ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
กราบ สาธุ ๆ ๆ ค่ะ
สาธุ
ขอน้อมระรึกกราบองหลวงตาไว้เหนือเศียรเกล้า สาธุ สาธุ สาธุ ครับ
สาธุ สาธุ สาธุ
กราบสาธุเจ้าค่ะ
สาธุเจ้าค่ะ
สาธุ...ครับ
ธรรมที่เขียนมาข้างต้นยังไม่แจ้งยังไม่แทงตลอดครับแต่หลวงตามหาบัวคือสุดยอดแห่งธรรมขรัวตาบัวที่สุดแล้วแห่งธรรมกราบขรัวตาผมจะไม่เฉลยนัยยะของขรัวตาสาธุขรับกระผม❤❤❤❤❤ 1:18:11
สาธุค่ะ
ขอน้อบน้อมกราบพระอริยสงฆ์หลวงตา สาธุ สาธุ สาธุ ครับ
🙏🙏🙏
สาธุสาธุสาธุครับ
กราบหลวงตามหาบัว
สาธุ สาธุ สาธุน้อมกราบ สาธุในธรรมคำสอนขององค์ท่านหลวงตามหาบัว ลูก สาธุๆๆอนุโมทามิ เจ้าคร้า
ความเห็นที่3) ที่เล่าว่า หลวงตารำพึงว่า”จิตของเราทำไมจึงสว่างไสวอย่างนี้น๊า” จิตจึงพูดขึ้นมาว่า”ที่ใดมีจุดหรือต่อมแห่งผู้รู้ นั่นแลคือตัวภพ” อธิบายความหมายได้ดังนี้ เพราะหลวงตาไปยึดเอาจิตว่าเป็นของเรา จิตเลยพูดเตือนว่า แม้ไปยึดเอาจิต(ผู้รู้)เพียงเล็กน้อยหรือน้อยนิด(จุดหรือต่อม)ก็ต้องเกิดใหม่(ตัวภพ-เพราะภพเป็นปัจจัยชาติจึงมี เพราะชาติเป็นปัจจัยชรามรณะโสกะปริเทวะทุกข์โทรมนัสและอุปายาสจึงมี ก้อนทุกข์นี้(ขันธ์5)จึงหมุนเวียนไปในสังสารวัฏเพราะเหตุเพียงเท่านี้) น่าเสียดายที่หลวงตาหลงเข้าใจผิดในเรื่องจิตว่า จิตเป็นผู้รู้ที่อยู่ต่างหากจากขันธ์5 และไปยึดว่าจิตเที่ยงจิตนั้นไม่เคยตายเพราะได้ฟังจากหลวงปู่มั่นว่าในคืนที่หลวงปู่มั่นสำเร็จเป็นพระอรหันต์ พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ต่างๆเสด็จมาอนุโมทนากับท่าน ด้วยเหตุนี้ท่านจึงไม่รู้ความหมายที่จิตพยายามบอก เพราะไม่รู้จึงกั้นทางแห่งพระนิพพานไปเสีย ทั้งๆที่ใน”อนัตตลักขณะสูตร”ที่ท่านแสดงในคลิปนี้ บอกออกมาจากปากท่านแท้ๆว่า”วิญญาณไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา” ที่จริงยังมีเรื่องจากที่หลวงตาเทศน์ที่วัดอโศการามเมื่ประมาณ20กว่าปีก่อน เรื่อง”ปฏิบัติขั้นเริ่มต้นจนถึงนิพพาน”ซึ่งสามารถจะชี้ข้อผิดพลาดได้ แต่คิดว่าหาผู้ที่เข้าใจไม่ได้ ก็ขอยุติเพียงเท่านี้ ที่ผมเขียนทั้งหมดก็เพียงต้องการรักษาพระธรรมวินัย ผมนั้นก็เป็นศิษย์พระป่า บ้านคำบง อำเภอศรีเมืองใหม่ บ้านเกิดของหลวงปู่มั่นผมก็คุ้นเคยมาก ภูหล่นผมก็ปีนขึ้นหลายครั้งมาก หลวงปู่ หลวงตา ที่ผมไม่เคยไปกราบหายากมาก ละสังขารไปเสียมากมาย ที่เหลืออยู่ที่เคยไปกราบก็มีพระอาจารย์จันทร์เรียน หลวงพ่อทุย พระอาจารย์อินถวาย พระอาจารย์เลียม พระอาจารย์ตั๋นเป็นต้น ที่เล่าก็ต้องการแสดงว่า เจตนาไม่ได้ต้องการโจมตีหลวงตา ต้องการรักษาธรรมวินัยเท่านั้น และเพื่อให้ท่านผู้ที่เป็นพระป่าสายหลวงปู่มั่นที่พอมีปัญญาบารมี ให้เข้าใจความจริงที่ว่า ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดนอกจากขันธ์5 ซึ่งได้เขียนชื่อต่างๆของจิตไว้แล้ว “ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย” ก็คือตายแล้วย่อมไม่ไปเกิดที่ไหน(สวรรค์หรือดินแดนนิพพาน)อีก ถ้าหากไปเกิดอีก จะเรียกชาตินี้ว่าเป็นชาติสุดท้ายได้หรือ?
ความเห็นที่2) ขอให้ลูกศิษย์หลานศิษย์ของหลวงตามหาบัว ผู้ที่มีปัญญาบารมีพอที่จะหลุดพ้นได้ จงมีโอกาสได้อ่านข้อความที่ผมเขียนนี้ จะได้รู้และได้ศึกษาค้นคว้าพระธรรมวินัยที่แท้เพื่อได้ปฏิบัติต่อไปต่อไปนี้จะเขียนเรื่องอวิชชา อวิชชานั้นคือความโง่ ความไม่รู้ ไม่รู้ในอริยสัจ4 ความหลง ความมืดบอด ฉะนั้นแล้วการที่หลวงบอกว่า แสงสว่างที่ท่านพบในตอนแรกเป็นอวิชชา เปรียบดังขี้ควาย หลวงตาพูดเช่นนี้เพราะท่านเข้าใจผิด เหตุเกิดขึ้นหลังจากที่ฌาปนสรีระสังขารของหลวงปู่มั่นเสร็จ หลวงตามหาบัวก็เดินทางมาพำนักที่วัดดอยธรรมเจดีย์ เช้าวันหนึ่งท่านเดินจงกรม เกิดความสว่างไสวขึ้นในจิตแผ่ขยายไปทั้งเขา ท่านรำพึงกับตัวเองว่า “ทำไมจิตเราจึงสว่างไสวอย่างนี้น๊า?” ก็มีเสียงดังตอบขึ้นในจิตว่า”ที่ใดมีจุดหรือต่อมแห่งผู้รู้ นั่นแหละคือตัวภพ” ท่านพิจารณายังไงก็ไม่รู้ความหมาย จนท่านออกจากวัดดอยเดินทางไปทางอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรและเดินทางกลับมาวัดดอยอีก3เดือนต่อมา หลวงตาก็ตีความคำพูดที่จิตพูด โดยความเข้าใจผิดว่า จุดหรือต่อมหมายถึงไส้ตะเกียง(อวิชชา)ที่ส่องแสงสว่างออกมาอย่างสว่างไสวอันที่จริงนั้น แสงสว่างเกิดขึ้นได้เพราะสมาธิขั้นปฐมฌานซึ่งกำจัดอุปกิเลสคือนิวรณ์5ออกไปได้ สมดังที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า”จิตนั้นปภัสสร มัวหมองเพราะอาคันตุกะกิเลสจรมา” พอหลวงตาเดินจงกรมพอได้ฌานกำจัดอุปกิเลสไปได้ จิตนั้นก็ปภัสสรคือมีแสงแผ่ซ่านออกมาเหมือนพระอาทิตย์ส่องแสงยามเช้า นี้ไม่ใช่อวิชชาที่หลวงตาเข้าใจ (ต่อความเห็นที่3)
สาธุครับ
กราบ สาธุ ๆ ๆ ค่ะ
สาธุ
ขอน้อมระรึกกราบองหลวงตาไว้เหนือเศียรเกล้า สาธุ สาธุ สาธุ ครับ
สาธุ สาธุ สาธุ
กราบสาธุเจ้าค่ะ
สาธุเจ้าค่ะ
กราบสาธุเจ้าค่ะ
กราบสาธุเจ้าค่ะ
สาธุ...ครับ
ธรรมที่เขียนมาข้างต้นยังไม่แจ้งยังไม่แทงตลอดครับแต่หลวงตามหาบัวคือสุดยอดแห่งธรรมขรัวตาบัวที่สุดแล้วแห่งธรรมกราบขรัวตาผมจะไม่เฉลยนัยยะของขรัวตาสาธุขรับกระผม❤❤❤❤❤ 1:18:11
สาธุค่ะ
ขอน้อบน้อมกราบพระอริยสงฆ์หลวงตา สาธุ สาธุ สาธุ ครับ
🙏🙏🙏
สาธุสาธุสาธุครับ
กราบหลวงตามหาบัว
สาธุ สาธุ สาธุน้อมกราบ สาธุในธรรมคำสอนขององค์ท่านหลวงตามหาบัว ลูก สาธุๆๆอนุโมทามิ เจ้าคร้า
ความเห็นที่3) ที่เล่าว่า หลวงตารำพึงว่า”จิตของเราทำไมจึงสว่างไสวอย่างนี้น๊า” จิตจึงพูดขึ้นมาว่า”ที่ใดมีจุดหรือต่อมแห่งผู้รู้ นั่นแลคือตัวภพ” อธิบายความหมายได้ดังนี้ เพราะหลวงตาไปยึดเอาจิตว่าเป็นของเรา จิตเลยพูดเตือนว่า แม้ไปยึดเอาจิต(ผู้รู้)เพียงเล็กน้อยหรือน้อยนิด(จุดหรือต่อม)ก็ต้องเกิดใหม่(ตัวภพ-เพราะภพเป็นปัจจัยชาติจึงมี เพราะชาติเป็นปัจจัยชรามรณะโสกะปริเทวะทุกข์โทรมนัสและอุปายาสจึงมี ก้อนทุกข์นี้(ขันธ์5)จึงหมุนเวียนไปในสังสารวัฏเพราะเหตุเพียงเท่านี้) น่าเสียดายที่หลวงตาหลงเข้าใจผิดในเรื่องจิตว่า จิตเป็นผู้รู้ที่อยู่ต่างหากจากขันธ์5 และไปยึดว่าจิตเที่ยงจิตนั้นไม่เคยตายเพราะได้ฟังจากหลวงปู่มั่นว่าในคืนที่หลวงปู่มั่นสำเร็จเป็นพระอรหันต์ พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ต่างๆเสด็จมาอนุโมทนากับท่าน ด้วยเหตุนี้ท่านจึงไม่รู้ความหมายที่จิตพยายามบอก เพราะไม่รู้จึงกั้นทางแห่งพระนิพพานไปเสีย ทั้งๆที่ใน”อนัตตลักขณะสูตร”ที่ท่านแสดงในคลิปนี้ บอกออกมาจากปากท่านแท้ๆว่า”วิญญาณไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา” ที่จริงยังมีเรื่องจากที่หลวงตาเทศน์ที่วัดอโศการามเมื่ประมาณ20กว่าปีก่อน เรื่อง”ปฏิบัติขั้นเริ่มต้นจนถึงนิพพาน”ซึ่งสามารถจะชี้ข้อผิดพลาดได้ แต่คิดว่าหาผู้ที่เข้าใจไม่ได้ ก็ขอยุติเพียงเท่านี้ ที่ผมเขียนทั้งหมดก็เพียงต้องการรักษาพระธรรมวินัย ผมนั้นก็เป็นศิษย์พระป่า บ้านคำบง อำเภอศรีเมืองใหม่ บ้านเกิดของหลวงปู่มั่นผมก็คุ้นเคยมาก ภูหล่นผมก็ปีนขึ้นหลายครั้งมาก หลวงปู่ หลวงตา ที่ผมไม่เคยไปกราบหายากมาก ละสังขารไปเสียมากมาย ที่เหลืออยู่ที่เคยไปกราบก็มีพระอาจารย์จันทร์เรียน หลวงพ่อทุย พระอาจารย์อินถวาย พระอาจารย์เลียม พระอาจารย์ตั๋นเป็นต้น ที่เล่าก็ต้องการแสดงว่า เจตนาไม่ได้ต้องการโจมตีหลวงตา ต้องการรักษาธรรมวินัยเท่านั้น และเพื่อให้ท่านผู้ที่เป็นพระป่าสายหลวงปู่มั่นที่พอมีปัญญาบารมี ให้เข้าใจความจริงที่ว่า ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดนอกจากขันธ์5 ซึ่งได้เขียนชื่อต่างๆของจิตไว้แล้ว “ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย” ก็คือตายแล้วย่อมไม่ไปเกิดที่ไหน(สวรรค์หรือดินแดนนิพพาน)อีก ถ้าหากไปเกิดอีก จะเรียกชาตินี้ว่าเป็นชาติสุดท้ายได้หรือ?
ความเห็นที่2) ขอให้ลูกศิษย์หลานศิษย์ของหลวงตามหาบัว ผู้ที่มีปัญญาบารมีพอที่จะหลุดพ้นได้ จงมีโอกาสได้อ่านข้อความที่ผมเขียนนี้ จะได้รู้และได้ศึกษาค้นคว้าพระธรรมวินัยที่แท้เพื่อได้ปฏิบัติต่อไป
ต่อไปนี้จะเขียนเรื่องอวิชชา อวิชชานั้นคือความโง่ ความไม่รู้ ไม่รู้ในอริยสัจ4 ความหลง ความมืดบอด ฉะนั้นแล้วการที่หลวงบอกว่า แสงสว่างที่ท่านพบในตอนแรกเป็นอวิชชา เปรียบดังขี้ควาย หลวงตาพูดเช่นนี้เพราะท่านเข้าใจผิด เหตุเกิดขึ้นหลังจากที่ฌาปนสรีระสังขารของหลวงปู่มั่นเสร็จ หลวงตามหาบัวก็เดินทางมาพำนักที่วัดดอยธรรมเจดีย์ เช้าวันหนึ่งท่านเดินจงกรม เกิดความสว่างไสวขึ้นในจิตแผ่ขยายไปทั้งเขา ท่านรำพึงกับตัวเองว่า “ทำไมจิตเราจึงสว่างไสวอย่างนี้น๊า?” ก็มีเสียงดังตอบขึ้นในจิตว่า”ที่ใดมีจุดหรือต่อมแห่งผู้รู้ นั่นแหละคือตัวภพ” ท่านพิจารณายังไงก็ไม่รู้ความหมาย จนท่านออกจากวัดดอยเดินทางไปทางอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรและเดินทางกลับมาวัดดอยอีก3เดือนต่อมา หลวงตาก็ตีความคำพูดที่จิตพูด โดยความเข้าใจผิดว่า จุดหรือต่อมหมายถึงไส้ตะเกียง(อวิชชา)ที่ส่องแสงสว่างออกมาอย่างสว่างไสว
อันที่จริงนั้น แสงสว่างเกิดขึ้นได้เพราะสมาธิขั้นปฐมฌานซึ่งกำจัดอุปกิเลสคือนิวรณ์5ออกไปได้ สมดังที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า”จิตนั้นปภัสสร มัวหมองเพราะอาคันตุกะกิเลสจรมา” พอหลวงตาเดินจงกรมพอได้ฌานกำจัดอุปกิเลสไปได้ จิตนั้นก็ปภัสสรคือมีแสงแผ่ซ่านออกมาเหมือนพระอาทิตย์ส่องแสงยามเช้า นี้ไม่ใช่อวิชชาที่หลวงตาเข้าใจ (ต่อความเห็นที่3)
สาธุครับ