Personality disorders Part 2: Cluster B (The drama group)

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 10 ก.ย. 2024
  • #personalitydisorders #clusterb #emotionalvampires
    สวัสดีค่ะ มาสู่ความผิดปกติในหมวดที่เราน่าจะคุ้นเคยกันดี นั่นก็คือ Cluster B ซึ่งถือเป็นกลุ่มสำคัญ และเป็นกลุ่มใหญ่ที่มักจะเกิดปัญหาให้กับสังคม และนำความปวดหัวปวดจิต มาให้ผู้ที่ต้องอยู่ร่วมด้วย หรือพบเจอ
    โดย main features ของความผิดปกติในหมวดนี้ นั่นก็คือ ความ Dramatic, emotional and egocentric รวมถึงการขาดความสามารถที่จะยับยั้ง ชั่งใจ หรือคอนโทรลพฤติกรรมตนเอง ( impulsiveness) ดังนั้นบุคลิกภาพในลักษณะนี้ จะค่อนข้างไม่มั่นคง วันหนึ่งดี วันหนึ่งร้าย ซึ่งก็มาจาก ความเข้าใจเกี่ยวกับตนเอง และผู้อื่นที่ไม่มั่นคง
    โดยสาเหตุส่วนหนึ่งเชื่อว่า อาจมาจากการถูกเลี้ยงดู รวมถึงพันธุกรรมของครอบครัว
    อย่างไรก็ดี การที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งจะเข้าข่ายว่ามีลักษณะความผิดปกติทางบุคลิกภาพนั้น จะต้องได้รับการวินิจฉัยจากผู้เชี่ยวชาญค่ะ
    ความรู้ในส่วนนี้ ถือเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น ที่ให้คุณผู้ชม ได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับความผิดปรกติของบุคลิกภาพของมนุษย์ เพราะบางครั้ง บุคคลที่เราพบเจอ ก็อาจจะไม่ได้เป็นบุคคลที่มีความมั่นคงทางด้านอารมณ์ และที่สำคัญคือ ขาดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ดังนั้น หากเราไม่เรียนรู้ หรือเข้าใจถึงความแตกต่างของมนุษย์ เราก็อาจหลงไปมีความสัมพันธ์กับคนที่คิดไม่ดี คิดไม่ซื่อ ต้องการแต่จะหาผลประโยชน์ส่วนตน จนนำมาสู่ความปวดหัว ปวดจิตให้กับเราได้ค่ะ
    แต่ที่สำคัญ เราทุกคนก็มีบุคลิกที่แตกต่างกันไปนะคะ และความเห็นแก่ตัว รวมถึงความหลงตัวเอง ก็มีอยู่ในมนุษย์ แต่ขึ้นอยู่ที่ว่าจะมีมากหรือน้อย และมีผลต่อการใช้ชีวิตหรือไม่ค่ะ
    ดังนั้นจึงฝากหัวข้อนี้ไว้ ให้คุณผู้ชมได้รับฟัง เป็นความรู้รอบตัวค่ะ

ความคิดเห็น • 16

  • @ananyameesaengpan6742
    @ananyameesaengpan6742 3 ปีที่แล้ว

    ขอบคุณมากคะ่ ที่ ทำ/คลิปออกมา กำลัง เผชิญ หน้า ทุก อย่าง

  • @cheriementhe4689
    @cheriementhe4689 3 ปีที่แล้ว +1

    ขออนุญาต ถามเพิ่มเติมคะ สงสัยว่า strong personality เป็นนิสัยด้านดี หรือไม่ดีคะ ?

    • @thebodyandsoul_bygiftparichat
      @thebodyandsoul_bygiftparichat  3 ปีที่แล้ว +1

      สวัสดีค่ะ ขออภัยที่ตอบกลับช้านะคะ ไม่ทราบว่า Strong personality ในที่นี้ คุณผู้ฟังหมายถึง ความเข้มแข็งอดทน ความเด็ดเดี่ยว แน่วแน่หรือปล่าวคะ หรือว่าคุณผู้ฟังหมายถึง การแสดงออกอย่างเด่นชัด ของบุคลิกที่มีอยู่ หากเป็นในส่วนแรก หรือลักษณะความเข้มแข็ง ที่บางคนมีนั้น จะว่าไปโดยรวม ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีนะคะ เพราะมันทำให้บุคคลคนนั้น ไม่ย่อท้อ หรือหากเมื่อย่อท้อ ก็ยังพยายามลุกขึ้นสู้ได้โดยง่าย ซึ่งก็อาจทำให้มีพลังก้าวผ่านปัญหาในชีวิตไปได้ง่าย แต่ทว่า หากตัวเรามีความอดทน เข้มแข็งที่มากเกินไป ในบางครั้ง มันก็อาจทำให้ตัวบุคคลนั้นสร้างความกดดันให้กับตัวเองได้เช่นกัน เพราะว่ามนุษย์ แท้จริงแล้วก็จะมีหลายๆความรู้สึก หลายๆบุคลิกภาพ ทั้งความเปราะบาง และความเข้มแข็งที่ต้องผสมผสานกันไป ซึ่งหากเราเข้มแข็งมากไป เราก็อาจจะไม่รู้จักความโอนอ่อน ทั้งต่อตนเองหรือต่อผู้อื่น ซึ่งมันก็อาจนำไปสู่ ความ Perfectionism หรือความกดดันว่าต้องทำให้ได้ ซึ่งหากมากไป ก็จะทำให้ชีวิตขาดความสงบสุขได้เช่นกันค่ะ แต่หากเป็น strong personality ในแบบที่สอง หรือบุคลิกที่มีอยู่นั้น มีความสุดกู่ อันนี้ก็อาจค่อนไปในทางไม่ดีมากกว่าดี เพราะว่า ไม่ว่าจะเป็ยบุคลิกภาพในรูปแบบไหนก็ตาม ตัวอย่างเช่น ความชอบเข้าสังคม หรือความเป็นคนระมัดระวัง หากเราชื่นชอบการพบปะผู้คนมากเกินไป เราก็จะไม่สามารถใช้เวลาอยู่กับตัวเองได้ กลายเป็นการต้องเอ็นเตอร์เทนตัวเราเองตลอดเวลา หรือหากเรามีความระมัดระวังเกินไป หากมากไป เราก็จะเป็นคนย้ำคิดย้ำทำได้ค่ะ ดังนั้น การลองทำความเข้าใจตนเอง และเรียนรู็ที่จะลองโอนเอียงตนเอง ให้อยู่ในส่วนที่พอดี ดิฉันคิดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ในการใช้ชีวิตค่ะ ดิฉันเองไม่แน่ใจว่าตอบตรงคำถามหรือไม่ หากคุณผู้ชมยังมีข้อสงสัย ก็สอบถามเพิ่มเติมเข้ามาได้ค่ะ

  • @ananyameesaengpan6742
    @ananyameesaengpan6742 3 ปีที่แล้ว

    แฟนหนู เป็นโรคหลงตัวเอง ไม่เข้าสังคม ขาดความเห็นอกเห็นใจ ชอบอยู่ โรคส่วนตัว เปลี่ยนไป กลับอิจฉา เรา โกหก เผื่อ ไห้ ได้ สิ่ง ที่ต้องการหนู ทุกข์ ใจ มาก กดดัน ขายใจลำบาก มาก เมื่อ ใช้ ชีวิต ด้วยกัน อารมณ์ รุ่นแรง มากไม่สนใจ คน รอบข้าง นับวันยิ่ง ลึกเข้า ไป เขา ไม่พูด แต่ จะ_ ใช้ การ กระทำ อย่าง เช่น เปิดเพลง ไม่ ทำ อะไร คิด ว่าทุก อย่าง เรา ต้องทำ เหมือน เขา ใช้ เรา เป็น เครื่องมือ เชา จะ_ไม่เคยผิด เลย จะ_ ต้องโทษ เรา ตลอด และอีก อย่าง สามารถทำไห้ เรา อับอาย แบบ สุขภาพ จิตใจ กนู แย่ มาก เคย ช่วย เขา แต่ เขากลับทำร้าย เรา หลาย อย่าง เขา ค่อนข้าง ดูดี แต่ จริงๆ แล้ว Toxic

  • @weareallthebadinsomeonesst7779
    @weareallthebadinsomeonesst7779 3 ปีที่แล้ว +1

    ขอถามเป็นความรู้เพิ่มเติมหน่อยค่ะ จะเป็นไปได้มั้ยคะที่
    1.) จะมีลักษณะอาการผสมกันระหว่าง NPDกับHistrionic หรือ
    2.) จากอาการ NPD กลายร่างมาเป็น Histrionic ได้

    • @thebodyandsoul_bygiftparichat
      @thebodyandsoul_bygiftparichat  3 ปีที่แล้ว

      สวัสดีค่ะ ขอบคุณสำหรับคำถามนะคะ
      NPD กับHistrionic PD มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะเกิดขึ้นพร้อมกัน และมีคาแร๊กเตอร์ที่ทับซ้อนกันค่ะ จากบทความของมหาวิทยาลัยAppalachian State ในสหรัฐอเมริกา เขียนถึงเกี่ยวกับการเกิดโรคพร้อมกันของ NPD กับHPDเอาไว้ถึง 53% โดยเกิดขึ้นพร้อมกันมากกว่าความผิดปกติอื่นๆ ในหมวดclusterB เพราะฉะนั้นอาการที่พี่สาวของคุณ Noo Dai แสดงออกมา ก็อาจเป็นอาการที่เกิดขึ้นร่วมกันของสองความผิดปกตินี้ได้ค่ะ แต่ทั้งนี้ดิฉันก็ไม่อาจคอนเฟิร์มได้หรอกนะคะ ว่าพี่สาวของคุณNoo Daiจะมีอาการของความผิดปกติเกี่ยวกับบุคลิกภาพหรือไม่ แต่อย่างไรก็ดี ดิฉันหวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ให้คุณNoo Daiเข้าใจถึงความแตกต่างของมนุษย์ และการใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง เมื่อต้องอยู่ร่วมกับบุคคลที่คิดแตกต่าง หรือมีความเห็นอกเห็นใจที่น้อยกว่าคนอื่นๆทั่วไป เพื่อที่จะได้หลีกเลี่ยง ปัญหาความขัดแย้งกับบุคคลเหล่านี้ค่ะ ขอให้คุณNoo Daiใช้ชีวิตได้อย่างสงบสุข ห่างไกลคนที่คิดลบๆค่ะ

    • @weareallthebadinsomeonesst7779
      @weareallthebadinsomeonesst7779 3 ปีที่แล้ว +1

      @@thebodyandsoul_bygiftparichat
      เรามีความมั่นใจแน่นอนค่ะว่าพี่และแม่เค้าเป็นNPDเพราะเราศึกษาฟังจากอินเตอร์เน็ตแล้วเอาทุกเรื่องที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตที่เราได้ใช้ชีวิตกับพวกเขามาประกอบซึ่งมันตรงทุกประเด็นที่เจอมาในชีวิตเลยค่ะ กว่าจะอ๋อได้ก็ผ่านอาการโรคซึมเศร้าเคยทานยาต้านเศร้าสติสตางค์หายมาแล้วเรียบร้อย และล่าสุดมาเจอเพื่อนที่เป็นNPD ชนิด Covert ก็ผ่านการโดนสูบพลังกายเครียดนอนร้องไห้มาแล้วเหมือนกัน และมีอีกหนึ่งคำถามขอคำแนะนำหน่อยค่ะคุณกิ๊บ เราจะสามารถใช้คำพูดโน้มน้าวใจวิธีใดเพื่อให้เพื่อนที่เป็นCovertตัดสินใจไปพบแพทย์ได้คะ?
      เรามีปากเสียงและไม่พบปะเข้าใกล้เค้ามาพักใหญ่แล้วเพราะเค้าชอบพูดจาไม่ดีดูถูกเราให้รู้สึกด้อยค่า เข้ามาจะเอานู่นนี่นั่นให้เราแบกขวดน้ำและเสื้อแจ็คเก็ดเค้าเดินป่าไปกลับ 10 กม.เพราะเราเอากระเป๋าเป้มาด้วยและไม่มีความคิดจะช่วยบ้างเลย มาคิดช่วยก็ตอนใกล้จะถึงบ้านแล้ว เราหนักเดินช้าอยู่หลังสุดคนเดียว และครั้งที่ตัดสินใจไม่เข้าไปสุงสิงเพราะเค้าโทรมาก่อกวนเราในเดือนวันเกิดเค้า เมื่อเราบอกว่าอยู่ร้านอาหารทานข้าวอยู่ เค้าก็ใช้คำพูดชวนให้เราเก็บอารมณ์โกรธไม่อยู่ ต้องเดินออกไปลั่นให้เบาที่สุดบริเวณนอกร้าน(แต่คนที่นั่งข้างนอกก็ได้ยินอยู่ดี) เราปรึกษากับเพื่อนฝรั่งว่าเราควรเปิดใจคุยบอกให้เค้ารู้ว่าสิ่งที่เค้าทำที่ผ่านมาเราไม่ชอบและมันไม่ถูก เราเสียใจ เรามีอาการร้องไห้หมดพลังกายใจ เราเคยเป็นซึมเศร้า เหล่านี้ควรบอกเค้าหรือไม่คะ และจะทำให้ส่งผลกระทบอะไรภายหลังหรือไม่คะ เพราะเรากลัวเค้าจะเก็บเอารายละเอียดที่เราเป็นโรคซึมเศร้ากลับมาเล่นงานเราในภายหลัง เพราะสมัยนี้คลิกหาความรู้ได้ง่ายๆผ่านอินเตอร์เน็ต
      เพื่อนฝรั่งคนนี้เค้าต้องการจะช่วยเราพูดกับเพื่อนผิวสีคนนี้ด้วยค่ะ และเพื่อนฝรั่งบอกถ้าเค้าพูดจาทำอะไรไม่ดีใส่เราอีก ให้บอกให้เค้าหยุดและบอกว่าเราไม่ชอบ ให้เราฝึกกล้าบอกเขาไปบ่อยๆ เผื่อความคิดที่ถูกต้องจะไปทะลุทะลวงจิตใต้สำนึกเขาสักวัน

    • @weareallthebadinsomeonesst7779
      @weareallthebadinsomeonesst7779 3 ปีที่แล้ว +1

      ขออีกคำถามค่ะ พูดถึงเวลาเค้าได้เสบียงอารมณ์เชิงบวก เราเคยสังเกตจากพี่เราและเพื่อนผิวสี 2คนนี้เวลาเราชมว่าเค้าสวยเค้าดีนู่นนี่นั่น พบว่าเค้าเหมือนสูดหายใจเข้าเฮือกและเงยหน้าขึ้นหน่อยๆ (เหมือนในหนังเวลาผีสูบวิญญาณ)อาการแบบนี้ตอนได้รับเสบียงอารมณ์เชิงบวกนี่เป็นไปอย่างที่คิดหรือเปล่าคะ

    • @thebodyandsoul_bygiftparichat
      @thebodyandsoul_bygiftparichat  3 ปีที่แล้ว +1

      @@weareallthebadinsomeonesst7779 สวัสดีค่ะ ลักษณะอาการที่คุณกล่าวมานั้น เป็นไปได้ค่ะ เนื่องจากบุคคลที่มีความ grandiose หรือหลงตัวเอง ซึ่งเป็นคีย์สำคัญของความผิดปกตินี้ จะพยายามก๊อปปี้ท่าทาง ของคนที่เขาชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็น นักแสดง ดารา หรือคนดังที่มีอิทธิพล เพราะในจิตใจของเขานั้น บุคคลเหล่านี้คือคนที่เขาคู่ควร และควรเอาเป็นแบบอย่าง เพื่อที่เขาจะได้ดูเพอร์เฟคเหนือกว่า และแตกต่างจากคนทั่วไป ดังนั้นการที่จะอยู่ร่วมกับคนเหล่านี้ หากเลือกไม่ได้ คือการคล้อยตาม ชื่นชมเขาไป แต่แน่นอนว่า เมื่อคุณหยุดเทิดทูนชื่นชมบุคคลเหล่านี้ เขาก็อาจจะคอยมาพาลหาเรื่อง เนื่องจากบุคคลเหล่านี้ ชื่นชอบความสนใจจากบุคคลรอบข้างอยู่ตลอดเวลาค่ะ

    • @thebodyandsoul_bygiftparichat
      @thebodyandsoul_bygiftparichat  3 ปีที่แล้ว

      @@weareallthebadinsomeonesst7779 สวัสดีค่ะ ขอบคุณสำหรับคำถามนี้นะคะ ก่อนอื่นเลยในความคิดเห็นส่วนตัวของดิฉัน คุณไม่ควรเล่าให้เขาฟัง ถึงอาการซึมเศร้าที่คุณเคยมีค่ะ เนื่องจากบุคคลประเภทนี้ ชื่นชอบที่จะเป็นคนสำคัญ และไม่ได้มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นด้วยใจจริง เขาอาจแสร้งเสมือนว่าเห็นอกเห็นใจบุคคลรอบข้าง แต่นี่ก็เพื่อการได้มาซึ่งความชื่นชมจากบุคคลอื่นๆ ดังนั้นเขาจะชื่นชอบมาก หากคุณจะต้องไปอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับตัวคุณให้เขาฟัง เขาอาจจะยิ่งรู้สึกสำคัญ และที่สำคัญที่สุดยิ่งไปกว่านั้น สำหรับตัวคุณเอง นั่นคือ การที่จะต้องคอยแคร์ การรู้สึกผิด ซึ่งดิฉันมองว่า คุณมีความจริงใจ ความเห็นใจ ซึ่งถือเป็นquality ที่ดีมากๆสำหรับสังคมของเรา และบุคคลเหล่านี้ก็ชื่นชอบความจิตใจดีของคุณเช่นกันค่ะ ดังนั้นจึงต้องยิ่งระวังในการให้ความจริงใจกับใครสักคน เพราะบุคคลเหล่านี้คิดว่าคุณจะรู้สึกผิด เมื่อทำให้บุคคลเหล่านี้ไม่พอใจ และจะคอยแคร์เขาเสมอ
      ดังนั้นวิธีรับมือกับ narcissist ในกรณีของคุณ ดิฉันมองว่าทำได้ 2 วิธีค่ะ โดยวิธีที่หนึ่งคือ การพยายามห่างออกมา ดิฉันไม่ทราบว่าคุณสนิทหรือต้องพึ่งพาเขาในการทำงานหรือดำเนินชีวิตหรือไม่คะ หากไม่ ก็จะยิ่งง่ายเลย โดยการไม่รับโทรศัพท์ ไม่ต้องให้เขาเห็นsocial media ของคุณ เพราะบุคคลเหล่านี้ก็จะคอยตามดู เพื่อที่จะล่วงรู้ว่าคุณมีความสุขหรือไม่ อย่างไร ดังนั้นเมื่อคุณไม่ให้เขาล่วงรู้ ไม่ติดต่อ หากไม่จำเป็น และในขณะเดียวกัน หันมาทำกิจกรรมใหม่ สร้างเพื่อนใหม่ หรืออะไรก็แล้วแต่ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคลคนนี้ เพื่อที่คุณจะมีช่องทางปลีกตัวออกมา และเลิกคบหาไปในที่สุด
      วิธีที่สอง คือการบอกเขาไปตรงๆว่า คุณไม่ชอบในสิ่งที่เขาทำ และหากเขาไม่เปลี่ยนแปลงตนเอง ก็อย่ามายุ่งกับคุณอีก เพราะมีเหตุการณ์หลายๆครั้งเกิดขึ้น และคุณรู้สึกไม่ชอบใจ และคิดว่าคงต้องพูดสักที โดยให้ทิ้งท้ายไปว่า เขาจะเข้าใจหรือไม่ ไม่รู้ แต่คุณไม่โอเคหากเขาปฎิบัติตนแบบนี้กับคุณอีก โดยคุณไม่ต้องอธิบายอะไรมากมายหรอกนะคะ ขอจงคิดเสมอว่า เขาไม่คู่ควรกับความจริงใจ ความรักของคุณ แล้วพยายามห่างออกมา แต่ข้อเสียของวิธีนี้คือ เขาก็อาจจะ มาขอโทษ และเมื่อคุณให้อภัย เขาก็ทำแบบเดิมอีก เพราะเขารู้ว่าคุณมีความจริงใจ ความเห็นใจ ที่เขาหวังจะได้จากคุณเสมอ ดังนั้น การตัดขาดโดยไม่ต้องเล่าอะไรมากมายก็ดีเช่นกัน หรือจะอธิบายในแบบข้อสองนี้ แต่หากเขาเกิดไม่พอใจ ก็ขอให้คุณใช้โอกาสนี้ตอบกลับเขาไป เพราะการใช้อารมณ์ของเขาแบบนี้ ทำให้คุณไม่อยากคบหาด้วยค่ะ ดิฉันก็หวังว่าเขาจะเลิกตอแยกับคุณไปได้ในที่สุดนะคะ ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ

  • @artsumaauzmar2081
    @artsumaauzmar2081 3 ปีที่แล้ว

    คุณกิ๊บพอจะบอกได้ไหม ว่ามีที่ไหนจะรักษาให้ดีขึ้นได้ไหม
    เราน่าจะเป็นหลายตัวผสมกัน ไม่อยากเป็นเลย เพราะที่ผ่านมามันทำลายชีวิตเราอย่างมาก