ในการทำงานวิจัยนั้นต้องหาสาเหตุ และผลที่ส่งกระทบจากเหตุไปหาผล จาก x ไปหา y ซึ่ง x ส่งผลต่อ y ใช้ตัวอักษรแทนค่า เพื่อคำนวนผลทางสถิติ ให้ list สาเหตุมาแต่ละข้อ รวมรวบข้อมูลโดยการสอบถามและสัมภาษณ์ จากกลุ่มตัวอย่างโดยการเลือกมาจากประชากร หลังจากที่ชมคลิปนี้แล้วเข้าใจในตัวแปรมากขึ้น มีแนวทางในการหาเหตุและผลของปัญหานั้นๆเพื่อเป็นแนวทางในการทำวิจัยของเรา
หลังจากได้ดูคลิปวิดีโอ ทำเห็นภาพรวมในการวิจัยมากขึ้น โดยเริ่มจากการหาสาเหตุของปัญหาซึ่งได้จากการเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง (ซึ่งต้องเป็นตัวแทนที่มีความน่าเชื่อถือโดยการ sampling โดยใช้สูตร Yamane เพื่อคำนวณจำนวนกลุ่มตัวอย่างที่ต้องเก็บข้อมูล) ซึ่งมี 2 แบบ คือ
1.แบบสอบถาม => วิจัยเชิงปริมาณ
2.สัมภาษณ์=> วิจัยเชิงคุณภาพ (ใช้ระยะเวลาในการทำนาน ทำให้อาจมีเวลาทำไม่เพียงพอ)
ซึ่งคลิปนี้มีประโยชน์มากๆค่ะ ทำให้มีความเข้าใจมากขึ้นค่ะ
ได้รับความรู้จากแนวคิดในการทำวิจัย เป็นคลิปที่มีประโยชน์มากครับ ช่วยกำหนดกรอบแนวคิดการวิจัยอย่างมีเหตุผล และการค้นหาสาเหตุที่มาของปัญหาอย่างเป็นระบบ ซึ่งมีส่วนช่วยในการตัดสินใจคัดเลือกหัวข้อปัญหาและคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างที่เหมาะสมจากประชากรที่จะทำการศึกษาได้เป็นอย่างดีครับ ขอบคุณครับ
งานวิจัย คือการหาสาเหตุของปัญหา ประเด็น ปัญหาที่พบเจอ? เกิดอะไรขึ้น? ในหัวข้อที่ต้องการศึกษา นำมาเก็บ นำมาเรียบเรียง ให้เป็นระเบียบแบบแผน มารองรับสิ่งที่ องค์ประกอบตามหลักวิชาการ โดยการใช้การวิจัยเชิงปริมาณหรือเชิงคุณภาพ คลิปนี้ได้ประโยชน์มาก ๆ เลยครับ เห็นภาพชัดเจนเลยครับ
งานวิจัย คือ การหาสาเหตุของปัญหา โดยการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง งานวิจัยมี 2 แบบ คือ วิจัยเชิงปริมาณ และวิจัยเชิงคุณภาพ หลังจากที่ได้ข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างแล้วจึงนำข้อมูลนั้นมาวิเคราะห์ทางสถิติ ซึ่งจากคลิปนี้มีประโยชน์ในการทำวิจัย ช่วยทำให้เข้าใจง่ายขึ้น มองเห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ขอบคุณมากๆค่ะ
หลังจากดูคลิปวิดีโอ ทำให้รู้ว่างานวิจัยเริ่มจากการหาสาเหตุของปัญหาก่อน จะมาเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง ถึงจะนำมาวิเคราะห์ทางสถิติต่างๆ ช่วยทำให้เราเข้าใจสาเหตุได้มากขึ้น ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณมากๆ เลยครับ
การทำงานวิจัยจะต้องหาประเด็นสาเหตุของปัญหาว่าคืออะไรบ้าง มาจากสาเหตุใด หลังจากนั้นจะต้องเก็บรวมรวมข้อมูลอย่างเป็นระบบ มีระเบียบแบบแผน ซึ่งการรวบรวมข้อมูลสามารถทำได้ทั้งแบบเชิงปริมาณโดยการทำแบบสอบถามและเชิงคุณภาพ เช่น การสัมภาษณ์เชิงลึก
หลังจากที่ได้รับชมวีดีโอ ได้เข้าใจเกี่ยวกับวิธีการคิดหัวข้อวิจัยที่เราสนใจค้นคว้า และทำให้เรามองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นว่าเกิดจากสาเหตุใด ขอบคุณค่ะ
หลังจากดูคลิปวิดิโอ ทำให้เห็นมุมมองภาพรวมของการทำวิจัยในส่วนของการกำหนดเหตุและผลของเรื่องที่จะทำวิจัย รวมถึงรูปแบบงานวิจัยการกำหนดกลุ่มประชากรตัวอย่างมากขึ้น ขอบคุณค่ะ
Research concept: สรุปใจความสำคัญ
1)วิเคราะห์
จากปัญหา ซึ่งเป็นปัญหาที่มีผลกระทบในวงกว้างต่อองค์กร (ซึ่งจำเป็นต้องทำการวิจัย)
2)หาสาเหตุ ที่ทำให้เกิดปัญหานั้น
3)การหาสาเหตุ
หรือ เหตุผลของปัญหานั้น ก็ต้องมาจากากรดำเนินการ หาข้อมูลจากบุคคลที่มีส่วนสำคัญ
หรือส่วนที่เกี่ยวข้องกับปัญหานั้น
4)การหาข้อมูล ได้มาจากการทำแบบสอบถาม
(วิจัยเชิงปริมาณ) หรือ การสัมภาษณ์ (วิจัยเชิงคุณภาพ)
5)การทำแบบสอบถาม
หรือ การสัมภาษณ์ กับกลุ่มประชากร
(กลุ่มตัวอย่าง)
6)นำผลของการทำแบบสอบถาม
ไปวิเคราะห์ทางสถิติ
หลังจากดูคลิปวิดิโอทำให้เข้าแนวคิดในการทำวิจัยอย่างมีหลักการเพื่อกำหนดถึงสาเหตุปัญหาที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อวิจัยที่เราเลือกทำ อย่างมีหลักการทำให้สามารถกำหนดกลุ่มประชากรกลุ่มตัวอย่างในการทำวิจัยได้อย่างเหมาะสมครับ ขอบคุณครับ
ขอบคุณอาจารย์ที่สรุปภาพรวมการทำการวิจัยทำให้ทราบว่าควรเลือกหัวข้อวิจัยอะไร โดยเริ่มจากหาปัญหาที่เราอยากหาสาเหตุ และนำมาเป็นหัวข้องานวิจัย หลังจากนั้นก็นำขั้นตอนการทำวิจัยเข้ามาใช้เพื่อให้ทำงานวิจัยได้อย่างเป็นระบบระเบียบ จนกระทั้งขั้นตอนการนำข้อมูลที่รวบรวมได้มาวิเคราะห์ผลและทำการสรุปผลงานวิจัย
การที่เราจะทำวิจัยเราต้องหาปัญหาเพื่อนำผลลัพธ์ที่ได้จากการวิจัยมาแก้ไขปรับปรุง ข้อบกพร่องที่พบจากการวิจัย เพื่อให้ปัญหานั้นหมดไปหรือลดน้อยลง โดยเริ่มจากปัญหา และสาเหตุ โดยสอบถามจากกลุ่มตัวอย่างหากเป็นเชิงปริมาณ และใช้การสัมภาษณ์หากงานวิจัยนั้นเป็นเชิงคุณภาพ ทั้งนี้ควรทำงานวิจัยเชิงปริมาณเพราะมีสถิติมายืนยันผลการวิจัย หากเป็นเชิงคุณภาพจะใช้เวลานานและผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องเพราะมาจากการที่เจ้าของงานวิจัยนั้นคิดเพียงคนเดียว
หลังจากที่ได้ดูคลิปนี้ทำให้เราได้รู้ว่า การทำวิจัยแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือวิจัยเชิงคุณภาพ และวิจัยเชิงปริมาณ โดยเราต้องหาปัญหาที่ต้องการศึกษาในงานวิจัย และกำหนดสาเหตุของปัญหาให้เป็นตัวแปร X และปัญหาเป็นตัวแปร Y เพื่อเก็บข้อมูลตามวิจัยของแต่ละประเภท โดยการวิจัยเชิงคุณภาพไม่ค่อยนิยมเท่าไหร่ เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลาในการสัมภาษณ์ทำให้ต้องใช้เวลาเก็บข้อมูลนาน ส่วนใหญ่จะเน้นการวิจัยเชิงปริมาณด้วยวิธีเก็บข้อมูลแบบสอบถาม หลังจากที่ได้ข้อมูลประชากรและกลุ่มตัวอย่างแล้วจึงจะนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ทางสถิติเพื่อประมวนผลตามข้อมูลที่เก็บได้
จากที่ได้ดูวิดีโอจบโดยสรุปคือ งานวิจัยคือการหาสาเหตุของปัญหาโดยในสาเหตุนั้นต้องมีเก็บรวบรวมข้อมูลให้เป็นระเบียบแบบแผน โดยมีการใช้วิธีการรวบรวมข้อมูลทั้ง แบบสอบถาม หรือ การสัมภาษณ์ เพื่อให้ได้มาซึ่งสาเหตุของปัญหาในการวิจัย
ได้ดูคลิป VDO แล้วพบว่า สิ่งที่ท่านวิทยากรจะนำเสนอ ก็คือการค้นหาตัวแปร เช่น ตัวแปร X คือสาเหตุ และตัวแปร Y คือ ปัญหา โดยสามารถรวบรวมข้อมูลได้โดยการทำแบบสอบถาม หรือการสัมภาษณ์ ซึ่งต้องมีการระบุกลุ่มตัวอย่างขึ้นมาว่าคือใคร เช่นพนักงานในบริษัท และระบุปัญหาลงในแบบสอบถามเพื่อนำมารวบรวม และวิเคราะห์ปัญหา โดยต้องรู้ว่าสาเหตุ มีอิทธิพล หรือส่งผลต่อ ให้เกิดปัญหาอย่างไร โดยการกำหนดกลุ่มตัวอย่างอาจจะคัดเลือกจากประชากรที่เป็นตัวแทนที่ดี หรือใช้สูตรของทาโร่ ยามาเน่ โดยกล่าวสรุปได้ว่าการ ทำแบบสอบถาม คือ วิจัยเชิงปริมาณ และการสัมภาษณ์ คือ วิจัยเชิงคุณภาพ
ในการทำงานวิจัยนั้นต้องหาสาเหตุ และผลที่ส่งกระทบจากเหตุไปหาผล จาก x ไปหา y ซึ่ง x ส่งผลต่อ y ใช้ตัวอักษรแทนค่า เพื่อคำนวนผลทางสถิติ ให้ list สาเหตุมาแต่ละข้อ รวมรวบข้อมูลโดยการสอบถามและสัมภาษณ์ จากกลุ่มตัวอย่างโดยการเลือกมาจากประชากร หลังจากที่ชมคลิปนี้แล้วเข้าใจในตัวแปรมากขึ้น มีแนวทางในการหาเหตุและผลของปัญหานั้นๆเพื่อเป็นแนวทางในการทำวิจัยของเรา
arch concept: สรุปใจความสำคัญ
1)วิเคราะห์
จากปัญหา ซึ่งเป็นปัญหาที่มีผลกระทบในวงกว้างต่อองค์กร (ซึ่งจำเป็นต้องทำการวิจัย)
2)หาสาเหตุ ที่ทำให้เกิดปัญหานั้น
3)การหาสาเหตุ
หรือ เหตุผลของปัญหานั้น ก็ต้องมาจากากรดำเนินการ หาข้อมูลจากบุคคลที่มีส่วนสำคัญ
หรือส่วนที่เกี่ยวข้องกับปัญหานั้น
4)การหาข้อมูล ได้มาจากการทำแบบสอบถาม
(วิจัยเชิงปริมาณ) หรือ การสัมภาษณ์ (วิจัยเชิงคุณภาพ)
5)การทำแบบสอบถาม
หรือ การสัมภาษณ์ กับกลุ่มประชากร
(กลุ่มตัวอย่าง)
6)นำผลของการทำแบบสอบถาม
ไปวิเคราะห์ทางสถิติ
จากคลิปวีดีโอ ทำให้เข้าใจว่าการทำวิจัยต้องค้นหาสาเหตุของปัญหา ด้วยการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง ซึ่งงานวิจัยมี 2 แบบ คือ
1. วิจัยเชิงปริมา -> ใช้แบบสอบถาม
2. วิจัยเชิงคุณภาพ -> ใช้การสัมภาษณ์
ทำให้รู้ concept ในการนำระบบแบบแผนเจ้ามาใช้ในการวิจัย ในการกำหนดตัวแปร สาเหตุ=X, ปัญหา=Y (จากเหตุไปหาผล หรือสิ่งที่เราค้นพบ) X ส่งผลต่อ Y เพื่อนำข้อมูลไปวิเคราะห์ทางสถิติ และท้ายสุดทำให้รู้ว่าไม่ควรทำวิจัยเชิงคุณภาพหากมีเวลาจำกัด
จากคลิปวิดิโอคือการหาสาเหตุของปัญหาแล้วนำมาสรุปถึงประเด็นปัญหาต่างๆทำให้มองถึงการคิดหัวข้อการวิจัย
งานวิจัย โดยสรุปคือ หาที่มาของสาเหตุ แล้วกระจายออกมาว่าสาเหตุดังกล่าว มาจากปัจจัยหรือปัญหาอะไรบ้างซึ่งอาจจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับผู้วิจัย ซึ่งเมื่อสรุปปัญหาได้แล้ว ปัญหาดังกล่าวจะเป็นอิทธิพลหรือผลกระทบที่ส่งผลต่อสาเหตุ โดยในกลุ่มพนักงานหรือประชากรทั้งหมด แต่เราจะใช้วิธีการ Sampling เพื่อหากลุ่มประชากร และให้ได้ผลวิจัยออกมาอาจจะเป็นในเชิงปริมาณด้วยการทำแบบสอบถามหรือเชิงคุณภาพด้วยการสัมภาษณ์ก็ตามครับ
คิดวิเคราะห์อย่างมีตรรกะ, มีหลักการณ์ทฤษฎีมารองรับ, เอาผลทดสอบผลลัพท์มาใช้เพื่่อติดสินใจ... ผมเห็นว่าการทำวิจัยนั้นมีประโยชน์มาก แต่เอามาปรับใช้กับชีวิตจริงและการทำงานนั้นยังคงจับต้นชนปลายไม่ถูกอยู่ครับ
จากการดูคลิปทำให้มองเห็นภาพการทำวิจัยมากขึ้นครับ เป็นการนำวิธีการวิจัยเพื่อใช้มาหาคำตอบที่เป็นระบบแบบแผน และการทำวิจัยจะต้องมองภาพให้คลุมถึงส่วนประกอบที่จำเป็นในการทำวิจัย เช่น ประชากรที่ใช้ในการทำวิจัยเพียงพอหรือไม้ ความแตกต่างอย่างชัดเจนของการทำวิจัยเชิงปรัมาณกับเชิงคุณภาพในระยะเวลาที่ได้รับมา เหมาะสำหรับนักศึกษาที่ยังไม่เคยทำวิจัยครับ
ส่วนหนึ่งในการช่วยค้นหางานวิจัยที่เราต้องการ คือต้องหาปัญหาของสิ่งที่ต้องการทำ หรือสิ่งที่คิดว่าน่าจะเป็นปัญหา โดย Research Concept นี้ จะช่วยให้หางานวิจัยที่เหมาะกีบเราได้อย่างเป็นระบบ มีขั้นตอนแบบแผนที่สามารถไปต่อยอดความคิดได้ ทั้งปัญหา ข้อมูล ประชากร ประเภทงานวิจัยที่จะทำ ทำให้เราได้ผังความคิดในระดับหนึ่งค่ะ
เป็นคลิปที่ทำให้รู้ความรู้ด้านการทำวิจัยเพิ่มเติมเยอะมากๆค่ะสำหรับพื้นฐาน โดยสรุปคือ การทำวิจัยคือการหาสิ่งที่เราอยากรู้ และหาสาเหตุที่เราอยากจะรู้ โดยจะมี 2 แบบ คือ การทำวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ โดยรวมแล้วถ้าใครอยากใช้เวลาในการทำวิจัยน้อย ให้เลือกแบบเชิงปริมาณ ค่ะ
จากที่ดูวีดีโอทำให้รู้ว่า การที่จะทำวิจัยนั้น เมื่อมีหัวข้อที่อยากทำจะต้องรู้ถึงปัญหาหรือไม่ จากนั้นหาสาเหตุของปัญหาแบ่งออกมาเป็นข้อๆ และระบุกลุ่มเป้าหมาย จากนั้นกำหนดสาเหตุให้เป็นตัวแปร x และปัญหาตัวแปร y และมาวิเคราะห์ว่าจะเก็บข้อมูลแบบไหน ส่วนใหญ่จะเป็นวิจัยเชิงปริมาณ ใช้ข้อมูลสถิติ นำมาวิเคราะห์ประมาณผล จากวิดีโอนี้ ทำให้เข้าใจการทำวิจัยมากขึ้น อธิบายและมองเห็นนภาพชัดขึ้น ในการหาปัญหา สาเหตุ และกลุ่มประชากร หรือ กลุ่มตัวอย่าง ขอบคุณค่ะ
งานวิจัยคือการหาสาเหตุของปัญหา โดยการเริ่มหาสาเหตุว่ามีปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลถึงปัญหา ซึ่งการได้มาของข้อมูลนั้นจะต้องมีวิธีการรวบรวมข้อมูลโดยเป็นข้อมูลมาจากการสุ่มตัวอย่างที่น่าเชื่อถือภายใต้ประชากรที่มีผลกับปัญหา โดยวิธีการสุ่มตัวอย่างนี้จะมีสูตรที่ใช้ในการคำนวณ และ วิธีการรวบรวมข้อมูลที่ได้นั้น มี 2 วิธี คือ การเก็บแบบสอบถาม (วิจัยเชิงปริมาณ) และ การสัมภาษณ์ (วิจัยเชิงคุณภาพ)
งานวิจัย มี 2แบบคือ งานวิจัยเชิงคุณภาพ และ งานวิจัยเชิงปริมาณ
ในคลิปวิดิโอนี้ ทำให้เราได้ทราบถึง การศึกษาหาสาเหตุของปัญหาที่เราสนใจ โดยการ ทำแบบสอบถาม(เชิงปริมาณ) หรือสัมภาษณ์(เชิงคุณภาพ) เพื่อให้ได้ข้อมูล และนำมาทำตามขั้นตอน และแบบแผนในงานวิจัย
โดยกำหนดตัวแปร Y = ปัญหา, X = สาเหตุ และ X ส่งผลต่อ Y
จากคลิปสรุปได้ว่าเราต้องมองถึงปัญหาเเละอะไรที่มีผลกระทบต่อปัญหาที่เรากำลังศึกษาเเละเราสามารถหาข้อมูลของสาเหตุไม่ว่าจะเป็นเเบบปริมาณหรือเชิงคุณภาพเเละนำตัวเลขมาคำนวณในหัวข้อที่เราศึกษาว่าสาเหตุเกิดจากอะไรกันเเน่