยต้องตายถึงจะรู้ ถ้ายังไม่เคยตาย นักวิจัยจะบอกว่ามันไม่มีไม่ได้ โลกหลังความตายมันเป็นเรื่องของคนตาย คนเป็นมาตอบแทนคนตายไม่ได้ เอาง่ายก่อนจะบอกว่าโลกหลังความตายมี/ไม่มี ให้ศึกษาเรื่องผีก่อน ว่ามี/ไม่มี ถ้ามีจะคุย/สื่อสารเขายังไง ถึงตอนนั้นค่อยถามเรื่องโลกหลังความตาย
th-cam.com/video/DgW-z-XyM88/w-d-xo.html
นักวิจัย ยังไม่รุ้เลยว่าวันพรุ่งนี้จะมีเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง เพราะยังไม่ถึงวันพรุงนี้ พรุงนี้หวยออกอะไร นักวิจัยยังตอบไม่ได้เลยเพราะยังไม่ถึงวันพรุ่งนี้ แต่รุ้ว่าวันพรุ่งนี้มีจริง นักวิจัยรู้ว่าความตายมีจริง แต่ไม่รู้ว่าตายแล้วไปไหนเพราะยังไม่ถึงวันนั้น อย่าเพิ่งด่วนสรุป ว่าชีวิตหลังความตายไม่มีจริงเพราะฉะนั้น ชีวิตหลังความตาย กับ เหตุการณ์วันพรุงนี้คงไม่ต่างกัน
ผมก็สงสัย ชีวิตหลังความตายมีจริงไหม แล้วมันก็มี คนระลึกชาติ คนตายแล้วฟื้น ไปโน่นนี่นั่น
และก็สงสัยต่อไป
ตามศาสนาพุทธแล้วความตายไม่ใช่จุดจบ
- อารมณ์จิตสุดท้ายต่างหากจะเป็นตัวบอก คือ ภาพหลอนก่อนจะหมดลม ช่วงนั้นสมองจะทำงานผิดปกติ เช่น ภาพที่ยินดีและไม่ยินดี ทำให้จิตเศร้าหมองก็จะไปสร้างภพที่เศร้าหมอง ถ้าไม่ฝึกสติมาเพื่อหยุด ก็ต้องไปภพที่จิตสร้างขึ้นมา แน่นอนว่าสติหลุดแน่เวลาเจออะไรกระทันหัน สุดท้ายก็ความเชื่อแหละครับ อ่านไปเล่นๆ
ความเชื่อ หรือคติธรรมใดๆ ถ้าเป็นความจริงละก็ ผมคิดว่าจะต้องพิสูจน์ได้ทางกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ หรือฟิสิกส์ โดยการศึกษาเนื้อหาของคติธรรมนั้นและมาทดสอบว่าจริงหรือไม่ อย่างไร ส่วนชีวิตหลังความตายจะมีหรือไม่นั้น ความหมายของความเชื่อทุกความเชื่อ ก็จะปรากฎผลของมันโดยการมีชีวิตอยู่บนโลกในขณะนี้แหละครับ ที่จะเป็นตัวชี้วัดประโยชน์ ของความเชื่อทุกความเชื่อนั้น ว่าส่งผลกับเราอย่างไรบ้างในการใช้ชีวิต จะสันติสุข หรือสับสน ก็เท่านั้นเอง / ขอบคุณข้อมูล และสาระดีๆจากแอดมินครับ 😁
เสริมครับ หากเราเชื่อว่า ความเชื่อนั้นไม่มีจริง ก็ย้อนแย้งอยู่นะในกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพราะเราได้เชื่อแล้วว่าไม่เชื่อ เพราะฉะนั้น ความเชื่อทดสอบได้โดยการชิมครับ ลิ้มลองก่อนจะตัดสินอาหารจารนั้นๆ หนุนใจทุกคนที่เข้ามาอ่านนะครับ blessed 🤟🏾
ใช่ครับ มันคือความจริง ที่คนเราไม่อยากตาย
จนไม่ยอมรับตัวเอง
ใช้ๆ
ผมไม่อยากตาย ผมกลัวเสียความจำทั้งหมดที่ผ่านมา ผมยังอยากมีพรุ่ง นี้ อยากดู อยากเล่น อยากรออะไรที่จะพัฒนามาใหม่ๆตลอด ถ้าตาย เท่ากับหมดโอกาส
@@ghcerobl5241 พี่คับเชื่อผมน่ะโลกของความตามมีอยู่จริง แล้วผมก่อเคยเห็น วิญญาณ จริงๆคับพี่ผมได้ยินเสียงร้องของเจ้าที คับผมเลยเชื่อว่าผี และก่อวิญญาณของพวกเราอยู่จริงคับเพราะ ผมอยู่กับพวกพี่ๆ5-6คนคับ แล้วก่อฟังกันแบบจริงๆได้ยินกันหมด
ผมติดตาม มานาน นะช่องนี้ แต่วันนี้ได้คำตอบหละ
ถ้าโลกหลังความตายไม่มีอยู่จริง มันก็ต้องไม่มีการเกิดสิ ตายแล้วศูนย์ทำไมยังเกิดอยู่เรื่อยๆ เพราะอะไรล่ะลองพิจารณาดูสิ
ศาสนาพุทธ. โลกหลังความตายมีอยู่จริง. พระเกจิ หลายๆท่านก็เคยท่องโลกหลังความตายมาแล้ว
ความจริง จะถูกเปิดเผย เมื่อเราละจากโลกนี้ โลกหลังความตายมีจริงไหม เดี๋ยวทุกคนจะได้รู้ “ความจริงจะปรากฏ” ก็ตอน(ตาย)นั้นแหละครับ
ปล.ถ้าใครเชื่อว่า“ตายแล้วดับสูญ”ขอให้โชคดีนะ😊แล้วจะได้รู้ว่ามัน..ดับสูญจริงไหม !?
ดับสูญ...... ได้ 0 จริงเรื่องเหตุผล
ไม่รู้ผมว่าดีนะ เพราะว่า หากรู้ อ่อ ชีวิตหลังความตาย มีจริง ทุกคนคง แบบ ตายดีกว่า อยู่ เพราะยังไง ก็ยังมีอีกโลกอยู่
ถ้าไม่ความเชื่อ นรก สวรรค์ การทำความดี การเวียนวายตายเกิด มนุษย์น่าจะมีแนวโน้มไม่เกรงทำชั่ว ไม่กลัวบาป เพราะตายแล้วสูญ คงแย่งชิง เบียดเบียน ฆ่าฟันกัน เพื่อหาความสุขใส่ตนให้มากที่สุด ความ อยุติธรรมเกิดขึ้นมากมายและความล่มสลายก็จะเกิดกับอารยธรรมมนุษย์ ในที่สุด
กับบางคนไม่ต้องไปฝึกอะไรมากมาย
มีติดตัวมาตั้งแต่เกิด
แต่เพราะความไม่รู้ว่ามันคืออะไร
แค่เจอสัญญาเก่าทุกๆอย่างก็หวนกลับมามากน้อยอยู่ที่พื้นฐานของตนเองในปัจจุบัน
ไม่ต้องทุกข์ระทมทรมานกายใจ
ถึงทุกทรมานแทบเจียนตาย
คนยังเข้าไม่ถึงก็คือไม่ถึง
ฝืนไปก็ตายเปล่า
จะกี100ศาสนา
หากไม่ใช้การหลอกลวงเพื่อผลประโยชน์เนื้อแท้มีเพียง1
แตกต่างไปตามสังคมปรุงแต่งภายนอก
หากชีวิตหลังความตายไม่มี
ชีวิตนี้ก็แย้งขิงกันด้วยอำนาจ
แต่เสียดาย
มันมีจริง
และมีขึ้นเพราะความเชื่อศรัทธาของผู้คนที่สืบต่อกันมา
จากไม่เคยมีกลับเป็นมีและสืบทอดกัน
มันคือสังคม
ใช้ครับคนตายร่างกายสลายเป็นอะตอมนั้นคือที่สุดของร่างกายคน
แต่ยังไงถึงเลียกว่าตายละครับ
อวัยวะต่างๆของร่างกายสามารถเปลี่ยนถ่่ายให้ผู้อื่นได้นะ
อะไรในร่างกายเสียหาย
จึงส่งผลให้เราตาย😅
สงสัยมานานแล้วครับ
มีศาสนาใดพูดถึงไดโนเสาร์กับมนุษย์ต่างดาวบ้างครับ
พระพุทธศาสนา มีการกล่าวถึงมนุษย์ต่างดาวอยู่นะครับ
นรกสวรรค์"จะมี"หรือ"ไม่มี"ไม่สำคัญ
ศาสนาไม่ได้บังคับให้เชื่อ
ศาสนาสอนให้มนุษย์เป็น"คนดี"
ให้ทาน ถือศีล ภาวนา สวดมนต์ นั่งสมาธิ
นั้นต่างหากที่สำคัญ
ถ้าไม่เชื่อว่าโลกหลังความตายมีอยู่จริง แล้วทำไมเชื่อว่าโลกก่อนความตายมีอยู่จริงล่ะ ทุกๆสิ่งมันไม่ใด้เกิดขึ้นมาจากในหัวคุณเองเหรอ🤣.
แล้วเหตุการณ์ที่มันผิดธรรมชาติที่ไม่สามารถอธิบายแบบวิทยาศาสตร์ทั้งหลายที่มีมากมายในโลกนี้ล่ะ จะอธิบายไงครับ....มันไม่ใช่วิทยาศาสตร์อย่างเดียวครับที่เป็นศาสตร์
ใช่ครับ
คำสอนของพุทธคือการละกิเลส ไม่ให้ยึดติด พุทธไม่ได้สอนให้เชื่อในปาฏิหาริย์ การไม่ยึดติดทำให้เราไม่มีความทุกในโลกนี้ สอนให้เชื่อในธรรมชาติ ที่เรียกว่าธรรมะ ผมเชื่อในคำสอนการละกิเลสของพุทธ แต่เรื่องนรกสวรรค์ผมก็ยังเชื่อว่าเป็นแค่กุศโลบายเท่านั้น
พระพุทธเจ้าสอนว่าอย่าเชื่ออะไร ต้องคนหาด้วยตัวเอง และรู้ด้วยตัวเอง เช่นโลกหลังความตาย
ต่างภพภูมิต่างมิติครับ.แล้วแต่มุมมองความคิดของแต่ละคนครับว่าจะเชื่อไม่เชื่อครับ..แต่ผมเชื่อครับ..
ธรรมชาติไม่ได้มีแค่รูปธรรม แต่มันมีนามธรรมด้วย และสมองเป็นแค่เครื่องมือของจิตไม่ใช่ตัวจิต นักวิทยาศาสตร์ ค้นคว้ากันแค่รูปธรรมเท่านั้น ส่วนนามธรรมยังห่างใกลมากเพราะตั้งสมมุติฐานผิดคิดว่าเซลล์สมองคือจิต ผลลัพธ์ที่ได้จึงผิด ส่วนนามธรรมมีเครื่องตรวจจับคือธาตุรู้ซึ่งมีอยู่เดิมตามธรรมชาติอยู่แล้วในคนเรานี่เอง นักประดิษฐ์ไม่สามารถสร้างขึ้นเอง ส่วนนักค้นคว้าทางนามธรรมนั้นพวกเขาไม่ลังเลที่จะใช้ธาติรู้เป็นเครื่องมือในการศึกษาค้นคว้าวิจัยหาข้อสรุปทางนามธรรม จึงได้ข้อสรุปที่ตรงประเด็นเพราะใช้เครื่องตรวจจับได้ถูกประเภท นักสสารนิยมจึงไม่ควรด่วนสรุปว่าสิ่งที่ตนจับต้องไม่ได้นั้นไม่มีอยู่จริง ตรงกันกันข้ามควรหันมาทดลองศึกษาทางจิตให้มันรอบด้านเสียก่อนจึงจะได้ชื่อว่านักค้นหาความจริงโดยแท้ อย่าเพิ่งไปป่าวประกาศว่าตนเองมหาราชาทั้งที่ยังเป็นสามัญชนอยู่ ชาวบ้านชาวอื่นที่เขาหูตายังดีจะหัวเราะเอา
เขาทำไม่ได้ครับ เขาฝึกจิตไม่ได้เลยหันมาทำสิ่งที่ตาเห็นแทนมันง่ายกว่ามั้ง ก็น่าจะใช่
มี ประสบการณ์ พบว่่่ามีจริง
♥️♥️♥️
จิตรนั้นเกิดจากธรรมชาติ..แล้วธรรมชาติเกิดขึ้นมาได้อย่างไรก็เกิดมาจากตัวเรา.
ถูกต้องครับ..ตายแล้วเป็นอาตอม..จิตวิญญาณไม่มีหลงเหลืออยู่หลังความตาย..มันเป็นผลที่เกีดจากสมอง..ถ้าเราตายสมองก็เน่าแล้วจิตวิญญาณก็หายดับไปพร้อมกับความเน่าของสมอง..สิ่งที่หลงเหลืออยู่หลังความตายก็คือ.สะสารและอาตอม
เราจะรู้ความจริงก็ต่อเมื่อเราตาย มีหรือโลกจะให้เรากำเนิดมา มีที่อยู่ที่กินใช้ชีวิตไปวันๆแก่แล้วตายแล้วจบมันต้องมีมากกว่านั้นซิเชื่อเถอะ
มีหรอพระเจ้าสร้างโลกมาให้คนอยู่เเต่มีปัญหาเเต่ผมไม่เปลี่ยนให้ดีในเมื่อกำหนดดวงได้ให้ดวงได้ตายเเลัวเกิดใหม่สามารถกำหนดให้จนหรือรวยได้ทำไมไม่เปลี่ยน
คนที่ระลึกชาติได้ วิทยาศาสตร์จะอธิบายยังไง
วิทยาศาสตร์ยึดติดกะความคิด เมื่อคนเราตายสมองก็หยุดทำงาน แค่ตายแล้ววิทยาศาสตร์ไปต่อไม่ได้ ก็เลยตัดจบแบบนี้ พูดง่ายๆคือการหาเหตุผลหลังตายคือวิทยาศาสตร์ถึงทางตันพิสูจน์ไม่ได้ ก็เลยคิดว่าตายแล้วสูญ แน่นอนขันธ์ห้าสูญเกือบหมดยกเว้นใจ
ถ้าโลกคุ่ขนานทางวิทยาศาสตร์มีจริง โลกหลังความตายก็มีจริง
มี! ..
วิทยาศาสตร์ปัจจุบันไม่ก้าวหน้าพอจะพิสูจน์ได้
ก็ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่วิทยาศาสตร์ปัจจุบันพิสูจน์ไม่ได้ไม่มีนะ
เห็นโต้เถียงกัน แล้วอดไม่ได้ ต่อไปนี้มาจะอธิบายเรื่องของ การเวียนในวัฏจักร-วัฏจิตร
ทั้งจักรวาลไม่มีอะไรจริงครับ แต่จิตใจ เป็นธาตุดั้งเดิมบริสุทธิ์ มีอยู่จำนวนเป็นอนันต์ และถูกมลทิน คือ อวิชชา ล่อหลอก ให้มาหลงติด ใน รูป นาม โดยมี มโนวิญญาณ เป็นผู้ปรุงแต่งความรู้สึก ทำไมดูจริงจังไปหมด ไม่ว่าจะเป็น กามภพ และ รูปภพ ไม่ขออธิบาย เพิ่มมากกว่านี้ แต่ผมสงสาร และ เมตตา พวกคุณที่เป็นเพื่อนร่วมเกิดร่วมตาย จริงๆ พวกคุณเกิดมาได้มีอัตภาพ มีรูปร่างกาย และยังได้เป็นสัตว์ผู้มีปัญญาในการพิจารณาธรรม เพราะ รากบุญเก่าแท้ๆ แต่พวกคุณขาดปัญญา เกิดมา กิน เที่ยว เสพสุขในตัณหา จนไม่เคย พิจารณา บาปบุญ กรรม ธรรมแต่ง เสียดายชาติที่เกิดเป็นมนุษย์ เหลือเกิน
ทำไมหนอ เวไนยสัตว์ ถึงมีดวงตามืดบอดขนาดนี้ และปัญญายังมืดบอดซ้ำๆไปอีก
ยังต้องมี พระพุทโธ อุบัติเพิ่ม อีกกี่แสนล้าน พระองค์หนอ เวไนยสัตว์ ถึงจะเข้าสู่ ธาตุบริสุทธิ์เดิม ที่จากมานานแสนนาน
พวกเรา (จิตใจ) นี้ เขารอกลับบ้าน อยู่นะครับ สงสารเขาหน่อย ใช้ปัญญา พิจารณาธรรมเนืองๆด้วยเถิด ขอให้ได้กลับบ้านกันทุกผู้ ทุกภูมิ นะครับ
ผมเบื่อไม่อยากอธิบายอะไรแล้ว ถึงจะกี่มีภาษาอุบัติขึ้น เวไนยสัตว์ ก็ ยังหลงติดไม่ได้ไปไหน
ถึงจะ อธิบายอะไรไป ก็เหนื่อย
ผมน้ะ เมตตา สงสาร อยากช่วย ให้พ้นทุกข์ ทุกภูมิ จริงๆ แต่ผมคงต้องหยุด ช่วยตัวเองก่อนแล้ว ผมเหนื่อยเหลือเกิน เหล่าสรรพสัตว์ ผู้มีทุกข์ใหญ่ฯ สาธุๆฯ ใครที่เข้าใจ สิ่งที่ผมสิ่อออกไป ขอให้ทุกผู้ ทุกภูมิ ผู้ฝักใฝ่ วิมุตติธรรม ได้พ้นไปจากทุกข์ทั้งมวล ในสงสารนี้ด้วยเทอญ , เจริญในธรรม
เรื่องตายแล้วไปไหน มันเป็นเรื่องของความเชื่อ ไม่มีทางพิสูจน์ได้ทางอายตนะ ๖ สภาวะจิตต้องเกิดปัญญารู้แจ้งเห็นจริง ที่เกิดจากการใช้ความเพียร ใช้สติเข้าไปกำหนดสิ่งที่เกิดขึ้นทางกายและใจ เพื่อให้เกิดปัญญาหยั่งรู้อย่างแจ่มแจ้ง
แล้วผีมาจากไหนครับ เพราะตอนเด็กเคยเห็นผีพร้อมเพื่อน เห็นในระยะห่างสองเมตร สมองคนเราจะผิดปรกติได้พร้อมกันเหรอครับ
งั้นต้องลองเจออีกครับ บางที คนหลอกกันเอง ก็มี ตาฝาดก็มี สิ่งแปลกปลอม ที่ทำให้เราคิดเป็นผีก็มี
ถ้าเคยเจอผี จะไม่สงสัยเรื่องโลกหลังความตาย/ผีอีกเลย
สมอง ._.
แป๊บๆอายุจะ40แล้วสิเรามันใกล้เข้ามาทุกทีละความจริงที่สงสัยมานานแสนนานทางกายเริ่มมาหลายโรคอุบัติเหตุก็จะมาเมื่อไรก็ไม่รู้พยายามไม่ประมาทดูแลสุขภาพบ้างเล็กน้อยสรุปก็ยังไม่อยากไปรู้ความจริงเลย...แต่ไม่นานก็คงต้องไปเซ็งๆๆ...
เรื่องการระลึกชาติ มีจริง หลายกรณีแล้ว ฝรั่งก็ศึกษา
ไม่รู้เสียยังจะดีกว่า
แต่เมื่อคุณพบกับความทุกข์แสนสาหัส
การได้รู้สิงนี้ถือว่าเป็นโชคดีของคุณ
ก่อนที่คุณจะตัดสินใจทำอะไรลงไปโดยไม่รู้เพื่อให้พ้นทุกข์พ้นกรรม
นอนไม่หลับ มาแอบฟัง
😂😂😂👍
เราคิดว่าไม่มีหรอกชีวิตหลังความตาย เราเชื่อว่าสมองเป็นตัวสั่งการทุกอย่างแหละ อย่างผีอำ ผีเข้า ภาพหลอน ก็พิสูจน์แล้วว่าเกิดจากการทำงานของสมอง สมองเราอัศจรรย์มากนะ แม้แต่เพิ่มพละกำลังให้บางคนแบกโอ่งหนีไฟไหม้ยังได้เลย การที่เราเชื่อเรื่องวิญญาณ เรื่องชีวิตหลังความตาย เป็นเพราะเราติดกับดักทางศาสนามากกว่า ทุกศาสนาสอนให้เราเป็นคนดีทำความดีจะได้ขึ้นสวรรค์ หรือไปเกิดใหม่ในที่ดีๆ พวกเราจึงเชื่อมโยงว่าต้องมีบางอย่างหลงเหลือหลังจากร่างกายตาย เราจึงคิดว่ามีต้องมีวิญญาณหลงเหลืออยู่ จึงจะส่งต่อไปชีวิตหลังความตายตามหลักคำสอนของศาสนาได้
ศาสดาทุกศาสนาเพียงต้องการสอนให้เราเป็นคนดี แต่มนุษย์ก็มีหลากหลายประเภทเนอะ อธิบายให้บรรลุแล้วปฏิบัติดีตามท่านไม่ได้ทุกคน ท่านจึงใช้กุศโลบายให้กลัวตกนรกแทน
ส่วนตัวเราเชื่อว่าสมองตายทุกอยากก็จบ ไม่มีหรอกวิญญาณ นรกสวรรค์อยู่ที่ใจ ทำชั่วก็กระวนกระวายไม่สบายใจเหมือนตกนรกอยู่แล้ว
แต่ไม่ต้องเถียงกัน สักวันในอนาคตคำตอบนี้ก็น่าจะไขได้ มีคนเก็บร่างแช่แข็งไว้จำนวนหนึ่งแล้ว ถ้าคนเหล่านี้สามารถพื้นขึ้นมาได้ ก็ได้คำตอบเอง
ใช่ครับ ไม่มีจริง เพราะมนุษย์เรา
ไม่เคยมีไคร ตายจริงๆ หรอก
เม้นท์นี้จริงที่สุดค่ะ
ผมชอบดาวินซี่
คำถามนี้กระจ่างมานานแล้ว เหลือแค่พวกที่ยังเชื่อเท่านั้นที่ยังไม่เปิดใจ
นรกสร้างมาก่อนไดโนเสาร์หรือหลังไดโนเสาร์ตาย หรือนรกไม่มีจริงๆแต่แค่หลอกให้คนกลัวไปงั้นๆ
จิตรจากการเกิดคลเรานั้นเกิดจากแสงท่าไม่มีแสงก็ไม่ได้เกิดเพราะกายเรานั้นมีดินกับน้ำที่เรามีชีวิตอยู่ได้ด้วยลมเราได้จนครบจึงได้อากาศ..เราอย่าหลงอย่างเดียว
เรื่องทั่งหมดแค่เรื่องสมมุติ ไม่มีใครรู้หรอกว่า หลังความตายเป็นยังใง แต่ผมเชื่อวิทยาศาสตร์ กรรม ชดใช้ในชาตินี้ นรก สวรรค์ มีแค่บนโลกนี่แระ โลกอื่นไม่มีแล้ว มีแต่จักวาลอันใกล้โพ้น ทุกวันนี้มนุษย์ ใช้ชีวิตเพราะ วิทยาศาสตร์ฯ ทีมีการทดลองแล้วทำขึ้นใด้จริงทั้งนั้น แค่โทรศัพท์ที่ใช้ วิทยาศาสตร์ ทั่งนั้น
โอยยยยยย อยากหัว
ธรรมทาน ....... ใฝ่รู้ในพระสูตร พระไตรปิฎก ...เรื่องโลกวิญญาณ ล่วงวิสัยตา...ม นุษย์ ทิพพจักษุวิสุทธิเย BEYOND The human eye sight.....สตีเวน ฮอรคิง ... ฯลฯ ไม่รู้ 🥇
มันเป็นอีกมิติหนึ่งครับมันมีจริง
คุณดูหนังเยอะไปหรือเปล่า
เรารู้สึกโง่มากที่คิดจะฆ่าตัวตายทั้งที่มันเป็นชีวิตอันเดียวที่มีเราเลยคิดว่าจะใช้ชีวิตให้คุ้ม
แก้หน่อยครับ ศาสนาอื่นเป็นความเชื่อ แต่ศาสนาพุทธคือความจริงที่รู้จริงๆจากผู้ที่มีญาณฌาณและการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าครับ
วิทยาศาสตร์ จะเป็นจริงก๊เมื่อเป็นกฎ ไม่ใช้แนวคิด สรุปคือยังหาคำตอบไม่ได้ แนวคิดไอน์สไตน ใกล้เคียงสุดคือวัดทีสะสาร(น้ำหนัก)เทคโนโลยียังไม่ถึงเท่านั้นเอง
#ชาติหน้ามีจริงไหม
"กายนี้เป็นกรรมเก่า
ไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย
และทั้งไม่ใช่ของบุคคลเหล่าอื่น"
ผมเคยเห็นผี เป็นรูปร่างคล้าเงาคนสีเทาๆ
แล้วผีมีจริงมั้ยครับ
ผมว่าพลังงานหนือเคลื่นไฟฟ้ามีอยู่จริงธรรมชาติที่ทำให้เกิดไฟฟ้ามีอยู่จริงเราก็เอางานที่เกิดจากธรรมชาต
แล้วเป็นไปได้ว่าวิญญานมีจริง
มีชีวิตครั้งเดียว ใช้ให้คุ้มกับที่เกิดมาเป็นคน ค้ะ