ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
ขอบคุณมากครับ!สำหรับข้อมูลความรู้
คุณูปการของพุทธศาสนาต่อวงการปรัชญาโลกในด้านต่างๆ1. อภิปรัชญา (12:50)2. ญานวิทยา ( 18:22)3. จริยศาสตร์ (23:43)
ท่านอาจารย์สมภาร พรมทาก็มีคุณูปการให้คนจดจำทั้งในไทยและต่างประเทศ ขอบคุณในความพากเพียรของท่านครับ
ขอบพระคุณ ในความรู้ที่อาจารย์มอบให้ และอนุโมทนาสาธุครับ
เข้ามารับฟัง วันพุธที่ 01/01/25 เวลา08.20น. ค่ะ😊
16:50
ສະບາຍດີ ອາຈານ
เนื้อหาเป็นประโยชน์มากเลยครับโยมอาจารย์เสียดายเสียงไอของนศ.ดังมาก น่าจะให้นศ.ปิดไมค์นะครับ เขาอาจจะไม่รู้ตัว
ใช่..
ปุพพโกฏฐกสูตร[๙๘๕] ท่านพระสารีบุตรกราบทูลว่า " ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญในเรื่องนี้ ข้าพระองค์ไม่ถึงความเชื่อต่อพระผู้มีพระภาคว่า สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมหยั่งลงสู่อมตะ มีอมตะเป็นเบื้องหน้า มีอมตะเป็นที่สุด.. "" ด้วยว่าอมตะนั้น ชนเหล่าใดยังไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ทราบ ไม่กระทำให้แจ้ง ไม่พิจารณาเห็นด้วยปัญญา ชนเหล่านั้นพึงถึงความเชื่อต่อชนเหล่าอื่น 👈👈---(ต้องชื่อผู้อื่นก่อน..เมื่อยังไม่กระทำให้แจ้ง..) ในอมตะนั้นว่า สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมหยั่งลงสู่อมตะ มีอมตะเป็นเบื้องหน้า มีอมตะเป็นที่สุด.."" ก็แลอมตะนั้น ชนเหล่าใดรู้แล้ว เห็นแล้ว ทราบแล้ว กระทำให้แจ้งแล้ว พิจารณาเห็นแล้วด้วยปัญญา ชนเหล่านั้นหมดความเคลือบแคลงสงสัย 👈👈--(พระอรหันต์ทั้งหลายทำให่แจ้งแล้ว..จึงหมดความสงสัย) ในอมตะนั้นว่า สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมหยั่งลงสู่อมตะ มีอมตะเป็นเบื้องหน้า มีอมตะเป็นที่สุด.."" ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็อมตะนั้น ข้าพระองค์รู้แล้ว เห็นแล้ว ทราบแล้ว กระทำให้แจ้งแล้วพิจารณาเห็นแล้วด้วยปัญญา ข้าพระองค์จึงหมดความเคลือบแคลงสงสัย ในอมตะนั้นว่าสัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมหยั่งลงสู่อมตะ มีอมตะเป็นเบื้องหน้า มีอมตะเป็นที่สุด. " 👈👈---(พระสารีบุตรทำกระทำให้แจ้งแล้ง...จึงไม่สงสัย..)แต่การที่พระสารีบุตร...ตอนที่ยังกระทำไม่แจ้ง..ยังไม่เป็นพระอรหันต์ พระสารีบุตรก็ต้องเชื่อพระพุทธเจ้าก่อน...แล้วเดินตาม ต่อเมื่อกระทำให้แจ้งแล้ว..ด้วยตนเองว่า..อินทรีย์๕..นี่ทำให้เราหยั่งลงสู่อมตะแล้ว...รู้ดห็นเองแล้ว อย่างนี้...ก็ไม่ต้องถึงความเชื่อในผู้อื่น(เฉพาะในเรื่องนี้..เท่านั้น)แต่ถ้าเรื่องๆ..ก็ต้องเขื่อผู้อื่นอยู่ดี
เสียงไอใส่ไมโครโฟนดังรบกวน
คือไม่มีใครเถียงหรอกครับว่าพุทธศาสนาไม่มีประโยชน์ แต่การตีความ การสื่อสารศาสนา,องค์กร การศึกษา บวนการศาสนา...มันไม่ทันสมัย ไม่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับสังคม คือมีปัญหาในมิติสังคม วนเวียนอยู่กับการอวยกันเอง การทำบุญ การมีเมตตา...ถ้าพุทธศาสนาจะมีพลังต้องตีความ,สื่อสารใหม่ ให่รับใช้ขบวนการทางสังคม นำสังคม ไม่ใช่ตีความแบบเดิมๆ
หูฟังสโมทอร์ค หูกระทะไม่สนใจไม่ตั้งใจฟัง สวรรค์ภูมิ นรกภูมิ นิพพาน คือความคิดเห็น นี้จัดเป็นงานที่กำหนดไปในทางของภูมิไหนแล้วเราพร้อมแค่ไหน
คนอิสลามยอมรับพุทธศาสนาได้เพราะเขาเป็นผู้ฆ่าหมูการไตร่ตรองคือบุคคลผู้ฆ่าซึ่งอวิชาคือความไม่รู้กระทำให้แจ้งแล้วพระเจ้าห้ามไม่ให้กินหมูคือการทำความยินดีให้รักษาไว้แต่ดีการยอมรับอารมร์ที่ไม่น่ายินดีให้เป็นสิ่งที่น่ายินดีเป็นของยากคือทำได้ยาก
ใช่ครับชีวิตนี้สั้นหมายถึงสัตว์
เป็นกำลังใจให้อาจารย์สมภารครับ
ขอบคุณมากครับ!สำหรับข้อมูลความรู้
คุณูปการของพุทธศาสนาต่อวงการปรัชญาโลกในด้านต่างๆ
1. อภิปรัชญา (12:50)
2. ญานวิทยา ( 18:22)
3. จริยศาสตร์ (23:43)
ท่านอาจารย์สมภาร พรมทาก็มีคุณูปการให้คนจดจำทั้งในไทยและต่างประเทศ ขอบคุณในความพากเพียรของท่านครับ
ขอบพระคุณ ในความรู้ที่อาจารย์มอบให้ และอนุโมทนาสาธุครับ
เข้ามารับฟัง วันพุธที่ 01/01/25 เวลา08.20น. ค่ะ😊
16:50
ສະບາຍດີ ອາຈານ
เนื้อหาเป็นประโยชน์มากเลยครับโยมอาจารย์
เสียดายเสียงไอของนศ.ดังมาก น่าจะให้นศ.ปิดไมค์นะครับ เขาอาจจะไม่รู้ตัว
ใช่..
ปุพพโกฏฐกสูตร
[๙๘๕] ท่านพระสารีบุตรกราบทูลว่า
" ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญในเรื่องนี้ ข้าพระองค์ไม่ถึงความเชื่อต่อพระผู้มีพระภาคว่า
สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมหยั่งลงสู่อมตะ
มีอมตะเป็นเบื้องหน้า มีอมตะเป็นที่สุด.. "
" ด้วยว่าอมตะนั้น
ชนเหล่าใดยังไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ทราบ ไม่กระทำให้แจ้ง ไม่พิจารณาเห็นด้วยปัญญา
ชนเหล่านั้นพึงถึงความเชื่อต่อชนเหล่าอื่น 👈👈---(ต้องชื่อผู้อื่นก่อน..เมื่อยังไม่กระทำให้แจ้ง..)
ในอมตะนั้นว่า สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ อันบุคคลเจริญแล้ว
กระทำให้มากแล้ว ย่อมหยั่งลงสู่อมตะ มีอมตะเป็นเบื้องหน้า มีอมตะเป็นที่สุด.."
" ก็แลอมตะนั้น
ชนเหล่าใดรู้แล้ว เห็นแล้ว ทราบแล้ว กระทำให้แจ้งแล้ว พิจารณาเห็นแล้วด้วยปัญญา
ชนเหล่านั้นหมดความเคลือบแคลงสงสัย 👈👈--(พระอรหันต์ทั้งหลายทำให่แจ้งแล้ว..จึงหมดความสงสัย)
ในอมตะนั้นว่า สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมหยั่งลงสู่อมตะ
มีอมตะเป็นเบื้องหน้า มีอมตะเป็นที่สุด.."
" ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็อมตะนั้น ข้าพระองค์รู้แล้ว เห็นแล้ว ทราบแล้ว กระทำให้แจ้งแล้ว
พิจารณาเห็นแล้วด้วยปัญญา ข้าพระองค์จึงหมดความเคลือบแคลงสงสัย ในอมตะนั้นว่า
สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมหยั่งลงสู่อมตะ มีอมตะ
เป็นเบื้องหน้า มีอมตะเป็นที่สุด. " 👈👈---(พระสารีบุตรทำกระทำให้แจ้งแล้ง...จึงไม่สงสัย..)
แต่การที่พระสารีบุตร...ตอนที่ยังกระทำไม่แจ้ง..ยังไม่เป็นพระอรหันต์ พระสารีบุตรก็ต้องเชื่อพระพุทธเจ้าก่อน...แล้วเดินตาม ต่อเมื่อกระทำให้แจ้งแล้ว..ด้วยตนเองว่า..อินทรีย์๕..นี่ทำให้เราหยั่งลงสู่อมตะแล้ว...รู้ดห็นเองแล้ว อย่างนี้...ก็ไม่ต้องถึงความเชื่อในผู้อื่น(เฉพาะในเรื่องนี้..เท่านั้น)
แต่ถ้าเรื่องๆ..ก็ต้องเขื่อผู้อื่นอยู่ดี
เสียงไอใส่ไมโครโฟนดังรบกวน
คือไม่มีใครเถียงหรอกครับว่าพุทธศาสนาไม่มีประโยชน์ แต่การตีความ การสื่อสารศาสนา,องค์กร การศึกษา บวนการศาสนา...มันไม่ทันสมัย ไม่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับสังคม คือมีปัญหาในมิติสังคม วนเวียนอยู่กับการอวยกันเอง การทำบุญ การมีเมตตา...ถ้าพุทธศาสนาจะมีพลังต้องตีความ,สื่อสารใหม่ ให่รับใช้ขบวนการทางสังคม นำสังคม ไม่ใช่ตีความแบบเดิมๆ
หูฟังสโมทอร์ค หูกระทะไม่สนใจไม่ตั้งใจฟัง สวรรค์ภูมิ นรกภูมิ นิพพาน คือความคิดเห็น นี้จัดเป็นงานที่กำหนดไปในทางของภูมิไหนแล้วเราพร้อมแค่ไหน
คนอิสลามยอมรับพุทธศาสนาได้เพราะเขาเป็นผู้ฆ่าหมูการไตร่ตรองคือบุคคลผู้ฆ่าซึ่งอวิชาคือความไม่รู้กระทำให้แจ้งแล้วพระเจ้าห้ามไม่ให้กินหมูคือการทำความยินดีให้รักษาไว้แต่ดีการยอมรับอารมร์ที่ไม่น่ายินดีให้เป็นสิ่งที่น่ายินดีเป็นของยากคือทำได้ยาก
ใช่ครับชีวิตนี้สั้นหมายถึงสัตว์
เป็นกำลังใจให้อาจารย์สมภารครับ