ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
ขอบคุณที่มารีวิวให้ฟังค่ะ เคยได้ขวดทดลอง L'Ombre Dans L'Eau มาสัก 4-5 ปีแล้ว ตอนนั้นด้วยความชื่อยากและไม่ได้อ่านข้อมูลเกี่ยวกับกลิ่นนี้เลย ฉีดครั้งแรกแล้วที่ให้จำกลิ่นนี้ได้คือความกลิ่นสัปปะรดเขียวๆ ตอนนั้นคือเออ! กลิ่นแปลกน่าสนใจไม่เหมือนน้ำหอมกลิ่นแนวฟลอรัลที่ใช้ประจำ จนเข้าหน้าฝนปีนี้เลยไปตามหาเพราะรู้สึกว่ากลิ่นนี้ทำให้คิดถึงฝนตกในป่าเขา ด้วยความจำชื่อไม่ได้เลยบอกที่ช็อปว่ากลิ่นเหมือนสัปปะรด 555 น้องคนขายงงเลย แต่ก็ให้ลองดมหลายกลิ่นนะ จนถึงกลิ่นนี้แบบ edt น้องเค้าบอกเป็นกลิ่นแบล็คเคอเรนท์ ดมไปก็อืมใช่จริงด้วยแถมมีความเขียวๆ เหมือนตัดหญ้าหรือบดใบไม้เขียวๆ ด้วย แต่ใดๆ คือยอมรับเหมือนกันค่ะว่า Diptyque เป็นน้ำหอมที่ต้องค่อยๆ ใช้ไปแล้วจะรัก และคิดว่าต้องขี้นกับอุณหภูมิด้วย
จริงมากค่ะ ต้องเป็นคนที่ชอบกลิ่นเขียวแบบป่าเขาประมาณนึง และไม่สามารถใช้ติดต่อกันนานๆ โดยเฉพาะตอนอากาศร้อนบ้านเราขอบคุณที่มาแชร์ประสบการณ์นะคะ🙏💚
สวัสดีค่ะ พึ่งเริ่มติดตามเจ้าของช่องยังดูไปได้ไม่กี่คลิป จะบอกว่าชอบวิธีบรรยายมากเลยค่ะ มันดูมีความกะเทยๆ(in a good way)ที่รู้สึกconnected เวลาที่หลับตาแล้วบรรยายถึงบรรยากาศแล้วตัวเองก็เผลอก็หลับตาตามไปด้วย ไม่รู้ทำไม555 ส่วนตัวพึ่งเริ่มเข้าวงการน้ำหอมค่ะ เพราะว่าเคยซื้อมาแล้วตอนเช้ารีบๆออกจากห้องแล้วชอบลืมฉีด เป็นสายเทียนหอม diffuser essential oil ซะเยอะ แต่พอได้ลองเทียนdiptyque แล้วมันรู้สึกอินยังไงไม่รู้ค่ะบอกไม่ถูก ความอาร์ทความติสท์ใดๆ ปกติจะเป็นสาย fresh floral citrus พอลองน้ำหอมของนางแล้วรู้สึกชอบท่ีมันมีความติดเขียวๆๆ มันทำให้รู้สึกว่ากลิ่นเป็นกลิ่นจริงอะค่ะ ตอนแรกไม่ได้ชายตามอง EDTเลย เพราะรู้สึกว่ามันไม่น่าจะทน ตอนที่ไปลองที่ชอปเลยลองแต่ EDP กลิ่นแรกที่รับเข้าบ้านมาคือ eau capitale ค่ะ ตอนเลือกก็ลังเลๆ กับ lombre dans leau แต่ผิวเราเลือก eau capitale มากๆ กลิ่นฟุ้งกระจายสุดๆ อาบน้ำแล้วกลิ่นยังอยู่ ออกแนวกุหลาบเขียวๆ มีติดแป้งเล็กๆ ฉีดแล้วรู้สึกแบบเราเป็นคนสวย ชูคอเป็นหงส์สุดๆ เริ่ดๆเชิดๆ อธิบายไม่ถูกเหมือนกันค่ะว่ากลิ่นเป็นยังไง แต่เป็นความรู้สึกสวยๆหรูๆ 5555 มันไม่เหมือน eau rose EDP ตรงที่ eau rose มันก็เป็นกุหลาบที่หอม มีความเขียวๆชื้นๆเบาๆแบบที่ชอบแหละ แต่มันยังรู้สึกดีแบบธรรมดา แต่ eau capitale มันรู้สึกพิเศษยังไงไม่รู้ค่ะ ส่วน lombre dans leau ก็ชอบนะคะ คงซื้อเป็นกลิ่นต่อไป ตอนที่ไปลองเหมือนกลิ่นเขียวๆที่ออกฉ่ำน้ำ อาจจะเพราะว่าลองตอนไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วได้ไปเดินในสวนที่ชื้นๆหลังฝนตกอะไรแบบนี้ด้วยค่ะ มันเลยอินเป็นพิเศษ ได้กลิ่นแล้วมันนึกถึงบรรยากาศที่เคยไปเที่ยว แต่เดี๋ยวคงหามาลองในอากาศประเทศไทยอีกทีค่ะไม่รู้จะรอดไหม ยัยeau capitale มาเจออากาศประเทศไทยก็แอบจ๋อยเหมือนกันค่ะ เจอความร้อนแล้วอันตรธานหายหมดเลย รู้สึกไม่ค่อย practicalเท่าไหร่ปัญหาคือตอนที่ซื้อมาเค้าก็ให้ samples มาให้ลอง ขอกลิ่น eau des sens มา จริงๆชอบกลิ่นนี้เพราะชอบเทียนกลิ่นเดียวกันคือ choisya ค่ะ มันเป็นกลิ่นส้มที่ออกสีเขียวขมๆเล็กๆ มันให้ความรู้สึกเป็นส้มจริงๆ ส้มทั้งต้น กิ่งก้านใบชะชะใบก้านกิ่ง อารมนั้นเลยค่ะ แต่ไม่ได้เหลียวแลนางตอนแรกเพราะคิดว่านางเป็น EDT แต่พอลองแล้วก็รู้สึกว่ามันก็ไม่ได้แย่ แล้วเราก็ไม่ได้จำเป็นต้องให้กลิ่นมันอยู่กับเราทนนานอะไรขนาดนั้นอะค่ะ เหมือนเริ่มปลงตก ถ้าชอบกก็ใช้ไปเถอะ คิดซะว่าน้ำหอมเป็นการแต่งตัวอีกองค์ประกอบนึง ต่อมานางก็เลยได้ลัดคิวเป็นกลิ่นที่สามในเวลาอันนั้นค่ะส่วนกลิ่นที่สองที่ได้มาของบ้านนี้คือ leau du trentre quartre ค่ะ เค้าบอกว่าเป็นกลิ่น ของ 34 boulevard ในversion leau คือเราเคยดมเทียน34แล้วก็ชอบมากก มันมีความเขียวๆ สดชื่นเบาๆ แต่ก็ดูมีอะไร ประเด็นคือตอนไปหาดมที่ชอปญปคือไม่มีเลย เจอแต่ version EDP/EDT ซึ่งดมแล้วแบบ อึนมาก แต่เห็นกลิ่นนี้ขายในกลุ่มTFL แล้วรู้สึกแบบ เออเราต้องเอฟแล้วแหละ ถึงจะ blind bought ก็ตาม เพราะมันฟิวดูหายาก + อ่านรีวิวแล้วเออมันน่าจะรอดอยู่นะ พอได้มาก็ดีใจมากๆเลยค่ะที่ไม่เสียตังฟรี 5555 มันมีความเขียวเบาๆ เขียวสว่างๆ เหมือนป่ามอสที่โปร่งๆ ชื้นเล็กๆ แล้วแดดจ้าๆ กลิ่นนี้ก็เป็นอีกกลิ่นที่ทำให้เปิดใจกับEDT เลยคิดว่าเดี๋ยวมีเวลาคงต้องไปลอง EDT บ้านนี้บ้างแล้วค่ะกลิ่นอื่นที่ได้ลองมาอีกคือ doson EDT/EDP อันนี้ก็เป็นดอกไม้ขาวที่จริงนะคะ แต่รู้สึกไม่เข้ากับตัวเอง leau papier ก็ยูนีคมากๆๆค่ะ หอมสะอาดๆ แบบแปลกๆ แต่ติดที่ไม่ค่อยทนเท่าไหร่ส่วนน้ำหอมที่จขชมีเราเคยลองphilosykos EDT มันเขียวเหมือนเอาใบไม้มาขยี้แล้วมันเหมือนติดมะพร้าวๆเบาๆอะค่ะ ส่วนตัวชอบเขียวชื้นๆมากกว่าเลยยังไม่ใช่เท่าไหร่ เดี๋ยวไว้จะไปลองกลิ่นอื่นบ้างค่า
ขอบคุณมากๆที่มาแชร์ให้ฟังกันหลายกลิ่นเลย บรรยายเห็นภาพ รูป รส กลิ่น สัมผัสชัดมากค่ะEAU Capitale เคยมีแล้วลองฉีดอยู่ในห้อง มีคนแปลกหน้าได้กลิ่นแล้วทักว่า "กลิ่นอะไรอะ หอมมจัง!" กลิ่นกุหลาบแห้งฟุ้งแป้งฝุ่นๆติดเขียวขม กระจายตัวดีมาก บางทีได้ฟีลเหมือนอยู่บนเรือไททานิก มโนเป็นแจ๊คโรส Tragedy ไปอีกก่ช่วงหลังๆเริ่มเบื่อกลิ่นแนวกุหลาบเลยปล่อยต่อไปแล้ว eau des sensก็หอมหวานโทนดอกส้มหวานเฟรชละมุนใช้ง่ายเทียนdiptyque ที่เคยใช้ชอบ BAIES ค่ะ หอมแบบเดียวกับน้ำหอมกลิ่น Leau du trentre บรรยายได้น่าสนใจค่ะไว้มีโอกาสคงได้ลอง🙏💚🥰
@@hittothescent รู้สึกว่า eau capitale มันใช้ยากเหมือนกันนะคะ แบบ ดูเป็นfall/winter fragance แต่อากาศเมืองไทยนั้น… แหะๆ แต่คิดว่าคงเก็บเป็นที่ระลึกว่าเป็นน้ำหอมขวดแรกที่ซื้อจริงจัง+เผื่อใช้ในโอกาสพิเศษๆค่ะ ส่วนเทียนbaies เคยไปดมแล้วรู้สึกว่ามันหวานกว่าlombre dans leauไปหน่อย แต่เดี๋ยวจะลองกลับไปดมอีกครั้งค่ะ เผื่อต่อมรับกลิ่นจะเปิดมากขึ้นแล้ว 😂
@@alanukmas9727 เหมาะเป็นน้ำหอมออกงานกลางคืนมากค่ะส่วนเทียนจะติดเขียวน้อยกว่าน้ำหอม และ fruityมากกว่าค่ะ
กลิ่นphilosycos เราจับได้กลิ่นมะพร้าวนวลๆๆหวานนิดๆมาด้วย บางแว่บความเขียวมาด้วย แต่เคมีตัวเราได้มะพร้าวอันดับต้นๆเลย อีกตัวคือeau moheli นี่ก็หอมๆๆค่ะ ส่วนpapier มันกระดาษชัดๆเลยดีเอ็นเอคล้ายๆแบรนด์อื่นที่มี
ขอบคุณที่มาแชร์ประสบการณ์ความหอมนะคะ Philosykos เราจับได้มะพร้าวชัดมากในเวอร์ชั่น EDP😆😆
ชอบ เออโดเล่ เหมือนกันเลยค่ะ ไม่หวานเลี่ยน ใช้หน้าหนาวฟินมากกกค่ะ เค้ามีความเย็นๆๆหวานปนเย็น ส่วนตัวไม่ชอบน้ำหอมแนววานิลลานะ แต่ตัวนี้มันกลมกล่อม มีเสน่ห์ เย็นสบาย ส่วนตัวเรากลิ่นสไปซี่ไม่ค่อยออกนะ
ชอบมากค่ะ วานิลลาที่ใช้งานง่ายได้ทุกสภาพอากาศ เคมีผิวเราจับได้พริกไทยนุ่มๆไม่ชัดมากค่ะ แต่เสริมมิติกลิ่นได้ดีงาม
ชอบการบรรยายแต่ละกลิ่นจังเลยค่ะ ฟังไปจินตนาการตามไปด้วย สนุกดีฟังแล้วอยากไปเสียตังค์ตามPhilosykos เราว่าเหมือน มะเดื่อตกบนดินชุ่มๆ ในป่า ฉีดตอนนอนให้ฟีลดีค่ะ
กลิ่นนี้เพิ่งเป็นลูกรักกลิ่นใหม่ในปีนี้ ทั้งที่แต่ก่อนเคยไม่ชอบ เข้าบรรยากาศช่วงฝนตกพอดี เหมาะฉีดผ่อนคลายก่อนนอน มากกว่าใส่ไปทำงาน😆😆
@@hittothescent ใส่ไปทำงานเดี๋ยวคนจะหาว่าไปเข้าป่าเก็บของป่ามารึเปล่า😆 หลายกลิ่นดิปทีคเหมาะกับคน Introvert อย่างที่บรรยายเลยค่ะ สำหรับคนชอบดื่มด่ำกลิ่นเพื่อผ่อนคลายคนเดียว ไม่ได้ชวนเรียกร้องความสนใจเท่าไหร่
@@sungorratai เห็นด้วยทุกประการค่ะ💚😄😄
คุณหยาซื้อตัวแบ่งจากร้านไหนคะ ตอนนี้หาไม่ค่อยมีคนลงแบ่งขายเท่าไหร่
ในshopeeมีหลายร้านอยู่นะคะ ลองsearch ดู เท่าที่จำได้มี unbox_perfume ไม่รู้จำชื่อผิดรึเปล่า
ขอบคุณมากๆเลยคะ@@hittothescent
บ้านDiptyqueสำหรับผม ธรรมดามาก และราคาก็เอาเรื่องผมลองทุกตัว ไม่เคยประทับใจเลย ยอม กระโดดข้ามไปบ้านที่ตัวตึง ราคาใกล้กัน แต่กลิ่นชนิดที่สะกดคนแปลกหน้า และ กระจายตัวดี ไม่ซ่ำใคร อย่างเช่นบ้าน Thameen ,Agatho,Athens และJorum studio รับรองไม่ซ่ำใคร แน่นอนในประเทศไทยครับ
ขอบคุณที่แนะนำค่ะ เคยไม่ชอบ Diptyque มาก่อน แต่คงขึ้นอยู่กับจริตความชอบ เคมีผิว ในแต่ละปี แต่ละช่วงเวลา ทำให้กลับมาชอบในที่สุด
@@hittothescent เคมีผิวสำคัญมากแต่ยุคนี้จิตต้องแข็ง ทั้งการตลาดืและอินฟู จูงใจสูงมากด้วยครับ
@@drinkpokcome5416 ส่วนตัว Influencer มีผลแค่ชวนให้อยากลอง แต่จะชอบหรือไม่ซื้อตามรึเปล่าขึ้นอยู่กับจริตส่วนตัวล้วนๆ😆
@@hittothescent ใช่ครับผมต้องไปลองลงผิว แล้วใช้เวลาอยู่กับกลิ่น ทั้งวัน ถ้าถูกกับผิว ค่อยกลับไปซื้อจริงครับ เพราะน้ำหอมมีราคา ไม่อยากซื้อแล้วไม่ชอบจริงจะพาให้ไม่ได้ใช้งาน😜
โอ้โฮ!อธิบายจนเห็นภาพเลย น่าจะไปเขียนนวนิยายคงจะรุ่งมากค่ะ😂😂😂
เคยเขียนในเว็บ Dek-d.com อยู่หลายเรื่องสมัยเรียนค่า ตีพิมพ์บ้างนิดหน่อย ตอนนี้เริ่มอยากกลับมาเขียนใหม่พอทำยูทูป🤣
Tam dao edt กับ Erawan by Dusita คล้ายๆกันไหมครับ ชอบตัวไหนมากกว่ากันครับ
กลิ่นไปคนละทางเลยค่ะ Tamdao edt มีความ dark creamy woody ที่ชูโรง Sandalwood ในป่าดิบชื้น มีดอกไม้ป่าแทรกความหวาน และติดเขียวต้นไม้ใบหญ้าในป่าที่ออกขม ไม่ได้มาโทน Aromatic สว่างสดใสERAWAN DUSITA ออกเป็น GREEN EARTHY WOODY+AROMATIC ที่ให้ความสว่างนวลหวาน ไม้ CEDAR โทนสะอาดตอนท้ายถ้าเทียบ 2ตัวนี้ ในแง่การใช้งานจะชอบ ERAWAN มากกว่า เพราะกลิ่นเป็นมิตรและใช้ได้หลายโอกาสแต่ถ้าในแง่ความชอบส่วนตัวที่นับความเป็นเอกลักษณ์ ป่าเขาเขียวเข้ม และในหน้าฝน ขอยกให้ tamdao edt
กลัวขวดจิ๋วจะระเหยก่อนสิ้นปีครับ 😂😂
บางขวดเก็บข้ามปียังเต็มแน่นอยู่เลย😆
ขอบคุณที่มารีวิวให้ฟังค่ะ เคยได้ขวดทดลอง L'Ombre Dans L'Eau มาสัก 4-5 ปีแล้ว ตอนนั้นด้วยความชื่อยากและไม่ได้อ่านข้อมูลเกี่ยวกับกลิ่นนี้เลย ฉีดครั้งแรกแล้วที่ให้จำกลิ่นนี้ได้คือความกลิ่นสัปปะรดเขียวๆ ตอนนั้นคือเออ! กลิ่นแปลกน่าสนใจไม่เหมือนน้ำหอมกลิ่นแนวฟลอรัลที่ใช้ประจำ จนเข้าหน้าฝนปีนี้เลยไปตามหาเพราะรู้สึกว่ากลิ่นนี้ทำให้คิดถึงฝนตกในป่าเขา ด้วยความจำชื่อไม่ได้เลยบอกที่ช็อปว่ากลิ่นเหมือนสัปปะรด 555 น้องคนขายงงเลย แต่ก็ให้ลองดมหลายกลิ่นนะ จนถึงกลิ่นนี้แบบ edt น้องเค้าบอกเป็นกลิ่นแบล็คเคอเรนท์ ดมไปก็อืมใช่จริงด้วยแถมมีความเขียวๆ เหมือนตัดหญ้าหรือบดใบไม้เขียวๆ ด้วย แต่ใดๆ คือยอมรับเหมือนกันค่ะว่า Diptyque เป็นน้ำหอมที่ต้องค่อยๆ ใช้ไปแล้วจะรัก และคิดว่าต้องขี้นกับอุณหภูมิด้วย
จริงมากค่ะ ต้องเป็นคนที่ชอบกลิ่นเขียวแบบป่าเขาประมาณนึง และไม่สามารถใช้ติดต่อกันนานๆ โดยเฉพาะตอนอากาศร้อนบ้านเรา
ขอบคุณที่มาแชร์ประสบการณ์นะคะ🙏💚
สวัสดีค่ะ พึ่งเริ่มติดตามเจ้าของช่องยังดูไปได้ไม่กี่คลิป จะบอกว่าชอบวิธีบรรยายมากเลยค่ะ มันดูมีความกะเทยๆ(in a good way)ที่รู้สึกconnected เวลาที่หลับตาแล้วบรรยายถึงบรรยากาศแล้วตัวเองก็เผลอก็หลับตาตามไปด้วย ไม่รู้ทำไม555
ส่วนตัวพึ่งเริ่มเข้าวงการน้ำหอมค่ะ เพราะว่าเคยซื้อมาแล้วตอนเช้ารีบๆออกจากห้องแล้วชอบลืมฉีด เป็นสายเทียนหอม diffuser essential oil ซะเยอะ แต่พอได้ลองเทียนdiptyque แล้วมันรู้สึกอินยังไงไม่รู้ค่ะบอกไม่ถูก ความอาร์ทความติสท์ใดๆ
ปกติจะเป็นสาย fresh floral citrus พอลองน้ำหอมของนางแล้วรู้สึกชอบท่ีมันมีความติดเขียวๆๆ มันทำให้รู้สึกว่ากลิ่นเป็นกลิ่นจริงอะค่ะ ตอนแรกไม่ได้ชายตามอง EDTเลย เพราะรู้สึกว่ามันไม่น่าจะทน ตอนที่ไปลองที่ชอปเลยลองแต่ EDP กลิ่นแรกที่รับเข้าบ้านมาคือ eau capitale ค่ะ ตอนเลือกก็ลังเลๆ กับ lombre dans leau แต่ผิวเราเลือก eau capitale มากๆ กลิ่นฟุ้งกระจายสุดๆ อาบน้ำแล้วกลิ่นยังอยู่ ออกแนวกุหลาบเขียวๆ มีติดแป้งเล็กๆ ฉีดแล้วรู้สึกแบบเราเป็นคนสวย ชูคอเป็นหงส์สุดๆ เริ่ดๆเชิดๆ อธิบายไม่ถูกเหมือนกันค่ะว่ากลิ่นเป็นยังไง แต่เป็นความรู้สึกสวยๆหรูๆ 5555 มันไม่เหมือน eau rose EDP ตรงที่ eau rose มันก็เป็นกุหลาบที่หอม มีความเขียวๆชื้นๆเบาๆแบบที่ชอบแหละ แต่มันยังรู้สึกดีแบบธรรมดา แต่ eau capitale มันรู้สึกพิเศษยังไงไม่รู้ค่ะ
ส่วน lombre dans leau ก็ชอบนะคะ คงซื้อเป็นกลิ่นต่อไป ตอนที่ไปลองเหมือนกลิ่นเขียวๆที่ออกฉ่ำน้ำ อาจจะเพราะว่าลองตอนไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วได้ไปเดินในสวนที่ชื้นๆหลังฝนตกอะไรแบบนี้ด้วยค่ะ มันเลยอินเป็นพิเศษ ได้กลิ่นแล้วมันนึกถึงบรรยากาศที่เคยไปเที่ยว แต่เดี๋ยวคงหามาลองในอากาศประเทศไทยอีกทีค่ะไม่รู้จะรอดไหม ยัยeau capitale มาเจออากาศประเทศไทยก็แอบจ๋อยเหมือนกันค่ะ เจอความร้อนแล้วอันตรธานหายหมดเลย รู้สึกไม่ค่อย practicalเท่าไหร่
ปัญหาคือตอนที่ซื้อมาเค้าก็ให้ samples มาให้ลอง ขอกลิ่น eau des sens มา จริงๆชอบกลิ่นนี้เพราะชอบเทียนกลิ่นเดียวกันคือ choisya ค่ะ มันเป็นกลิ่นส้มที่ออกสีเขียวขมๆเล็กๆ มันให้ความรู้สึกเป็นส้มจริงๆ ส้มทั้งต้น กิ่งก้านใบชะชะใบก้านกิ่ง อารมนั้นเลยค่ะ แต่ไม่ได้เหลียวแลนางตอนแรกเพราะคิดว่านางเป็น EDT แต่พอลองแล้วก็รู้สึกว่ามันก็ไม่ได้แย่ แล้วเราก็ไม่ได้จำเป็นต้องให้กลิ่นมันอยู่กับเราทนนานอะไรขนาดนั้นอะค่ะ เหมือนเริ่มปลงตก ถ้าชอบกก็ใช้ไปเถอะ คิดซะว่าน้ำหอมเป็นการแต่งตัวอีกองค์ประกอบนึง ต่อมานางก็เลยได้ลัดคิวเป็นกลิ่นที่สามในเวลาอันนั้นค่ะ
ส่วนกลิ่นที่สองที่ได้มาของบ้านนี้คือ leau du trentre quartre ค่ะ เค้าบอกว่าเป็นกลิ่น ของ 34 boulevard ในversion leau คือเราเคยดมเทียน34แล้วก็ชอบมากก มันมีความเขียวๆ สดชื่นเบาๆ แต่ก็ดูมีอะไร ประเด็นคือตอนไปหาดมที่ชอปญปคือไม่มีเลย เจอแต่ version EDP/EDT ซึ่งดมแล้วแบบ อึนมาก แต่เห็นกลิ่นนี้ขายในกลุ่มTFL แล้วรู้สึกแบบ เออเราต้องเอฟแล้วแหละ ถึงจะ blind bought ก็ตาม เพราะมันฟิวดูหายาก + อ่านรีวิวแล้วเออมันน่าจะรอดอยู่นะ พอได้มาก็ดีใจมากๆเลยค่ะที่ไม่เสียตังฟรี 5555 มันมีความเขียวเบาๆ เขียวสว่างๆ เหมือนป่ามอสที่โปร่งๆ ชื้นเล็กๆ แล้วแดดจ้าๆ กลิ่นนี้ก็เป็นอีกกลิ่นที่ทำให้เปิดใจกับEDT เลยคิดว่าเดี๋ยวมีเวลาคงต้องไปลอง EDT บ้านนี้บ้างแล้วค่ะ
กลิ่นอื่นที่ได้ลองมาอีกคือ doson EDT/EDP อันนี้ก็เป็นดอกไม้ขาวที่จริงนะคะ แต่รู้สึกไม่เข้ากับตัวเอง leau papier ก็ยูนีคมากๆๆค่ะ หอมสะอาดๆ แบบแปลกๆ แต่ติดที่ไม่ค่อยทนเท่าไหร่
ส่วนน้ำหอมที่จขชมีเราเคยลองphilosykos EDT มันเขียวเหมือนเอาใบไม้มาขยี้แล้วมันเหมือนติดมะพร้าวๆเบาๆอะค่ะ ส่วนตัวชอบเขียวชื้นๆมากกว่าเลยยังไม่ใช่เท่าไหร่ เดี๋ยวไว้จะไปลองกลิ่นอื่นบ้างค่า
ขอบคุณมากๆที่มาแชร์ให้ฟังกันหลายกลิ่นเลย บรรยายเห็นภาพ รูป รส กลิ่น สัมผัสชัดมากค่ะ
EAU Capitale เคยมีแล้วลองฉีดอยู่ในห้อง มีคนแปลกหน้าได้กลิ่นแล้วทักว่า "กลิ่นอะไรอะ หอมมจัง!" กลิ่นกุหลาบแห้งฟุ้งแป้งฝุ่นๆติดเขียวขม กระจายตัวดีมาก บางทีได้ฟีลเหมือนอยู่บนเรือไททานิก มโนเป็นแจ๊คโรส Tragedy ไปอีกก่ช่วงหลังๆเริ่มเบื่อกลิ่นแนวกุหลาบเลยปล่อยต่อไปแล้ว eau des sensก็หอมหวานโทนดอกส้มหวานเฟรชละมุนใช้ง่าย
เทียนdiptyque ที่เคยใช้ชอบ BAIES ค่ะ หอมแบบเดียวกับน้ำหอม
กลิ่น Leau du trentre บรรยายได้น่าสนใจค่ะไว้มีโอกาสคงได้ลอง🙏💚🥰
@@hittothescent รู้สึกว่า eau capitale มันใช้ยากเหมือนกันนะคะ แบบ ดูเป็นfall/winter fragance แต่อากาศเมืองไทยนั้น… แหะๆ แต่คิดว่าคงเก็บเป็นที่ระลึกว่าเป็นน้ำหอมขวดแรกที่ซื้อจริงจัง+เผื่อใช้ในโอกาสพิเศษๆค่ะ ส่วนเทียนbaies เคยไปดมแล้วรู้สึกว่ามันหวานกว่าlombre dans leauไปหน่อย แต่เดี๋ยวจะลองกลับไปดมอีกครั้งค่ะ เผื่อต่อมรับกลิ่นจะเปิดมากขึ้นแล้ว 😂
@@alanukmas9727 เหมาะเป็นน้ำหอมออกงานกลางคืนมากค่ะ
ส่วนเทียนจะติดเขียวน้อยกว่าน้ำหอม และ fruityมากกว่าค่ะ
กลิ่นphilosycos เราจับได้กลิ่นมะพร้าวนวลๆๆหวานนิดๆมาด้วย บางแว่บความเขียวมาด้วย แต่เคมีตัวเราได้มะพร้าวอันดับต้นๆเลย อีกตัวคือeau moheli นี่ก็หอมๆๆค่ะ ส่วนpapier มันกระดาษชัดๆเลยดีเอ็นเอคล้ายๆแบรนด์อื่นที่มี
ขอบคุณที่มาแชร์ประสบการณ์ความหอมนะคะ Philosykos เราจับได้มะพร้าวชัดมากในเวอร์ชั่น EDP😆😆
ชอบ เออโดเล่ เหมือนกันเลยค่ะ ไม่หวานเลี่ยน ใช้หน้าหนาวฟินมากกกค่ะ เค้ามีความเย็นๆๆหวานปนเย็น ส่วนตัวไม่ชอบน้ำหอมแนววานิลลานะ แต่ตัวนี้มันกลมกล่อม มีเสน่ห์ เย็นสบาย ส่วนตัวเรากลิ่นสไปซี่ไม่ค่อยออกนะ
ชอบมากค่ะ วานิลลาที่ใช้งานง่ายได้ทุกสภาพอากาศ เคมีผิวเราจับได้พริกไทยนุ่มๆไม่ชัดมากค่ะ แต่เสริมมิติกลิ่นได้ดีงาม
ชอบการบรรยายแต่ละกลิ่นจังเลยค่ะ ฟังไปจินตนาการตามไปด้วย สนุกดี
ฟังแล้วอยากไปเสียตังค์ตาม
Philosykos เราว่าเหมือน มะเดื่อตกบนดินชุ่มๆ ในป่า ฉีดตอนนอนให้ฟีลดีค่ะ
กลิ่นนี้เพิ่งเป็นลูกรักกลิ่นใหม่ในปีนี้ ทั้งที่แต่ก่อนเคยไม่ชอบ เข้าบรรยากาศช่วงฝนตกพอดี เหมาะฉีดผ่อนคลายก่อนนอน มากกว่าใส่ไปทำงาน😆😆
@@hittothescent ใส่ไปทำงานเดี๋ยวคนจะหาว่าไปเข้าป่าเก็บของป่ามารึเปล่า😆 หลายกลิ่นดิปทีคเหมาะกับคน Introvert อย่างที่บรรยายเลยค่ะ สำหรับคนชอบดื่มด่ำกลิ่นเพื่อผ่อนคลายคนเดียว ไม่ได้ชวนเรียกร้องความสนใจเท่าไหร่
@@sungorratai เห็นด้วยทุกประการค่ะ💚😄😄
คุณหยาซื้อตัวแบ่งจากร้านไหนคะ ตอนนี้หาไม่ค่อยมีคนลงแบ่งขายเท่าไหร่
ในshopeeมีหลายร้านอยู่นะคะ ลองsearch ดู เท่าที่จำได้มี unbox_perfume ไม่รู้จำชื่อผิดรึเปล่า
ขอบคุณมากๆเลยคะ@@hittothescent
บ้านDiptyqueสำหรับผม ธรรมดามาก และราคาก็เอาเรื่อง
ผมลองทุกตัว ไม่เคยประทับใจเลย
ยอม กระโดดข้ามไปบ้านที่ตัวตึง ราคาใกล้กัน แต่กลิ่นชนิดที่สะกดคนแปลกหน้า และ กระจายตัวดี ไม่ซ่ำใคร อย่างเช่นบ้าน Thameen ,Agatho,Athens และJorum studio รับรองไม่ซ่ำใคร แน่นอนในประเทศไทยครับ
ขอบคุณที่แนะนำค่ะ เคยไม่ชอบ Diptyque มาก่อน แต่คงขึ้นอยู่กับจริตความชอบ เคมีผิว ในแต่ละปี แต่ละช่วงเวลา ทำให้กลับมาชอบในที่สุด
@@hittothescent เคมีผิวสำคัญมาก
แต่ยุคนี้จิตต้องแข็ง ทั้งการตลาดืและอินฟู จูงใจสูงมากด้วยครับ
@@drinkpokcome5416 ส่วนตัว Influencer มีผลแค่ชวนให้อยากลอง แต่จะชอบหรือไม่ซื้อตามรึเปล่าขึ้นอยู่กับจริตส่วนตัวล้วนๆ😆
@@hittothescent ใช่ครับผมต้องไปลองลงผิว แล้วใช้เวลาอยู่กับกลิ่น ทั้งวัน ถ้าถูกกับผิว ค่อยกลับไปซื้อจริงครับ เพราะน้ำหอมมีราคา ไม่อยากซื้อแล้วไม่ชอบจริงจะพาให้ไม่ได้ใช้งาน😜
โอ้โฮ!อธิบายจนเห็นภาพเลย น่าจะไปเขียนนวนิยายคงจะรุ่งมากค่ะ😂😂😂
เคยเขียนในเว็บ Dek-d.com อยู่หลายเรื่องสมัยเรียนค่า ตีพิมพ์บ้างนิดหน่อย ตอนนี้เริ่มอยากกลับมาเขียนใหม่พอทำยูทูป🤣
Tam dao edt กับ Erawan by Dusita คล้ายๆกันไหมครับ ชอบตัวไหนมากกว่ากันครับ
กลิ่นไปคนละทางเลยค่ะ Tamdao edt มีความ dark creamy woody ที่ชูโรง Sandalwood ในป่าดิบชื้น มีดอกไม้ป่าแทรกความหวาน และติดเขียวต้นไม้ใบหญ้าในป่าที่ออกขม ไม่ได้มาโทน Aromatic สว่างสดใส
ERAWAN DUSITA ออกเป็น GREEN EARTHY WOODY+AROMATIC ที่ให้ความสว่างนวลหวาน ไม้ CEDAR โทนสะอาดตอนท้าย
ถ้าเทียบ 2ตัวนี้ ในแง่การใช้งานจะชอบ ERAWAN มากกว่า เพราะกลิ่นเป็นมิตรและใช้ได้หลายโอกาส
แต่ถ้าในแง่ความชอบส่วนตัวที่นับความเป็นเอกลักษณ์ ป่าเขาเขียวเข้ม และในหน้าฝน ขอยกให้ tamdao edt
กลัวขวดจิ๋วจะระเหยก่อนสิ้นปีครับ 😂😂
บางขวดเก็บข้ามปียังเต็มแน่นอยู่เลย😆