ผมเป็นห่วงน้องชายที่ต้อง 'ดูแลพ่อเพียงลำพัง' จนเกรดตก... - Highlight พุธทอล์คพุธโทร 22 มิ.ย.65
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 25 มิ.ย. 2022
- ผมเป็นห่วงน้องชายที่ต้อง 'ดูแลพ่อเพียงลำพัง' จนเกรดตก...
เข้าไปฟังเรื่องราวใน #พุธทอล์คพุธโทร สัปดาห์นี้ได้ที่
• พุธทอล์คพุธโทร [22 มิ....
อยากโทรเข้ามาในรายการ มาฝากเรื่องได้เลยตามช่องทางดังนี้
1. โทร. 026658373 (ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น.)
2. Inbox มาที่ Facebook Fanpage EFM STATION
3. www.atime.live/efm ทีมงานรออ่านทุกเรื่องอยู่น้า
#พุธทอล์คพุธโทร #EFM94 #คลื่นวิทยุอีเอฟเอ็ม94
กดติดตาม AtimeOnline
YT : th-cam.com/users/atimeonl...
FB : / atimeonline
IG : / atimeonline - บันเทิง
ตัวคุณพี่ชายไม่อยู่บ้าน ไม่มีทางทราบว่าน้องชายเจออะไรบ้าง มันอาจไม่ใช่แค่เรื่องพ่อก็ได้
ผมเป็นห่วงคุณน้องชายมาก มันต้องมีอะไรที่บอกใครไม่ได้ ตอนนี้ได้แต่เก็บไว้ข้างใน
สงสารน้องชายมาก ทำไมทุกคนโยนภาระมาไว้ที่เด็กปี 1 ทั้งหมด คือทุกคนรอบตัวทำอะไรกันอยู่
ทำไมขาดจิตสำนึกกันขั้นสุด
เขาไม่ควรต้องมารับผิดชอบอะไรแบบนี้เลย
รู้มั้ยการต้องอยุ่กับคนป่วย มันทุกข์แค่ใหน
ระวังเถอะน้องชายจะฆ่าตัวตาย มันทุกข์สุดๆ ใครไม่เคยดูแลคนป่วยไม่เข้าใจหรอก
ตอนนึ้น้องคุณเป็นโรคซึมเศร้าไปแล้ว พาไปหาหมอรับยาก่อนเลย
น้องอยากเรียนอยู่แล้ว แต่พี่ไม่เห็นพูดเรื่องถ้าน้องไปเรียนใครดูแลพ่อ ในความคิดคุณแค่คิดว่าน้องไม่สนใจการเรียน แต่ไม่คิดกับปัญหาที่เขาเจอเลย คิดหน่อย
เห็นด้วยค่ะ
เป็นพี่ที่แย่มากอะ
ใช่เลย ให้เด็กเรียนมหาลัยดูแลพ่อแล้วจะให้เขาเรียนดีอี้ก
มีพี่แถวบ้าน แม่ไปตปท อาศัยอยู่กับตายาย ตาติดเตียง เขาต้องดูแลตายาย พี่เขาเรียนเก่งมากก พอจบ ม.6 แฟนแกได้เรียนพยาบาล แต่แกไปเรียนไหนไม่ได้ไม่รู้อนาคตตัวเองจะไปทางไหน แพลนไม่ได้ สุดท้ายจบชีวิตตัวเอง สงสารจัง
การดูแลผู้ป่วยนี้ยากมากเลยนะ แล้วเด็กเท่านี้เราว่าน้องน่าสงสารอะ ถ้าทำได้จ้างคนมาช่วยดูแล แล้วเปิดใจคุยกับน้อง ใจเย็นๆรับฟังเขาให้มากที่สุด เด็กวัยนี้ genนี้ จะมีความคิดที่เป็นตัวของตัวเองมาก ต้องรับฟังและทำความเข้าใจเขาให้มากๆเลยค่ะ จากใจคนมีน้องชาย ที่ทะเลาะกับพ่อแม่เรื่องเรียนตลอด แต่น้องเปิดใจคุยกับเรามากที่สุด (ห่างกับน้อง 10 ปีเหมือนกันค่ะ)
พี่ชายแอบเห็นแก่ตัวนะ ทำไมต้องให้น้องมารับผิดชอบพ่อคนเดียวอ่ะ แทนที่น้องจะได้ออกไปใช้ชีวิตวัยรุ่น ไปเจอเพื่อนเจอสังคม ทำไมไม่จ้างใครมาดูแลแทนหรือเปลี่ยนกับใครบ้าง การดูแลคนป่วยบางครั้งทำให้เราป่วยใจไปด้วยนะ
คนที่บอกว่าแบ่งกันแล้ว พี่ทำงานหาเงิน ส่วนน้องเรียนกะดูแลพ่อคือแฟร์แล้ว บอกเลยค่ะว่าไม่แฟร์ ดูแลคนแก่ที่ป่วยเหนื่อยกว่าไปทำงานนอกบ้านมากกกกกกกกก มันเหนื่อยกายไม่เท่าเหนื่อยใจ มัน toxic มากๆ ทั้งการกระทำและคำพูด คือไม่เจอเองไม่มีวันเข้าใจความเหนื่อยนี้ค่ะ ถ้ามีกำลังทรัพย์นะคะแนะนำทุกบ้านเลยจ้างคนดูแลช่วย ช่วยช่วงกลางวันก็ยังดีค่ะ จากประสบการณ์ที่เคยดูแลคนแก่+ป่วยตอนที่เรียนออนไลน์ไปด้วยบอกเลยว่าไม่ง่ายค่ะ ตอนนั้นกำลังจะสอบแล้วย่าปวดหนักนาทีนั้นโคตรวิกฤต ย่าก็เดินลำบากเพราะสมองฝ่อ ให้ไปเองคนเดียวก็กลัวล้มในห้องน้ำแล้วย่าก็ดื้อด้วยไม่ยอมใส่แพมเพิส ละไอ้เราก็สอบตัวสุดท้ายกำลังจะจบแล้ว มันแบบ โอ้ว ให้ตายเหอะ เราต้องรีบกลับไปเช็คชื่อให้ทันแต่ย่าก็ช้ามากกกก และยังมีเหตุการณ์ที่หนักหนากว่านี้อีกมากมาย ตอนนี้เราเรียนจบต้องไปทำงานแล้วก็ไม่ได้อยู่บ้าน หน้าที่ดูแลย่าพ่อลุงอาก็ไปรับผิดชอบกันต่อค่ะล่าสุดจ้างคนดูแลแล้ว
น้องไม่ได้ไม่อยากเรียน ปัญหารายล้อมหลายอย่างทำให้น้องหมดไฟ ไม่มีใครเข้าใจสิ่งที่น้องเจอ น้องเหนื่อยจนอยากทิ้งทุกอย่างที่แบกเอาไว้ ในมหาลัยน้องก็ต้องเจออะไรหลายๆอย่าง น้องเหนื่อยและเครียดมากแล้ว กลับต้องมาเจอปัญหาที่บ้านอีก การทิ้งให้น้องดูแลคุณพ่ออยู่คนเดียว เราว่าคุณเห็นแก่ตัวเกินไป คุณมีทางเลือกที่จะไม่อยู่กับเขาได้ แต่น้องไม่มี น้องอึดอัดและไปไหนไม่ได้ น่าสงสารน้องคุณมากที่ต้องเจออะไรแบบนี้
ฟังยังไม่จบ แต่มาอ่านเม้นท์นี้ก่อน คือเห็นภาพเลย คนไม่อยู่ไม่รู้หรอก จริงๆ ดูแลคนป่วย ถ้ายิ่งคนป่วยดื้อนะ เรานี่ละจะป้ายแทน
เป็นสายที่ฟัง แล้วไม่ค่อยโอเค เลย
เข้าใจว่าหาเงิน แต่สุดท้ายพลักความรับผิดชอบให้คนๆ เดียว เพราะคนที่ดูแลคนป่วยคนเดียว ทำให้บุคคลนั้นเข้าขั้นเป็นคนโรตจิตแล้ว เพราะการดูแลคนป่วย มันลำบากมากนะ
นอกจากห่วงแล้วคุณต้องลงมือแก้ไขด้วยค่ะ คุยและแบ่งเบาหน้าที่ดูแลพ่อด้วยค่ะ อาจจะต้องหาคนมาดูแลโดยเฉพาะ เมียคนที่เท่าไหร่ก็เรียกมาที่เค้าอยากได้ตอนแรกน่ะค่ะ ไม่ได้ก็จ้าง เพราะงานดูแลคนป่วยมันหนัก และเสียสุขภาพจิตมากค่ะ เขาถึงบ่นว่าบางทีคนเป็นจะตายก่อนคนป่วยก็มี เรียนไปด้วยดูแลคนป่วยไปด้วยเป็นอะไรที่หนักหนากับสภาพจิตใจมากค่ะ
จนจจนจรจจรจรจจจจจจจจจจจจจจจ
อันนี้จริงค่ะ +1
พี่ชายต้องดูแล จัดการ 100% ไม่ใช่โยนให้น้อง ไม่รู้เป็นพี่ประสาอะไร ขาดจิตสำนึกแบบขั้นสุด
วันนึงน้องคุณจะกลายเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้าค่ะ มีแนวโน้มมากเลย จะให้น้องไปเรียนได้ไง พ่อก็อยู่เนี่ย คุณก็ให้น้องดูพ่ออยู่ได้ไง มันหนักมากเลยนะ น่าสงสารมากเลย เค้าคงเผชิญมากหนักมาก และคุณก็ไม่ได้อยู่ข้างๆเค้าเลย เค้าเลยไม่คิดว่าคุณคือเซฟโซนที่เค้าจะพึ่งพาได้ อยากให้เค้าไปเรียนแต่ก็ทิ้งภาระไว้ให้เค้า ให้เค้าไปอยู่หอดีมั้ยคะ ให้เค้ามีชีวิตของตัวเองบ้าง
น้องชายคงต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าหลายๆเรื่องทั้งเรื่องพ่อและเรื่องเรียน แต่ด้วยวัยของเขา เขาคงมีคำถามว่าทำไมเขาต้องเป็นคนแบกรับการดูแลผู้ป่วยติดเตียงเป็นหลัก และหลายๆปัญหาถ้าไม่ได้เผชิญร่วมกันมันแชร์ความรู้สึกกันไม่ได้อยู่ดี ถ้าเป็นไปได้คุณลองเข้าไปอยู่ที่บ้านบ้าง อาจอาทิตย์ละครั้งเพื่อสัมผัสประสบการณ์ของน้องชาย เมื่อคุณมีตัวตนชัดขึ้นในชีวิตของเขา คุณจะสามารถคุยปัญหาที่เกิดขึ้นกับเขาได้
ดูแลคนป่วยติดเตียงมันทุกอย่างน้องไม่มีสมาธิแน่ดูแลคนเดียว ยิ่งถ้าพ่อมีอารมณ์แปรปวนยิ่งแล้วใหญ่ เราดูแลพี่ชายพิการติดเตียงมา12ปีแล้วเช็ดขี้เช็ดเยี่ยว ต้องอดทนมากเถียงกันทุกวัน บางครั้งก็คิดเราผิดอะไรถึงต้องมาเจอแบบนี้แต่เราก็อดทนมาถึงทุกวันนี้
ดูแลคนป่วยคือสุด ความรู้สึกมันปนกันไปหมด มันหนัก ทั้งห่วง ทั้งเครียด ทั้งอารมณ์ ทั้งเหนื่อย มันมาหมด และยิ่งคนรอบข้างไม่เป็นกำลังใจคือมันสุดมาก เคยเครียดจนกรี๊ดออกมาดังลั่นบ้าน บางทีก็ขี่รถออกไปอยากให้รถชนตายก็มี เราผ่านมาแล้ว ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ
เราคิดว่าน้องคงเครียด อายุเท่านี้แต่ถูกทิังภาระในการดูแลคนป่วยติดเตียง มันเครียดมากนะ และเขาก็สูญเสียช่วงชีวิตวัยรุ่นไปเลย
คุณเฟีสทำให้เรานึกถึงพี่ลูก
มุมมองความคิด และคำแนะนำน่าสนใจมากเลยค่ะ
ชื่นชมพี่ๆทั้ง3คนมาก เป็นกำลังให้ให้กับคนที่โทรมาด้วยนะคะ
จริง พี่เฟียสเลิศมาก
สงสารน้องมากๆเลย ในวัยที่เพิ่งผ่านม.6มาและเข้าสู่มหาลัยมันคือก้าวที่สำคัญมาก มันจะสับสนมากในการเลือกเส้นทางชีวิต ไม่พอต้องแบกรับภาระที่ต้องเป็นหลักในการดูแลพ่อ คงเครียดและกดดันมาก ทั้งยังไม่มีใครให้ปรึกษาและระบายอีก อยากให้คุณพี่ใส่ใจน้องมากๆนะคะ เข้าใจนะคะว่าการเป็นเสาหลักของครอบครัวและดูแลคนในครอบครัวไปด้วยมันเหนื่อยมาก แต่มันคุ้มนะคะถ้าจะทำให้เราไม่ต้องเสียน้องไปอีกคน
เป็นกำลังใจให้นะคะ
น้องคุณคิดว่า คุณไม่เข้าใจเขาและ คุณแก้ปัญหา โดยการทิ้งเขาออกจากบ้าน โดยไม่สนใจเขา เราว่าน้อง depress แล้ว รับฟังเขาบ้าง อย่าเอาแต่ใส่อย่างเดียว
เอาจริงๆ ถ้าแม่คุณไม่เอาแล้ว นาทีนี้ผลักภาระไปให้ฝั่งบ้านโน้นเลยไม่ดีกว่าเหรอ
คำว่าอยากทำมั้ย มันก็ไม่อยากทำหรอก แต่เพราะเค้ายังมีรู้สึกว่าต้องมีความรับผิดชอบต่อคุณพ่อ ถ้าเค้าไปเรียน ใครดูพ่อก็ปรึกษากันสิ น้องไม่คุยต่อหน้าก็ลองไลน์ไปสิ
หาคนมาดูแลพ่อค่ะ พ่อเราเส้นเลือกในสมองแตกตอนเรากำลังจะขึ้นปี1 พี่สาวเราต้องทำงานเป็นเสาหลักแทนพ่อ แม่ก็ต้องดูหลายๆอย่างที่ยังไม่เข้ามี่เพราะพ่อป่วยกะทันหัน เราลาออกกลับไปดูแลพ่อที่จังหวัดบ้านเกิด ตอนนั้นแม่ขอให้เราหยุดเรียนก่อน 1 ปี ใจนึงเราก็อยากหยุดเรียนเพราะจากการดูแลพ่อที่ติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้มาเดือนนึงมันหนักมากจริงๆค่ะถ้าจะให้แม่ดูแลพ่อคนเดียว แต่เราคิดว่ามันไม่มีอะไรจะทำให้ชีวิตเราดีขึ้นได้นอกจากการศึกษา เราเลยดันทุรังที่จะเรียน เป็นซึมเศร้า นั่นนี่สารพัด จนตอนนี้เราอยู่ปี 5 แล้วค่ะ ถึงตอนนี้เราแค่อยากจะบอกว่าถ้าน้องไม่อยากเรียนหรืออยากเรียนให้เขาทำตามเวย์เขาไปก่อนดีไหมคะ เพราะหัวใจคงอ่อนแอมากๆ ทั้งห่วงพ่อ ทั้งต้องเรียน เดี๋ยวถ้าความรู้สึกน้องโอเคขึ้นเขาจะรู้ทางชีวิตของเขาเองค่ะ ดูแลเรื่องความรู้สึกของน้องและคุณเองให้ดีนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ💛
สรุปว่าให้แม่ดูพ่อคนเดียวเหรอคะ
@@rennyday13 พ่อดีขึ้นออกจากรพ.ก็เป็นแม่เป็นหลักกับญาติที่บ้านเวียนกันมาช่วยดูค่ะ วันหยุดหรือเสาร์อาทิตย์เราก็จะกลับบ้านไปดูแลพีอให้แม่ได้พักค่ะ ตอนแรกๆที่พ่อยังต้องทานอาหารปั่นทางสายยาง เราจะตวงวัตถุดิบเป็นวันๆแล้วฟรีซไว้ให้แม่ปั่นให้พ่อเอง ตอนนี้จะ5ปีแล้ว พ่อทานอาหารได้เอง แต่ยังเดินไม่ได้ค่ะ😊
หนูเรียนออนไลน์เหมือนกันค่ะ วิศวะ แล้วที่บ้านเห็นว่าเราอยู่บ้าน เค้าให้เราไปช่วยเฝ้าร้านค้า ติดถนน ทั้งเสียงรถเสียงลูกค้า รบกวนมากค่ะ พอตกเย็นมามีน้องกลับจากเตรียมอนุบาลมาอยู่ด้วย ต้องดูแลน้องอีก ตกกลางคืนมาพาน้องนอน ทำงานตอนดึกมากก็ไม่ได้ วันที่สอบครั้งนึงมาสอบตอนเฝ้าร้านค้าหนูบอกทุกคนแล้วว่าสอบ คุณพ่อก็โทรมาให้ไปเตรียมของเตรียมส่งให้หน่อย หนูก็ไปไม่ได้ค่ะเพราะกำลังสอบอยู่เลย สุดท้ายเค้าก็ว่าเรา ว่าแค่นี้ไม่คิดจะช่วยอะไรกันเลยใช่ไหม พ่อทำงานเหนื่อยไม่เห็นหรอ แบบ… พี่หนูร้องไห้ตอนสอบเลยค่ะ แบบมันแย่มาก พ่อเค้ากลับมาบ้านก็ว่าเราอีก มาบอกเราว่าทำงานเหนื่อยแค่ไหน หนูไม่ได้พูดอะไรกลับไป ก็ร้องไห้ค่ะ ร้องไห้ไม่ได้โกรธเค้านะคะ แต่หนูแค่เสียใจ
เครียดกับเรื่องตัวเองแล้ว ก็เครียดกับเรื่องของคุณพ่อด้วย เพราะรู้ว่าเค้าเหนื่อย เราเลยพยายามทำส่วนของเราให้ดี อะไรที่ช่วยได้ก็ช่วยให้ดีที่สุด เพราะเรารู้ดีว่าเค้าเหนื่อย
หนูเสียใจกับคำพูดเค้ามากค่ะ มันเหมือนเค้าไม่เห็นในสิ่งที่เราทำเลย พูดเหมือนเราไม่ทำอะไรเลย เหมือนเราเป็นภาระ เราเสียใจที่เราพยายามทำจนสุดแรงแล้ว ก็ยังไม่ทำให้เค้ารู้สึกว่าเรามีประโยชน์ เสียใจที่หนูดีกว่านี้ไม่ไหวแล้ว
กอดๆค่ะ
กอดๆค่ะ
อยากให้น้องเรียนดีๆ แล้วเราทำอะไรบ้าง นอกจากส่งเงิน
อยากดูแลพ่อ แล้วเราทำอะไรบ้างนอกจากส่งเงิน
เงินซื้อหลายๆอย่างได้ แต่ซื้อเวลาไม่ได้ บางทีถ้ามันเลือกไม่ได้ อาจจะต้องแลกสละบางอย่างในชีวิตของเราครับ
สงสารน้อง เรียนก็ต้องเรียน พ่อก็ต้องดูแล พี่ก็เอาแต่บ่นไม่มาช่วยดูแลพ่อ ทำมาเป็นหวังดีอยากให้น้องมีอนาคต
ดูแลคนป่วยคือสุดๆแล้วทั้งเหนื่อยกายเหนื่อยใจเครียดมากๆด้วย
พุชให้น้องไปเรียนๆๆๆ โดยที่คำถามเบื้องต้นยังตอบไม่ได้เลยนะว่า "ใครจะเป็นคนดูแลพ่อ ถ้าน้องไปเรียน" ... น้องชายกำลังรับทุกอย่างอยู่ เค้าอาจจะเกรงใจคุณจนไม่กล้าบอก ว่าเค้าเองทิ้งพ่อไปเรียนไม่ได้
เห็นด้วยกับความคิดเห็นพี่ๆ ค่ะ
โดยเฉพาะความคิดเห็นของพี่เฟียส
ทางบ้านของพีช ก็มีผู้ป่วยที่ต้องดูแลถึง 2 คนด้วยกันแม่ฟอกไต อาทิตย์ละ 3 วัน ปะป๊าเส้นเลือดในสมองตีบ ช่วยเหลือตัวเองได้แต่เคลื่อนไหวต้องระวัง สิ่งที่เราสองคนพี่น้องตัดสินใจคือ พีช เรียนจบปริญญา น้องชายกำลังเข้าปี 1 และผลการเรียนไม่ดี แต่น้องชายเคยผ่านการฝึกงานตอนปวสมาแล้ว เงินเดือนตอนเป็นช่างจบปวสยังเยอะกว่าเงินเดือนที่เราเรียนปริญญาตรีมาตั้ง 5 ปี และเงินทุนที่ครอบครัวมีก็ต้องมีไว้ซัพพอร์ตพ่อกับแม่เพราะนั่นคือส่วนที่เขาหามาหน้าที่เราคือมีหน้าที่ในการรับผิดชอบพ่อแม่และรับผิดชอบตัวเอง
สรุป : จากการที่หันหน้าคุยกัน อย่างเข้าใจกัน รับฟังเหตุและผลของทั้งสองคน พีชทำงานรับผิดชอบตัวเองและค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลของครอบครัว น้องชายทำงานค้าขายแล้วก็รับจ้างตามวันที่ไม่ต้องพาแม่ไปฟอกไต น้องชายตัดสินใจไม่เรียนต่อเพราะมองเห็นว่าเวลาความรับผิดชอบต่างๆไม่สามารถโฟกัสเรื่องการเรียนได้จริงๆ สรุปเราคุยกับพ่อและแม่ก็ใช้เวลาหลายปีกว่าที่เขาจะเข้าใจแต่เราทั้งสองคนก็ดูแลรับผิดชอบตัวเองและครอบครัวกันมาได้จนถึงทุกวันนี้ก็ 7 ปีแล้วค่ะ
กลัวน้องจะเป็นโรคซึมเศร้าจัง
รับแต่ปัญหาไม่มีคนเข้าใจปัญหาที่น้องเผชิญอยู่
ลูกเราช่วงเรียนออนไลน์เราไม่เคยกดดันเรื่องงานบ้านหรือฝากให้ทำอะไรที่บ้านเลย เพราะเขาต้องเรียน เราให้โฟกัสแค่เรื่องเรียน
แค่เรียนก็ปวดหัวจะแย่ นั่งมองจอทั้งวัน เรานั่งมองจอทำงานทั้งวันยังประสาทแดกเลย ลูกเราต้องเรียนผ่านจอก็ต้องประสาทแดกเช่นกัน
ใจเข้าใจเรา ลองให้เขาไม่ต้องรับภาระเรื่องการดูแลผู้ป่วยดูก่อนค่ะ เผื่อปัญหามันอาจจะอยู่แค่เรื่องนี้มันเลยพาลไปเรื่องเรียน
เอาใจช่วยนะคะ
ไม่รู้นะ เคยเรียนออนไลน์แล้วต้องดูยายที่ติดเตียง เอาจริงๆไม่มีใครอยากทำหรอกโคตรจะไม่สามารถโฟกัสกับการเรียนได้อะ สักพักเรียกไปเปิดทีวี เปิดปิดพัดลม(คือผู้ใหญ่เริ่มดื้อเหมือนเด็ก เริ่มเรียกร้องความสนใจ) ไอ้เรื่องเปลี่ยนผ้าอ้อม หาข้าวให้กินนี่เบสิคไปเลย มีไรเยอะแยะไปหมด พออยู่บ้านก็โดนผลักให้ต้องทำ ซึ่งไม่มีช้อยให้ไม่ทำเกทไหม ทุกอย่างขับเคลื่อนด้วยความกตัญญูซึ่งลูกหลานคนไหนมีปัญญาเลี้ยงก็คือรับไปทั้งหมด ส่วนคนไม่เลี้ยง(ไม่ช่วย)ก็อ้างว่ามีภาระครอบครัว แต่นั่นละปฏิเสธไม่ได้ว่าถ้ามีตังค์จ้างดูแลผปจะจบ แต่บอกจุดนี้เลยว่าแพงมากๆเมื่อเทียบกับค่าแรงขั้นต่ำปัจจุบันนี้
คุณเจ้าของเรื่องอยากช่วยน้องง่ายนิดเดียวให้ญาติมาดูแลจะเมียพ่อคนไหนก็ตามหรือมีเงินจ้างก็จ้างเถอะ อย่าทิ้งน้องให้ต้องแบก2อย่าง แบบนั้น
ถ้ามีกำลังพาคุณพ่อไปอยู่ศูนย์พยาบาลไปเลยค่ะ แล้วให้น้องเลือกว่าจะกลับไปเรียนหรือไปทำงาน เพราะคุณมีภาระดูแลพ่อแล้วก็ไม่สามารถดูแลเค้าได้ให้เค้าเลือก สงสารน้องคุณคุณเหมือนลอยตัวแล้วทิ้งปัญหาให้น้องชายเลยนะ ขอโทษถ้าเข้าใจคุณผิด ยุคนี้มันเป็นยุคที่ยากลำบากจริงๆ ทั้งพี่ทั้งน้องขอให้พบทางออกเร็วๆนะคะ นี่เป็นความคิดเห็นของเราเองไม่ได้เป็นทางออกที่ดีเสมอไป ให้กำลังใจแล้วกันนะคะ
ถ้าน้องกลับไปเรียน แล้วใครจะดูแลพ่อแม่
คุณส่งเงินมาให้ที่บ้าน แต่คุณยังได้ใชชีวิต
แต่น้องกำลังสละเวลาและชีวิตดูแลคนที่บ้าน แม้แต่เงินเขาก็ยังหาไม่ได้
เอาจริงๆ ต้องแก้ปัญหาให้เขาได้กลับไปเรียน เรียนในทางที่เขาชอบ เบาการแบกที่บ้านลง ให้มาทำในเวลาที่เขาว่างจากการเรียน/งานของเขามา
ส่วนการดูแลพ่อหาคนที่เขามีความสามารถดูแลคนป่วยได้มาช่วยดูแล อย่างน้อยสุขภาพพ่อก็ได้คนที่เขาดูแลเป็นมาดูแลให้ ใช้เงินที่หามาช่วยแก้ปัญหา หนักขึ้นหน่อยแต่มันคุ้ม
สายนี้พี่เห็นแก่ตัวมากก ไม่เข้าใจน้องเลยยย เหมือนผลักภาระให้น้องหมด เรียนก็หนักแล้วยังต้องมาดูแลผู้ป่วยติดเตียงแล้วยังต้องการให้เขาเรียนดีอีก
ในฐานะพี่ชาย คุณล้มเหลวนะครับ 🙂
ไม่ต้องคุยกับน้องแล้วค่ะธัน ลงมือทำเลย กลับบ้านไปดูน้องกับพ่อ หาข้าวหาปลาให้น้องกิน ช่วยเปลี่ยนผ้าอ้อมให้พ่อ เงินเก็บมีมั้ย จ้างคนมาดูพ่อเลย รายเดือนรายวันก็ว่าไป คุณธัน น้อง พ่อ คือทีมเดียวกันนะ รีบทำก่อนที่น้องจะหันหลังให้ธันไปมากกว่านี้
เท่าที่ฟังมา ทำไมคุณอะปล่อยน้องให้ดูแลพ่อคนเดียว แล้วบางตอนน้องก็บ่นว่าเหนื่อยเหมือนคุณก็ไม่สนใจ คือดูแลคนป่วยงานหนักกว่าใดๆทั้งปวง คุณได้แต่สนใจเรื่องเรียนน้อง เรื่องเรียนสำคัญนะ ดูไม่สนใจว่าการดูแลเลย รู้แค่อาการ รู้ว่าใครทำอะไร แต่ไม่กระทำอะไรสักอย่าง แต่ฮัลโหล พ่อคนเดียวกันมั้ย ทำไมปล่อยภาระให้น้องคนเดียว แล้วยังมีหน้าโทรมาถามว่าจะทำยังไงให้น้องไปเรียน ความคิดประหลาดมาก น้องเหนื่อยอยู่คนเดียวแล้วคุณยังใช้ชีวิตปกติที่ต่างจังหวัด โทรไปบ่นก็แค่ทำรับรู้ด้วยปาก แต่คงไม่เคยลงมาช่วยจริงจัง ไม่รู้รายละเอียดงานดูแลคนป่วยเลย ที่น้องปิดห้องร้องไห้ไม่พูดกับคุณนี่เล็กน้อยมาก น้องคนดีมาก ถ้าหนักกว่านี้น้องคงฆ่าตัวตายไปแล้ว ไม่ต้องโทรมารายการด้วยซ้ำ จริงๆแค่ลงไปแบ่งเบางานดูแลพ่อของน้องแค่นั้นเอง ดีแต่พูดจริงๆคนๆนี้ อย่าบอกว่าคุณออกเงินแล้วคุณทำหน้าที่แล้วมันไม่เกี่ยวกันเลย คนละเหนื่อยเลย
หนูคือเคสเดียวกับน้องชายพี่เขาเลยค่ะ แม่หนูพิการมา17ปีแล้วหนูก็คอยดูแลมาตลอด แต่อาจจะไม่ได้เต็มที่เพราะหนูเรียน นี่มีคนอื่นคนในบ้านคอยช่วยกันดู เวลาเรียนออนไลน์ก็ลำบากหน่อยเพราะแม่จะคอยเรียกตลอด หนูก็มีความคิดที่จะไม่เรียนไม่อยากเรียน ออกมาดูแม่เต็มที่ไปเลย เพราะมันเหนื่อย ไหนจะนู้นนี้ การบ้านอีกเป็นกอง แต่ก็สู้อยู่เพราะการเรียนมันก็สำคัญ อยากให้พี่คอยช่วยดูพ่อนะคะ หนูว่าน้องพี่อยากจะเรียนแต่เขามีภาระที่ใหญ่มากๆ
ปีนี้หนูอายุ18
น้องชายไม่ปลื้มสิ่งที่ตัวเองเรียน
การเรียนออนไลน์ยากจะโฟกัส
เป็นห่วงพ่อ รู้สึกว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องดูแล ถ้าตัวไม่ทำก็ไม่มีคนอื่นทำ
พี่ชายก็ดีนะ ทำงานส่งเงินให้ที่บ้าน แต่ใส่ใจน้องน้อยไปนิด
ฟังพี่เฟี๊ยตพูดเรื่องเรียน เราคือปลดล็อคมาก ตรงที่บอกว่า เด็กเก่งเกียรตินิยมมหาลัยดังๆ ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่ากับเด็กหลังห้อง เท่าที่เห็นในชีวิตคือจริงมาก ปลดล็อคเรากับลูกเรามากๆเลย ตอนนี้เรามีปัญหาตรงที่เขาหนีไปใช้ชีวิตกับแฟน ผ่านเรื่องราวมาจนเราเอาเขาไม่อยู่เลยปล่อย แต่ขอให้เรียน เขาไปบ้างไม่ไปบ้าง เราก็จะทะเลาะกันตลอด เขาก็มึนฝส่สุดๆด้วยความห่างกันรู้ว่าเราทำอะไรไม่ได้ เราเครียดกลัวเขาเรียนไม่จบแบยเราชีวิตจะลำบาก เครียดร้องไห้ทุกวัน อยู่คนเดียวตอนทำงานก็ร้องไห้ เห็นเด็กไปรร.ก็ร้อง มาฟังพี่เฟี้ยตพูดคือ คิดออกหาทางออกมากๆเลยค่ะ ขอบคุณพิธีกรทั้ง3คนค่ะ รายการนี้ดีจริงๆค่ะ🥰🥰🙏
เป็นพี่ที่แย่มากเลยค่ะ คือเลวขั้นสุดเลยแหละ ทิ้งภาระให้น้อง ทั้งที่จริงๆพี่ชายต้องเป็นคนดูแลเลย 100%
ขอบคุณเฟียสตอบมากค่ะ มองได้หลายแง่มุม ตอบคำถามครอบคลุม
เรื่องความสัมพันธ์ เราก็มีพี่สาวห่าง10ปีเหมือนกัน แต่เราสนิทกันมาก มีเรื่องคุยได้ทุกเรื่อง คุยกันเหมือนเพื่อน พี่สาวก็ปรึกษาเราหลายๆเรื่อง โทรมาระบาย ถึงแม้ว่าเราจะเป็นน้อง เป็นแค่เด็กที่ยังเรียนไม่จบ คือเรารู้สึกว่าที่เราสนิทกันเป็นเพราะใจแลกใจ เราอยู่ทีมเดียวกันในทุกๆเรื่อง ลองค่อยๆเข้าหาดูค่ะ เราเชื่อว่าน้องคุณคงต้องการคนระบาย คนซัพพอร์ตมากๆนะคะ เค้าอาจจะรู้สึกโดดเดี่ยวมากๆ
สุขภาพ สำคัญ จริง ๆ 💓
ไม่รู้ว่าพี่ชายจะได้อ่านข้อความคอมเม้นบ้างไหม
แต่ว่า ไม่อยากให้ใช้มุมมองที่ว่า “ใครจะดูแลพ่อถ้าไม่ใช่คนที่อยู่บ้าน” อย่างที่พี่หอมบอกค่ะ ถ้าพี่ต้นหอมที่มีภาระหน้าที่หลักคือทำงานแล้วต้องมาดูแลพ่อพร้อมๆ กัน จะเครียดมากค่ะ การจ้างคนดูแลช่วยแก้ปัญหาได้มาก
24 ชม ในการดูแลผู้ป่วยติดเตียงกินเวลาชีวิตคนที่ค้องดูแลไปครึ่งต่อครึ่งหรืออาจจะมากกว่านั้นด้วยซ้ำ ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรงหรือมีกำลังทรัพมากพอ จ้างผู้ช่วยที่เฉพาะทางก็ได้ หรือถ้าไว้ใจเมียน้อยของพ่อ ก็ให้ผู้หญิงคนนั้นเขารับหน้าที่นี้ไป
และด้วยช่องว่างของวัยพี่น้อง รู้ว่าพี่ทำงานหนัก และน้องก็ไม่รู้จะพูดยังไง น้องเจอทั้งการเรียน เมียน้อยพ่อ และต้องดูแลพ่อไปด้วย จะให้อ้าปากบอกพี่ตรงๆ ว่าไม่อยากดูแลพ่อ แล้วพี่ชายจะคิดยังไง จะมองน้องชายยังไง
คนเป็นน้องก็คงเครียดมากค่ะ ในเมื่อพ่อก็สำคัญในฐานะคนในครอบครัวและถ้าต้องเป็นน้องเท่านั้นที่ต้องดูแล ถ้าเป็นเราก็คงไม่เรียนมันแล้ว
คุณเฟียสพูดดีมากๆ ในประเด็นที่สาม ชอบทั้งประเด็นเลย
เพราะเราไม่รู้ว่าน้องเจออะไร เราจะไปตัดสินใจแทนน้องไม่ได้
คุณทันลองฟังน้องเยอะๆ ฟังแบบไม่ตัดสินนะคะ ลองถามดูให้เค้าเล่าให้ฟังเยอะๆค่ะ หน้าที่ที่น้องต้องรับตอนนี้มันหนักและเหนื่อยมาก อาจจะไม่เหนื่อยกาย แต่เหนื่อยใจแน่ๆค่ะ เพราะฉะนั้นลองฟังลองถามเค้าว่าอยากทำอะไรยังไง แล้วค่อยๆตะล่อมค่ะ แต่อันดับแรกเลยต้องพยายามเข้าใจน้องและให้น้องเข้าใจความหวังดีของเรา(โดยที่เราไม่ยัดเยียด) เด็กเค้ามีเหตุผล ขอแค่ผู้ใหญ่ฟังเค้าโดยไม่ตัดสินแล้วเค้าจะค่อยๆเปิดใจกับคุณทันค่ะ อาจจะต้องใช้เวลาและใจเย็นมากๆ เป็นกำลังใจให้ทั้งคุณทันและน้องนะคะ
น้องเหมือนเราเลย เค้าอาจไม่ชอบที่ๆเรียนอยู่ หรือ ยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรกันแน่ ยิ่งเด็กยุคนี้ที่ต้องเรียนออนลายยิ่งยากขึ้นไปอีก อยากให้เข้าใจเค้าให้มากๆนะคะ น้องมีความเครียดเยอะมากจริงๆ จากที่ฟัง
คนดูคนป่วยหลัก 1 คน ต้องมี คนดูแลสำรอง ช่วยกันเปลี่ยนดูแลด้วย
เราเองก็เป็นคนดูแลหลัก เพียงคนเดียว และทำงานบ้านทุกๆอย่าง ทั้งเลี้ยงลูกอีก 3 คน หนักมากๆสำหรับเรา แทบไม่ได้นั่งเลย 1 วันมี 24น้อยเกินไปด้วยซ้ำ ต้องยิ้มเวลาอยู่ต่อหน้าผู้ป่วย แต่ตอนไปยืนหน้าเครื่องซักผ้า ตรงไหนในบ้านที่พ้นคน คือ น้ำตาไหลทุกครั้งเลย ทั้งเครียด กังวล ระแวง คิดเยอะ หลายอย่างมากๆ
เราเป็นลูกคนเล็ก ต้องดูแลคนป่วยซึ่งเป็นคุณแม่ 24ชม.เลย ละเราเอาเงินที่ไหนใช้ เอาเงินตรงไหนเลี้ยงลูก คนอื่นๆคือ เฉย เมิน นิ่งสุดๆๆเลย ไม่ช่วยเงิน ไม่ช่วยแรง ทั้งๆบางคนก็อยู่ในบ้าน แต่ใช้ชีวิตปกติมากๆเลย มีแต่พี่สาวคนโตที่อยุ่ตปท.คอยจ่ายค่าใช้จ่ายของคนป่วย เราตั้งใจดูแลแม่เพราะรัก แต่แค่ไม่เข้าใจในสิ่งที่ทุกคนไม่ช่วยเราเลย เพราะเป็นผช.หรอ หรือเพราะมีความเห็นแก่ตัวอยู่ในตัวกัน
เคสนี้สงสารน้องชายมากๆ ขนาดเราจะ 40ยังแย่เลย ละน้องอายุเท่านั้นจะขนาดไหน ทุกคนล้วนมองแต่ด้านของตนเอง พูดมากกว่ากระทำ
บ้านเราคนที่บอกว่ารักแม่คือ แค่มาเยี่ยม ละก็ไป
เราคนปากแข็ง ดูแลแม่ 24 ชม.นอนโซฟา เฝ้าแม่ทุกคืน
น้องชายคุณน่าจะเครียดและกดดันกับภาระหน้าที่ที่ต้องทำนะคะ คุณบอกให้เขาไปเรียน แล้วระหว่างที่ไปเรียน เรื่องคุณพ่อทำยังไง ต้องหาทางให้น้องด้วยค่ะ
ถามเหตุผลเขาดีๆ ก่อนว่าเหตุผลที่ไม่อยากไปเรียนคืออะไร ถ้าเป็นเหตุผลที่ว่าเพราะไม่ชอบคณะหรือสิ่งที่เรียน ก็ให้เขาออกมาค้นหาตัวเองก่อน แล้วสอบหรือสมัครเรียนใหม่ก็ได้
แต่ถ้าเหตุผลหลักคือเขาห่วงเรื่องคุณพ่อ คุณพี่ชายที่โตกว่าถึง 10 ปี ต้องคิดวิธีการจัดการ, หาทางออกหรือทางเลือกให้น้องชายก่อน อย่าเอาแต่สั่งสอน แต่คุยแบบคนที่เข้าใจเขา อยู่ทีมเดียวกันเขาค่ะ
ณ ปัจจุบันเหมือนคุณแค่ไปบอกให้น้องทำโน่นทำนี่ (ด้วยความเป็นห่วงแหละ) แล้วคุณก็แยกไปอยู่คอนโด ส่งเงินให้ มันก็จะไม่เข้าใจความรู้สึกของน้องค่ะ
ระดมทุนเมียทุกคน มาจ้างคนดูแลครับ น้องให้เค้าผ่อนคลายตามวัย อย่าไปคาดหวังกับน้องมากครับ เอาอยากทำอะไรก็ปล่อยครับ ประสบการณ์จะสอนเค้าเอง เห็นเพื่อนเรียนแล้วเราไม่ได้เรียน เค้าจะหาทางให้ได้เรียนแน่ ๆ ครับ
~จ้างคนดูเลย ถ้าน้องไม่อยากทำ และคุณไม่สามารถดูคุณพ่อได้
~ถ้าน้องไม่เรียน หยุดส่งเงินให้น้อง น้องต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเองให้ได้ อายุ18 ไม่เด็กแล้ว
~คุณที่โทรมาเค้าไม่ได้ผิดอะไร เค้าไม่ได้ทำให้คุณพ่อป่วย หรือ ทำให้คุณแม่หนีไป เค้าก็ไม่ควรถูกโยนภาระให้มากมายแบบนี้ ต้องหาเงิน ต้องห่วงพ่อ ต้องเข้าใจน้องวัยรุ่น มันมากมายเกินไปสำหรับเสาหลัก
~ในเมื่อเรื่องเกิดขึ้นแล้ว อะไรช่วยกันได้ก็ควรช่วยๆกัน ไม่ว่าจะเด็กหรือโต ไม่ใช่โยนภาระให้ เสาหลักๆๆ
หลายๆ คนมักคิดว่าคนที่ทำงานหาเงินมันเหนื่อยกว่าคนที่ต้องดูแลภายในบ้าน.. แต่ลืมคิดรึเปล่าว่างานบ้าน/กิจกรรมภายในบ้านต้องอยู่ในสถานการณ์นั้น 24 ชม. 365วันเลยนะคะ!!
คนทำงานยังมีเวลาเลิกงาน.. มีเวลาวันหยุดพักผ่อน..
ถ้าคนทำงานนอกบ้านสามารถแชร์งานในบ้านแบ่งเบาคนในบ้านบ้างได้มั้ยล่ะ?!
24 ชม.เรามีเท่ากัน.. แต่คุณทำงานแค่วันละ 8-12 ชม. ส่วนคนที่ต้องอยู่บ้านดูแลคนป่วยต้องรับมือกับคนป่วย 16-18 ชม. แบ่งเบาไปบ้างได้มั้ยล่ะ.. มันจะได้แฟร์ๆกัน..
เพราะในความเป็นจริงคือ.. ถ้าหาเงินเองได้ใครก้ออยากจะหาเงินเอง.. ไม่ได้อยากขอเงินใครใช้!!
แล้วทำไมถึงชอบคิดว่าคนหาเงินถึงสำคัญกว่าคนที่เสียสละตัวเองดูแลคนป่วยล่ะคะ?!
ในเคสนี้น้องชายคงอยากให้พี่ชายกลับมาดูแลพ่อบ้างเหมือนกันล่ะค่ะ..
@@lookbuaydonggal2532 อันนี้โครตจริง คนไม่ดูแลไม่รู้หลอกว่าต้องเจออะไรบ้าง
@@lookbuaydonggal2532 1.ไม่มีคำไหนบอกว่าน้องไม่เหนื่อยนะ
2.ก็บอกอยู่ไงว่าพี่ไม่ว่าง ก็หาคนมาดูพ่อไง
3.ไม่ได้บอกว่าใครเสียสละอะไรมากกว่าใครเลย แค่บอกว่า ถ้าน้องไม่อยากดูพ่อ ไม่อยากเรียน ก็ต้องรับผิดชอบตัวเอง
4.เจ้เก็บกดมาจากไหน อ่านหนังสือก็ไม่แตก
@@PBabPa พ้อยท์ของเราก้อคือ.. คนหาเงินไม่ได้สำคัญกว่าคนอื่น!!
ที่คุณบอกว่า.. เจ้าของเรื่องไม่ควรถูกผลักภาระมาให้เพราะเค้าก้อหาเงินมาแล้ว.. เราเลยชี้ให้เห็นว่าน้องชายเจ้าของเรื่องก้อไม่ควรถูกผลักภาระให้ดูพ่อเพียงเพราะเค้ายังเรียนหนังสืออยู่และยังไม่ทำงานเช่นกัน..
มันควรจะแฟร์กว่านี้ที่เจ้าของเรื่องควรกลับมาดูพ่อบ้าง.. ไม่ใช่อ้างว่าทำงานส่งตังมาให้แล้วไม่ต้องมาก้อได้.. เพราะในความเป็นจริง.. พ่อเค้าก้อคือพ่อคนเดียวกัน!!
คุณเข้าใจตรรกะข้อนี้มั้ย?!
แล้ววันหยุดที่มีจะอ้างว่าไม่ว่างไม่ได้นะ..
แล้วน้องทำให้พ่อป่วย หรือทำให้แม่หนีรึเปล่า ก็ไม่ไม่ใช่เรอะ ทำไมน้องถึงรับภาระคนเดียว ถ้าแค่คนหาเงินแล้วไม่ต้องช่วย มันง่ายเกินไปมั้ง ถ้าคิดแบบนี้ลองสลับให้น้องไปหาเงิน ส่วนพี่ดูแลพ่อทั้งวันดูสิ รับรองว่าทำไม่ได้หรอก เพราะพี่ไม่เคยดู ไม่เคยอยู่กับคนป่วยตลอดเวลา อีกสักพักได้จ้างคนดูแลแน่
เพื่อนเราหลายคนเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยค่ะ ปัญหาอีกอย่างที่นศ. ที่เรียนออนไลน์เป็นเยอะ คือ ไม่มีสังคม ไม่สนิทกับเพื่อน คือเหมือนชีวิตมีคนเดียว ไม่มีสังคม แล้วยิ่งดูแลคุณพ่อคนเดียว เหมือนไม่มีครอบครัว ความเครียดมันจะหนักเป็นทวีคูณค่ะ วัยนี้ยังต้องการ "คนให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด" ค่ะ เหมือนพี่เผือกว่า เค้ายังต้องมีเวลาเติบโต ตอนนี้ภาระทางใจมันเยอะเกิน สุขภาพจิตเสียหายแน่นอน นศ.ที่ม.เพื่อนหลายคน ซึมเศร้า อยากเลิกเรียน อยากตายก็มีค่ะ เรื่องนี้ซีเรียสมากกกกก
ให้เมีย แต่ละคน มาดูแล สิคะ🍉⛵
ตอนเด็ก พ่อแม่ก็ให้หน้าที่หนูไปอยู่กับย่า หนูไม่เข้าใจ รู้สึกไม่เหมือนเพื่อนคนอื่น ดูแลย่าแทนลูกทุกคน ย่าก็ขี้บ่น รู้สึกวันเวลาชีวิตส่วนตัวหนูหายไป หนูไม่มีความสุขได้แต่กอดหมาร้องไห้ไม่กล้าบอกใคร จนหนูรู้สึกด้อยค่าตัวเองว่าเกิดมาเพื่อแค่รับใช้คนอื่น จนทุกวันนี้หนูไม่อยากไปบ้านย่าอีกเลย เพราะมองไปทางไหนก็เห็นแต่อดีตที่ไม่มีความสุข เป็นปมใหญ่เหมือนกัน
เค้าไม่ใช่ไม่อยากเรียน แต่หมดกำลังใจจะเรียน หรือหมออารมณ์ แพชชั่น มันโดนรบกวนตลอดเวลา มันไม่ได้เต็มที่กับการเรียนอ่ะ
บอกเลยว่าแค่เรียนออนไลน์ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องแล้วค่ะ มันต้องมีสมาธิในการเรียนมากๆ บางทีครูให้งานตอนนั้น ส่งตอนนั้นเลย ต้องมีเวลาพอสมควรเลยค่ะ เข้าใจน้องคุณเลยว่าทั้งต้องมาดูแลคนป่วยทั้งเรียนไปด้วย ลำบากมากๆเลยนะคะ ถ้าคุณใส่ใจน้องสักนิดว่าเขาเจอกับอะไรอยู่ แล้วแก้ปัญหาก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ให้น้องรับผิดชอบพ่อคนเดียว น้องคงไม่โดนรีไทน์และมีเวลาส่วนตัวมากกว่านี้ อยากให้คุยกับน้องและเอาใจใส่มากกว่านี้ ตอนนี้คิดว่าน้องคงคิดว่าไม่ทีที่พึ่ง ไม่รู้จะหาทางออกยังไง คุณควรจะเป็นที่ปรึกษาและเข้าใจรับฟังน้องจะได้เป็นที่พึ่งให้เขาได้ค่ะ
ไม่เจอกับตัวไม่เข้าใจจริงๆ พ่อเราก็เส้นเลือดสตองตีบ/แตก เหนื่อยมากจริงๆ หมดทั้งเงินทั้งความเป็นส่วนตัว แต่ก็สู้จนพ่อเสียชีวิตแล้ว
คนเป็นพี่ลองไปดูแลที่บ้านดูครับ สักหนึ่งอาทิตย์ แล้วลองคูณด้วยสี่ดูครับนี่แค่เดือนเดียว แล้วคิดดูครับว่าน้องต้องรับอะไรแบบนี้เป็นเดือนเป็นปี ผมว่าเปิดใจแล้วคุยกับน้องเยอะๆดูครับ มันหนักมากนะครับแค่เรื่องในครอบครัวก็หนักแล้วต้องมาห่วงเรื่องเรียนด้วย
ถ้าเราเป็นคุณน้องชาย เราคงมีคำถามในหัวว่า เราอายุเท่าไหร่ ทำไมต้องมาแบกรับอะไรขนาดนี้ ทำไมในวัยนี้เราไม่มีสามารถไปใช้ชีวิตแบบเด็กคนอื่นได้ ทำไมเพื่อนคนอื่นถึงไม่ต้องเจอเรื่องแบบเรา
ถ้าคุณมีโอกาสได้อ่าน จากประสบการณ์ขอบอกเลยว่าการดูแลคนป่วย บั่นทอนสุขภาะจิตมาก ถ้าเป็นห่วงเปิดอกคุยกันถึงปัญหาค่ะ จะได้คำตอบว่าทำไม เพราะอะไร เหตุผลสำคัญคืออะไร แล้วก็มาช่วยกันแก้ปัญหาค่ะ ปรึกษากันกับน้องด้วยเลยเขาจะได้รู้
นึกว่าชีวิตตัวเองออกเรียนมาดูแม่ ไม่เคยได้มช้ชีวิตวัยรุ่น จนตอนนี้อายุ21 ยังอยู่บ้านดูแลแม่ป่วยติดเตียงคนเดียว เหนื่อยมากเครียดมาก ซึมเศร้า ไลโพล่า แพคนิค มาครบ😢
เราคิดว่าเราเข้าใจน้องคุณนะคะ(เพราะเราดูแลแม่ที่ติดเตียงค่ะ - มีคนดูแลหลัก) การดูแลคนสูงอายุและป่วยใช้พลังงานสูงมาก คุณทำงานมีเวลาพัก แต่การดูแลคนป่วยไม่มีเวลา office time นะคะ คุณต้องหาเวลากับไปอยู่บ้าน ช่วยดูแลพ่อ อยู่ในสถานการณ์ที่น้องคุณต้องเจอทุกวันเราว่าคุณจะเข้าใจว่าน้องคุยเจออะไรบ้าง วันนั้นคุยจะได้เข้าใจน้องคุณค่ะ
นึกถึงตัวเองเลยค่ะ แม่มีลูกหลายคนเราเป็นคนเล็กตอนนี้แม่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ อาการหนักขึ้นเรื่อยๆ เราเลยออกจากงานมาดูแล มันยากมาก เครียดมากโดยเฉพาะในตอนแรกๆ บางวันนั่งร้องไห้ เราใช้เงินเก็บที่มีจนใกล้หมดละ พยามหารายได้เพิ่มแต่ยากมากเพราะโควิด ไปหางานข้างนอกก็ไม่ได้ พี่ๆ คนอื่นก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะทุกคนก็บอกว่ามีภาระทั้งนั้น เราเข้าใจแต่มันเครียดจริงๆ ค่ะ
สู้ๆนะครับ
@@thanadonku7399 ขอบคุณนะคะ 🙏
ถ้าเราเป็นพี่เราจะลาออกแล้วมาหางานใกล้ๆ บ้านทำแล้วช่วยน้องดูแลพ่อค่ะ หรือไม่ก็ให้พ่อกับน้องมาอยู่ด้วยกันที่คอนโดค่ะ ยิ่งถ้าไปอยู่คอนโดนะ แม่เลี้ยงไม่กล้ามาหรอกค่ะ ไม่อยากเม้นเยอะมากค่ะ ไม่ใช่พ่อเรา🤣🤣🤣 แต่เราเคยดูแลพ่อเราที่ป่วยค่ะ ดูจนท่านเสียค่ะ แล้วเราก็เป็นลูกคนเดียวที่ไม่ต้องมานั่งร้องไห้เสียใจที่ไม่ได้อยู่ดูแลท่านค่ะ
เข้าใจบ้านที่มีผู้ป่วยติดเตียงมากมาก บ้านเรามีอาม่าติดเตียง โดยมีอาอีกสองคนดูแล ซึ่งอาเราก็วัยเข้าใกล้วัยเกษียณเข้าทุกวัน เราเองเคยดูเองอาม่า ในช่วง gap year เราเข้าใจมากมากเลยว่า mental health มันจะดิ่งได้ง่าย / มันเคยมีช่วงที่อาเราปรี๊ดแตก ทะเลาะกันมาแล้ว / เราเป็นห่วงอา และพ่อเราที่ต้องคอยดูแลอาม่าอยู่ตลอด อยากให้ที่บ้านจ้างพยาบาลมาดูแลอาม่าช่วงกลางวัน ให้อาได้พักผ่อนบ้าง แต่เราก็ไม่ได้มีสิทธิในการตัดสินใจ พยายามพูดกับพ่อแล้ว แต่ก้ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปเลย ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน
การดูแลคนป่วยลักษณะนี้ค่อนข้างยากและหนักมากๆ คนที่เป็น care giver คือเหนื่อยมากแน่ๆแล้วน้องต้องเรียนอีก สูญเสียชีวิตส่วนตัวแน่นอน ทำไมคุณไม่ลองหาคนมาดูแล อาจจะดีขึ้นก็ได้นะคะ
ถ้าใครมาเห็นคำถามเราช่วยตอบหน่อยนะคะ เราติดต่อรายการไปสงสัยเราพิมพ์แบบงงๆเลยไม่ได้รับการตอบกลับ เรามีเรื่องคล้ายๆเขาคือลูกเราไม่อยากไปเรียนค่ะ เรามีลูกสาววัย16ค่ะ เขาหนีเราไปอยู่กับแฟนตั้งแต่จบม.3 ผ่านเหตุการณ์เอาเรื่องเอาเรื่องมากจนเคลียร์ได้ เราปล่อยเขาไปตามคำแนะนำของคนอื่นว่าเดียวลำบากคงกลับ แต่ขอให้เขาเรียน เขาก็ไปบ้างไม่ไปบ้าง ขาดเรียนบ่อย เราเครียดมากๆ เราอยากให้เขาเรียนให้จบม.ปลายค่ะ แต่เขาไม่ฟังเราเลยเรากลังเขาลำบากเหมือนเรา (เราก็ไม่จบม.ปลาย เพราะท้องก่อนมันเป็นปมในใจเรามากๆเลยค่ะ) ติดต่อผู้ใหญ่ทางฝ่ายชายก็ไม่เคยรับสายไม่เคยติดต่อกลับ เราอยากทำใจกับเรื่องที่เขาไม่ไปเรียนเพื่อนช่วยบอกวิธีทำใจหน่อยค่ะเราทำใจไม่ได้ปลงไม่ได้ รู้สึกดาวตลอดเวลาที่รู้ว่าเขาไม่ไปโรงเรียนอีกแล้วค่ะ
สงสารน้อง อยู่จุดนั้นมันคงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เรื่องพ่อ เรื่องตัวเอง สงสาร
ฟังแลเวสงสารน้องจังเลยคงถูกกดดันด้วยปัญหาและการเรียน✌✌❤❤
น้องอาจจะรู้สึกโดดเดี่ยว เหมือนโดนทิ้งให้รับภาระตรงนี้หรือเปล่าคะ เข้าใจว่าผู้เป็นพี่ทำงานหาเงิน แต่กับคนที่ต้องดูแลคนป่วย อยู่กันทุกวัน เจออะไรบั่นทอนทุกวัน น้องอาจจะเครียดก็ได้นะคะ
คุณอาจจะเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่ในชีวิตเขาก็ได้ แต่ตอนนี้เหมือนน้องจะไม่ไว้ใจที่จะคุยกับใครแล้ว
ผมก็อยู่สถานะนี้เหมือนกันครับ แต่ดูแลแม่ โชคดีที่บ้าน มีการจัดการเรื่องเงินดี เบิกราขการได้ ค่ากินค่าเดินทางไม่มีปัญหา ห่วงแต่อนาคตตัวเอง ถ้าแม่ไม่อยู่แล้วผมก็คิดไม่ออกเหมือนกันจะทำอะไรให้ตัวเอง
คุณรักน้องมั้ยคะ ทำไมถึงต้องโยนภาระมาที่เด็กปี1 เเล้วเรียนออนไลน์อีก มันต้องค้นคว้าต้องศึกษาเพิ่มขึ้นอยู่เเล้ว เพราะเรียนออนไลน์ไม่รู้เรื่อง เเล้วยิ่งมีคุณพ่อที่ต้องดูเเลอีก จะเอาไฟที่ไหนมาเรียน ต่อให้มีไฟเรียนมากเเค่ไหน เจอเเบบนี้เป็นใครๆก็ท้อ
พี่ support จ้างคนดูแลได้ไหมคะ ถ้าได้ ก็ทำนะคะ
ดูแลคนป่วยลำบากจริงๆค่ะ ทั้งกายและใจเลย ยิ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงนี่หาเวลาส่วนตัวแทบไม่มี ถ้าบวกผู้ป่วยสมองเริ่มผิดปกติแถมปากร้าย ดื้ออีก ยิ่งคูณ10คูณร้อย มันรู้สึกอึดอัดไปหมด ยิ่งนานๆไปเรายิ่งหงุดหงิดง่าย สุขภาพจิตย่ำแย่ไปอีก ใครไม่เคยเจอสถานการณ์นี้จะไม่รู้เลยว่ามันลำบากมาก เมื่อผู้ป่วยจากไปแล้วก็อาจยังไม่จบ จิตใจที่ย่ำแย่ไปแล้วของเราจะอยู่กับเราไปอีกนานเลยค่ะ
แค่เรียนอย่างเดียวบางคนยังเอาตัวไม่รอด นี้ให้เขาดูแลคนนอนติดเตียง งานหนักมานะจะบอกให้ ทำไมพี่ชายไม่มาดูแลเอง หรือไม่มาแบ่งเบาภาระให้น้อง หรือไม่ก็จ้างคนมาดู พวกเมียน่อยก็มาดูสิตอนเขาดีๆก็เอาแต่ประโยชน์พอหมดประโยชน์ก็ทิ้งเลย สุดท้ายผู้ชายเจ้าชู้ก็ไม่เหลือใครลูกก็ไม่มีใครอยากดู เมียหลวงก็ต้องแค้นเป็นธรรมดาเพราะไปมีเมียน้อยและถูกทรยศ ส่วนพวกเมียน้อยก็ไม่น่าจะอยากดูแล เวรกรรมมีจริงเวรรรมของคนนอกใจเมีย
จากใจของเด็กที่ต้องมานั่งเรียนออนไลน์ตั้งแต่ปี1จนตอนนี้กำลังขึ้นปี3ก็ยังต้องเรียนออนไลน์อยู่.. ไม่เคยมีใครเข้าใจเราสักครั้งว่ามันกดดันขนาดไหน การที่ต้องมานั่งอยู่ในห้องสี่เหลี่ยม มุมเดิมๆทุกวัน วนลูปอยู่อย่างนี้ แม่งโคตรอึดอัด ทุกคนในบ้านชอบคิดว่าสิ่งที่เราเป็นอยู่มันสบาย เดี๋ยวใช้ทำนู้น เดี๋ยวเรียกทำนี่ เวลาสอบเก็บคะแนนแม่งก็จะต้องมีเสียงคนในบ้านมากวนสมาธิอยู่ตลอดเวลา จนสอบได้คะแนนไม่ดีแทบทุกครั้ง จากคนที่เคยร่าเริงเรากลายเป็นคนเก็บตัว ไม่ค่อยพูด ตั้งแต่เรียนมาเราร้องไห้ไม่รู้กี่ครั้ง
แล้วยิ่งน้องคุณทันที่ต้องเรียนไปคอยดูแลคนป่วยไปอีก เราโคตรสงสารน้องคุณเลย เราไม่รู้เลยว่าเขาจะกดดันกว่าเรากี่ร้อยเท่า เด็กอายุแค่นี้แต่ต้องมาแบกรับอะไรไว้มากมาย คุณแม่งไม่เคยเข้าใจความรู้สึกน้องคุณแถมยังมากดดันเขาเพิ่มอีก ถ้าเราอยู่ในบ้านหลังนั้นเราคงเป็นโรคซึมเศร้าอะเอาจริง.
ที่เขาไม่ตอบเพราะ พี่ชายเองแหละที่เข้าไม่ถูกทาง ถ้าเราไปpushเขามากเกิน ไปกดดันมากเกิน ย้ำๆแค่ว่า “ต้องเรียนๆอนาคตมึ*คือเรียนๆไป” มันไม่ใช่การคุยแบบครอบครัวเลยอ่ะ อยากให้ใส่ใจรับฟังเขาจริงๆจังๆมากกว่านี้ แล้วที่สำคัญ “อย่าเอาความลำบากกับความเหนื่อยของน้องไปเทียบกับคนอื่น” คนเรามันเหนื่อยกันได้ ใช่มันอาจจะมีคนเหนื่อยกว่าก็จริง แต่เรารู้สึกว่าความเหนื่อยคนเรามันเอามาเทียบกันไม่ได้อ่ะ ชีวิตไม่ได้โตมาเหมือนๆกัน พยายามใช้เวลาด้วยกันมากกว่านี้นิดนึงเนอะ
จากประสบการณ์ที่บ้านเคยต้องดูแลผู้ป่วยติดเตียงมา คิดว่าคุณพี่ชายอาจต้องลองสลับไปดูแลแทนน้องบ้างแบ่งให้น้องครึ่งๆ น้องจะได้มีชีวิตของน้องบ้าง จะได้เข้าใจน้องมากขึ้นค่ะ
ที่บ้านมีน้าต้องคอยดูแลผู้ป่วยติดเตียง และสลับกันกับคนที่บ้าน ช่วยๆกัน ก่อนหน้านี้มีน้ารับคนเดียวต้องออกจากงานมา น้าถึงขั้นต้องไปพบจิตแพทย์เพราะทนรับความเครียดไม่ได้ และคนในครอบครัวต่างกดดันเค้าเพราะอยากให้เค้าทำนู่นนี่ สุดท้ายเพราะลงมาดูแลเองมไม่มีใครว่าอะไรและเห็นอกเห็นใจกันค่ะ
นี่ยังไม่นับปัญหาเรื่องการเรียนออนไลน์ ปัญหาภรรยาน้อยคุณพ่ออีกค่ะ น้องชายคุณเจออะไรมาเยอะมากจริงๆ
เหมือนพี่พลักภาระให้น้อง
เอาใจเค้าใส่ใจเราคำพูดไม่ต้องเพราะมีกำแพงกั้นลงมือทำคือคำตอบอยู่จุดตรงนั้น ที่น้องเค้าอยู่แล้วจะเจอคำตอบที่แล้วแก้ปัญหาด้วยสติที่ออกมาจากใจของพี่คนหนึ่งผมเชื่อว่าคุณทำได้ครับ
ฟังแล้วคิดถึงตัวเองตอนดูแลพ่อที่ป่วยเลย
ประสาทจะแดกจริงๆ คนแก่เวลาป่วยดื้อเหมือนเด็ก
ปกติพ่อจะเป็นคนสุขุม ตอนป่วยอารมณ์จะไม่ปกติ
ฉุนเฉียว ไม่เคยตะคอกใส่ ก็ตะคอกใส่
เรานี่ต้องไปแอบร้องไห้ในห้องน้ำเลย
มันเหนื่อยใจจริงๆนะ
ลองคิดๆดูถ้ามีใครโยนภาระมาให้ทั้งหมด อะไรก็ไม่อยากทำทั้งนั้นอะ ปี1ก็อายุ18-19เอง ย้อนไปตอนนั้นแค่เรียนแค่เอาไปสอบก็ยากมากพอแล้ว พอน้องไม่เรียน สอบเกรดแย่ น้องผิดอีก ทำไมล่ะ🥺
พูดในฐานะที่เคยโดนเรียกตัวไปดูแลคนป่วยมะเร็งที่เป็นลูกพี่ลูกน้อง เห็นตอนนั้นว่างงาน พอได้งานปุ๊บโดนว่าสารพัด โดนตามสารพัด คือคนเรามันก็ต้องมีชีวิตของตัวเองบ้างอะ ไม่ถึงขั้น toxic จนทนไม่ได้นะ แต่พูดในมุมของคนที่เสียโอกาสเรื่องงานมากมาย เพื่อไปดูแลคนป่วย
เหมือนเด็ก ประถม ต้องมีครูดูดุ มันจะแก้กัน
พยายามหาเงินจ้างคนมาดูแล ให้น้องไปเรียน
มีลูกหลายคนทำไมภาระดูแลพ่อตกมาอยู่ที่ลูกคนเดียว?
น้องชายอาจแค่ต้องการให้พี่มาช่วยดูพ่อบ้าง
งั้นน้องก็ควรช่วยพี่หารายได้เข้าบ้านบ้าง
@@PBabPa ก็เขายังต้องเรียนไงคะ ถ้าต้องเรียน ดูแลพ่อ ทำงานหาเงินไปด้วย คิดสิถ้าเป็นคุณจะทำได้มั้ยคะ งานดูแลคนป่วย เหนื่อยกว่าทำงานปกติทั่วไปด้วยซ้ำ เพราะมันเสียสุขภาพจิตไปด้วย จิตป่วยเหนื่อยกว่ากายป่วย ถ้าไม่ต้องดูแลพ่อ เรียนกับทำงานบางทีเขาอาจจะทำได้ดีกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้ค่ะ
@@PBabPa หน้าที่น้องคือ เรียน+ดูแลพ่อ
หน้าที่พี่ คือ ทำงาน
เห็นความแตกต่างมั้ยคะว่าใครรับผิดชอบมากกว่า
ผมก็ต้องดูเเลตาเป็นมะเร็งยายเป็นไตเเม่เป็นไตต้องดูเเลไปด้วยเรียนไปด้วยเหนื่อยมากครับ
เผือกไม่เหมาะกับรายการให้คำปรึกษาแนวซีเรียส
ดูแลผู้ป่วยยากจริงๆค่ะ ต้องแยกจากคนอื่น ไม่ค่อยมีความเป็นส่วนตัวแล้วมันทำให้เรารู้สึกกดดันมากๆในฐานะที่เรายังเรียนอยู่เหมือนกัน
เมียน้อยก็มีทำไมไม่ให้เมียน้อยดูแล
อยากให้พี่เฟียสมาประจำคำแนะนำดีมากค่ะเข้าใจง่ายทำให้คิดถึงพี่ลูกเลย
ที่ปิดกั้นเพราะตัวพี่ชายคงจะไม่สนใจการดูแลเพราะทิ้งให้น้องดูแลอยู่คนเดียวน้องอาจเสียใจ