ไม่เกี่ยวมันอยู่ในสายเบือดอยู่แล้วความรุนแรงของสิ่งมีชีวิตแค่รอวันถูกปลุกเร้าขึ้นมา เมื่อถูกกระตุ้นเช่นถูกคุกคามรึถึงจุดสิ้นสุดของความอดทนนั้นแหละมันจะออกมาเองโดยอัตโนมัติมันฝังอยู่ DNA อยู่แล้วมาจากไหนเพราะการเลี้ยงดูความรุนแรงมีอยู่ในทุกคนแต่มันแค่หลบอยู่ในห้วงจิตใต้สำนึกก็เท่านั้น
อย่าลืมกดไลค์เป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะครับ😚
ไม่ว่าจะอย่างไหนทุกคนก็ล้วนสามารถละทิ้งความรุนแรงได้ คิดให้มาก ตั้งคำถามให้มาก เมื่อเห็นคนที่ก้าวร้าวและรุนแรง จงสงสัยว่าทำไมเขาถึงเป็นเช่นนั้น แทนการปะทะตรงๆ หากคุณต้องการที่จะช่วยเหลือเขา จงช่วยเหลือ หากคุณรู้สึกเป็นทุกข์ที่เกิดจากความก้าวร้าวของเขา ก็จงหลีกหนี หากคุณคิดที่จะ ตาต่อตา ฟันต่อฟัน คุณจะฟันหักและตาบอด ความรุนมีแต่ความน่าเศร้าตามมา เช่นเดียวกันกับสงครามที่มีเพียงแค่กลิ่นคาวเลือดและความตาย ความรุนแรงนำมาเพียงแต่ความโศกเศร้า "จงเป็นคนที่ดีกว่า" อย่าปฏิเสธความอ่อนโยนจากจิตใจเพียงเพราะกลัวถูกปฏิเสธเพราะคิดว่าความอ่อนโยนคือความอ่อนแอ จงเรียนรู้ที่จะเข้าใจและเห็นใจผู้อื่น แทนที่จะด่าทอกัน จงถามว่าทำไมคุณถึงคิดเช่นนั้น หากรู้สึกว่าไม่สามารถเข้าใจกันได้ ก็จงแยกย้าย ต่างคน ต่างความคิด คนเราเปลี่ยนความคิดคนอื่นไม่ได้ มีเพียงแค่ตัวเขาเองเท่านั้นที่จะเปลี่ยน หากคุณเป็นคนดี จงดีต่อไป หากคุณรู้สึกว่าคุณยังไม่ดี จงพัฒนาต่อไป
สุดยอดเลย ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันความคิดเห็นนะครับ
ธรรมชาติเป็นเรื่องของการdominateล้วนๆ ธรรมชาติเต็มไปด้วยความรุนแรง เวลาพูดถึงธรรมชาติคนเรามักนึกถึงภูเขาสีเขียว,พระอาทิตย์ขึ้น แต่ก็ละเลยภาพของภูเขาไฟระบิดพายุ,ทอนาโด,กาฬโรคซึ่งก็เป็นธรรมชาติเช่นกัน สำหรับมนุษย์ความรุนแรงมันฝังลึกในยีนส์ ถ้าneocortexไม่แข็งแรงสมองส่วนlimbicจะชนะเสมอ
สำหรับผมรู้สึกว่า ส่วนใหญ่กว่า 75% เกิดจากการเลี้ยงดูหรือสภาพสังคมที่อยู่ แต่ อีก 25% คือความผิดปกติทางสมองบางอย่าง ซึ่งถ้าสมมติจู่ๆอาหารก็ไม่สามารถถูกผลิตขึ้นใหม่ได้ คนดีหลายร้อยล้านคนอาจเปลี่ยนไปเป็นคนละคนก็ได้ เพราะต้องปกป้องทั้งตัวเองและคนใกล้ชิดล่ะนะ
ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันความคิดเห็นนะครับ
ความรุนแรงเป็นส่วนผสมของธรรมชาติและการเลี้ยง ซึ่งเราต้องแบ่งเป็น 2 ส่วนคือจากธรรมชาติและจากการเลี้ยง
ซึ่งจากธรรมชาติด้วย ความที่มนุษย์วิวัฒนาการจากสิ่งมีชีวิตอื่นๆก็ต้องไปดู ในอดีตซึ่งมันไม่มีศีลธรรม มันมีแต่การเอาชีวิตรอด การอยู่เป็นกลุ่ม ความรุนแรงก็คือ การเอาชีวิตรอดอีกแบบหนึ่ง รายการเข้าสู่ความเป็นผู้นำ สวนพอยิ่งผ่านไปเรื่อยๆวิวัฒนาการสมองให้ อยู่กันเป็นสังคม ความรุนแรงจริงเป็นสิ่งที่รับไม่ได้แต่ว่าก็ยังเหลือใน DNA ของเรา
แล้วมันก็ส่งผลไปถึงการเลี้ยงดูด้วย
ด้วยความที่ความรุนแรง ยังอยู่ในสมอง มันก็เลยมีโอกาสที่จะใช้และลูกก็จะจด ส่งต่อเป็นรุ่นสู่รุ่น และอีกอย่าง
ถึงแม้คุณจะไม่ได้รักจากพ่อแม่แต่คุณก็จะได้รับจากสื่อเพื่อนสังคมอยู่ดี
มันจึงเป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้เพราะว่ามันก็วนซ้ำไปซ้ำมาเป็น Positive Feedback มันจะยิ่งแรงขึ้นเรื่อยๆจนกว่ามันจะมีตัวอย่างที่ชัดเจน จนต้องหันกลับมามองตัวเอง ว่าเราทำอะไรไปบ้างวะ
อธิบายจากประสบการณ์โดยตรงเเละจากเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์นะครับ สิ่งที่ทำให้มนุษย์ชอบใช้ความรุนเเรงก็เพราะอำนาจ,ความโลภเเละทางเลือกในการเเก้ปัญหาครับ ซึ่งหลายๆอย่างมันก็มีให้เราเห็นตามข่าวหรือประสบการณ์ตรงของเราอยู่เเล้วผมเลยขอไม่ลงรายละเอียดนะครับถือว่าให้คนที่มาอ่านเมนต์ผมไปลองคิดกันเองว่าใช่หรือป่าว
ชอบช่องนี้เป็นพิเศษเลยครับ
🙏🙏🙏 ขอบคุณมากนะครับ เป็นกำลังใจมากๆเลย
ขอขอบคุณ
ขอบพระคุณมากครับ
มันมีเหตุการนึงในชีวิตที่ผมเล่นเกม rhythm แข่งกับเพื่อนเเล้วผมแพ้เขา แพ้แล้วแพ้อีกผมฝึกไปเรื่อยๆฝึกจนถึงตี1ทุกวันฝึกเพลงเดิมๆขนกว่าจะจำจังหว่ะได้ทุกจุดแต่ไม่ว่าผมจะทำยังไงก็แพ้ จนนานวันไปผมก็เริ่มเหนื่อยหน่ายการพ่ายแพ้หลายๆต่อหลายครั้งแบบไม่เคยชนะเลยมันทำผมสติแตกมากๆ ผมจำได้ว่าตอนนั้นผมต้องเดินวนในซอยสองรอบถึงหายสติแตก แล้วการฝึกก็ลวงเลยมาเรื่อยจนเขาเลิกเล่นแต่ผมก็ฝึกต่อแต่ผมรู้อย่างนึงที่ผมตอนนั้นไม่ทันสังเกตุคือไม่ว่าผมจะฝึกหนักขนาดไหนแต่ผลลัพธ์กลับตำลงเรื่อยๆจนผมทนไม่ไหวแล้วการฝึกที่ผ่านมามีแต่ความพินาศและเสียเวลามีแต่ความลมเหลวและความทรมาณที่รอผมอยู่ ตอนนั้นผมยอมรับความจริงสองข้อ คือ1ผมไม่มีพรสวรรค์ และ 2การ design ปุ่มกดมันไม่เข้ากับมือผม แต่ปัจจุบันผมหายมานานแล้วแต่ผมคิดย้อนกลับมาก็สงสัยว่ามันคืออะไรแต่ก็หาไม่เจอเลยมาถาม (อาการของผมจะเป็นเหมือนในหนังเรื่องโหมโรงในตอนที่พระเอกแพ้การดวลระนาดบนเวทีการชายชุดดำครั้งแรก หลังจากนั้นเขาก็กลับไปฝึกหนักแบบเดียวกับผมเลย)
คิดว่าความรุนแรงควรมีไว้ป้องกันตัวจากความรุนแรงอื่นๆ ทำมาทำกลับเพื่อป้องกันตัว เพราะความรุนแรงมีอยู่เสมอ ในโลกหรือจักรวาล ความรุนแรงที่คาดเดาไม่ได้ มีความเป็นมิตรก็ดี แต่ถ้าอีกฝ่ายไม่เป็นมิตรล่ะ ทำอย่างไร
เพราะมันขึ้นคือ ธาตุแท้ของมนุษย์ไงครับ มันแค่อยู่ที่ว่าเขาจะแสดงออกมาในรูปแบบไหน เช่น สีหน้า คำพูด การกระทำ สายตา
บลาๆๆๆ
ถ้าพี่บอกว่า"ส่วนใหญ่" ความรุนแรง เกิดจากสภาพแวดล้อมต่างๆที่สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นเห็น
· ทีนี้ลองมาตั้งคำถามย้อนกลับ แล้วทำไมคนนั้น เอาความรุนแรงมาจากไหน ก็จากสภาพแวดล้อมนั้นไงๆ
· สมมติเราลองถามจนถึงคนที่เป็นต้นแบบของความรุนแรงทั้งหมด เขาก็จะตอบว่า ก็อยากได้อำนาจ อยากเท่ห์ ความโลภ
· สรุปเลยก็คือ มันเป็นธรรมชาติธาตุแท้ของมนุษย์อะครับ
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นนะครับ
สุดยอด
สิ่งแวดล้อมสินะฮะ ที่ส่งผลต่อสภาวะทางอารมณ์ของสิ่งมีชีวิต
ผมเป็นเพศชายอิสลาม ผมเคยโดนความรุนแรงจากเพศชายอิสลามในโรงเรียนอิสลาม จนมันทำให้ผมกลัวเพื่อนเพศชายไปเลย 😢
โห ต้องโดนขนาดไหนถึงจะเกลียดยกเพศได้ขนาดนี้
ความรุนแรงมาจากการเปลี่ยนแปลง😢😢😢
ส่วนมากการเลี้ยงดู แต่บางที่ก็ธรรมชาติ แต่คงจะน้อยจัดๆ
คิดว่าการเลี้ยงดูและสภาพแวดล้อมสังคม
ผมมองว่ามันมาจากธรรมชาติของตัวเราและความอยากรู้อยากเห็น มีครั้งนึงที่น้าเคยพูดเรื่องที่สมัยก่อนชอบดูคลิปที่มีความรุนแรงอย่างเช่นสัตว์บาดเจ็บปางตายอะไรที่มันรุนแรงทำนองนั้นเพื่อนของเค้าก็เป็นเช่นกันแต่พอโตขึ้นก็เริ่มทนไรพวกนี้น้อยลง ซึ่งมันแปลกตรงที่รุ่นผมตอนเด็กๆก็เป็นกัน ทำให้ผมคิดว่าอารมณ์และพฤติกรรมที่มีความรุนแรงมันอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติเรา แค่ถูกกระตุ้นด้วยความอยากรู้อยากเห็นเข้าไปซึ่งนั้นกลายเป็นจุดเปลี่ยนของของความรุนแรงในชีวิตเรา เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเห็นได้ชัดว่าอยู่แค่ช่วงวัยรุ่นหรือใกล้เคียง นั้นจึงทำให้เห็นว่าพฤติกรรมเหล่านี้จะยังคงเอาไว้มากน้อยแค่ไหนตอนโตก็ขึ้นอยู่กับเหตุการ์ณที่เกิดขึ้นช่วงวัยรุน เห็นได้ชัดว่าความรุนแรงเหล่านี้มีการพุ่งสูงขึ้นพอมีความเจริญมากขึ้นแต่ก็ลดลงอย่างรวดเร็วเวลาโต เนื่องจากพวกเค้าถูกกระตุ้นด้วยสื่อของผู้ใหญ่จนพวกเค้ารับเอาความรุนแรงของผู้ใหญ่เข้าไปมากจนทำให้แนวคิดของพวกเค้าโตเร็วกว่าปกติ แต่พอผ่านช่วงนี้ไปสมองจะเริ่มปรับความเข้าใจได้เองแต่มันใช้เวลามากเกินกว่าที่คนๆนึงจะแก้ไขตัวเองได้ทัน นั้นจึงเป็นบีบอัดแนวคิดความรุนแรงให้อยู่ในรูปแบบที่เหมาะสมแทน อย่างเช่น การฉ้อโกง การใช้กำลัง กระหายอำนาจ กิเลสตัณหา ความเกรียจ และอย่างอื่น...😊
ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันความคิดเห็นนะครับผม
มาจากความสนุกที่ได้ข่มคนอื่นครับ สร้างความสุขให้ตัวเองไม่ต้องสนความทุกข์ของใครหรอก รักตัวเองดีที่สุด รับไม่ได้ก็จบชีวิตตัวเองไป
จากใจคนหัวรุนแรงนะครับ70%มาจากการเลี้ยงดู😊😊
ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันความเห็นนะครับผม
ทำอีกนะครับ
เเน่นอนครับ
การเลี้ยงดู
และภายหลังเรื่องราวของชีวิต
แน่นอนอยุ่และ 80% ส่วนมากเกิดจากที่โรงเรียนกับที่ครอบครัว จากใจคนที่โดนเพื่อนรังแก
ความรุนแรง inside out มีคำตอบครับ
วาดรูปเอง ปะคับ
❤
😍
ไม่รูจะคอมเม้นไรดี🎉
555555 ดีมากครับ
เล่นโรบอคกันครับ
เม้นต์แรก
เก่งมากครับ
น่าจะมาจากทั้งการเรียนรู้และเลี้ยงดูนะคะ เมื่อเด็กเริ่มเจอกับปัญหาและใช้ความรุนแรงเพื่อแก้ไขแล้วพบว่าคนรอบตัวเริ่มมีความหวั่นเกรงในตัวเราและไม่กล้าทำอะไรหรือเราหรือรส.ว่าเรามีอำนาจมากขึ้นก็เป็นการเรียนรู้ที่จะเริ่มใช้ความรุนแรงอีก
ไม่เกี่ยวมันอยู่ในสายเบือดอยู่แล้วความรุนแรงของสิ่งมีชีวิตแค่รอวันถูกปลุกเร้าขึ้นมา เมื่อถูกกระตุ้นเช่นถูกคุกคามรึถึงจุดสิ้นสุดของความอดทนนั้นแหละมันจะออกมาเองโดยอัตโนมัติมันฝังอยู่ DNA อยู่แล้วมาจากไหนเพราะการเลี้ยงดูความรุนแรงมีอยู่ในทุกคนแต่มันแค่หลบอยู่ในห้วงจิตใต้สำนึกก็เท่านั้น
@@God_Horrorก็ถูกปลุกด้วยการเลี้ยงดู และการเติบโตมั้ยล่ะ มันมีหรอชั่วตั้งแต่เกิด
@@God_Horrorดูทรงคุณน่าจัไม่ได้ดูคลิปนะครับ
มาจากความหิว
55555
ความรุ่นแรงเกิดจากการเลี้ยงดูตอนนี้ผมก็เป็นคนนึงืี่โตมาพร้อมกับความรุนแรกและพยายามหาทางแก้ไม่ให้ตัวเองเป็นเหมือนพวกเค้าอยู่เมื่อยามที่ผมจนมุม
ความรุนแรงเป็นเรื่องของธรรมชาติแล้วก็เป็นการเรียนรู้อย่างหนึ่งถ้าเราไม่มีความรุนแรงบางทีเราอาจจะเครียดได้เพราะเราไม่มีที่ระบายแต่ถ้าระบายขึ้นมากับคนที่ไม่ต้องการคนอื่นก็รู้สึกไม่ดีเช่นกันเพราะฉะนั้นในความคิดส่วนตัวผมควรมีความรุนแรงและใช้ให้เป็นไม่ใช่ว่าจะใช้ความรุนแรงอย่างเดียวและก็ไม่ใช่ความรุนแรงเลย
ผมคิดว่ามีนน่าจะมีจากพันธุกรรมแล้วถูกกรพตุ้นโดยสิ่งรอบข้าง
เราเกิดมาพร้อมกับความรุนแรงอยู่แล้วความรุนแรงคือสิ่งที่ใช้ในการเอาตัวรอด