ดราม่าวงการรถไถ แรงม้าเท่ากันแต่แรงไม่เท่ากัน เพราะอะไร ตอนที่ 1
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 11 ก.พ. 2022
- วันนี้เรามาดูประเด็นที่ว่า รถไถแรงม้าเท่ากัน แต่ทำไมขับแล้วมันแรงไม่เท่า
ประเด็นนี้ก็มีหลายๆปัจจัยน่ะครับ แต่ผมจะเอาประเด็นหลักมาพูดก่อนน่ะครับ
1.การโฆษณา แรงม้า
หากพูดถึงแรงม้าจริงๆ ก็มีอยู่ 2 ประเภท คือ เป็นแรงม้าสูงสุด และ แรงม้าสุทธิ
แรงม้าสูงสุด เป็น สิ่งที่ แบรนด์ รถหลายค่ายชอบเอามาโฆษณา ครับ คือแรงม้า ที่วัดมาจากเครื่องเปล่าๆ แรงม้าสูงสุด จะมีค่ามากกว่าแรงม้าสุทธิ
แรงม้าสุทธิ คือ แรงม้าที่ผ่านระบบต่างๆมาแล้ว มาจึงมาวัดค่าแรงม้ากัน ทำให้แรงม้าสุทธิ มีค่าน้อยกว่า นั้นเองครับ
ขอยกตัวอย่าง รถไถคูโบต้า L4018
หากเราไปดูในโบชัว จะพอว่า แรงม้าสูงสุด คือ 40 แรงม้า
และ แรงม้าสุทธิ จะอยู่ที่ 38.5 แรงม้า เท่านั้น
นี้ก็เป็นสาเหตุให้ รถแต่ล่ะค่าย ที่โฆษณา มักจะนำแรงม้าสูงสุดมาโฆษณา หากเราต้องการดูแรงม้าที่แท้จริง ต้องมาดูที่แรงมาสุทธิครับ
2.จำนวนสูบ
หากเราเห็นแรงม้าสุทธิ เท่ากันแล้ว แล้วเวลาขับ ทำไมมันยังรู้สึกแตกกต่างกัน เราก็ต้องมาดูที่จำนวนกระบอกสูบครับ
ผมขออธิบายแบบง่ายๆ จำนวนสูบ ก็คือจำนวนช่วงเวลาที่ในการปล่อยแรงออกมาใน 1 รอบ เครื่อง
เช่น เครื่องยนต์ 4 สูบ จะมีจังหวะในการปล่อยแรง ออกมา 4 ครั้ง ใน 1 รอบ เครื่อง
ส่วนเครื่องยนต์ 6 สูบ จะมีจังหวะ ในการปล่อยแรง ออกมา 6 ครั้ง ใน 1 รอบเครื่อง
อันนี้ อธิบายเป็น คำพูดมันจะยากครับ แต่หากท่านใดเคยลอง ขับจะรู้เลยว่า แรงม้า เท่ากัน แต่ เครื่อง 6 สูบ จะมีแรงขับที่ คงที่มากกว่า เพราะ 1 รอบ ปล่อยแรงออกมาได้ 6 ครั้งนั้นเอง
3.เกียร์
เรื่องเกียร์คือ ส่วนที่รับ กำลังมาจากเครื่องยนต์ และเปลี่ยนถ่ายเป็นแรงไปที่ล้อ
เกียร์จึงมีผลมากๆ ในการแสดงกำลังของเครื่องยนต์นั้นเองครับ
เกียร์ที่ออกแบบมาดี ช่วงเกียร์ที่ค่อมกันอยู่ เกียร์สูงแล้วรอบไม่ตก
รูปตัวอย่าง จะเห็นว่า ในช่วงความเร็วต่ำ คือ ไม่เกิน 5 กม/ชม
รถไถคันนี้ มีให้เลือกถึง 7 เกียร์ ทำให้รีบแรงม้าจากเครื่องยนต์ ออกมาได้เต็มกำลัง
ตรงนี้ พูดเป็นทฏษดี จะยากครับ เพื่อนๆคนขับมาแชร์ ประสบการณ์กันได้น่ะครับครับ
4.น้ำหนักรถไถ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญเรื่องหนึ่ง แต่สำหรับรถไถ เรื่องน้ำหนักรถที่มากก็มีข้อดี และ ข้อเสีย ตามคลิปที่ผมได้ทำไป
แรงม้าที่ได้มา หากรถมีน้ำหนักมาก ผมขอยกตัวอย่าง แบบง่ายๆ คือ เรามีม้า 1 ตัว วิ่งรอบสนาม 400 เมตร พร้อม ผาน ที่ข้างหลังมาก คนขี่คนแรงน้ำหนัก 50 โล คนขี่คนที่สอง มีน้ำหนัก 100 โล
คุณคิดว่า ม้าตัวเดียวกับ ผานพรวนต่อท้ายอันเดี่ยวกัน แต่คนขี่หนักไม่เท่ากัน
คุณคิดว่าคนที่1 หรือ คนที่2 จะทำงานได้มากกว่ากัน
เราก็จะเห็นว่า คนที่ 1 ที่มีน้ำหนัก 50 โล ม้าน่าจะแรงในการทำงานมากกว่า
แต่คนที่ 2 ที่มีน้ำหนัก 100 โล ม้าก็ทำงานได้เหมือนกัน แต่ อาจะทำงานได้น้อยกว่าคนแรก
น้ำหนักรถไถ จึงมีผลโดยตรงกับเรื่องแรงม้าครับ
รถไถที่ดี แรงม้า กับ น้ำหนักรถ ต้องสอดคล้องกันครับ มากเกินไป ก็เหมือนคนที่ 2
แต่ไม่ได้บอกน่ะครับ ว่ารถหนัก ไม่มี มีข้อดีน่ะครับ แต่สอดคล้องกับงานที่เราทำด้วยน่ะครับ
สรุป
รถไถก่อนซื้อ หากเป็นไปได้ ขอให้ท่านลองขับ ไม่ว่าจะขับที่ศุนย์ หรือ ขับของเพื่อน และเลือกรถไถให้เหมาะกับงานที่เราทำ บ้างงาน บ้างแปลง ต้องการรถที่มีน้ำหนัก บ้างงานก็ต้องการรถที่มีน้ำหนักเบา
สุดท้ายหากชอบสาระแบบนี้ก็ฝากกดไลน์ เพื่อเป็นกำลังใจ และ กดติดตามเพื่อรับชมสาระเกี่ยวกับรถไถแบบนี้ต่อไปครับ
ขอบคุณครับ - ยานยนต์และพาหนะ
ขอบคุณทุกความคิดเห็นน่ะครับ ปัจจัยเรื่องความแรง ตามที่ผมได้อธิบายในต้นคลิป จะมีปัจจัยหลายๆเรื่อง และ เรื่องแรงบิด เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ผมไม่ได้พูดถึง อันนี้ต้องขออภัยด้วยครับ
ส่วนเนื้อบางส่วนผมเลือกที่จะอธิบายเพื่อให้เข้าใจได้ง่าย แต่จะผิดจากหลักการที่แท้จริงครับ
.
ทุกท่านสามารถ แสดงความคิดเห็นได้เลยน่ะครับ เพื่อให้เพื่อนๆท่านอื่นได้ทราบข้อมูล ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ
.
ประเด็นนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นประโยชน์ แก่ทุกคน และ พัฒนาวงการถไถ ไทยเราครับ มิได้มีเจตนา โจมตี ค่ายใดๆทั้งสิ้น น่ะครับ
.
ขอบคุณทุกท่าน ทุกความคิดเห็นครับ
.
จะนำไปพัฒนาเพื่อวงการรถไถ ต่อไปครับ
เครื่องรถไถ ซีซี เท่ากัน นอกจากดูแรงม้าแล้ว ต้องดูที่แรงบิดด้วย ถึงแรงม้าเท่ากัน คันที่มีแรงบิดมากกว่าก็แรงกว่าครับ ต้องดูที่แรงบิดเป็นหลักครับ
ขอบคุณมากๆครับ
นอกจากเรื่องบิดต้องดูอัตราทดรอบเฟืองเกียรด้วยครับบางคันแรงม้าแรงบิดเท่ากันแต่อัตราทดเฟืองเกียร์ต่างกันความรู้สึกตอนขับจะต่างกัน
อัตราทดสถานเดียว
แรงบิดน้อยกว่า ก็แรงกว่าได้
ถ้าอัตราทดเกียร์จัดกว่า
@@user-ow7zt6ky9d ใช่ครับแต่นั้นก็จะส่งผลต่ออัตราการกินน้ำมันเชื้อเพลิง ถ้าอัตราทดมันไปเค้นเครื่องเกินไป สุดท้ายจะดูแรงลากจูงจากโบรชัวร์ต้องดูแรงบิดครับ
เปรียบเทียบง่ายๆ เหมือนรถหัวลากค่ายญี่ปุ่น 380ม้า กับยุโรป 340ม้า ค่ายญี่ปุ่นแรงม้ามากกว่าด้วยซ้ำ แต่ทำไมรถยุโรปถึงมีแรงลากที่มากกว่า นั้นเป็นเพราะแรงบิดครับ
แรงม้าคืออัตราทำความเร็ว ซึ่งจะสำคัญสำหรับรถแข่ง แต่ในรถไถหรือรถบรรทุกเราไม่ได้ต้องการความเร็วแต่ต้องการแรงลากจูงสิ่งของหนักได้ดี
รถไถเป็นเครื่องยนต์ค่อนข้างจะรอบช้าเพราะต้องใช่กำลังลากจูงหรือดันที่หนักมาก เพราะฉนั้นเครื่องยนต์จึงต้องมีแรงบิดหรือท๊อร์คที่สูงครอบคลุมไปกับแรงม้าด้วย (แรงบิดคือแรงยกของก้านลูกสูบ วัดที่เพลาข้อแหวี่ยง ส่วนแรงม้าคือกำลังเครื่องยนต์ที่จะมาตอนเครื่องทำงานค่อนข้างจะสมูทแล้วหรือมาตอนรอบสูงนั่นเอง แรงม้าวัดที่เพลาล้อครับ)
ขอบคุณมากๆครับ
เช่นนะ คูโบต้ากับยันม่า คูโบต้าใช้รอบเพียง1.5ก็พอแล้วเกินนั้นคือกินน้ำมัน ถึงเหยียบถึง3.0รอบเลยก็มาแค่รอบแต่แรงทอคหมดตั้งแต่1.8รอบแล้วครับ แนะนำคูโบต้าอย่าเหยียบถ้าคุณจะเลี้ยงหมู ส่วนยันม่าทำงานในรอบ1.5คือรอบไม่เสถียรและค่อนข้างไม่มีแรง เพราะยันม่าเป็นรถแรงบิดสูงที่แรงทอคน้อยในรอบต่ำ เพราะฉนั้นยันม่าจึงใช้รอบ2-3พันรอบกำลังมาเต็ม และมาเยอะกว่าคูโบต้า1-2เท่าเลย ช่วงนี้ยันม่าดึงได้ทุกอย่างไม่ดับง่ายเหมือนคูโบต้า แต่ที่แปลกคือยันม่ามันไม่กินน้ำมันเหมือนคูโบต้ากรณีที่ใช้รอบเครื่องสูงครับ แต่สองค่ายนี้สู้อิเซกิไม่ได้เลย คนละเรื่องเลยกับอิเซกิ
คนละเรื่องกับอิเซกิแบบใหน อยากทราบข้อมูลครับ
เหมือนรถมอไซค์คัฟ..ติดข้าง150ซีซี..แต่ดูในใบโบชัวร์145-147ก็มี
แรงม้าเป็นหน่วยของ กำลัง (power) คืองานที่ทำได้ในหนึ่งวินาที (745 จูลต่อวินาที) แรงบิดเป็นแรงหมุน มีหน่วย นิวตัน-เมตร
วิธีที่ทำให้เข้าง่ายที่สุดคือ เอาสูตรการคำนวนมาอธิบายเลย เช่น คูโบต้า 50แรงม้า จะมีแรงบิด155นิวตันเมตร
1)50แรงม้า คำนวนได้มายังไง
2)155N.m คำนวนได้มายังไง
มันก้อเหมือนกับรถอีแต๋นกับรถปิ๊กอัพแหล่ะคับ อยู่ที่เกียร์ อัตราทดเฟืองคับ
แล้วรถไถคูโบต้าL40ใช้ดีไหมค่ะ
ดีครับ
รถไถเขาวัดกันที่แรงบิดครับจำนวนสูบไม่มีผลกับการใช้งานสูบมากได่แค่เดินเรียบยกตัวอย่างให้เห็นเลยครับเข่นt3.50กับl5018 ความแรงตัวแรกกินขาดทั้งๆน้ำตัวมากกว่าเกือบ600กิโลแถมมีแค่3สูบสำคัญแรงบิดต้องออกรอบต่ำๆจะได้ไม่เค้นรอบมากแอ๊ดควรศึกษาตัวนี้เพิ่มนะครับ
ขอบคุณมากครับ จะนำไปปรับปรุงครับ
สิ่งที่มีผลมีอีกหลายอย่างเช่นอัตราการทดของเกียร์แรงบิดสูงสุดมาในรอบที่เหมาะกับการใช้งานไหมนำหนักรถเหมาะไหมใช้งานอะไรบ่อยสรุปคือตูดใครตูดมันคับใครชอบอันไหนก็อันนั้น
มันมีอยู่3อย่างที่เป็นปัจใจหลังของพละกำลัง 1 แรงม้า 2 แรงบิด 3 อัตราทดเกียร์ จำนวนสุบไม่เกี่ยวครับ
งั้นทำมาสูบเดียวก็ได้ใช่มั๊ยคับ 😆
ที่ccเท่ากันทดเกียรเท่ากัน....สูบน้อยแรงบิดมาที่รอบตำ่กว่าและมากกว่า..สูบมากเรียกรอบและแรงม้าใด้มากกว่า
อยู่แรงบิดครับ
เขาวัดกันที่แรงบิดรอบต่ำ+กับแรงทอร์คครับคุณ ในรถไถที่แรงม้าเท่ากัน แรงบิดกับแรงทอร์คในรอบต่ำ ทำให้เครื่องยนต์ทำงานไม่หนักครับ ความคิดของคุณผมไม่เห็นด้วยเลยครับ
ถุกต้องคับ
ทอร์ค กับแรงบิด มันอันเดียวกันครับ
ภาษาไทยเรียกแรงบิด ภาษาอังกฤษเรียกทอร์ค
มันมี3ปัจใจหลักครับ แรงม้า แรงบิด
และอัตราทดเกียร์
เช่นนะ คูโบต้ากับยันม่า คูโบต้าใช้รอบเพียง1.5ก็พอแล้วเกินนั้นคือกินน้ำมัน ถึงเหยียบถึง3.0รอบเลยก็มาแค่รอบแต่แรงทอคหมดตั้งแต่1.8รอบแล้วครับ แนะนำคูโบต้าอย่าเหยียบถ้าคุณจะเลี้ยงหมู ส่วนยันม่าทำงานในรอบ1.5คือรอบไม่เสถียรและค่อนข้างไม่มีแรง เพราะยันม่าเป็นรถแรงบิดสูงที่แรงทอคน้อยในรอบต่ำ เพราะฉนั้นยันม่าจึงใช้รอบ2-3พันรอบกำลังมาเต็ม และมาเยอะกว่าคูโบต้า1-2เท่าเลย ช่วงนี้ยันม่าดึงได้ทุกอย่างไม่ดับง่ายเหมือนคูโบต้า แต่ที่แปลกคือยันม่ามันไม่กินน้ำมันเหมือนคูโบต้ากรณีที่ใช้รอบเครื่องสูงครับ แต่สองค่ายนี้สู้อิเซกิไม่ได้เลย คนละเรื่องเลยกับอิเซกิ
@@apirachtmanyuen246 คนละเรื่องกับอิเซกิแบบใหน อยากทราบข้อมูลครับ
สุดยอดด
ขอบคุณมากครับ
พี่บอยก็มา555
สอบถามครับเพื่อเป็นความรู้ เราพูดถึงแรงบิด เมื่อเปรียบเทียบแรงบิดรถไถ กับแรงบิดรถปิคอัพ จะเห็นว่าแรงบิดของรถไถมันได้แค่ครึ่งเดียวของรถปิคอัพ คือรถไถจะมีแรงบิดแค่ 180นิวตัน-เมตรก็ว่ามากแล้ว แต่แรงบิดของรถปิคอัพมันมีมากถึง 300ปลายๆไปถึง400 นิวตัน-เมตร ที่ผมสงสัยคือรถไถแรงบิดนิดเดียวทำไมถึงแรงครับ
ผมคิดว่าน่าจะเกี่ยวที่การทดเฟืองด้วยนะ...เพราะผมก็สงสัยเหมือนกัน
ทดเกียร์ +รอบเครื่อ รอบเครื่องรถไถรบเครื่องจะยู่ไม่เกิน3000รอบ แต่รถกระบะวัตที่ราวๆ5000รอบ แรงบิดมันก็เลยมาก แต่รองออกเท่า3000รอบแรงหายเกินครึ่ง
แต่รอบเครื่องของโตโยต้ารีโว่ 2.4ลิตร 150แรงม้า แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 1600ถึง 2400รอบ ต่อนาที ทำได้ 343 นิวตัน-เมตร นะครับ ซึ่งมันเป็นรอบเครื่องที่กว้างมากและต่ำมากนะ เมื่อเปรียบเทียบกับรถไถรุ่น50 แรงม้า มันทำได้เพิ่มขึ้นเท่าตัวของรถไถเลยนะ
@@KUROSAKIEJIKO ถ้าเป็นเครื่องรถไถหรือรถบรรทุก เขาจะซัดที่2000-2500รอบครับ
ส่วนรถกระบะ เห็นวัดที่ 3400-4000รอบ
อยู่ที่เกียร์ครับรถไถออกแบบมาเพื่อใช้กำลังการฉุดลากดึง ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อใช้ความเร็ว ซึ่งเเค่นั้นก็เพียงพอต่อการใช้งาน
พูดเรื่องรถไถ รถไถเมืองไทยมี3สูบ กับ4สูบเท่านั้น แต่ดันพูดถึงเครื่อง6สูบ ทำไมไม่พูดถึง 50แรง 3-4สูบที่เห็นกันอยู่
แม่น
เพราะ ดีกรี ไม่เท่ากันไง
CCของรถเลย
แรงม้าปว่ยบางตัว40ปว่ยไป6ตัว
แรงม้าใช้ในการวิ่ง
แรงบิดใช้ในการชักลากจูง
อัตราทดเฟืองเกียร์อยู่ที่ประเภทการใช้งาน
ถูก ครับเน้น รถใช้กำลัง
แรงบิดเท่ากัน สูบเยอะกว่าก็คล้ายๆกับ 4สูบแบกของกันสี่คน กับ6สูบแบกของหนัก6คน แบบไหนจะแบกได้นานกว่ากัน แรงสม่ำเสมอกว่ากัน เค้นกำลังได้เร็วกว่ากัน และเวลาในกันเรียกกำลังได้ระยะเวลาที่สั้นกว่ากัน แบบไหนก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละท่านละครับ
ดีพอจะได้ความรู้เพิ่มเติมอยู่ครับขอบคุณมาก
5040d ผาน 6 ใบ 24 จมผานสบายๆแต่ไม่ค่อยเท่า คล่องเท่า l 40
มันคล่องกว่ายังไงครับผมสงไสเอล40มันแรงไม่ถึงถ้าไปเจอตออ้อยหรือที่ไถยากๆไม่ได้งานครับ
@@user-zq1pr9gu6b รถต้องหยุดสนิทถึงเข้าเกียร์ได้ ระบบเหมือนฟอดรุ่นเก่า คูเข้าเกียรคล่องกว่า
แรงม้าสูงสุดไม่ค่อยได้ใช้ รถไถใช้แรงบิดคับ
ขอบคุณมากครับ จะนำไปปรับปรุง เนื้องหาน่ะครับ
แรงบิดมันต่างกันแรงบิดมากกว่ารถก็แรงกว่าใช่ไหมครับ
ช่ายครับ
สังเกตุดูครับ วัดเครื่องลูกสูบถึงตัวเครื่องสูงเท่าไหร่ เเรงบิดเยอะครับ ช่วงชักมันจะยาว ครับ
ถูกครับแรงบิดสำคัญที่สุด
ลองเอารถสปอร์ต2-300แรง ลากบรรทุกเที่ยบกับ Isuzu มังกรทอง90แรงม้า ก็ได้ครับ
@@ford4049 ไม่เสมอไปครับอยู่ที่อัตราทดเกียร์ด้วย
ดูระบบในห้องเกียรและการทดเฟืองในห้องเกียรด้วยครัย
.
คูโบต้าL124แรงญี่ปุ่นมีแรงม้าเท่ากับB2440ในไทยไหมครับ
มีพวก ตระกูล L1 ครับ 2 เพลา ในไทยลองไปดูที่ ร้าน ส.แทรกเตอร์ตากฟ้าได้ครับ
ศึกษาข้อมูลดีๆก่อนนะค่อยออกมาพูด
ขอบคุณครับ ขออภัยด้วยครับ
อธิบายผิดรึเปล่าครับเครื่องยน4สูบ1รอบไม่ได้จุดระเบิดสี่ครั้งน่ะครับ
สี่สูบ1รอบจุดระเบิดแค่สองครั้งน่ะครับ
ผมแจ้งในคลิปว่าผิดทฤษฎีครับ ไม่ถูกหลักครับผม
ตกลงเราโดนหลอกมาตั้งนานจาก50แรงม้าลดเหลือ32แรงม้า.
🚜🤥🤥😮💨😮💨
บางค่าย แรงโม้
ม้าไม่ได้กินหญ้า
แรงม้าไม่เท่าไหร่ ที่เหลือแรงโม้ทั้งนั้น
ระบบเกียร์ไม่เท่ากัน
มั่วๆๆ
เครื่อง4จังหวะจะหมูนสองรอบต่อการระเบิด1ครั้งครับขอแก้ใขรถ6สูบหมูน1รอบจะระเบิดเเค่สามครั้ง