อดีตในอนาคต (ตอนที่ 12) : นครปฐมเมืองท่าแห่งสหพันธรัฐทวารวดี
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 29 เม.ย. 2018
- เมืองนครปฐมโบราณ เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาเมืองในสมัยทวารวดี และเป็นเมืองสำคัญทีตั้งอยู่ทางพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก โดยพบหลักฐานโบราณวัตถุในสมัยทวารวดีเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันพัฒนาการของเมืองนครปฐมโบราณก็มีปัจจัยสำคัญจากสภาพภูมิศาสตร์และตำแหน่งที่ตั้งของเมืองซึ่งเป็นรากฐานของการพัฒนากลายเป็นนครรัฐขนาดใหญ่นับตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 12 เป็นต้นมา
ความรู้เป็นทานอันยิ่งใหญ่ สาธุ
คนไทย...ก็คนพื้นถิ่นนี้....ไม่ได้ย้ายมาจากไหน....ทุกเมืองใหญ่...เกิดขึ้นในระยะเวลาเดียว...ต่างกันที่ความสำคัญของแต่ภาค......ไม่ได้เป็นราชธานี...แห่งแรก..แห่งที่สอง....กระทวงศึกษาเปลี่ยนเรื่องแต่ง....ให้เป็นเรื่องจริง...ใช้เป็นพื้นฐานการศึกษาของประชาชน...พอคนมีความรู้ศึกษาประวัติชนชาติ...ก็หาว่าบิดเบือนประวัติ.....
ใช่ สุจิตต์ วงศ์เทศ โดนด่ามากมาย หาว่าบิดเบือนมั่วนิ่ม ไม่รักชาติ ตริงๆแกพูดตามความจริง ข้อมูลก็มาจากอาจารย์ ศรีศักดิ์ อ.สุเนตร อ.นิธิ และหลายๆท่าน
ขอให้ท่านปราชญ์ทั้งหลายสุขภาพแข็งแรงให้ความรู้แก่ชนรุ่นหลังไปนาน
แม่น้ำท่าจีน น่าจะมีสำเภาจีน เข้าถึง สำเภาจีนเข้ามาทำการค้า หน้าจะเยอะมาก
เตยพบขวานหินขัดขนาดใหญ่ ทำด้วยหินปูน ไม่ห่างจากวัดธรรมศาลามากนัก โบราณวัตถุทำจากหินปูนมีอยู่หลายอย่าง แต่การเก็บรักษาไว้ไม่เหมาะสมเสี่ยงต่อการแตกหัก
ยุค3 ประมาณ+1000ปีถึงป้จจุบ้น คนจีนตอนใต้ กลุ่มคนไท ใช้ภาษาไท มีไทใหญ่'ไทกลุ่มต่างๆ เริ่มอพยพลงมา ต้้งบ้านเรีอน ต้้งกลุ่มค้าขายในตอนเหนีอของไทย มีอิทธิพลทางการค้า นำภาษาพูด เขียนมาใช้ จนแพร่หลาย เพราะเป้นภาษากลางทางการค้า จีงเริ่มแพร่หลาย มีการพุดใช้มากขึ้น จนสร้างเป้นเมีองย่อยๆ ทางภาคกลางตอนบน จนถีงจีนตอนใต้ จนรวมกลุ่มปราบ กลุ่มเขมรโบราณ ที่มีอำนาจ แถบลำพุนหริภุญช้ย'ลพบุรี'ลงได้ ต้้งอาณาจักรสุโขท้ย อาณาจ้กรของคนไท ขี้นได้ ประยุกต้ ภาษาไทก้บภาษามอญ'เขมร'มาเป้นอ้กษรไทย เริ่มยุค ประเทศไทย คนไทย ยุคปัจจุบันขึ้น สรุปคนไทย ปัจจุบัน ประกอบขี้นด้วยคน เชี้อชาติ'ตระกุลไท'มอญ'เขมร'จีนตอนใต้'ชาวจาม'อินเดีย'เปอร้เซีย'อาหร้บ'พวกมาใหม่ผสม มีลาว'พม่า'เวียดนาม'เป้นคน ที่อาศ้ยแผ่นดินนี้อยุ่ทุกคน คีอ'(คนไทย)
เคารพภูมิปัญญาอาจารย์มากๆค่ะ🙏
ผมเป็นคนระยอง ภาษาเก่าเรียกว่าชาวรายอง ต้นกำเนิดก็คือชาวชอง ที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ตรงนี้หลายร้อยปีหรืออาจจะเป็นพันปีไม่ได้ย้ายมาจากไหน
ผมคนนครปฐม(เด็ก)ยอดแหลมครับ
เป็นกำลังใจให้อีกเสียงครับ ! ทำแนวนี้ออกเยอะๆ นะครับ ได้สาระความรุ้เพิ่มขึ้น
สุดยอดครับ คอนเสปทวารวดีโบราญของไทย
เนื้อหาดีมากๆครับ แต่เสียงแบลกกราวน่าลำคาญมากๆ
ยุคฟูนัน อินเดียเข้านครปฐมทางบก
จอดเรือที่ทวาย แล้วเดินต่อไม่เกิน 2วัน
ประหยัดเวลาที่ต้องอ้อมช่องแคบมะละกาอีกเป็นเดือน
ขอบคุณสำหรับความรู้ และขอให้เป็นกำลังใจในการทำรายการต่อไปครับ
บรมครูมาอธิบาย ชอบมากครับ
ชื่นชมคะ
Hanging 💖สวยดีค้าชอบ
ขอบคุณ
เมืองพันธุมวดี (สุ1,000 ) สมัยพุทธกาล
นครประฐม สุวรรณภูมิ
มันผิดทุกเรื่องเลยครับที่นักวิชาการเล่ามา ผมใช้เวลาสำรวจไปตามเรื่องเล่ามันไม่จริงเลย แต่ตรงกับพงศาวดารทั้งหมด ใครผิดเรื่องนี้หรือครับ ผมรู้ว่าห้วงเวลาเราเข้าใจผิดกันไปเอง สมณะทูตหายไปไหน อยู่ครับไม่ใช่พระ แต่เป็นราชาพระนาม รนรห-โสนห แถมเจอภาพวาดที่ละโว้อีก ใครคืออโศกมหาราช ผมพบ รโสกพรหมศัดราช ๒๓๔ จารึกด้วยอักษรที่เราอ่านออกที่กำแพงศรีสวายสุโขทัย ประวัติศาสตร์ถ้าเอามาแฉล่มทุกประเด็น
เป็นไปได้ป่าวครับว่าชาวมอญที่อพยพมาจากจีนคือบรรพชนไทยกลุ่มแรกที่เข้ามาตั่งถิ่นฐานในไทยก่อนไทลื้อ และส่งต่อการทำอิฐมอญส่งต่อไปถึงรุ่นลูกหลาน จนโบราณสถานของไทยทั้งหมดเป็นอิฐมอญแดง แทนที่จะเป็นหินเหมือนของเขมร แค่สันนิษฐานเฉยๆนะครับผิดถูกขออภัย
การวิเคราะห์ประวัติศาสตร์ผ่านเทคโนโลยีการก่อสร้างก็เป็นวิธีวิทยาที่ดีและมีในตะวันตก ประเด็นที่คุณตั้งข้อสังเกตถึงความแตกต่างของรสนิยมชอบและชำนาญอิฐหรือหินเยี่ยมมากเลย เราเองก็นึกสงสัยข้อนี้อยู่
อิฐมาจากอิทธิพลมอญ แต่ถ้าศิลาแลง เป็นพวกขอม ( แล้วแต่ช่างครับ ว่าใกล้แหล่งวัตถุดิบใหน )
มายุคหลัง ๆ ศิลปะผสมสาน อิฐกับศิลาแลง ใช้ปนกัน ทำอิฐง่ายกว่าแต่ไม่ค่อยทน ศิลาแลงทำยากแต่ทนทานสูง บางทีเป็นหินทราย เป็นหินชนวนบางส่วนครับ
อุปมา เช่นอิฐบล้อค อิฐแดง อิฐมวลเบานั่นล่ะครับ แนวคิดผมนะครับ เพราะเห็นการสร้างมาหลายที่ เช่นปราสราทหิน ต่าง ๆ เพราะมีเหล่งศิลาแลง
ถ้าย้อนไปเขต บากาม พระเจ้าอนุรุธ หรือเจ้าอื่น ๆเขตนั้น สร้างโดยอิฐเผา เพราะไม่มีศิลาแลงมาก การก่อสร้างด้วยอิฐเผาโดยการก่ออิฐชนิดที่ไม่ให้เข็มลอดทะลุได้ นั่นก็เพราะเพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้าง ลองพิจรณาเอาครับ ผิดถูกขออภัยครับ
มอญก็เป็นพ่อค้าเครื่องปั่นดินเผ่าและทำอิฐขาย จึงเรียกอิฐมอญ มอญไม่ได้อพพยจากจีน เขาอยู่พม่ามานานและกระจายตัวออกไป แต่เพราะมอญไม่ให้พระไตรปิฏกจึงถูกพม่าคุกคาม จึงต้องโยกย้ายและกลายพันธ์ุเป็นคนกลุ่มอื่น จนตอนนี้จากที่เคยยิ่งใหญ่ก็เหลือแค่ชนกลุ่มน้อย
ผมว่าน่าจะใช่นะครับเพราะมอญเขาใกล้ชิดพัวพันธ์สนิทสนมกับไทยมาป็นพันปีกันเลยทีเดียว
วัฒนธรรมทวารวดีเหมาะสมไหมครับที่จะนำเสนอขึ้นเป็นมรดกโลกครับ
สมคำปราถนาของข้าพเจ้าที่วันนี้จะได้เดินทางไปชมให้ได้เห็นเป็นบุญตาของข้าพเจ้า🙏 26/11/63
❤❤❤❤❤ ❤❤❤❤❤
😊😊😊😊😊 😊😊😊😊😊 ขอบคุณท่านอาจารย์และท่านวิทย์กรมากนะครับที่ได้ แนะนำความรุ้เกี่ยวกลับประวัติความเป็นมาของเมืองนครปฐมครับ ❤❤❤❤❤ ❤❤❤❤❤
นครปฐมเมืองท่าแห่งสหพันธรัฐทวารวดี
เมืองนครปฐมโบราณ เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาเมืองในสมัยทวารวดี และเป็นเมืองสำคัญที่ตั้งอยู่ทางพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก โดยพบหลักฐานโบราณวัตถุในสมัยทวารวดีเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันพัฒนาการของเมืองนครปฐมโบราณก็มีปัจจัยสำคัญจากสภาพภูมิศาสตร์และตำแหน่งที่ตั้งของเมืองซึ่งเป็นรากฐานของการพัฒนากลายเป็นนครรัฐขนาดใหญ่นับตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 12 เป็นต้นมา
สภาพภูมิศาสตร์เมืองนครปฐมโบราณ
เมืองนครปฐมโบราณ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในบริเวณดินดอนสามเหลี่ยมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ในพื้นที่ระหว่างแม่น้ำแม่กลองและแม่น้ำท่าจีน โดยมีลำน้ำสายต่างๆเชื่อมระหว่างแม่น้ำทั้งสองสายและไหลไปออกทะเลอ่าวไทยทางทิศใต้ ลำน้ำที่สำคัญได้แก่ คลองบางแก้ว และ คลองบางแขม ทั้งสองลำน้ำไหลมาจากแม่น้ำแม่กลองแล้วไหลมาจรดที่แม่น้ำท่าจีน กล่าวคือ “คลองบางแก้ว” เกิดจากคลองทัพหลวงที่ไหลมาจากแม่น้ำแม่กลอง (ในเขตบ้านท่าเรือ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี) มารวมกับ คลองพะเนียงแตกซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของเมืองนครปฐมโบราณและไหลไปออกแม่น้ำท่าจีน (บริเวณตำบลบางพระ อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม) โดยคลองบางแก้วไหลเข้ามาสู่เมืองนครปฐมโบราณทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือแล้วไหลผ่านตัวเมืองไปทางทิศตะวันออก ผ่านวัดธรรมศาลาไปรวมกับแม่น้ำท่าจีนที่บริเวณวัดกลางบางแก้ว ตำบลนครชัยศรี อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ส่วน “คลองบางแขม” เกิดจากคลองท่าผาที่ไหลแยกมาจากแม่น้ำแม่กลอง (ในเขตบ้านท่าผา อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี) ผ่านวัดบางแขมและไหลเข้าสู่พื้นที่ทางทิศใต้เมืองนครปฐมโบราณ โดยแยกออกเป็นทางน้ำ 2 สาย ทางน้ำสายแรกไหลเข้าสู่ทิศใต้ของเมืองเป็นคลองเมืองทางด้านใต้และรวมกับห้วยจระเข้ซึ่งเป็นคลองทางทิศตะวันตกของเมืองนครปฐมโบราณ มีชื่อเรียกคลองเมืองทางทิศใต้ในระยะนี้ว่าคลองพญากง และไหลออกไปทางทิศตะวันออกไปรวมกับลำน้ำบางแก้วทางวัดธรรมศาลา ส่วนทางน้ำอีกสายหนึ่งไหลผ่านพื้นที่ใต้เมืองนครปฐมโบราณ เรียกลำน้ำในระยะนี้ว่าคลองพญาพาน ไหลผ่านวัดวังไทรไปสู่ที่ราบลุ่มทางทิศใต้ไปรวมกับแม่น้ำท่าจีนในเขตอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐมและในเขตอำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร
ด้วยสภาพทางภูมิศาสตร์ดังที่ได้กล่าวไปในข้างต้นเมืองนครปฐมโบราณจึงเป็นเมืองที่มีพัฒนาการจนกลายเป็นนครรัฐขนาดใหญ่ ดังที่ปรากฏหลักฐานขนาดของผังเมืองในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามก่อนการเกิดขึ้นของเมืองนครปฐมโบราณ ได้มีการพบแหล่งโบราณคดีที่สะท้อนถึงการตั้งถิ่นฐานในช่วงสมัยก่อนประวัติศาสตร์ราว 3,000 - 2,000 ปีมาก่อน ในเขตพื้นที่ตำบลบ่อทราย อำเภอดอนตูม และ ตำบลห้วยขวาง อำเภอกำแพงแสน[2] รวมทั้งชุมชนโคกพลับ ในเขตตำบลโพหัก อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าในพื้นที่นี้มีผู้คนอยู่อาศัยเป็นชุมชนมาเป็นเวลานานแล้ว
จนในเวลาต่อมาได้พัฒนาขึ้นเป็นบ้านเมืองนครปฐมโบราณที่เป็นเมืองตั้งอยู่บนพื้นที่ราบลุ่ม และเส้นทางคมนาคมทางน้ำที่สามารถติดต่อสัมพันธ์กับชุมชนพื้นที่ภายใน เช่น ชุมชนกำแพงแสน ชุมชนพงตึก ชุมชนคูบัว เป็นต้น
แผนที่แบบนี้หาได้ที่ไหนครับ อยากได้
อยากให้พูดเรื่องเมืองเพชรบุรีครับสมัยที่มีเมืองเเละกำเเพงเมือง
ธรณีวิทยาใต้ เมืองนครปฐม ปรากฏชั้นทราย มีเปลือกหอยเล็กๆ แบบที่พบใต้ กทม.ที่ระยะ 21ม.,สมุทรปราการที่ 24ม. แต่ นฐ.เพียงแค่ 11ม.= นครปฐม คือ เมืองท่าติดทะเล มากๆ เพราะ กทม .ถึง อยุธยา เมื่อ พ.ศ.1200[ทวารราวดี] ล้วนจมใต้ทะเล ลึกกว่า นฐ.นับ 10ม. ครับ.
ปล: ในช่วง 1300ปี ที่ผ่านมา ดินดอนปากแม่น้ำ เจ้าพระยา มีตะกอนทับถมเร็วมากๆ แบบที่ พระสมุทรเจดีย์กลางน้ำ ยังอยู่กลาง แม่น้ำเจ้าพระยา ในสมัย ร.5 อย่างชัดเจนกว่าปัจจุบัน
ขอบคุณคณะจัดทำสารคดีและผู้สนับสนุนมากๆนะครับ
อาจารย์คะ อยากได้แผนที่แบบนี้ หาได้จากที่ไหนนนคะอาจารย์
พญาพานไม่ได้เอาแม่เป็นเมีย
แค่กำลังเดินไปหาเท่านั้น แต่มีแมว 2 ตัวแม่ลูกมานอนขวางทางไว้ก่อน แล้วแมวก็พูดกับพญาพานเป็นเลศนัยทำให้พญาพานสงสัย
มีผู้ที่ทำการศึกษาตำนานเรื่องนี้ บอกว่าตำนานเรื่องนี้ผู้เล่าคนแรกน่าจะได้เค้าเรื่องมาจากทางอินเดียหรือไม่ก็ทางกรีกโบราณแล้วก็มาแต่งเป็นตำนานนี้ขึ้น หรือไม่ก็อาจจะเป็นชีวประวัติของพระมหาเถระศรีศรัทธาลูกของพระยาคำแหงพระราม ซึ่งเคยเดินทางมาบูรณะพระปฐมเจดีย์
เก่าแก่จนเป็นตำนานครับ
ไปเที่ยววัดพระปฐมเจดีย์แล้วแปลกใจตรงที่เขตกุฏิพระอยู่กับเขตเจดีย์อยู่คนละฟากถนน มีรถวิ่งผ่านตรงกลาง ถ้าไม่รู้คงคิดว่าเป็นวัด 2 วัดอยู่ใกล้ๆกัน อะเมซซิ่งมากกก จะหาแบบนี้มีที่ไหนอีกบ้างนะ555😊
สหพันธรัฐ มีใครเป็น ประธานาธิบดี ครับ
คนจีนอพยพหนีภัยแล้งและภัยสงครามมาผสมปนเปกับคนไทยชาวพื้นเมืองเดิมมาตามแม่น้ำที่ออกทะเลได้แทบทกสาย
เรื่องพระยากง พระยาพานในอดีตมีจริงหรือไม่ จากตำนานพระปฐมเจดีย์
ขอบพระคุณครับได้รับความรู้เยอะเลยครับ
💥🇹🇭(ความเห็นส่วนตัว)🇹🇭💥
คนไทยทุกวันนี้ ที่ได้รับสัญชาติไทยแล้วมีบรรพบุรุษทั้งที่อาศัยอยู่ที่นี่ก็มี ทั้งที่อพยพมาจากถิ่นอื่นโดยเฉพาะในจีนตอนใต้ ในเวียดนาม ในลาว ในกัมพูชา ในมลายู ในพม่า และอื่นๆอีกก็มี บางทีเราก็เรียกว่าคนไทยเชื้อสายไทใหญ่ คนไทยเชื้อสายลาว คนไทยเชื้อสายแขก ฯลฯ แต่ถ้ามีบรรพบุรุษที่อพยพมานานมากแล้วจนสืบหาบรรพบุรุษไม่ได้แน่ชัดว่ามาจากไหนเราก็จะเรียกว่าคนไทย เชื้อชาติไทย
ท่านอื่นมีความคิดเห็นอย่างไร ขอเชิญแลกเปลี่ยนความเห็นกันได้ตามวิสัยของนักศึกษา แต่อย่าใช้ถ้อยคำที่หยาบคาย, เสียดสี สร้างความเกลียดชังกันเด็ดขาด
พระเจ้าอโศกมหาราชส่งพระสงฆ์จากอินเดียมาเผยแผ่ศาสนาพุทธเถรวาทเมื่อพุทธศตวรรษที่ 2-3 น่าจะอยู่ในยุคทวารวดีที่มีอู่ทองเป็นศูนย์กลาง ส่วนนครปฐมสร้างประมาณพุทธศตวรรษที่ 12 ดังนั้น ที่กล่าวว่าพระสงฆ์จากอินเดียมาเผ่ยแผ่พุทธศาสนาที่นครปฐมเป็นแห่งแรกนั้นน่าจะขัดแย้งกัน
ขออธิบายเพิ่มเติม คือ ศาสนาพราหมณ์ในเขมรเผ่ยแผ่ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 14-15 ก็ถูกต้องแล้ว แต่กล่าวเฉพาะบนคาบสมุทรมลายูและเกาะสุมาตราในอินโดนีเซียศาสนาพรามหณ์เผ่ยแผ่ก่อนศาสนาพุทธประมาณ 200-300 ปี คือ เข้ามาก่อนพุทธศตวรรษที่ 1 เมื่อพวกพราหมณ์อพยพไปอยู่ที่เขมรช่วงพุทธศตวรรษที่ 14-15 จึงเกิดเมืองพระนคร นครวัด และ นครธมตามลำดับ ดังนั้น ศาสนาพรหมณ์เข้ามาที่อุษาคเณย์ก่อนศาสนาพุทธ
ไม่ใช่พราหมณ์อพยพ แต่เป็นพ่อค้าชวาที่ค้าขายกับอินเดียและรับมรดกทางศาสนาของอินเดีย และกระจายตัวไปตามชายฝั่งถึงเวียดนาม เพื่อติดต่อกับจีน เพราะจีนเดินเรือไม่เป็น อินเดียก็นิยมเดินเท้า ชวาจึงเป็นพ่อค้าคนกลางระหว่างจีนกับอินเดีย ระยะเวลาหลายร้อยปีผ่านไป การกระจายตัวในการหาวัตถุธรรมชาติ ทำให้ชวาแตกแยกย่อยตามลุ่มน้ำแม่โขง ปะปนกันชนพื้นเมือง กลายเป็นจามปา เป็นเขมรในพนมเปญ เป็นลาวในศรีโคตรบูล เกิดเป็นวัฒนธรรมท้องถิ่นนั้นๆ กัมพูชาจะไม่มีคนรู้จักเลย ถ้าชวาไม่เข้ามาถ่ายทอดศาสนา วัฒนธรรมและรูปแบบกษัตริย์ของอินเดีย นครวัดใหญ่โตเพราะคนกูยเก่งด้านบังคับช้าง ส่วนอินโดใช้คนสร้าง ปราสาทหินที่เกิดก่อนจึงเล็กกว่า
มันผิดทุกเรื่องเลยครับที่นักวิชาการเล่ามา ผมใช้เวลาสำรวจไปตามเรื่องเล่ามันไม่จริงเลย แต่ตรงกับพงศาวดารทั้งหมด ใครผิดเรื่องนี้หรือครับ ผมรู้ว่าห้วงเวลาเราเข้าใจผิดกันไปเอง สมณะทูตหายไปไหน อยู่ครับไม่ใช่พระ แต่เป็นราชาพระนาม รนรห-โสนห แถมเจอภาพวาดที่ละโว้อีก ใครคืออโศกมหาราช ผมพบ รโสกพรหมศัดราช ๒๓๔ จารึกด้วยอักษรที่เราอ่านออกที่กำแพงศรีสวายสุโขทัย ประวัติศาสตร์ถ้าเอามาแฉล่มทุกประเด็น
ประวัติศาสตร์ชาตินิยมชัดๆ 555
แม่นม (นาม) กับ
แม่เลี้ยง (นาม) ในภาษาไทยความหมายต่างกันไหมครับ ?
ต่าง
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณครับ