EP.010 นำเสนอวิธีที่ดีกว่า DCA นิดนึง +แนะนำ FB กลุ่ม คนรักการออม

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 12 พ.ย. 2024

ความคิดเห็น • 8

  • @user-gi9ur6ze6e
    @user-gi9ur6ze6e 10 หลายเดือนก่อน +2

    ตอนนี้ETFบิทคอย เข้าในแอพยังDimeยังครับ

    • @MoneyForYou-ByCoachTao
      @MoneyForYou-ByCoachTao  10 หลายเดือนก่อน

      นักลงทุนรายย่อยไม่สามารถซื้อขายได้แล้วครับ ต้องเป็นสถาบันทางการเงินถึงจะซื้อขายได้ เป็นประกาศจากทาง กลต. ครับ ดับฝันรายย่อยเลยทีเดียว คนที่ซื้อไปแล้วสามารถขายออกได้อย่างเดียวครับตอนนี้ทั้ง dime และ innovest-X

  • @lifestyle.8192
    @lifestyle.8192 10 หลายเดือนก่อน +2

    แอดช่วยเปรียบเทียบราคา Dime Fan กับซื้อราคาปกติอันไหนคุ้มกว่ากัน...ถูกแพงกว่ากันในแต่ละเดือนครับ...ขอบคุณครับ😊

    • @MoneyForYou-ByCoachTao
      @MoneyForYou-ByCoachTao  10 หลายเดือนก่อน +1

      Dime Fan เหมาะกับคนที่ซื้อหุ้นสหรัฐเดือนละ 3 ครั้ง 1 ครั้งฟรีตามโปรเดิมคือซื้อ ขายฟรี 1 ครั้งแรก และครั้งที่ 2 และ 3 ก็ยังคงฟรีค่าธรรมเนียมเหมือนเดิม ตาม Dime Fan ที่สมัครไว้ก็จะได้ลดในครั้งที่ 2 -3 ครับ ถ้าเราไม่สนใจหุ้นไทยก็จะได้ฟรีเท่านี้ครับ รวม 3 ครั้ง
      และครั้งที่ 4 เป็นต้นไป ถ้าซื้อหุ้นสหรัฐมูลค่า 3000 USD หรือราว 1 แสนบาทขึ้นไปจะได้ค่าธรรมเนียมถูกลงโดยจะคำนวณ จำนวนหุ้น X 0.08 % ซึ่งปกติจะใช้มูลค่าซื้อ x0.15% ถือกว่าถูกว่าเยอะเลยครับและ ในส่วนของหุ้นไทยก็ซื้อได้ฟรีค่าธรรมเนียม 2 ครั้งต่อเดือนครับ ถ้าคุณรวมกันแล้วซื้อหุ้น 5 ครั้ง ไทย 2 อเมริกา 3 ก็คุ้มค่าอยู่นะครับ แต่ถ้าซื้อแค่เดือนละ 1-2 ครั้ง มูลค่าไม่มากก็ไม่คุ้มเท่าไหร่ สรุปว่าถ้าซื้อหุ้น USD ฟรี 3 ไม้ ถ้าหุ้นมีมูลค่าเยอะ ๆ ในการซื้อก็คือคุ้ม แต่ถ้าซื้อเล็ก ๆน้อยๆ ไม่กี่ร้อย ไม่กี่พันผมว่ายังไม่คุ้มนะครับ เพราะต้องจ่ายเดือนละ 39 บาท หรือปีละ 390 บาท ด้วย

  • @spktt5813
    @spktt5813 10 หลายเดือนก่อน +2

    ปกติเขาจะdca จำนวนเงินมั้ยครับเช่นเดือนละ1000 หารราคาหุ้นก็จะได้จำนวนตัวออกมา แต่แบบคุณก็แปลกใหม่ดีครับ

    • @MoneyForYou-ByCoachTao
      @MoneyForYou-ByCoachTao  10 หลายเดือนก่อน

      ถูกต้องนะครับ ผมกะจะให้แสดงผลเห็นว่าได้หุ้นเท่ากัน แต่ราคาเฉลี่ยต่างเลยทำให้ง่ายในความเข้าใจว่า DCA++ คุ้มกว่า แต่ถึงแม้จะลง DCA ด้วยจำนวนเงินเท่ากันก็จะได้จำนวนหุ้นมากกว่าเช่นกัน จริงๆ ก็ทำได้ทั้งสองแบบเลย แต่ Function DCA ของ Dime จะอ้างตามจำนวนเงินเท่า ๆ กันเป็นหลัก ขอบคุณที่เห็นข้อผิดพลาดมานะครับ

    • @PipeKungZ
      @PipeKungZ 9 หลายเดือนก่อน +1

      ใช่เลยครับ ผมก็งง ที่เขาทำมันไม่ใช่DCA มันคือการซื้อธรรมดา

    • @MoneyForYou-ByCoachTao
      @MoneyForYou-ByCoachTao  9 หลายเดือนก่อน

      @@PipeKungZ ผมจะแบ่งการซื้อแบบธรรมดาจะไม่มีการอ้างอิงอะไรเลย ใช้เงินจำนวนเท่าไหร่ก็ได้ ซื้อเดือนละกี่ครั้งก็ได้ ไม่แน่ไม่นอน นี่คือ Manual ล้วน ๆ อันนี้คือการซื้อแบบธรรมดา แต่แบบ DCA หลักมันคือ ซื้อทุก ๆ ช่วงเวลาเท่ากันไปโดยไม่สนใจราคาตลาด ก็ได้ราคาเฉลี่ยไป แต่ DCA++ หรือจะเรียกชื่อว่าอย่างอื่นก็ได้แล้วแต่จะตั้งชื่อ เช่น ชื่อซื้อแบบเต่าก็ได้อ่ะ จะเป็นการที่ใช้เงินจำนวนเท่าเดิม แต่จะหยุดซื้อ หรือจะซื้อก็ให้พิจารณาราคาหุ้นเอาเอง มีหยุดพักการซื้อได้ ซึ่ง DCA มันไม่หยุดต้องทำการซื้อไปตามที่กำหนดไว้ ซึ่งสุดท้ายคนที่พิจารณาจังหวะการซื้อได้ดี ก็ทำรายได้สูงกว่า การซื้อแบบเต่า (DCA++) ก็ได้ผลออกมาคุ้มค่ากว่า DCA ใครชอบอันไหนก็ใช้อันนั้นครับ ไม่มีหลักการตายตัว