การบรรลุโสดาบันในโลกปัจจุบัน [6718-1u]
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 27 เม.ย. 2024
- Q1 : โสดาบัน
A: โสดาบัน หมายถึง ผู้ที่จะไปถึงกระแส, อยู่บนกระแส, อยู่บนทาง เปรียบเหมือนกับการล่องแม่น้ำให้ออกไปสู่ทะเล คือ ทางที่จะไปสู่พระนิพพาน
- คุณสมบัติของโสดาบัน (โสตาปัตติยังคะ 4)
(1) - (3) มีศรัทธาอย่างลงมั่นไม่หวั่นไหวในพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ (อจลศรัทธา): โดยศรัทธาจะเต็มได้ต้องควบคู่ไปกับการมีปัญญาพอสมควร รู้ว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไรไว้ ไม่ทำในสิ่งที่ท่านไม่ได้สอน ไม่งมงาย ตั้งมั่นในเรื่องของกรรม จิตใจจะไม่เคลื่อนคล้อยไปทางอื่น เช่น การอ้อนวอนบูชาขอร้อง เสี่ยงเซียมซี ดูหมอดู แก้เคล็ด เป็นต้น หากไม่สบายใจก็จะหาคำตอบจากในคำสอนของพระพุทธเจ้า ไม่ไปหาคำตอบนอกคำสอนของพระพุทธเจ้า
(4) มีศีล 5 ชนิดที่ไม่ขาด ไม่ทะลุ ไม่ด่าง ไม่พร้อย
- ความเป็นโสดาบัน (โสตาปัตติผล)
(1) จะมีศีล ชนิดที่ไม่ใช่สีลัพพตปรามาส - จะไม่งมงาย ไม่ใช่สายมู ทุกอย่างมีเหตุมีผล
(2) จะละสักกายทิฏฐิได้ - เข้าใจว่าสิ่งทั้งหลายทั้งปวงเป็นของไม่เที่ยง
(3) จะละวิจิกิจฉาได้ - ละความเคลือบแคลง เห็นแย้ง ไม่ลงใจไปได้
- ประเภทของโสดาบัน 1. เอกพีชี (เกิดอีก 1 ชาติ) 2. โกลังโกละ (เกิดอีก 2-3 ชาติ) 3. สัตตักขัตตุงปรมะ (เกิดอีกไม่เกิน 7 ชาติ)
- การบรรลุโสดาบันในยุคปัจจุบัน แม้คุณสมบัติการเป็นโสดาบันจะไม่ง่าย แต่หากเราใช้ ความเพียรในการสร้างเหตุ ความเป็นโสดาบันก็จะเกิดขึ้นได้ ให้ตั้ง “ความเพียร” ในการสร้างเหตุที่จะเป็นโสดาบัน ก็จะได้โสตาปัตติผลอย่างแน่นอน แม้จะยาก แต่ผลที่จะได้มันมาก ความทุกข์จะลดลงไปอย่างมาก ผู้ที่เป็นโสดาบันแล้ว ท่านเปรียบกับเศษฝุ่นที่ติดปลายเล็บกับปริมาณหินดินบนเทือกเขาหิมาลัย ปริมาณความทุกข์ของโสดาบันที่จะหมดสิ้นไปมากเท่านั้น ที่เหลืออยู่มีเพียงนิดเดียว
- การเป็นโสดาบันจะรู้ได้ด้วยตัวเอง โดยจะมีเครื่องทดสอบให้ทำผิดศีล ให้ออกนอกเส้นทางที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ ก็จะทำไม่ได้ จิตใจจะไม่น้อมไป เมื่อคุณสมบัติโสดาบันครบตอนไหน ก็เป็นโสดาบันได้ตอนนั้น กรณีที่จะเป็นโสดาบันไม่ได้ คือ ได้ทำอนันตริยกรรม (ฆ่าพ่อแม่ ฆ่าพระอรหันต์ ทำสงฆ์ให้แตกกัน ทำพระพุทธเจ้าให้ห้อเลือด)
Q2 : ความเห็นไม่ตรงกับคู่ครอง
A: เป็นปัญหาของการใช้ชีวิตคู่ เป็นเรื่องยุ่งของการครองเรือน วิธีการป้องกันไม่ให้วุ่นวายไปกว่านี้ คือ อย่าทำผิดศีลและมีสัมมาวาจา หรือประพฤติพรหมจรรย์
Q3 : ให้ทานมากจนไม่เหลือไว้ใช้จ่าย
A: การห้ามไม่ให้ผู้อื่นให้ทาน ไม่ใช่มิตรแท้แต่เป็นคนพาล และการให้ทานแล้วเบียดเบียนตนเองหรือผู้อื่นก็ไม่ถูกต้อง
- คนฉลาดในการให้ทาน 1) ด้วยศรัทธา 2) ด้วยความเคารพ 3) ในเวลาที่เหมาะสม 4) มีจิตอนุเคราะห์ 5) ไม่กระทบตนและผู้อื่น หากขาดข้อใดข้อหนึ่ง บุญก็จะเศร้าหมองลง
- วิธีแก้ปัญหาการให้ทานมากเกินไป ให้จัดทำงบประมาณกันเงินไว้สำหรับการทำทาน เพื่อไม่ให้กระทบตนและเพื่อผู้อื่น
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับผม ติดตามพระอามาตลอดครับผม แต่ส่วนใหญ่จะฟังย้อนหลัง ทางผอดแคร์ด ฟังทุกวัน ทุกตอนครับผม ติดตามพระอาจารย์มาหลายปีแล้วครับ แต่ยังไม่มีโอกาส ทีจะได้ไปกราบพระอาเลยครับ
กราบนมัสการ พระอาจารย์ เจ้าค่ะ🙏🙏🙏
กราบนมัสการพระอาจารรย์เจ้าค่ะ
น้อมกราบนมัสการพระอาจารย์และขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงเจ้าค่ะ
ขออนุโมทนาบุญกับคุณทรงพลและทีมงานทุกท่านด้วยนะคะ สาธุ....
กราบนมัสการเจ้าค่ะพระอาจารย์
ชอบทุกเรื่องเลย
🙏🙏🙏❤❤❤
🙏🙏🙏
กราบนมัสการพระอาจารย์🙏🙏🙏และสวัสดีคุณทรงพลค่ะ
🙏💕😇🙏
🙏🙏🙏
🙏🙏🙏