เล่าเรื่องเมืองเรา EP - 01 ตอน “ประวัติการสร้างเมืองฝาง”
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 24 ส.ค. 2023
- เล่าเรื่อง เมืองเรา
ตอน เล่าเรื่องเมืองฝาง EP:01
“ภูมิประเทศและลักษณะทางภูมิศาสตร์”
หากจะกล่าวถึงเมืองฝางหรืออำเภอฝางในปัจจุบัน เมืองฝางตั้งอยู่ทางทิศเหนือของจังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นที่ทิศเหนือติดอำเภอแม่อาย ทิศใต้ติดอำเภอไชยปราการ ทิศตะวันตกติดรัฐฉาน ทิศตะวันออกติดอำเภอแม่สรวย
เดิมเมืองฝางถือเป็นเมืองโบราณ เป็นที่ตั้งของชุมชนบ้านเรือนของผู้คนหลากหลายชาติพันธุ์ จากการขุดค้นทางโบราณคดีเป็นไปได้ว่าอาจมีผู้อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานตั้งแต่ราว 1,500 ถึง 2,000 ปีก่อน ทั้งนี้ เนื่องด้วยสภาพภูมิศาสตร์ที่เป็นที่ราบลุ่มขนาดใหญ่ มีความอุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การเพาะปลูกพืชพันธุ์และเป็นแหล่งปลูกข้าวขนาดใหญ่ตั้งแต่อดีตกาล มีแม่น้ำที่สำคัญสองสายไหลผ่าน อันได้แก่ แม่น้ำฝาง ซึ่งไหลขึ้นทิศเหนือไปจรดแม่น้ำกก ซึ่งไหลมาจากพื้นที่เทือกเขาในเมืองเชียงตุง เขตรัฐฉาน จากนั้นไหลรวมกันไปทิศตะวันออกผ่านจังหวัดเชียงราย แล้วไหลย้อนขึ้นไปทางทิศเหนือจรดแม่น้ำโขง บริเวณสบกก อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย
นอกจากนี้เมื่อวิเคราะห์จากแผนที่ทางภูมิศาสตร์เพิ่มเติม จะเห็นว่าเมืองฝางเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างแม่น้ำที่สำคัญในภูมิภาคสองสาย คือแม่น้ำสาละวินหรือแม่น้ำคงในสหภาพเมียนมาร์ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตก กับแม่น้ำโขงซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออก เมืองฝางจึงเป็นจุดเชื่อมต่อของผู้คนที่เดินทางระหว่างสองสายน้ำสำคัญ ผู้เดินทางในอดีตสามารถนำเรือล่องแม่น้ำโขงจากตอนใต้ของประเทศจีน เข้ามายังแม่น้ำกก และล่องทวนน้ำต่อมายังลุ่มน้ำแม่ฝางได้ ส่วนการคมนาคมทางบกก็เป็นเส้นทางของพ่อค้าวัวต่างม้าต่างจากพื้นที่รัฐฉานเข้าสู่เมืองหริภูญไชย-ลำพูนหรือเมืองเชียงใหม่ได้ทางทิศใต้ และเข้าสู่เมืองเชียงแสนหรือเชียงรายได้ทางทิศตะวันออก ด้วยเหตุนี้ เมืองฝางจึงมีลักษณะเป็นศูนย์กลางหรือชุมทางการคมนาคมมาตั้งแต่สมัยโบราณ ทั้งเป็นดินแดนที่ผู้คนอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
“การตั้งถิ่นฐานในเมืองฝาง”
มีข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ย้อนไปในยุคราชวงส์สิงหนวัติช่วงระหว่างปี พ.ศ.600 ถึง 650 ว่า ได้มีการอพยพของชนชาว ไท-ใหญ่ ข้ามแม่น้ำสาละวินเข้ามาสร้างบ้านแปงเมืองในพื้นที่ลุ่มน้ำแม่จัน-แม่คำ และแม่กก จึงเป็นไปได้ว่าในช่วงเวลาดังกล่าวน่าจะมีชาว ไท-ใหญ่ เข้ามาตั้งบ้านเรือนอยู่ในลุ่มน้ำแม่ฝางแล้ว ต่อมาเมื่อราชวงศ์สิงหนวัติสามารถสถาปนาอำนาจเหนือพื้นที่บริเวณลุ่มแม่น้ำกกได้สำเร็จ ก็มีการผสมผสานกันระหว่างผู้ชนชาว ไท-ใหญ่ และชาวไท-ลาว ซึ่งครองดินแดนอยู่ก่อน จนเกิดชนชาติใหม่ที่เรียกว่าชาว ไท-ยวน หรือโยนก นับแต่นั้นบริเวณลุ่มแม่น้ำฝางจึงกลายเป็นชุมชนใหญ่ของชาว ไท-ยวน สืบมา
ต่อมาปี พ.ศ.638 พระเจ้าสิงหนวัติได้สถาปนเมือง “โยนกนาคพันธุ์” ขึ้นเป็นราชธานี ซึ่งปัจจุบันเมืองดังกล่าวมีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอแม่จันและอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย เมืองฝางก็เป็นหนึ่งในเมืองบริวารของเมืองโยนกนาคพันธุ์ กระทั่งปี พ.ศ.1088 เกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทำให้เมืองโยนกนาคพันธุ์ถล่มล่มกลายเป็นหนองน้ำใหญ่ ปัจจุบันเรียกบริเวณดังกล่าวว่า “เวียงหนองหล่ม” จึงเป็นจุดสิ้นสุดยุคราชวงส์สิงหนวัติ ส่วนชาวเมืองเดิมก็ได้ย้ายไปสร้างเมืองขึ้นใหม่ชื่อ “เวียงปรึกษา” ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของอำเภอเชียงแสนในปัจจุบัน
นอกจากนี้ในช่วงเวลาเดียวกัน ในตำนานมีเรื่องเล่าถึงกลุ่มชาติพันธุ์ “ลัวะ” ซึ่งเริ่มมีบันทึกว่ามีการสถาปนาราชวงศ์ลาวจักราชขึ้นประมาณปี พ.ศ.1181 โดยมี “พญาลาวจักราช” เป็นต้นราชวงค์ ซึ่งพญาลาวจักราชนี้นักวิชาการให้ความเห็นว่าพระองค์สืบเชื้อสายมาจากปู่เจ้าลาวจก ทั้งการขึ้นครองอำนาจครั้งนี้ พระองค์น่าจะได้รับการสนับสนุนจากกษัตริย์แห่งทวารวดีซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่นครปฐม ในขณะนั้นอาณาจักรทวารวดีมีเดชานุภาพมาก สามารถแผ่อิทธิพลไปยังแคว้นต่างๆ ทั่วสารทิศ
เชื่อว่าในอดีต “ปู่เจ้าลาวจก” ได้นำคนจากพื้นที่สูงบริเวณดอยตุงลงมาสร้างบ้านแปงเมืองบนพื้นราบตีนเขาเป็น “เมืองเงินยาง” ซึ่งปัจจุบันอาจเป็นเมืองเวียงพางคำ ในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย“ปู่เจ้าลาวจก” ถือเป็นต้นราชวงค์ “ลาวจักราช” ซึ่ง “พญาลาวจักราช” ได้ขึ้นเป็นใหญ่เหนืออาณาเขตเมืองโยนกนาคพันธ์ุเดิม และได้ย้ายศูนย์กลางอำนาจมาสร้างเมือง “หิรัญนครเงินยาง” หรือ “เมืองเชียงแสน” ในปัจจุบัน ต่อมาประมาณปี พ.ศ.1184 “พญาลาวจักราช” ทรงดำริให้สร้างอีกเมืองหนึ่งขึ้นมาทางตอนต้นแม่น้ำกก เมืองนี้มีรูปทรงยาวไปตามแม่น้ำคล้ายฝักไม้ฝาง จึงให้ชื่อเมืองนี้ว่า “เมืองฝาง” ในขณะนั้นเมืองฝางมีเมืองเล็กเมืองน้อยเป็นเมืองบริวารอีก 3 เมือง คือ เมืองหาง เมืองสาด และเมืองจวาดน้อย นอกจากนี้ยังให้สร้างเมืองซึ่งอยู่กึ่งกลางระหว่างทางจากเมืองหิรัญนครเงินยางกับเมืองฝาง คือ “เมืองช้างรอย” หรือ “เมืองเชียงราย” ในปัจจุบัน โดยใช้แม่น้ำกกเป็นเส้นทางสำคัญในการคมนาคม หลังจากนั้นพระองค์ก็ได้สร้าง “เมืองร้อยเต่า” หรือ “เมืองเชียงของ” ขึ้นบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงอันเป็นเมืองที่เชื่อมเส้นทางการติดต่อไปยัง “เมืองเชียงทอง” หรือ “เมืองหลวงพระบาง” ในปลายสมัยของพญาลาวจักราช เมืองหิรัญนครเงินยางมีหัวเมืองสำคัญจำนวน 4 เมือง ได้แก่ “เมืองหิรัญนครเงินยาง” “เมืองฝาง” “เมืองเชียงราย” และ “เมืองเชียงของ” ตั้งอยู่ตอนใต้แม่น้ำโขง
ครั้นล่วงมาถึงรัชการที่ 18 ในรัชสมัยของ “พญาลาวเงิน” ปี พ.ศ.1639 แคว้น “หิรัญนครเงินยาง-เชียงแสน”ก็ได้ขยายตัวขึ้นอีกเท่าตัวโดยครอบคลุมพื้นที่จังหวัดเชียงราย จังหวัดพะเยา อำเภอฝาง อำเภอแม่อาย อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ อำเภองาว อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง นอกจากนี้ยังรวมถึงเมืองหาง เมืองสาด เมืองจวาด เมืองกวาน และเมืองตุม ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในรัฐฉาน สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์
ขอขอบคุณผลงาน รวมเพลงบรรเลง ซึงหมู่ โดย ครูขวัญชัย พิพัฒน์พงษ์ ศรีคีตกรหริทาส KS Studio Chiang Mai
• รวมบรรเลง ซึงหมู่ เพลง...
ผมเกิดที่นี่ สมัยก่อนมีอำเภอเดี๋ยว ตอนนี้แยกออกเป็น 3 อำเภอคือ มี อ แม่อายและ ชัยปราการ อากาศเมืองฝางสมัยเมื่อ60 ปีก่อนเย็นสบายตลอดปี
แม่ส่งมาให้ดู คิดถึงและอยากกลับไปมากๆ ไม่มีที่ไหนสุขเท่าบ้านเราอีกแล้ว
ขอบคุณคลิปดีๆนะคะคนจะรุ้จักฝางนะคะสุขใจสงบร่มเย้นคร้ารักนะเมืองฝาง
เป็นคลิปวิดีโอที่ดีมากคับ ให้ความรู้เรื่องเมืองฝางดีมาก ทำให้หายสงสัยไปเลยว่าทำไมเมืองฝางถึงเป็นเมืองใหญ่ ที่แท้เปิ้นเป๋นเมืองใหญ่มาเมินแล้วนี่เอง คนพากเสียงนุ่มน่าฟังคับ เดวจะติดตามต่อไปทุก EP เลยนะคับ พูดถึงเมืองฝางนี่ระยะทางไกลจากตัวเมืองเจียงใหม่มากเลยนะคับน่าจะราวๆสองร้อยกว่าโลได้ การเดินทางไปฝางนี่เหมือนข้ามจังหวัดเลยนะ ทั้งที่อยู่ในจังหวัดเดียวกัน ดังนั้นคนฝางเปิ้รจึงทำเรื่องขอแนกตัวออกเป็นจังหวัดใหม่ ขื่อจังหวัดฝาง เพราะเป็นการสะดวกในกสรเดินทางไปคิดต่อราชการไม่ต้องถ่อสังขารมาไกลถึงเมืองเจียงใหม่ แต่ก้ไม่รู้เป็นไร อ.ฝาง เคยทำเรื่องขอแยกเป็นจังหวัดใหม่กับกีะทรวงมหาดไทยมานานหลายครั้งละ ผ่านรัฐบาลมาหลายชุดละ ก้ไม่ผ่านสักที จนเรื่องเงียบไปเลยจนถึงปัจจุบัน ก้ไม่แน่ใจว่าทำไมขอแล้วไม่ผ่าน แต่เขามีเกณฑ์หลายข้อนะ ว่าจะให้เป็นจังหวัดได้ค้องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง อาทิ
-จำนวนประชากร ต่องกี่แสนขึ้นไป
-ผ่านการประขาพิจารณ์จากประชาชนในพื้นที่อย่างถูกต้องครบถ้วน เป็นต้น ที่จริงมีอีกหลายข้อแต่นึกออกเท่านี้ ซึ่งฝางขอแยกเป็นจังหวัดพร้อมๆกับเพื่อนๆหลายๆอำเภอดังนี้ (แต่ก้ไม่มีใครผ่านสักคน เหมือนกัน😂ยกเว้นบึงกาฬ) คือ
-ชัยบาดาล ขอแยกออกจากลพบุรี
-บัวใหญ่ ขอแยกออกจากโคราช
-แม่สอด ขอแยกออกจากตาก
อำเภอที่กล่าวมาบางอำเภอมีความเหมาะสมมาก สมควรได้รับการอนุมัติ แต่ก้ไม่รู้เปนเพราะอะไร จนปัจจุบันก้ยังไม่ผ่าน ดังนั้นคนฝางไม่ต้องน้อยใจไป เดวอาจจะมีการปัดฝุ่นเรื่องนี้อนุมัติได้ในรัฐบาลชุดใหม้ในอนาคตก้ได้นะคับ
ผมไปเมืองฝาง เห็นกำแพงเมืองฝาง
ใหญ่โต อลังการมากครับ🙏
สวัสดีค่ะ เมืองฝางเป็นอำเภอหนึ่งของเชียงใหม่ เคยไปเที่ยว ธรรมชาติงดงาม อากาศเย็นสบาย เที่ยวบ่อน้ำมันฝางด้ย หนทางคดเคี้ยว สูงชันเป็นบางช่วง เที่ยวด้วยความประทับใจ ขอบคุณ ค่ะ ❤ ❤ ❤ ❤ ❤ ❤
ดีเลยครับ ผมอยากไปอยู่ ฝาง ครับ^^
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆๆนะคะ
เคยขึ้นไปเที่ยวหาพี่ไปที่ม่อนปิ่นชายแดนพม่า,สวนส้มธนาธรปี32นั่งรถขึ้นเขาเสียวมาก,ไปพักรถที่กิ่งชัยปราการ,พอถึงฝางแล้วไม่อยากลงมาไม่อยากกลับกรุงเทพฯเลย😅😅😅😅สาวไปสวยๆๆยุคนั้นมีงานวัดหมู่บ้านหนัง3เรือง,มีมวย,หนังรอบดึกเป็นหนังโป๊ทั้งเรื่อง,😂😂😅😅ยายชอบๆๆๆ
ขอขอบพระคุณมากๆค่ะ
ยายผมเคยเล่าให้ฟังครับ บ้านเดิม อยู่ที่ สันป่าตอง แต่ย้ายไปอยู่ฝาง
สาวฝางน่าฮักคับ
ผมก่เกิดที่นี่ครับ นึกถึงสมัยก่อนม่วนขนาด
ขอบคุณข้อมูลดีๆครับ
ผมเกิดและโตในเมืองฝาง
เป็นเมืองที่สงบน่าอยู่ครับ
ฝางอากาศดีมาก ชอบมาก
ยินดีต้อนรับครับ
ฟังข้อมูลเข้าใจง่ายมากขึ้นเลยครับ ขอบคุณสำหรับวิดีโอดีๆครับ
❤ฮักเมืองฝางบัานเฮาคับ
ทราบประวัติความเป็นมาแล้ว..อยากให้แยกเป็นจังหวัดออกจากชียงใหม่
อยากไปอำเภอฝางบ้างครับ 🎉🎉😊❤
น่าจะรณรงค์ขอตั้งจังหวัด. ฝาง..รวมเอา อ.แม่อาย อ.ไชยปราการ อ.เวียงแหงและอำเภอใกล้เคียง. จะได้พัฒนาให้เจริญกว่านี้
เคยขอจัดตั้งแล้ว แต่ไม่ผ่านเพราะ จำนวนประชากร ไม่พอ อ.ใกล้เคียงไม่เข้าร่วมค่ะ มีแค่ แม่อาย ฝาง และไชยปราการ เลยไม่สามารถตั้งจังหวัดได้ค่ะ
อากาศดี สวนส้มเยอะ
สบฝางครับ
แล้วต้นใม้ที่ขึ้นบน กำแพง จะเอาใว้ทำให้กำแพงแตกพังทำใม?
ตอนผมเกิดไชยปราการแยกกริ่งอำเภอพอดี
บ้านเกิดเลย
น่าจะแยกเป็นจังหวัดหนึ่ง จะได้บริหารจัดการดีขึ้น เพราะการอยู่ท่ามกลาง 2 เมืองใหญ่ เชียงใหม่ เชียงราย ทำให้ไม่สามารถพัฒนาได้เท่าที่ควร
ต้องมีมหาวิทยาลัยครับ
เป็นอำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ดูดีกว่า ถ้ามีคนถาม พี่เป็นคนที่ไหน อ๋อเป็นคนเชียงใหม่ แล้วถ้าถามว่าพี่เป็นคนที่ไหน พี่เป็นคนจังหวัดฝาง รู้สึกยังไง
@@asfty5337 อย่ายึดติดกับชื่อเสียงในอดีต เราสามารถพัฒนาตนเองได้ดีกว่าอยู่ใต้ร่มคนอื่น ดูอย่างบุรีรัมย์ หรือ พะเยา ตอนนี้เขาไปไหนต่อไหนแล้ว
ถ้าถามผมผมเฉยๆนะ จะอยู่จังหวัดไหนก็คือคนไทย ผมไม่ได้ให้ความสำคัญกับตรงนี้ ผมให้ความสำคัญที่ความดีความเลวของบุคคลเหล่านั้นมากกว่า @@asfty5337
เคยจะแยกอยู่หลายครั้ง ฝาง + แม่อาย + ไชยปราการ เป็นอีก 1 จังหวัด แต่ไม่ได้รับการอนุมัติครับ
ก่อนอื่นขอขอบคุณนะคะที่ท่านให้ความสนใจต่อเรื่องราวของเมืองฝาง …ขอแสดงควมคิดเห็นคัดค้านในบางเรื่องนะคะ คือเรื่องที่ว่าก่อน พ.ศ 2416 เมืองฝางเป็นเมืองร้างและเจ้าราชสัมพันธ์มาพบแล้วให้เจ้าน้อยพุทธวงค์แม่ริมมาสร้างใหม่นั้น …ไม่เป็นความจริง…การที่ท่านกล่าวข้อมูลแบบนี้ข้าพเจ้าสันนิจฐานว่าท่านเอาเหตุการณ์บางตอนจากหนังสือของนายฮอร์เลท ที่บันทึกว่าเจ้าอินทวิชยานนท์ได้ออกหนังสือตั้งให้เจ้าราชสัมพันธ์ประกาศให้คนอาสาเข้าไปอยู่ในเมืองฝาง 1,000 คนเมื่อประมาณ พศ 2426 และการที่มีนักวิชาการบางท่านบอกว่าเจ้าราชสัมพันธ์มาล่าสัตว์และพบเมืองฝางเป็นเมืองร้างนั้น ข้าพเจ้าสันนิจฐานว่าท่านเอามาจากบันทึกของนาย คาร์ล บอค ที่เดินทางจากพร้าวมาเมืองฝาง พศ 2424 ระหว่างทางนายคาร์ล บอค ได้พบกับเจ้านายคนหนึ่งซึ่งขี่ช้างตัวผู้สง่างามและเขาเรียกผู้นั้นว่าเจ้าชายเชียงใหม่ แต่นายคาร์ล บอคไม่ได้เข้าไปทัก แต่นักวิชาการท่านนี้ก็ได้ตีบทความนี้ว่าเจ้าชายเชียงใหม่คนนั้นเป็นเจ้าราชสัมพันธ์ ข้าพเจ้าขอเรียนว่า เจ้าชายเชียงใหม่ที่นายคาร์ล บอค กล่าวถึงนั้นที่จริงคือเจ้าหลวงเมืองฝาง ซึ่งมีศักดิ์เป็นเจ้าชายเชียงใหม่เช่นกันเพราะท่านเป็นเจ้าราชบุตรของพระเจ้ามโหตรประเทศ เจ้าหลวงองค์ที่ 5 ของเชียงใหม่ ความจริงความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าราชสัมพันธ์กับเจ้าหลวงเมืองฝางนั้นไม่ดีนัก จะว่าไปแล้วทางเชียงใหม่ต้องการยึดพื้นที่เมืองฝางและเมืองบริวารทั้งหมดจึงได้วางแผนเอาคนเข้าไปอยู่เมืองฝาง(ตามสไตลของอเมริกาต้องการยึดเชียงแสนก็เอาคนไปอยู่เชียงแสน ต้องการยึดเขาพระวิหารก็เอาคนไปอยู่บนเขาพระวิหาร ฯลฯ)หลักฐานว่าเจ้าราชสัมพันธ์ไม่ชอบเจ้าหลวงเมืองฝางและเข้ามาทำร้ายข้าวของและลูกหลานเจ้าหลวงเมืองฝางทราบถึงพระจุลจอมกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 และมีพระราชดำรัสสั่งเป็นพระราชหัตถ์เลขาให้เอาตัวเจ้าราชสัมพันธ์ไปอยู่กรุงเทพและท่านก็อยู่ที่นั่นจนสิ้นชีวิต จึงขอให้ทุกท่านเข้าใจให้ถูกต้อง… เมืองฝางเป็นเมืองสำคัญทางยุทธศาสตร์ ไม่เคยเป็นเมืองร้าง บันทึกของนายคาร์ล บอค เมื่อ พศ 2424 คือก่อนที่จะมีหนังสือออกมาให้คนอพยบไปอยู่ในเมืองฝาง บอกว่า มีผู้ชายที่เป็นทหารประมาณ 600 กว่าคนและมีวัด ประมาณ 300 วัด …แล้วจะเป็นเมืองร้างได้อย่างไร … ด้วยความเคารพค่ะ 🙏
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ที่แลกเปลี่ยนกันครับ รบกวนขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ไหมครับว่า ผมจะไปหาข้อมูลส่วนที่ท่านกล่าวถึงได้จากที่ไหน มีระบุไว้ในหนังสืออะไร ลำดับต่อไปผมจะได้แก้ไขเพิ่มเติมให้ถูกต้องครับ ขอบคุณมากครับ
อ่านเพลินเลยครับ
@@user-un2tp3sx5d ด้วยความยินดีค่ะ ขอชี้แจงเป็นข้อๆนะคะ
1) เรื่องเจ้าราชสัมพันธ์ที่ไปพบว่าเมืองฝางเป็นเมืองร้าง ไม่จริงเพราะ จากบันทึกของนาย Carl Bock ในหนังสือ Temples and Elephants หน้า 361 บรรทัดที่ 9 บอกว่าเจ้าราชสัมพันธ์เป็นเจ้าชายที่ฉลาดที่สุด ด้วยเหตุนี้จึงแสดงว่าเขารู้จักกัน…ถ้าเขารู้จักกันทำไมไม่เข้าไปทักทายกันในระหว่างที่นาย Carl Bock อยู่ที่เมืองฝาง จากหนังสือเล่มเดียวกัน หน้า 269 บรรทัดที่ 4 Carl Bock พบกับ “Chiangmai Prince”ที่กลับจากการล่าสัตว์ , ในหน้า 263 บันทัดที่ 26 เขาต้องการช้าง 8 เชือกจากเจ้าเมืองพร้าวแต่เจ้าเมืองพร้าวบอกว่าไม่มีช้างเพราะ “ Chiangmai Prince” เอาไปก่อนหน้านี้แล้ว ,ในหน้า 350 บันทัดที่ 5 เขาบันทึกว่า” A prince from Chingmai“ นั่งอย่างสง่างามพิงหมอนสามเหลี่ยมที่ปักด้วยดิ้นทองอย่างงดงามบนพื้นพรมหลากสี ในวันที่ 12 เมษายน เจ้าหลวงเมืองฝางเป็นประธานในการสรงนำ้พระวันสงกราณ์ในวันนั้น …จะเห็นว่าที่กล่าวมาอย่างน้อยก็สามครั้ง ถ้า Prince จาก Chingmai คนนั้นเป็นเจ้าราชสัมพันธ์จริงเขาก็ต้องเข้าไปทักในฐานะคนรู้จักกันแล้ว ที่เขาไิม่ไปทักก็เพราะเจ้าชายเชียงใหม่คนนั้นไม่ใช่เจ้าราชสัมพันธ์แต่เป็นเจ้าเจ้าหลวงเมืองฝาง ราชบุตรของพระเจ้ามโหตรประเทศ ในขณะนั้นท่านอายุประมาณ 50 ปี และขอบอก ท่านหล่อมาก 😀😀
2) นาย Carl Bock แอบไปร่วมงานวันสงกราณ์ หน้า 347_350 (ทำไมต้องแอบ?? เพราะเขาเอาคนจากเชียงราย30คน ขโมยพระพุทธรูปขนาดใหญเล็กบรรทุกหลังช้างอีก 5_6 เชือก ออกจากเมืองฝาง ) นายCarl Bock บรรยายคนที่มาร่วมงานสรงนำ้พระ งานดำหัว และงานรื่นเริงต่างๆ รวมสามวัน มีมากมายมาร่วมงาน ดังนั้นจึงเป็นหลักฐานได้ว่าเมืองฝางไม่ใช่เมืองร้าง
3) จากหนังสือของนาย Hallet ชื่อหนังสือ A Thousand mile on elephant หน้า 126 บันทึกเกี่ยวกับการประกาศอาสาให้คนเข้าไปอยู่ในเมืองฝาง ประมาณ 1000 คน โดยให้เจ้าราชสัมพันธ์ เป็นหัวหน้าในการจัดการ ในหนังสือถึงเจ้าสุริโยยศ ผู้ซึ่งขณะนั้นชรามากแล้ว เป็นญาติสนิทเจ้าหลวงเมืองฝางรักษาการแทน การให้คนเข้าไปอยู่ในเมืองฝางเกิดขึ้นปี 2426 หลังทีนาย Carl Bock เข้าไป 2_3 ปี ทั้งๆที่รู้ว่าเมืองฝางมีเจ้าหลวงเมืองฝางครองอยู่แต่เขาก็จะพยายามมาแย่งเอาไป นี่คงเป็นสไตล์การแย่งพื้นที่แบบอเมริกัน(ตอนนั้นเชียงใหม่อยู่ใต้อิทธพลของมิชันนารีอเมริกัน)เหมือนการส่งคนไปเชียงแสนเพื่อยึดเชียงแสน และส่งคนเขมรไปเขาพระวิหารเพื่อยึดพื้นที่บนเขาพระวิหารฯลฯ
4) พระราชหัตถ์เลขาของ ร.5 มีเป็นฉบับถ่ายเอกสาร ถ้าอยากอ่านก็นัดกันได้
สรุป เมืองฝางเป็นเมืองที่เป็นอิสระ ไม่อยู่ใต้การปกครองของใครมานมนานแล้ว
ขอเพียงเท่านี้ก่อน หากมีคำถามเพิ่มก็สามารถชี้แจงเพิ่มเติมวันหลังได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ
ผมเกิดและโตที่นี่ สิ่งที่ขาดไปคือ ไม่มีการกล่าวถึงกษัตริย์ที่ปกครองเมืองฝาง ฐานที่ตั้งอยู่ที่บริเวณวัดพระบาทอุดม อุทยานหลวงยังคงมีบ่อน้ำซาววาอยู่จนทุกวันนี้ กษัตริย์องค์สุดท้ายที่ครองเมืองฝางคือ พระเจ้าฝาง มเหสีคือ พระนางสามผิว..มีโอรสหนึ่ง พระธิดาหนึ่ง ..ประวัติตรงนี้หายไปไหนครับ? การล่มสลายคนรุ่นเก่าๆก็รู้กันดี แต่มารุ่นหลังๆไม่มีคนกล่าวถึงเลย
@@user-yc4mp4nb7l เรื่องพระเจ้าฝาง พระนางสามผิว จะกล่าวถึงใน EP-07 ครับ
จริงๆ แล้ว รายละเอียดเกี่ยวกับเมืองฝางมีเยอะ กำลังไล่เรียงทำตามเวลา อดใจรอหน่อยนะครับ กำลังเร่งทำ ขอบคุณครับ 😄
เมืองฝางน่าอยู่เจ้า อยากไปอยู่แต่คงไม่มีวาสนา
เป็นเมืองเก่าแก่มานานมากๆสมควรแยกจังหวุดได้แล้ว
ผมไม่ได้เกิดที่นี้อยากได้สาวที่นี้
หลายๆประเด็นที่นำเสนอ ไม่น่าจะเป็นจริง ขัดกับสภาพภูมิศาสตร์ หลักฐานต่างๆก็ไม่มี ผมว่าจะทำให้เข้าใจผิด
ในประวัติศาสคร์นอกตำรา ดูสนุกกว่า
ขอบคุณข้อมูลดีๆๆๆ เฮาคนเมืองต้องฮู้ไว้ เฮาบ่าใจ้คนไทย
เป็นพม่าหรือลาวหรือม้งมูเซอ😂
@@tulip5339 เป๋งญาง
🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣
น่าอยู่คนไม่เยอะมาก
เยอะครับ ถ้าอยู่รอบนอกก็เจอสวนส้มเหม็นกลิ่นยาฆ่าแมลงอีก