@พราวซ่าบ้าพลัง2 Power กลุ่มคนพวกนี้เป็นกลุ่มคนเดิมๆครับที่ควบคุมการเงิน..การเมืองและเศฐกิจของโลกโดยตกทอดกันจากรุ่นสู่รุ่นโดยส่วนมากกลุ่มบุคคลเหล่านี้จะใช้เชื้อวงค์ตระกูลยึดถือเป็นหลัก..และโยงใยกันจนเป็นเคลือข่าย(แต่ไม่มีของเราหรอกครับเพราะศาสนาเราสอนให้รู้จักความจริงของโลกและต้องยึดถือความถูกต้องตามเหตุและผลคือเป็นผู้ยอมรับกับกฎของธรรมชาติ*แต่ก็ถูกหมู่มารมาสร้างเรื่องราวปรัมปรามาหลอกบิดเบือน)ส่วนของประเทศอื่นฉาบฉวยและฉกฉวยเอาความรู้ความคิดของชนเผ่าอื่นไปเป็นของตนเองและทําลายหลักฐานการมีอยู่ของชนเผ่านั้นๆ*ให้ลองคิดถึงปฎิมากรรมต่างเอาเถอะครับว่าประเทศเขาเป็นผู้สร้างหรือปร่าวและหากเขาไม่ใช่ผู้สร้างแต่ทํามัยไปอยู่ในประเทศของเขา..และยึดเอาว่าสิ่งต่างๆเหล่านั้นและเขาเป็นเชื้อชาตินั้นๆ(เหมือนนิยายจะแต่งยังงัยก็ใด้..ขอแค่ผลประโยชน์ให้ดูว่าชนชาติตนนั้นเหนือกว่าชนชาติอื่น...โดยเอาความจริงบางส่วนมาปะปน..ปนเป..มอมเมาผู้อื่นเพื่อให้ใด้มาซึ่งอํานาจการควบคุมของชนเผ่าตนเองและชนเผ่าอื่นๆ)น่าสมเพชนะครับ..(หากไม่มีหลักฐานมาชี้แจงกับ..เมื่อวาน..วันนี้..และพรุ่งนี้ใด้...ก็คงจะแย้งกับ ชาติก่อน..ชาตินี้..และชาติหน้า..ด้วยเช่นกัน😄)ตามหลักเหตุและผล😄
![วันเกิดเธอ (TO YOU) - PHUWIN [ OFFICIAL MV ]](http://i.ytimg.com/vi/_ROx1Bj3T0Y/mqdefault.jpg)
![HIWWHEE | OHM [Official MV]](http://i.ytimg.com/vi/OJJLtTLqLag/mqdefault.jpg)
เพราะสงคราม และความงมงายในศาสนาที่ตนนับถือ มากเกินไป ทำให้องค์ความรู้มากมายสูญหายไปด้วย ผ่านอะไรมาเยอะจริงๆ เจ้าหนูวิทยาศาสตร์
แต่สงคราก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นความรู้ทางวิทยาศาสตร์นะครับ
@@sorawitoysawat4727 มันเสียมากกว่าได้ครับ
เราได้ความรู้จากสงคราม ถ้าไม่มีสงคราม ก็ไม่มีใครคิดสร้างนิวเคลียร์
@@jaceztar1352 ถ้าไม่มีนิวเคลียร์ก็ไม่มีการพัฒนาต่อยอด
พระเจ้าจะชดใช้สิ่งที่เกิดขึ้นนี้อย่างไร
ฝรั่งเก่งมากแต่โดนคริสต์แช่แข็งเป็นพันปี ไม่งั้นอาจจะไปดวงจันทร์ตั้งแต่200ปีก่อนละ
ผมเชื่อมั่นศรัทธาในวิทยาศาสตร์
ไม่ใช่แค่เพราะมันทำให้ชีวิตเราสะดวกสบายขึ้น แต่เพราะมันเป็นศาสตร์ๆเดียวที่จะพิสูจน์สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนได้
แม้จะยังไม่ใช่เวลานี้
ผมก็เชื่อเช่นนั้น การศึกษาทางวิทยาศาสตร์คือการศึกษาธรรมะที่พระพุทธเจ้ากล่าวถึง ก็คือการศึกษาธรรมชาติในความเป็นจริงใน ห้วงเวลาปัจจุบันโดยอาศัยหลัก การสังเกตุเห็นปัญหา(ทุกข์) แล้วแก้ไขสมมติฐาน จนเกิดนวตกรรมต่างๆ(มรรค) ไม่มีจบสิ้น พระธรรม(ความรู้วิทยาศาสตร์ที่มี)เป็นแค่ก้อนหินก้อนเล็กๆในป่าใหญ่ ทั้งนี้มันมีการวนเวียนกลับเสมอ(วัฎสงสาร)เพียงแต่จะเวียนกลับในรูปแบบไหน วนไปอีกมิติ(อีกภพหนึ่ง)ตามทฤษฎีควอนตัมหรือไม่ รอการพิสูจน์ต่อไป ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงการกระทำในมิตินี้จะส่งผลไปอีกมิติหรือไม่(กฏแห่งกรรม) 🙏🙏🙏
จริงๆคล้ายๆนักวิทยาศาสตร์ในอดีตเลยครับ พวกเขาศึกษาวิทยาศาสตร์เพราะเชื่อว่าวิทยาศาสตร์จะทำให้เข้าใจพระเจ้าได้ครับ
วิทยาศาสตร์คือธรรมชาติที่พิสูจน์ได้ด้วยกายภาพในมิติที่2,3,4,5ด้วยครับถ้านอกเหนือจากนั้นจะพิสูจน์ไม่ได้เลย จะเรียกว่าไสยศาสตร์หรือสิ่งลี้ลับนั่นเอง สำหรับสิ่งลี้ลับนั้นมันก็คือวิทยาศาสตร์แขนงหนึ่งนะครับแต่วิทยาศาสตร์ที่มนุษย์ศึกษายังเข้าถึงไม่ได้เท่านั้นเอง
พูดคุยกันหน่อยครับ คือผมเคยมีความคิดว่า เราทุกคนอ่านมองเห็นสีไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิงเเต่เป็นเพราะโดยกำเหนิด เราถูกสอนให้มองวัตถุเดียวกันกับผู้สอนว่าสิ่งนั้นคือสีอะไร จนทำให้เกิดความจำกับสีนั้นๆ เเต่จริงๆในสายตาเราอาจจะเห็นสีต่างกันโดยสิ้นเชิงก็เป็นได้ ผมอยากรู้ว่ามีวิทยาศาสตร์อะไรพิสูจน์เรื่องนี้รึเปล่าครับ
ไปถามพระเจ้าครับ ฝากทักทายท่านด้วย
@@tanakomtana8036 ลั่นน5555
การที่นำความ"จริง"ที่มีอยู่แล้ว!,และทำให้เห็นเป็นประจักษ์ รู้สัมผัสด๋ได้ เช่น การปฏิบัติสมาธิ
ข้อสังเกตุ** เป็นไปได้ไหม ที่หอสมุดที่ว่า เข้าได้แต่ชนชั้นสูง และคนที่มีความรู้ ความจริงแล้ว อาจเป็นเพราะ มีแต่ชนชั้นสูง กับคนจำนวนไม่มาก ที่มีโอกาสเรียนหนังสือ เมื่อมีคนบางส่วนที่ไม่รู้หนังสือ ก็ไม่มีสิทธิ์เข้าหอสมุดหรือปล่าว?
วิทยาศาสตร์ กับ ศาสนา เป็นเหมือน แสง และ เงา ของสิ่งที่เรียกว่าความเชื่อ ความเชื่อที่มนุษย์สามารถพิสูจน์และอธิบายได้ เรียกว่า วิทยาศาสตร์ ความเชื่อ นอกจากนั้นเรียกว่า ศาสนา :)
แปลกนะครับที่มนุษย์ปัจจุบันมีความคิดที่ว่ามนุษย์ยุคก่อนเป็นผู้ไร้ซึ่งปัญญาทั้งๆที่ยุคปัจจุบันมีเทคโนโลยีสู้กับยุคนั้นไม่ใด้เลยทั้งการก่อสร้าง..ศิลปะกรรม..และการคํานวนและเรื่องราวของจักวาลต่างๆ หรือเป็นเพราะว่ามนุษย์ยุคปัจจุบันมีวิวัฒนาการด้อยลดลงไปมากกับหลายๆรุ่นที่ผ่านมา(ศึกษาสิ่งนั้นเพราะถูกชี้นําแต่ไม่ใด้พิสูจน์เองเขาพูดอะไรก็เชื่อไปเสียหมด😂)และการตีความความหมายต่างๆของหลักฐานยุคก่อนๆทั้งๆที่ยุคหลังๆบิดเบือนความจริงและทําลายหลักฐานต่างๆและป้อนข้อมูลที่ไม่จริงให้และหยิบฉกฉวยความรู้นั้นเป็นของตนเองทั้งๆที่มันมีอยู่แล้วตามธรรมชาติ(อยากรู้ต้องพิสูจน์เองถึงจะรู้ครับอย่าไปเชื่อสิ่งที่ไม่ใช่ผู้เป็นนักวิทยาศาสร์เลยครับ)ผู้ที่บิดเบือนส่วนมากเอาศาสนามาอ้างเพื่อผลประโยชน์ของตนเองและพยายามควบคุมชนต่างเผ่า😁
@พราวซ่าบ้าพลัง2 Power กลุ่มคนพวกนี้เป็นกลุ่มคนเดิมๆครับที่ควบคุมการเงิน..การเมืองและเศฐกิจของโลกโดยตกทอดกันจากรุ่นสู่รุ่นโดยส่วนมากกลุ่มบุคคลเหล่านี้จะใช้เชื้อวงค์ตระกูลยึดถือเป็นหลัก..และโยงใยกันจนเป็นเคลือข่าย(แต่ไม่มีของเราหรอกครับเพราะศาสนาเราสอนให้รู้จักความจริงของโลกและต้องยึดถือความถูกต้องตามเหตุและผลคือเป็นผู้ยอมรับกับกฎของธรรมชาติ*แต่ก็ถูกหมู่มารมาสร้างเรื่องราวปรัมปรามาหลอกบิดเบือน)ส่วนของประเทศอื่นฉาบฉวยและฉกฉวยเอาความรู้ความคิดของชนเผ่าอื่นไปเป็นของตนเองและทําลายหลักฐานการมีอยู่ของชนเผ่านั้นๆ*ให้ลองคิดถึงปฎิมากรรมต่างเอาเถอะครับว่าประเทศเขาเป็นผู้สร้างหรือปร่าวและหากเขาไม่ใช่ผู้สร้างแต่ทํามัยไปอยู่ในประเทศของเขา..และยึดเอาว่าสิ่งต่างๆเหล่านั้นและเขาเป็นเชื้อชาตินั้นๆ(เหมือนนิยายจะแต่งยังงัยก็ใด้..ขอแค่ผลประโยชน์ให้ดูว่าชนชาติตนนั้นเหนือกว่าชนชาติอื่น...โดยเอาความจริงบางส่วนมาปะปน..ปนเป..มอมเมาผู้อื่นเพื่อให้ใด้มาซึ่งอํานาจการควบคุมของชนเผ่าตนเองและชนเผ่าอื่นๆ)น่าสมเพชนะครับ..(หากไม่มีหลักฐานมาชี้แจงกับ..เมื่อวาน..วันนี้..และพรุ่งนี้ใด้...ก็คงจะแย้งกับ ชาติก่อน..ชาตินี้..และชาติหน้า..ด้วยเช่นกัน😄)ตามหลักเหตุและผล😄
@@foxkent1245 เปล่า ที่เห็นว่ามีความรู้มากมายเพราะว่า "สิ่งที่ดี จะอยู่ได้นาน สิ่งที่ชั่วจะอยู่ได้สั้น" ความรู้เป็นสิ่งที่ดีต่อมนุษย์ ดังนั้น ความรู้จากยุคเก่าจึงมาปรากฏในยุคนี้ได้ เเละด้วยระยะเวลาที่มากเป็นพันๆปี ก็เลยมีความรู้มากมาย เช่นกัน กับยุคนี้ ที่ความรู้ยุคนี้จะไปปรากฏในยุคถัดไปเป็นจำนวนมหาศาล มากกว่าความรู้ยุคเก่าร้อยเท่า
กลับกัน ความชั่วในยุคเก่าทั้งหลาย เป็นสิ่งที่ชั่ว จึงอยู่ได้สั้น จึงไม่ถูกเผยแพร่อย่างมากมายสู่ยุคนี้ เช่นกัน ความชั่วในยุคนี้ ก็จะไม่ถูกเผยเเพร่ต่อไปยังยุคถัดไปเช่นกัน สุดท้ายจะถูกลบเลือนไปด้วยความจริงเเละความรู้
ในสมัยโบราณ..มนุษย์กลัวสิ่งที่ไม่เข้าใจ...หรือไม่รู้...เชื่อเรื่องผิดปกติของธรรมชาติ( เทพเจ้า..เทวดา...ปิศาจ...ผี..วิญญาณ..และอื่นๆ..เป็นผู้ทำ)...แต่ในปัจจุบันเรื่องความเชื่อต่างๆของมนุษย์..เริ่มลดลง.,ความมีเหตุมีผลทางวิทยาศาสตร์เริ่มพัฒนาขึ้น....
กฎปติจะสมุบาท สุดยอดความรู้ก็หักล้างกฎนี้ไม่ได้
พี่คับ ผมชอบคลิปนี้ ชอบสูตรไข่ดาว ผมเรียนวิทย์ ผมเคยสงสัยทำไมผมต้องเรียน พอเจอสูตรไข่ดาวนี้ ผม ok แล้วก็อมยิ้ม ขอบคุณพี่มาก น้ำเสียงพี่ดีนะ เปิดนอนเพลินๆ
พระพุทธเจ้าแหละนักวิทยาศาสตร์อันดับ1ของโลกและจักรวาล และอีกอย่างวิทยาศาสตร์แปลว่า การค้นหา ในความรู้ความจริงนั้น
ปรัชญาธรรมชาติชอบคำนี้,👍อย่าน้อยวิทยาศาสตร์อยู่บนพื้นความจริง
ชอบการสรุปแบบนี้มาก ทำต่อไปนะครับ
สิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวที่สุด คือเป็นมนุษย์ มนุษย์สามารถสร้างสงครามใหญ่โต มีสมอง ความคิดที่ซับซ้อนมาก มากคนจนกันเองยังไม่เข้าใจเลย
ขอบคุณมากครับ..ได้ความรู้มากมายจากคลิ๊บนี้...😊
ชอบ ครับได้ความรู้มาก
ฟังไปหลับไป 😴😅
ความรู้เริ่มต้น จากการ ประสบพบเจอ ด้วยตัวเอง เมื่อเกิด ข้อสงสัย ก็ถาม ถามแล้วใด้คำตอบที่ ไม่กระจ่าง ก็ไปอ่านหนังสือ ตำรับตำรา อ่านแล้วเข้าใจไม่เข้าใจก็ไป ทดลอง พิสูจน์ว่าจริงใหม หรือต่างจากตำรา ก็มาทำการพิสูจน์ให้เห็นจริง สรุปแล้ว มนุษย์จะเชื่อ เมื่อ ตาเห็น หูได้ยิน สุดท้ายคือ จิตใจ (สมองคิดประมวลเหตุและผล)
จริงหรือเปล่าครับที่ วิทยาศาสตร์ในโลกปัจจุบันนั้น ถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายหลัก ๆ คือ Creationism กับ Evolutionism ครับ?
ข้อมูลดีเยี่ยมมากๆ
วิทยาศาสตร์ คือการคาดเดาแบบมีหลักการ
คำนาม
ความรู้เกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ในธรรมชาติ และกระบวนการค้นคว้าหาความรู้อย่าง มีขั้นตอน มีระเบียบแบบแผน โดยมีเหตุผล และหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ตามหลักวิชาการได้, วิชาที่ได้ศึกษาค้นคว้ามีหลักฐาน และเหตุผล แล้วจัดเข้าเป็นระเบียบ.
ชอบมากเลยครับ ช่องนี้
บรรยายสนุกมากค่ะ
ยุคมืดยาวนาน 1000 ปี
และจบลงเมื่อ 500 ปีที่แล้ว
มนุษย์จึงได้ต่อยอดองค์ความรู้เดิม
และสร้างความเจริญในวันนี้
หมายความว่า มนุษย์ใช้เวลาเพียง 500 ปีเท่านั้นในการต่อยอดความรู้ของศตวรรษที่ 5 มาเป็นวันนี้
ถ้าพระเยซูเกิดช้ากว่านั้นสัก 500 ปี
การล่าแม่มดจะไม่เกิดขึ้น
การต่อยอดความรู้จะเกิดขึ้น
และความเจริญในทุกวันนี้
ควรเกิดขึ้นตั้งแต่ ค.ศ.1000
หรือเมื่อ 1000 ปีที่แล้ว
หมายความว่า มีการแช่แข็งความก้าวหน้าทางวิทยาการถึง 1000 ปี
ชัดเจน พิสูจน์ได้ มีหลักการ
แอดครับ..ผมมีเรื่องอยากจะถามครับคือผมไม่ค่อยเข้าใจ?ว่าในอวกาศสามารถมีแรงฉุดใด้หรือไม่ครับ(ทางวิทย์เรียกว่าแรงโน้มถ่วง)สมมุติว่าหากวัตถุในอวกาศมีมวลมาก(เช่นดวงอาทิตย์*วัตถุทรงกลม)และมีความเร็วเร่ง(ตามนําหนักของมวลมันเอง)ใด้มุ่งหน้าในทิศทางที่ดิ่งลง(เหมือนวัตถุนึงกําลังจมดิ่งในถังนํา)และหากมีวัตถุที่มีมวลน้อยกว่าอยู่ใกล้ๆมันใด้ฉุดวัตถุมวลน้อยเหล่านั้นตามมันไปด้วย(เกิดเป็นวงโคจร)วนตามวัตถุเพราะแรงฉุดจากมวลนั้นๆถ้าเช่นนั้นเราจะถือใด้ว่า อวกาศมีมวลเป็นเหมือนนําใด้หรือไม่ครับ?(*ทดลองหากมีถังนําและเอามวลทรายโรยบนผิวนําก่อนจากนั้นให้เอาวัตถุทรงกลมมีมวลที่มากกว่าหย่อนลงไป(*ดวงอาทิตย์)..จะสังเกตุใด้ว่ามวลของทรายนั้นใด้วิ่งตามมวลทรงกลมนั้นๆ)..ความลึกของก้นถังนํา+มวลวัตถุ=เวลาถึงก้นถังมีความเสถียรกับวัตถุที่อยู่ใกล้แต่หากใกลก็จะหลุดจากแรงฉุดนั้นไปเรื่อยๆด้วยเช่นกันแต่ยังงัยมวลที่ห่างนั้นก็ต้งดิ่งลงมาเหมือนกันแต่ช้าหน่อย)เพราะฉะนั้น(มวลของวัตถุทรงกลม)มีผลต่อ(มวลทรายโดยรอบที่เบากว่า)ด้วยเช่นกัน ในอวกาศเป็นเช่นนี้หรือไม่ครับและวัตถุต่างก็ต้องมุ่งไปในทิศทางเดียวเช่นกัน(กําลังดิ่งลง) คือผมยังไม่ชัดแจ้งในเรื่องนี้ครับมีแต่สิ่งที่เขาป้อนให้มาแต่ไม่ใด้สัมผัสด้วยตนเองก็เลยสงสัยครับ???😅และจากการทดสอบในอวกาศขนนกกับวัตถุที่ต่างกันแค่ปล่อยมันลงมาจึงยังไม่รู้ว่าหากวัตถุนึงมีมวลมากกว่าและอัตราเร่งมากกว่ามันจะฉุดขนนกนั้นหรือไม่(ขอบคุณครับหากอธิบายให้ผมเข้าใจใด้😄)รักนะจุ๊ปๆ😍
การอธิบายแบบที่ท่านได้ยินได้ฟังมา หรือการแก้สมการทางกฏฟิสิกต่างๆ เขาอธิบายในรูปแบบ 3 มิติ และ2 มิติให้ท่านได้ฝึกคำนวณ และจิตนาการไปกับการคำนวณ ในหลักการเบื้องต้นของฟิกสิก พื้นฐาน ให้มนุษย์เข้าใจครับ เอากฎฟิกสิกบนโลกแบบให้เห็นภาพและเข้าใจง่าย แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอวกาศ ท่านต้องจิตนาการเพิ่มขึ้นไปเป็น 10 เท่า ส่วนแบบทดลองนั้น ทำให้ท่านได้เรียนและเข้าใจฝึกฝนจนพอจะสามารถที่จะ ต่อ ยอด ความคิด ในหลักการเบื้องต้นของมันก่อน แต่ของจริงในเอกภพนั้น มันมีมากกว่า 3 มิติครับ ถ้าท่านงง ในการเรียนและการคำนวณ จิตนาการไม่ค่อยออก ในเรื่องฟิกสิก คณิตศาตร์ ในเอกภพไม่แปลกหรอกครับ ผมก็งงเช่นเดียวกัน ในเอกภพนั้น มีมากกว่า 3 มิติ สูตรสมการ มีเป็นตัวแปลให้แก้สมการ เป็นหางว่าวเลยครับ การทดลองดังกล่าว ที่ท่านได้ทดลองนั้น หรือได้อ่านได้เรียนมานั้น เป็นการจำลองให้ท่านพอเห็นภาพ ของแรงโน้มถ่วง และแรงอื่นๆ มันทำงานอย่างไร สัมพันกับ มวล ความเร็ว ความเร่ง และแรงที่กระทำ มากน้อยเพียงใด ส่งผลอย่างไรกับสิ่งใดๆได้บ้าง เอาของจริงในเอกภพมาอธิบายมันจะงง ยุ่ง เหมือนยุงตีกันสิครับ มันจะวาดภาพและหาตัวอย่างมา ทำการมดลองให้เหมือนจริงลำบากมาก ระดับพวกดอกเตอร์ ถึงจะพอเข้าใจนะครับ ในรูปแบบของจริง มันปวดหัวครับ ตาลายมากๆ ผมพอจะทราบแค่ว่า ในเอกภพนี้ มีมิติทั้งหมด 11 มิติ บวก 1 มิติครับท่าน ผมรู้เท่านี้ครับ ไม่รู้จะอธิบายให้ท่านชัดแจ้ง ได้อย่างไรเช่นกันครับ คำถามของท่าน แรงโน้มถ่วงมีหรือไม่ในอวกาศ มันมีอยู่แล้วนี่ครับ แต่มีเป็นดวงๆหย่อมๆ ตรงไหนมีวัตถุทรงกลมที่สร้างแรงโน้มถ่วงได้ ตรงนั้นแหล่ะมันถึงมีครับ หรือที่ท่านเรียกว่าแรงฉุดอะไรของท่านนั้นแหล่ะ มันเกิดกับวัตถุทรงกลมทุกชนิด ที่เป้นทรงกลมขึ้นได้ มันจะมีแรงโน้มถ่วงเสมอ มากน้อยต่างกันไป แล้วที่ท่านเรียกมันว่าแนวดิ่ง ในเอกภพ ไม่มีแนวดิ่งครับ เรียกเป็น แนวเส้นตรงจะง่ายกว่า คือแนวเส้นตรง จากเส้นรอบวงของดวงดาว ลงไปในใจกลางของดวงดาว หรือแนวที่แรงโน้มถ่วงของดวงดาว ดึงดูดลงไปนะครับ เราแยกไปออกครับว่า แนวดิ่งคืออันไหน เราเลยเอาแนวเส้นตรงของ แรงโน้มถ่วงเป็นแนวดิ่ง ที่ท่านเข้าใจละกันครับ ถ้าไม่มีดวงดาวให้อ้างอิง เราจะหลงทางในอวกาศ ในอวกาศมองไปทางไหน มันจะเหมือนกันไปหมดทุกที่ครับ และการจมลงในถังน้ำ ตามที่ท่านเข้าใจนนั้นเป็นระบบที่เขาคิดให้ท่านจิตนาการ แค่ 3 มิติ หรือ 2 มิติเท่านั้น ของจริงมันจะยุบรวมลงไป แบบทุกทิศทางนะครับ วัตถุไม่ได้มุ่งไปในทิศทางเดียวกันหรอกครับ วัตถุอื่นๆดังกล่าว มันแค่สู้แรงการยืดของ สเปซไทม์ (Space Time) ที่แรงโร้มถ่วงของดาวขนาดใหญ่ สร้างใว้ไม่ได้ก็แค่นั้นเอง ครับ มีต่อเม้น 2 นะครับ
ส่วนการทดสอบการตกลงมาในแนวดิ่ง ของขนนก และวัตถุมวลอื่นๆ มันตกลงพร้อมกันได้ ในสภาพสูญญากาศ บนโลกที่มีแรงโน้มถ่วงของโลกทำงานอยู่นะครับ ถ้าทดลองทำในอวกาศ ขนนกและวัตถุดังกล่าวมันจะไม่ตกลงมาในแนวดิ่งหรือแนวไหนหรอกครับ มันจะลอยอยุ่แบบนั้นในอวกาศ ครับ มันไม่ตกไปไหนเลย ท่านต้องแยกก่อนระหว่าง อวกาศ กับสูญญากาศ ก่อนนะครับ ไม่งั้นท่านจะงง และการจะฉุดสิ่งใดให้มีทิศทาง ให้ตกไปเป็นบริวาณของวัตถุทรงกลม แบบแรงฉุดที่ท่านเข้าใจนั้น แรงโน้มถ่วงมันไม่ได้เป็นแรงฉุดครับ แต่มันคือแรงโน้มถ่วง เข้าใจให้ได้ก่อนครับ ท่านต้องเข้าใจแรงโน้มถ่วงของดวงดาวให้ได้ก่อน ไม่งั้นแรงฉุด ที่ท่านพูดถึง มันจะสับสน มันจะฉุดได้อย่างไร มันเกิดแรงฉุดไม่ได้ในเอกภพ หรืออวกาศ มันไม่มีแรงฉุด แรงฉุดที่ว่าเกิดจากสิ่งใด เพราะแรงฉุดมีมีแรงออกมาแค่ทิศทางเดียว ในคำนาม ของคำไทย ที่เรียกว่าฉุด ส่วนแรงโน้มถ่วงมันมีแรงออกมาทุกทิศทุกทาง ของดวงดาว เพื่อดึงเข้าหาจุดศูนย์กลางของภายในดวงดาวครับ แรงฉุดทีท่านนิยามขึ้นมานั้น หรือที่จริงคือ แรงโน้มถ่วง และ วัตถุนั้นเป็นทรงกลม และสร้างแนวโน้มถ่วงได้ ในตัววัตถุทรงกลมนั้น มันส่งผลต่อขนนกแน่นอน แต่คงไม่สามารถทำให้ขนนกโคจรรอบมันได้ เพราะขนนก ยังไม่มีแรงโน้มถ่วง การโคจรต้องมีแรงโน้มถ่วง ทั้ง 2 ชิ้น ที่หักล้างแรงกันได้ และโคจรรอบๆกันได้ แต่ขนนกไม่มีแรงโน้มถ่วงด้วยตัวเอง หรือมีแรงโน้มถ่วงน้อยเกินไป ขนนกจะพุ่งเข้าไปชน วัตถุทรงกลมนั้น จากแรงโน้มถ่วงที่วัถุทรงกลมนั้นสร้างขึ้นครับ เลยเกิดแรงดึงดูดขนนก ให้ตกลงสู่วัตถุทรงกลม ในทิศทางเป็นเส้นตรง ไปในใจกลางดวงดาว จนเจอผิวของวัตถุทรงกลมนั้น ขนนกถึงจะหยุดเคลื่อนที่ ตามแรงโน้มถ่วงครับ ถ้ามันอยู่ใกล้กับอิทิพลของแรงโร้มถ่วง ของวัตถุทรงกลมดังกล่าว หรือฉุดขนนก ในนิยามที่ท่านเข้าใจ แต่ฉุดมาพุ่งชนนะครับ ไม่ไ้ด้ฉุดมาโคจร รอบวัตถุมทรงกลมนั้น ครับ
ไม่ใช่เฉพาะโลกที่ตก แต่ทั้งจักวาลที่ตกไปเรื่อยๆ
ความรู้ยุคโบราณโดนทำลายไปหมด ไม่งั้นมนุษย์เราข้ามดวงดาวได้แล้ว
อยากให้ทำคลาสเรียนวิทยาศาสตร์ แบบไม่ต้องเข้าห้องเรียน จังครับ
อยากรู้ในสิ่งที่เราไม่รู้ อยากรู้ในสิ่งที่เราไม่มีวันรู้ อยากรู้ในสิ่งที่เราไม่มีทางได้รู้
คลิปนี้ดีมากครับ
นักวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่อาจารย์สอนวิทยาศาสตร์ หรือ ดร. อันนั้นแค่จำเขามาเล่าเฉยๆ วิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้คือต้องพิสูจน์เอง ไม่ใช่ให้คนอื่นพิสูจน์แล้วเล่าให้ฟังเพราะคุณจะไม่สามารถเขาใจอย่างถ่องแท้ได้
ทำคลิปแบบนี้ให้ดูเยอะๆนะครับ
ชอบมาก
ฟังเรื่องไฮพาเทีย ก็ต้องพูดถึงหนังเรื่อง Agora ดูแล้วน่าเศร้ามาก สำหรับคนที่ชอบเรื่องวิทยาศาสตร์ แม้ในหนังการตายไม่โหดร้ายเท่าที่บรรยาย แต่ถ้าเรื่องจริงเป็นตามที่บรรยาย ก็น่าสมเพชคนที่อ้างพระเจ้าเพื่อทำสิ่งหยาบช้า การมีพระเจ้าในประวัติศาสตร์มนุษย์ ทำให้มีคนตายเพราะพระเจ้าไปหลายล้านคนแล้ว
เสียงคุ้นจังค่ะ ได้ทำช่องสปอยหนังด้วยมั้ยคะ
👍👍
ชอบฟังมากครับ🙂
ขอบคุณมากๆเลยครับ
ผลของการ ทดลองทำให้เกิดงาน และผลงานมากมาย
อยากให้ทำสกรู๊ปพิเศษ รวบรวมหลักวิทยาศาสตร์ทำลายความเชื่อทางศาสนา ครับ
วิวัฒนาการเเล้วหนึ่ง
ชอบมากครับพี่
ชอบครับ ยืนบนไหล่ของยีกษ์
แอบคิดว่าเสียงเหมือนพี่บอย อิมเมจิ้น
😊😊
หนูดูแล้วขนลุก โลกนี้ช่างกว้างใหญ่เหลือเกินจริงๆ
มาแล้วๆคลิปไหม่
มิน่าอินเดียถึงเป็นเบอร1ด้านคณิตศาสตร์
ขอบคุณมากครับที่นำเสนอประวัติโลกยุคกลางคู่ขนานอย่างยุค ทองของอิสลาม เพราะเท่าที่อ่านในหนังสือเรียนหรืออื่น ๆ ก็จะไม่เจอข้อมูลส่วนนี้เลย
เห็นด้วยคับคริปนี้ความรู้ที่อยากค้นฟาหาความรู้มาก
ปวศ อาหรับนี่น่าสนใจมากครับ ตอนผมอ่านตอนแรกนี่คือเปิดโลกมาก เพิ่งรู้ว่าวิทยาการในยุคแรกๆเกิดขึ้นภายใต้จักรวรรดิอิสลามซึ่งในสมัยนี้ดูเหมือนจะเป็นสังคมที่ล้าหลัง แต่มีประวัติศาสตร์ที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง
@@vjseomlol546 จากที่ผมหาข้อมูลมา ยุคนั้นเฟื่องฟูขึ้นมาได้ด้วยเนื้อหาในกุรอานเป็นหลักเลยครับ แปลกดีที่ปัจจุบันเป็นคัมภีร์ที่ยังหาข้อโต้แย้งเชิงประจักษ์ไม่เจอเลย
@@K_naffa ค้นคว้าจากไหนครับ ไม่ใช่เอามาจากคัมภีร์นะครับ
@@JoeTrumps ผมว่า ผมเขียนชัดแล้วนะครับว่าตามความเข้าใจของผมคือ พวกเขาใช้เนื้อหาจากไหนเป็นสารตั้งต้นในการค้นคว้าต่อตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ด้วยคำใบ้ในเรื่องต่าง ๆ ตามที่ระบุไว้ในนั้น
Thank you ka
คำว่าศาสตร์ในสันสกฤตกับคำว่า scientia ในละตินนี่เป็นไปได้ไหมว่ามีรากมาจากแหล่งเดียวกันครับ
ใช่ครับ เพราะทางด้านภาษาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ,ละติน และภาษาฝั่งยุโรปส่วนใหญ่กับภาษาสันสกฤต มีรากฐาน ต้นกำเนิดมาจากภาษาเดียวกันครับ
เขาเรียกตระกูลอินโดยูโรเปี้ยน
ขอถามนอกเรื่องหน่อยครับ ฟีสิกส์ เรียนยากไหมครับ???
ขึ้นอยู่กับฐานความรู้ทางคณิตศาสตร์ครับ เพราะความรู้ทางฟิสิกส์จะถูกกำหนดด้วยสัญลักษณ์ทางคณิตฯ หรือกล่าวง่ายๆคือ ความรู้สำหรับผู้จะเรียนฟิสิกส์เค้าสื่อสารกันด้วยคณิตฯครับ ผมจบปริญญาโททางฟิสิกส์ผมยังรู้สึกว่าตัวเองรู้น้อยเกินไปสำหรับฟิสิกส์เลยครับ ทุกวันนี้แก่แล้วครับ แต่ยังต้องเรียนรู้มันอยู่ตลอด 😂
ประวัติย่อ
ผม ที่มองไปที่เวลาของคลิป
ดีค้าบบบ
ขอชื่อเสียง ที่เปิดเป็นพื่นหลัง
Universe Sandbox 2 Soundtrack ครับ
เค้าไม่ให้ความรู้มากหรอก เพราะถ้าควายฉลาดจะควายก็จะไม่ยอมไถนามนุษย์ก็เช่นกัน
วิทยาศาสตร์ ศาสนา
♥️
internet ก็เติมด้วยเงินชนชั้นไหนก็ใช้เงินหาความรู้ ๆคือเงิน 555
เงินเป็นทรัพยากร
ความรู้เป็นผลผลิตจากกระบวนการทางจิต
หาบางคนต้องทำงานเพื่อให้เงิน มาเลี้ยงชีพ ไม่มีเวลาจะสร้างสภาวะที่เหมะเเก่การหาความรู้ของจิต ส่วนคนมีเงินเเล้ว มีเวลาจะสร้างสภาวะที่เหมาะสม
หลายคนคิดสองข้อ จักรวาลมีจุดเริ่มต้นหรือไม่ครับ ลองริดสิครับ
ผมมีคำถามนะครับว่า เขาบอกว่า กาแลคชี่ห่างออกจากกันไปเรื่อยๆ จากทฤษฏี บิ๊กแบง ถูกต้องใหมครับ แล้วทำไม กาแลคชี่ทางช้างเผือกจะรวมกับกับกาแลคชี่อะไรนะจำชื่อไม่ได้ ครับ
@@ดากานดา-ง9ฆ อันโดรเมด้า
ความว่างสร้าวงวัตถุสู่ว่างเปล่า
ก่อตั้งดับสูญคือจุดๆเดียวกันทั่ต่างวาระ
นั่นไม่ใช่คำถามที่เเท้จริง
คำถามที่เเท้จริง คือ "ความว่างเปล่าสามารถเป็นปฐมธาตุเเห่งการสร้างได้หรือไม่" ภาษาชาวบ้าน "จะสร้างพลังงานจากความว่างเปล่าได้ยังไง"
😤🤔เราจะต้องบิดมันยังไงๆ😤🤔อืม.......😘😋😅😊
🙏🖤💚
😤🤔ถ้าย้อนไปได้มันไม่ใช่เวลาแล้วหละมันจะกลายเป็นอืม......การที่เราพาตัวเราในปัจจุบันกลับไปแต่ไม่ได้หมายความว่าโลกในปัจจุบันรึความทรงจำของคนในปัจจุบันจะย้อนกลับไปนี่.....
เหตุหายใจไหม
.
😤🤔ก็ยากอยู่น๊ะๆ😃😊😋😅😊
like♡♡♡♡
😀อะใช่จะเรียกว่าอนาคตก็......😅😃😊
ตุ่ยตุ่ย
😅น๊ะกมุนเวลากลับไปอืมแต่ไม่ให้มันเกิดผลกระทบอะไรเลยกับโลกรึสิ่งต่างๆรอบโลกรึตัวของเรานี่อะคือ....😅🐈😅😊
ราคาตุ๋ยตุ่ย
🙄ก็เราเกิดมาแล้วเราจะหายไปได้ยังไง......😕
ยากนะ555😹😹
Ffff
Hi jerry
😃อืมแต่ถ้าถามว่าแล้วต่อจากที่คุณฆ่าคุณปู่คุณแล้ว...แล้วคุณก็กลับมาในโลกปัจจุบันอะแต่.....หลักจากที่คุณปู่คุณตายนั่นหละ....ในโลกของคุณปู่คุณต่อจากนั้นต่างหาก......😅😊
ตุ่ยตุ่ยขี้ให้เคลิบ
😃เออ....ใช่ป่ะๆ😤🤔ไม่ใช่ความทรงจำไม่ใช่ปัจจุบัน....😤🤔จะพูดยังไงอะ.....😤🤔อืม......คือมัน.....ขีดเส้นแบ่งเอาไว้นิดนึงๆ😤😅😊
เคลิบ
😤🤔อืม......
ตุ่ยๆ
😀😃อืม.....ถ้าคุณกลับไปฆ่าคุณปู่ของคุณแล้วคุณก็กลับมาที่ปัจจุบันอืมทุกคนในครอบครัวคุณจะลืมคุณปู่คุณไปมั๊ยแล้วถ้าคุณกลับมาแล้วทุกคนที่เกิดจากคุณปู่ของคุณจะหายไปมั๊ยอะ.....
ตุ่ยๆ
ข้อมูลแน่นขนาดนี้แต่ก็ยังมีคนเชื่อย่างสุดหัวใจว่าโลกแบน
ถึงมีความเป็นมนุษย์ไงครับ ช่วยคนโง่คนโง่ตี
ชอบเรื่องเล่าความเป็นมาแบบนี้มากครับ
ผลลับในการทอดไข่ของผมคือไหม้คับ😅😅😅😅
ต้องขอบคุณชาวมุสลิมในยุคกลางที่นำพาวิทยาศาสตร์จนมาถึงปัจจุบันครับ
😀อะใช่อนาคตมันจะเปลี่ยนไปใช่ป่ะๆ😅😊😃นั่นหละเส้นทาง😊
ถาม × Time เวลาถามอิบไว้