ส่องคอมเมนต์ชาวเวียดนาม-หลังเห็นบทเรียนวิชาภูมิศาสตร์ที่แสดงดินแดนของเขมรเมื่อครั้งอดีต
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 13 พ.ค. 2024
- ติดต่อโฆษณา / commentnzk
ให้กำลังใจโดยการโดเนทได้นะครับ
ทรูวอลเล็ต : 0934161477
พร้อมเพย์ 0934161477
นายจตุรนต์ พงพานิช
ขอบคุณที่เข้ามาติดตามรับชม รักทุกท่านนะครับจุ้บๆ
#ส่องคอมเมนต์ #claimbodia - บันเทิง
อาณาจักรเขมร ไม่เคยมีครับ
เขมรคือทาสที่ชาวเสียมนำเข้ามาเพื่อเป็นทาสแรงงานสร้างปราสาทต่างๆต่างหากแหละท่าน
จากการบันทึกของโจต้ากวนของทูตจีน ไปยังนครวัด เขมรเป็นคนป่าที่ยังทอผ้าไม่เป็นเลย ต้องให้คนเสียมทำให้ สนับสนุนทฤษฎี ขอมโบราณไม่ใช่เขมร.
คำตอบนครวัดส่วนนึงอยู่ที่ภาพสลักรูปกองทัพสฺยำกุก ที่ผนังระเบียงปราสาทนครวัดด้านทิศใต้ปีกตะวันตก เดิมมีข้อความจารึกว่า "เนะ สฺยำกุก"
บอกประวัติสยามกับนครวัดปัจจุบันถูกเขมรกะเทาะหลุดหายไปแล้ว เพื่อทำลายข้อเท็จจริงประวัติศาสตร์สยามที่มีต่อนครวัด
จักรวาลเป็นของเขา
และคำว่าเขรม ไม่ได้เรียกว่าอาณาจักร เรียกว่ามีอยู แต่ไม่ถือว่าเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่อะไรนั่นแหละคุณ เพราะคำว่าเขรม ตามบันทึก เขาเรียกคนในพื้นที่ว่า เกุมร อะไรแนวนี้ก่อนมาเปลี่ยนตามสำเนียงว่า เขรมปัจจุบัน คิดดูว่าขนาดอาณาจักร ฟูนัน ที่สวนใหญ่เทไปว่าเป็นอาณาจักรของเวียดนาม เพราะแค่คำว่า ฟูนัน ก็มีความเป็นภาษาเวียดนามภาษาจีน ปัญหาคือในพื้นที่กัมพูชามีปราสาทอื่นอยู่แต่ทางรัฐของกัมพูชาเขาไม่ค่อยจะสนับสนุนวิเคราะห์ดูร่องรอย มีแต่สนับสนุนเรื่องแต่งที่ไม่มีหลักฐานอะไรมาอ้างและไม่เหมือนหลักฐานรอบๆเลย แต่จะเอาอะไรกับชนชาตินี้ ขนาดเปลี่ยนชื่อ ยังไม่มีการพัฒนาเปลี่ยนไปในด้านที่ดีเลยคุณ
@@user-eu9ul9ce9e เอาสั้นๆน่ะครับพอเข้าใจ ชาวนครธมหรือเมืองใหญ่ที่เรียกตัวเองว่าชาวเสียม ไปซื้อแรงงานทาสมาจากอินเดียตอนใต้เรียกว่สเขมร(หมายถึงผู้ใช้แรงงาน)เพื่อเอาเข้ามาเป็นลูกมือแรงงานสร้างปราสาท อยู่นานวันเข้าออกลูกออกหลานประจวบกับชาวเสียมนายทาสมีจำนวนน้อยกว่าทาส หัวหน้าทาส(เจ้าแตงหวาน)เลยทำการรัฐประหารยึดดินแดนไปเป็นของตัวเองตั้งตนเป็นใหญ่ ในตำนานเขมรเองยังมีเลยครับผม
ผมคนสุรินทร์พูดภาษาเขมรได้ แต่แปลกที่ผมกับเขมรกัมพูชาพูดกันไม่รู้เรื่อง มันเหมือนพูดกันคนล่ะภาษาเลย
ทางสุรินทร์ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ เป็นขอม สูง เป็น ลูกหลานเจ้าวรมัน (เป็นคนไทยในปัจจุบัน) ถูกทาส บัก กระเซาะกะแอม เขมรต่ำ หรือที่พระเจ้าวรมัน ให้ชื่อเล่นว่า บัก แตงหวาน วางแผน ปลงพระชนม์... ยึดราชบัลลังก์.
แถบนั้นคือเมืองกัมโพชเดิม ชาวกัมโพชนี้ละที่เป็นคนคุมพวกใช้แรงงาน มีช้างไว้ลากไม้ลากหิน กัมโพช กับ เขมร ไม่เหมือนกัน กัมโพชนะ ไม่ใช่ประเทศกัมพูชา
ฉันคนร้อยเอ็ด เขตแดนติดกับสุรินทร์พูดเขมรแต่ฉันฟังเขามรพูดไม่รู้เรื่องต้องตั้งใจเรียบเรียงคำพูดมันจริงๆถึงพอจะรู้เรื่อง โครตเกลียกเลยคนเขมรพวกชอบคุกคามเคลมทุกอย่างของไทยเรา
ผมคนบุรีรัมย์ พูดขแมร์ได้
ใช่ครับคนสุรินท้องถิ่นเขาบอกเลยว่าคุยกันไม่รุเรื่องกับเขมรถ้าจะคุยไห้รุเรื่องต้องทําความเข้าใจใหม่
ต้องด่านักวิชาการประวัติศาสตร์ไทยบอกว่า"ขอมคือเขมรโบราณ" เหมนมันเลยเอาใหญ่ เคลมทุกอย่างที่เป็นไทย
นักประวัติศาสตร์ เนรคุณ
ต้องไปแก้ไขที่พจนานุกรมไทยด้วยที่ให้ความหมายว่าขอมคือเขมรโบราณ นี่แหละข้อมูลจัญไรทีเขมรมันเคลมทั่วอาเซี่ยน
ก็แค่พวกกนีเขมรแดงมาได้สัญชาติไทยแค่นั้นครับ เลยอยากมีรากเหง้า
ต้องบันทึกประวัติศาสตร์ใหม่เพราะเขมรเขาเชื่อว่านายแตงหวานคือต้นตระกูลเขมรนั่นหมายความว่าพระเจ้าไชยวรมัน ไม่ได้เป็นต้นตระกูลเขมรเพราะนายแตงหวานเป็นผู้ทำการ กบฎต่อพระเจ้าไชยวรมันและไล่ออกจากนครวัด และนายแตงหวานสถาปนาตัวเองเป็นกษัตริย์
แถมมีสื่ออยู่ในมีอีกด้วย
เขมsเป็นลูกหลานแตงหวานผู้ซึ่งเป็นทาสที่ทรยศเจ้านาย ช่างน่าภาคภูมิใจบรรพบุรุษพวกมรึง 🤣
ใช่เห็นด้วยหลงตัวเองจริงๆ
ดร.เขมรบอกว่าสมัยก่อนเหมนมีประชากร30ล้านคน มันย้อนแย้งกับปัจจุบันที่มีประชากรแค่17ล้านคน
กัดลิ้นตายกันหมด
เชื่อสายเขมรอยู่เนี่ย เเละเวียดนาม
พลพต เป่าไป 5 ล้านเอง
พระเจ้า สุริยะชัยวรมัน (กษัตริย์ก็เป็นชื่อไทยชัดๆ)ไม่ใช่เขมร😂
ภาษาสันสกฤต ไม่ใช่ชือไทย ไทยจะเรียกไอ้สุริยะ
เป็นชื่อินเดียครับ
@@user-nz8dq5fz7o สันสกฤต
@@user-nz8dq5fz7o ก็คล้ายไทยมากกว่าภาษาเขมรครับ เพราะไทยก็รับ บาลีสันสกฤติมานานแล้ว ชื่อกษัติรย์จึงคล้ายชื่อไทยมากกว่าเขมรคนละโยชน์
ถ้ายิ่งใหญ่ขนาดนั้นปัจุบันร่องรอยของผู้คนหายไปไหนหมด...มีคนเหลือแค่หยิบมือ...ใครทำลายล้างมันว่ะ...อย่าบอกนะว่าคนที่อพยบมา...ยิ่งใหญ่แบบใหนว่ะ😂😂😂 ถึงแพ้ผู้อพยพ..😅
ใช่ละ ไม่มีแม้แต่ดีเอนเอเขมร ลุ่มน้ำเจ้าพระยามีแต่มอญ ที่อื่นก็เหมือนกัน
😂😂😂😂😂
ความคิดผมนะ
1.Khom รุ่น1เจ้าชาวทมิฬจากอินเดียมาแถบนี้ แล้วแต่งงานกับคนไทก่ะได ที่อยู่แถวระหว่างภูเขาที่มีเมืองอยู่แล้ว และตามเสต็ปของอินเดียคือส่งเครือญาติ ไปสร้างเมืองทั่วทุกที่ในเขตนี้
2.Khomรุ่น2 ขยายอณาจักร จับทาสเขมรมาสร้างบ้านแปรงเมือง และจารึกอักษรKhomขึ้นมา อ้างอิงบันทึกโจต้ากวนที่บันทึกไว้ว่า สยามเหมือนพระญาติกับKhom
3.Khomรุ่น3 แตงหวานขึ้น ลูกหลานเจ้าเมืองหนีไปต่างเมือง หาญาติฝ่ายตน นั่นคือสยาม ตั้งสุโขทัย และนำทัพมาตีดมืองคืน
4.หลังจากนั้นไม่นาน สยามได้รวมกับละโว้ จีนบันทึกว่าเสียมล้อ สยาม+ละโว้
ข้อสังเกตคือ สุโขทัยเริ่มต้น คนเยอะมากแปลกๆ เป็นไปไม่ได้เมืองเกิดใหม่แบบไหน มีคนเป็นแสน แล้วไปตีนครวัดที่เป็นเมืองใหญ่กว่า
*ใครจะแยกมอญ แยกคนใช้ภาษาไทก่ะได ก็แยกไปเถอะ มีความเป็นไปได้มากที่สุดคือ การแต่งงานต่างเมืองและนับญาติกัน ในภายหลังทำไมไม่มีเมืองมอญ ทั้งๆที่ราชวงศ์เชื้อมอญมานาน ตีความได้อย่างเดียวคือรวมเผ่า
มีเหตุผลง่ายๆที่เป็นไปได้ที่สุดครับ
ใช่ครับขอมkom krom ไม่ใช่
เขมร khmer ขอมวรมันคือญาติกันกับพิมายและละโว้ แล้วพอพระเจ้าแตงหวานกบฏ ชาวนคนวัดก็ย้ายขึ้นมาพิมายและเมืองละโว้ จนได้ตั้งเมืองใหม่คือกรุงอโยธยา
@@user-gg1mq4tr3m ถ้าเป็นตามนี้คือจะไขเรื่อง อนาจักรศรีวิชัยในภาคใต้ได้หมดเลย
และ ไขปริศนาไปถึงอินโดนิเซีย ซึ่งเป็นอินเดียรุ่นถัดๆมาที่เผยแผ่พุทธ ไม่ใช่ฮินดูแล้ว
อโยธยา ครับ ตั้งเมืองได้ 14 ปีแล้วไปตีเขมร และ และสุโขทัยไม่เคยปกครองอยุธยาเพราะทำสงครามกันตลอด เพิ่งมาเชื่อมสัมพันธ์กันตอนหลังโดยการแต่งงาน นักประวัติศาสตร์เห็นสุโขทัยเก่ากว่าเลยตั้ง สุโขทัยเริ่มต้น
สุโขทัยเริ่มต้น(ในข้อสังเกต)น่าจะหมายถึงอยุธยาที่สร้างเมืองแล้วไปตีเขมร,เคยมีเมืองมอญแต่ถูกพม่าตีแตกก่อนไทยจะเสียกรุงครั้งที่สองไม่นาน จากนั้นก็โดนอังกฤษกินรวบไปหมด
สิ่งที่เห็นด้วยตากับความจริง มันช่างย้อนแย้ง เหมือนกับที่เขมรและพวกนักวิชาการไทยบางคนที่เป็นทาสนักล่าอาณานิคมชื่นชม
สุรินทร์ บุรีรัมย์ อุบล โคราชบางส่วน พูดภาษาขอมครับไม่ได้พูดเขมรครับ เป็นคนขอมครับ
ขอมเป็นตัวอักษร บทสวดเรียกขวัญภาษาส่วยก็ใช้อักษรขอมสะกด
ก็อยู่ในตระกูลภาษาเอเชียติกเหมือนกัน
ไทย อยู่พื้นที่นี้มานานโดยเริ่มจากอารยธรรมบ้านโนนวัด บ้านเชียง ศรีเทพ แล้ว จากนั้นจึงมีอพยพจากจีนมารวม จากทราวดี ศรีวิชัย จากมอญ จากขอม มารวมเป็นสยาม
บ้านวัด. ด้วยครับ
ภาษาเขมรมีเขมรใช้ชาติเดียว
อักษรที่เขมรใช้ อักษรทาสล้วนๆ
เขาจะพัฒนาเป็นภาษาหลักของอาเซียนนิ
มีชนเผ่ามุนดา อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย พูดภาษาคล้ายเขมร อินเดียกล่าวไว้ ไปหาดูนะครับ
อีสานใต้ ใช้ภาษาเขมร ประมาณ1ล้านคน ในเวียตนามใต้ใช้ภาษาเขมร ประมาณ1.9 ล้านคน
ผู้ชนะเท่านั้นที่ได้สิทธิ์เขียนบันทึกประวัติศาสตร์ กำแพงนครวัดจึงมีแต่เรื่องราวของขอมละโว้พิมายและสยาม ละโว้และพิมายสร้างก่อนนครวัดนครธมนับร้อยปีต่อมากษัตริย์จากพิมายจึงได้เดินทางไปสร้างนครวัดนครธม จนมาถึงพระเจ้าชัยวรมันที่9หัวหน้าทาสแตงหวานได้ยึดครองต่อมาจนปัจจุบัน
เพราะไม่มีมาแต่ต้น เลยสร้างให้มีความขัดแย้ง เมื่อมีความขัดแย้งเกิดขึ้นแล้ว ก็ย่อมมีตัวตน เพราะไม่มีอะไรจะเสีย
เนี้ยๆๆๆๆๆ ประวัติศาสตร์ ตามใจ กู กูพอใจ ที่จะเขียน จะเคลม ใครจะทำไมๆ เขมร สอน กันแบบนี้ ตั้งแต่เด็กๆ #แล้วนี่ ล้านนา เคยเป็นของ เขมร ตอนไหนวะ#555555😂😂😂😂
เขมร...อย่าเอาผิวคน..ล้านนาไปเกี่ยวด้วยเลย...เสียผิวคนล้านนาหมด สีผิวคนละอย่างเลย ขาวกับดำ แค่ตาก็ไม่ใช่ละ มั่วไปหมดละเขมร
เดี๋ยวเจ็งกิสข่าน จะขอเคลม จีน รฐเซีย ตรุกี อาหรับ ทั้งหมด ไม่ต้องยิงกันตายเลยหรือ
ใจเย็นๆอย่าโมโห อย่าพูดกูสิ โตๆกันแล้ว😂😂😂
@@imimk4132 ประทานโทษ ขอ รับ ถ้า เป็น ชาติ อื่น เกล้ากระผม ยังพอทน ได้ ขอรับๆๆๆๆ# แต่ๆๆๆๆๆๆนี่มันๆๆๆ อีนังๆๆๆๆ เหม็นๆๆๆๆ เกล้ากระผม ทนที่จะพูด ดีๆๆๆ ไม่ได้ จิงๆๆๆ นะขอรับๆๆๆๆ#5555555😂😂😂😂
@@imimk4132 ชาติอื่น ยังพอทน # แต่ อีนังๆๆๆ เหม็นๆๆๆๆนี่ ทน ไม่ได้ จริงๆๆๆ #5555😂😂😂
คนกรุงเทพฯปัจจุบัน เป็นสำเนียงพูดเช่นเดียวกับคนอยุธยาในสมัยนั้น
เอาแค่อู่ทองที่อยู่คนละทิศกะเขมรเลย นั่นก็เจอซากอารยธรรมหลัก 1.3 พันปี แก่กว่านครวัด 400 ปีละครับ
ถามหา ทวาราวดี เหมนบอกยังไม่รู้จักเลย...แล้วบอกว่าอยู่มานาน เวรกรรม
ทวารวดีต่อมาถูกเขมรครอบครอง
พระบาทกัมรเดงกำตวนอัญศรีสุริยวรรมเทวะ ณ เมืองละโว้ (สุริยวรมันที่ ๑)
----------------------------
หากนับย้อนหลังกลับไปเมื่อหนึ่งพันปีมาแล้ว ในราวกลางพุทธศตวรรษที่ ๑๖ อาณาจักรเขมร ได้ขยายอำนาจแผ่อิทธิพลทางการเมืองเข้ามายังดินแดนในลุ่มน้ำลพบุรี- ป่าสัก โดยเฉพาะเมือง“ลวปุระ” (Lavapür) หรือเมืองละโว้ ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางความเจริญทางศาสนา วัฒนธรรม และการติดต่อค้าขายที่สำคัญแห่งหนึ่งของรัฐทวารวดี หากแต่ว่าในช่วงระยะเวลาดังกล่าวนั้นบ้านเมืองแห่งนี้ตกอยู่ในสภาพที่เป็นเมืองร้าง อันเนื่องมาจากการเกิด “กลียุค” จารึกโอเสม็ด (Osmach Inscription) ซึ่งจารึกขึ้นเมื่อพุทธศักราช ๑๕๕๗ ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกัมพูชา กรุงพนมเปญ มีข้อความอักษรขอมโบราณ (พุทธศตวรรษที่ ๑๖) ภาษาเขมรโบราณ และภาษาสันสกฤต กล่าวบรรยายถึงสภาพโดยทั่วไปของเมืองลวปุระสรุปความได้ว่า บ้านเมืองถูกทำลายจนพินาศ สูญเสียความงดงามไปทั้งหมด กลายเป็นป่าคลาคล่ำไปด้วยสัตว์ร้ายทั้งหลายมีเสือ เป็นต้น และมีสภาพที่น่าสะพรึงกลัวดุจดังสุสานหรือป่าช้า
..
มูลเหตุสำคัญประการหนึ่งแห่งกลียุคที่ทำให้เมืองลวปุระถูกทำลายจนพินาศย่อยยับ อาจสืบเนื่องมาจากประมาณ ๘๐ กว่าปีก่อนหน้าการจารึกข้อความในจารึกโอเสม็ด ได้เกิดเหตุการณ์สงครามการสู้รบครั้งใหญ่ระหว่างพระเจ้าอัตราสตกะราช หรือพระเจ้าตราพกะแห่งเมืองหริปุญไชย กับพระเจ้าอุฉิฎฐกะจักรวรรดิหรือ อุจฉิตตจักรพรรดิ แห่งกรุงละโว้ และพระเจ้าชีวกหรือพระเจ้าสุชิตราช กษัตริย์แห่งสิริธัมมนคร (นครศรีธรรมราช) ซึ่งเหตุการณ์สงครามในครั้งนั้นยืดเยื้อต่อเนื่องอยู่ในช่วง พ.ศ. ๑๔๖๘-๑๔๗๑ ซึ่งรายละเอียดดังกล่าวถูกระบุถึงอยู่ในพงศาวดารโยนก และตำนานฝ่ายเหนือหลายฉบับ เช่น ชินกาลมาลีปกรณ์, จามเทวีวงศ์, เป็นต้น
..
เมื่อพระเจ้าสุริยวรมันที่ ๑ (พ.ศ.๑๕๔๕-๑๕๙๒) ทรงขึ้นครองราชย์บัลลังก์เมืองพระนครศรียโสธรปุระ ใน พ.ศ. ๑๕๔๙ ภายหลังจากทรงมีชัยชนะเหนือพระเจ้าชัยวีรวรมัน ได้มีพระราชบัญชาแต่งตั้งให้“ศรีลักษมีปติวรมัน” แม่ทัพของพระองค์ให้มาเป็นเจ้าเหนือพวกรามัญ ผู้ครอบครองดินแดนทางทิศตะวันตกของเมืองพระนคร ซึ่งคงจะหมายถึงชาวมอญหรือกลุ่มชนที่ใช้ภาษามอญในวัฒนธรรมทวารวดี ที่สร้างบ้านแปลงเมืองอยู่ในเขตภาคกลางของประเทศไทย ศรีลักษมีปติวรมันทำให้คนเหล่านั้นตกอยู่ภายใต้อำนาจ และทำการเก็บภาษี นำผลประโยชน์จำนวนมากมายส่งกลับไปยังเมืองพระนคร จนได้รับพระราชทานตำแหน่งเป็นขุนคลัง รวมทั้งเขายังได้ทำการฟื้นฟูดินแดนทางทิศตะวันตกทั้งหมดซึ่งถูกทำลายและทิ้งร้างจนกลายเป็นป่ารกชัฏมาเป็นเวลานานในช่วงกลียุคให้กลับมาสมบูรณ์และเจริญรุ่งเรืองดังเก่า
พระเจ้าอนุรุทรมหาราชแห่งเมืองพุกามประเทศพม่า ทรงยกกองทัพเข้ามาโจมตีอาณาจักรทวารวดีฝั่งตะวันตก จนทำให้อาณาจักรทวารวดีสลายสูญไป เหลือแต่หริปุญไชย
ถ้าเขมรเป็นจักรวรรดิ มันเคยปกครองใคร ที่เมืองขึ้นกี่เมือง จักรพรรดิ ชื่ออะไร ตอบมาสิ 😂😂😂😂
พระบาทกัมรเดงกำตวนอัญศรีสุริยวรรมเทวะ ณ เมืองละโว้ (สุริยวรมันที่ ๑)
----------------------------
หากนับย้อนหลังกลับไปเมื่อหนึ่งพันปีมาแล้ว ในราวกลางพุทธศตวรรษที่ ๑๖ อาณาจักรเขมร ได้ขยายอำนาจแผ่อิทธิพลทางการเมืองเข้ามายังดินแดนในลุ่มน้ำลพบุรี- ป่าสัก โดยเฉพาะเมือง“ลวปุระ” (Lavapür) หรือเมืองละโว้ ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางความเจริญทางศาสนา วัฒนธรรม และการติดต่อค้าขายที่สำคัญแห่งหนึ่งของรัฐทวารวดี หากแต่ว่าในช่วงระยะเวลาดังกล่าวนั้นบ้านเมืองแห่งนี้ตกอยู่ในสภาพที่เป็นเมืองร้าง อันเนื่องมาจากการเกิด “กลียุค” จารึกโอเสม็ด (Osmach Inscription) ซึ่งจารึกขึ้นเมื่อพุทธศักราช ๑๕๕๗ ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกัมพูชา กรุงพนมเปญ มีข้อความอักษรขอมโบราณ (พุทธศตวรรษที่ ๑๖) ภาษาเขมรโบราณ และภาษาสันสกฤต กล่าวบรรยายถึงสภาพโดยทั่วไปของเมืองลวปุระสรุปความได้ว่า บ้านเมืองถูกทำลายจนพินาศ สูญเสียความงดงามไปทั้งหมด กลายเป็นป่าคลาคล่ำไปด้วยสัตว์ร้ายทั้งหลายมีเสือ เป็นต้น และมีสภาพที่น่าสะพรึงกลัวดุจดังสุสานหรือป่าช้า
..
มูลเหตุสำคัญประการหนึ่งแห่งกลียุคที่ทำให้เมืองลวปุระถูกทำลายจนพินาศย่อยยับ อาจสืบเนื่องมาจากประมาณ ๘๐ กว่าปีก่อนหน้าการจารึกข้อความในจารึกโอเสม็ด ได้เกิดเหตุการณ์สงครามการสู้รบครั้งใหญ่ระหว่างพระเจ้าอัตราสตกะราช หรือพระเจ้าตราพกะแห่งเมืองหริปุญไชย กับพระเจ้าอุฉิฎฐกะจักรวรรดิหรือ อุจฉิตตจักรพรรดิ แห่งกรุงละโว้ และพระเจ้าชีวกหรือพระเจ้าสุชิตราช กษัตริย์แห่งสิริธัมมนคร (นครศรีธรรมราช) ซึ่งเหตุการณ์สงครามในครั้งนั้นยืดเยื้อต่อเนื่องอยู่ในช่วง พ.ศ. ๑๔๖๘-๑๔๗๑ ซึ่งรายละเอียดดังกล่าวถูกระบุถึงอยู่ในพงศาวดารโยนก และตำนานฝ่ายเหนือหลายฉบับ เช่น ชินกาลมาลีปกรณ์, จามเทวีวงศ์, เป็นต้น
..
เมื่อพระเจ้าสุริยวรมันที่ ๑ (พ.ศ.๑๕๔๕-๑๕๙๒) ทรงขึ้นครองราชย์บัลลังก์เมืองพระนครศรียโสธรปุระ ใน พ.ศ. ๑๕๔๙ ภายหลังจากทรงมีชัยชนะเหนือพระเจ้าชัยวีรวรมัน ได้มีพระราชบัญชาแต่งตั้งให้“ศรีลักษมีปติวรมัน” แม่ทัพของพระองค์ให้มาเป็นเจ้าเหนือพวกรามัญ ผู้ครอบครองดินแดนทางทิศตะวันตกของเมืองพระนคร ซึ่งคงจะหมายถึงชาวมอญหรือกลุ่มชนที่ใช้ภาษามอญในวัฒนธรรมทวารวดี ที่สร้างบ้านแปลงเมืองอยู่ในเขตภาคกลางของประเทศไทย ศรีลักษมีปติวรมันทำให้คนเหล่านั้นตกอยู่ภายใต้อำนาจ และทำการเก็บภาษี นำผลประโยชน์จำนวนมากมายส่งกลับไปยังเมืองพระนคร จนได้รับพระราชทานตำแหน่งเป็นขุนคลัง รวมทั้งเขายังได้ทำการฟื้นฟูดินแดนทางทิศตะวันตกทั้งหมดซึ่งถูกทำลายและทิ้งร้างจนกลายเป็นป่ารกชัฏมาเป็นเวลานานในช่วงกลียุคให้กลับมาสมบูรณ์และเจริญรุ่งเรืองดังเก่า
In the second half of the eighth century, Nan-chao intervened frequently in the affairs of the principalities of the middle Mekong Valley, resulting in the occupation of Muang Sua in 709. Nan-chao princes or administrators replaced the aristocracy of Thai overlords. Dates of the occupation are not known, but it probably ended well before the northward expansion of the Khmer Empire under Indravarman I (r. 877-89) and extended as far as the territories of Sipsong Panna on the upper Mekong.
Indravarman I (A.D. 877-89) extended Khmer control as far west as the Korat Plateau in Thailand, and he ordered the construction of a huge reservoir north of the capital to provide irrigation for wet rice cultivation. His son, Yasovarman I (A.D. 889-900), built the Eastern Baray (reservoir or tank), evidence of which remains to the present time. Its dikes, which may be seen today, are more than 6 kilometers long and 1.6 kilometers wide. The elaborate system of canals and reservoirs built under Indravarman I and his successors were the key to Kambuja's prosperity for half a millennium. By freeing cultivators from dependence on unreliable seasonal monsoons, they made possible an early "green revolution" that provided the country with large surpluses of rice. Kambuja's decline during the thirteenth and fourteenth centuries probably was hastened by the deterioration of the irrigation system. Attacks by Thai and other foreign peoples and the internal discord caused by dynastic rivalries diverted human resources from the system's upkeep, and it gradually fell into disrepair.
Suryavarman II (1113-50), one of the greatest Angkorian monarchs, expanded his kingdom's territory in a series of successful wars against the kingdom of Champa in central Vietnam, the kingdom of Nam Viet in northern Vietnam, and the small Mon polities as far west as the Irrawaddy River of Burma. He reduced to vassalage the Thai peoples who had migrated into Southeast Asia from the Yunnan region of southern China and established his suzerainty over the northern part of the Malay Peninsula. His greatest achievement was the construction of the temple city complex of Angkor Wat. The largest religious edifice in the world, Angkor Wat is considered the greatest single architectural work in Southeast Asia. Suryavarman II's reign was followed, however, by thirty years of dynastic upheaval and an invasion by the neighboring Cham, who destroyed the city of Angkor in 1177.
Jayavarman II settled north of the Tonle Sap. He built several capitals before establishing one, Hariharalaya, near the site where the Angkorian complexes were built. Indravarman I (A.D. 877-89) extended Khmer control as far west as the Korat Plateau in Thailand, and he ordered the construction of a huge reservoir north of the capital to provide irrigation for wet rice cultivation. His son, Yasovarman I (A.D. 889-900), built the Eastern Baray (reservoir or tank), evidence of which remains to the present time. Its dikes, which may be seen today, are more than 6 kilometers long and 1.6 kilometers wide. The elaborate system of canals and reservoirs built under Indravarman I and his successors were the key to Kambuja's prosperity for half a millennium. By freeing cultivators from dependence on unreliable seasonal monsoons, they made possible an early "green revolution" that provided the country with large surpluses of rice. Kambuja's decline during the thirteenth and fourteenth centuries probably was hastened by the deterioration of the irrigation system. Attacks by Thai and other foreign peoples and the internal discord caused by dynastic rivalries diverted human resources from the system's upkeep, and it gradually fell into disrepair.
Suryavarman II (1113-50), one of the greatest Angkorian monarchs, expanded his kingdom's territory in a series of successful wars against the kingdom of Champa in central Vietnam, the kingdom of Nam Viet in northern Vietnam, and the small Mon polities as far west as the Irrawaddy River of Burma. He reduced to vassalage the Thai peoples who had migrated into Southeast Asia from the Yunnan region of southern China and established his suzerainty over the northern part of the Malay Peninsula. His greatest achievement was the construction of the temple city complex of Angkor Wat. The largest religious edifice in the world, Angkor Wat is considered the greatest single architectural work in Southeast Asia.
มันเอาจากใหนนักวิชาการเขมรบอกว่าแต่กอ่นชนชาติเขมรมีประกร30ล้านคนแต่ทุกวันมีแค่17ล้านคนแล้วมันไปตายใหนหมด
ตายห่าหมดมั้ง 555
เขมรไม่เคยมีประเทศทั้งในอดีตและปัจจุบัน เขมรเป็นเพียงชาติพันธุ์หนึ่งของประเทศกัมพูชา ในอดีตก็เป็นชาติพันธุ์หนึ่งที่เป็นทาสขอม ไม่ใช่พลเมืองของ ขอม เหมือนคนดำในอเมริกาก่อนเลิกทาส ส่วนขอมเรียกตัวเองว่าชาวสยาม ตามทีจารึกที่กำแพงนครวัด
เขมรไม่เคยมีประเทศ มีแต่จักรวรรดิขะแมร์
หากนับย้อนหลังกลับไปเมื่อหนึ่งพันปีมาแล้ว ในราวกลางพุทธศตวรรษที่ ๑๖ อาณาจักรเขมร ได้ขยายอำนาจแผ่อิทธิพลทางการเมืองเข้ามายังดินแดนในลุ่มน้ำลพบุรี- ป่าสัก โดยเฉพาะเมือง“ลวปุระ” (Lavapür) หรือเมืองละโว้ ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางความเจริญทางศาสนา วัฒนธรรม และการติดต่อค้าขายที่สำคัญแห่งหนึ่งของรัฐทวารวดี หากแต่ว่าในช่วงระยะเวลาดังกล่าวนั้นบ้านเมืองแห่งนี้ตกอยู่ในสภาพที่เป็นเมืองร้าง อันเนื่องมาจากการเกิด “กลียุค” จารึกโอเสม็ด (Osmach Inscription) ซึ่งจารึกขึ้นเมื่อพุทธศักราช ๑๕๕๗ ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกัมพูชา กรุงพนมเปญ มีข้อความอักษรขอมโบราณ (พุทธศตวรรษที่ ๑๖) ภาษาเขมรโบราณ และภาษาสันสกฤต กล่าวบรรยายถึงสภาพโดยทั่วไปของเมืองลวปุระสรุปความได้ว่า บ้านเมืองถูกทำลายจนพินาศ สูญเสียความงดงามไปทั้งหมด กลายเป็นป่าคลาคล่ำไปด้วยสัตว์ร้ายทั้งหลายมีเสือ เป็นต้น และมีสภาพที่น่าสะพรึงกลัวดุจดังสุสานหรือป่าช้า
..
มูลเหตุสำคัญประการหนึ่งแห่งกลียุคที่ทำให้เมืองลวปุระถูกทำลายจนพินาศย่อยยับ อาจสืบเนื่องมาจากประมาณ ๘๐ กว่าปีก่อนหน้าการจารึกข้อความในจารึกโอเสม็ด ได้เกิดเหตุการณ์สงครามการสู้รบครั้งใหญ่ระหว่างพระเจ้าอัตราสตกะราช หรือพระเจ้าตราพกะแห่งเมืองหริปุญไชย กับพระเจ้าอุฉิฎฐกะจักรวรรดิหรือ อุจฉิตตจักรพรรดิ แห่งกรุงละโว้ และพระเจ้าชีวกหรือพระเจ้าสุชิตราช กษัตริย์แห่งสิริธัมมนคร (นครศรีธรรมราช) ซึ่งเหตุการณ์สงครามในครั้งนั้นยืดเยื้อต่อเนื่องอยู่ในช่วง พ.ศ. ๑๔๖๘-๑๔๗๑ ซึ่งรายละเอียดดังกล่าวถูกระบุถึงอยู่ในพงศาวดารโยนก และตำนานฝ่ายเหนือหลายฉบับ เช่น ชินกาลมาลีปกรณ์, จามเทวีวงศ์, เป็นต้น
..
เมื่อพระเจ้าสุริยวรมันที่ ๑ (พ.ศ.๑๕๔๕-๑๕๙๒) ทรงขึ้นครองราชย์บัลลังก์เมืองพระนครศรียโสธรปุระ ใน พ.ศ. ๑๕๔๙ ภายหลังจากทรงมีชัยชนะเหนือพระเจ้าชัยวีรวรมัน ได้มีพระราชบัญชาแต่งตั้งให้“ศรีลักษมีปติวรมัน” แม่ทัพของพระองค์ให้มาเป็นเจ้าเหนือพวกรามัญ ผู้ครอบครองดินแดนทางทิศตะวันตกของเมืองพระนคร ซึ่งคงจะหมายถึงชาวมอญหรือกลุ่มชนที่ใช้ภาษามอญในวัฒนธรรมทวารวดี ที่สร้างบ้านแปลงเมืองอยู่ในเขตภาคกลางของประเทศไทย ศรีลักษมีปติวรมันทำให้คนเหล่านั้นตกอยู่ภายใต้อำนาจ และทำการเก็บภาษี นำผลประโยชน์จำนวนมากมายส่งกลับไปยังเมืองพระนคร จนได้รับพระราชทานตำแหน่งเป็นขุนคลัง รวมทั้งเขายังได้ทำการฟื้นฟูดินแดนทางทิศตะวันตกทั้งหมดซึ่งถูกทำลายและทิ้งร้างจนกลายเป็นป่ารกชัฏมาเป็นเวลานานในช่วงกลียุคให้กลับมาสมบูรณ์และเจริญรุ่งเรืองดังเก่า
ภาษาไทยเฉพาะในไทยก็พูดกัน70ล้านคนไม่นับไทยอีสานทางลาวอีก5ล้านและไทยทางรัฐฉานของเมียนม่าเช่นเมืองยาง เมืองเชียงตุง ไทยทางสิบสองปันนาของจีน และไทยมลายูเมืองกะลันตันของมาเลเซีย นี่ยังไม่นับที่อยูประเทศอินเดียอีก ส่วนภาษาเขมรมีทั้งประเทศแค่16ล้านคนเอง😂😂😂
🤔ใช้ครับภาษาไทกระไดใช้แพร่หลายมากในภูมิภาคนี้...ยิ่งถ้านับไปถึงอินเดียเนปาลจนถึงธิเบทรอยต่อปากีอินเดียและบังคลาเทศที่ติดกับพม่าภูฐานอีก😱โอ้ไล่ดูก็เยอะเอาเรื่องยุนะ
อาจจะไม่ใช่คนไตทั้งหมดแต่แน่นอนว่าภาษาไตเป็นไตอินเตอร์มานานแล้ว และธรรมชาติของคนเผ่าไตไม่ถูกเผ่าอื่นกลืนโดยง่ายมีแต่จะกลืนเผ่าอื่น ก็ดูอย่างคนชาติอื่นมาไทยไง ถูกไทยกลืนหมด
ถ้ายิ่งใหญ่ ทำไม?จารึกเขมรแกะสลักให้ตัวเองมีตวนคล้ายทาสเดินกันเป็นกลุ่ม ไม่เหมือนกองทัพเหมือนเสียมกุกเลย มีอาวุธครบมือและมีรอยลบคำว่าเสียมกุกออกทำไม? มันมีพิรุธนะ แต่มีภาพที่เป็นหลักฐานที่เขาถ่ายไว้
เพื่อนเวียด นายพูดถูกใจเรามาก เรามาแบ่งเขมรกันคนละครึ่งดีไหม🎉😂🎉
ดีซิ่ เพราะทูกใจทังสองชาติที่อยากเป็นอย่างนั่น
ทราวดี/ขอม/อโยธยา กลุ่มเดียวกัน
ต้องใช้คำว่าKhom ถ้าใช้คำว่า ขอม พอแปลเป็นภาษาอังกฤษคือ เขมรโบราณครับ
อโยธยา คือลูกหลานราชวงศ์วรมันแต่งงานกับลูกหลานพ่อค้าชาวจีนที่ร่ำรวย
ใครแต่งนิทาน ครับ มันอ้างอะไร มั่วไปหมด สยามแปลว่าอะไร เขมรตอบยังไม่ถูกเลย เกฺมร มาจากคำว่า อะไร ( กมํ +เวร = กเมร ) แรงงานที่เวรเกณฑ์มาใช้งาน แล้วชื่อบรรพชนขอม คือ พราหม์กัมพูสวยัมภูวะ แปล ภูวะ คือแผ่นดิน ความหมายก็คือ พราหม์กัมพูแห่งแผ่นดินสยาม ที่ไปต่อสู้กับจาม มีแรงงานที่เกณฑ์มาว่า อานักเกฺมร
สยัม สวยาม สยาม = เป็นขึ้นเกิดขึ้นเอง ใช้เรียกคน ดินแดน หมายถึง คนพื้นเมือง เมืองของคนท้องถิ่นดังเดิม เดิมก่อนจะนับขอมเป็นญาติด้วยซ้ำ ชุมชนที่เกิดขึ้นเองที่หนองราชวัฒ 4000 ปี ก็ตรงกับความหมายของคำว่า สยาม อยู่เรื่อยมาติดต่อค้าขายทั้ง มอญ ไท ลาว จีน อินเดียเหนือ ใต้ ชวา ศรีวิชัย เปอร์เซีย โรมัน จนได้เทคนิคการสร้างอิฐ ปูน ความเชื่อ ศาสนาภาษาวัฒธรรมถูกส่งมอบผสมกลืนกลายจนเป็น ทราวดี อู่ทอง 2000 ปี แม้นแต่จารึกจามที่เวียดนาม พ.ศ. 1744 ยังแสดงคำพุกามกับสยามติดกัน และก็อยู่เรื่อยมาจนเป็น กรุงเทพทวารวดีศรีอโยธยา ก็ยังถูกต่างชาติเรียกว่า สยาม และลูกหลานขอมที่ไปสร้างนครวัดก็เรียกที่ตั้งเมืองว่า เสียมราบ(ที่ราบลุ้ม) คู่กับดินแดนอิสานใต้ พิมาย เสมาว่า เสียมโคก(ที่สูงที่ดอน) ขอมก็เป็นแค่สาขาญาติกาหนึ่งของสยาม สยามนิยมผูกญาติมีเมีย 4 ทิศ มากกว่าทำสงคราม
❤❤ สยามก้บขอมเป็นเนื้อเดียวกันจนพระชัยวรมันที่ 8 ทุบทำลายพระพุทธรูป คืนกลับไปเป็นฮินดู สยามกับขอมจึงแยกกันไม่สังฆกรรมร่วมบาปหนักนั้น ทำให้ขอมอ่อนแอมาก คุมแรงงานทาส อานักเขมรไม่ไหว ราชกาลต่อมาพระชัยวรมันที่ 9 จึงเกิดกบฏทาส แล้วสิ้นสุดยุคขอม ขอมหนี้ตายไปลพบุรีไปรวมกับสยามดังเดิม แล้วไปสร้างขยายอโยธยา เป็นอยุธยา ดังที่คนไทยต่างรู้ๆกันดี
กมํ = กมี แล้ว กมํ + เวร = กเมร เชลยทาส กบฏนาย ไม่เคยมีอาณาจักรเขมร
เรื่อยมา ไม่ใช่เลื่อยมา
@@kittipongsitthisinthu3094 ขอบคุณครับ ที่บอกคำผิดแสดงว่ามีคนอ่านจนจบอยู่ ขอบคุณ แก้แล้วครับ
ต้องไปแก้ไขที่พจนานุกรมไทยด้วยคำว่าขอมคือเขมรโบราณ ข้อมูลจัญไรทีเขมรมันเอาไปเคลมทั่วอาเซี่ยนไง
นักวิชาการเขียนประวัติศาสตร์ มาให้เราเรียกผิดๆ ตั้งแต่แรกแล้ว ตอนเป็นเด็กเรียนหนังสือผมยังเข้าใจ ว่าขอม คือเขมรเลย ประวัติศาสตร์ก็ไม่เคยเขียนอะไรมากมาย พ่อเพิ่งจะมารู้อะไรมากๆก็ตอนอายุ 60 นี่แหละครับ หลงทางเสียเวลาสักคำนาม กว่าจะรู้ของ ไม่ใช่เขมร ก่อเกิดใกล้จะเข้าโรงแล้วล่ะครับ😂😂😂😂😂 โชคดีที่ได้รู้ว่าเราคือสยาม❤❤❤❤🎉🎉❤❤
@@user-kk3qd2dt5z เห็นว่าไม่สอนประวัติศาสตร์ไทยในโรงเรียนแล้วครับไม่รู้จริงมัย สยามกำลังจะจางหายไปมัย
ผมมองเป็นเรื่องสำคัญไทยเราจะไรราก สยาม เดิมเป็นคำที่ชาติอื่นเรียกเรา เช่น หลักจารึกขอมK79 พ.ศ. 1182 มีคำว่า โปญสยัม แปลว่า "ขุนนางสยาม" เมื่อสู้ไม่ได้ก็ยอมเป็นพวก จึงมีสยามบางกลุ่มเป็นขุนนางของขอม นี้ทำให้ทราบได้ว่า สยามเป็นบ้านเป็นเมืองนานแล้วมี ขุมกำลังมากพอที่จะต่อรองไม่ถูกเกณฑ์ไปเป็นทาสยังเขมร สยามไม่ได้เพิ่งมีเมื่อตอนสุโขทัย แต่ก่อนหน้า พ.ศ.1182 ขอมก็รู้จัก สยามอย่างชัดเจนแล้ว และหลักจารึกภาษาจามโบราณ พ.ศ. 1744 ทีเวียดนาม มีคำว่า พุกามสยาม เขียนติดกัน นั้นก็ย้ำว่าสยามเป็นที่รูัจักกันทั่วไปของโลกการค้าโบราณ ต่อมากรุงอยุธยาฯ ชื่อยาวๆ ก็ไม่มีคำว่าสยาม ต่างชาติ ก็เรียกยังเรียกเราว่า กรุงสยาม ตามจดหมามเหตุลาลูแบ หมดกรุงเก๋ามาเป็นกรุงรัตนโกสินทร์ฯ ชื่อยาวมากๆๆ ไม่มีคำว่าสยามสักคำ แต่โลกก็ยังเรียกเราว่า สยามเหมือนเดิม จน ร.4-ร.5 ต้องใช้คำว่าสยามเป็นชื่อประเทศ มาเปลี่ยนเป็นประเทศไทย ตอนเปลี่ยนการปกครองแล้ว จะเห็นได้ว่าโลกเขารู้ว่า เราเป็นใครกลุ่มไหนที่สืบต่อกันมา แล้วยังตอกย้ำความเป็นกลุ่มคนท้องถิ่นดังเดิมของภูมิภาคด้วยคำว่า " สยาม " สยามไม่ได้มาจากไหนเราอยู่ที่นี้ 4000-5000 ปีก่อน ( ตามหลักฐานโบราณคดีก๋อยประวัติศาสตร์ โนนวัด หนองราชวัฒ บ้านเชียง บ้านเก่า ) ก่อนที่ใครๆ จะเข้ามา
Khom ไม่ใช่เขมร
สยามไม่ใช่ไทย
@@user-nh4mr2vk4n
เพ้อเจ้อ
@@user-nh4mr2vk4nสยามก็คือชื่อเดิมของประเทศไทย ก่อนจะเปลี่ยนเป็นไทยก็คือประเทศสยาม
ในความคิดผมน่ะครับ อิสานในยุคก่อนขอมมีอยู่อยู่แล้ว พอขอมขยายอำนาจมา จากวิมายปุระ(พิมาย) ไล่มาสุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สกล ไปถึงจำปาศักดิ์ ในยุคแรกๆที่มีจารึกพระเจ้าจิตเสนใช้เป็นอักษรปัลวะอ่านเป็นสันสกฤต พอยุคต่อมา ใช้อักษรปัลวะอ่านเป็นสันสกฤตและขอมในหลักเดียวกัน แสดงให้เห็นว่าชนพื้นเมืองแถบอิสานพูดขอมกันอยู่แล้ว เพราะภาษาพื้นเมืองมาผสมในจารึกภายหลัง ตั่งแต่ปราจีน เสมา พิมาย สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สกล ไปยันจำปาศักดิ์ พอหมดยุคขอมเรืองอำนาจล้านช้างมีอิทธิพลคนไปมาหาสู่กันอิสานเลยถูกกลืนเป็นภาษาลาว และเหลือ3จังหวัดอิสานใต้ที่ภาษาเดิมเข้มข้น และในกัมพูชาบางจังหวัด และเผ่าเขมรพึ่งกวาดต้อนมาใช้แรงงานในยุคพระนคร มาปะปนกับชนพื้นเมืองเลยต้องพูดไปโดยปริยายแต่เป็นทาส มาแรกๆน่าจะพูดคนป่าอุก้าๆ นึกถึงปัจจุบันก็ได้คนเขมรเขียนไทย อ่านไทย เสพวัฒนธรรมไทย อีก2-3ร้อยปีภาษาเขมรอาจหายไปและถูกไทยกลืนแล้วคิดว่าภาษาไทยเป็นของเขมรเอง😆😆😆ทุกอย่างมีที่มาที่ไป ที่พูดมาทั้งหมดไม่ได้มโนเองน่ะดูความน่าจะเป็นในจารึก พระเจ้าจิตเสน(มเหนทรวรมัม) ในอิสานมีสิบกว่าหลัก ลาวมีสอง กัมพูชามีสามหลักมั้งถ้าจำไม่ผิด เพราะประชากรอิสานเยอะกว่าคนลาวและเขมรเสียอีกจะเป็นอื่นไปได้ไง
ขอม ไม่ใช่ มนุษย์ แต่เป็นอักขร หรือตัวอักษร ที่สามารถสกดได้หลายภาษา
เสียมก๊กเป็นจักรวรรดิ์ที่ยิ่งใหญ่มีอารยธรรมมาหลายพันปีขอบเขตกว้างใหญ่ไพศาลมีเมืองพันเมือง หรือพันอาณจักรจาก ฟิลิปปินส์อินโดไปศรีลังกายันอินเดียบังกลาเทศมาพม่าตามบันทึกจีนโบราณได้กล่าวไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งคนไทยรุ่นหลัวควรภูมิใจว่าครั้งหนึ่งในอดีตอินเดียก็คือส่วนหนึ่งของจักรวรรดิ์ของเสียมเช่นกันที่รับอารยธรรมไปจากสยามเรา
เสียมก๊ก คือคนไท ที่อพยพมาจายูนนานตอนเหนือลงมาทางใต้
Tai Migration การอพยพของชนเผ่าไทจากยูนนาน ถิ่นเดิมอยู่บริเวณที่ราบสูงบริเวณทิศใต้แม่นัำแยงซีเกียงตอนบน (แม่น้ำจินชา) บริเวณเมืองต้าลี่-เหอฉิง
กลุ่มที่1 จ้วง ZHUANG หนุง NUNG ไตTAY ไปบริเวณ มณฑลกวางสีและด้านเหนือของเวียดนาม
กลุ่มที่2 ไทดำBLACK ไทขาวWHITE ไทแดงRED ไทลาว ไปบริเวณด้านตะวันตกของเวียดนาม
กลุ่มที่3 ไทพวนPHUAN ไทเหนือNUEA ผู้ไทPHUTAI ไปบริเวณด้านตะวันออกของลาวและเชียงขวาง
กลุ่มที่4 คือกลุ่มที่2 อพยพต่อไปบริเวณ Sukhothai, Nan,Vientiane, L. Prabang, HUA PHAN
กลุ่มที่5 ไทยวนYUAN ไทเขินKHUN ไทลือLU ไปบริเวณ C. Mai,Phayao, C. Rai, C. Saen, C. Tung, C. Rung, Ou Neua
กลุ่มที่6 ไทใหญ่ ไปบริเวณ รัฐSHANสหภาพเมียนมา
กลุ่มที่7 Tai-Khamti ไปบริเวณ KHAMTIสหภาพเมียนมา
กลุ่มที่8 ไทอาหม ไปบริเวณ AHOM อินเดีย
เรียนประวัติศาสตร์แต่บิดเบือนความจริง มันจะเรียนไปให้ได้อะไรว่ะเหมน ประวัติศาสตร์คือบทเรียนในอดีต
เห็นด้วยกับแอดครับ ถ้าเกมนยื่งใหญ่และใหญ่จริง ภาษาเกมนต้องกระจายเกลื่อนภูมิภาคนี้เป็นแน่แท้ หรือถ้าจะบอกว่าเมื่อก่อนภูมิภาคนี้พูดเขมรกันแล้วโดนบังครับให้พูดภาษาไทย ก็คงไม่ใช่ เหมือนช่วงหนึ่งที่จอมพลป.บังคับให้คนอิสานพูดไทย ห้ามพูดอิสาน ก็ทำไม่ได้เช่นกัน 😊
เขากำหนดให้ใช้เป็นภาษากลาง ผู้คนยังคงใช้ภาษาพื้นถิ่น ข้อนี้มันเปลี่ยนไม่ได้หรอก แต่ยังไงก็ยังหากลุ่มที่ใช้ภาษาเขมรเป็นภาษาถิ่นไม่เจอเลย
เขาสร้างมาตั้งแต่
สมัย ฮินดู อินเดีย
ขอม คือคนอาศัย
อยูในพื้นที่ และ
ยังมีอีกหลายเผ่าพันธุ์
อาศัยอยุ่ร่วมกัน
ส่วนประเทศต่างๆ
อพยพขึ้นฝั่งมาจัดตั้ง
ประเทศในภายหลัง
พอเข้าอยู่่พื้นที่แห่งไหน
ก็อ้างเอาว่าบรรพบรุษ
ของตัวเองเป็นคนสร้างใว้
ปัญหามันมีเพียงแค่นี้
โบราณสถานต่างๆ
ในบางประเทศ
ดูอายุแล้วยาวนานเก่าแก่
ไม่ตํ่ากว่า 5.000 ปี
เขาสร้างใว้นานแล้ว
เพียงแต่คนบางกลุ่ม
ขึ้นฝั่งมาถูกที่
จึงได้พบโบราณสถาน
ืีที่สําคัญ
แล้วก็อ้างว่าบรรพบุรุษ
ของตัวเองเป็นคนสร้างใว้
บ่งบอกถึงการศึกษา และการปลูกฝังที่ ขาดการค้นคว้าคิดวิเคราะห์แยกแยะ อะไรก็บอกว่ามีหลักฐานบนกำแพง โดยไม่ค้นคว้าว่า ใครสร้างมันขึ้นมา มาจากไหน อะไรยังไง คิดแบบสั้นๆจริง ใช้สมองนัดแค่นิดเดียวจริง สมองคงจะมีรอยหยักเหมือนลูกฟุตบอล ห่างกันมาก
ควรแยกคำว่า "ขอม" ออกจาก คำว่า เขมร มันไม่ใช่เผ่าพันธุ์เดียวกัน หนังสือ หน่วยงานยังเอามารวมอยู่ เพราะไม่เคยจะแก้ไข ขี้เกียจแก้
อยุธยาสืบเชื้อสายมาจากมอญ ชื่อเต็มกรุงเทพทราวดีศรีอโยธยา พูดภาษามอญกลับสุโขทัย สุโขทัยพูดภาษาไทยกะได อยุธยาสุโขทัยเป็นเครือญาติกันจึงเลยพูดภาษาไทยมันถึงปัจจุบัน ไม่เกี่ยวอะไรเขมรเลย
มอญกับขอม ไตด้วย อยุทธยามีถึงห้าราชวงศ์ ภาษาเดิมเป็นภาษาขอมที่ครูภาษาไทยให้เราเรียกว่าภาษาเขมร ส่วนเขมรนั้นได้ละทิ้งภาษาเดิมมาใช้ภาษาขอมตามเจ้านาย สังคมสมัยก่อนทาสเยอะกว่าเจ้านายมาก ได้ล้มล้างเจ้านายตั้งคนเป็นใหญ่ ขอมหนีตายกระเจิดกระเจิงไม่สามารถฟื้นคืนได้ เขมรก็เลยยึดไปทั้งหมด แล้วก็เขียนประวัติศาสตร์ว่าแต่งงานกับเจ้าหญิงขอมสืบราชวงศ์ต่อมา แล้วอยุทธยาก็ไปตีเขมรสองครั้งจนเขมรแตกแล้วเขมรก็ถูกสยามปกครองตั้งแต่นั้นมา มีหลุดไปให้เวียดนามบ้างสุดท้ายก็ฝรั่งเศส พอได้เอกราชก็รบกันเอง ตอนนี้ขักศึกเข้าบ้านเอาจีนเข้ามาอีกแล้ว ตอนฝรั่งเศสเข้ามาเขมรก็ทำแบบนี้ยอมอ่อนน้อมกับฝรั่งเศสเพื่อหลุดออกจากสยาม
อยุธยา-ละโว้ ขะแแมรเป็นเจ้านาย มอญเป็นบ่าวหรือทหาร ไทหรือลาวหรือสยามเป็นทาส
หากนับย้อนหลังกลับไปเมื่อหนึ่งพันปีมาแล้ว ในราวกลางพุทธศตวรรษที่ ๑๖ อาณาจักรเขมร ได้ขยายอำนาจแผ่อิทธิพลทางการเมืองเข้ามายังดินแดนในลุ่มน้ำลพบุรี- ป่าสัก โดยเฉพาะเมือง“ลวปุระ” (Lavapür) หรือเมืองละโว้ ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางความเจริญทางศาสนา วัฒนธรรม และการติดต่อค้าขายที่สำคัญแห่งหนึ่งของรัฐทวารวดี หากแต่ว่าในช่วงระยะเวลาดังกล่าวนั้นบ้านเมืองแห่งนี้ตกอยู่ในสภาพที่เป็นเมืองร้าง อันเนื่องมาจากการเกิด “กลียุค” จารึกโอเสม็ด (Osmach Inscription) ซึ่งจารึกขึ้นเมื่อพุทธศักราช ๑๕๕๗ ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกัมพูชา กรุงพนมเปญ มีข้อความอักษรขอมโบราณ (พุทธศตวรรษที่ ๑๖) ภาษาเขมรโบราณ และภาษาสันสกฤต กล่าวบรรยายถึงสภาพโดยทั่วไปของเมืองลวปุระสรุปความได้ว่า บ้านเมืองถูกทำลายจนพินาศ สูญเสียความงดงามไปทั้งหมด กลายเป็นป่าคลาคล่ำไปด้วยสัตว์ร้ายทั้งหลายมีเสือ เป็นต้น และมีสภาพที่น่าสะพรึงกลัวดุจดังสุสานหรือป่าช้า
..
มูลเหตุสำคัญประการหนึ่งแห่งกลียุคที่ทำให้เมืองลวปุระถูกทำลายจนพินาศย่อยยับ อาจสืบเนื่องมาจากประมาณ ๘๐ กว่าปีก่อนหน้าการจารึกข้อความในจารึกโอเสม็ด ได้เกิดเหตุการณ์สงครามการสู้รบครั้งใหญ่ระหว่างพระเจ้าอัตราสตกะราช หรือพระเจ้าตราพกะแห่งเมืองหริปุญไชย กับพระเจ้าอุฉิฎฐกะจักรวรรดิหรือ อุจฉิตตจักรพรรดิ แห่งกรุงละโว้ และพระเจ้าชีวกหรือพระเจ้าสุชิตราช กษัตริย์แห่งสิริธัมมนคร (นครศรีธรรมราช) ซึ่งเหตุการณ์สงครามในครั้งนั้นยืดเยื้อต่อเนื่องอยู่ในช่วง พ.ศ. ๑๔๖๘-๑๔๗๑ ซึ่งรายละเอียดดังกล่าวถูกระบุถึงอยู่ในพงศาวดารโยนก และตำนานฝ่ายเหนือหลายฉบับ เช่น ชินกาลมาลีปกรณ์, จามเทวีวงศ์, เป็นต้น
..
เมื่อพระเจ้าสุริยวรมันที่ ๑ (พ.ศ.๑๕๔๕-๑๕๙๒) ทรงขึ้นครองราชย์บัลลังก์เมืองพระนครศรียโสธรปุระ ใน พ.ศ. ๑๕๔๙ ภายหลังจากทรงมีชัยชนะเหนือพระเจ้าชัยวีรวรมัน ได้มีพระราชบัญชาแต่งตั้งให้“ศรีลักษมีปติวรมัน” แม่ทัพของพระองค์ให้มาเป็นเจ้าเหนือพวกรามัญ ผู้ครอบครองดินแดนทางทิศตะวันตกของเมืองพระนคร ซึ่งคงจะหมายถึงชาวมอญหรือกลุ่มชนที่ใช้ภาษามอญในวัฒนธรรมทวารวดี ที่สร้างบ้านแปลงเมืองอยู่ในเขตภาคกลางของประเทศไทย ศรีลักษมีปติวรมันทำให้คนเหล่านั้นตกอยู่ภายใต้อำนาจ และทำการเก็บภาษี นำผลประโยชน์จำนวนมากมายส่งกลับไปยังเมืองพระนคร จนได้รับพระราชทานตำแหน่งเป็นขุนคลัง รวมทั้งเขายังได้ทำการฟื้นฟูดินแดนทางทิศตะวันตกทั้งหมดซึ่งถูกทำลายและทิ้งร้างจนกลายเป็นป่ารกชัฏมาเป็นเวลานานในช่วงกลียุคให้กลับมาสมบูรณ์และเจริญรุ่งเรืองดังเก่า
ขอมโบราณ = ไทยโบราณ นะครับ ไม่ใช่เขมรโบราณ แล้วคนอีสานใต้ก็พูดภาษาขอม ( ภาษาเขรมที่ใช้ในปัจจุบันผึ่งมาสร้างขึ้นตอน รัชกาลที่ 4 ) ชาวกมีส์เป็นทาสพูดภาษาขอมเพราะว่าเป็นภาษาของนายทาส จนมาถึงรุ่นลูกรุ่นหลานก็เข้าใจไปเองว่าเป็นภาษาของตัวเอง
สมัยโบราณเป็นระบบอาณาจักรสมบูรณายาสิทธิราขไม่ใช่ประชาธิปไตนเจ้าปกครองพูดอย่างไรขาวเมืองก็พูดตามไม่ว่าคุณจะมีเชื้อสายไหนเจ้าไทยเป็นใหญ่เราก็ต้องพูดไทยเขมรเป็นใหญ่ก็ต้องพูดเขมรแล้วปกครองกันไม่ใช่สิบปีมันเป็นร้อยปีขนาดคนไทยปัจจุบันยังพูดอังกฤษคำไทยคำเลยขืนไม่พูดตามก็ตายสิ ถ้าเขมรมันอ้างว่าเป็นของมันเราก็อ้างนครวัดก็เป็นของเรา
เรื่องภาษาใช้ชี้วัด ความมีอิทธิพลของแต่ละชนชาติได้ แม้แต่ในปัจจุบัน ภาษาไหนนิยมใช้มาก ภาษานั้นทรงอิทธิพลมาก
ทุกประเทศทั่วโลกในอดีตไม่เคยค้าขายกับเขมรไม่มีหลักฐานใดใดบัน ทึกไว้เลย
ขอมคือระบบการปกครอง มีตำแหน่ง มีภาษาเขียน
จะคุยกับเขมรให้เยอะทำไม เขมรมันต้องคุยด้วยลูกปืน
ทาสมันก็ไปทุกที่แหละแล้วแต่เจ้านายจะให้ไปไหน เลยมโนว่าเป็นการขยายอำนาจ
ใครจะโลกสวยยังไงก็ตาม แต่ผมไม่โลกสวยด้วย เพราะผมมีเพื่อนรุ่นพี่อยู่คนนึง(ซึ่งแกเสียชีวิตไปแล้ว) แกเป็นชาวจังหวัดปราจีนบุรี อยู่อำเภอศรีมหาโพธิ เรื่องมีอยู่ว่า: พี่แกมีเพื่อนร่วมงานเป็นเป็นชาวเขมร(กัมพูชา) พอเลิกงานตอนเย็นแกก็จะกินเหล้าด้วยกันเป็นประจำ มีอยู่วันนึงเพื่อนชาวเขมรบอกว่าอยากจะไปดาวน์รถกระบะสักคันนึง แต่ติดตรงที่ไม่มีคนค้ำประกัน เขมรรายนี้เลยบอกว่าจะจ้างเพื่อนผม 3,000 เพื่อให้ไปค้ำประกันให้ ซึ่งเพื่อนผมก็เลยตกลง วันต่อมาเลยพากันไปออกรถที่เต๊นท์รถแห่งนึง หลังจากออกรถเสร็จเรียบร้อย เขมรรายนี้ก็ได้ขับรถข้ามชายแดนหนีหายไปเลย ซ้ำเงิน 3,000 นี่ตกลงกันไว้ก็ไม่ให้เพื่อนผม เมื่อเหตุการณ์เป็นแบบนี้เพื่อนของผมเลยคิดสั้น จบชีวิตตัวเองด้วยการผูกคอตายในห้องนอนที่บ้านของตัวเอง....
การทำการเข้าใจอย่างนั่น ทำให้ท่านรอมรอบไปดั้วยความมืดมล บานหานอาชนะอาชญา ทักสิน สมัค สุนทรเวท เป็นตนไม่ใช่คนไทย เป็นเขมร ชายแดน และเป็นจีนผสม
ธรรมดาคนเคยทำอะไรไว้เขาย่อมทำได้ทั้งนั้น ถ้าเขมรเคยสร้างปราสาทหรือวิหารใหญ่ๆโตๆก็ลองทำดูสิ ทำของใหม่ๆออกมานำเสนอหน่อย ตอนนี้ที่บุรีรัมย์ประเทศไทยกำลังสร้างและนำเสนอให้ชาวโลกได้รู้ว่าใครคือคนสร้างอริยธรรมประมาณนั้น
ถาพบนกำเเพงผมมองว่าการเดินทางของพระเจ้าวรมันได้เดินทางและต่อมากระเชาะกระแอมได้โค่นล้มพระเจ้าวรมัน ที่มีภาพการสู้รบกับบนกำแพง ที่จารึกเอาไว้
ที่สำคัญคือไม่มีใครอยากเป็นเพื่อนกับมันแล้ว มันมาจากต่างดาว
แผนที่นี้อาจจะเป็นยุคของพระนเรศวร
คนไทยที่เราคิดว่าเค้าพูดเขมร แต่จริง ๆ แล้วเป็นภาษาส่วย ไม่ใช่ภาษาเขมร
มันใกล้จนมุมยิ่งอ้างยิ่งขุดเค้ารู้ไส้รู้พุงเที่ยวจ้าง นปศ รอบประเทศหวังเป
ในอดีตมีแต่อาณาจักรขอม ซึ่งขอมไม่ใช่เขมร เขมรเป็นชนชั้นทาส อาณาจักรขอมจึงไม่ใช่ของเขมร(ทาส)
ปัญหาคือ การปกครองและระบบการศึกษา รอบข้างประเทศไทยล้วนแล้วปกครองในระบอบเผด็จการโดยรอบประเทศไทย เหลือเพียงไทยเท่านั้นที่ปกครองในระบอบเสรีประชาธิปไตย ส่วนตำราบทเรียนประวัติศาสตร์ทั้ง เขมร ลาว ล้วนเอาประวัติศาสตร์ยุคโบราณมาเป็นแบบเรียนเพื่อฝังความเชื่อให้กับพลเมืองของตน แต่ไทยยกเลิกตำราเรียนประวัติศาสตร์ของชาติไทยมานานแล้ว มีก็แค่บทเรียนสั้นๆเท่านั้น แต่ระบบการศึกษาของไทยจะเน้นหนักไปในทฤฏีการเกษตร คอมพิวเตอร์ เครื่องจักรกล กฏหมายระหว่างประเทศ (นิติศาสตร์) วิทยาศาสตร์การแพทย์ ระบบการศึกษาไทยไม่เน้นประวัติศาตร์ชาติในอดีตตระกาลที่ผ่านมา เพราะเรื่องที่ผ่านมาอันแสนนานเราคนรุ่นหลังไม่สามารถกลับไปแก้ใขอะไรได้อีกแล้ว นั้นหมายถึงเราจะเน้นอนาคต ไม่เน้นขุดเรื่องในอดีตมาเพิ่มความเกลียดชังให้กับคนยุคปัจจุบันเหมือน เขมร และ สปป.ลาว มันยิ่งจะทำให้ประเทศล้าหลังเสียปล่าว
ผมเชื่อเวรกรรม ผู้ใดสร้างผู้นั้นจะได้รับ แน่นอนไม่ตอ้งกลัว
ถ้าเคยหนังเรื่องปิดตำนานอารชนจะพอเข้าใจเลยว่าเขมรน่าจะเป็นชนเผ่าในยุคค้าทาสที่พ่อค้าทาสจะไปจับมาตามหมูเกาะอินโด อ้างอิงจาก DNA พันธุกรรมๅ
อันนีไม่รู้เอามาจากในไม่มีหลักฐานอะไรเลย
อาณาจักรอังกืออังกอร์ไม่เคยมีอยู่บนประวัติศาสตร์โลกแน่นอนเขมรก็แค่ชนเผ่าที่อพยพมาจากเกาะชวาและเขมรต้องไม่ใช่คนแถวนี้คนแถวนี้มีแค่ ไทย พม่าลาว เวียดนาม มาเลเซีย เท่านั้น
ครับผม แม้แต่ ยุคในพระพุทธเจ้า ยังมีอารยธรรมสยาม ในพระไตรปิฎก เลยครับผม
ไม่เคยมีอาณาจักรเขมรมีแต่อาณาจักรขอมโบราณก็คือไทยหรือสยามเรานี่เอง นักวิชาการฝรั่งเศสและนักวิชาการไทยบางตัวมันบิดเบือนยกให้ขอมคือเขมรโบราณ ความยุ่งเหยิงจึงตามมาเพราะมันไม่เข้ากับประวัติศาสตร์โลกนั่นเอง
เวลาเครียดๆ เข้ามาฟังคลิปช่องแอด แล้วอารมณ์ดีทุกเช้าก่อนไปทำงานเลย😂
แอด แต่ก่อนเขมรกัมพูชามีแค่ภาษาพูดไม่มีอักษรในการติดต่อซื้อขาย ช่วง ร4. ได้ทรงให้พระชื่อ "ปาน" ไปออกแบบภาษาเขมรกัมพูชาให้ เพื่อจะได้สั่งงาน รวมถึงปกครองได้ วิธีการนับเขมรดั้งเดิมมันนับเลขฐานห้า และนับไม่ถึง100 พระชื่อปานเลยแก้ใหม่หมดตามแบบของไทย ขนาดชุดซัมปอด ร5.ก็ทรงพระราชทานให้ใส่เพื่อไว้เข้าเฝ้าไทยเพราะแต่ก่อนเขมรใส่แค่ผ้าเตี่ยวผืนเดียว เอาให้ชัดเจนเลยคนพูดเขมรในไทยคือส่วย กับแขม แต่เขมรกัมพูชา คือ กมีป์ ซึ่งเป็นกลุ่มชนชั้นทาส ที่ถูกต้อนมาจากเกาะชวา) ภาษาขอมไม่ไช่ของเขมรเพราะคนกัมพูชาสมัยใหม่อ่านไม่ออกแปรไม่ได้มีแค่คนไทยเท่านั้นที่อ่านอัษรขอมสยามออก บ้านยายผมก็มีหนังสือก้อม(หนังสือขอมสยาม)สืบทอดมานานหลายชั่วอายุคนทั้งบันทึกใบลาน สมุดข่อย
พิม Khom ให้พิมอังกฤษครับ ถ้าพิมไทยกุเกิ้ลจะแปลเป็นเขมร เพราะชาวกัมพูชาไม่มีประวัติศาสตร์เค้าเลยพยายามศึกษาทางนี้ แล้วแปล เรียบเรียง มโน แต่งเติม ชุบตัวเองขึ้นมาใหม่ จากพวกผู้นำที่มาเรียนที่ไทยฝากทุกคนพิมถึง Khom ให้พิมแบบนี้ครับ
เรื่องราวในอดีตเป็นแค่เรื่องเล่า จริงเท็จแค่ไหนตอบได้ยากเพราะประวัติศาสตร์ของแต่ละประเทศไม่ตรงกันทั้งๆที่อยู่ในระแวกเดียวกัน เพราะงั้นเข้าใจประวัติให้เหมือนนิทานก่อนนอนก็พอ ไม่งั้นก็จะเอามาปนกับปัจจุบันจนทะเลาะกันไม่รู้จบ ถ้าเขมรเขาไม่อยากเจริญก็ปล่อยให้เขาจมอยู่กับอดีตต่อไป ไทยเรามองไปข้างหน้าอย่างเดียวพอ
กษัตริย์เขมรชื่ออะไรมีแต่ขอมวรมันซึ่งก็คือเสียมหรือสยามในปัจจุบัน
ภาษาเขมรเพิ่งมีในรัชสมัยหลังรัชกาลที่สองของสยามครับ แต่ก่อนคนเขมรโดยมากพูดภาษาไทย
เขมรมีพระเจ้าที่ครองราชกี่พระองค์
เขมรมาจากแถวแอฟริกาเชื้อสายพวกระวันดา คองโกในอดีตคือผีตองเหลืองในแอฟริกาใต้😂😂
ประวัติศาสตร์ที่ชาวโลกรู้แต่...บางประเทศไม่รู้
ในยุคนั้นประกรมีเท่าถึงห้าหมื่น
เขมรไม่เคยเป็น จักรวรรดิ
อดีตก็คืออดีต ตอนนี้ใครทำได้ดีกว่าต่างหากที่จะเป็นสิ่งชี้วัดให้ลูกหลานได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ในอนาคต
มันว่ามันยิ่งใหญ่ แล้วใหญ่แบบไหน ถึงภาษาเขมรมีใช้แบบแคบๆ ไม่กว้างขวางแบบไทกระได มีอยู่ทั่วอินเดีย เวียดนามยังมีบางคำที่ใช้ตรงกัน ส่วนเขมรไม่มีอล้วมันจะใหญ่ได้อย่างไร
แต่ที่รู้ๆๆไทยกำลังจะเสียดินแดนทางทะเลแล้วคับ ถ้ายังนิ้งยุแบบนี้
แอดศึกษาคำดีๆอาณาจักรขอมไม่ใช่อาณาจักรเขมร
ไทย ไม่อับจนเสียศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ถึงขนาดที่ต้องให้ฝรั่งนัักล่าอาณานิคมจากนอกทวีป มาบิดเบือนเขียนนิยายประวัติศาสตร์ปลอมลวงโลก ให้ชาติอาณานิคม เหมือนรรัฐนครเล็กๆ ที่ใครๆ ก็เข้ายึดครองได้
…
สมัยทวารวดีของไทย ภายหลังการเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์โลกครั้งใหญ่ น้ำะเลได้ลดระดับลง ทำให้เกิดแผ่นดินราบล่มรอบๆโดนเลสาป มี รัฐนครเล็กๆ หนึ่ง คนไทยโบราณเรียกว่า กัมโพช ส่วนสากลเรียกว่า "ฟูนัน/เจนละน้ำ/เขมรต่ำ" ที่ไม่เคยยิ่งใหญ่ ตามนิยานลวงโลกของฝรั่งเศส เลย (อันมีข้อมูลขัดแย้งกับ อังกฤษ นักล่าอาณานิคมคู่่แข่งอย่างสิ้นเชิง และ ขััดแย้งกับบัันทึกท้องถิ่นของหลายชาติที่ตรงกันโดยไม่ต้องนัดหมาย)
เป็นรัฐนครเบี้ยล่างของผู้ผ่านมาผ่านไปอย่างแท้จริง ไล่เรียงตั้งแต่ ...
ชาวกลิงคะ/วรมััน จากอินเดียกลาง,
ชาวโจฬะ จากอินเดียใต้,
ชาวสุรินวงศ์ จากพิมาย อิศานปุระ,
ชาวอินโดฯ จากชวา,
ชาวไศรเลนทร์ จากลังกาสุกะ,
ชามจาม จากจามปา,
ชาวมหิธรปุระ จาก ละโว้ เสียม,
ชาวอยุธยา จากสยาม,
ชาวแกว จากเวียดนาม,
ชาวรัตนโกสินทร์ จากไทย,
ชาวฝรั่ง จากฝรั่งเศส,
คอมมิวนิสต์ จากเวียดนามเหนือ,
และ
ชาวฮั่น จากจีน
...
ล้วนเข้ามายึดครองอย่างง่ายดาย ตลอดประวัติศาตร์ของ "ฟูนัน/เจนละน้ำ/เขมรต่ำ"
ตอนที่ 1
::: ชาวฟูนันดั้งเดิม(ขอม) ไม่ใช่เชื้อสาย เกมฺร์/กมีฺร์/ขะแมร์ ที่มาจากอินโดฯ :::
ราชสกุลกลิงคะ จากอินเดียเหนือ, ราชสกุลโจฬะ/วรมัน จากอินเดียใต้, ราชสกุลสุริยวงศ์ จากอิศานวรมัน, ราชสกุลไศเลนทร์ จากลังกาสุกะ และ ราชสกุลมหิธรปุระ จากสยาม … ที่เข้าปกครองฟูนัน/ขอมโบราณ(เจนละน้ำ) ตามลำดับมา ไม่ได้มีเชื้อสาย เกมฺร์/กมีฺร์/ขะแมร์ สกุลนโรดม จากจามปาจากอินโดฯ และมีDNAเหมือนอินโดฯ อย่างปัจจุบััน
: จารึกใน “กเบื้องจาร” … “ขอม” คือตำแหน่งผู้เชียวชาญด้านต่างๆ
ในลัักษณะทำนองเดียวกัันกับตำแหน่ง “ขุน” แต่มีอำนาจหน้าที่บารมี และใช้กับเชื้อสายที่ต่างกันอาทิ ท่านมนขอมพิษณุ, ขอมสบาดโขลญลำพง เป็นต้น
คนไทย จึงเรียกชาวกลิงคะและชาวโจฬะ ในเจนละน้ำ ว่า ขอม เพราะเห็นว่าเป็นผู้มีฐานีนดรสูง มีความรู้จากอินเดีย
: แกนหลักของ “อาณาจักรขะแมร์(Khmer Empire)” จึงมีเพียง เจนละน้ำ เท่าน้ัั้น … ไม่รวม เจนละบก(อิศานวรมันและศรีโคตรบูร), จามปา, พิมาย, อีสานใต้, ละโว้, อู่ทอง, มอญ, ทวารวดี, ลังกาสุกะ, และศรีวิชัยตอนเหนือ
: ชาวอินเดียจากแคว้นกลิงคะทางเหนือของอินเดีย เป็นพวกแรกที่เข้ามาในสุวรรณภูมิ เป็นผู้ครอบครองดินแดนที่เรียกว่า อาณาจักรฟูนัน
: ก่อน ค.ศ. 1 ช่องแคบมะละกา มีโจรสลัดจำนวนมาก เช่น เทมาเส็ก ฯลฯ และมีการเก็บภาษีทางผ่านช่องแคบที่สูงมาก ทำให้ชาวโจฬะของทมิฬนาดู จากอินเดียใต้เสียประโยชน์ จึงได้ยกทัพมาโจมตีรัฐต่างๆ ในช่องแคบมะละกา ศรีวิชัย ชวา แล้วยกพลขึ้นบกที่ปากแม่น้ำโชงในเจนละน้ำและจามปา
: ราว ค.ศ. 1 ปฐมราชวงศ์วรมัน ในอาณาจักรฟูนััน (เจนละน้ำ และ จามปา) สถาปนาโดย พระเจ้าเกาฑิณยะ: วรมันเทวะ หรือ สวายัมภูวะ เป็นพราหมณ์ที่มาจากแคว้นกลิงคะในอินเดียใต้ ยกทัพมาบุกดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง สมรสกับนางมีรา(หลิวเย่) เจ้าเมืองหญิงท้องถิ่นของเจนละน้ำ
: ค.ศ.514 พระเจ้าภววรมันที่ 1 จากเมืองภวปุระ ร่วมกันกับ เจ้าชายจิตรเสน หรือ พระเจ้ามเหนทรวรมัน ขอม สกุลสุริยวงศ์ ยกทัพจากอิสานใต้(จากอิศานวรมัน/เจนละบก) บุกเข้ายึดราชธานีวยาธปุระชิงราชบัลลังค์แห่งอาณาจักรฟูนันได้สำเร็จ
: ค.ศ. 790 เอกสารจีนชื่อ ซินถังชู (新唐書) กล่าวว่า ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 8 รัฐเจนละแตกแยกออกเป็นเจนละบก (陸真臘 ที่ประกอบด้วย อิศานปุระ และ ศรีโคตรบูร พลเมืองส่วนใหญ่เป็นชาวขอม) … กับ … เจนละน้ำ (水真臘 ที่ประกอบด้วย ฟูนันเดิม และ จามปา พลเมืองส่วนใหญ่เป็น จามปา/กมีฺร์)
: ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 8 ราชวงศ์ไศเลนทร์ (Shailendra dynasty) จากเกาะชวามาตีคืนชาวอินเดียใต้ ในศรีวิชััย และ เจนละน้ำ แล้วยึดครอเจนละน้ำ ได้สำเร็จ ซึ่งผู้ปกครองคนสุดท้ายของเจนละน้ำนั้นเชื่อว่าถูกประหาร ทำให้สิ้นราชวงศ์
: ค.ศ.802 พระเจ้า ชัยวรรมันที่ 2 ผู้นำท้องถิ่นเจนละบกจากราชสกุลวรมัน ประกาศเอกราชจากชวา รวมรวบดินแดนทั้งหลายของเจนละบกและเจนละน่ำไปก่อตั้งเป็นจักรวรรดิเขมรใน ค.ศ. 802 - 835[3] ผู้สร้างปราสาทนครวัดที่มีภาพสลักกองทัพเสียมไว้อย่างเกรียงไกร
: ค.ศ.802-ค.ศ.1032 (พ.ศ.1345-1575) จารึก K.103, จารึก K.134 และ จารึกสด๊กก๊อกธมแผ่นที่2 กล่าวถึงลำดับกษัตริย์กัมพูชาตั้งแต่พระเจ้าชัยวรมันที่ 2 จนถึงพระเจ้าอาทิตอุทัยวรมันเป็นเวลา 130 ปี ว่า เนื่องจากกษัตริย์เจนละน้ำประกาศต่อบรรดาฑูตต่างชาติว่า อยากได้เศียรของกษัตริย์ศรีวิชััย จึงถูกชาวชวกะ จากเมือง ซาบาก ราชวงศ์ไศเลนทร์ อาณาจักรศรีวิชัย โจมตีเจนละน้ำ ทำให้สิ้นสุดอาณาจักรเจนละน้ำ ซึ่งเรื่องราวตรงกันกับบันทึกสุไลมาน พ่อค้าชาวอาหรับ
ตอนที่ 2
: ค.ศ.1001-ค.ศ.1006 พระเจ้าสุริยะวรมันที่ 1 เจ้าชายในราชวงศ์ไศเลนทร์ จากลังกาสุกะ ในอาณาจักรศรีวิชัยเดิม ได้อ้างสิทธิ์พระราชบัลลังก์ทางมารดา ทำสงครามเพื่อชิงราชบัลลังค์ได้สำเร็จ … (ราชวงศ์ไศเลนทร์มีพระมหากษัตริย์เพียง 3 พระองค์กษัตริย์องค์สุดท้ายไม่มีรัชทายาท)
: ค.ศ.1080-ค.ศ.1107 พระเจ้าชัยวรรมันที่ 6 แห่งราชวงศ์สุิยวงศ์ จากเมืองพิมาย ได้ปราบปรามคู่แข่งและสถาปนาขึ้นเป็นปฐมกษัตริย์ต้นสาย ราชสกุลมหิธรปุระ ใน เจนละบก (อิศานปุระ และ ศรีโคตรบููร)
: ค.ศ.1117 พระเจ้าชัยอินทรวรมันที่ 4 แห่งอาณาจักรจามปาบุกเข้าโจมตีเมืองพระนครหลวง(ในเจนละน้ำ) จับพระเจ้าตรีภูวนาทิตยวรมันสำเร็จโทษบ้านเมืองเกิดสูญญากาศนานถึง 4 ปี
: ค.ศ.1160-ค.ศ.1166 พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 สายราชสกุลมหิธรปุระได้ยกทัพจากเมือง ละโว้ ตีเจนละน้ำ ยึดเมือง พระนครหลวง ได้คืนจากจามปา แล้วยกทัพบุกเข้าไปในอาณาจักรจามปามีชัยชนะ ผนวกดินแดนจามปาเข้าเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิเขมร จับราชวงศ์ ไพร่ ทาสชาวจามปา กลับมาเป็นเชลยในเมืองพระนครหลวง
: ค.ศ.1327-ค.ศ.1336 “ตระซ็อกประแอม” เชลยจากจามปาหัวหน้าผู้เฝ้าสวนในอุทยานหลวง ก่อกบฏยึดพระราชอำนาจซัดหอกลำแพงชัยใส่พระเจ้าชัยวรมันปรเมศวร (ชัยวรมันที่9) สวรรคต แล้วตั้งตนขึ้นเป็นกษัตริย์ ในพงศาวดารฉบับนักองค์เองกล่าวว่าเป็นปฐมกษัตริย์ต้นสกุล นโรดม
ส่วนราชวงศ์ขอมสายราชสกุลมหิธรปุระที่รอดตาย ได้หนีมาที่ ละโว้ โดยความช่วยเหลือจากนครรัฐเครือญาติ คือ อู่ทอง ละโว้ และโคราช แล้วตั้งเมืองใหม่ที่ อยุธยา ... หลังจากนั้นเพียง 5 - 14 ปี อยุธยา ได้ยกทัพกลับไปปราบกบฏสำเร็จ (ไม่ใช่การรุกราน เป็นการปกครองภายในของสหพันธรัฐนครต่างๆ ของสยาม) โดยไม่ได้กลับเข้าอาศััยที่เมืองพระนครดังเดิม และไม่เกณฑ์ทาสขะแมร์/กมีรฺ/เกฺมร (kmer) กลับมาอยุธยาตามประเพณีการรบชนะศึก อีกเลย เพราะไม่ต้องการให้เกมฺร์/กมีฺร์/ขะแมร์(Kmer) ก่อกบฏในอยุธยาอีก กััมพูชาจึงเป็นอาณานิคมของสยามมาหลายร้อยปี (อยุธยา-ธนบุรี-รัตนโกสินทร์) … โดยมี เวียดนาม และ ฝร่ังเศส เข้ามาแย่งชิงดินแดนนี้บ่อยครั้ง
: ค.ศ.1528 พระบรมราชาที่ 2 (พญาจันทน์) ปราบเจ้ากอง ได้สำเร็จ ซึ่งทั้งสองเป็นชาวเจนละน้ำที่ได้รัับการแต่งตั้งเป็นผูู้แทนพระองค์ฯ จากสยาม ได้ก่อกบฏต่อสยาม เม่ือได้รับชัยชนะจากเจ้ากองแล้วได้ย้ายเมืองหลวงจากจตุมุขไปยังเมือง ละแวก และได้รับการสนับสนุนจาก จีน และ โปรตุเกตุ ได้ก่อกบฏต่อสยามอีก (ขอมแปรพััักตร์) จึงถูก สมเด็จพระนเรศวรมหาราชแห่งสยามเข้าปราบปรามใน ค.ศ. 1593 (ไม่ใช่การรุกราน เป็นการปกครองภายในของสหพันธรัฐนครต่างๆ ของสยาม)
: ตามสนธิสััญญาเจนีวา ค.ศ.1868 (พ.ศ. 2411) ภายหลัังที่ไทยแพ้สงครามสงครามโลกครั้งที่2 ต้องจ่ายค่าปฏิมากรรมสงครามเป็นดินแดนประเทศ กัมพูชา(เจนละน้), ลาว, มาเลย์เซียตอนเหนือ, และคืนรัฐฉาน ให้ฝ่ายสัมพันธมิตรผู้ชนะสงคราม
: ค.ศ.1954 (พ.ศ.2497) กัมพูชาเพิ่งได้รับเอกราชจากฝรัั่งเศษก่อตั้งเป็นประเทศใหม่
: ค.ศ. 1975 ถึง ค.ศ. 1979 พล พต ผูู้นำเขมรแดง ได้รับอิทธิพลมาจากการปฏิวัติทางวัฒนธรรมตามนโยบายลัทธิเหมาจากจีน ผลักดันกัมพูชาสู่ลัทธิคอมมิวนิสต์ ได้ฆ่าล้างเผ่าพัันธ์ชาวขอมติดแผ่นดิน ราว 2 ล้านคน จากประชากรทั้งประเทศขณะนั้น ประมาณ 7 ล้านคน
ตอนที่ 3
: เกมฺร์/กมีฺร์/ขะแมร์(Kmer) ปัจจุบันก็ยังมี DNA เหมือนอินโดฯ ไม่มีเชื้อสายขอม ไม่ใช่เจ้าของผู้สร้างปราสาทนครวัด แต่กลัับถูกสลัักเป็นแรงงานทาสจากจามปา ในกำแพงนครวัด
: หลักฐานที่เรียกชาวกัมพูชาว่า "เขมร "เก่าที่สุด คือ ศิลาจารึก Ka. 64 ซึ่งเป็นศิลาจารึกสมัยก่อนเมืองพระนครวัด อายุราวพุทธศตวรรษที่ 12 กล่าวถึงทาสชาวเขมรโบราณไว้ว่า “(๑๓) กฺญุม เกฺมร โฆ โต ๒๐. ๒๐. ๗ เทร สิ ๒” คำว่า กฺญุม ในภาษาขอมโบราณสมัยก่อนพระนครหมายถึง ข้ารับใช้ ส่วนคำว่า เกฺมร (kmer) เมื่อรวมความหมายของคำว่า “กฺญุม เกฺมร” แล้ว จึงน่าจะแปลว่า “ข้ารับใช้ที่เป็นชาวเขมร” แสดงว่าชาวกัมพูชาเรียกตัวเองว่า เกฺมร (kmer) มาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 12 ก่อนที่จะพัฒนามาเป็นคำว่า เขฺมร (khmer) ในช่วงเขมรสมัยเมืองพระนคร และกลายเป็น แขฺมร ออกเสียงว่า แคฺมร์ (khmaer) ดังที่ปรากฏในภาษาเขมรปัจจุบัน ไม่คยรียกตนเองว่า ขอม และ ไม่มีคำว่าขอมในบันทึกใดในประวัติศาสตร์ของขะแมร์
: การตรวจพิสูจน์ DNA ชาวอุษาคเนย์ปััจจุบัน พบว่า คนไทย พม่า ลาว เวียดนาม คล้ายกันหมด … ยกเว้น ขะแมร์ กลับไปเหมือน อินโดเนเซีย (นาที 3:50)
: ศิลาจารึกที่หอคอยเชียงดาน เมืองกวางนัม ประเทศเวียดนาม เขมร คือ กมีร์ ไม่ใช่ ขอม
: หลักฐานที่แแสดงว่า อักษรตัวเลขของขะแมร์ปัจจุุบัน (ที่มาจาก ฮินดู-อาหรับ) เป็นฐาน 5
โดยหลักเหตุผลพื้นฐานทั่วไป และ วิวัฒนาการทางภาษาของมนุษยชาติ : ภาษาพูดของชะแมร์ปัจจุบัน จาก เขมรโบราณ ที่มาจากภาษาปัลลวะ ฐาน 10 นั้น ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่มนุุษน์จะมีวิวัฒนาการทางภาษาที่ลดลงเป็นฐาน 5
: ดังนั้น “เขมรโบราณ” ที่นิยายฝรั่งเศษบิดเบือนให้สวมรอยขอม นั้น จึงไม่ใช่เชิ้อสายชาว “ขะแมร์” ที่อยู่ในกัมพูชาปัจจุบัน
ตอนที่ 4
: สุริยวงศ์คือ ขอม(สยาม) บันทึกของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช บันทึกนี้อยู่ที่กรุงปารีส AME 854, ff 721 727
บันทึกของ "สมเด็จพระนารายณ์มหาราช" ที่ได้ทรงไปบอกเล่าถึงความเป็นมาของสายวงศ์พระองค์ต่อพระเจ้าหลุยส์ที่14 ณ กรุงปารีส รูปคำเป็นอักษรโรมัน
: วิกิพิเดีย ระบุว่า
พระเจ้าสูริยวรรมัน ต้นกำเนิดเมืองพระนครกัมโพช เป็นพระโอรสของพระมหากษัตริย์พระองค์หนึ่งแห่งตามพรลิงค์ ซึ่งเป็นเมืองขึ้นของอาณาจักรศรีวิชัย ตั้งอยู่ในแหลมมลายู ปัจจุบันอยู่ในประเทศไทย ส่วนพระมารดาเป็นเชื้อพระวงศ์ขอม ทำให้ทรงอ้างสิทธิที่จะสืบราชบัลลังก์เขมรแห่งอาณาจักรพระนคร
: บันทึกที่กรุงปารีส หอจดหมายเหตุของคณะบาทหลวง Missions Estrangere de Paris (AME 854, ff.721-727) รูปคำเป็นอักษรโรมัน ว่า “สุริยวงศ์” คือ ขอม (สยาม) ผู้สร้างและปกครองกรุงสุโขทัย
: ฝรั่งเศส บอกเอง "ขะแมร์/กมีรฺ/เกฺมร (kmer) เป็นเมืองขึ้นสยาม" สยามส่งครูไปสอนนาฏศิลป์ให้เขมร
: ต้นแบบ หัวโขนขะแมร์ทำจากกะลามะพร้าว คริสตศตวรรษที่ 19 แสดงในพิพิทธภันฑ์รัสเซีย
: นครวัดจำลองในฝรั่งเศสติดป้ายว่า SIAM
: ปราสาทบายนจำลอง ที่ปารีส ฝรั่งเศส ติดป้ายว่า SIAM
: ฮิเดโกะ ซาซากาวา นักวิชาการญี่ปุ่น ลงบทความว่า วัฒนธรรมขะแมร๋ มาจากไทย แต่ใช้วาทกรรมของฝรั่งเศสและนักวิชาการขะแมร์เอง ในการอ้างเคลมวัฒนธรรมไทย
: หากใช้แอ๊พฯชื่อดัง ของนักล่าอาณานิคมหมาหมู่ ค้นหาข้อมููลด้วยคำว่า “KHOMs” ระบบของแอพฯ นั้น จะเปลี่ยนไปค้นหาคำว่า “Khmer” เอง โดยอัตโนมัต
: คนไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะพระสงฆ์เกจิสายวิปัสนา เชื่อว่า นักล่าอาณานิคมหมาหมู่ บิดเบือนประวัติศาสตร์ ด้อยค่าศิลปะวัฒนธรรมความเข้มแข็งความเป็นชาติ ของไทย
ฝรั่งเศส สร้างเรื่องลวงโลก ให้ แรรงงานขะแมร์ในเจนละน้ำ สวมรอย ขอม
อังกฤษ สร้างเรื่องลวงโลก ให้ อินเดีย เป็นแหล่งกำเนิดศาสนาพุุทธ สวมรอย อุษาคเนย์
อเมริกา สนับสนุนเรื่องลวงโลกของสองชาตินักล่าอาณานิคมหมาหมู่ โดยใช้ดอลล่าร์ที่ิพิมพ์เพิ่มได้เสมือนไม่จำกัด มาสนับสนุนด้อยค่าชาติอุุษาคเนย์และทั่วโลก ให้พวกตนเองเหนือกว่า โดยมี เยอรมัน, อียู/นาโต้, แคนาดา, ออสเตรเลีย, ญี่ป่น, เกาหหลีใต้, ไต้หวัน, สิงคโปร์, องค์กรสากล อาทิ สหประชาชาติ, ธ.โลก, ไอเอ็มเอฟ, ทริสต์เรทติ่ง, และสำนักข่าวต่างๆของตะวันตก, ฯลฯ เป็นฐานสนับสนุนการดำเนินการตามนโยบายภูมิรัฐศาสตร์
::: แผนที่อาณาจักรสยาม โดยมหาวิทยาลันแคมบริจท์ สหราชอาณาจักร ค.ศ.1890/พ.ศ.2433 :::
(ที่ไม่ใช่นิยายของฝรั่งเศส)
นาที 2:51 :
th-cam.com/video/fmOE_W2r1ik/w-d-xo.html
.....................................................................................................
::: แผนที่ นายเจมส์ แม็คคาร์ธี (James McCarthy) แสดงอาณาจักรสยาม พ.ศ. 2428 :::
(ที่ไม่ใช่นิยายของฝรั่งเศส)
th-cam.com/video/2yVfEfpM4sY/w-d-xo.html
www.silpa-mag.com/history/article_64436
.....................................................................................................
::: แผนที่สยามของชาวอังกฤษเก่าแก่สุด พิมพ์ที่กรุงลอนดอน ราว ค.ศ. 1678-9/พ.ศ. 2221-2 :::
www.silpa-mag.com/history/article_34930
.....................................................................................................
คำว่าเขมรตามหลักบทเรียนสากล คือ ไพร่หรือทาสที่ถูกนำมาใช้แรงงาน
เขมรไม่เคยมีกษัตริย์ของตนเอง
อาณาจักรของใครใหญ่ ของใครเล็กให้ดูที่ภาษา ภาษาไทย70ล้านคน ภาษาเขมรแค่16-17ล้านคน ลาว7-8ล้านคน พม่าก็ไม่ถึง70ล้านคน ที่กล่าวมานี้พูดคนละภาษาก็หมายถึงคนละประเทศมีลาวเท่านั้นที่มีภาษาใกล้เคียงกับไทนนอกนั้นคนละเรื่อง
ไม่มีหรอกอารยะธรรมเขมรมีแต่อารยะธรรมขอมสยาม เพราะคนสยามตั้งถิ่นฐานอยู่ตามลุ่มแม่น้ำแม่กลองท่าจีนเจ้าพระยาและอื่นๆก่อนยุคหินใหม่เสียอีกจนขยายไปแถบอิสาน และเปลี่ยนกันปกครองตามความเข้มแข็งของเจ้าเมืองและประชากรเพิ่มมากขึ้นจากการค้าขายระหว่างเมืองอื่นจากส่วนต่างๆของโลก
ให้กำลัง❤❤❤❤นะ
0:20 ขอม ขรอม กรอม ลิ้นใครลิ้นมัน?
ขอมคือตำแหน่งขุนนางก่อนมาเป็นพญา
เป็นทาสพระวรมัน ดีแค่ไหนแล้ว
เพราะพระองค์เป็นพระโพธิสัตว์..
ช่วยกันหยุดใช้คำว่า“เขมรโบราณ”เถอะครับ เราปล่อยให้พวกนักวิชาเกินไทยสอนมาผิดๆ ตัอวรื้อใหม่ทั้งหทด
บรรพบุรุษที่เขมรควรกราบไหว้ที่สุดคือ ฝรั่งเศส 555
เขมรมันรู้เรื่องสงครามโลกครั้งที่2ไหม ผมโครตสงสัย
เหมนเอ๋ยเหมนอ้างว่าอดีต ปัจจุบันก็ให้มีอยู่มีกินสะก่อน
เขมรนี่มันฝันกลางวันเนาะ กูกรอก Google ก็มี เคยรู้จะเรียนทะเลาะอยู่นั่นแหละกลับไทย
ไม่เครมพี่ใหญ่จีนงมั้ง เครมเวียนนามด้วย😄🙂
ไมรู้ครับ เมื่อก่อนไม่มีไทยไม่มีเขมรไม่มีกัมพูชาไม่มีเวียตนามมีแต่เมืองโน้นเมืองนี้ ผ่านกาลเวลานับพันๆปี
สงครามเท่า นั้น ที่ทำให้โลกสงบ สุข เราต้องการสองคราม
คนเวียดนามคือส่วนหนึ่งของชนเผ่าแย่ ในประเทศจีนหรือเปล่าครับ
สามสิบปีก่อน ในประเทศจีนเซี่ยงไฮ้ ได้มีโอกาสคุยกับศาสตราจารย์ เกี่ยวกับประเทศไทยว่า ภาษาพูดของคนบางกอกกับอยุธยาต่างกันตรงไหน
ก่อนกรุงแตกครั้งที่สอง บางกอกเป็นเมืองที่ทำหารฝรั่งและ ชาวจีนกับคนอยุธยา อพยพมาที่บางกอก ตอนพม่าเริ่มเข้ามา ยึดเมืองกาญจน์ เป็นจดหมายของชาวจีน เขียนว่า คนอยุธยาพูดแตกต่างคนสุพรรณ สรุป ภาษาพูดของคนกรุงเทพ หรือบางกอกปัจจุบัน คือสำเนียงพูดเช่นเดียวกับคนกรุงเทพยุค ปัจจุบัน
การศึกษาสำคัญนะ เหม็น 😅😅
น่าสงสาร พวกกะมีย์
ขอม น่าจะเป็นคน สุโขทัย ขอมดำดิน เพราะสุโขทัย มีวัดวาอารามเยอะ
เหมนมี อดีต มีปัจจุบัน แต่ไร้อนาคต
มาฟังคนพิมายพูด เป็นอำเภอเดียวที่สำเนียงเป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนใครในโคราช สัณนิษฐานว่านีคือสำเนียงขอมที่เพี้ยนมาเป็นสำเนียงพิมายในปัจจุบัน
ลูกบักแตงหวานเอ้ย
Không bao giờ có đế chế giả, chỉ có đế quốc Khmer. Đừng lộn xộn quá. Người Campuchia tốt mà lại muốn đồ của người khác.
กัมพูชาจะเสียประเทศเพราะฮุนมาเนตเนี่ยแหละ