8ข้อที่บอกว่าชีวิตคุณจะลำบากถ้ายังทำซ้ำๆไม่มีอำนาจใดหักล้างกรรมได้ คำพูดแค่ลมปากการกระทำพิสูจน์ค่าคน
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 22 พ.ค. 2024
- ท่านผู้ฟังสามารถให้การสนับสนุนช่องของเรา เพื่อให้ได้ผลิตเนื้อหาสาระดีๆแบบนี้ต่อไปได้โดยการสมัคสมาชิกของช่องของเรา ที่ปุ่มสมัครข้างปุ่มติดตาม หรือตามลิ้งค์นี้ได้เลย / @user-jc8bh8jc8q
เรื่องเล่าประสบการณ์แปลกๆ เร้นลับน่ากลัว หรือเรื่องของเวรกรรมที่ประสบพบเจอมาด้วยตนเองหรือของคนรอบข้างหรือได้ยินได้ฟังมา มาบรรยายถ่ายทอดให้ได้รับฟังกัน ทั้งเพื่อความบันเทิง และเป็นคติเตือนใจ ให้ผู้คนเกรงกลัวละเว้นจากบาปกรรม ต่อไป ด้วยความเครพอย่างสูงยิ่ง กระผม อานนท์
เครดิต เพลงประกอบ outro : The Evening of Departure โดย Twin Musicom ได้รับอนุญาตภายใต้ ใบอนุญาต Creative Commons Attribution (creativecommons.org/licenses/...)
ศิลปิน: www.twinmusicom.org/
#อานนท์เล่าเรื่อง #สาระความรู้ #คติธรรมสอนใจ - บันเทิง
#สำหรับผู้ไม่สะดวกรับฟังด้วยเสียง
#สัญญาณ8ข้อที่บอกว่าชีวิตคุณจะลำบากเรื่องเงินถ้ายังทำซ้ำๆ
เงินคือสิ่งสำคัญ ทุกคนอยู่ได้เพราะเงิน ไม่งั้นทุกคนไม่ทำงานหาเงินกันหรอ ก จริงไหม แต่ทำไมยิ่งหามันยิ่งลำบาก มันยิ่งจนละ ทำไมไม่มีเงินเก็บเลย เชื่อว่าหล า ยๆคนที่ทำงาน มานานต้องมีคำถามแบบนี้แน่ เงินเดือนออ กก็หมดไป เงินในบัญชีก็หมดไม่รู้เอาไปทำอะไรหมด
ถ้าคุณเป็นแบบที่เรากล่าวถึง ในข้างต้นล่ะก็ บอ กได้เลยว่า สถานะทางการเงิ นของคุณ มาถึงจุดอั นต ร า ยซะแล้ว แต่ถ้าคุณยังไม่แน่ใจ เพราะใครๆก็คงคิดแบบนี้ ก็ลองมาดูกันว่า คุณมีสัญญาณอั นต ร า ย ด้านการเงิ นรึเปล่า
สัญญาณที่ 1 แยกไม่ออ กระหว่าง จำเป็น กับ อย ากได้
การเก็บออมเ งิน เพื่อสร้างความมั่งคั่ง นั้นสิ่งสำคัญที่สุด นั้นคือ การจัดลำดับความสำคัญ คุณต้องแบ่งได้อะไร คือสิ่งที่คุณ ต้องมี มีก็ดี หรือ ไม่มีก็ได้ ในการจ่ายของคุณแต่ละครั้ง หากคุณตั้งเป้าหมายไว้ว่า ต้องร่ำร ว ยขึ้น
คุณต้องยอมแลก กับความต้องการบางอ ย่ างในตอนนี้ ถึงคุณจะไม่ชอบก็ต าม เคล็ดลับเขียนเป้าหมาย ทางการเงิ นของคุณให้ชัดเจน แล้วติดเป้าหมายไว้ ในที่ๆคุณมองเห็นได้ชัด เพื่อที่จะอ่า นเตือนใจ ให้ยึดมั่นกับแผนนี้อ ย่ างสม่ำเสมอ
สัญญาณที่ 2 ไม่เคยตั้งงบรายจ่าย
จุดเริ่มต้นของหนทาง ที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จ ทางการเงิ น ตั้งงบรายจ่าย และทำให้ได้ต ามแผนที่วางไว้ บอ กได้เลยว่า แค่นี้ก็เห็นความแตกต่าง ของเงิ นในบัญชีของคุณ แต่หากคุณตั้งงบประมาณไม่ดี ก็จะทำให้การใช้จ่ายของคุณ เกิดรอยรั่วได้ง่าย
สัญญาณที่ 3 ไม่รู้ว่าใช้เงิ นซื้ อจ่ายอะไรบ้าง
หล า ยคนคิดว่า ตัวเองรู้ดีว่า รายได้มาจากที่ไหน แล้วใช้ซื้ ออะไรไปบ้าง ทว่าในความเป็นจริงแล้ว มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่เป็นแบบนั้น เพราะเกือบทุกคน จำได้เฉพาะรายจ่ายก้อนใหญ่ๆเท่านั้น แต่รายจ่ายเล็กๆ ต่างหากที่ทำให้รายได้ของเรา ห า ยไปแบบไม่รู้ตัวเลย
สัญญาณที่ 4 ไม่พลาดทุกเทรนด์
การซื้ อสินค้า หากทำอ ย่ างพอ ดี หรือซื้ อเพราะความจำเป็น ต่องานของคุณนั้น เป็นสิ่งที่คุณสมควรทำ แต่การซื้ อโทรศัพท์มือถือ รุ่นใหม่ และเปลี่ยนรุ่นตลอ ดเวลา เพราะคิดว่าตัวเองต้อง ต ามเทรนด์ ตลอ ดเวลานั้น สร้างความเ สี ยห า ย ทางทางการเงิ นได้ ดังนั้นก่อนซื้ อทุกครั้ง อ ย่ าลืมคิดว่า จำเป็น หรือแค่ อย ากได้
สัญญาณที่ 5 ยิ่งรายได้เพิ่มขึ้นรายจ่ายก็เพิ่มขึ้นต าม
หล า ยๆคน คงอย ากยินว่า ตัวเองมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่ในขณะที่รายได้เพิ่มขึ้น ทุกคนก็อย าก ใช้เงิ นเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตของตัวเองให้ดีขึ้นด้วย แต่หากคุณสนใจ แต่เฉพาะรายจ่าย เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตล่ะก็ รายได้จำนวน มากเท่าไหร่ ก็ไม่เพียงพอ กับรายจ่าย
และยังไม่สามารถ เก็บออมเงิ นได้ แน่นอนสิ่งที่คุณควรระวังคือ พย าย ามรั ก ษ าระดับรายจ่าย ของคุณให้คงที่อยู่เสมอ ในขณะที่อีกทาง คือ การเพิ่มรายได้ จากทางอื่นๆ ถึงจะเป็นเส้นทางสู่ความสำเร็จ
สัญญาณที่6 ปล่อยไว้เดี๋ยวก็ดีเอง
หล า ยคนที่มี แก้ไขปัญหาทางการเ งินไม่ได้ มักเชื่อว่า ปล่อยไว้เดี๋ยวก็ดีเอง ซึ่งบอ กได้เลยว่านั่นเป็นหนึ่งในเส้นทาง สู่ความล้มเหลว ทางด้านการเงิ น เพราะโดยทั่วไป พวกเขามักคิดถึง เฉพาะการแก้ปัญหา เฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นในวันนี้เช่น
วันนี้อะไร คือเรื่องจำเป็น แต่ไม่ได้มีการวางแผน สำหรับอนาคต เพื่อเตรียมรับมือแต่อ ย่ างใด เพราะเชื่อว่า ในอนาคต ก็จะหาทางออ กได้เอง หากคุณคิดแบบนี้ ขอให้ลองเปลี่ยนความคิด ที่เกี่ยวกับการเ งินทั้งหมด เช่น หากเราตัดสินใจ ใช้เงิ นตอนนี้แล้ว ในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
สัญญาณที่ 7 ไม่เริ่มเก็บออมเงิ นตั้งแต่ยังตอนนี้
ในวัยทำงานหล า ยคน ใช้เงิ นหมดไปกับการซื้ อสิ่งของ ที่ตนเองต้องการ และคิดว่ายังไม่ถึงเวลา ที่ต้องเริ่มออมเ งิน แต่เดี๋ยวก่อน ไม่มีคำว่าเร็วเกินไป สำหรับการออมเงิ น ไม่ว่าคุณจะมีรายได้มาก หรือน้อยขนาดไหนก็ต ามเราขอแนะนำ ให้คุณเริ่มออมเ งิน ตั้งแต่วันนี้ คนร ว ยหล า ยๆคน แนะนำว่าคุณควร เก็บออม
สัญญาณที่ 8 ห นี้วันนี้ใช้วันหน้า
หล า ยคนในปัจจุบัน เรียกได้ว่าเป็นห นี้ กันทั่วหน้าทำให้ดอ กเบี้ย ที่เป็นของแถมจากการเป็นห นี้นั้น พอ กพูนจนกระทั่งไม่รู้จะ ชำระห นี้ยังไง ดีและหล า ยคนที่ไม่รู้ว่าจะชดใช้ห นี้เหล่านี้ยังไง ก็เลือ กที่จะปิดต าหนึ่งข้าง โดยหวังว่า จะนำรายได้ที่มีมา
ใช้ห นี้ทั้งหมดโดยไม่มีการออม ทั้ง 8 ข้ อให้เป็นแนวคิด ที่จะช่วยให้คุณมีเงิ น ออม โดยที่คุณไม่ต้องอ ดหรือ กดดันตัวเองจนเกินไป แล้วการออมเงิ นจะกล า ยเป็นหนทาง สู่ความร่ำร ว ยในอนาคตโดยคุณเองไม่รู้ตัว จงสร้างฝันของคุณเองมิฉะนั้นคนอื่นจะจ้างคุณให้ไปช่วยสร้างฝันของพวกเขา จงเริ่มจากจุดที่คุณยืนอยู่จงใช้ในสิ่งที่คุณมีและจงทำในสิ่งที่คุณสามารถทำได้
#อโหสิกรรมไม่ใช่การแก้กรรม ไม่มีอำนาจใดๆจะมาหักล้าง”กรรมได้”
วันนี้มีคนถามเรื่องการอโหสิกร-รมเข้ามา ข้าพเจ้าเห็นว่ามีประโยชน์มาก จึงขอนำมาให้ทุกคนได้อ่านกัน
การขออโหสิกร รมไม่ใช่การ “แก้กร รม”
“กร รม” นั้นแก้ไขไม่ได้ ไม่มีอำนาจใดๆจะมาหักล้าง “กร รมได้”
“การขออโหสิกร-รม” ขอขมา จึงเป็นการเริ่มต้นที่จิตเรา ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการสำนึกผิดกับสิ่งที่เคยกระทำลงไป
แม้เราจะเพียรพยายามขออโหสิกร-รม เจ้ากรรมนายเวรจะยกโท ษให้หรือไม่นั้นก็อยู่ที่ ‘จิต’ ของเขาเท่านั้น
สิ่งที่เจ้ากร-รมนายเวร หรือคนที่เราไปผูกเวรสร้างกร-รมกับเขา ต้องการจากเรามากที่สุดคือ
1.เราได้ชดใช้ในสิ่งที่เราเคยทำ เฉกเช่นเดียวกันกับเขา
2.คือการสำนึกผิดกลับตัวกลับใจเสียใหม่ เป็นการ
สำนึกผิดจริงๆ จากใจจริง สำนึกรู้แล้วว่าสิ่งที่เราได้กระทำลงไปนั้น ผิด-บาป
การสำนึกผิดต้องสำนึกตื่นรู้จริงๆ ว่าสิ่งที่ทำกับผู้อื่น สร รพสั ตว์ทั้งหลาย นั้นสร้างความทุกข์กาย-ใจให้คนอื่นมากเพียงใด
และบัดนี้จิตเราได้รับรู้ ได้สำนึกแล้วว่าเป็นบๅป เป็นเรื่องไปเบีย ดเบี ยนเขา ทั้ง กาย วาจา ใจ เป็นเรื่องที่เราไปก่อเวรภัยกับเขา
หากเราอยากให้เขายกโท ษให้ ให้เขาให้อภัยเรา ปลดปล่อยเราจากการจองเวร ปลดปล่อยเราจากความทุกข์ กาย-ใจ เราแค่เอ่ยปากหรือขออโหสิก รรมอย่างเดียวไม่พอ
ควรจะอุทิศบุญกุศลทุกครั้งให้กับเจ้ากรรมนา ยเวรทุกครั้งที่ทำบุญ ไม่ว่าจะเป็นบุญเล็กหรือบุญใหญ่
แม้จะยากแต่ก็ต้องทำ โดยการสร้างกร รมดีให้มากขึ้นทำกร รมดีมากขึ้นในทุกๆ วัน ละบๅปให้ได้ ด้วยแรงบุญ เจตนาดีจะทำให้ชีวิตเราดีได้
บุญยิ่งทำยิ่งดี จากนั้นขออุทิศบุญกุศลให้เจ้ากร รมนๅยเวรบ่อยครั้งให้เขาลดแรงอๅ ฆ ๅ ต พ ยๅบาทภายในใจ หากทำได้ทุกวันก็ยิ่งดี
กร รมแม้จะยังอยู่แต่ก็จะเบาบางลงมาก แม้เขาจะอโหสิกร รมไม่ผูกใจเจ็ บแล้ว แต่เราก็ยังจะได้รับผลของกร รมนั้นอยู่ดี นี่แหละ “กร รมจึงเป็นของน่ากลัวที่เราหนี้ไม่พ้น เป็นเหมือนเงาตามตัวที่รอให้ผล”
#คำพูดเป็นแค่ “ลมปาก” การกระทำต่างหาก “พิสูจน์” ค่าของคน
คนที่จิตใจสูงส่ง จะพูดถึงคนอื่นน้อยที่สุด
คนที่จิตใจบริสุทธิ์ จะคิดกับคนอื่นในแง่ที่ดีที่สุด
มนุษย์ส่วนใหญ่.. ไม่ค่อยเอนเอียงไปทางแง่ที่ดี
เพราะ.. การมองในแง่ร้ายมันทำให้
พวกเขามีเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นกว่า
จงเป็นให้เหมือน “สิงโต” ที่… เงียบ
อย่าเป็นเหมือน “สุนัข” ที่… เห่าดัง !!
อยากทำอะไรให้สำเร็จ “ทำเลย” ไม่ต้อง “พูด”
เพราะคนที่เอาแต่พูดว่าจะทำโน่นทำนี่
มักได้แต่ “พูด” แต่ไม่ค่อยได้ลงมือ “ทำ”
“ความสำเร็จ” พูดได้ดังกว่า… “คำพูด”
และ คำพูดจะไม่มีค่าอะไรถ้าคุณไม่ “สำเร็จ”
เสียเวลา “พูด” มานานแค่ไหน
ถ้าเอาเวลานั้นไป “ทำ” อย่างที่พูด
คุณ “สำเร็จ” ไปแล้ว
เคยเห็นสิงโตเวลาออกล่าไหม…?
สิงโตจะ “เงียบ” เวลาจะ “ล่าเหยื่อ”
เพราะมันคิดจะ “ล่า” จริงๆ
โลกจะรู้จาก “การล่าเหยื่อ” ของมัน
ไม่ใช่ “เสียงขู่” ของมัน
“คำพูด” เป็นแค่ “ลมปาก”
“การกระทำ” ต่างหาก “พิสูจน์” ค่าของคน
การ “ลงมือทำ” ดีกว่า “คำพูดที่สวยหรู”
..
พูดให้น้อย
พูดมากไม่ดีตรงไหน คนช่างพูดน่าคบหาด้วย..ตรงนี้ต้องแยกให้ออกก่อนว่า “พูดมาก” กับ “พูดเก่ง” เป็นคนละเรื่องกัน
พูดมาก คือ พูดไปเรื่อย พูดจาเพ้อเจ้อ ไม่มีสาระ ไม่มีแก่นสาร เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง
นึกอยากจะพูดก็พูด โดยไม่สนใจหรือใส่ใจกับอะไรและใครทั้งนั้น
ส่วนพูดเก่ง คือ การรู้จักพูด เป็นการพูดด้วยปัญญา
ถ่ายทอดเรื่องราวออกมาเป็นคำพูดได้อย่างดี รู้ว่าอะไรควร-ไม่ควร
พูดแบบเป็นเหตุเป็นผล มีสาระและน่าฟัง
โบราณท่านว่า “จะดูคนว่าโง่หรือฉลาด ดูได้จากคำพูดนี่แหละ” ดังนั้นคนพูดมาก
ไม่จำเป็นต้องเป็นคนพูดเก่ง และคนพูดเก่ง ก็ไม่จำเป็นต้องพูดมาก
ข้อเสียเปรียบของการพูดมากก็คือ คุณจะไม่รู้จักฟัง ตั้งหน้าตั้งตาที่จะพูดอย่างเดียว
จนลืมสนใจและใส่ใจที่จะฟัง ทำให้พลาดอะไรดี ๆ ไป ที่สำคัญพอพูดมาก ๆ เข้า สมาธิที่จะโฟกัสสิ่งต่าง ๆ
ก็น้อยลงทำให้คนพูดมากมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จได้น้อยกว่า
ถ้ารู้ตัวว่าเป็นคนพูดมาก ก็ต้องตั้งสติให้ดีแล้วลองหัดเปลี่ยนตัวเองดู พูดแต่เรื่องที่ดี
ที่จะนำประโยชน์มาให้ หรือเปลี่ยนจากการพูดเป็นการคิด การปฏิบัติ หรือการฟังแทนแล้วการใช้ชีวิตของคุณจะดีขึ้นอีกเยอะ
ฟังให้มาก
รู้หรือไม่?? การฟังสร้างความสำเร็จได้ดีกว่าการพูด คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่จะฟังมากกว่าพูด
และเมื่อสำเร็จแล้วเขาจึงค่อยพูดเพื่อสร้างความสำเร็จให้กับคนอื่นอีกทอดหนึ่ง
แค่นี้ก็รู้แล้วว่า การฟังสำคัญมากแค่ไหน เพราะการฟังทำให้เกิดพลังได้หลายอย่าง
แต่ต้องไม่ใช่แค่ได้ยินแล้วผ่านไป ต้องเป็นการฟังอย่างตั้งใจ ฟังแล้วคิดตามถึงจะเรียกว่าเป็นการฟังที่เกิดประโยชน์
พึงระลึกไว้เสมอว่าการฟังไม่ใช่ความเงียบ แต่เป็นการให้ความสนใจกับสิ่งที่กำลังฟัง
นอกจากจะลึกซึ้งกับสิ่งที่ฟังมากขึ้นแล้ว ยังเป็นการเข้าถึงคนพูดได้มากขึ้นด้วย
ข้อดีและประโยชน์เยอะขนาดนี้ หันมาฝึกตัวเองให้พูดน้อยลงด้วยการฟังให้มากขึ้น
เพราะถ้ามัวแต่พูดก็หมดโอกาสที่จะฟัง อย่าลืมว่าการฟังสร้างความสำเร็จได้ดีกว่าการพูด
มาเปลี่ยนตัวเองให้พูดน้อยลงและฟังมากขึ้นกันดีกว่า
ครับ
#ขอให้ได้พิจารณาด้วยสติ ด้วยปัญญา ด้วยภูมิธรรม คุณพระรักษาเทวดาคุ้มครอง ขอให้มีความเจริญในธรรม ทุกท่าน ทุกคนครับ
ขอบคุณมากนะค่ะสาธุสาธุสาธุค่ะ❤❤❤❤❤❤เฮงๆๆๆรวยๆๆปังๆๆ
สาธุๆๆค่ะขอบคุณมากๆเจ้าค่ะ🎉🎉❤❤🎉🎉😊😊
กราบอนุโมทนาสาธุครับ
สาธุค่ะ
ขออนุโมทนาบุญด้วย สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ
สวัดดีค่ะ สาธุค่ะ🙏🏻🙏🏻🙏🏻🌷🌷🌷
🙏🙏🙏
🙏สวัสดีค่ะคุณอานนท์เล่าเรื่องและทีมงานนะค่ะ ขอขอบคุณและร่วมอนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ สาธุคะ🙏🧖🧡
อนุโมทานาสาธุๆๆในธรรมนะค่ะขอให้อยู่ดีมีสุขค่ะ
สวัสดีมีสุขทุกๆยามค่ะคุณอานนท์คิดดีทำดีแล้วใจ'เป็นสุขมากๆค่ะสาธุสาธุสาธุอนุโมทามิ
สาธุสาธุสาธุขออนุโมทนากับท่านด้วยเจ้าค่ะ
กราบสาธุสาธุสาธุครับคุณอานนท์❤❤❤❤❤❤