ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
จริงๆ คนที่เล่นดนตรีทุกคนผ่านกระบวนการเรียนรู้เรื่องทฤษฎีมาแล้วทั้งนั้น ไม่ว่าจะเรียนด้วยตัวเอง ครูพักลักจำ สถานศึกษา ทุกคนมีความรู้ที่เอามาใช้ได้กับตัวัเอง คนละนิดคนละหน่อยอยู่แล้ว แต่กำแพงระหว่างนักสร้างสรรค์ กับคนที่คิดจะเล่นมันเฉยๆ ต่างกันตรงที่ คนที่ตั้งกำแพง แล้วก็หลอกตัวเองว่าฉันไม่ต้องเรียนทฤษฎีอะไรมันไปมากกว่านี้หรอก ปวดหัวเปล่าๆ ก็เล่นได้ใช้จำวิธีการจำเสียง แต่กับคนที่ใฝ่ต้องการรู้ทฤษฎีต้องการรู้ที่มาที่ไปอย่างเข้มข้น จะกลายเป็นนักสร้างเสียง สร้างสรรค์การเล่น ชิ้นงาน ออกมาได้อย่างน่าสนใจ และเซอร์ไพร์ส คนฟัง และสามารถเอาความรู้ที่ได้มาต่อยอดออกไปได้อีก หลายแขนงเลย
ตอนผมสัมภาษณ์พนักงาน ถ้าใครเล่นดนตรีได้ผมมั่นใจได้อย่างนึงคือ คนๆนี้มีความพยายาม อย่างน้อยก็เคยมี
ฉลาดขึ้นไหมไม่รู้ แต่ที่แน่ๆเล่นดนตรีได้ คือเป็นคนตั้งใจ พยายาม พอสมควร เล่นดนตรีคือสิ่งที่โม้ไม่ได้ เล่นดีคือดี เล่นไม่ได้คือไม่ได้เหมาะสมสำหรับฝึกเด็ก 8-12 ขวบ จะมีประโยชน์มาก เพราะถ้าซ้อม = เล่นดีขึ้น ถ้าเด็กเห็นภาพ ได้รับประสบการณ์จากสิ่งนี้ ก็เอาไปประยุกต์กับวิชาอื่นๆได้ ปล.ผมสอนดนตรีเด็กเล็กมาเยอะ 5-12 ถ้าอยากให้ลูกเล่นดนตรีได้ อย่าให้เด็กติดไอแพด ติดยูทูป ติดเกมส์เด็ดขาด ศัตรูโดยตรง อย่าว่าแต่เล่นดนตรีไม่ได้เลย ฝึกอะไรก็จะฝึกยาก เพราะสมาธิสั้น
ผมคิดว่าดนตรีช่วยให้ฉลาดครับ ถ้าเราเรียนในจุดที่มากพอที่จะรู้อะไรเยอะแล้ว มันจะมีวิธีการจำหลักการดนตรีอย่างมีเหตุผลและใช้การวิเคราะห์พิจารณาทดแทนการจดจำทุกอย่างที่เราจำได้ตลอดที่เราเรียน ก็คือผมเรียนเรื่องตัวโน้ต โน้ตแต่ละตัวทีระยะห่าง 1 เสียงเต็ม 1 ครึ่งเสียง บลา ๆ ๆ แบบนี้คือการจดจำ แต่ผมอยากประหยัดความจำด้วยการทดสอบ Perfect Pitch แทน เพื่อนึกโน้ตออกได้โดยตรงโดยที่ไม่ต้องอ้างอิงโน้ตเริ่มต้นสักตัวเลยครับ นี่คือประสบการณ์ที่ผมพบเจอมาครับ
ส่วนตัวเป็นคนที่ตอนวัยรุ่นเรียนสายวิทย์ แต่วาดรูปเป็นงานอดิเรก เพิ่งมาหัดเล่นกีต้าร์ตอนวัยทำงานแล้ว เลยอยากคอมเม้นเฉพาะในส่วนต้นทุนและค่าใช้จ่ายครับจริงๆ สมัยเรียนราวๆ 10-15 ปีก่อน ก็ชั่งใจว่าจะไปทางวาดรูปหรือดนตรีดี แต่ด้วยเพราะทางบ้านก็ไม่ได้มีเงินมากมายอะไร ก็เลยไปทางวาดรูปแทน สมุดสเก็ตช์ดีๆ + ดินสอดีๆ อย่างแพงเลยก็ 2-3 ร้อยบาท แต่ตอนนั้นกีต้าร์โปร่งแบบดีพอใช้ ยังไงก็ต้องมี 2-3 พันบาท ยิ่งถ้าไฟฟ้าอาจต้องมีเงินตั้งอย่างน้อยๆ 4-6 พันบาท(รวมแอมป์)เลยสรุปว่า "ค่าแรกเข้า" ของวาดรูปถูกกว่ามากๆ เพราะมันสามารถเริ่มได้ด้วยเครื่องเขียนสุดเบสิคที่เด็กนักเรียนทุกคนก็น่าจะมี หรือหาซื้อในร้านสหกรณ์โรงเรียนได้ด้วยซ้ำส่วนฝั่ง digital art นั้นทุนเริ่มต้นอาจจะสูงขึ้นมาหน่อย ราวๆ หลักพัน-หมื่น (เช่น เมาส์ปากกาวาดรูป ซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์แท้) แต่ running cost ในการวาดแต่ละครั้งก็ถูกเช่นกัน โดยเฉพาะถ้าเทียบกับ traditional art เพราะต้นทุนแบบไม่นับค่าแรง มีแค่ค่าไฟกับค่าเสื่อมอุปกรณ์ที่โดยปกติก็อยู่ได้ 3-8 ปีส่วนดนตรีอย่างกีต้าร์ เนื่องจากอุปกรณ์ที่ต้องมีมันคือเครื่องดนตรีเป็นชิ้นๆ ที่ตัวมันเองมีอะไหล่สิ้นเปลืองอย่างสายกีตาร์ running cost ของมันก็จะสูงกว่า เราเองที่ทำงานแล้วอาจจะไม่ได้รู้สึกว่าหนักอะไร แต่กับเด็กนักเรียนที่มีแค่เงินค่าขนมก็ถือเป็นรายจ่ายที่ไม่น้อยยังไงก็ตาม เครื่องดนตรีเองก็มีหลายแบบหลายประเภท ราคาไม่เท่ากัน บางอย่างก็ถูก บางอย่างก็แพง และบางอย่างก็ไม่ต้องมีอะไหล่สิ้นเปลืองมากนัก ชื้อครั้งเดียวใช้ทนๆ ยาวๆ ตรงนี้ก็เทียบยากแต่สมัยนี้ผมว่าเรื่องค่าแรกเข้าของสายดนตรีดีขึ้นมากครับ อุปกรณ์ราคาไม่แพงที่ใช้ได้จริงออกมาเยอะมากถ้าเทียบกับสมัย 10-15 ปีก่อน อ้อ แล้วก็อีกอย่างที่ขาดไม่ได้ คือ GAS หรือความคลั่งอุปกรณ์เกินตัว มีกันทุกวงการ ของสายศิลปะที่แพงๆ ก็มี เช่นชุดสีน้ำมันอย่างดี พู่กันเทพ เมาส์ปากกาตัวเทพเครื่องละแสนจอใหญ่เท่าทีวี ฯลฯ แต่รู้สึกเรื่องนี้ฝั่งดนตรีไปไกลกว่าแบบไร้ที่สิ้นสุดยังไงก็ไม่รู้ครับ 5555 ตัวผมเองก็ไม่ปฏิเสธว่าเป็นเหมือนกัน drawing gear ของผมราคาแค่สี่พันมีทอน รวมคอมที่ใช้ด้วยก็ไม่ถึงสองหมื่น (ที่สำคัญมันทำเงินจนคืนทุนตัวมันเองไปแล้ว แถมทำเงินเหลือไปซื้อกีต้าร์ได้ด้วย) แต่ guitar gear รวมๆ กันแล้วร่วมสี่หมื่น ทำเงินไม่ได้ซักบาท ยังผ่อนไม่หมดด้วย 555
ผมเป็นคนนึงที่ยังไงก็ไม่เชื่อว่าการเล่นดนตรีทำให้เรียนเก่งขึ้นในทางตรง แต่ที่บางคนเรียนเก่งด้วย เล่นดนตรีเก่งด้วย มันเป็นเพราะเขาเก่งทั้งสองอย่างต่างหาก
เห็นด้วยกับเรื่องกำแพงครับ มันทำให้รู้ว่า "เราสามารถทำอะไรก็ ขอแค่ฝึก พยายาม และอดทนกับมัน"
ดนตรีทำให้เราเป็นคน ชอบสงสัย ตลอด
ส่วนตัวมองว่า การฟังดนตรีคลาสสิก (mozart , beethoven , bach , chopin etc.) การเรียบเรียงตัวโน๊ต ช่วยกระตุ้นสมอง ทำงานได้ดี แต่ต้องชอบฟังจริงๆ วันไหนไม่ฟังไม่ได้ หาก พยายามชอบก็ไม่ช่วยแต่การเรียน/ฝึกดนตรี ไม่ช่วยกระตุ้นสมอง ให้ทำงานดีขึ้น แต่ช่วยเรื่องความพยายาม ด้านสมาธิ
กีฬา จะเล่นให้ได้ดีในระดับหนึ่ง ใช้เวลา + ค่าใช้จ่ายเยอะ ค่าสนาม ค่าโค้ช ค่าฟิตเนส รวมๆกัน เดือนละเกือบหมื่นแต่ถ้าเล่นเอาแค่เหงื่อออก เล่นเพื่อสุขภาพ อันนี้ไม่แพง
การเล่นดนตรี.ช่วยเสริมสร้างความมีสมาธิ.ได้มากขึ้นในรูปแบบหนึ่งด้วย.ครับ.😊
ทำให้ฉลาดไหม ไม่รู้แต่ทำให้เด็กมีสมาธิขึ้นครับ ผมสอนลูกผมเอง 7ขวบ
ผมเคยฝึกแก้Rubik3x3ครั้งแรกกำแพงที่1"(ให้ได้100%)จากแก้ได้5นาทีมาเรี่อยๆจนถึง=10วินาที(ใช้เวลาเกี่น10.000ชม)ตำ10sเป็นกำแพงสุดท้ายจากน้นเลิกมาเรี่มเล่นกีตาร์😂(
ฝึกเล่นช่วงวัยกำลังโตผมว่าช่วยให้สมองจัดระเบียบได้ดีครับ แต่เรื่องฉลาดอันนั้นอยู่ที่ว่าวัดแบบไหน หลายๆคนก็เรียนไม่เก่งวิชาอื่นก็มีผมเองก็ต้องทิ้งวิชาถนัดหลายวิชาเพื่อฝึกเล่น
จริงๆ คนที่เล่นดนตรีทุกคนผ่านกระบวนการเรียนรู้เรื่องทฤษฎีมาแล้วทั้งนั้น ไม่ว่าจะเรียนด้วยตัวเอง ครูพักลักจำ สถานศึกษา ทุกคนมีความรู้ที่เอามาใช้ได้กับตัวัเอง คนละนิดคนละหน่อยอยู่แล้ว แต่กำแพงระหว่างนักสร้างสรรค์ กับคนที่คิดจะเล่นมันเฉยๆ ต่างกันตรงที่ คนที่ตั้งกำแพง แล้วก็หลอกตัวเองว่าฉันไม่ต้องเรียนทฤษฎีอะไรมันไปมากกว่านี้หรอก ปวดหัวเปล่าๆ ก็เล่นได้ใช้จำวิธีการจำเสียง แต่กับคนที่ใฝ่ต้องการรู้ทฤษฎีต้องการรู้ที่มาที่ไปอย่างเข้มข้น จะกลายเป็นนักสร้างเสียง สร้างสรรค์การเล่น ชิ้นงาน ออกมาได้อย่างน่าสนใจ และเซอร์ไพร์ส คนฟัง และสามารถเอาความรู้ที่ได้มาต่อยอดออกไปได้อีก หลายแขนงเลย
ตอนผมสัมภาษณ์พนักงาน ถ้าใครเล่นดนตรีได้ผมมั่นใจได้อย่างนึงคือ คนๆนี้มีความพยายาม อย่างน้อยก็เคยมี
ฉลาดขึ้นไหมไม่รู้ แต่ที่แน่ๆเล่นดนตรีได้ คือเป็นคนตั้งใจ พยายาม พอสมควร เล่นดนตรีคือสิ่งที่โม้ไม่ได้ เล่นดีคือดี เล่นไม่ได้คือไม่ได้
เหมาะสมสำหรับฝึกเด็ก 8-12 ขวบ จะมีประโยชน์มาก เพราะถ้าซ้อม = เล่นดีขึ้น ถ้าเด็กเห็นภาพ ได้รับประสบการณ์จากสิ่งนี้ ก็เอาไปประยุกต์กับวิชาอื่นๆได้ ปล.ผมสอนดนตรีเด็กเล็กมาเยอะ 5-12 ถ้าอยากให้ลูกเล่นดนตรีได้ อย่าให้เด็กติดไอแพด ติดยูทูป ติดเกมส์เด็ดขาด ศัตรูโดยตรง อย่าว่าแต่เล่นดนตรีไม่ได้เลย ฝึกอะไรก็จะฝึกยาก เพราะสมาธิสั้น
ผมคิดว่าดนตรีช่วยให้ฉลาดครับ ถ้าเราเรียนในจุดที่มากพอที่จะรู้อะไรเยอะแล้ว มันจะมีวิธีการจำหลักการดนตรีอย่างมีเหตุผลและใช้การวิเคราะห์พิจารณาทดแทนการจดจำทุกอย่างที่เราจำได้ตลอดที่เราเรียน ก็คือผมเรียนเรื่องตัวโน้ต โน้ตแต่ละตัวทีระยะห่าง 1 เสียงเต็ม 1 ครึ่งเสียง บลา ๆ ๆ แบบนี้คือการจดจำ แต่ผมอยากประหยัดความจำด้วยการทดสอบ Perfect Pitch แทน เพื่อนึกโน้ตออกได้โดยตรงโดยที่ไม่ต้องอ้างอิงโน้ตเริ่มต้นสักตัวเลยครับ นี่คือประสบการณ์ที่ผมพบเจอมาครับ
ส่วนตัวเป็นคนที่ตอนวัยรุ่นเรียนสายวิทย์ แต่วาดรูปเป็นงานอดิเรก เพิ่งมาหัดเล่นกีต้าร์ตอนวัยทำงานแล้ว เลยอยากคอมเม้นเฉพาะในส่วนต้นทุนและค่าใช้จ่ายครับ
จริงๆ สมัยเรียนราวๆ 10-15 ปีก่อน ก็ชั่งใจว่าจะไปทางวาดรูปหรือดนตรีดี แต่ด้วยเพราะทางบ้านก็ไม่ได้มีเงินมากมายอะไร ก็เลยไปทางวาดรูปแทน สมุดสเก็ตช์ดีๆ + ดินสอดีๆ อย่างแพงเลยก็ 2-3 ร้อยบาท แต่ตอนนั้นกีต้าร์โปร่งแบบดีพอใช้ ยังไงก็ต้องมี 2-3 พันบาท ยิ่งถ้าไฟฟ้าอาจต้องมีเงินตั้งอย่างน้อยๆ 4-6 พันบาท(รวมแอมป์)
เลยสรุปว่า "ค่าแรกเข้า" ของวาดรูปถูกกว่ามากๆ เพราะมันสามารถเริ่มได้ด้วยเครื่องเขียนสุดเบสิคที่เด็กนักเรียนทุกคนก็น่าจะมี หรือหาซื้อในร้านสหกรณ์โรงเรียนได้ด้วยซ้ำ
ส่วนฝั่ง digital art นั้นทุนเริ่มต้นอาจจะสูงขึ้นมาหน่อย ราวๆ หลักพัน-หมื่น (เช่น เมาส์ปากกาวาดรูป ซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์แท้) แต่ running cost ในการวาดแต่ละครั้งก็ถูกเช่นกัน โดยเฉพาะถ้าเทียบกับ traditional art เพราะต้นทุนแบบไม่นับค่าแรง มีแค่ค่าไฟกับค่าเสื่อมอุปกรณ์ที่โดยปกติก็อยู่ได้ 3-8 ปี
ส่วนดนตรีอย่างกีต้าร์ เนื่องจากอุปกรณ์ที่ต้องมีมันคือเครื่องดนตรีเป็นชิ้นๆ ที่ตัวมันเองมีอะไหล่สิ้นเปลืองอย่างสายกีตาร์ running cost ของมันก็จะสูงกว่า เราเองที่ทำงานแล้วอาจจะไม่ได้รู้สึกว่าหนักอะไร แต่กับเด็กนักเรียนที่มีแค่เงินค่าขนมก็ถือเป็นรายจ่ายที่ไม่น้อย
ยังไงก็ตาม เครื่องดนตรีเองก็มีหลายแบบหลายประเภท ราคาไม่เท่ากัน บางอย่างก็ถูก บางอย่างก็แพง และบางอย่างก็ไม่ต้องมีอะไหล่สิ้นเปลืองมากนัก ชื้อครั้งเดียวใช้ทนๆ ยาวๆ ตรงนี้ก็เทียบยาก
แต่สมัยนี้ผมว่าเรื่องค่าแรกเข้าของสายดนตรีดีขึ้นมากครับ อุปกรณ์ราคาไม่แพงที่ใช้ได้จริงออกมาเยอะมากถ้าเทียบกับสมัย 10-15 ปีก่อน
อ้อ แล้วก็อีกอย่างที่ขาดไม่ได้ คือ GAS หรือความคลั่งอุปกรณ์เกินตัว มีกันทุกวงการ ของสายศิลปะที่แพงๆ ก็มี เช่นชุดสีน้ำมันอย่างดี พู่กันเทพ เมาส์ปากกาตัวเทพเครื่องละแสนจอใหญ่เท่าทีวี ฯลฯ แต่รู้สึกเรื่องนี้ฝั่งดนตรีไปไกลกว่าแบบไร้ที่สิ้นสุดยังไงก็ไม่รู้ครับ 5555 ตัวผมเองก็ไม่ปฏิเสธว่าเป็นเหมือนกัน drawing gear ของผมราคาแค่สี่พันมีทอน รวมคอมที่ใช้ด้วยก็ไม่ถึงสองหมื่น (ที่สำคัญมันทำเงินจนคืนทุนตัวมันเองไปแล้ว แถมทำเงินเหลือไปซื้อกีต้าร์ได้ด้วย) แต่ guitar gear รวมๆ กันแล้วร่วมสี่หมื่น ทำเงินไม่ได้ซักบาท ยังผ่อนไม่หมดด้วย 555
ผมเป็นคนนึงที่ยังไงก็ไม่เชื่อว่าการเล่นดนตรีทำให้เรียนเก่งขึ้นในทางตรง แต่ที่บางคนเรียนเก่งด้วย เล่นดนตรีเก่งด้วย มันเป็นเพราะเขาเก่งทั้งสองอย่างต่างหาก
เห็นด้วยกับเรื่องกำแพงครับ มันทำให้รู้ว่า "เราสามารถทำอะไรก็ ขอแค่ฝึก พยายาม และอดทนกับมัน"
ดนตรีทำให้เราเป็นคน ชอบสงสัย ตลอด
ส่วนตัวมองว่า การฟังดนตรีคลาสสิก (mozart , beethoven , bach , chopin etc.) การเรียบเรียงตัวโน๊ต ช่วยกระตุ้นสมอง ทำงานได้ดี แต่ต้องชอบฟังจริงๆ วันไหนไม่ฟังไม่ได้ หาก พยายามชอบก็ไม่ช่วย
แต่การเรียน/ฝึกดนตรี ไม่ช่วยกระตุ้นสมอง ให้ทำงานดีขึ้น แต่ช่วยเรื่องความพยายาม ด้านสมาธิ
กีฬา จะเล่นให้ได้ดีในระดับหนึ่ง ใช้เวลา + ค่าใช้จ่ายเยอะ ค่าสนาม ค่าโค้ช ค่าฟิตเนส รวมๆกัน เดือนละเกือบหมื่น
แต่ถ้าเล่นเอาแค่เหงื่อออก เล่นเพื่อสุขภาพ อันนี้ไม่แพง
การเล่นดนตรี.ช่วยเสริมสร้าง
ความมีสมาธิ.ได้มากขึ้น
ในรูปแบบหนึ่งด้วย.ครับ.😊
ทำให้ฉลาดไหม ไม่รู้แต่ทำให้เด็กมีสมาธิขึ้นครับ ผมสอนลูกผมเอง 7ขวบ
ผมเคยฝึกแก้Rubik3x3ครั้งแรกกำแพงที่1"(ให้ได้100%)จากแก้ได้5นาทีมาเรี่อยๆจนถึง=10วินาที(ใช้เวลาเกี่น10.000ชม)ตำ10s
เป็นกำแพงสุดท้ายจากน้นเลิกมาเรี่มเล่นกีตาร์😂(
ฝึกเล่นช่วงวัยกำลังโตผมว่าช่วยให้สมองจัดระเบียบได้ดีครับ แต่เรื่องฉลาดอันนั้นอยู่ที่ว่าวัดแบบไหน หลายๆคนก็เรียนไม่เก่งวิชาอื่นก็มีผมเองก็ต้องทิ้งวิชาถนัดหลายวิชาเพื่อฝึกเล่น