ผมคือเด็ก Gen Z ผมก็รู้สึกไม่ชอบบางคนในรุ่นเดียวกับผมเหมือนกัน บางเรื่องมันสามารถอดทนไม่อดทน ขี้บ่น ทำตัวน่ารำคาญ แต่หลายๆคนที่เจอก็นิสัยดีเยอะ ส่วนผู้ใหญ่ที่ชอบกดขี่หรือชอบโทษเด็ก Gen Z ก็ถือว่ามีความคิดที่ไม่โอเคและไม่เปิดกว้างพอ แต่ยังไงมันก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลไม่เกี่ยวกับ Gen หรอก
คหสต. ผมเป็น Gen Y เป็นหัวหน้าและต้องทำงานกับน้องๆ Gen Z เยอะ ด้านการวิถีการทำงานมีส่วนที่ต่างกันเยอะแต่ยังทำงานเข้ากันได้ค่อนข้างดี แต่ที่ตรงมากๆคือ Gen Z คือความคาดหวังสูง และ อดทนต่ำกว่า Gen แก่ๆ (แต่ก็ไม่ใช่ทุกคน) แต่ถ้าเราใช้คำพูดให้ถูกและเข้าหาให้ได้น้องๆให้เป็น เวลาพวกน้องโชว์ของนี่ Gen Z มีความสามารถหลากหลายและน่าทำงานมากกว่า Gen X และ Boomers มากนะ (ถ้างานไม่เน้น connection และ ประสบการณ์)
ผมเป็นคน Gen Y ฟังแล้วก็พอจะเข้าใจได้นะว่าทำไมน้องๆ Gen Z ถึงถามออกไปว่าถ้าได้งานเพิ่มแล้วได้เงินเพิ่มด้วยมั้ย อันที่จริงมันก็ makes sense นะ ในมุมมองของบริษัทอาจจะมองว่าที่ให้งานเพิ่มเพราะอยากเพิ่ม skill ให้พนักงาน แต่บริษัทก็ต้องไม่ลืมด้วยว่าอีกมุมนึงมันคือเพิ่มงานให้พนักงานทำงานมากขึ้นด้วย อันที่จริงมันมีหลายวิธีในการทำนะและส่วนใหญ่มันขึ้นอยู่กับบริษัทและหัวหน้างานว่าบริหาร workload ได้ดีแค่ไหนด้วย ยกตัวอย่างเช่นถ้าหัวหน้าอยากพัฒนา skill บางอย่างให้กับคนในทีม หัวหน้าก็ต้องบริหาร workload ของคนในทีมให้ดีโดยไม่ทำให้เค้ารู้สึกว่าเค้าต้องทำงานหนักขึ้นแต่ได้แค่แรงเท่าเดิมเหมือนกัน มันคือศิลปะที่หัวหน้างานต้องฝึกครับจะโทษเด็กๆอย่างเดียวไม่ได้
Gen Z ครับ ผมเรียน Visual Effect มา ตอนไปฝึกงานช่วงปรับตัวให้เข้ากับระบบการทำงานของบริษัท หัวหน้าคุมงานก็สอนไม่ค่อยเข้าใจ ถามอะไรก็เอาแต่ด่าบ้างแหละ ตบหัวบ้างแหละ ยังดีมีรุ่นพี่มาคอยช่วยสอนเบื้องหลัง point ผมคืออย่ามาว่าแต่คนอื่นลองมองตัวเองบ้าง ทำตัวไม่น่านับถือใครเขาจะดีด้วยได้
เห็นพูดกันเยอะๆว่า GEN Y เป็นเจนที่ความอดทนสูงมากที่สุด และปรับตัวกับที่ทำงานได้เยอะสุด อยู่ระหว่างกึ่งกลาง เพราะต้องทำงานเขาให้ได้ทั้งกับพวก Gen X คนแก่ กับ Gen Z ที่เรื่องเยอะ
คน Gen Y เกิดในยุคที่เริ่มมีเทคโนโลยีแล้ว แต่ไม่สุด จึงทันสมัยไม่ตกยุค อีกทั้งหลาย ๆ อย่างยังฝึกให้คน Gen นี้มีความอดทนสูง เช่น จะฟังเพลงก็ขอตามสถานีวิทยุ ต้องรอคิวที่ตนเองขอไว้กว่าจะได้ฟังเป็นยุคแห่งความคลาสสิคเลย นึกแล้วดีใจที่ตัวเองเป็นคน Gen นี้มาก
ไม่ได้อวยนะ แต่ Gen y เดอะแบกแห่งยุคจริงๆ พยายามให้ babyboomer หัวโบราณเปิดรับ คอยตามเช็ดขี้ความมุทะลุของ gen x ที่ไม่ค่อยประมาณตน คอยตามใจเด็ก gen y ที่ไม่ค่อยเข้าใจบริบทสังคม อยากทำงานในอุดมคติอย่างเดียว gen y นี่จริงๆเป็น gen ที่ขี้เกียจชอบ work life balance นะเอาจริงๆ แต่ gen y จะไม่ได้ใช้ชีวิต worklife balance แบบนั้นหรอก เพราะต้องคอยแบก ตอนทำงานร่วมกับทุก gen ระทมใจจริงๆ
ไม่อยากรับก็ต้องรับแหละมั้ง เพราะ Gen Y ไม่ได้อยู่เป็นอมตะไปทั้งชาตินี่คะ ในอนาคตก็ต้องรับ Gen Z หรือเจนใหม่ ๆ เข้าทำงานอยู่ดี ทางที่ดีคือต้องปรับตัวกันทั้งสองฝ่าย ทั้งเด็ก Gen Z ที่ต้องฝึกความอดทน ทำตามกฎระเบียบสังคม ฝึกวินัยในตัวเอง ส่วนบริษัทก็ต้องให้โอกาสเด็ก ๆ ได้แสดงความเป็นตัวเองบ้างเหมือนกัน ไม่ใช่เอาแต่สั่งงานให้ทำเป็นหุ่นยนต์อย่างเดียว ถ้างั้นแนะนำงานสายครีเอทีฟค่ะ น่าจะเหมาะกับเด็กที่มีความคิดสร้างสรรค์ หรือไม่ก็องค์กรเล็ก ๆ ที่ไม่เคร่งกฎระเบียบมากเกินไป แต่อย่างที่บอกไปค่ะ Gen Y ไม่ได้อยู่ค้ำฟ้า ยังไงก็ต้องปรับตัวกันทั้งสองฝ่าย
บริษัทก็มีกฎของบริษัทครับมีมาตรฐานที่ต้องทำตามแต่gen z แต่ละคนก็ไม่ใช่ว่าจะนิสัยดีหมดนะครับ1.อยากได้เงินที่เยอะแต่งานทำไม่ได้เป้าที่เขากำหนดเพราะบริษัทก็มีงานที่ต้องส่งออกอยู่เรื่อยๆ2.มาสายซึ้งบางคนทำบ่อยมากจนจำได้แม่น3ตำหนิหรือติเตื่อนไม่ค่อยได้คือทำสีหน้าไม่พอใจ,ทำตาขวาง,มองบน,ถอนหายใจแรงๆ ทั้งๆที่ทำงานไม่ได้ตามเป้าที่ทางบริษัทกำหนดอันนี้คือยกต้วอย่างที่ผมและเพื่อนเจอมาบางคนปรับตัวได้ก็ดีไปครับของของผมนี้โดนนินทาฉ่ำสำหรับคนที่อยากได้เงินเดือนสูงทำงานสบายมีเวลาว่างเยอะหาอยากครับคุณอยากได้จากบริษัทเยอะก็แค่ทำให้คุ้มกับสิ่งที่คุณจะได้รับโลกนี้มันโหดร้ายครับชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบถ้าไม่พอใจก็แค่เปลี่ยนบริษัทครับเขาไม่ล้มละลายเพียงแค่ไม่จ้างคุณเข้าทำงานหรอกครับอย่างที่บอกgen zแต่ละคนนิสัยไม่เหมือนกันดีบ้างไม่ดีบ้างคุณไม่ทำบริษัทก็หาคนใหม่มาแทนได้อยู่ดีครับ
@@nungnarok4063 ก็จริงครับ แต่ว่าทำไมที่เก่าไม่ขึ้นเดือนให้ละครับ? พอน้องผมได้งานมาบอกลาออกรีบเสนอเลื่อนตำแหน่งให้เลยเงินเดือนสูงกว่าที่น้องขออีก สรุปคือบ.สามารถขึ้นเงินเดือนตามความสามารถได้แต่แค่ไม่เคยเห็นหัว พอลาออกก็โดนหาว่าเป็นเด็ก gen z มันน่าปวดหัวกับพวกคนแก่จริงๆนะครับ
ก็ไปจ้าง gen x gen y ไม่เลี้ยงเขามา เลือกของที่มีในตลาดมั้ย หาว่าเขาหางานในฝัน ก็อย่างอแงเอาลูกจ้างเกรดไม่มีจริง สิและที่สุด นายจ้างนั่นก็จะวินมันทุก gen ที่ไม่รับอารมณ์ที่เกินกฎิกากลาง ไม่ใช่ดูเป็น gen ไม่ใช่แม้แต่ดูเป็นคน แต่ให้ดูเป็นเรื่อง ทุกคนเข้าข้างตัวเอง
เป็น Gen Z ค่ะ แต่เรามองว่ามันขึ้นอยู่กับตัวบุคคลและยุคสมัย ยุคนี้อะไรก็เข้าถึงง่าย ช่องทางการหางานใหม่มีเยอะ ทำให้มีทางเลือกมากขึ้น ถ้าบริษัทให้ในสิ่งที่ต้องการไม่ได้ก็แยกย้าย เราคิดว่า Gen ก่อนๆ อาจจะไม่มีทางเลือกเท่าปัจจุบันทำให้ต้องอดทนทำงานตรงนั้นจนเกิดความชิน พอเจอเด็กรุ่นใหม่ที่กล้าพูดกล้าออกความเห็นเลยอาจจะดูโผงผางเกินไป เราว่า Gen Z ที่เกิดช่วง 2000 ต้นๆยังเคารพผู้ใหญ่อยู่นะคะ แต่ช่วงหลังๆที่มีการเข้าถึงโซเชียลมากขึ้น มีการออกมาเรียกร้องสิทธิต่างๆ อาจจะทำให้เด็กรุ่นหลังสุดโต่งขึ้นค่ะ
จริงครับ เอาจริงๆ ผมได้ยินวลียอดฮิตที่ว่าเด็กใหม่ไม่ได้เรื่อง ไม่ทน ตั้งนานแล้งนะครับ แต่ยุคนี้มีเน็ต พวก GEN X Y ก็เลยใช้พื้นที่ด่า ด้อยค่าเต็มที่ ทั้งที่ตอนที่ GEN X Y จบใหม่ ไม่มีปสก ก็สภาพไม่ต่างกับ GEN Z ในยุคนี้
ผมมองว่า Gen นี้อยู่บนโลกออนไลน์และสื่อดิจิทัลมาตั้งแต่เกิด มันทำให้ไม่สมดุลกับการอยู่บนโลกความเป็นจริงและขาดประสบการณ์การใช้ชีวิตกับสังคม ช่วงวัยนศ.ต้องระวังเลยเพราะเป็นช่วงที่กำลังโตและสร้างประสบการณ์จริงๆ
ปัญหาของเด็ก Gen Z คือ สังคมที่ไม่ปลอดภัยเหมือนเมื่อก่อน ผู้ปกครองบางคนก็เลยเลี้ยงลูกเป็นคุณหนูติดจอ Gen Z ถ้ารับ Gen อื่นไม่ได้ก็ต้องสร้างโลกแบบที่ตัวเองค้องการให้ได้
น่าจะเป็นที่ตัวบุคคลมากกว่าครับ น้องๆ Gen Z ที่ทำงานกับผมส่วนใหญ่ก็ปกติดี แต่ของต่างประเทศนี่ไม่รู้ เพราะเดี๋ยวนี้ทางฝั่งฝรั่งก็ชอบมีอะไรแปลกๆแนวคิดแปลกๆโผล่มาตลอด
ผม Gen z บอกตามตรง นายจ้าง ส่วนใหญ่ดูไม่ค่อยหน้าเชื่อถือเลยครับ แบบมีแค่ปสก.กับอายุจริงๆขาดความคิดใหม่ๆ เหมือนมองเราว่าเขาทนทุกข์มาเราก็ต้องทนทุกข์เหมือนเขา ทั้งที่มันไม่จำเป็นเลย Gen ใหม่นั้นพร้อมเสี่ยงเพื่อหาความก้าวหน้า แต่ Gen เก่า แสวงหาความมั่นคงและปลอดภัย
เคสเด็ก Gen Z ถือว่าเป็นปัญหาหลายคนหลายบริษัทที่จะไม่รับ เพราะคนบางคนอาจจะทนแรงกดดันไม่ได้ งานเยอะเงินเดือนไม่คุ้ม ถ้ามองในมุมของเด็ก Gen Z เขาก็อยากทำงานที่มันสบาย ไม่กดดันหนักมาก งานเยอะแต่เงินเดือนต้องดีและคุ้มด้วย แต่ Worst Case สุดอยู่ที่โครงสร้างบริษัทมากกว่า
ผมว่าเด็ก GEN Z มันไม่ซีเรียสหรอกเพราะถ้าไม่รับจริงๆวันนึงมันก็ต้องรับ เพราะคน GEN X GEN Y วันนึงมันก็ทำงานไม่ได้ด้วยอายุที่มากขึ้น ยังไงมันก็ต้องใช้บริการคน GEN Z อยู่ดี
ในฐานะที่ผมเป็น Gen Z คนนึงนะ(ยังไม่เริ่มทำงาน) คือ เรื่องความอดทนหนะ ผมว่ามันแล้วแต่คนจริงๆ เพื่อนผมหลายคนเวลาเจออะไรหนักๆอย่างมากก็แค่บ่นหรือระบายให้คนที่ไว้ใจได้ฟัง ไม่ค่อยกล้าเถียงกลับใคร ส่วนเรื่องที่บอกว่าชอบเถียงอะไรงี้ ผมว่าส่วนมากจะเป็นการตั้งคำถามจาก Gen Z มากกว่า แต่ปัญหาคือ Gen Z ชอบตั้งคำถามอะไรที่ Gen อื่นเขาน่าจะไม่สนใจหรือไม่ชอบให้ถามกันมั้ง ซึ่งเวลาผมถามอะไรใคร คือมันสงสัยจริงๆ แต่สิ่งที่ได้กลับมามักจะไม่ใช่คำตอบ แต่จะโดนหาว่า ไม่อดทนเลย เถียงกลับหรอ ทั้งๆที่ ก็ผมแค่ถามอะ อีกอย่างคงจะเป็นเรื่องการสื่อสาร คือผมเป็นคนนึงที่ให้ความคิดเห็นอะไรใครแล้วจะโดนหาว่าไร้สาระนะ แต่พอฟังความคิดเห็นคนอื่นที่พูดหลังจากผม มันก็คือสิ่งเดียวกับที่ผมพูดไปหนิ แล้วดันได้คำชมด้วยนะ เหมือนผมชี้ไปทางทิศเหนือแล้วคนอื่นเห็นผมชี้ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้อะ ผมว่าส่วนมากมันมาจากการสื่อสารนี่แหละ และปัญหาที่ต่างจาก Gen อื่น บางเรื่องสมัยก่อนอาจง่าย แต่ตอนนี้มันไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่ Gen อื่นเขาผ่านมาแล้วและมีภาพจำในแบบของเขาไปแล้ว และไม่คิดจะมองย้อนกลับมาอีกในเวอร์ชั่นของปัจจุบัน
เป็น GEN Y ที่คิดว่าเด็ก GEN Z ไม่น่ารำคาญเท่าเบบี้บูมเมอร์ อันนั้นคือคุยด้วยเหลืออดเหลือทนสุดละ เก่งสุด ดีสุดไม่เคยผิด เหยียดเก่ง เอะอะก็ว่าคนรุ่นใหม่ไม่อดทน เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ยึดติดระบบเดิมๆ ไม่คิดจะปรับเปลี่ยน เทคโนโลยีไปไกลแค่ไหนก็ไม่คิดปรับตัว ต้องให้คนอื่นหมุนรอบตัวเอง แต่เจนเบบี้บูมที่น่าเคารพก็มีนะคะ แต่น้อยมากที่เจอ
เราเป็นหัวหน้างานของ gen z เด็ก gen นี้ คือ เก่งในเรื่องงานสมัยใหม่ สามารถประยุกต์เทคโนโลยีมาใช้ร่วมได้ดี แต่การปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานคือไม่ดีเท่าที่ควร และทำงานแบบเอาให้เสร็จเร็วไว้ก่อน บางทีก็ไม่ทำตามสิ่งที่หัวหน้าหรือผู้อาวุโสกว่าบอก เพราะเห็นว่าไม่จำเป็น แต่จริงๆคือเป็นสิ่งที่จำเป็นเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่เค้ายังไม่เจอกับตัวเองเค้าก็จะคิดว่ามันจำเป็นแบบไหน
ผมเป็น Gen Y ทำงานกับคนเกือบทุก Gen และ Gen Z อาจไม่ไช่ทุกคนแต่ส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องความอดทนต่ำมากอันนี้จริง ส่วนปัญหาคิดว่าเกิดจากการเลี้ยงดูของครอบครัวที่ โอ๋เด็กมากเกินไป ตีไม่ได้ - ด่าไม่ได้บอกว่าไม่มีเหตุผล(แต่เหตุผลที่เขากล่าวอ้างถึงจะมาจากตอนเขาเป็นคนผิดไม่รู้แท้จริงต้องการเหตุผลหรือแค่รับไม่ได้ว่าตัวเองผิดหรืออยากสบายไม่ต้องรับผิดชอบ) เจออะไรลำบาญๆก็ไม่เอา - ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปมีสิ่งที่อำนวยความสะดวกสบายมากขึ้น พ่อแม่ที่เคยเจอความลำบากมาก่อนก็ไม่อยากให้ลูกลำบากเหมือนตัวเอง แต่รู้ไหมว่าถ้าวันนึงคุณไม่อยู่บนโลก เขาจะเจอกับอะไร ถ้าคุณฟาร์มเงินให้เขาเหลือกินเหลือใช้ก็ดีไป แต่ถ้าเงินที่มีไม่ได้เหลือใช้ไปตลอดก็ระวังครับ ถ้าไป 30-40 ปี เด็ก Gen Z อายุ 50+ เขาก็อาจจะเป็นมนุษย์ลุง-ป้า เหมือนที่คุณเรียกนั้นแหละ เรียนรู้-เปลี่ยนแปลงมันให้ได้ครับ - ปัญหาเรื่องความอดทน ผมไม่ได้บอกว่าเป็นเฉพาะ Gen Z นะ เป็นทุก Gen นั้นแหละ แต่ Gen Z เท่าที่เจอมาเยอะสุด ว่าที่มนุษย์ลุง-ป้า
ผมgen y ทำงานสายช่างครับ มีโอกาสได้เทรนน้องฝึกงานและน้องบัดดี้หลายคนครับ ความอดทนผมว่าก็ไม่ต่างจาก gen Y นะมีคนขี้เกียจคนขยันปะปนกันไปพอๆ กับ Gen y ส่วนเรื่องความมั่นใจ Gen z ค่อนข้องจะมีเยอะหกว่าGen ผมนะ ถ้าเราเลือกใช้คำพูดให้เป็น Gen z ก็พร้อมจะทำงานๆ ให้เต็มที่ไม่ต่างจาก Gen Y แต่ที่ไม่ไหวจริงๆ คือพวก Gen X กับ Boomer คือวันๆ ไม่ทำอะไรรอแต่จะติ กับ เลียนายเล่นพรรคเล่นพวกเป็นที่ 1 เหลี่ยมเยอะยังกะลูกบาศก์ ถ้าให้ผมเลือกทำงานด้วยผมขอเลือกทำงานกับ Gen z ครับ
มาร่วมตะลุยกาแล็กซีไปพร้อมอัปเดทใหม่ล่าสุด! กับ Honkai Star Rail ได้แล้ววันนี้!
ลิงก์ดาวน์โหลดเกม hoyo.link/ag5kFICL
กรอกโค้ด EB3KUYQW833P เพื่อแลกรับ 50 Stellar Jade ฟรี!!
Ref.
www.dailymail.co.uk/yourmoney/consumer/article-13886905/bosses-firing-gen-z-workers-record-time.html
alumni.mahidol.ac.th/soft-skill/
www.news.com.au/finance/work/careers/difficult-trend-getting-gen-zers-fired/news-story/7823f2d96ae3734dae9a49d8080fa2e1
nypost.com/2024/10/03/lifestyle/gen-z-cant-cope-with-life-blame-lazy-gen-x-parenting/?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTAAAR25bt5YBdJ0whQvsUD94n4HzfboUDEtdkJrLm_GSjG2xH5ryxxgxCEjMXk_aem_Eo1mT-OpwrjoJ0PJG7NwdQ
ผมไม่แปลกใจนะยุคนี้คนเล่นแต่มือถือก้มหน้าก้มตาเล่น จึงทำให้สมาธิสั้นอดทนอะไรไม่ค่อยได้ อารมขึ้นๆลงๆสวิงไปมา ต้องลดการใช้มือถือไม่งั้นชาวโลกเสื่อมลงแน่นอนครับ 😊
แพทช์นี้คุณลักเปิดใครค้าบ Rappa หรือ Acheron
@@devilrut4299เห็นด้วยครับ ไม่ใช่แค่เด็กนะ พวกMillennials หรือพวกแก่ๆอย่าง Baby boomer ก็เป็นเหมือนกัน น่าเป็นห่วงจริงๆ แถมบนรถสาธารณะคนแก่ๆนี่ดูอะไรชอบแบ่งคนอื่น เปิดเสียงดังแบบ ไม่เกรงใจใครเพราะอาบน้ำร้อนมาก่อน น่าเป็นเป็นห่วงจริงๆนั่นแหละประชากรโลก😊
เดี๋ยวๆมาบุกช่องนี้ด้วยหรอนี้ 🤣🤣 (ปล. อาเชอรอนเมพมาก)
ผมคือเด็ก Gen Z ผมก็รู้สึกไม่ชอบบางคนในรุ่นเดียวกับผมเหมือนกัน บางเรื่องมันสามารถอดทนไม่อดทน ขี้บ่น ทำตัวน่ารำคาญ แต่หลายๆคนที่เจอก็นิสัยดีเยอะ ส่วนผู้ใหญ่ที่ชอบกดขี่หรือชอบโทษเด็ก Gen Z ก็ถือว่ามีความคิดที่ไม่โอเคและไม่เปิดกว้างพอ แต่ยังไงมันก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลไม่เกี่ยวกับ Gen หรอก
+
ใช่ครับ ผมมีความคิดเห็นแบบเดียวกับคุณเลย ซึ่งมันเป็นแค่บางคน(เท่าที่ผมเจอมาส่วนตัว) ผมที่เป็นรุ่นเดียวกันยังรู้สึกว่าทำงานร่วมกันได้ยาก สุดท้ายผมว่าไม่ได้เกี่ยวกับคน Gen ไหนๆ แต่เป็นนิสัยส่วนตัวมากกว่า
เป็นทุกรุ่นมีทุกรุ่นบ่นทุกรุ่น เดี๋ยวพวก gen z มันโตขึ้นพวกนี้ก็บ่นรุ่นต่อไปอยู่ดี
จริงมาก
เป็นทุกรุ่นทุกเจน แต่genz ไม่ยอมรับความจริงชอบดราม่าบนโซเชี่ยล รุ่นก่อนๆเค้าก็โดนตำหนิกันหมด
คหสต. ผมเป็น Gen Y เป็นหัวหน้าและต้องทำงานกับน้องๆ Gen Z เยอะ ด้านการวิถีการทำงานมีส่วนที่ต่างกันเยอะแต่ยังทำงานเข้ากันได้ค่อนข้างดี แต่ที่ตรงมากๆคือ Gen Z คือความคาดหวังสูง และ อดทนต่ำกว่า Gen แก่ๆ (แต่ก็ไม่ใช่ทุกคน) แต่ถ้าเราใช้คำพูดให้ถูกและเข้าหาให้ได้น้องๆให้เป็น เวลาพวกน้องโชว์ของนี่ Gen Z มีความสามารถหลากหลายและน่าทำงานมากกว่า Gen X และ Boomers มากนะ (ถ้างานไม่เน้น connection และ ประสบการณ์)
Gen Y เป็นเดอะแบกของยุคนี้จริงๆครับ ไหนจะ หน Gen X , Boomer และยัง ลน Gen Z
Y ด้วย โครตแบก เหนื่อยจนจะเป็น ประสาท รับฟังสองฝ่ายจนเหนื่อยจะฟัง
ใช่ๆ ใช่เลย เราก็เป็น Gen Y เหมือนกัน เวลาจะทำงานกับน้องที่เป็น Gen Z น่ะ ต้องหาวิธีสื่อสารให้เค้าเข้าใจเราให้มากที่สุด และต้องเป็นการสื่อสารที่เหมาะกับวัยเขามากที่สุดเท่าที่คนอย่างเราจะทำได้ ไม่งั้นนะ งานไม่เดินจริงๆ 😅 แต่งานที่ได้นะ มันเลิศ มันปังนะ บอกเลย เด็กๆเขามีของอยู่ เราแค่เป็นรุ่นพี่ ก็แค่หาช่องทางให้เขาได้แสดง แบบที่ถูกต้องและเหมาะสมกับเขา ถึงจะอึดอัดเราหน่อย แต่งานที่ได้ มันออกมาสำเร็จและดี เราก็ยอมนะ😊 เนอะ!!!
เราเป็นgen yทำงานเป็นหัวหน้าทีมอยู่ในยุโรป เท่าๆที่เจอมา gen zบางคนไม่ไหวจริงๆ ถ้าเทียบกับเจนอื่น มาสายกลับไว ให้ทำงานที่บ้านก็ไม่active ไม่เข้าประชุม ต้องโทรตาม สรุปโทรไปแล้วรู้ว่าหนีนอน 😅 โอ๊ยยย
พี่เจนวาย เทรนน้องเจน z ต้องใจเย็นๆ ค่อยๆพูด ให้โอกาสปีนึงละกัน ถ้าไม่ปรับปรุงขึ้นต้องคอยให้บอกตลอดก้นะ …. เชิญจ้า แต่น้องดีๆก้มี ขึ้นอยุกับการเลี้ยงดูแหละ ไม่ใช่เจน ไปโทษพ่อแม่มัน
เราเป็นครูค่ะ และสอนเด็ก gen นี้อยู่ เด็กๆ Gen นี้ส่วนใหญ่เป็นแบบในคลิปนี้เลยค่ะ แต่ถ้ามองในมุมมองของครูที่เคยทำงานบริษัททั้งไทยและต่างชาติมาแล้ว และในมุมที่เจอกับเด็กๆ Gen นี้
เด็กๆ วัยนี้เขามีความเข้าใจอะไรผิดๆ เยอะค่ะ สิ่งที่ผู้ใหญ่ควรทำคือ ผู้ใหญ่ต้องเข้าใจความคิด ความคาดหวัง และอารมณ์ของพวกเขาก่อน ทำตัวเองให้เป็นตัวอย่างที่ดีให้พวกเขาเห็น แล้วจึงค่อยใช้เหตุผล(จริงๆ) ที่ทำให้เขาเห็นภาพ และเห็นผลกระทบที่จะมีต่อตัวเขาว่า ถ้าเขาคิดแบบนี้ ทำแบบนี้ จะเกิดผลลัพธ์ยังไง และเวลาที่คนอื่นทำแบบนั้นแล้วเขาไม่ชอบ แล้วเขาหล่ะเขาทำแบบเดียวกันกับที่คนนั้นๆ ทำอยู่หรือป่าว
สอนให้เขามองที่ตัวเองให้บ่อยขึ้นด้วยเหตุและผล (จริงๆ) พวกเขาจะกลายเป็นคนที่อยากพัฒนาตัวเอง ไม่ใช่ไปพัฒนาคนอื่นด้วยการจับผิด แต่ไม่เคยจับผิดตัวเอง
ทำไมผู้ใหญ่ที่เป็นนายจ้าง และเป็นหัวหน้า ต้องเป็นฝ่ายทำ เป็นฝ่ายยอมล่ะครับ
ในเมื่อเด็กมีความรู้ความสามารถ จบปริญญามาได้ ก็ต้องทำตัวให้สมกับเป็นลูกจ้างที่ าของานเขาทำครับ
@Jet-xb2oy ไม่ใช่ว่าใครยอมใครค่ะ ปัญหาอยู่ที่ไหนต้องแก้ที่ต้นตอของปัญหาค่ะ
ต้นตอคือ ตัวเด็กที่ถูกการเลี้ยงดูในรูปแบบต่างคนต่างใช้ชีวิต แค่อยู่ในบทบาทแตกต่างกัน อีกทั้งสังคมที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อตัวเด็กๆในด้านที่ไม่ได้ส่งเสริมให้เด็กๆ รู้จักการการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ภาพบนโซเซียลที่ปลูกฝังความเพ้อฝัน อยากได้อยากมีและอยากเป็นของเด็กๆ อีกทั้งมือถือที่ดูอะไรๆ ไม่จบก้อเปลี่ยนไปดูอย่างอื่นได้ง่ายๆ ส่งผลให้เกิดความอดทนที่ต่ำลงเรื่อยๆ
คุณจะเห็นว่าปัจจัยข้างต้นหล่อหลอมให้เด็กๆ GenZ เป็นบุคลากรที่ยังไม่พร้อมเท่าที่ควร
ถ้าคุณจะเปลี่ยนความคิด กระตุ้นความสามารถในการคิดวิเคราะห์แยกแยะ (Critical thinking) ของพวกเขาคุณต้องเริ่มจากตรงไหนคะ เพราะถ้าคุณเอาแต่บ่นๆ นอกจากจะไม่ได้ผลแล้ว ยังเกิดการต่อต้านค่ะ
จากสิ่งเราใช้กับเด็กๆ คือ การตั้งคำถามแล้วให้เขาไปหาคำตอบ
@Jet-xb2oy การตั้งคำถาม เด็กๆ จะได้ความ เอ๊ะ ! ได้ใช้เวลาในการไตร่ตรอง และเมื่อเขาไปหาคำตอบ เขาจะได้เรียนรู้บางอย่างจากการหาคำตอบนั้นๆ เราก็แค่รับฟังที่จะเขาจะอธิบาย และตบๆ คำตอบให้เข้าร่องเข้ารอยค่ะ
ยกตัวอย่าง เด็กที่ชอบเถียง จริงๆ ถ้าฟังเขาดีๆ เขาไม่ได้ชอบเถียงนะคะ เขาแค่ไม่เข้าใจว่าอะไรแบบไหนจึงเรียกว่า ใช้เหตุผล หรือเถียง ผู้ใหญ่เองก็ยังแยกไม่ออกเลยค่ะ
เราก็อธิบายไปว่า
เถียง คือการเอาข้ออ้างเพื่อมาสนับสนุนให้ได้ในสิ่งที่ชอบที่พอใจ (ถูกใจ = ถูกต้อง) แต่ไม่ได้ถูกต้อง
ส่วนเหตุผล จะตั้งอยู่บนความถูกต้อง ควร ไม่ควร และผลดี ผลเสียที่เกิดขึ้น
หลังจากนั้นเมื่อเขาเถียง เราจะตั้งคำถามว่า นี่เรากำลังใช้ข้ออ้าง หรือเหตุผล ถ้าเขาบอกว่า เหตุผลทั้งๆ ที่ใช้ข้ออ้าง ก็แค่กลับไปตั้งคำถามว่า ข้ออ้างคืออะไร และเหตุผลคืออะไร เขาก็ค่อยๆยอมรับ และตื่นรู้ว่า อ้อ เรากำลังใช้ข้ออ้างกับครูนี่นา
*** เด็กๆ เขามีประสบการณ์บนโลกใบนี้แค่ 20 กว่าปี จะให้เขามาเข้าใจผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์บนโลกใบนี้มานานกว่าพวกเขาคงเป็นไปได้ยากค่ะ
บางคนเขารั้น สอนงานไป เขาฟัง แต่เขาไม่ทำตาม เขาจะคิด จะทำของเขาเอง แล้วก็ไม่สำเร็จ บางทีทำให้ เขาก็ไม่สนใจ
@@view2743 มันขึ้นอยู่กับวัคซีนหรือเปล่า มันฉีดอะใรให้พวกเราเข้าไปตั้ง3-4ครั้ง 😂 รู้สึกไม่ว่าผู้ใหญ่หรือเด็กอารมทุกวันนี้ก็ไม่ต่างกันสังคมเริ่มจะไม่ฟังกัน หงุดหงิดใส่อารมใส่กันมาก😂
2:04 จบโฆษณา
ซื้อPremium เพื่อหนีโฆษณา แต่ดันมาเจอโฆษณาในคลิปแทน😂
โฆษณาครั้งนี้มันนาน ผมเลยแปะไว้ ตั้ง 2 นาที
@@aeksarut2168 ขอบคุณที่แปะไว้ให้ครับ😄
ขอบคุณมากๆที่แปะพร้อมข้ามได้เลย
กราบขอบพระคุณมากครับ
ผมเป็นคน Gen Y ฟังแล้วก็พอจะเข้าใจได้นะว่าทำไมน้องๆ Gen Z ถึงถามออกไปว่าถ้าได้งานเพิ่มแล้วได้เงินเพิ่มด้วยมั้ย อันที่จริงมันก็ makes sense นะ ในมุมมองของบริษัทอาจจะมองว่าที่ให้งานเพิ่มเพราะอยากเพิ่ม skill ให้พนักงาน แต่บริษัทก็ต้องไม่ลืมด้วยว่าอีกมุมนึงมันคือเพิ่มงานให้พนักงานทำงานมากขึ้นด้วย อันที่จริงมันมีหลายวิธีในการทำนะและส่วนใหญ่มันขึ้นอยู่กับบริษัทและหัวหน้างานว่าบริหาร workload ได้ดีแค่ไหนด้วย ยกตัวอย่างเช่นถ้าหัวหน้าอยากพัฒนา skill บางอย่างให้กับคนในทีม หัวหน้าก็ต้องบริหาร workload ของคนในทีมให้ดีโดยไม่ทำให้เค้ารู้สึกว่าเค้าต้องทำงานหนักขึ้นแต่ได้แค่แรงเท่าเดิมเหมือนกัน มันคือศิลปะที่หัวหน้างานต้องฝึกครับจะโทษเด็กๆอย่างเดียวไม่ได้
อีกแง่นึงการให้คนทำไม่เป็นไปฝึกมันก็ได้ผลงานที่แย่กว่าแถมเสี่ยงด้วยนะครับว่างานจะมีปัญหาขนาดตอนเรียนหนังสือเรายังต้องจ่ายเงินให้เค้ามาสอนเราเลยงานใหม่ๆเราได้ความรู้แต่บริษัทก็ต้องรับความเสี่ยงนะครับ
มันก้ำกึ่งนะคะ gen y เหมือนกัน ทำงานมา อยู่มาหลายบริษัท ทั้งไทยและต่างชาติ ยังไม่เคยเจอที่ไหนทำงานไปแล้วงานเท่าเดิมนะ เจอแต่งานเยอะขึ้น เป็นปกติที่นายจ้างจะใช้งานลูกจ้างให้เต็มศักยภาพเท่าที่ทำได้ การให้เรียนรู้งานเพิ่ม ส่วนหนึ่งก็เป็นการสร้าง career path ให้กับตัวพนักงานเอง ถ้าไม่ใช่พวกเส้นสาย ไม่มีเจ้านายที่ไหนอยู่ดีๆ จะเลื่อนตำแหน่งให้คนที่เขาไม่มั่นใจว่าทำงานในขอบข่ายที่ต้องรับผิดชอบสูงขึ้นได้ มันต้องผ่านการลองทำ สอนให้ทำ มาก่อนทั้งนั้น นอกซะจากว่าไม่ต้องการเติบโตในหน้าที่การงาน (แต่ก็ต้องยอมรับนะว่าจะไม่ได้รับการปรับเงินเดือนที่ก้าวกระโดด) เพราะรับผิดชอบงานอยู่กับที่ เงินเดือนตอบแทนมันก็อยู่กับที่ อย่างมากก็ปรับเงินประจำปีตามเรทปกติ
@@silvermoonknight อันนี้ต้องดูลึกลงไปว่าทำงานหนักขึ้นทั้งทีมหรือเฉพาะบุคคลครับ จาก ปสก. ที่ทำมาทั้งบริษัทไทยและ international ปัญหาส่วนใหญ่ที่เห็นคือระดับ management level แมนเนจ workload ไม่ดีและทำให้บางคนในทีมหรือทั้งทีม suffer เป็นเวลานานๆจน burnout และทยอยลาออกกันไป ซึ่งปัญหาพวกนี้น้องๆที่อยู่ในระดับต่ำกว่าแก้กันเองไม่ได้ผลเลยเป็นอย่างที่เห็นนั่นแหล่ะครับ เรื่องของ career path ผมจะไม่พูดถึงนะครับเพราะถ้าข้ามเรื่อง basic แบบนี้ไปไม่ได้คงไม่มีใครสนใจเรื่อง career path ของที่นั้นๆอยู่แล้ว
@@silvermoonknight อันนี้ต้องดูลึกลงไปว่าทำงานหนักขึ้นทั้งทีมหรือเฉพาะบุคคลครับ จาก ปสก. ที่ทำมาทั้งบริษัทไทยและ international ปัญหาส่วนใหญ่ที่เห็นคือระดับ management level แมนเนจ workload ไม่ดีและทำให้บางคนในทีมหรือทั้งทีม suffer เป็นเวลานานๆจน burnout และทยอยลาออกกันไป ซึ่งปัญหาพวกนี้น้องๆที่อยู่ในระดับต่ำกว่าแก้กันเองไม่ได้ผลเลยเป็นอย่างที่เห็นนั่นแหล่ะครับ เรื่องของ career path ผมจะไม่พูดถึงนะครับเพราะถ้าข้ามเรื่อง basic แบบนี้ไปไม่ได้คงไม่มีใครสนใจเรื่อง career path ของที่นั้นๆอยู่แล้ว
@@วินวิบูล ก็ไม่ได้แย่ซะทีเดียวครับ key ของการ assign งานคือการจัด priority ของงาน แยกประเภทและดูความเสี่ยงก่อนว่าพอจะมอบหมายงานนั้นๆให้เป็นงานสำหรับฝึกสกิลบางอย่างกับคนในทีมได้มั้ย ต้องอาศัยความชำนาญและประสบการณ์ของคนที่มอบหมายงานให้อีกทีครับ
เป็นคนนึงที่เป็น Gen Z ค่ะ อดทนทำงานทั้งโดน หัวหน้าซึ่งเป็นลูกเจ้าของบ. Gen Zและเจ้าของ Gen babyboomer กดดัน กดขี่ เหยียดหยาม เป็นหัวหน้าที่โยนความผิดให้ลูกน้องตลอด และออกแนว Narcissism มา 4 ปี มากสุดที่เจอคือ ปากระดาษใส่หน้า เพราะไม่พอใจที่เราไม่ยอมรับความผิดที่เขาทำแทนเขา
มองว่าไม่ว่าgen ไหนก็เป็นได้ มันอยู่ที่การเลี้ยงดู การปลูกฝัง สันดร กระบวนการคิดของคนแต่ละคน มากกว่า ทุกคนต่างร้อยพ่อพันแม่ดังนั้น พ่อแม่ทุกคนและเด็กทุกคนไม่ได้เหมือนกันค่ะ
เผลอๆคนที่มาตัดสินคนอื่นเนี่ย เป็นหนักกว่าอีก
คนที่ใช้อำนาจในทางที่ผิด หรือใช้กำลัง ทำร้ายคนอื่น หรือแม้แต่คำพูดดูถูกเหยียดหยาม พวกนี้เป็นคนเลว มารยาทไม่มี ไม่รู้จักให้เกียรติคนอื่น ไม่ได้เกี่ยวกับ Gen เลย อะไรที่มันไม่ดีก็อย่าไปยุ่งกับมันเลย คนชั่วมันมักจะรวมตัวกันอยู่ พยายามพาตัวเราออกมาครับ ค่อยๆหาลู่ทางปรับเปลี่ยน หาที่ที่ดีกับตัวเอง ขอให้เจอที่ดีๆคนดีๆ
ลองเทียบคนอื่นก่อน ถ้าคนอื่นเป็นแบบเดียวกัน หัวหน้าก็มีปัญหา แต่ถ้าเป็นอยู่คนเดียวก็อาจจะเป็นปัญหาที่ตัวเอง // เคยเจอคนนึงไม่รู้จะสอนยังไงเค้าก็คิดว่าตัวเองไม่ผิดคิดว่าตัวเองอดทนและทำดีแล้ว พอเปลี่ยนงานก็มีปัญหาทุกหัวหน้า การบอกว่าไม่ว่าgenไหนก็เป็นได้ แค่นี้ก็อ่านโจทย์ไม่เข้าใจแล้ว เวลาเราพูดถึงนิสัยคนไทย,ญี่ปุ่น,เมก้า,อื่นๆ เราไม่เจาะจงไปถึงปัจเจกบุคคล แถมเป็นข้อมูลที่สอดคล้องกันในทั่วโลก ลองดูทุกgenก็ตรงทุกgen แค่รับไม่ได้มากกว่า หรือจุดอ่อนคือการวิเคราะห์ยังไม่ถึงจึงได้แต่มุมตัวเอง
@@GenBXYZ ขอบคุณสำหรับความเห็นนะคะ เราแค่ยกตัวอย่างถึงของตัวเราเองค่ะ และแสดงความเห็นในมุมของตัวเอง
ส่วนตัวเราในเรื่องที่ยกตัวอย่างคือทำดีที่สุดแล้วในทุกๆอย่าง ทุกๆเรื่องค่ะที่เกิด และต้องขอบคุณที่นี่เลย เพราะที่นี่มอบประสบการณ์แบบนี้ให้ค่ะ เลยทำให้ไม่ว่าจะเจออุปสรรคอะไรเข้ามา หรือเจอคนแบบไหนเราก็ผ่านมันมาไปได้สบายๆ ค่ะ เพราะที่นี่คือที่สุดแล้วที่เจอมา
คุณเป็นคนรุ่นใหม่อาจไม่ชิน การโดนตวาด เหยียด หรือโดนปาของใส่หน้านั้นตัวผม (คนเจน X) ทนมาตลอด
@@janatthiengsurinนั่นแหละครับคือสิ่งที่เราไม่ควรอดทนครับ บางอย่างถ้าแค่เป็นเรื่องการวิจารณ์งานอย่างสร้างสรรค์ หรือทำงานคนละสไตล์ แต่ยังพูดด้วยกันดีๆ อยู่ก็โอเค แต่เมื่อไหร่ที่ลั่นอะไรแย่ๆ ออกมา นั่นหมายความว่าเราเองก็ทำกลับคืนเค้าไปได้เช่นกัน 👍🏻👍🏻
เราก็เห็นมันพูดแบบนี้กันกทุกยุคครับ เรามิลเลเนียน เราได้ยินอะไรแบบนี้มาตั้งแต่เราเด็กๆ เด็กรุ่นใหม่มันขี้เกียจ ไม่สู้งานบราๆ /แล้วก็ 10ทักษะที่คนทำงานยุคใหม่ต้องมีที่ทำได้จริงแม่งเราว่าคงเป็นยอดมนุษย์ เจอแบบนี้เยอะมากๆ ส่วนค่าแรงหรอ ไม่เคยพูดถึงเลยด้วยซ้ำ ตำยังไงก็ต่ำอย่างงั้น แถมบังคับอีกต้องควบหลายต่ำแหน่ง ไหนจะเจอวัฒนธรรมการทำงานเอาเปรียบลูกจ้างสารพัด ไม่ต้องแปลกใจหรอกที่มันไม่ทนไม่สู้งานเพราะมันโดนเอาเปรียบไง สุดท้ายคืออยู่ไปไม่ถึงปีลาออกหมด
เด็กรุ่นใหม่มันมีปากเสียงมากกว่าแต่ก่อน พวกนายจ้างมันเลยไม่ชอบครับ ต่างจากยุครุ่นเรา ถ้าไม่พอใจก็ต้องลาออกอย่างเดียว งานก็หายาก แค่มีงานทำได้ก็เก่งแล้่ว คนตกงานเพียบ รัฐแคร์ที่ไหน
วงจรนรกครับ คนใหม่มาคนเก่าก็ข่ม แต่ก่อนหน้านั้นคนที่ข่มก็เคยโดนคนที่แก่กว่าข่มมาอีกที
@@tpssc3 เอาจริงๆนะเจนที่พวกนายจ้างชอบสุดคือบูมเมอร์หรือเก่ากว่าครับ พวกนี้คือโดนล้างสมองมาเพื่อเป็นแรงงานเลย ทำงานแบบเป็นวัวเป็นควายเพื่อหวังรวย โดนกดขี่โดนอะไรก็ไม่บ่นซักครับ ไม่แม้แต่จะไปตั้งหรือร่วมสหภาพแรงงานด้วยซ้ำ เพราะโตมากับระบบเผด็จการ ค่ายทหาร หรือสงครามเย็น ถ้าเรียกร้องมากจะโดนหาว่าเป็นคอมมิวนิศแล้วก็ถูกกระทืบตายเอา ไหนจะเรื่องฝังหัวมาเรื่องระบบการศึกษา ว่าเรียนสูงๆจะได้รวย
พวกนี้เลยตรงข้ามกับZ ทุกอย่างเลย ทุกวันนี้ คนไม่ศรัทธาเรื่อง ระบบการศึกษาหรืออะไรแล้่วด้วยซ้่ำทุกวันนี้พ่อแม่เจนY ส่งลูกเข้าอินเตอร์คือหวังว่าเพื่อนรวยผัวรวยล้วนๆปพูดอะไรม
จริงที่สุด
เด็กไม่ทนหรือนายจ้างจ้องจะเอาเปรียบ
อยากได้สกิลห้าหมื่น แต่จ่ายหมื่นห้า
เป็นแม่งทุกยุค
ที่เจนก่อนๆเค้าอดทนอะน่ะ ถามก่อนเลย มีความอดทนเก่งหรือแค่ไม่มีที่ไปเลยทนทำงาน เพราะสมัยก่อนตำแหน่งน้อย ไม่ได้หลากหลายเหมือนสมัยนี้
จริงพี่ ไอจนเป็นเลือดบอก เจ็บคอนอนมันก็หายเจ็บ เหนื่อยพอนอนก็มีแรงใหม่ สุดท้ายเป็นโควิด
ผมคนเจนx แต่ผมก็เฉยๆนะ ทุกอย่างที่เขาเป็น วัยเราก็เคยเป็นกัน ต่างกันในดีเทลเล็กๆน้อยๆ ตามยุคสมัย ถ้าจะเป็นปัญหาของคนเจนนี้มีแค่เรื่องเดียว ก็เรื่องการมีปฎืสัมพันกับคนรอบข้าง แบบเจอคนเป็นๆ แค่นั้นแหละ ที่ผมสังเกตุเห็น
เป็น gen Z เหมือนกันนะแต่เราเคารพผู้ใหญ่ และมีเหตุผล ผิดถูกว่ากันไปตามจริง
คุณเป็นคนส่วนน้อบ ในเจน Zครับ
"ผิดถูกว่ากันไปตามจริง" ตรงนี้แหละที่เป็นประเด็น คนเก่าๆแก่ๆมันไม่ชอบ มันอยากให้ก้มหัวให้มันทุกกรณีต่างหาก
@@ccbb6174ยอม ๆ ไปเหอะครับเพราะยังไงเขาก็จ้างเราทำงาน ยิ่งแข็งข้อยิ่งไม่เป็นผลดี ผมเป็นคน gen-z แต่ไม่อยากไปตั้งแง่อะไรกับผู้ใหญ่เท่าไหร่
@@ccbb6174 อันนี้จริงครับ
@@ccbb6174อันนี้โครตใช่เลยครับ
บางคน มั่นหน้าอวดดี ทฤษฎีเพียบ ปฏิบัติห่วย บางคนก็เจ๋งจริง เก่งจริงอันนี้ก็ยอมรับ เคารพนบน้อม อยู่ที่การถูกสั่งสอนมามากกว่า
เขาโดนสอนแบบทฤษฎีมาไม่เคยลองทำจริงหรือไม่ก็เคยทำจริงไม่กี่ครั้งเขายังไม่มีประสบการณ์
ลองให้เขามีประสบการณ์+ทฤษฎีเจ๋งๆที่คิดและเรียนมาดู
ยอมรับจากใจ คนยุค Gen z คือจริงๆนะเพราะคนรุ่นหลังติดความสะดวกสบายมากเกินไปจริงๆ
นี่คนGenzเดินเป็นกิโลไปซื้อข้าวสวยยังทำได้ บางคนสบายจริง แค่200เมตรก็ขี่มอไซค์ไป นี่ปั่นจักรบยานไปทำงานก็เคย เปรียบเทียบกับป้าแก่ๆที่เคยร่วมงาน นี่พาไปส่งบ้านทุกวัน พอถึงตาเรารถเสียเสือกไม่มารับ ต้องปั่นจักรยานไปทำงานเพราะใกล้เวลางาน เบื่อพวกโทษGenมาก กะลา
@@supanidanisaimun9029 ป้าแก่ๆบางคนใช้วาจาหลอกล่อซ้อนรถฟรีมาทั้งชีวิต จะหวังอะไรต้องดูดีๆด้วยแถมพออายุเยอะๆแล้วปกติไม่ได้ขับรถนะอย่าหวังว่าเขาจะมาช่วยคุณ
ไม่ว่าจะเจนไหนก็รักสบายครับ
เชื่อไหม เดี๋ยวคนรุ่นเราก็จะไปด่าคนรุ่นหลังจากเราต่อครับ
@@piyaphum.m มันเกิดขึ้นมาก่อนหน้านั้นแล้งครับ Gen Alpha มันจะโดนเรื่องการเป็น Ipad kids ดู Brainrot content Cringe ต่างๆครับ
แต่ละ Gen ก็มีบุคลิคเป็นของตัวเอง เด็กๆรุ่นใหม่เขาต้องการความเป็นเหตุเป็นผลของสิ่งที่จะให้เขาทำ ไม่ใช่แค่ว่าเธอต้องทำตามที่ชั้นบอก ถ้าเขารู้สึกไม่สมเหตุสมผล เขาพร้อมที่จะถามเพื่อให้เข้าใจว่าทำไม
ในมุมมองของคนยุคก่อนๆก็จะมองว่าเด็กก้าวร้าว/เถียง/ไม่เชื่อฟัง
คน Gen ไหนก็ต้องปรับตัวตามยุคตามสมัยกันไป บริบททางสังคมมันก็เปลี่ยนเรื่อยๆนั้นแหละ
มี AI เยอเๆ มนุษย์จะได้สบาย ไม่ต้องทำงาน สนุกสนานอย่างเดียว😂
อะไรๆก็โทษ Gen โทษสันดานตัวบุคคลเถอะครับมีเหมือนกันหมด
ที่เค้าโทษ Gen ต้องเข้าใจด้วยว่า เด็กที่โตมาใน วัฒนธรรม สื่อโซเชียลต่างๆ ที่มันเหมือนกัน มันก็นิสัยคลายๆ กันเกือบหมด เห็กรุ่นน้องจบมาเรียกเงินเดือน 20k ++ แต่ทำงานได้แค่เงินเดือน 15k เค้าก็ต้องเอาออกไหม เอาคนมีประสบการณ์ เรียกเงินเดือนใกล้เคียงกันมันคุ้มกว่า ลองถามคนรอบตัวดูนะว่าเป็นแบบนี้กันไหม แค่ที่คอมเม้นต์มานี่คือรู้เลยนะ
ใช่ แต่มันมี%ที่จะเจอในเจนZมากสุดใง และผมอยากจะบอกว่า x y ก็เป็นมาก่อนตามช่วงอายุ คือถ้าคุณเคยสังเกตุ มีหลายที่จะใช้วิธีกำหนด อายุคนที่จะเข้าทำงาน 25+ขึ้นไป ถ้าเลือกได้เค้าจะรับ25+ หรื่อคนที่มีครอบครัวแล้ว เพราะเค้าเจอปัญหาพวกนี้แหละ
@@supakornjunyangamsakul7125GEN Yก็มีครับ เปิดโลกบ้าง
ก็เหมารวมทั้ง Gen ถ้าคิดว่า Gen นี้ทำงานไม่ดีได้ลองหันมองตัวเองไหมอะว่า Gem Z คนเลี้ยงดูมาคือ Gen ไหน@@supakornjunyangamsakul7125
ใช่เลย เด็ก Gen Z เป็นแบบนี้เป๊ะเลยครับ โทษทุก Gen (เพื่อนร่วม Gen ด้วย) โทษหมด นอกจากตัวเอง นี่แหละ Gen Z ของแท้
Gen Z ครับ ผมเรียน Visual Effect มา ตอนไปฝึกงานช่วงปรับตัวให้เข้ากับระบบการทำงานของบริษัท หัวหน้าคุมงานก็สอนไม่ค่อยเข้าใจ ถามอะไรก็เอาแต่ด่าบ้างแหละ ตบหัวบ้างแหละ ยังดีมีรุ่นพี่มาคอยช่วยสอนเบื้องหลัง
point ผมคืออย่ามาว่าแต่คนอื่นลองมองตัวเองบ้าง ทำตัวไม่น่านับถือใครเขาจะดีด้วยได้
คือ Environment ในที่ทำงานมันมีผลกับการทำงานนะครับ ทำงานก็กดดันอยู่ละยังจะมาทำให้เสียกำลังใจในการทำงานอีก ตอนฝึกงานก็ทำงานฟรีไม่ได้เงินสักบาท และไม่เคยบ่นด้วย ผมได้แต่ก้มหน้ารับและทำงานต่อ
@@millor3san_ch นั่นแหละความแตกต่าง gen อื่อเขาจะเข้าใจว่า คนเรามีดีมีแย่ต่างกันไป เป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะเจอคนหลายประเภท ทั้งเก่งไม่เก่งบ้างก็งี่เงาบ้างก็ใจดี ทุกที่มีปัญามีอุปสรรค มันคือเรื่องธรรมดา แต่คน gen z จะคาดหวังว่า ทุกอย่างต้องดี สภาพแวดล้อมต้องเอื้อต่อฉัน คนคุมงานต้องสอนเก่ง ต้องห้ามด่า พูดกับฉันดีๆ ต้องนั่นนี่ ทุกคนต้องดีต่อฉัน แต่โลกความจริงไม่ใช่แบบนั้น
@@nutkanok8860ใช่เลย ทุกคนต่างมีความต้องการของตัวเอง ซึ่งถ้าเลือกได้ เขาก็ออกแหละ จะทนไปทำไมอ่ะ เดี่ยวถ้าออกมาแล้วมันไม่เป็นอย่างที่คิด เดี่ยวประสบการณ์จะสอนพวกเขาเอง
@@nutkanok8860 ปัญหากับอุปสรรคมันมีมาเรื่อยๆจริงละครับ แต่บางครั้งมันไม่จำเป็นต้องด่าต้องตีไหม ช่วยสอนกันดีๆก็ได้
เราคาดหวังให้คนรอบข้างมาดีกับเราไม่ได้อยู่แล้วครับ ใครดีกับเราเราก็ดีด้วย
@@nutkanok8860 เห็นด้วยกับเม้นนี้ และคือเรื่องจริง
เป็นทุกGen ครับจากใจคนที่กำลังทำงานอยู่
ข่อมูลบอกส่วนใหญ่ Gen z
ผมเป็นgen z เหมือนกันครับ โดนพนักงานด้วยกันเองไม่ชอบหน้าทั้งๆที่ไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้ คือเราทำงานของเราตั้งใจดีๆ หัวหน้าก็กดดันให้ขายของให้ได้มากกว่ายอดพอยอดตกก็ด่าเรา ทั้งๆที่เราก็ไม่ได้ทำอะไรผิด เราก็ทำหน้าที่ของเรา เหนื่อยครับบอกเลย ไม่ใช่ไม่ชอบหรือคิดว่าโดนดูถูกเลย แต่ที่เราโดนมันเกอนกว่านั้นมาก ทั้งการคุยด้วย ทั้งการกระทำกัลเรามันทำให้เรารู้ว่าไม่ชอบเราเลย คือเราเป็นคนอินโทรเว้ทแต่เราพยายามปรับตัวคุยกับทุกคนให้เป็นพยายามคุยแล้วแต่ก็โดนปฏิบัติกลับแบบนี้มันก็ไม่ไหว ทนมา4เดือนจนต้องออกบางคนอาจจะคิดว่าไม่นานนะแต่มันโดนทุกวัน
พอโดนสังคมในที่ทำงาน toxic relationship ใส่บอกเลยว่าเสียสุขภาพจิตมากๆครับ จนเกือบเป็นโรคซึมเศร้าได้เลย เพราะโดนกรอกหูทุกวันๆ ปล.ผมเป็นคนนึงที่โดนเหมือนกันครับ😢:สุดท้ายเลยเลือกที่จะออกมาดีกว่าครับ
ไม่ต้องไปรองรับอารมณ์ใคร
เห็นใจเลยครับผม
ยอดตก เจ้านายมันก็พยายามกดดันเราให้ลาออกไง เพื่อลดค่าใช้จ่าย เพื่อมันจะได้อยู่ต่อไปอีกนานๆ แค่นั้นเอง ถึงพยายามปรับตัวไป ก็ด่าหรือพยายามไล่ออกอยู่ดี เป็นแบบนี้มา 50 ปีแล้ว คุณสมบัติที่บริษัทขนาดเล็ก ขนาดกลางของหัวหน้า คือโหดสามารถกดดันให้ลูกน้องลาออกได้ หากหัวหน้าไม่โหดหัวหน้ามันนั่นแหละจะโดนสอยกลางอากาศ Toxic มันจะมุ่งเป้าทีละเป้า เรียงไปเรื่อยๆ ไม่รอดซักคน แม้แต่คนที่ไปช่วยสร้าง Toxic กดดันเพื่อนๆ แค่อาจได้ไปทีหลังเท่านั้น คือมีชีวิตรอดได้ยาวหน่อย อาจจะปี 2 ปี แต่ถ้าธุรกิจบูมก็รอดกันหมด ยกเว้นคนที่โดนหมั่นใส้ยังไงมันก็ไม่เอา และไม่ต้องใช้เหตุผลอะไรเลย
มันคือเรื่องจริงสภาพแวดล้อมของยุคสมัยมันเปลี่ยนไป คนสมัยนี้ภูมิต้านทานทางความรู้สึกต่ำมาก หัวร้อนง่าย ดราม่าง่าย อะไรนิดอะไรหน่อยกระทบจิตใจ ซึ่งไม่ได้โทษอะไร มันคือวิวัฒนาการ ตามสภาพแวดล้อม ทำให้คนยุคเก่ากับยุคใหม่เชื่อมกันยาก น้อยคนที่จะหาตรงกลางเจอ
คนแก่ติดแซวติดนินทาไง เน้นพวกเยอะๆ สุดท้ายไม่มีใครอยากสุงสิง แล้วมาโทษGen
ตอนนี้หลายๆองค์กรเริ่มคิดหนักในการรับเด็กเจนนี้ กลัวจะมีปัญหา ไม่ใช่เขาไม่อยากได้คนรุ่นใหม่นะ แต่กลัวจะเข้ากันกับองค์กรไม่ได้ เพราะเด็กกลุ่มนี้ เป็นสไตล์นี้ก็มีเยอะ เราก็เจนzเหมือนกัน แต่เราต้องปรับตัวให้ได้ เลยไม่มีปัญหากะองค์กรไหนเลย ตั้งแต่จบมาถึงทุกวันนี้ก็มีงานทำ ประเมินผลงานก็ออกมาดีมาก พี่ที่ทำงานคอยช่วยเหลือแม้ช่วงแรกๆเขาอาจจะตั้งแง่กะเราหลังๆก็อยู่กันปกติสุขดี อย่างแรกคือ อย่าทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว นึกถึงใจเขาใจเราว่าบางทีการทำงานก็มีปะทะอารมณ์กันบ้างคือเรื่องปกติไม่ว่าจะเจนไหนก็แล้วแต่ ถ้าเรายังต้องดิ้นรนชีวิตโดยการสมัครงาน บ้านไม่ร่ำรวย ต้องอดทนปล่อยวางให้ได้ คนไหนคุยแล้วเฮงซวยก็คุยแค่เรื่องงานพออย่าไปให้ค่าเขาเยอะ (ถ้าปล่อยวางไม่ได้) ก็แค่ลาออก เป็นสิทธิเสรีภาพในการตัดสินใจ แต่ถ้าไม่อยากทำงานภายใต้ใคร ถ้ามีเงินทุน ก็ประกอบอาชีพเป็นนายตัวเอง คราวนี้ละ มีแค่ตัวเราเองที่เป็นนายตัวเอง
ตั้งแต่อ่านมา เป็นคอมเม้นเดียวเลยมั๊งที่ยอมรับและปรับตัว ดูแววน่าจะอนาคตไกล
ตั้งแต่อ่านมา เม้นน้องคือคนที่เข้าใจโลกที่สุดในเจนละ เม้นอื่นคือยังคิดว่าตัวเองเจ๋งและเก่งที่สุดในโลกของตัวเองอยู่
น้องเป็น gen z ที่หลายคนอยากได้ในบริษัท
ในฐานะที่ผมทำงานกับคนวัย ไม่เกิน 28 ในยุคนี้มาพอควร มุมมองคุณคือดีมากที่ยอมรับว่ามีแบบนี้จริง และมีมุมมองในการรู้จักปรับแก้ ไม่ออกแนวปกป้องตนเองจนเกินไป ไม่เป็นน้ำเต็มแก้ว แบบนี้ทำงานที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ครับ
เป็นเด็ก gen z เหมือนกันนะครับ เเต่เข้าใจว่าบางคนถูกเรื่องมาดีไม่ให้ลำบาก บางคนบ้านรวยไม่เคยดิ้นรน ทำให้มีภูมิต้านทานทางสังคมต่ำ ในฐานะที่ผมทำงานบริษัทมาตั้งเเต่18ตอนนี้ผมอายุ20บอกเลยว่าชีวิตมันไม่ได้ง่าย ไม่ได้สะดวกสบายตามใจเราทุกเรื่องนะครับ โดยเฉพาะการทำงาน สังคมสมัยนี้การเเข่งขันสูง ถ้าคุณไม่พร้อมเขาก็พร้อมเขี่ยออกได้ง่ายๆเลย เเล้วกว่าจะหางานได้อีก พอหางานได้ก็อาจจะไม่ถนัด ไม่ถูกใจ เเต่ก็ต้องทำ เพราะไม่ทำก็ไม่มีเงิน ดังนั้นต้องรู้จักอดทน เเละต้องปรับตัวให้ได้ ใครที่กำลังเรียนหรือฝึกงานอยู่ก็เตรียมรับมือไว้เลย เพราะชีวิตจริงมันยากกว่าการเรียนเเละฝึกมาก ถ้าคิดว่าเรียนหรือฝึกงานเหนื่อยเเล้ว คุณก็คงจะลำบากในชีวิตวัยทำงาน😅 #คหสต.ครับ
👍
ขอให้ รุ่งเรือง ได้งานดีๆ ได้เงินดีๆ นะ เพราะคุณมีความคิดที่ดี
ไม่ต้องไปจ้างมัน มันเรื่องมาก
เวลาประกาศรับสมัครงานระบุเลย รับตั้งแต่อายุ 30 ปีขึ้นไป
่แต่เท่าที่เห็นนะ รับไม่เกิน 30, 35 บางที่ก็ไม่เกิน 25
ทำงานช่วง 1 เดือนแรก แทนที่จะสอนงาน เปล่า!
สั่งงานเสร็จก็ปล่อยตามมีตามเกิด พอไม่เข้าใจจะถาม ชักสีหน้าใส่ ทำแล้วไม่ถูกใจ ด่าค่ะ!
แถมด้วยประโยคคลาสสิค "ที่ ม. .... ไม่สอนให้ทำแบบนี้เหรอ?"
ในประเทศมีกี่บริษัทวะ!? กูจะรู้ไหมว่า บ. มึงมีแพทเทิร์นการทำงานแบบไหน!?
พอโต้กลับ หาว่าเถียง โธ่.... E
เริสมาก
ดีมากครับ ผมว่า ลาออกไปเป็นนายตัวเองดีกว่าครับ ผมว่ารุ่งเเน่นอน ✌️
อันนี้คือเจอมาเองเลยทำงานวันแรกสอนงาน 30 นาที แล้วปล่อยให้ทำงานเองหมด แล้วพอทำงานช้าก็มาบ่น เลิกงาน 18:00 แต่ไม่เคยออกตรงเวลาเพราะถ้าออกตรงเวลาโดนนินทา ทำไมถึงเพราะมีคนที่ทำงานด้วยกันออกตรงเวลาแล้วเรายังทำงานอยู่พี่ๆก็นินทาเลย แล้วเจ้าของบริษัทนิสัยกับปากก็คือไม่ได้เลยสุดท้ายทนทำงานเกือบเดือนบริษัทจะขนของผิดกฏหมายเข้ามาอีกก็ออกเลยไม่ทนละ ออกมาทำธุรกิจเองสบายใจสุดละ
โดนเหมือนกันเลยค่ะคุณ เจอคำว่าแค่นี้ก็ไม่รู้หรอ ซึ่งเรางงมากเราต้องรู้ทุกอย่างในองค์กรคุณในวันแรกเลยหรอ ถ้าอะไรที่มันเป็นโปรแกรมทั่วไปก็ว่าไปอย่างแต่นี่มันงานในองค์กรซึ่งมันเป็นอะไรใหม่ๆสำหรับเราแต่เราโดนด่าฉ่ำ
รับแค่คนอายุไม่เกิน 30 ประสบการณ์ ไม่ต่ำกว่า 20 ปี😂😂
ไม่ได้อยู่ที่genมันอยู่ที่สันดานคน
จริง
พูดอีกก็ถูกอีก
มันไม่เชิงหรอก genzมีแบบนี้เยอะจริงๆไง ต้องยอมรับจุดนี้ด้วย
@@ct9852 คนรับไม่ได้หรอกครับคนปกติสมองน้อย
@@ct9852 เยอะจริงครับ แต่เจนอื่นก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีนะพวกการกระทำแย่ๆอะ มันก็มีทุกเจนอะ
เรื่องแบบนี้มันก็พูดยาก ผมทำงานมา 20 กว่าปี เจอคนมาหลายรูปแบบ เด็กที่เข้ามาใหมถ้าทนรับกับวัฒนธรรมของบริษัทได้เขาก็อยู่ แต่พนักงานรุ่นพี่ก็ต้องดีกับน้องมันด้วย ถ้าเจอรุ่นพี่เฮงซวยน้องมันก็หนี เหมือนกันถ้าเด็กมันรับกับวัฒนธรรมของบริษัทไม่ได้เด็กมันก็ไปเอง .... ทุกบริษัทจะต้องมีพนักงานที่ดีและไม่ดี อยู่ที่ว่าดวงเราจะไปเจอกับใคร ถ้าเจอคนดีก็โชคดีไป ถ้าเจอคนไม่ดีก็ซวยไป ส่วนใหญ่คนที่ต้องทนถูกกดขี่ ดูถูก เหยียบหยาม เป็นเพราะเขาต้องทนเพราะยังไม่มีที่ไปทุกวันมันมีค่าใช้จ่าย เมื่อวันไหนเขาหาที่ใหม่ได้เขาก็ไป แต่ถ้าคนไหนบ้านพอมีฐานะต้นทุนสูงเขาก็ไม่จำเป็นต้องทน หนีไปหาที่อื่นดีกว่า บริษัทไหนถ้าพนักงานอยู่กันไม่ทนมันก็ชัดเจนแล้วว่ามันไม่น่าทำงานด้วย ซึ่งผมทำงานที่ไหนก็โคตรซวยเจอแม่งทุกที่ แต่เราก็ต้องทนเพราะเราไม่มีต้นทุน หลายปีมานี้ก็เริ่มเข้าใจว่าทำไมตำแหน่งงานที่เราสมัครมันถึงว่างและเขาก็รับคนง่ายทั้งๆที่บางครั้งงานตรงนั่นเราไม่เคยทำเลย มันเป็นเพราะไม่มีใครอยู่ทนสักคน แต่พอเราไปทำถึงได้เข้าใจแต่ก็พยายามอดทนทำไปจนในที่สุดเราก็ทำได้ แต่เขาก็ไม่เห็นความสำคัญของเราเลย มันก็น่าน้อยใจสุดท้ายก็ต้องหาที่ทำงานใหม่ นี่แหละชีวิตจริง ... สมัยเรียนรู้แต่ว่าต้องตั้งใจทำงาน ขยัน อดทน ซื่อสัตย์สุจริต ไม่ต้องไปประจบสอพอใคร แต่พอเอาเข้าจริงคนดีๆแม่งดันไม่ได้ดี เมื่อคนดีคนเก่งอยู่ไม่ได้ บริษัทนั้นถึงต้องเปลี่ยนพนักงานตลอด พนักงานอยู่กันไม่ทน ตามมาด้วยบริษัทเจอปัญหา หนักสุดจนต้องปิดกิจการ เพราะมันมีแต่พวกเฮงซวยถ้ากิจการอยู่ต่อได้ มันคงจะเป็นสิ่งมหศจรรย์ของโลกแน่ๆ
มันเลี่ยงได้หรอ ถ้าไม่รับ gen Z คือจะไม่รับเด็กรุ่นใหม่ 15 ปีเลยนะ มันเป็นทุกยุคสมัยแหละ ยุคนึง gen y ก็โดน baby boomer หาว่าทำงานไม่ทน😄
อันนี้จริง พอเจนอัลฟ่าเข้าสังคมทำงานปุ๊ป เดี๋ยวก็มีอีก
อ่อนไหวง่ายก็อยู่ยาก คำนี้ใช้ได้ตลอด
เป็นทุกเจนแหละ ภาษาไทยก็คือคำว่า "เด็กสมัยนี้" ก็เห็นเจอทุกเจนไอ้คำนี้
@@ส่งงาน-ห2ฝ คำนี้ได้ยินจนเบื่อ แล้วผมก็เชื่อว่าคำๆนี้จะถูกใช้กับทุกเจนตลอดไป
มีมาตลอดจริงๆ ไอ้คนที่พูดว่าเด็กสมัยนี้ในปัจจุบันก็เป็นเด็กสมัยนี้ของคนรุ่นก่อนหน้ามาก่อน แล้วคนรุ่นก่อนหน้าก็เป็นเด็กสมัยนี้ของคนรุ่นก่อนหน้าของรุ่นก่อนหน้าอีกที😂 @@ส่งงาน-ห2ฝ
คนรุ่นใหม่ก็เกิดน้อยอยู่แล้ว แล้วยังมาเรื่องเยอะไม่รับเข้าทำงานอีก บางทีก็รับส่งๆ ไม่สอนงานแล้วปล่อยตามมีตามเกิด เราควรเรียกสิ่งนี้ว่าไงครับ หลักๆ คือในธรรมชาติอะไรที่ปรับตัวทันมันก็อยู่รอด เด็กคืออนาคต ถ้าบริษัทคิดแต่เข้าตัวเองไม่ปรับหาเด็กแล้วอนาคตจะอยู่รอดได้ไงถ้าขาดแรงงานจากเด็ก คือมันแล้วแต่นิสัยคนที่เติบโตมาจริงๆ แต่ส่วนตัวผมมองเด็กมันก็ต้องการโอกาศที่มาคู่กับคนสอนและบรรยากาศเป็นมิตรกับเงินที่คู่ควร นายจ้างส่วนใหญ่ให้ได้ต่ำกว่าเกณ ไม่แปลกเด็กมันจะน้อยใจไปบ้าง แต่เด็กมันก็เลือกไม่ได้ป่ะบางทีก็ต้องทำ ต้องดูทั้ง 2 ฝั่งแบบเรียว ใครควรปรับเข้าหาใครก่อน ให้เด็กกราบผู้ใหญ่ หรือผู้ใหญ่ควรส่งยิ้มให้เด็กก่อน
จริงมากเลย เจน y บางคนในที่ทำงานคือ แบบ มันแค่แก่ แค่เข้ามาทำงานก่อน แค่นั้นเลยอะ แต่ความฉลาดอะไร ไม่เห็นจะดูฉลาดตรงไหนเลย แต่ดันโชว์ความหยิ่งผยอง คิดว่าตัวเองดีกว่าคนที่เพิ่งเข้ามา งานก็ไม่สอน ละมีหน้ามาถาม “น้องทำไรตั้งนาน งานแค่นี้พี่ทำ2 ชั่วโมงเสร็จ” แหมมมมม มึงทำงานมา 9ปีละม้ายยยย #managerปากหมาคนหนึ่ง #big4แห่งหนึ่ง
คือผมก็อายุไม่เยอะหรอกตอนนี้ก็ 27 แล้ว แต่ผมสังเกตุสิ่งต่างๆรอบตัวตั้งแต่เด็ก ในช่วงผม 10 ขวบมั้งผมเห็น การทำงาน/รับสมัครงาน ยังเป็นแค่หน้าที่ใครหน้าที่มัน ตำแหน่งไหนทำอันนั้น เต็มที่ก็มีให้ช่วยๆกันบ้างแต่ช่วยแล้วคือจบไป แต่ผมจำไม่ได้ว่าช่วงปีไหนที่มีการขับให้คนออกครั้งใหญ่ระดับประเทศเพื่อลดต้นทุน จนบริษัทต้องให้คนนึงทำ 3-4 หน้าที่ แล้วอยู่ๆก็กลายเป็นค่านิยมที่สังคม ณ ตอนนั้นยอมรับแล้วทำตามๆกันกลายเป็น คนที่ทำไม่ได้ 3-4 หน้าที่ในคนคนเดียวเป็นคน ไม่มีความอดทน ไม่สู้งาน แล้วมันส่งผลกระทบเรื่อยมาตั้งแต่วันนั้นจนปัจจุบัน
ซึ่งโดยส่วนตัวผมผมก็ไม่เห็นชอบกับการที่คนนึงต้องแบกรับหน้าที่อะไรขนาดนั้น ในหน้าใบรับสมัครรับ 1 ตำแหน่ง แต่เวลาทำงานจริงมีพ่วงมาเต็มไปหมดเงื่อนไขต่างๆนาๆที่ไม่ได้อยู่ในใบสมัครหรือตอนสัมภาษณ์งาน มันแลดูเอาเปรียบเกินไปหน่อยกับเงินเดือนที่ start ให้ แต่ถ้าในมุมมองของเจ้าของกิจการหรือเจ้าขององค์กรก็คงมองต่างว่าผมเป็นคนประเภทไม่สู้งาน ไม่มีความอดทน นั่นแหละ
เอาจริงๆในมุมมองมันก็ไม่ผิดหรอกที่ผู้บริหารหรือเจ้าของกิจการจะมองแบบนั้น แต่ในมุมมองของคนแบบผมก็ไม่ผิดเช่นกันที่ไม่ทนกับการเอาเปรียบ ผลคือ "มุมมองไม่ตรงกัน" แค่นั้นเองรับได้ก็อยู่ต่อไปรับไม่ได้ก็ลาออกหางานใหม่แค่นั้นเอง มันเป็นของเรื่องวัฒนธรรมในองค์กรว่าต้องการคนแบบไหนและจะหาคนที่เข้ากันได้เจอหรือเปล่า
ส่วนเรื่อง toxic ในองค์กรก็แยกออกไป ทั้งรับเด็กใหม่เข้ามาแต่ไม่สอนงานหรือสอนแบบลวกๆพอเขาทำได้ไม่ดีก็ไปต่อว่าเขา ทั้งการโยนภาระตัวเองไปให้เด็กใหม่ ทั้งการกลั่นแกล้งในองค์กรอีก ทั้งการกดค่าจ้างเช่นไม่ให้ค่าOT คือเรื่องพวกนี้มันไม่สมควรที่จะให้ทนอยู่แล้ว แต่ถ้าองค์กรนั้นหรือเจ้าของกิจการถ้าดันนับปัจจัยพวกนี้เป็นเรื่องเดียวกับ ไม่มีความอดทน ไม่สู้งาน ก็แปลกๆอยู่นะ
มาเปิดประเด็นค่อ ขอบอกว่าเรื่องจริง จากผลลัพธ์ที่ เด็กใหม่ไม่ได้งานเพราะเด๋็กเจนนี้เแป็นอะไร ขาคความเป็นไทยไปหมด ไม่ผ่านโปรเยอะเพราะอยุ่ไม่ได้เอง เข้ากับคนไม่ได้ เก่ง แต่โดดเกินไป ไม่มีความเข้าใจในเรื่องสังคมไทยสักนิด พักหลังๆเด็กฝึกงานโดนปรับตกตลอด ผมรับแต่คนพอมีอายุและประสบการพอครับ ไม่ได้ว่าน้องทั้งหมด แต่บางคน พ่อแม่สอนมาดีก็มี บางคนคือเหมือนไม่ได้รับการใส่ใจ เป็นเอกเทศ ไม่สนโลก เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง เยอะ! เอาจริงๆ พี่อยากให้น้องๆ มองคนเจนก่อน และคนรุ้นหลังครับ ว่าเขาทำงาน เขามีวัฒนธรรมอย่างไร อันที่ดีก็รับไป อันที่ไม่ดีก็ไม่ต้องทำ ปล.ล่าสุดน้องมาใหม่โดนคนใน บ. เกลียด จนไม่คุยกับใครเลย สุดท้ายผมต้องเข้าไปถามถ้าไม่ไหวบอกพี่นะครับ พี่ต้องดูคนโดยรวม ไม่ใช่มาเอาใจน้องคนเดียว... ประมาณนั้นเลย... มันเลยกลายเป็นว่า ผมไม่ค่อยแฮปปี้เด็กรุ่นใหม่ ผมถามฝ่ายบุคคลทางอ้อมตลอดว่า เขาจบใหม่ไหม เขาผ่านงานมารึยัง เพราะผมต้องการคนที่มีเอตติจูดดีด้วยครับ ไม่ใช่แค่เก่ง ไม่เก่งก็รับ แต่สมัยนี้ผมมองเรื่องแนวคิดเป็นหลัก เพราะจะทำให้การทำงานอยู่ยาว ไม่มาเล่นๆ แล้วออก ส่วนน้อยมากที่ดีอ่ะ ร้อยละ 35% นอกนั้นคนเจเก่าหมด
จากที่อ่านดูเหมือนองค์กรของคุณน่าจะมีแต่คนเจนเก่าเป็นพนักงานซะส่วนมากด้วยรึเปล่า?เดาเฉยๆนะครับ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆผมคิดว่าต้องกลับมามององค์กรของคุณเองด้วยว่าระบบการทำงาน สังคมในที่ทำงานของคุณล้าสมัยไปรึเปล่า ผมว่ามันเป็นปัญหาGeneration gapที่ต่างฝ่ายต่างความคิดต่างกันแล้วไม่พยายามปรับความเข้าใจกัน คนเจนใหม่ก็คิดอีกแบบ เจนเก่าก็คิดอีกแบบ เราว่าทุกเจนก็ยึดเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางหมดเหมือนกันแหละไม่เว้นแม้แต่รุ่นเก่าอย่างคุณ เพราะผมว่าคนเจนเก่าเองก็มองว่าอยู่มานานกว่า มีประสบการณ์กว่า คนรุ่นใหม่ๆควรจะเชื่อฟัง เคารพตัวเอง ทั้งที่จริงๆอีโก้เยอะและโลกหมุนรอบตัวเองเหมือนคนเจนใหม่ที่คุณด่านั่นแหละ ถึงได้คิดว่าคนรุ่นใหม่จะต้องปรับตัวเข้าหาเจนเก่าๆ
คนรุ่นเก่าผมเห็นมาเยอะเหมือนกันเวลาผิดพลาดอะไรก็มีข้ออ้างให้ตัวเองและไม่เคยโทษตัวเอง ผมไม่ได้พูดเพื่อจะหาว่าคนรุ่นเก่าไม่ดีนะครับ แค่รู้สึกว่ามันเป็นทุกเจนแหละ อยู่ที่ตัวบุคคลมากกว่า
เห็นพูดกันเยอะๆว่า GEN Y เป็นเจนที่ความอดทนสูงมากที่สุด และปรับตัวกับที่ทำงานได้เยอะสุด อยู่ระหว่างกึ่งกลาง เพราะต้องทำงานเขาให้ได้ทั้งกับพวก Gen X คนแก่ กับ Gen Z ที่เรื่องเยอะ
จริงค่ะ 😅
มันเป็นช่วงรอยต่อยุคต่างๆครับ ไม่แปลกที่ยังมีความอดทนแบบgenเก่าแล้วก็พอจะมีไฟมีความคิดสร้างสรรค์ใกล้เคียงกับgenใหม่ๆ
คน Gen Y เกิดในยุคที่เริ่มมีเทคโนโลยีแล้ว แต่ไม่สุด จึงทันสมัยไม่ตกยุค อีกทั้งหลาย ๆ อย่างยังฝึกให้คน Gen นี้มีความอดทนสูง เช่น จะฟังเพลงก็ขอตามสถานีวิทยุ ต้องรอคิวที่ตนเองขอไว้กว่าจะได้ฟังเป็นยุคแห่งความคลาสสิคเลย นึกแล้วดีใจที่ตัวเองเป็นคน Gen นี้มาก
@@RayWatta ใช่ค่ะพี่มันเป็นช่วงรอยต่อ gen พอดีสมัยก่อนเวลาเลิกเรียนชอบเดินกลับบ้านมากๆไม่รู้เดินได้ยังไงทั้งๆที่บ้านก็ไกลจาก รร เดินกับกลุ่มเพื่อนๆช่วงนั้นมีความสุขมากๆค่ะ สมัยนี้มันมีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะมีเรียกรถสมัยหนูไม่มีค่ะ มีแต่สองแถว กับ รถเมล์ และก็รถอีตุ๊ก ช่วงนั่งค่ารถ 5 บาทเองค่ะ และอีกหลายอย่างที่ฝึกให้มีการรอคอยอดทนในหลายๆด้าน พอปัจจุบันเสียงหลังดังก๊อกๆปวดรอยต่อร่างกายเริ่มไม่ไหวแล้วค่ะขนาดยังไม่ถึง 30 เลยค่ะ😅
ไม่ได้อวยนะ แต่ Gen y เดอะแบกแห่งยุคจริงๆ พยายามให้ babyboomer หัวโบราณเปิดรับ คอยตามเช็ดขี้ความมุทะลุของ gen x ที่ไม่ค่อยประมาณตน คอยตามใจเด็ก gen y ที่ไม่ค่อยเข้าใจบริบทสังคม อยากทำงานในอุดมคติอย่างเดียว
gen y นี่จริงๆเป็น gen ที่ขี้เกียจชอบ work life balance นะเอาจริงๆ แต่ gen y จะไม่ได้ใช้ชีวิต worklife balance แบบนั้นหรอก เพราะต้องคอยแบก ตอนทำงานร่วมกับทุก gen ระทมใจจริงๆ
ไม่อยากรับก็ต้องรับแหละมั้ง เพราะ Gen Y ไม่ได้อยู่เป็นอมตะไปทั้งชาตินี่คะ ในอนาคตก็ต้องรับ Gen Z หรือเจนใหม่ ๆ เข้าทำงานอยู่ดี ทางที่ดีคือต้องปรับตัวกันทั้งสองฝ่าย ทั้งเด็ก Gen Z ที่ต้องฝึกความอดทน ทำตามกฎระเบียบสังคม ฝึกวินัยในตัวเอง ส่วนบริษัทก็ต้องให้โอกาสเด็ก ๆ ได้แสดงความเป็นตัวเองบ้างเหมือนกัน ไม่ใช่เอาแต่สั่งงานให้ทำเป็นหุ่นยนต์อย่างเดียว ถ้างั้นแนะนำงานสายครีเอทีฟค่ะ น่าจะเหมาะกับเด็กที่มีความคิดสร้างสรรค์ หรือไม่ก็องค์กรเล็ก ๆ ที่ไม่เคร่งกฎระเบียบมากเกินไป แต่อย่างที่บอกไปค่ะ Gen Y ไม่ได้อยู่ค้ำฟ้า ยังไงก็ต้องปรับตัวกันทั้งสองฝ่าย
👍🏻👍🏻👍🏻👍🏻 จริงครับ
บริษัทก็มีกฎของบริษัทครับมีมาตรฐานที่ต้องทำตามแต่gen z แต่ละคนก็ไม่ใช่ว่าจะนิสัยดีหมดนะครับ1.อยากได้เงินที่เยอะแต่งานทำไม่ได้เป้าที่เขากำหนดเพราะบริษัทก็มีงานที่ต้องส่งออกอยู่เรื่อยๆ2.มาสายซึ้งบางคนทำบ่อยมากจนจำได้แม่น3ตำหนิหรือติเตื่อนไม่ค่อยได้คือทำสีหน้าไม่พอใจ,ทำตาขวาง,มองบน,ถอนหายใจแรงๆ ทั้งๆที่ทำงานไม่ได้ตามเป้าที่ทางบริษัทกำหนดอันนี้คือยกต้วอย่างที่ผมและเพื่อนเจอมาบางคนปรับตัวได้ก็ดีไปครับของของผมนี้โดนนินทาฉ่ำสำหรับคนที่อยากได้เงินเดือนสูงทำงานสบายมีเวลาว่างเยอะหาอยากครับคุณอยากได้จากบริษัทเยอะก็แค่ทำให้คุ้มกับสิ่งที่คุณจะได้รับโลกนี้มันโหดร้ายครับชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบถ้าไม่พอใจก็แค่เปลี่ยนบริษัทครับเขาไม่ล้มละลายเพียงแค่ไม่จ้างคุณเข้าทำงานหรอกครับอย่างที่บอกgen zแต่ละคนนิสัยไม่เหมือนกันดีบ้างไม่ดีบ้างคุณไม่ทำบริษัทก็หาคนใหม่มาแทนได้อยู่ดีครับ
ต่อไปเจน@น่าจิมาช่วยแทน ข้ามไม่รับเจนzไปรับแต่เจน@ก้ได้
ประโยคคำฟ้าไม่อยู่ค้ำฟ้าก็เข้าใจอยู่ แต่สิ่งที่เขาอยากได้คือคนที่มาทำงานให้เขาได้ไม่ใช่คนที่มานั่งเถียงเขาได้คิดใหม่นะคนที่เขาจ้างคุณมาเขาให้เงินเดือนคุณ ถ้าเขาไม่พอใจในการทำงานของคุณหรือเขาคิดว่ามันไม่คุ้มเขาก็แค่เลิกจ้างเขาคงไม่มานั่งอดทนกับความคิดใหม่ๆของคุณหรอกในเมื่อเขาอยากได้คนมาทำงานให้เขาแต่งานเขาไม่เดินเขาก็ต้องหาคนที่ทำงานให้เขาได้ แต่ถ้าคุณไม่พอใจคุณก็เลือกงานใหม่ได้มันก็แค่นั้น ชีวิตไม่ได้อยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ครับชีวิตมันคือการผลักดันและต้องสู้กับสิ่งที่อยู่ข้างหน้า ไม่ใช่ต้องมานั่งประคบประหงมเอาใจพวกคุณไปซะทุกอย่าง
@@amitaporsantier7784ไม่แน่ @ อาจจะหนักกว่า สุดท้ายพวก Gen Z ช่วงต้นๆ ก็จะผ่านประสบการณ์ขึ้นเป็น Senior แล้วก็นิ่งขึ้นเอง
น้องผมออกเพราะทำงานเกินตำแหน่ง แต่บ.ไม่เคยเลื่อนตำแหน่ง ไม่เคยเพิ่มเงินเดือน หัวหน้าไม่เห็นหัว(ทำอยู่2 ปี) ได้งานที่ใหม่เลยเงินเดือนเยอะกว่าเกือบ 2 เท่าแล้วจะอยู่ที่เดิมเพื่อ??
ได้ประสบการมาไงละครับ อีกที่เค้าถึงจ่ายเลทนั้นได้ หรือไม่จริงครับ
@@nungnarok4063 ประสบการณ์การทำงานก่อนลาออก 1 วันกับประสบการณ์ ณ งานใหม่วันแรกต่างกันยังไงคับ หรือการลาออกได้ประสบการณ์เพิ่มถึงทำให้เรทเงินเดือนขึ้นคับ แบบนี้ถือว่าบริษัทไม่เล็งเห็นความสามารถ หรือเจตนาไม่ปรับเงินเดือนหรือไม่คับ หรือไม่จริงคับ
ผมเข้าใจเลย เจอมาเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าเราไม่สู้งาน แต่เราสู้จนเห็นถึงความไม่แฟร์ของระบบ genอื่นๆ นึกอะไรไม่ออกก็โทษ gen z นี่แหละให้มันจบๆ
@@nungnarok4063 ก็จริงครับ แต่ว่าทำไมที่เก่าไม่ขึ้นเดือนให้ละครับ? พอน้องผมได้งานมาบอกลาออกรีบเสนอเลื่อนตำแหน่งให้เลยเงินเดือนสูงกว่าที่น้องขออีก สรุปคือบ.สามารถขึ้นเงินเดือนตามความสามารถได้แต่แค่ไม่เคยเห็นหัว พอลาออกก็โดนหาว่าเป็นเด็ก gen z มันน่าปวดหัวกับพวกคนแก่จริงๆนะครับ
เรื่องปกติครับ มันมีมาทุกยุคแล้ว อยู่ที่เก่าได้เงินน้อย ก็เลยออกไปทำที่ใหม่ที่ให้เงินเดือนมากกว่า แต่เหตุผลที่ที่ใหม่ให้เงินเดือนมากกว่า ก็เพราะคุณมีประสบการณ์เคยทำงานกับที่เก่ามาแล้ว
อืมมมมม คนเก็บตัว สื่อสารไม่เป็น อยากทำงานง่ายแต่ได้เงินเยอะ ตำหนิติเตียนไม่ได้ ไม่มีมารยาทอะไรแบบนั้นมันก็มีอยู่ทุกยุคทุกสมัยไม่ใช่รึ 🤔
12:16อย่างตึง
เกิดจากการเลี้ยงดูที่เปลี่ยนไปมากเห็นชัดๆเลยไม่ต้องครอบครัวใครมองที่ครอบครัวตัวเองเลยครับ การเลี้ยงดูที่พ่อแม่เลี้ยงเรามากับการที่เลี้ยงดูลูกหลาน ความอดทนลดลงมากๆ เลี้ยงดูตามใจกันเยอะขึ้น ครอบครัวไหนที่เสมอต้นเสมอปลาย ผลที่ออกมาจะคล้ายกัน
ก็ไปจ้าง gen x gen y ไม่เลี้ยงเขามา เลือกของที่มีในตลาดมั้ย หาว่าเขาหางานในฝัน ก็อย่างอแงเอาลูกจ้างเกรดไม่มีจริง สิและที่สุด นายจ้างนั่นก็จะวินมันทุก gen ที่ไม่รับอารมณ์ที่เกินกฎิกากลาง ไม่ใช่ดูเป็น gen ไม่ใช่แม้แต่ดูเป็นคน แต่ให้ดูเป็นเรื่อง ทุกคนเข้าข้างตัวเอง
ด้วยโซเชียลสมัยนี้ที่ทุกคนดูประสบความสำเร็จง่าย มีชีวิตที่ดูดี มันส่งผลต่อการเลือกงาน คาดหวังสวัสดิการต่างๆ ซึ่งไม่ผิด แต่บ้านเราจะมีสักกี่บริษัทที่ให้ได้ บริษัทในฝันที่มีสวัสดิการดีก็มากับการแข่งขัน ความกดดันต่างๆ แต่คนเราใจร้อนขึ้นทุกวัน ทุกคนมีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น และมองว่าอะไรที่รู้สึกไม่โอเคก็ไม่จำเป็นต้องทน ซึ่งก็ไม่ผิด แต่อะไรที่เกินพอดี ก็ไม่ดีอยู่เเล้ว นอกจากนี้ มันก็มีประเภทไดโนเสาร์เยอะ แล้วตายยากด้วยนะ ไม่รับความเห็นต่าง แล้วก็มองว่าคนอื่นๆผิด และส่วนมากจะเป็นเจ้าของด้วยประเภทนี้
ไม่เกี่ยวกับgenเลย เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมที่โตมามากกว่า มีหลายคนที่มีความคิด ความนอบน้อม พร้อมเข้ากับคนที่โตกว่าได้ อย่าเหมารวมดีกว่าค่ะ
เจนนี้ สภาพแวดล้อมส่วนใหญ่เปนแบบนี้ไงครับ ไม่เหมารวมแต่เปนความเชื่อมโยง สภาพแวดล้อมกับยุคสมัยครับ
ในคลิปก็ยอกโทษเด็กไม่ได้แต่ยุคสมัยมันหล่อหลอม
พวกแพทย์ ในส่วนตัวผมนะอ.แพทย์จะชอบ นิวแทรคมากกว่าแทรคปกติเจนซีด้วย
จริงบางคนเกิดนานทำงานไม่เป็นเกิดหลังทำงานไม่ได้แต่ปากดีขอให้ได้เถียงก็เลยให้ไปนอนอยู่บ้านเพราะรับคนมาทำงานไม่ใช่รับคนมารอเงินงานทำไม่ทันแดก
เอ้ามองโลกตามความเป็นจริงก็หาว่าเหมารวม อย่าเว่อ
@@Nattamon-32 ก็เพราะแบบนี้แหละ ลองคิดถึงผลกระทบเวลาผู้ใหญ่เหมารวมแล้วบอยคอตเลิกจ้างงานเด็กทุกคนในอนาคตมันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไม่พูดเยอะไปคิดเอาเองค่ะ
รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่มี พ่อแม่ Gen Y เข้าใจ ลูก Gen Z 555555 รู้สึกว่าตัวเองก็มีความรับผิดชอบก็ค่อนข้างสูง มารยาทก็ไม่ได้แย่ รับคำติชมได้ ที่ไม่ใช่ด่าๆๆ คนในรุ่นเดียวกัน บางครั้งผมก็ยังไม่เข้าใจเลย บางคนนิสัยแย่ก็คือแย่เลย คนไหนดีก็คือดีมั่กๆ ต้องขอบคุณพ่อแม่ที่เลี้ยงมาเลย ส่วนตัวคิดว่าขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูมากกว่า ถ้าเลี้ยงลูกโดยการโยนมือถือ ให้แล้วหวังว่าลูกจะเป็นเด็กดี เรียบร้อย ความรับผิดชอบเยอะก็คงเป็นไปไม่ได้ ข่าว หรือคอนเท้นหลายๆ อย่างบางครั้งเด็กก็ยังไม่เข้าใจจริงๆ ฟังๆ มาแล้วคิดว่ารู้เลย บ้างก็ดูคอนเท้นตลก ที่ไม่ได้มีการกรอง ไปเอานิสัยบางอย่างของ TH-camr มาทำตาม ซึ่งส่วนใหญ่จะดึงด้านไม่ดีมาทำตาม เช่น หัวร้อนด่าคำหยาบคาย การแกล้ง บลาๆๆ สังคมออนไลน์นี่แหละที่หล่อหลอมเด็กทุกวันนี้
เม้นได้ดี ต้องขอบคุณพ่อแม่ และสิ่งแวดล้อม หนูจริงๆ มีความคิดความอ่าน
พ่อแม่มีลูกก่อน 15 หรอ
@@Therch_941 ป่าวครับ มีช่วง 30 ครับ ปัจจุบันผมก็ 21 แล้วครับ 🤣🤣
@@pawatisaraporn2423 พ่อแม่เกิดปีไร
ถ้าจะด่าเด็ก gen z ว่าพ่อแม่ไม่สั่งไม่สอนก็เหมือนด่าตัวเอง (เรา gen y) เลี้ยงมายังไงก็ได้แบบนั้น
มันก็ต้องปรับทั้งสองฝั่งอะ ฝั่งบริษัท ก็ต้องปรับแนวคิดวิธีการและสภาพแวดล้อมให้มันเหมาะสมแก่การทำงานด้วย ไม่ใช่มุ่งเน้นว่าจ้างมาให้แค่ผลิตผลงานอย่างเดียว
เป็น Gen Z ค่ะ แต่เรามองว่ามันขึ้นอยู่กับตัวบุคคลและยุคสมัย ยุคนี้อะไรก็เข้าถึงง่าย ช่องทางการหางานใหม่มีเยอะ ทำให้มีทางเลือกมากขึ้น ถ้าบริษัทให้ในสิ่งที่ต้องการไม่ได้ก็แยกย้าย
เราคิดว่า Gen ก่อนๆ อาจจะไม่มีทางเลือกเท่าปัจจุบันทำให้ต้องอดทนทำงานตรงนั้นจนเกิดความชิน พอเจอเด็กรุ่นใหม่ที่กล้าพูดกล้าออกความเห็นเลยอาจจะดูโผงผางเกินไป
เราว่า Gen Z ที่เกิดช่วง 2000 ต้นๆยังเคารพผู้ใหญ่อยู่นะคะ
แต่ช่วงหลังๆที่มีการเข้าถึงโซเชียลมากขึ้น มีการออกมาเรียกร้องสิทธิต่างๆ อาจจะทำให้เด็กรุ่นหลังสุดโต่งขึ้นค่ะ
ของผมจะเคารพเป็นบางคนนะคนไหนทำตัวน่าเคารพก็เคารพคนไหนทำตัวไม่น่าเคารพก็ไม่เคารพมันหรอก
ผม 2004 ตอนนี้อายุ 20 ไม่ค่อยอยากตอแยอะไรกับผู้ใหญ่เท่าไหร่ เพราะกลัวมีเรื่อง ยอมขอโทษจบ ๆ ไปพอให้เรื่องมันจบ
เป็นประเด็นที่เถึยงกันไม่มีวันจบ ผมก็เจอเด็กจบใหม่ ไม่ได้เรื่องเลย ขอเงินเดือนเยอะกว่าผม ซึ่งเจ้านายผมเขาก็ให้ เห็นบอกทำได้เยอะกว่าผม พอเอาเข้าจริงห่วยแตกมาก ขี้นอยมาก ไม่ประสานงานตามหน้าที่ จนผมต้องเป็นฝ่ายลาออกเอง ผมก็ไม่ได้ว่าที่เจนนะ เป็นที่บุคคล คนเก่งๆ เจนเดียวกัน เขาก็ไปบริษัทอื่นที่จ่ายเยอะอะ บางทีก็ต้องโทษ HR ด้วย ที่รับคนมายังไงไปยังงั้น ประเด็นนี้ก็จะเป็นประเด็นที่เถียงกันจนเราตาย เดี๋ยวเด็กเจนอัลฟ่า ด่าเด็กเบต้า แกรมม่า บราๆ ทำไมไม่อดทนเลย วงจรอุบาท
จริงครับ เอาจริงๆ ผมได้ยินวลียอดฮิตที่ว่าเด็กใหม่ไม่ได้เรื่อง ไม่ทน ตั้งนานแล้งนะครับ แต่ยุคนี้มีเน็ต พวก GEN X Y ก็เลยใช้พื้นที่ด่า ด้อยค่าเต็มที่ ทั้งที่ตอนที่ GEN X Y จบใหม่ ไม่มีปสก ก็สภาพไม่ต่างกับ GEN Z ในยุคนี้
แต่ต้องยอมรับว่ากลุ่มของGenZ มีคนจำพวกนี้มากกว่าGenอื่นๆมากจริงๆ ผมที่อยู่ในGenZ ยอมรับเลยว่าGenZคือคนที่อ่อนไหวต่อโลกง่ายมากที่สุดจากทุกๆGen ไม่ใช่ว่าGenZไม่ดีนะแต่ในกลุ่มหรือสังคมของยุคนี้มันมีคนที่อ่อนไหวและรับต่อความเป็นจริงได้น้อยลงกว่าGenอื่นๆในยุคก่อนๆมาก หัวหน้าพนักงานส่วนใหญ่ชอบเด็กที่มีวิสัยทัศและไหวพริบ แต่ในเด็กคนนั้นก็จะมีความรู้สึกอิสระในตัวเองเกินไป มากกว่าที่บริษัทหรือธุรกิจนั้นจะให้ได้แต่ก็ความคาดหวังที่เด็กGenZไม่สามารถแบกรับตามสิ่งที่ตนร้องขอได้ดีมากเท่าไหร่
ผมก็เจนนี้นะ ที่ว่าเด็กไม่อดทนเถียงเก่ง ไม่ทนงาน
คือต้องดูเป็นบริบทไป
ถ้าวิเคราะห์ในเชิงลึกคือเด็กโดนเอาเปรียบ
กดค่าแรง หวังให้เด็กทำงานเยอะ แต่ค่าแรงไม่เพิ่ม
นายจ้างหลายบริษัทอยากได้ยอด มนุษย์ที่ทำเป็นทุกตำแหน่ง แต่ค่าแรงไม่เพิ่มหรือค่าแรงขั้นต่ำ
เด็กใหม่ชอบโดนเอาเปรียบ แต่เด็กไม่ทน เลยลาออก อย่างในคลิปหัวหน้าอยากเพิ่มงาน แล้วเด็กถามค่าแรงเพิ่มกลายเป็นผิดเฉยเลย
ทุกเจนเคยโดนเอาเปรียบ แต่อดทน เพราะตำแหน่งงานเมื่อก่อนหายาก ทำไรได้ก็ทำไปก่อน ถึงแม้จะถูกก็ทนไปก่อน ยอมโดนเอาเปรียบทุกทาง พูดไม่ได้ แต่เด็กมันออกเลย การโดนเอาเปรียบแล้วลาออกไปหางานใหม่กลายเป็นว่าเด็กผิด ประเด็นเรื่องทักษะการสื่อสารและประสบการณ์การทำงาน เพราะเพิ่งจบใหม่หลายคนยังต้องฝึกอีกเยอะ ที่เด็กเจนใหม่เป็นแบบนี้ เป็นส่วนมาก ส่วนหนึ่งต้องดูที่การเลี้ยงดู สังคม แล้วเจนไหนเป็นผู้เลี้ยงดูมา และ สังคมดูแลด้วยเจนไหน? ส่วนสำคัญก็ต้องดูเป็นรายบุคคลไป
มันเป็นเรื่องจริง เพราะผมเองก็เคยโดน มากับตัวเอง เคยเปิดร้านอาหาร แต่เนื่องด้วย การหาพนักงานแถวนั้นมันยาก จริงตัดสินใจ จ้าง นักศึกษามาทำ งานเพื่ออย่างน้อยก็ คิดว่า น่าจะ สนิทกันง่าย หรือ ขยันทำงาน แต่สิ่งที่ได้คือ
- บอกตัวเองมี ไอเดียดี อยากลอง แต่ก็บอกไปแล้ว ว่าเคยลองแล้ว มันไม่เวิค แต่ก็ฝืนจะทำ เพราะคิดว่าทำได้ดีกว่า ผลสุดท้ายพัง
- มาสาย อ้างติดธุระ เรื่องนั้นเรื่องนี้
- เสื้อใส่มาเปลี่ยนไม่ทันต้องกลับไปเปลี่ยน ทั้งๆที่ตอกบัตร เข้าทำงานแล้ว
- แอบด่าเจ้านายลับหลัง ให้คนอื่นได้ยิน แถมแอบ นินทาให้เจ้านาย ได้ยิน
- ไม่กิน หรือ ทานอาหาร มาให้เรียบร้อย แต่จะขอไปเดินตลาดก่อนเข้างานแทน
- โทรมาบอกขอเงินเดือนก่อน อ้างมีค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้
- เผลอ ไม่ได้จะชอบ ออกไปเกาะกลุ่มกัน แล้ว ออกไปยืน ดูด บุหรี่ไฟฟ้าหน้าร้าน พอเตือนก็ทำไม่พอใจ
- แอบถาม เรื่องเงินเดือนกัน แล้ว เอาเรื่องเงิน เดือนมาคุยกับ เจ้านาย ทั้งๆที่ตกลง กันตอนสมัคร งานแล้ว
- ทำท่าที ไม่พอใจเวลา ถูกใช้ งาน และ กีดกัน คนที่ไม่ใช่พวกตัวเอง ให้เขาอยู่ไม่ได้
- ปากบอก ว่าใช้งานได้ทุกอย่าง คุยได้ทุกอย่าง แต่พอ เอาเข้า จริงไป โพส เฟสด่า (เคยเจอไหมละ ลูกจ้าง บอก *ไม่รู้จักเกรงใจกันเลย*)
มันก็จะไม่เกี่ยวอะไรกับ Gen หรอกนะ แต่เผอิญว่า ทั้งหมด เนี้ย 10 กว่าคน ใน gen นี้ นิสัยแบบนี้หมด
ผมมองว่า Gen นี้อยู่บนโลกออนไลน์และสื่อดิจิทัลมาตั้งแต่เกิด มันทำให้ไม่สมดุลกับการอยู่บนโลกความเป็นจริงและขาดประสบการณ์การใช้ชีวิตกับสังคม ช่วงวัยนศ.ต้องระวังเลยเพราะเป็นช่วงที่กำลังโตและสร้างประสบการณ์จริงๆ
เป็นที่คนค่ะ ไม่ใช่ gen
เรื่องมาสาย/ไม่รับผิดชอบ/ไม่เตรียมพร้อม/เอาเวลางานไปเล่นไปดูดบุหรี่
ก็คือแก๊งวัยรุ่นไม่รู้จักโตแก๊งหนึ่ง
แต่เรื่องอื่นๆ ที่มองว่ามันก็ปกตินะ ได้แก่
- นินทา มีทุกที่ โพสเฟสด่า ก็มีทุกที่ ทุกเจน
- เด็กวัยนี้ ไม่ชอบให้สั่งห้าม เค้าต้องการเหตุผล หรือต้องการลองเอง
- ตกลงเงินเดือนไว้ตอนสมัครก็จริง แต่ก็อย่างที่บอก เค้าต้องการเหตุผล ถ้าเค้าไปรู้อะไรมาแล้วเกิดสงสัยแล้วมาถามต่อหน้า มันก็ดีกว่าเอาไปนินทาลับหลังนะ
จริงครับนักศึกษาจบใหม่ปกติคุณไปจ้างนักศึกษาจบใหม่ที่จบอะไรมาล่ะถ้าแบบจบตามปกติแบบจบมหาลัยมาลองคิดดูสิครับพวกเค้าเหล่านี้ตอนที่ยังเรียนอยู่พวกเขาใช้แค่สมองกับความคิดไม่ได้ไปไหนมาไหนเยอะแล้วพอจบออกมาทำงานพอมาเจแงานที่แบบไม่ได้ใช้แค่สมองกับความคิดแค่อย่างเดียวแบบใช้ความอดทดไหวพริบความเฉลียวฉลาดและใช้กำลังใช้แรงด้วยบางทีเลยพากันปรับตัวไม่ค่อยได้ละมั้งครับ
@@CiseilEverburningก็จริงนะ อยู่กับสื่อโซเชียลมากกว่าเจอกับสังคมจริงๆเลยทำให้เข้ากับสังคมยาก
- สะกดคำโครตแย่ ผิดๆถูกๆ
-ใช้ภาษาในรายงานการประชุม เอาภาษาพูดมาเป็นภาษาเขียน
-เวลาสอนหรือชี้แจงว่าผิดถูกอย่างไร จะก้มหน้าก้มตาสไลด์ถูไถแต่หน้าจอ
ถ้าไม่รับ แล้วบริษัทจะได้บุคลากรมาจากไหนอะงง เพราะเจน Y ก็มีอาชีพของตัวเองไปแล้ว
แต่รับเถอะ คุณน้าเจนวายอย่างผมจะตุยแล้ว งานเยอะจนไม่มีคนช่วยมาแบ่งเบาเลย
อีก10ปีจะเป็นยุคหุ่นยนต์เอไอครับ ลูกหลานเหลนเจนzในประเทศที่เจริญแล้วจะหางานยาก
@@soqindy2256แต่เจน z ก็ไม่ค่อยอยากมีลูกกันแล้วนะ น่าจะบาลานช์กันได้อยู่มั้ง
ส่งกลับ HR.สนญ. ไปหลายคนล่ะ กลับไปหาที่ขายกาแฟเถอะ.
น้องผม gen z เพียบไม่มีใครเป็นอย่างที่ว่าเลย แต่ผมกลับคิดว่าคนแบบที่ว่ามามีทุก gen ด้วยซ้ำนะ
ผมเคยฝึกงานอยู่ที่ที่นึง แล้วผมก็ทำงานโดยที่เขาไม่ได้สั่ง เขาบอกผมว่าอย่าทำงานเกินหน้าที่ของตัวเองละก็ด่า พอถัดมาอีกซัก1เดือน ผมไม่ทำอะไรที่เขาไม่สั่งแล้วเขาก็มาด่าว่าทำไมไม่มีหัวคิดเริ่มทำอะไรด้วยตัวเองเลย แบบนี้ผมผิดไหม😅
Gen อื่นก็เป็นครับ มันอยู่ตัวคนเลย ไม่ใช่ Gen
เค้าพูดถึงค่าเฉลี่ยครับ แค่นี้ยังจับใจความไม่ได้
@@HaiHai-yz5ln ที่เขาพูดคือการเหมารวมซึ่งมันไม่ควรไง อย่าโทษGen โทษบุคคลเถอะ
@@HaiHai-yz5ln ถ้าการเหมารวมคนทั้งยุคสมัย คือการจับใจความได้ ผมยอมเป็นไอ้โง่ที่จับใจความไม่ได้ดีกว่าครับ
@@daiza3474 นี่แหละเค้าถึงดูถูกกัน ตอนนี้เข้าใจละ
@@HaiHai-yz5ln เหมารวม หรือ ค่าเฉลี่ย?
ปัญหาของเด็ก Gen Z คือ สังคมที่ไม่ปลอดภัยเหมือนเมื่อก่อน ผู้ปกครองบางคนก็เลยเลี้ยงลูกเป็นคุณหนูติดจอ
Gen Z ถ้ารับ Gen อื่นไม่ได้ก็ต้องสร้างโลกแบบที่ตัวเองค้องการให้ได้
น่าจะเป็นที่ตัวบุคคลมากกว่าครับ น้องๆ Gen Z ที่ทำงานกับผมส่วนใหญ่ก็ปกติดี
แต่ของต่างประเทศนี่ไม่รู้ เพราะเดี๋ยวนี้ทางฝั่งฝรั่งก็ชอบมีอะไรแปลกๆแนวคิดแปลกๆโผล่มาตลอด
เห็นด้วยค่ะ เราก็เป็นเด็ก Gen Z เจอเพื่อนที่ทำงานดีมากๆ อดทน สู้งาน แล้วก็เจอประเภทที่ไม่ค่อยทน หัวหมอ รักสบายเหมือนกัน อยากให้พี่ๆมองที่รายบุคคลมากกว่าเหมารวมๆค่ะ 🥺
มีลูกน้อง gen z เป็นแบบนี้เลย พรีเซนเก่ง แต่ทำจริงไม่ได้ อยู่ไม่ถึงปีลาออกเอง
โอ้ยประเด็นนี้มันก็มีทุกเจน เขาเพิ่งเข้าตลาดแรงงานคุณก็ให้เวลาเขาเรียนรู้หน่อย คำว่าเด็กสมันนี้มันอย่างนั้นอย่างนี้มันก็พูดมาทุกยุค😅
ดันเลยเมนต์นี้ เป็นทุกยุค🎉😅
ดันๆๆ
น่าจะแล้วแต่คนรึเปล่า มันไม่น่าใช่เพราะแค่เป็นเด็ก gen z นะ เพราะเราตอนจบใหม่ลองไปทำงานหลายๆแบบที่ไม่ตรงกับสายที่เรียนมา เจอที่แรกลองงานบริบารดูแลผู้สูงอายุ ไม่จ่ายเงินเดือนบอกว่าทำงานเพื่อองค์กร แต่องกรเอกชนนะ ถ้ารัฐจะไม่ตกใจเท่านี้ทนได้2อาทิตย์เพราะโดนคนแก่จบนมทุกครั้งที่ไปดูแล ที่ต่อมาเป็นร้านขายเครื่องสำอางร้านใหญ่ในโคราช เราไปสมัครออดิทค่ะ ไม่เกี่ยวกับสายที่เรียนอีกแแล้ว เป็นงานที่ต้องคอยเช็คสต๊อกสินค้าตามคำสั่งก็ทำๆไปปกติจนหลานเจ้าของร้านใช้ให้มาพิมงานที่สโตร์จนเสร็จละ ไม่ใช่งานเรานะ วันนั้นกำลังจะกลับบ้านกำลังไปซื้อข้าวกิน จู่ๆมีคนโทรเรียกกลับร้านเพื่อไปเขียนใบลาออก ด้วยข้ออ้างว่า เราทำงานไม่เป็น ทั้งที่โปรแกรมมันภาษาไทย ประเมินแล้วว่าเราทำไม่ผ่านทั้งที่เราทำงานไม่ถึง2อาทิต ละคือมารู้ที่หลังว่าหลานเจ้าของร้านมันชอบพนักงานคนเก่า จีบจนเขาอึดอัดทั้งที่เขามีแฟนแล้ว ที่ถัดมาเป็นโรงงานขนมปังเจ้าดังอีกแล้วที่นี่จ้างงานกราฟิกเราค่ะ เงินเดือนวันละ350 เราเข้าใจนะว่างานน้อยเงินน้อย ดอเค ทำได้ แต่ที่ไม่ไหวคือเราต้องทำงานช่วยพี่บัญชีด้วย เทศกาลก้อต้องมาช่วยแพ็คขนม วันปกติที่มีออเดอร์ขนมเซ็ตก้อต้องมาช่วย บางครั้งเราก้อมีงานอยู่ แต่พี่เขาโวยวายว่าเราเห็นแก่ตัวไม่ยอมมาช่วย ตามสัญญาคือ4เดือนคือผ่านโปรค่ะ แต่เราทนได้แค่เกือบ6เดือนไม่ผ่านโปรค่ะ ออกไม่ไหว เจ้านายฟิลวัยทองค่ะ เดี๋ยวด่าเดี๋ยวนินทา มีวันนึงจู่ๆแกก้อนินทาให้ฟังว่าพี่ที่ทำบัญชีแกเคยแทงค์ลูก จนช่วงนั้นขาดงานบ่อย แย่มากๆ คือแบบมันใช่เรื่องที่มาพูดแทนเจ้าตัวเหรอ ละมีหาเรื่องด่า วันที่เราต้องเฝ้าออฟฟิศค่ะ ห้ามเปิดแอร์เพราะเปลืองไฟ นี่เหงื่อท่วมทุกวัน พี่ๆในโรงงานบอกเราตัวเหม็น ก้อใช่สินี่เดินทั้งวันไม่ใช้ทำขนมในห้องแบบป้า ระบบข้างในก็เละมากค่ะ คนนึงต้องทำหลายๆงาน จ้างคนใหม่ๆมาทนไม่เกินเดือนซักคน โรงงานนี่ระบบกงสีนะคะ เคยเห็นใบเงินเดือนครั้งนึง คือครอบครัวแกทุกคนมีเงินเดือนค่ะ ทั้งที่ไม่เคยเจอหน้าก็มีเงินเดือนหมด
มาถึงที่ปัจจุบันค่ะ เราอยู่นี่มา3ปีเข้าปีที่4ค่ะ ใช้เวลา 1 ปีในการผ่านโปรค่ะ เจ้านายไม่ค่อยเข้าออฟฟิศค่ะ สั่งงานผ่านไลน์ ผ่านได้วยดี จนถึงปลายปีนี้ค่ะ พี่อีกคนออกไปรักษาตัวค่ะ งานทุกอย่างเลยเทมาที่เรา น่าจะเป็นใหม่ๆมั้งที่ เราทำงานไม่ทันค่ะ ตารางงานคือรวนไปหมด นั่นไม่ทันนี่ไม่ทัน นอกจากงานรายวันยังมีงานแทรกมาบ่อยๆจนเราก็ได้แค่รับๆมา ตอนนี้เริ่มกลับมาทำไหวค่ะ แต่งานก็ยุ่งเหมือนเดิม แค่เพิ่มจากทำภาพโพสรายวัน ทำภาพคอนเทนรีวิว กิจกรรมหลายๆอย่าง ตัดต่อวิดีโอ ถ่ายรูป ประเด็นคือไม่ใช่แค่เพจเดียวไง 4 เพจค่ะ ภาพต้องไม่ซ้ำ ยิ่งถ้าเป็นแอดนะ ภาพห้ามซ้ำคำในภาพก้อต้องคิดใหม่อีก เขาไม่รับคนเพิ่มด้วย เราน่าจะเป็น gen z ที่ไม่ทนเลยค่ะ เราไม่ค่อยฟังเพราะหลักคำสั่งคืออออกแบบมาก่อน ไม่มีบรีพค่ะ ไม่ผ่านก็จะไม่ตอบ แต่ถ้าผ่านก็ถึงบอกก็คือต้องทำเรื่อยๆจนกว่าจะใช่
ผมว่ามันอยู่ที่นิสัยคนแหละครับ อย่างของผมคือพึ่งออกงานที่ทำมา 6 ปีเพราะที่ บ. เปลี่ยนหัวหน้างาน (หัวหน้างานคนเก่าเขาเลื่อนตำแหน่งเลยไปที่ใหม่แล้วก็มีหัวหน้าใหม่เข้ามาแทน) ซึ่งหัวหน้างานคนใหม่นิสัยโครตเสียบ้าอำนาจชอบวางกล้าม ทุกคนต้องฟังเขาอะไรแบบนี้ ทั้งๆที่แบบเราก็ทำงานแบบดีๆเหมือนเดิมทุกอย่าง หัวหน้างานคนเก่าก็ไม่ได้ว่าหรืออะไร เขาชมด้วยว้ำว่าทำงานเก่งแต่หัวหน้างานใหม่นี่อะไร ??? งานก็ทำแบบเดิมนะครับ แต่ไม่ว่าผมจะทำอะไรในสายตาของหัวหน้างานคนใหม่นี้ ไม่เคยถูกใจพี่แกเขาครับ (แล้วก็หัวหน้างานคนใหม่อันนี้อายุน้อยกว่าผม 4 ปีครับ แต่ความเคารพคนอายุเยอะกว่าไม่มีเป็น 0 เรียกตัวเองว่าพี่ ทั้งๆที่แบบมันก็เรียกชื่อกันปกติก้ไม่ต้องพี่ต้องน้องก็ได้ผมไม่ถือหรอกเรื่องเรียกพี่เรียกน้อง) ทำงานอะไรปกติทุกอย่างเหมือนที่เคยทำทุกวัน 6 ปีแต่ทุกครั้งที่ทำจะโดนว่าโดนบ่นตลอดว่าไม่กระตือรือร้น (ต้องทำแบบในให้กระตือรือร้นในสายตาพี่แกผมก็ไม่ทราบครับ ? เพราะสำหรับผมทำเต็มที่แล้ว เช่น ลูกค้ามาหลายคนแต่ตอนนั้นผมยืนเครื่องคนเดียว ผมเลยเรียกให้คนอื่นมาช่วยหน่อย แล้วพี่แกก็เข้ามาช่วยในเครื่องพร้อมบ่นเพราะวันนั้นกะนั้นมีกัน 3 คน (จัดจ็อปภาษาอะไรวะ วันอาทิตย์ลูกค้าเยอะให้อยู่ 3 คนจะบ้าป่าวครับพรี่ ??? ผก. คนเก่าเขาจัดวันเสาร์ - อาทิตย์ เขาจัดอยุ่กัน 4-5 คนเพราะเขารุ้ 3 คนมันไม่ทันหรอกลูกค้าเยอะ อย่าว่า 3 เลยตัดเป็น 2 ไปเพราะหัวหน้างานคนนี้แทบไม่ช่วยงานลูกน้องวันๆนั่งรีแต่กล้องหลังร้านและทำงานที่คนตำแหน่งสูงกว่าสั่ง) แล้วก็มาบ่นประมาณว่าทำงานเร็วๆหน่อยได้ไหม ? คือตอนนั้นให้คุณคิดสภาพนะครับ ลูกค้า 5 คน หน้าเครื่อง แล้วลุกค้าสั่งกาแฟอีก 3 คน รวม 4 แก้ว แล้วยืนคนเดียว คือจังหวะนั้นต้องมีกี่มือและทำไวแค่ไหนถึงจะทันอ่ะ ?? แล้วมาด่ามาบ่นมันใช่เรื่องปะ ? 😮💨 คือถ้าเขานิสัยดีกว่านี้ผมคงไม่ลาออกหรอกเพราะก็ทำมา 6 ปีแล้วแต่อยู่กะคนนิสัยบ้าบอแบบนี้ผมไม่ไหวเลยลาออกมาหางานทำใหม่ครับ นี่คือ ประสบการณ์ส่วนตัว อยากจะให้คนที่เข้ามาดูคลิปนี้อย่าเหมารวมเฉพาะแค่เด็กครับ เพราะเด็กบางคนเขาทำเต็มที่ เท่าที่ทำได้แล้ว มันอยู่ที่ สภาพงาน - คนด้วย อย่างของผมเนี่ยเจอหัวหน้างานนิสัยเสีย นิสัยแย่ก็อยู่ไม่ได้หรอกครับ อยู่ได้แหละแต่มันต้องทน แต่จะทนทำไมหละ ? ในเมื่อมีที่อื่นที่เราสามารถไปได้ จริงไหมครับ ?)
ไม่ได้คิดว่าเป็นที่ Gen นะ จากคนเจน Y ที่ทำงานเองจนมาถึงจุดที่ต้องบริหารคนแล้ว พวกคนที่ไม่เหมาะ ก็คัดทิ้งแหละครับ ให้เค้าไปพิจารณาตัวเอง มันเป็นปกติอยู่แล้ว มีทั้งคนที่ทำงานเป็น ทำงานไม่เป็น ถ้าไม่รู้จักรับฟังความคิดคนอื่น ก็ทำงานกับคนหมู่มากไม่ได้ เตือนก็แล้ว บอกให้ปรับตัวก็แล้ว แต่ไม่ทำ ก็อยู่ไม่ได้ เรื่องอยากได้เงินเยอะๆ ตอนจบใหม่ นี่ก็เป็นกันมานาน เป็นกันเยอะอยู่แล้ว แต่ไม่ได้ก้มดูทักษะตัวเองเลย คิดไปเองว่าเก่ง พอไปทำงานกับคนอื่นเข้าก็ก่อปัญหา บริษัทก็ไม่อยากจะเสี่ยงกับคนจำพวกนี้อยู่แล้ว ก็ต้องพยายามพัฒนาด้านการคัดคนเข้าไปอีก
ผม Gen z บอกตามตรง นายจ้าง ส่วนใหญ่ดูไม่ค่อยหน้าเชื่อถือเลยครับ แบบมีแค่ปสก.กับอายุจริงๆขาดความคิดใหม่ๆ เหมือนมองเราว่าเขาทนทุกข์มาเราก็ต้องทนทุกข์เหมือนเขา ทั้งที่มันไม่จำเป็นเลย Gen ใหม่นั้นพร้อมเสี่ยงเพื่อหาความก้าวหน้า แต่ Gen เก่า แสวงหาความมั่นคงและปลอดภัย
ใช่ๆ ถ้ามัวแต่โทษตนเองเมื่อไหร่คนอื่นจะผิดล่ะ
55555@@traveler-e
@@traveler-e5555555+
ถ้าเค้าเป็นนายจ้าง ก็คือนาย ที่จ้างเรา ไม่พอใจก็ลาออกหรือจะมาบ่นร้องให้แง่วๆให้socialเห็นใจก็ได้นะ แต่นายจ้างเค้าต้องการคนที่ทำงานให้เค้าไม่ใช่มาสร้างภาระ เค้ามีภาระให้ดู ไม่ใช่พี่เลี้ยงเด็กเนาะ
ถ้าบอกว่า แค่มีประสบการณ์...นั่นก็ผิดแล้วครับ ส่วนผิดยังไง..ประสบการณ์..จะสอนเองครับ..😊
เอาเปรียบคนอื่นจนเคยตัว พอเจอคนรุ่นใหม่รู้ทันเอาเปรียบยาก แล้วมาบอกคนอื่นไม่อดทนแบบนี้ก็ไม่เอานะ
อย่างที่ยกตัวอย่างมา คุณให้งานเขาเพิ่ม เขาก็มีสิทธิ์ถามหาเงินเพิ่มปะ คือคุณอยากได้งานเพิ่มแต่จ่ายเงินเท่าเดิมงี้หรอ
ตกงานไปครับ
@@mrgoo1290 ผมปฏิเสธงานที่เขายัดมาเพิ่มตลอดนะครับ แต่เวลาทำงานตัวเองเสร็จแล้วมีเวลาว่าง ก็นั่งเล่นโทรศัพท์สบายใจมาก แต่เขาก็ยังไม่ไล่ออก ขอโทษด้วยครับที่ทำให้ผิดหวัง ที่ผมยังไม่ตกงาน ❤️❤️❤️
@@kapookmoo2543อย่าไปถือสาเค้าเลยครับ คอมเม้นไม่เป็นไปอย่างที่พี่แกคาดหวังไว้ ก็เลยดูหมาๆหน่อย 555555
@@mrgoo1290ผิดหวังอะเดะที่เขาไม่ตกงาน ว่าแต่เอ็งมีงานทำรึยัง😂😂
@@mrgoo1290 สมมุติว่าพี่เดินเข้าไปสั่งข้าวผัดราคา50บาทในร้านไปจนหมดแล้วสั่งก๋วยเตี๋ยวเพิ่มอีกชามราคา 50 บาท พี่จะจ่ายเงิน 50บาท หรือ100บาท. มันเหมือนกันงานเพิ่มเงินต้องเพิ่มด้วย
เด็กจบใหม่ไม่มีความอดทนต้องการเงินเดือนสู้ๆแต่ทำอะไรไม่เป็น เดียวนี้บริษัทเขารับแต่คนทีเป็นงานมาเลยเพราะจะได้ไม่เสียเวลาฝึก บริษัทแอบไปดึงคนจากบริษัทคู่แข่งก็มี เดียวนี้บริษัทผมไม่มีเด็กฝึกงานเลย เหงาเลยมีแต่หน้าเดิมเข้าแล้วออก มาถึงเอาคนจากบริษัทคู่แข็งมาเลยก็มี
แต่ผมคิดว่าเป็นทีคนมากกว่าน่ะ
โดนสอนสั่งสมมาไงครับจบมาต้องได้เงินเดือนเยอะๆ😂
@@jimmyfronk เคยเจอ เด็กเสริฟ อยากได้เงินเท่าเซฟไหมละครับ เจอมาแล้ว
ปรับตัวร่วมกันค่ะ เพราะคนทุก Gen ต้องอยู่ร่วมกัน ต้องทำงานร่วมกัน อย่าเอาแต่กล่าวโทษกัน เปิดใจพูด ถาม อธิบาย ยึดเอาความสำเร็จของงาน ของทีม เป็นหลักสำคัญ
เด็ก Gen z เกิดมาพร้อมปัจจัยพื้นฐานที่สะดวก สบาย
ทั้งเทคโนโลยี อินเตอร์เน็ต ความสะดวกต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ความง่ายและความเร็ว
ฉนั้นวิธีคิด มองโลก ย่อมแตกต่างกัน ปรับจูนกันได้
ผู้ใหญ่ก็ใช้ประสบการณ์เอามาแชร์วิธีการกับเด็ก บอกส่งที่เด็กไม่รู้ ผลกระทบที่เด็กอาจคาดไม่ถึง
ไม่ใช่มีประสบการณ์มากกว่า ก็ตั้งหน้าให้คนเคารพ มีอีโก้สูง ไม่ยอมฟังความเห็น ไม่ให้เกียรติเด็ก ไม่ยอมรับความผิดพลาดตัวเอง โยนงานให้รุ่นน้อง
ปรับตัวกันค่ะ งาน โลก ธุรกิจ เทคโนโลยี ไม่มีอะไรคงอยู่เหมือนเดิม ปรับตัวกันทุกฝ่ายทั้งเด็กยุคใหม่และคนรุ่นเก่า ถึงจะอยู่ร่วมกันได้
เด็กสมัยนี้เคารพคนมีความสามารถ ถ้าเราไม่แสดงความสามารถให้เขาเคารพก็ทำงานกันยาก หมดยุคตำแหน่งหัวโขน กับข้ออ้างอาบน้ำร้อนมาก่อน
เอาจริงๆ ผมว่าเรื่องอย่างงี้มันก็คงจะเป็นเหมือนวงจรอุบาทนั่นแหละ เพราะต่างคนต่างไม่ยอมกัน แข็งใส่กันตลอด มันต้องหาจุดตรง
กลางให้ได้อ่ะเอาจริงๆ ถ้าไม่ยอมอ่อนให้กัน ผลัดกันเดินหน้าผลัดกันถอยเพื่อให้มันค่อยๆลงล็อคกัน มันก็เถียงกันไปจนพวกเราทุกเจนตายไปนั่นแหละครับ ผมเกิดปี 2002 เป็นเจน Z ช่วงต้นๆเลย และตวผมต้องเกิดมาในบ้านจนจีนแถมมีคนอยู่ครบทุกเจนในบ้านด้วย และแต่ก่อนผมเป็นคนเดียวที่อยู่เจน Z แต่ต้องอยู่กับเจน BB, X, Y ภายหลังจนปัจุบันนี้ก็อยู่กับ Alpha อีก เอาตรงๆ ก็ต่างคนต่างปกติอ่ะเหมือนกัน มีทั้งดีทั้งแย่ปนๆกัน ไม่มีใครดีเลศประเสริจศรีเลย อย่างปู่กับตาผมแต่ก่อนเนี่ยคือ เป็น Stereotype ของเจน BB เลย เอาแต่ใจ ไม่ฟังใคร ด่าคนอื่นไม่เคยโทษตัวเอง แต่พอปู่มีเหลน และได้แม่ผมที่เป็นเจน Y คอยช่วยอธิบายให้ว่า พี่ชายผมที่เป็นเจน Z เหมือนกันเนี่ย เขาต้องการอะไร เขาเป็นแบบไหน ต้องเลี้ยงดูแบบไหนพี่เขาถึงจะดี ตอนแรกปู่ผมก็ไม่สนใจ แต่พอหลังๆ แกก็เริ่มปรับตัว จนก่อนแกเสียไปเมื่อต้นปีนี้ นิสัยเขาเปลี่ยนไปจากแต่ก่อนมาก แน่นอนว่านิสัยแย่ๆบางอย่างของเขาก็ยังมี แต่เขาสามารถเข้ากับแม่, พ่อ, พี่ชาย และตัวผมได้มากขึ้น ฝั่งพี่เองก็พยายามเข้าใจความรู้สึกของปู่ผมที่ต้องมาคอยดูแลพฤติกรรมแย่ๆของพี่ และพยายามปรับตัวเข้าหาปู่ เรื่องที่เขาโดนด่าบางอย่างมันก็ไม่ใช่เรื่องเลย แต่พี่ผมก็ยอมปล่อยๆไปในบางครั้งเพื่อให้เรื่องมันสงบ และตอนนี้พี่ผมชีวิตก็ดีขึ้นจากแต่ก่อนแบบสุดๆ มีครอบครัวที่อบอุ่นมากกว่าแต่ก่อน ถึงปู่จะไม่อยู่แล้วก็ตาม ส่วนตาผม แต่ก่อนโหดมาก ใครทำอะไรให้แกไม่พอใจ แกเอามะยมฟาดหมด แล้วแกจะมาสอนแบบคนจีน เพราะตาผมเขาเป็นคนจีนอ่ะนะ ก็จะดุกับผมมากเข้มงวดมาก โดยเฉพาะเรื่องเรียน และแน่นอนว่าผมก็ไม่ชอบเลยจนกลายเป็นกลัวเขาไป แต่พอเริ่มโตเหมือนตัวตาเขาก็เริ่มเปลี่ยน ใจดีมากขึ้น เข้มงวดน้อยลงมากๆ และผมเองก็เข้าใจในความเข้มงวดของเขาในช่วงแต่ก่อนจนผมกับตาสามารถคุยกันได้ปกติอีกครั้ง เนี่ยผมว่ามันต้องทำแบบนี้อ่ะ ต่างคนต่างยอมกัน พยายามทำความเข้าใจกันให้มากขึ้น เหมือนอย่างที่ครอบครัวผมทำกัน แน่นอนแหละว่าบางเรื่องคนต่างเจนกันก็จะไม่มีวันยอมรับในบางเรื่องได้ แต่อย่างน้อยถ้าเปิดใจ มันก็จะเข้าใจกันได้ และอยู่ด้วยกันได้มากขึ้น ผมไม่ได้บอกให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมเพื่อที่จะแพ้อีกฝ่าย แต่ให้ยอม(เปิดใจ)ที่จะเข้าใจอีกฝ่าย ค่อยๆทำกันไป แม้มันจะช้า แต่พอเข้าที่แล้ว ผมเชื่อว่าทุกเจนจะอยู่ร่วมกันได้ แม้เล็กน้อยมันก็ยังดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้😊
เจอ gen z อยู่คนนึงครับ มาสายทุกวัน ลางานบ่อย ป่วยบ่อย ฝนตกก็ขี้เกียจมาขอทำงานที่บ้าน อยู่ออฟฟิสก็ไม่ค่อยทำงาน สั่งงานไปก็ไม่ทำหลายวันก็ไม่เสร็จ กินหน้าโต๊ะทำงานขยะก็ไม่ทิ้ง ตัวก็เหม็น มีพนักงานใหม่เข้ามาก็ไปทะเลาะกะเขาโชวภูมิเบ่งใส่เขาจนเขาออก
เคสเด็ก Gen Z ถือว่าเป็นปัญหาหลายคนหลายบริษัทที่จะไม่รับ เพราะคนบางคนอาจจะทนแรงกดดันไม่ได้ งานเยอะเงินเดือนไม่คุ้ม ถ้ามองในมุมของเด็ก Gen Z เขาก็อยากทำงานที่มันสบาย ไม่กดดันหนักมาก งานเยอะแต่เงินเดือนต้องดีและคุ้มด้วย แต่ Worst Case สุดอยู่ที่โครงสร้างบริษัทมากกว่า
Gen Z ไทยกับต่างชาติต่างกันเยอะมากนะ แต่ละชาติก็บริบทไม่เหมือนกันด้วย ต้องดูในรายละเอียด
แล้วเอาจริงปะ ไม่รู้ใครเป็นแบบเราบ้าง ตั้งแต่คนไทยเริ่มสร้างการรับรู้เรื่องสุขภาพจิต เราไม่นึกเลยว่าจะมีคนอ่อนแอทางอารมณ์ รวมไปถึงการคิดวิเคราะห์ และการบริหารจัดการทางอารมณ์เยอะขนาดนี้ บางทีก็น่าเห็นใจในบางเคส แต่บางอย่างก็ว็อทเดอะฟัคมาก ขอสนับสนุนให้คนไทยมีความแข็งแกร่งทางอารมณ์ EQ กันเยอะๆ โดนตักเตือนอะไรจะได้ไม่ไปผูกคอตายนอนไม่หลับ อะไรจะคิดเยอะขนาดนั้น ไม่มีใครจะระวังทุกการใช้คำพูดต่อคนรอบตัวได้ไปตลอดเวลาหรอกนะ ก็เข้าใจว่าอาจจะมีความคิดเอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง แต่ในสังคมจริง ๆ ทุกคนก็จะเจอกับสถานการณ์แบบนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่าไปคาดหวังว่าใครจะมาใจดีกับเรา เราต้องแข็งแกร่ง เราต้องไม่ยอมคน(ไม่ใช้เอาขวดไปตีหัวมันนะคะ) หมายถึงว่าโต้เถียงอย่างมีวุฒิภาวะได้ ตัดจบปัญหาในบทสนทนาได้ ยอมรับการถูกด่าเหยียดหยามแม้ว่ามันจะไม่ใช่จริง แล้วบอกว่ามันอาจจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดีใจที่ชนะ และที่สำคัญที่สุดคือ"ปล่อยวาง" หรือ Let it go ค่ะ ปล่อยมันไปอย่างที่เป็น
หลายคนคงยากที่จะยอมรับคามจริง แต่เพราะข้อมูลมาจากประเทศที่คนยอมรับอย่างสหรัฐฯ
ทำให้เกิดประเด็นว่าขนาดฝรั่งจ๋ายังออกมาพูดเอง แล้วบ้านเราจะเหลือรึ ใครปรับปรุงก้อดีไป
ใครคิดว่าตัวเองดีแล้ว ก้อสุดแท้แต่
ตัวอย่างแรก นางงามพม่าไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ ร้องไห้โทษคนอื่นไม่ยุติธรรม😅
Gen z มีความคิดของตัวเองสูง แต่ความอดทนต่ำกว่าคนรุ่นก่อน สมาธิสั้น ไม่สามารถโฟกัสงานที่ต้องลงรายละเอียดและใช้เวลานานๆในการทำได้ มักคิดว่าเจ้านายหรือคนงานรุ่นเก่าไม่เก่ง เรียกร้องเงินตอบแทนเยอะ แต่ไม่คิดว่าทำอะไรให้บริษัทได้ ไม่ชอบคุยกันต่อหน้า ชอบส่งข้อความมาแทน ทำผิดไม่เคยยอมรับ มีเหตุผลที่จะโทษคนอื่นเกือบทุกเรื่อง ส่วนน้อยที่ดีๆก็มี แต่โดยเฉลี่ยชอบงานที่รวยเร็วอดทนน้อย บ้าคำว่า slow life, work smart, get rich quick. ทำงานที่ไหนได้ไม่เกินสามปี พอถามว่าออกทำไม มักจะได้คำตอบว่าที่ทำงานเก่าไม่ดี ผลตอบแทนไม่เหมาะสม เพื่อนร่วมงานไม่เก่ง หัวหน้าไม่ดี.
ขอเราเจอเจน Z 2 แบบค่ะ แบบโคตรเก่งมหาปะลัยสมปาก จัดการเรื่องยากใน 1 อาทิตย์ให้เหลือ 1-2 วัน สามารถต่อกรกับรุ่นใหญ่ ๆ ด้วยชุดข้อมูลปัจจุบันแบบอธิบายใจเย็นมาก จนพวกเก่า ๆ บ้าอำนาจหน้าชาหาเรื่องจนน้องต้องย้ายที่ทำงานทั้งที่ทำได้แค่ 7 เดือน แล้วรับเจน Z คนใหม่ คนนี้ท้าชนข้อมูลแน่น แต่โดนรุ่นใหญ่ขโมยงานว่าทำเองหมดปีโกรธมาถึงขั้นแว๊ดลงกลางห้องแล้วทำเรื่องลาออก เดือนหน้านี้น้องก็จะออกแล้วโคตรเสียใจ
และมีเจน Z แบบร้ายด้วย ขี้ยุ ไม่ทำห่าอะไร ล่องลลอยแต่รอดแถมเงินเดือนขึ้นอีก ทุกวันนี้นางยังอยู่ ไอ้เราก็งงหลายเด้?
สังคมไม่ดีด้วยครับ แต่ก็นั่นแหละ หาไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจองานที่เหมาะสมกับตัวเขาเองจริงๆ ถ้ามันไม่ใช่จะยอมทนไปทำไมถ้าเลือกได้ แต่จะทำแบบนั้นได้คือชีวิตทางบ้านคงจะล่อเลี้ยงไปสักพักได้บ้างแหละ
@@Maneerat1990ใช่เลย คนรุ่นเก่าก็แย่เหมือนกัน
@@Maneerat1990 โดนปกติแล้ว คนรุ่นใหม่ต้องเก่งกว่าคนรุ่นเก่าครับ โลกถึงเจริญไง แต่คนรุ่นเก่ามีประสบการณ์การกว่า ถ้าเรียนรู้จากเค้าได้ก็จะไม่ทำผิดซ้ำเดิมอีก
@@Maneerat1990ผมจะจำไว้ ว่าเก่งได้แต่ห้ามโชว์ความเก่งไม่งั้นอาจจะอยู่ไม่ได้ 555
ไม่ต้องสังคมภายนอกหรอก ที่เจอมากับตัว แค่ในวงญาติพี่น้อง เด็กๆเจนzสมัยนี้มันก็ไม่ได้สนใจหัวหงอกหัวดำำ ไม่ไหวผู้ใหญ่ พูดคุยห้วนๆไม่สบตาใคร ชอบจำความรู้จากโลกโซเชียลมาอวดฉลาด พร้อมปีนเกลียวได้หมดไม่ว่าพ่อแม่หรือคนแก่ในบ้าน แล้วสังคมไทยก็น่าอยู่พร้อมให้เด็กรุ่นใหม่พัฒนาจิงๆ เด็กเล็กก็ติดเกมส์ติดมือถือไป วัยรุ่นมาหน่อยก็ติดกัญชายาบ้าไป พอโตมาหน่อยก็ติดปั่นสลอตติดการพนันออนไลน์ไป นี่เหละภาพปัจจุบันที่เห็นๆกันอยู่
เจอมากับตัว ผมอายุ38 อยู่ในบริษัทรัฐวิสาหกิจที่หนึ่ง เจอเด็กอายุ24-25 ทำในแผนกเดียวกัน หาลู่ทางเอาตัวรอดเก่ง ไม่ยอมรับตัวเองผิด โลกหทุนรอบตัวเอง แก้ไขปห.ไม่เป็น คุ้มสติไม่อยู่ ืำด้วยแล้วเหนื่อยใจมาก
เจอเหมือนกัน อ่านกฎบริษัทแล้วหาจุดบอดเพื่อแหกกฎ พอเตือนเจอสวนกลับเป็นข้อๆ พ้นผิดโดนปริยาย HR ถึงกับต้องเรียกประชุมแก้กฎใหม่
เคยเจอมากับตัวเหมือนกันครับ เพื่อนร่วมงานอายุ38 ทำงานผิดพลาดแต่ไม่เคยโทษตัวเองสักอย่าง ดีแต่โทษคนอื่น โลกหมุนรอบตัวเอง เพื่อนร่วมงานไม่ชอบขี้หน้าสักคน เพราะความคิดแบบนี้นั่นแหละ อีโก้ล้นฟ้า น้ำล้นแก้ว ของแบบนี้ไม่น่าอยู่ที่เจนแล้วมั้งครับ?
ผมว่าเด็ก GEN Z มันไม่ซีเรียสหรอกเพราะถ้าไม่รับจริงๆวันนึงมันก็ต้องรับ เพราะคน GEN X GEN Y วันนึงมันก็ทำงานไม่ได้ด้วยอายุที่มากขึ้น ยังไงมันก็ต้องใช้บริการคน GEN Z อยู่ดี
ถ้าเป็นในนามบริษัท มันก็ต้องมีความเป็นระบบให้เรียบร้อย บริษัทยิ่งใหญ่ความผิดพลาดยิ่งไม่ควรจะเกิดขึ้นแต่ทั้งนี้บรรยากาศในที่ทำงานก็ควรทำให้รู้สึกสบายใจไม่กดดันจนเกินไปต่อให้งานจะกดดันขนาดไหน ส่วนตัวแม่ส่งหนูไปให้ป้าเลี้ยงที่ออสเตรเลีย ทำงานในร้านอาหารไทยของป้า มีอะไรผิดพลาดก็ต้องมานั่งคุย ความเป็นครอบครัวไม่มีเลยในเวลางาน แล้วพื้นเพลฝรั่งเข้าเน้นใช้ชีวิต การที่จะบอกว่าติดโทรศัพท์ อันนี้เป็นปัญหาในยุโรปมาสักพักแล้ว ส่วนตัวเป็นGZที่ไม่ติดโทรศัพท์ แต่ตัวเองก็แอบหงุดหงิดนะเวลาคุยกับเพื่อนแล้วเพื่อนก้มหน้าเล่นโทรศัพท์แล้วก็คุยกับเราไปด้วย ปล.เป็นกำลังใจเด็กGZ
น้องแมวก็ต้องเลี้ยง คลิปก็ต้องทำ เอ็นดูมากค่ะ 5555555
จริงค่ะ เราอยู่ Gen Y เป็นคนทำงานตอนนี้ต้องคอยคุมคน น้องสมัยนี้คนหัวแข็งและไม่พร้อมเอาอะไรเข้าไปเพิ่มในตัวเองเลย นี่มันสุดยอดจริงๆ เกือบทุกๆคน มั่นใจในตัวเอง ทั้งที่งานก็ไม่ได้ทำได้ดีและไม่ได้อยากพัฒนาตัวเองซะด้วย ทำงานพร้อมอู้งานตลอดเวลา อะไรที่ตัวเองสบายจะทำแบบนั้น บางงานเช่น สอนเด็ก มันไม่ได้จริงๆค่ะ และที่สุดคือปากดีปากเก่ง แต่งานที่ทำได้กลับไม่ได้เป็นแบบนั้น เหนื่อยจริงๆ เหมือนต้องมานั่งแก้งานให้เกือบตลอด ทั้งๆที่ก็โตจนทำงานกันแล้ว แต่เหมือนทำอะไรไม่เป็นเลย แม้กระทั่งตัดกระดาษ รุ่นเราไม่เคยต้องให้บอกอะไรแบบนี้เลย สุดจริงๆ 😅 แต่น้องบางคนก็น่ารักมาก ยังมีอยู่นะคะ แต่ว่าน้อยมากแล้ว
เห็นด้วยว่า ถ้าคิดว่า gen z มันไม่ดี สาเหตุก็มาจากพ่อแม่ gen ก่อนหน้ามันนั่นแหละ เลี้ยงลูกสอนลูกมาไม่ดี
แต่ประเด็นจริงๆของปัญหานี้ มันไม่ได้อยู่ที่ว่า ดีหรือไม่ดี แต่มันอยู่ที่ ใครเป็นคนจ่ายตังจ้าง ถ้าคุณทำตัวให้เขาไม่อยากจ้าง เขาก็ไม่จ้าง จะไปโทษใครได้นอกจากตัวเอง คนจ้างนิสัยไม่ดีแล้วไง จะเอาตังจากเขามั้ยล่ะ ถ้าจะเอาก็ต้องทน คุณเลือกนายจ้างได้ ไม่อยากทนก็ไปหานายจ้างในอุดมคติที่อื่น เช่นเดียวกับนายจ้าง ในเมื่อเขาเป็นคนจ่ายตัง เขาก็มีสิทธิ์เลือกเหมือนกันว่าอยากจะจ่ายให้ใคร ข้อแตกต่างมีอยู่แค่ นายจ้างมีให้เลือกน้อย แต่คนที่เขาจะเลือกจ้างได้เทียบอัตราส่วนแล้วมันโคตรจะเยอะ ก็ไปคิดเอาแล้วกันว่า ใครควรจะปรับเข้าหาใคร ถามว่ามันยุติธรรมไหม ก็อาจจะไม่ แต่มันคือความจริง
อันนี้จริงค่ะบอกไม่ได้ ไม่อดทน ทำงาน ทำงานแค่ตามคำสั่งและมองเราว่าล้าหลัง แก้ปัญหาไม่เป็นมีแต่คำถามตลอด กระทั้งคำพูดที่ต้องคุยกับลูกค้าต้องมาถามว่าต้องพูดยังไง
คือ ฉันต้องการมาทำงาน ฉันชอบในงานแต่ฉันไม่ชอบในคน ฉันไม่ได้มาทำงานเพื่อเป็นสนามอารมณ์ให้ใคร
เปิดบริษัท เอง ไม่ต้องใส่ใจใคร ทำงานของตนเท่านั้น
@@piyawanp385แก้ปัญหาแบบคนไทย555 คนไทยแท้จริงๆ😊 ไม่มองปัญหาแก้แบบไร้สมอง
@@piyawanp385 นี่ง่ะ ความคิดของพวกแก่ เพราะแค่เกิดก่อน
ผมว่าไท่หรอกครับ ก็ต้องเข้าใจในแต่บะคนไม่เหมือนกันเนาะ ทำงานไท่้หนื่อยแต่เหนื่อยกับการทำงานกกับคนครับ ดังนั้น มองข้ามได้มองข้าม ถ้าเราเป้นคนฉลาด พยานามหาจุดที่วินๆทั้งคู่ อนาคตจะได้สยายๆครับ เพราะทุกวันนี้ผมพยานามทำแบบนี้อยุ้ ถึงตอนแรกจะขัดใจทแต่สักพัก เออก็จริง เดียวนี้สบายๆละครับมแต่ละ gen ต่างกัน แต่อยุ่ที่เราจะปรับแบบไหนด้วย
จริงๆมันไม่ได้เป็นที่Genคับ แต่มันเป็นที่ช่วงอายุคน นิสัยพวกนี้จะเจอในช่วงอายุไม่เกิน25 มีโอกาศเจอได้มากสุด ไห้ดูจากหลายๆที่ๆเค้ากำหนดอายุรับคนเข้าทำงาน 25+ หรื่อถ้าเลือก25+ไม่ได้จริงๆ เค้าจะเอาคนที่มีครอบครัวแล้วแทน ก็เพราะเหตุผลพวกนี้แหละแต่เค้าไม่ได้พูด คนที่ไม่มีภาระติดหลัง ใว้ใจไม่ได้ เพราะเค้าไม่ต้องคิดอะใร นอกจากคิด เข้าข้างตัวเอง แต่ถ้ามีภาระครอบครัว จะทำอะใรก็ต้องคิดถึงครอบครัวก่อนด้วย หรื่อไม่ก็ต้องหาคนอายุ25+เพราะความคิดที่คิดเข้าข้างตัวเองจะลดลงมีเหตุมีผลมากขึ้น ตามอายุ มันก็ธรรมชาติอะ ไม่มีใครลัดขั้นตอนได้ และรู้เยอะไม่ได้หมายความว่าคิดได้ พูดใงดี รู้หลักธรรมมะ ไม่ได้หมายความว่าบรรลุธรรม ประมาณนั้น
ในฐานะที่ผมเป็น Gen Z คนนึงนะ(ยังไม่เริ่มทำงาน) คือ เรื่องความอดทนหนะ ผมว่ามันแล้วแต่คนจริงๆ เพื่อนผมหลายคนเวลาเจออะไรหนักๆอย่างมากก็แค่บ่นหรือระบายให้คนที่ไว้ใจได้ฟัง ไม่ค่อยกล้าเถียงกลับใคร
ส่วนเรื่องที่บอกว่าชอบเถียงอะไรงี้ ผมว่าส่วนมากจะเป็นการตั้งคำถามจาก Gen Z มากกว่า แต่ปัญหาคือ Gen Z ชอบตั้งคำถามอะไรที่ Gen อื่นเขาน่าจะไม่สนใจหรือไม่ชอบให้ถามกันมั้ง ซึ่งเวลาผมถามอะไรใคร คือมันสงสัยจริงๆ แต่สิ่งที่ได้กลับมามักจะไม่ใช่คำตอบ แต่จะโดนหาว่า ไม่อดทนเลย เถียงกลับหรอ ทั้งๆที่ ก็ผมแค่ถามอะ
อีกอย่างคงจะเป็นเรื่องการสื่อสาร คือผมเป็นคนนึงที่ให้ความคิดเห็นอะไรใครแล้วจะโดนหาว่าไร้สาระนะ แต่พอฟังความคิดเห็นคนอื่นที่พูดหลังจากผม มันก็คือสิ่งเดียวกับที่ผมพูดไปหนิ แล้วดันได้คำชมด้วยนะ เหมือนผมชี้ไปทางทิศเหนือแล้วคนอื่นเห็นผมชี้ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้อะ ผมว่าส่วนมากมันมาจากการสื่อสารนี่แหละ และปัญหาที่ต่างจาก Gen อื่น บางเรื่องสมัยก่อนอาจง่าย แต่ตอนนี้มันไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่ Gen อื่นเขาผ่านมาแล้วและมีภาพจำในแบบของเขาไปแล้ว และไม่คิดจะมองย้อนกลับมาอีกในเวอร์ชั่นของปัจจุบัน
ขนาดเราเป็น Gen Y เรายังไม่ไหวกับหัวหน้า Gen Y เหมือนกันเลยค่ะ อธิบายเหตุผล = เถียง พูดตามความจริง = ไม่ฟังแล้วสวนมาด้วยความคิดตัวเองล้วนๆ เอาตัวเองเป็นใหญ่ ผิดไม่ยอมรับอะไรทั้งนั้น กูตีโพยตีพาย โยนขี้ใส่คนอื่น บอกขอความคิดเห็นอยากได้ความคิดเห็นใหม่ๆ พอบอกคือไม่ฟังอะไรเลย พนักงานลาออกไปหมด เข้ามาทีละคนและออกไปทุกคน เข้ามา 3 คน ออกหมดภายใน 1 ปี ไม่รู้ว่าเพราะเลียเก่งรึป่าวเลยขึ้นมาเป็นหัวหน้าได้ ละชอบพูดขู่เด็กฝึกงานจะไม่ให้ผ่านโปรตลอด งงมากทั้งๆที่เด็กก็ตั้งใจ จนเด็กหมดกำลังใจทำงานไม่เกิน 4 เดือนออกทุกคน อีโก้ บ้าอำนาจมากกก ดังนั้น อย่าเหมารวมเจนเลยค่ะ แต่เข้าใจได้ว่า Gen มีส่วนในเรื่องความแตกต่าง ยุคสมัยเปลี่ยน เราก็ต้องพัฒนาตามค่ะ แต่ก็ยังต้องเคารพผู้ใหญ่อยู่ ให้มันเป็นมารยาทที่ดี แต่ทำงานไม่ควรอีโก้อ่ะ ถูกผิด คำขอโทษมันไม่ได้หนักปาก ละถ้าเราทำไรผิด คำขอโทษคำนึงแม่งโคตรเท่เลยนะ เพราะเราต้องลดทิฐิตัวเองลงและขอโทษอีกฝ่ายด้วยความรู้ว่าเราผิดจริง แม่งดูดีมากเอาจริง อยากให้คนคิดแบบนี้กันจัง🤣
เอาจริงนะขาดเราเจน z ยังไม่ชอบนิสัยคนเจนนี้เลย ขี้บ่นนิดหน่อยไม่อดทน เรียกร้องบางอย่างแบบโอเว่อร์มากเกินไป เอาจริงๆมันอาจจะไม่ใช่ที่เจนก็ได้นะ หรือเป็นที่นิสัยหรือเปล่าก็ไม่รู้
จากที่เห็นเพื่อนตามเฟซ/ig อะไรนิดหน่อยโพสต์เหนื่อย โพสต์บ่นที่ทำงาน อยากลาออก บลาๆ
เป็น GEN Y ที่คิดว่าเด็ก GEN Z ไม่น่ารำคาญเท่าเบบี้บูมเมอร์ อันนั้นคือคุยด้วยเหลืออดเหลือทนสุดละ เก่งสุด ดีสุดไม่เคยผิด เหยียดเก่ง เอะอะก็ว่าคนรุ่นใหม่ไม่อดทน เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ยึดติดระบบเดิมๆ ไม่คิดจะปรับเปลี่ยน เทคโนโลยีไปไกลแค่ไหนก็ไม่คิดปรับตัว ต้องให้คนอื่นหมุนรอบตัวเอง แต่เจนเบบี้บูมที่น่าเคารพก็มีนะคะ แต่น้อยมากที่เจอ
ส่วนใหญ่พวก woke จะเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง แต่ลืมไปว่าต้องอยู่ร่วมกับคนอื่น
เราก็gen Z ได้เป็นหัวหน้างานไวเพราะทำงานแต่เด็ก ตอนนี่26 แล้ว เราเจอเจนเดียวกับเราอายุน้อยกว่านืดหน่อย ไม่มีหางเสียงเพราะเราโตกว่านิดหน่อย ไม่อดทน มาสาย วีนเก่ง ดุเรื่องงานก็งอนจนจะขอลาออก เหนื่อยมาก แต่อย่างว่าแล้วแต่คน
26นี่ gen y ไม่ใช่ z
@@zenith1014gen y ต้อง28 ขึ้นครับ Google มีบอก
มีลูกชาย Gen Z จบมาได้แล้วสองปี ทำงานเป็นฟรีแลนด์ งานเยอะดีนะครับ ไม่มีปัญหาอะไร ผมกับเขาแยกกันอยู่ ผมอยู่ต่างจังหวัด ส่วนลูกชายอยู่กรุงเทพ ผมปล่อยให้เค้าอยู่คนเดียว จะไปเยี่ยมก็เป็นบางครั้งบางคราว แต่ก็มีการโทรคุยกันบ้าง อาทิตย์ละครั้งสองครั้ง ปัญหาของผมไม่มีเลยจากที่ฟังคลิปนี้ การส่งงานของเขาตรงตามเวลา ทำงานได้ตามความต้องการของลูกค้า แต่มีปัญหาเดียวที่ผมเป็นห่วงเค้าก็คือ เรื่องอาหารการกิน ที่ไม่ค่อยระวังสักเท่าไหร่ กินข้าวไม่ตรงเวลา กินอาหารให้เป็นประโยชน์ ก็เท่านั้นแหละ ออกแต่ก็มีอย่างหนึ่งก็คือเรื่องการพูด เป็นคนที่พูดจาค่อนข้างจะน้อยไปหน่อย
ไม่ได้อยู่ที่ Gen ครับจริงๆแล้วอยู่ที่สันดานของตัวบุคคลมากกว่านะ Gen ไหนก็มีหมดแหละครับพวกไม่อดทนไม่สู้งาน
มีหลานชาย เป็นอาจารย์แพทย์ สอน นักศึกษาแพทย์ฯ ใน คณะแพทยศาสตร์ เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย..วันนึง หลานชายโอนย้ายไปสอนในสถาบันการแพทย์เฉพาะทาง ของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่ง คนที่มาเรียน ต้องจบแพทย์ฯ และทำงานมาแล้ว 3 ปี มาเรียนเฉพาะทาง ต่อ...ถามว่า ทำไมไม่สอนที่เดิม จะได้มีลูกศิษย์เป็นหมอ เต็มบ้านเต็มเมือง .. หลานชายตอบว่า นศ.แพทย์รุ่นใหม่..งอแง..ชอบถามตลอดทุกครั้ง ทุกวิชา ว่า..ที่สอนนี่ ตรงนี้ ออกสอบไม๊ ? ตรงนั้น ออกสอบไม๊ ? ที่มาเรียนนี่ แค่อยากสอบผ่านเท่านั้น..ไม่ได้ อยากรอบรู้ หรือ เข้าใจ ความรู้องค์รวม ของการรักษาโรคแต่ละชนิด เด็กรุ่นใหม่จะ.. มักง่าย.. มากขึ้น เวลาไปทำงานจะเลือกรักษาโรคง่ายๆ โรคซับซ้อนส่งต่อเข้ารพ.ศูนย์ ในตัวเมืองอย่างเดียว..นี่คือ เด็ก รุ่นใหม่ ที่จะเรียก Gen Z อะไรนี่แหละ..
สำหรับหนูหนูมองว่าบางทีมันไม่เกี่ยวกันที่ Gen นะคะ มันอยู่ที่คนเเละนิสัยส่วนตัวของเเต่ละคนมากกว่า
เรื่องเล่าของผม(เจนวาย)ผมเองก็ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเจนซี
ผมกำลังจะลาออกจากงานประจำเพราะยังไงที่ทำงานก็ได้ พนง ใหม่มาทดแทนแล้ว และกำลังจะส่งต่องานที่ได้รับผิดชอบให้น้องๆ
แต่ที่ไหนได้ ถูกเด็กเจนซี ตัดหน้า ชิงลาออก ซะก่อน ซึ่งทำงานได้2เดือน ตั้ง2คน เพราะ ทนไม่ไหวกับงานและค่าตอบแทน
กรรม ผมเลยอยู่ช่วยงานต่ออีก3เดือน เพราะเห็นใจเพื่อนร่วมงาน/หัวหน้า(ขอให้ช่วยต่ออีกหน่อย เพราะคนขาด)
หลายคนคิดว่า ทำไมไม่ลาออก จะไปสนใจบริษัท องค์กรทำไม เกี่ยวไรกับเจนซีลาออกวันนี้พรุ่งนี้มันก็เรื่องของเขา
ก็นะ ใจผมอาจจะมีความเอื้ออาทรหลงเหลืออยู่บ้าง
ผมเพียงเล่า ตย เหตุการณ์ ในชีวิตจริงใครไม่ได้รับผลกระทบตรงนี้ก็ยังมองแง่มุมอื่น
เจนซีก็ไม่ผิดอะไร เขาเพียงโตมาในแบบที่สบายกว่าเราเจนวายเท่านั้นเอง
แต่ท้ายที่สุด ก็ต่อต้านไม่ได้อยู่ดี
เพราะคนGENเก่า สุดท้ายก็ต้องแก่
ทางที่ดี ก็เลือกคน แค่นั้น
เด็ก GenZ ฉลาด รับผิดชอบสูงมาก เก่ง และกล้าท้าทายสิ่งใหม่ๆ ครับ
กล้าพูด แต่ต้องทำความเข้าใจกับเค้าหน่อย
ให้ความเป็นกันเอง เค้าจะรักองค์กรเองครับ
มันมีคนประเภทนี้ทุกเพศทุกวัย อย่าโทษ Gen มันอยู่ที่ตัวบุคคล
เราทำงานกับเด็ก และผู้ใหญ่ ทั้ง 2 แบบมีข้อดีข้อเสียต่างกัน ทางเด็กก็มีแบบที่ข่าวพูด มาสาย ไม่ค่อยโฟกัสงาน ไม่ตั้งใจ ทำงานแบบปล่อยผ่านง่ายๆ แต่เรามองว่านางก็ไม่มีประสบการณ์ด้วย ไม่รู้ว่าถ้าทำงานชุ่ยมันจะส่งผลต่องงานสเต็ปต่อไปยังไง ก็ต้องสอนกันไป ส่วนผู้ใหญ่ก็มีทั้งแบบหัวโบราณไม่ปรับตัวเข้ากับยุคสมัย กับผู้ใหญ่ที่พร้อมเข้าหาทางใหม่ๆ เทคโนโลยี โชคดีที่เราเจอแบบหลังมากกว่า แต่ก็ยังมีความยึดมั่นถือมั่นของเขา แต่เขามีเหตุผลและรอรับฟังเหตุผลของฝั่งเรามาก ก็นั้นแหละ เราว่าทุกอย่างต้องลองพูดคุยกัน เอาเหตุผล มาพูด เวทข้อดีข้อเสีย ยังไงชีวิตก็ต้องอยู่ร่วมกันทั้งหมด และก็ต้องพัฒนาไปข้างหน้า
เป็นกำลังใจให้เด็กๆใหม่ด้วยน้า แต่ก้ขอให้ทนๆงานกันนิดนึง แบบถ้าไม่ถึงขนาดโดนกดขี่ ก้ทำไปเถอะงาน เอาตังไว้ก่อน ละค่อยย้ายเน้อ
บางคนก็เหลืออดทั้ง Gem Z และ Baby boomer แต่อยากบอกว่าบางคนก็เกินไปโดยเฉพาะยุคเก่ากดขี่ สั่งงานบ้าอะไรหลังเวลางานเลิกงาน 16:00 สั่ง 17:15 เอาภายใน 8 โมงแต่เริ่มงาน 9 โมง อันนี้ควรด่า OT ก็ไม่ได้ ลดเวลางานอีกวันก็ไม่ได้
เราเป็นหัวหน้างานของ gen z เด็ก gen นี้ คือ เก่งในเรื่องงานสมัยใหม่ สามารถประยุกต์เทคโนโลยีมาใช้ร่วมได้ดี แต่การปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานคือไม่ดีเท่าที่ควร และทำงานแบบเอาให้เสร็จเร็วไว้ก่อน บางทีก็ไม่ทำตามสิ่งที่หัวหน้าหรือผู้อาวุโสกว่าบอก เพราะเห็นว่าไม่จำเป็น แต่จริงๆคือเป็นสิ่งที่จำเป็นเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่เค้ายังไม่เจอกับตัวเองเค้าก็จะคิดว่ามันจำเป็นแบบไหน
OT ยินดี
OFree ไม่ทำ
ขอบคุณมากครับ
จริง
ไม่หรอกครับ มันมีทุกรุ่นแหละ บางคน40กว่าแล้ว ยังเป็นคนเห็นแก่ตัว ขี้เกียจ เอาเปรียบคนอื่น เห็นอยู่ทุกรุ่นแหละ มันอยู่ที่ตัวคนครับ มันรายบุคคลครับ คนดีคนไม่ดี มีอยู่ทุกรุ่น❤แต่บางส่วนก็พูดถูกครับ ยุคสมัยเปลี่ยนไป ใจคนก็เปลี่ยนแปลง เปราะบางจริงๆ เห็นเด็กรุ่นใหม่มาทำงานที่บริษัท อยู่ได้ไม่ถึงเดือน ก็ทนไม่ไหว ทั้งๆที่งานก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร แล้วก็ลาออกไปหางานใหม่ สุดท้ายไปที่ใหม่ก็ออกอยู่ดี เอาแต่ใจจัดๆ😂
ผมคงGen Xเลยมั้ง😂 จะถามจริงๆทำไมต้องเรียกเป็น Gen Z
แล้วรุ่นต่อไปจะเป็นGenอะไร😂
ผม40กว่าแล้ว ทำงานกับเด็กรุ่นลูก20ต้นๆ ก็ยังทำงานร่วมกันได้ดี คุยกันเฮฮาสนุกสนาน ผู้ใหญ่ควรสอนการเข้าหาอย่างเป็นมิตรไม่ใช่ว่าตัวเองอายุเยอะกว่าจะทำอะไรก็ได้จะพูดอะไรก็ได้ เราต้องเข้าอกเข้าใจเด็ก หาแนวทางเพิ่มความสนิท คุยกับเด็กได้ทุกเรื่อง เขาก็จะรู้สึกสบายใจในที่ทำงาน ที่พบปัญหาส่วนใหญ่ ก็เพราะผู้ใหญ่คิดว่าตัวเองวัยวุฒิสูงกว่า จะพูดอะไรกับเด็กมันก็ได้ การบ่นการด่า ผู้ใหญ่ส่วนใหญ่คิดว่าทำได้เพราะโตกว่า นั่นมันเป็นเรื่องที่ผิด แล้วทำไมพวกเด็กมันต้องทน ในเมื่อผู้ใหญ่มันไม่น่าเคารพ ทำตัวให้เด็กมันเคารพก่อน มันถึงจะอยู่ร่วมกันได้😂
Gen z มักชอบโชว์ว่าตัวเอง เฟียส มั่นๆ อะไรนิดๆหน่อยๆดราม่า มันก็ไม่ใช่ทุกคนหรอก แต่ ส่วนใหญ่ทำให้มองเป็นแบบนั้นเอง
ผมอายุ 21 ปีนี้ ทำงานที่อังกฤษเงินเดือนไม่แน่นอน ผมตื่นตี4หรือตี3:30 ทุกวันเริ่มทำงานตี5 กว่าจะได้พักก็บ่าย2-3 เดือนที่แล้วได้ 90,000+ บาท ถึงจะเหนื่อยผมก็อดทนครับและผมก็เห็นคนอื่นอายุเท่าๆผมบางคนทำงานแค่เดือนเดียวก็ท้อแล้วครับ😂 อาทิตย์แรกพวกเขาก็ป่วยและพักงานแล้ว
พอดีGenZไม่ได้เป็นหนี้เหมือนGenบนๆ เลยช่วยไม่ได้ที่เขาจะเลือกงาน
ไม่เป็นหนี้ แต่ข่าวล่าสุดบอก GenZ ก่อหนี้เยอะสุด ค้างหนี้บัตรเป็น 2 เท่าของ GenY ผ่าม...🤣
@@dreamcatchers541 ไปเอาข่าวมาจากไหน ดูFake newsจนหลอนแล้วหรอครับ 😂
@@dreamcatchers541ฮาจัด โชคดีผมเป็นส่วนน้อยที่ไม่ได้ก่อหนี้โดยเฉพาะหนี้ กยศ. 555
ผมเป็น Gen Y ทำงานกับคนเกือบทุก Gen และ Gen Z อาจไม่ไช่ทุกคนแต่ส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องความอดทนต่ำมากอันนี้จริง ส่วนปัญหาคิดว่าเกิดจากการเลี้ยงดูของครอบครัวที่ โอ๋เด็กมากเกินไป ตีไม่ได้ - ด่าไม่ได้บอกว่าไม่มีเหตุผล(แต่เหตุผลที่เขากล่าวอ้างถึงจะมาจากตอนเขาเป็นคนผิดไม่รู้แท้จริงต้องการเหตุผลหรือแค่รับไม่ได้ว่าตัวเองผิดหรืออยากสบายไม่ต้องรับผิดชอบ) เจออะไรลำบาญๆก็ไม่เอา
- ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปมีสิ่งที่อำนวยความสะดวกสบายมากขึ้น พ่อแม่ที่เคยเจอความลำบากมาก่อนก็ไม่อยากให้ลูกลำบากเหมือนตัวเอง แต่รู้ไหมว่าถ้าวันนึงคุณไม่อยู่บนโลก เขาจะเจอกับอะไร ถ้าคุณฟาร์มเงินให้เขาเหลือกินเหลือใช้ก็ดีไป แต่ถ้าเงินที่มีไม่ได้เหลือใช้ไปตลอดก็ระวังครับ ถ้าไป 30-40 ปี เด็ก Gen Z อายุ 50+ เขาก็อาจจะเป็นมนุษย์ลุง-ป้า เหมือนที่คุณเรียกนั้นแหละ เรียนรู้-เปลี่ยนแปลงมันให้ได้ครับ
- ปัญหาเรื่องความอดทน ผมไม่ได้บอกว่าเป็นเฉพาะ Gen Z นะ เป็นทุก Gen นั้นแหละ แต่ Gen Z เท่าที่เจอมาเยอะสุด ว่าที่มนุษย์ลุง-ป้า
ต้องถามว่า คน gen z มีเงินไปจ้างคนทำงานวิจัยลักษณะนี้ออกมามั้ย ก็ไม่ แสดงว่างานวิจัยนี้มีความต้องการแอบแฝงบางอย่าง ที่ต้องการให้คนทำงานรุ่นใหม่ๆ ยอมรับความเป็น nาส แบบใหม่ แล้วคนที่ได้ประโยชน์ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก อย่าไปเชื่องานวิจัยเยอะ คนแย่ๆ มันก็มีทุก gen นั้นแหละ
8:53 จริงครับ จ้องจริง กำลังจ้องอยู่เลยครับ😂😂 มันก็ดีนะ จ้องเข้าไปเห็นเรื่องราวที่ตัวเองกำลังสร้าง เห็นทุกสิ่งที่เราสร้างมันขึ้นมา ภูมิใจกับสิ่งที่ตัวเองทำสำเร็จ และผ่านมันมาได้ด้วยความยากลำบาก และต้องจ้องต่อไปเพราะงานที่อาจารย์ให้มาคือเขียนโค้ด
ผมเป็นเด็กเจน Z นะ เเต่ผมไม่เห็นมันจะมีปัญหาอะไรเลย โคตรจะไร้สาระเเละเสียเวลาจัด ไม่เห็นต้องอธิบายอะไรให้เสียเวลาเลยงงกับหลายเม้นต์จัด
แค่ทำตัวให้ปกติ เวลาทำงานยังไงก็ต้องมีโดนด่าโดนดุอยู่แล้วเหมือนตอนเรียน รุ่นพ่อแม่พงกเราโดนหนักกว่านี้เยอะเขายังทนกันได้เลย
ผมgen y ทำงานสายช่างครับ มีโอกาสได้เทรนน้องฝึกงานและน้องบัดดี้หลายคนครับ ความอดทนผมว่าก็ไม่ต่างจาก gen Y นะมีคนขี้เกียจคนขยันปะปนกันไปพอๆ กับ Gen y ส่วนเรื่องความมั่นใจ Gen z ค่อนข้องจะมีเยอะหกว่าGen ผมนะ ถ้าเราเลือกใช้คำพูดให้เป็น Gen z ก็พร้อมจะทำงานๆ
ให้เต็มที่ไม่ต่างจาก Gen Y แต่ที่ไม่ไหวจริงๆ คือพวก Gen X กับ Boomer คือวันๆ ไม่ทำอะไรรอแต่จะติ กับ เลียนายเล่นพรรคเล่นพวกเป็นที่ 1 เหลี่ยมเยอะยังกะลูกบาศก์ ถ้าให้ผมเลือกทำงานด้วยผมขอเลือกทำงานกับ Gen z ครับ