กริยา 3 ช่อง ภาษาอังกฤษ พร้อมคําแปล | พร้อมคำอธิบายและท่องศัพท์

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 8 มิ.ย. 2024
  • ในคลิปวิดีโอนี้เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับกริยา 3 ช่องที่เป็นส่วนสำคัญในการใช้ภาษาอังกฤษอย่างถูกต้อง
    👍 Playlist:
    📚Quiz ทายคําศัพท์ภาษาอังกฤษ: bit.ly/3EN3HCU
    📚คําศัพท์ 3500 คำ: bit.ly/3rYkRKY
    📚คําศัพท์ภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก: bit.ly/3PoaOqo
    📚เรียนภาษาอังกฤษจากนิทาน: bit.ly/3tHZiPt
    กริยา 3 ช่องคืออะไร
    คำกริยา 3 ช่องเป็นการผันคำกริยาที่ใช้เพื่ออธิบายเหตุการณ์หรือสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต การใช้คำกริยาในแต่ละช่องจะช่วยให้ผู้ฟังหรือผู้อ่านเข้าใจเวลาที่เกิดเหตุการณ์ได้อย่างชัดเจน โดยการผันคำมีแบบต่างๆ ดังนี้:
    1.กริยาช่องที่ 1 - ปัจจุบัน (Base Form)
    ใช้ในการแสดงถึงเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปของคำกริยาตามเวลา
    2.กริยาช่องที่ 2 - อดีต (Simple Past Tense)
    ใช้ในการพูดถึงเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต โดยมักเปลี่ยนรูปของคำกริยาเพื่อสร้างอดีต
    3.กริยาช่องที่ 3 - Perfect Tense และ Passive Voice (Past Participle)
    ใช้ในการเน้นเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและมีผลต่อปัจจุบันหรืออนาคต หรือในกรณี Passive Voice ใช้ในการเน้นผู้รับกระทำ ในกรณีนี้ใช้รูป Past Participle ของคำกริยา
    ตัวอย่าง: “They have lived in this town for ten years.” (พวกเขาอาศัยอยู่ในเมืองนี้มาเป็นเวลาสิบปี)
    ตัวอย่าง (Passive Voice): “The book was written by the author.” (หนังสือถูกเขียนโดยผู้เขียน)
    ดังนั้น คำกริยา 3 ช่องเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อเล่าเรื่องราวและเสนอข้อมูลในแต่ละช่วงเวลาอย่างถูกต้อง
    ------------
    Perfect Tense คืออะไร
    Perfect Tense คือรูปกริยาที่ใช้ในการแสดงเหตุการณ์หรือสถานะที่เกิดขึ้นในอดีตและเชื่อมโยงกับเวลาปัจจุบันหรืออนาคต โดยใช้กริยา "have" หรือ "has" (ในกรณีของกริยาบุคคลที่ 3 สามเหลืองเดี่ยว) ร่วมกับรูป Past Participle ของกริยาเพื่อสร้างข้อความที่เน้นความสมบูรณ์และส่งผ่านเวลามาถึงปัจจุบันหรืออนาคต โดยมักใช้ในเช่นนิยามเหตุการณ์, ประสบการณ์, หรือสถานะที่มีความเกี่ยวข้องกับเวลาที่ผ่านมาหรือคาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต
    ตัวอย่างประโยคที่ใช้ Perfect Tense:
    1. *I have finished* my homework. (ผมได้ทำเสร็จการบ้านแล้ว)
    2. *She has visited* Paris before. (เธอเคยไปเยือนปารีสมาก่อน)
    3. *They have lived* in that house for five years. (พวกเขาอาศัยอยู่ในบ้านนั้นมาเป็นเวลาห้าปี)
    4. *He has never seen* a movie like this. (เขาไม่เคยเห็นหนังแบบนี้มาก่อน)
    สำหรับกริยา Perfect Tense ของ Irregular Verbs และ Regular Verbs มักจะแตกต่างกันตามรูปแบบการเปลี่ยนรูปของแต่ละคำกริยา เช่น:
    - Irregular Verb: *go* - *went* (อดีต) - *gone* (Past Participle)
    - Regular Verb: *walk* - *walked* (อดีต) - *walked* (Past Participle)
    การใช้ Perfect Tense ช่วยให้เราสามารถเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตและเชื่อมโยงกับสถานการณ์ปัจจุบันหรืออนาคตได้อย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ภาษาอังกฤษมีความยืดหยุ่นและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
    ------------
    Passive Voice คือรูปประโยคที่ใช้ในการเน้นผู้รับกระทำ (เรียกว่าเป็น "ผู้ถูกกระทำ") มากกว่าผู้กระทำ (เรียกว่า "Subjеct") ในเรื่องการกระทำของคำกริยา ซึ่งทำให้ผู้ฟังหรือผู้อ่านให้ความสำคัญกับผลกระทำที่เกิดขึ้นกับผู้ถูกกระทำ เช่น ผลกระทำที่เกิดจากคำกริยานั้น หรืออย่างการเน้นกล่าวถึงผู้กระทำไม่ได้เป็นสำคัญ ตัวอย่าง:
    Active Voice:
    - *She writes* novels. (เธอเขียนนวนิยาย)
    Passive Voice:
    - *Novels are written* by her. (นวนิยายถูกเขียนโดยเธอ)
    ------------
    Passive Voice คืออะไร
    ใน Passive Voice จะมีองค์ประกอบสำคัญอยู่ 2 อย่าง คือ กริยา "to be" ในรูปของ tense ที่เหมาะสมกับเนื้อความ (เช่น is, am, are, was, were, has been, have been, had been ฯลฯ) และ Past Participle ของคำกริยาที่เปลี่ยนรูปมาใช้ใน Passive Voice ตัวอย่าง:
    - *Present Simple**: **am/is/are* + Past Participle
    - Active: "She *paints* the picture." (เธอวาดรูป)
    - Passive: "The picture *is painted* by her." (รูปถูกวาดโดยเธอ)
    - *Past Simple**: **was/were* + Past Participle
    - Active: "They *built* the house." (พวกเขาสร้างบ้าน)
    - Passive: "The house *was built* by them." (บ้านถูกสร้างโดยพวกเขา)
    - *Present Perfect**: **have/has been* + Past Participle
    - Active: "He *has written* a book." (เขาเขียนหนังสือ)
    - Passive: "A book *has been written* by him." (หนังสือถูกเขียนโดยเขา)
    การใช้ Passive Voice ช่วยเน้นผู้ถูกกระทำและเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประโยคให้หลากหลาย แต่ต้องระมัดระวังในการใช้เพราะอาจทำให้ประโยคเป็นอิมพอสิเรียลหรือเสียงเทียมกับประโยคเหมือนกัน ดังนั้นควรใช้ Passive Voice ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นและเหมาะสมกับบริบทและเนื้อความของประโยค
    #ฝึกพูดภาษาอังกฤษ, #ภาษาอังกฤษ, #เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง, #ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน, #ภาษาอังกฤษพื้นฐาน, #สอนภาษาอังกฤษ, #ประโยคภาษาอังกฤษ
    00:00:00 กริยา 3 ช่องคืออะไร
    00:02:02 รูปของคำกริยา
    00:02:31 กริยา 3 ช่อง: A
    00:13:46 กริยา 3 ช่อง: B
    00:28:43 กริยา 3 ช่อง: C
    00:53:00 กริยา 3 ช่อง: D
    01:09:18 กริยา 3 ช่อง: E
    01:17:45 กริยา 3 ช่อง: F
    01:28:07 กริยา 3 ช่อง: G
    01:32:41 กริยา 3 ช่อง: H
    01:38:57 กริยา 3 ช่อง: I
    01:55:04 กริยา 3 ช่อง: JK
    01:57:16 กริยา 3 ช่อง: L
    02:02:13 กริยา 3 ช่อง: M
    02:10:48 กริยา 3 ช่อง: N
    02:13:59 กริยา 3 ช่อง: O
    02:22:30 กริยา 3 ช่อง: P
    02:36:15 กริยา 3 ช่อง: Q
    02:37:00 กริยา 3 ช่อง: R
    02:52:34 กริยา 3 ช่อง: S
    03:33:02 กริยา 3 ช่อง: T
    03:42:06 กริยา 3 ช่อง: U
    03:45:37 กริยา 3 ช่อง: V
    03:47:39 กริยา 3 ช่อง: W
    03:55:06 กริยา 3 ช่อง: Y
    03:55:43 กริยา 3 ช่อง: Z

ความคิดเห็น • 4

  • @wipawanpanomchai5779
    @wipawanpanomchai5779 9 หลายเดือนก่อน +1

    ดีมากเลยคร่า

  • @waranthornlimpanachaiponku5603
    @waranthornlimpanachaiponku5603 8 หลายเดือนก่อน

    ครบ1000คำจริงๆมั้ยคะ อยากทราบค่ะ

    • @DailyLingo
      @DailyLingo  8 หลายเดือนก่อน +1

      ทั้งหมด 1165 คำจ้า :)

    • @waranthornlimpanachaiponku5603
      @waranthornlimpanachaiponku5603 8 หลายเดือนก่อน

      อยากให้ทำอีกเยอะๆเลยค่ะ ดีมากๆเลย❤