ไฟไหม้โกดังสารเคมีภาชี อพยพคนหนีควันโขมงกลิ่นเหม็น ชี้เหตุย้ายสารเคมีช้า งบไม่พอ-รอจ้างผู้เชี่ยวชาญ
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 30 เม.ย. 2024
- วานนี้ (1 พ.ค. 67) เวลา 18.15 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้ โกดังเก็บกากสารเคมี 4,000 ตัน จำนวน 5 โกดัง ในพื้นที่หมู่ 2 ต.ภาชี อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา มีเสียงระเบิดเป็นระยะ เจ้าหน้าที่เร่งควบคุมเพลิงที่ลุกลามเป็นวงกว้าง เกิดควันโขมงสีดำส่งกลิ่นเหม็นลอยฟุ้งไปทั่วบริเวณไกลอย่างน้อย 5 - 10 กิโลเมตร ไปถึงเขต อ.ท่าเรือ ทิศทางลมไปทางทิศใต้ และมีโอกาสเปลี่ยนทิศ
ซึ่งของกลางในโกดังหลังที่ 3-4-5 เก็บหนาแน่นมากกว่าโกดังหลังที่ 1-2 และโครงหลังคาเก่ามาก เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงต้องใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติงาน
สำหรับโกดังแห่งนี้ เคยถูกวางเพลิงเมื่อวันที่ 29 ก.พ.2567 และไฟเคยปะทุเองเมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2567
เทศบาลตำบลภาชี ประกาศเสียงตามสายแจ้งให้ประชาชน หมู่ 3 หมู่ 4 และที่อาศัยอยู่บริเวณตั้งแต่โรงพยาบาลภาชี ไปจนถึงตลาดภาชี และบริเวณใกล้เคียงสวมหน้ากากอนามัย และออกมาอยู่ในที่โล่ง เพื่อป้องกันอันตรายจากกลุ่มควันที่ฟุ้งกระจาย พร้อมอพยพประชาชนที่อยู่ละแวกใกล้เคียง ออกจากพื้นที่โดยด่วน โดยให้ไปที่วัดโคกม่วง
เวลา 20.14 น. ได้รับรายงานเบื้องต้น ยังไม่มีผู้บาดเจ็บ เเละเสียชีวิต แต่มีกลุ่มควันหนาแน่นลอยไปทางโรงพยาบาลภาชี ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 600 เมตร มีผู้ป่วยในโรงพยาบาล 35 ราย ได้จำหน่ายกลับบ้าน 4 ราย ที่เหลืออีก 31 ราย ดำเนินการอพยพผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียง ได้แก่ โรงพยาบาลท่าเรือ 8 ราย / โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชฯ 15 ราย / โรงพยาบาลอุทัย 4 ราย และ โรงพยาบาลวังน้อย 4 ราย
นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการ จ.พระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่ร่วมกับ ปภ .จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เทศบาลภาชี อำนวยการควบคุมเพลิงไหม้ พร้อมสั่งการขอสนับสนุนรถดับเพลิงจากพื้นที่ใกล้เคียง จังหวัดใกล้เคียงเพื่อเข้ามาเร่งควบคุมสถานการณ์ให้ได้โดยเร็วที่สุด ส่วนสาเหตุต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ผู้ว่าฯ ระบุว่า การดับเป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจากโกดังมีขนาดใหญ่ สารเคมีทั้งหมดอยู่ในโกดังมีหลังคาปกคลุม รถดับเพลิงทำได้เพียง ฉีดน้ำบล๊อกจับกลุ่มควันพิษไม่ให้ลอยไปย่านชุมชนและโรงพยาบาลภาชี แต่ก็ยังพบว่ากลุ่มควันได้ลอยกระจายฟุ้งไปไกลถึง อ.ท่าเรือ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำนานกว่า 3 ชั่วโมง ทำให้ไฟไม่ลุกลามเพิ่มมากขึ้น พบว่ากลุ่มควันเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาว
ด้าน เพจ สมาคมตอบโต้ภัยพิบัติ ประเทศไทย ได้โพสต์ภาพและข้อความ ในเวลาประมาณ 02.00 น. ว่า
ไฟไม่ดับกลับไม่ได้ ผู้ว่าบัญชาการเอง
#เหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมี ซึ่งอยู่ระหว่างรอทำลาย ม.2 ต.ภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เก็บสารเคมี 4,000 ตัน 5 โกดัง
#โดรนจับความร้อน #ตาบนฟ้า
#ไฟไหม้โรงงาน #สารเคมี #ภาชี #อยุธยา
#สมาคมตอบโต้ภัยพิบัติประเทศไทย #DRAT
ต่อมาโพสต์ว่า
เวลา 05.00 น. 02/05/67 ยังคงอยู่ที่เกิดเหตุ ว4 ร่วมท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอยุธยา ปรับแผนใหม่ #หลังเพลิงปะทุ ส่งรถเจาะกำแพงเจอน้ำที่พื้นในโกดังเป็นกรดไม่ทราบชนิด ทีมผจญเพลิงเข้าไม่ได้ กรดกัดกร่อนรุนแรง เปลี่ยนเป็นเข้าทางหลังคาแทน พักทีมรอรถหอสูงกำลังเดินทางสนับสนุน อีกครั้ง
ทีมข่าวลงพื้นที่ พบว่า เพลิงได้ไหม้โกดังหลังที่ 3-4-5 โกดังที่อายัดกากสารเคมีของกลางจำพวกกรดเข้มข้นไว้จำนวนมาก โดยเก็บของกลางในถังเบาท์ ขนาด 1,000 ลิตร เป็นส่วนใหญ่ ชนิดของสารเคมีส่วนมาก คือ กรดซัลฟิวริก /น้ำมันเครื่องเก่า /กากสี และปลอกสายไฟ เป็นต้น
ขณะที่ เทศบาลตำบลภาชี ประกาศเสียงตามสายแจ้งให้ประชาชน หมู่ 3 หมู่ 4 และที่อาศัยอยู่บริเวณตั้งแต่โรงพยาบาลภาชี ไปจนถึงตลาดภาชี และบริเวณใกล้เคียงสวมหน้ากากอนามัย และออกมาอยู่ในที่โล่ง เพื่อป้องกันอันตรายจากกลุ่มควันที่ฟุ้งกระจาย พร้อมอพยพประชาชนที่อยู่ละแวกใกล้เคียงออกจากพื้นที่โดยด่วนไปที่วัดโคกม่วง
ทีมข่าวได้คุยกับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้โกดังเกิดเหตุ กล่าวว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุไฟไหม้ ชาวบ้านได้รับผลกระทบเกิดผื่นคันตามร่างกาย คาดว่า น่าจะเกิดจากสารเคมีภายในโกดัง เวลาอากาศร้อนก็จะมีกลิ่นออกมา
ชาวบ้านอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน เพราะรู้สึกกังวลเรื่องระบบทางเดินหายใจ ยิ่งช่วงที่ฝนตก มันไหลลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ หลังเกิดเหตุครั้งนี้ คาดว่าชาวบ้านที่อยู่ใกล้โกดัง จะพากันอพยพกันหมด
เวลา 20.00 น.การใช้น้ำฉีดยังไม่เป็นผลเนื่องจากติดหลังคา ไม่สามารถฉีดไปถึงจุดไฟไหม้ได้ อีกทั้งเป็นสารเคมีต้องใช้โฟมในการดับไฟ จึงมีการปรับแผนให้ฉีดน้ำเป็นฝอย เพื่อซับควันพิษ ให้เหลือน้อยที่สุด
แต่หลายฝ่ายก็ยังเป็นห่วงว่า น้ำจากการดับเพลิงอาจไหลย้อนกลับลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติคือ คลองชลประทานข้างเคียง และแปลงนาของชาวบ้าน
นายปัญญาวุธ มีสมผล หน่วยกู้ภัยอยุธยา เปิดเผยว่า มีเจ้าหน้าที่ และทรัพยากรเพียงพอ ซึ่งได้วางแผนร่วมกันที่จะเข้าไปควบคุมเพลิงภายในโกดังที่เพลิงลุกไหม้อยู่ โดยจะใช้โฟมเข้าไปสกัด ไม่ให้เพลิงลุกลามเพื่อให้ไฟดับลง
ปัญหาคือ นอกจากไฟแล้ว ยังมีกลุ่มควันที่ไปรบกวนประชาชนพื้นที่โดยรอบ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้นำรถดับเพลิงหลาย 10 คัน เข้ามาทำการฉีดน้ำ ทำเป็นม่านน้ำเพื่อกดควันไม่ให้ลอยฟุ้ง
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : ch3plus.com/news/social/morni...
-------------------------
#เรื่องเล่าเช้านี้ (Morning News)
วันที่ 2 พฤษภาคม 2567
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่
ch3plus : ch3plus.com/news/programs/mor...
facebook : / morningnewstv3
Twitter : / morningnewstv3
TH-cam : cutt.ly/MorningnewsTV3
Tiktok : / morningnewsch3
#3PlusNews #ข่าวช่อง3 #สรุยทธ #ไบรท์
จักการไม่ได้สักเรื่องยุคบรรลัย ออกไปสะ
สงสารพี่นิ้งชาวบา้นผู้ที่ไม่มีสว่นเกีย่วขอ้งกังกับสารเคมีสู้ๆนะพี่นอ้งอยุทยา
แปลกๆ เหมือนที่บ้านค่ายเลย5โกดัง ไม่รุ้จะขนย้ายไปไหน เผาแมร่งเลย จบๆไปไม่ต้องเสียค่าขนย้าย( คิดเฉยๆนะคับ)ขอให้ทีมงานสู้ๆคับ
อย่าเพิ่งทำลาย หลักฐานค่ะ
ใช้นำ้ดับไฟแล้วนำ้ที่ดับไฟไหลไปไหนคะประชาชนรับทั่วขึ้นทั่งล่องเลย
สงสารประเทศที่ร้อนเพิ่มขึ้นอีก
ทำไมไม่จับเจ้าของสารพิษมา รับผิดชอบ อย่าง2มันมาจากที่ไหน..นำเข้า หรือว่า ...สุดท้ายมาจากทางไหนต้องกลับไปทางนั้น.ปทท.ไม่ใช่ที่ๆปท ไหนอยากทิ้งอะไรก็เอามาทิ้งที่นี่😢
ไกลไปทางทิศไหน บอกด้วย
ไหม้ที่เดิม ยังไง ไหม้ที่แล้วยังไม่หมดหรอ😢😅
นายกทำอะไรอยู่