วิถีฤๅษีบ้านมอตะหลั่ว ต.แม่จัน อ.อุ้มผาง จ.ตาก | ซีรีส์วิถีคน
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 31 ก.ค. 2022
- บ้านมอตะหลั่ว ต.แม่จัน ตั้งอยู่กลางป่าใกล้ชายแดนประเทศเมียนมา อยู่ห่างจากตัว อ.อุ้มผาง ประมาณ 110 กิโลเมตร ถนนหนทางไม่สะดวก อาจจะใช้เดินทางจากตัวเมืองอุ้มผางนาน 6 ชั่วโมง ในฤดูแล้ง และ 8 - 10 ชั่วโมงในฤดูฝน
หมู่บ้านนับถือฤๅษี ยังไม่มีสัญญาณโทรศัพท์
นายณรงค์ ปวงคำ (ครูเอส) ครูนิเทศก์ ศศช.กลุ่มบ้านตะละโค่ง กศน.อำเภออุ้มผาง เล่าว่าที่บ้านมอตะหลั่วไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ใด ๆ มีเพียงวิทยุสื่อสารเพียงไม่กี่เครื่องสำหรับติดต่อกับคนในหมู่บ้าน และบ้านมอตะหลั่วยังไม่เปิดรับวัฒนธรรมจากภายนอกมากนัก เพราะคนที่นี่นับถือฤาษีอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกินและการแต่งกาย เช่น ไม่กินไข่ ไก่ หมู กินแต่ปลา กุ้ง ผัก ที่หาได้ในธรรมชาติ ดังนั้นผู้ที่เข้ามายังหมู่บ้านมอตะหลั่วจะต้องเคารพกฎของฤๅษีเช่นกัน เช่นเดียวกับการแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์ของฤาษีนั้น ผู้ชายที่อายุ 15 ปีขึ้นไป จะไว้ผมยาวมัดเป็นจุกด้านหน้าและไม่ตัดตลอดชีวิต นุ่งโสร่ง สวมใส่เสื้อที่มีกระดุมหน้าเท่านั้น สำหรับผู้หญิงสวมชุดชนเฝ่าที่บอกถึงสถานภาพ คือ หญิงที่แต่งงานแล้วจะสวมชุดที่มีแถบสีแดง ส่วนเด็กหญิงและสาวโสดจะสวมชุดสีขาว
น้ำจากห้วย ใช้อาบ น้ำในบ่อดิน ใช้ดื่ม
คนบ้านมอตะหลั่วอาศัยน้ำจากธรรมชาติทั้งเพื่อกินและใช้จากสองแหล่งคือลำห้วยและบ่อดิน โดยการซักล้างจะใช้น้ำในลำห้วยที่ไหลผ่านหน้าบ้าน ซึ่งแต่ละบ้านจะทำฝายเล็ก ๆ กักน้ำไว้ แล้วต่อท่อลงมาที่กะละมังเพื่อง่ายต่อการตัก โดยใช้ในการอาบน้ำ สระผม และซักผ้า ส่วนน้ำกินและน้ำใช้ในบ้านจะตักจากบ่อดินที่ขุดเอาไว้ ซึ่งบ่อดินนั้นจะต้องทำหลังคากันสิ่งสกปรกต่าง ๆ ตกลงไปปนเปื้อนอีกด้วย น้ำจากบ่อดินนี้ทุกคนสามารถนำหม้อหรือกระบอกไม้ไผ่ที่ทำขึ้นมาจากลำไม้ไผ่ มาตักไปเก็บไว้กินไว้ใช้
ใบหวาย รวมน้ำใจ
สิ่งปลูกสร้างที่บ้านมอตะหลั่วเกือบ 100% ต้องใช้ใบหวายในการมุงหลังคาและทำเป็นฝาผนังกันแดดกันฝน ซึ่ง "หวาย" หรือใบหวาย นั้นมีลักษณะคล้าย ๆ ใบจาก มีอยู่มากในหมู่บ้านทั้งที่ขึ้นเองตามธรรมชาติและนำมาปลูกไว้ข้างบ้าน ใบหวายอาจจะเรียกว่าเป็นไม้ที่สร้างการรวมใจให้เกิดขึ้นในหมู่บ้านก็อาจจะว่าได้ เนื่องจากใบหวายมักจะถูกนำมาใช้จำนวนมาก จึงต้องอาศัยผู้คนในหมู่บ้านมาช่วยกัน ตั้งแต่การตัดใบหวาย การสานใบหวาย และนำใบหวายไปมุงหลังคา ทุกครั้งที่ต้องมีการทำสิ่งเหล่านี้ ชาวบ้านจะหยุดงานของตนเพื่อมาร่วมด้วยช่วยกัน โดยเฉพาะการสานใบหวายในเวลากลางคืนนั้น จะเป็นเสมือนการมาชมมหรสพ เพราะมีทั้งเสียงเพลง แสงไฟ และเสียงหัวเราะพูดคุย เจ้าของบ้านจะมีน้ำชาและขนมเป็นน้ำใจตอบแทนผู้มาช่วยงานอีกด้วย
ซาเก่อโจ จองความดี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บ้านมอตะหลั่ว บอกว่าการช่วยกันสานใบหวายเป็นวิถีชีวิตของคนที่นี่ เป็นน้ำใจที่หมุนเวียนกันไป เพราะทุกครอบครัวต้องใช้ใบหวายในการซ่อมซ่อมแซมหรือเปลี่ยนหลังคาอยู่ทุกปี โดยจะเริ่มทำตั้งแต่หลังเก็บเกี่ยว เพื่อให้เสร็จก่อนฤดูฝนจะมาถึง
หมาก แหล่งรายได้ของคนบ้านมอตะหลั่ว
บ้านมอตะหลั่วมีสภาพภูมิอากาศคล้ายกับภาคใต้ของประเทศไทย จึงสามารถปลูกผลไม้ได้หลากหลาย เช่น มังคุด ทุเรียน หมาก เมื่อเข้าเขตหมู่บ้านจะพบเห็นต้นทุเรียนเก่าแก่ อายุ 40 - 50 ปีอยู่จำนวนมาก ผู้ช่วยซาเก่อโจ บอกว่าทุเรียนรสชาติดี ส่วนใหญ่จะขายเป็นลูก ๆ เนื่องจากชาวบ้านยังไม่มีการแปรรูปที่เหมาะกับตลาดจึงขายได้ไม่มากนัก มีเพียง "หมาก" เท่านั้นที่สามารถสร้างรายให้ชาวบ้านที่นี่มายาวนานและถือเป็นรายได้หลัก โดยเกือบทุกครอบครัวที่ในหมู่บ้านจะมีสวนหมากเป็นของตัวเอง เมื่อถึงฤดูกาลเก็บหมาก คนที่มีความชำนาญในการปีนเก็บหมาก ก็จะมาลงแขกช่วยเหลือกันเก็บ หลังจากเก็บแล้วก็ส่งขายที่หมู่บ้านเลตองคุ และประเทศเมียนมา
ติดตามในรายการซีรีส์วิถีคน วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม 2565 เวลา 17.30 - 18.00 น. ทางไทยพีบีเอส รับชมย้อนหลังได้ทาง www.thaipbs.or.th/TheConnect
#ซีรีส์วิถีคน #บ้านมอตะหลั่ว #อุ้มผาง #ตาก #หมู่บ้านนับถือฤๅษี
-------------------------------------------------------
กด Subscribe ติดตามรายการดี ๆ ของช่อง ได้ที่ : thaip.bs/YSBht5j
และ ติดตามไทยพีบีเอสออนไลน์ ได้ที่
Website : www.thaipbs.or.th
Facebook : www. ThaiPBS
Twitter : / thaipbs
Instagram : / thaipbs
LINE : www.thaipbs.or.th/AddLINE
TikTok : / thaipbs
TH-cam : / thaipbs
ไม่น่าเชื่อว่านี่คือผืนแผ่นดินไทย.. พวกเขาดูมีความสุขมากๆเลยตามวิธีชีวิตที่ไม่วุ่ยวายเหมือนสังคมเมือง
อยู่เมืองไทยแต่จะไม่ยอมรับวัฒนธรรมไทย และไม่ชอบติดต่อโลกภายนอก แม้กระทั่งโรงเรียนยังจะไม่ให้มี อย่างนี้มันไม่ใช่แล้ว การที่เรารักษาวัฒนธรรมของชนชาติตนเองเป็นสิ่งดี แต่ก็ต้องมีการติดต่อกับโลกภายนอก ไม่ใช่เชื่อแต่คนสูงอายุที่นับถืออย่างเดียว บางอย่างเป็นประโยชน์แก่ชุมชนก็ต้องรับเอาไว้ ไม่กินไก้ไม่กินไข่ ไม่เข้าใจจริงๆ ไม่กินหมูพอเข้าใจ แม้กระทั่งทางการจะเข้าไปพัฒนาก็ยังยากอย่างนี้ไม่ดีเลย เวลาเจ็บป่วยนี่คงลำบากน่าดู สาธารณะสุขก็ไม่ดี สงสารเด็กๆนะ แต่ความสวยงามของธรรมชาติสุดยอดมาก การสื่อสารเข้าไม่ถึง ก็เพราะเขาไม่เปิดรับเอง อย่างนี้อันตรายมากๆสำหรับประเทศไทย ถ้าพม่าเข้ามามากๆคนไทยจะทำอย่างไร มีแค่วิทยุสื่อสาร กว่าจะติดต่อได้พม่ายึดไปเกือบหมดแล้วหมู่บ้านนี้ นี่เมืองไทยหรือประเทศพม่ากันแน่
เมื่อเกือบ30ปีที่แล้วเคยไปทำงานเป็นครู ตชด.ต้องเดินเท้าอย่างเดวลำบากมากๆๆๆๆๆ
งบรัฐบาลมาถึงชุมชนชนบทในป่าในดอย เพื่อการเดินทางการใช้ชีวิตประจำวัน อยากรู้ว่างบประมาณที่รัฐให้ต่อปี เท่าไหร่ เมื่อไหร่การพัฒนาจะเทียบเท่าในเมือง อีกกี่ปีกี่ชาติถึงจะใด้ใช้ถนนลาดยาง
คนในหมู่บ้านนี้โชคดีจริงๆอยู่กับธรรมชาติที่สมบูรณ์สวยงามดูอบอุ่นปลอดภัยมีความสุขกันทุกคน.อยากอยู่แบบนี้บ้างจัง
เราเป็นคนแม่สอดที่อยู่ต่างประเทศมานานแล้ว.กลับไทยปีหน้าอยากไปเที่ยวหมู่บ้านนี้ธรรมชาติสวยงาม.ขอบคุณแอดมินมากค่ะ.
เป็นวิถีชีวิตที่น่าสืบสานอนุรักษ์ไว้มากๆลย เสียดายที่เวลาน้อยไปค่ะเนื้อหาเลยยังไม่จุใจน่าจะแบ่งได้เป็น3ตอนเลย เองความเป็นอยู่การปลูกเรือน วิถีการทำมาหากินการทำอาหาร การทำอาชีพค่างๆ ประเพณีต่างๆในเผ่า ถ้ามีอีกจะติดตามดูอีกคะ
อยากจะไเที่ยวบ้างจังเลยธรรมชาติสวยงามวิถีชีวิตเรียบง่ายชอบดูเขามีความสุขกัน
แปลกนะ คนแก่ที่นี่ไม่มีหัวล้านเลยซักคน555🤣แสดงว่าขมิ้น ส้มป่อยดีจริงๆ.
ยังมีหมู่บ้านที่.เราไม่เคยเห็นว่า.เขาอยู่กันยังไง.วิถีชีวิตเขาดำเนินกันไปแบบไหน.ก็ได้เห็นจากรายการนี้แหละ.ขอบคุณทางรายการที่ถ่ายทอดเรื่องราวของชาวบ้านมาให้ดูค่ะ.
ชอบวิถีชีวิตธรรมดาๆ ที่แสนจะเรียบง่าย
ดีงามมากกก…อย่าให้มีคนไปเปลี่ยนวิถีชีวิตของพวก เราว่าเขามีความสุขกว่าโลกภายนอก
นายทุน สังคมเมืองเข้าไปที่ไหนบรรลัยที่นั่น
ธรรมชาติมาก คุณภาพชีวิตดีสุดๆ
ทำคอนเทนต์แบบนี้ออกมาบ่อยๆนะครับ ชอบวิถีชนบทที่สุดเลย
Thai PBS สร้างสรรค์รายการดีมีสาระ ❤️🇹🇭
สะออนเสียงคนพากษ์ การถ่ายทำดี เบิ่งแล้วซำบายตา ซำบายใจ 👍👍👍💯💯ครับผม
ถนนตัดผ่านพาสังคมเมืองเข้ามาวัฒนธรรม”ลงแขก”หายไป “เงิน “เข้ามาแทน
ขอบคุณรายการค่ะ ที่ไปถ่ายทำวิธีชีวิตที่ไม่เคยได้เห็น แบบนี้มานานมาก แล้ว ในสังคมแบบคนเมืองก็วุ่นวาย ดิ้นรน แข่งขัน อันตรายรอบด้าน อยู่แบบตัวใครตัวมัน ป้าชอบรายการแบบนี้ค่ะ
มีความสุขไปอีกแบบ เกื้อกูลกันไม่ต้องแข่งขันชิงดีชิงเด่นหรืออวดรวยกัน