The Butterfly Effect เพราะชีวิตคือผลของสิ่งที่เราทำ | Show Time EP.49

Show Time EP.49 | The Butterfly Effect เพราะชีวิตคือผลของสิ่งที่เราทำ
เคยคิดกันบ้างไหมครับว่า ถ้าหากเราย้อนเวลาไปแก้ไขสิ่งที่เราเคยทำผิดพลาดหรือเสียใจเมื่อในอดีตได้ ตัวเราในปัจจุบันจะแตกต่างจากจุดที่เป็นเราทุกวันนี้มากน้อยขนาดไหน? ภาพยนตร์เรื่องนี้พยายามจะจำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ว่ามนุษย์สามารถฝืนดวงชะตาได้หรือไม่ ส่วนบทเรียนที่เราได้รับนั้นจะเป็นเช่นไร ลองมาสัมผัสประสบการณ์ไปพร้อมกันใน Showtime ตอนนี้เลยครับ
#MissionToPlutoPodcast​​​
#ShowTimePodcast​​​
ติดตาม Mission To Pluto Media ได้ที่
Website: bit.ly/3ehucCm​​​​​​
Facebook: bit.ly/3jQrJQu​​​​​​
Twitter: bit.ly/2TKNJC4​​​​​​
Blockdit: bit.ly/3kK16OB​​​​​​
TH-cam: bit.ly/35YVGcx​​​​​​
TikTok: bit.ly/3mFzZF1​​​​​​
SoundCloud: bit.ly/34M6B9S​​​​​​
Podbean: bit.ly/34VsrZd​​​​​​
Spotify: spoti.fi/3eju4CI​​​​​​
Apple Podcast: apple.co/2TMh3Im​

[@phakawanapornphisuthisuwan9389]

สำหรับเราหนังทำให้เกิดคำถามว่า 1.) ลำพังการกระทำของพระเอกคนเดียวที่เปลี่ยนไป(ซึ่งเกิดจากพระเอกไปยุ่งกับอดีต) จะส่งผลให้ผลที่ตามมา(สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน)เปลี่ยนไปจริงรึเปล่านะ? หรือจริงๆแล้วมีตัวแปรอื่นๆส่งผลให้เกิดผลที่ตามมาในแต่ละtimelineกันแน่ 2.)สิ่งที่พระเอกเลือกทำเพราะคิดว่าเป็นทางที่เจ็บปวดน้อยที่สุดมันคือการคิดแทนนางเอก น้องชายนางเอกหรือเปล่า 3.)เราลองคิดต่อเล่นๆนะคะ แล้วถ้าเกิดว่าสิ่งที่พระเอกทำในการย้อนเวลาครั้งสุดท้ายที่ไปบอกเกลียดนางเอกและไปขู่ให้กลัว มันไปสร้างปมปัญหาใหม่ทางจิตวิทยาให้เกิดกับนางเอกล่ะ สมองมนุษย์เหมือนหน่วยความจำของคอมพิวเตอร์ความทรงจำจึงเป็นข้อมูลที่เขียนทับลงไปบนพื้นที่จนกว่าจะเต็มแล้วก็ไม่สามารถเพิ่มข้อมูลลงไปได้อีก สิ่งที่น่าสนใจคือ ถ้าเหตุการณ์นั้นรวมทั้งความรู้สึกกลัว เสียใจ งุนงงสับสนที่อยู่ดีๆก็โดนเด็กผู้ชายที่ตัวเองชอบบอกว่าเกลียดกับโดนขู่ฆ่าแบบไม่มีเหตุผล(สมมติว่าตีความเป็นรูปแบบนึงของพฤติกรรมก้าวร้าวของผู้ชายละกัน)มันถูกเก็บไว้ในจิตใต้สำนึกของนางเอก แล้วถ้าวันนึงมีสิ่งเร้ามากระตุ้น เช่น ไปเจอพฤติกรรมแบบเดียวกันจากคนรักรึผู้ชายที่ตัวเองชอบ ความรู้สึกแบบเดียวกับในวัยเด็กมันจะกลับมาเลยนะคะ แล้วมันจะเป็นปัญหาในเรื่องความสัมพันธ์กับเพศตรงข้ามในระยะยาวด้วย
ป.ล. ขอให้คุณแม่คุณกู้หายป่วยเร็วๆและมีสุขภาพแข็งแรงนะคะ จะรอฟังpodcastต่อๆไปค่ะ^^

[@kimyu97]

เป็นหนังเรื่องโปรดของเราเลยค่ะ ดูหลายรอบก็ยังรูสึกกับมันอยู่ โดยเฉพาะประโยคที่พระเอกพูดว่า "เธอเคยมีความสุข"

[@supachaidechjarukul5900]

เป็น1ในหนังที่ผมชอบตอนจบมากที่สุด

[@linkinparkctm]

เพลงขึ้นตอนจบคือร้องไห้เลย สงสารทั้งคู่

[@Milespj]

สนุกมากๆค่ะเรื่องนี้ แรกๆเนือยๆงงๆหน่อย แต่พอจับทางได้จะเริ่มสนุก แล้วจะไม่อยากพลาดเนื้อเรื่องของมันเลยแม้แต่นิดเดียว

[@pn9302]

ชอบนะคะ พระเอกเล่นซะคุ้มเลย5555

[@gooddream238]

เคยดูหลายปีละ พอพูดชื่อเรื่องมาก็จำไม่ค่อยได้ แต่จำได้อยู่อย่างขึ้นใจก็คือ ที่แอดบอกว่าถ้าเราไปยุ่งกับอดีต ย่อมมีผลกระทบตามมาเสมอ

[@radraweep.1491]

ควรดูแค่ภาค 1 พอค่ะ ภาค 2 และ 3 ออกทะเลไปหน่อย ส่วนตัวคิดว่าภาค 1 สมบูรณ์แบบที่สุดแล้วค่ะ

[@Coolerist]

ได้ยินมาแบบนั้นเหมือนกันครับ 555

[@aoyaoy9655]

🥰🥰

[@minimimota]

อยากรีเควสเรื่อง eternal sunshine of the spotless mind ค่ะ เรื่องโปรดตลอดกาล🥺🥺

[@Coolerist]

จะรีบจัดให้นะครับ ^^

[@linkinparkctm]

เรื่องนี้ดูแล้วดูอีก พระเอกก็คิดจะแก่ลงเลย

[@6Noxnox9]

มันมีภาค​2​ด้วยแต่ไม่สนุกเลย

[@Indy6702]

หนังดี แต่อย่าไปดูภาค 2 นะครับ 🤣

[@Coolerist]

มีแต่คนเตือนให้หนีไป 555

[@namao1986]

อย่ายุ่งนะ ไม่งั้นฉันจะไปปาดคอแม่แกตอนหลับ

[@takdanaikreawareewong7233]

ส่วนตัวไม่เคยดู แต่ชั้นรู้ว่าเธออยู่แถวนี้ ปรากฎตัวออกมานะ ชั้นอยากจะฟังความคิดเห็นของเธอ!!

[@moonlightsonata1483]

Find my comment if you can :)มาเม้นแล้วไง หาให้เจอนะ 555

[@takdanaikreawareewong7233]

@@moonlightsonata1483 มาแล้วเหรอแม่ตัวดี! จงบรรยายความรู้สึกที่มีต่อหนังเรื่อง 10 คะแนน

[@moonlightsonata1483]

@@takdanaikreawareewong7233 บรรยายไปแล้วไงคะ ยาวอ่ะ
-----------------------------------
สำหรับเราหนังทำให้เกิดคำถามว่า 1.) ลำพังการกระทำของพระเอกคนเดียวที่เปลี่ยนไป(ซึ่งเกิดจากพระเอกไปยุ่งกับอดีต) จะส่งผลให้ผลที่ตามมา(สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน)เปลี่ยนไปจริงรึเปล่านะ? หรือจริงๆแล้วมีตัวแปรอื่นๆส่งผลให้เกิดผลที่ตามมาในแต่ละtimelineกันแน่ 2.)สิ่งที่พระเอกเลือกทำเพราะคิดว่าเป็นทางที่เจ็บปวดน้อยที่สุดมันคือการคิดแทนนางเอก น้องชายนางเอกหรือเปล่า 3.)เราลองคิดต่อเล่นๆนะคะ แล้วถ้าเกิดว่าสิ่งที่พระเอกทำในการย้อนเวลาครั้งสุดท้ายที่ไปบอกเกลียดนางเอกและไปขู่ให้กลัว มันไปสร้างปมปัญหาใหม่ทางจิตวิทยาให้เกิดกับนางเอกล่ะ สมองมนุษย์เหมือนหน่วยความจำของคอมพิวเตอร์ความทรงจำจึงเป็นข้อมูลที่เขียนทับลงไปบนพื้นที่จนกว่าจะเต็มแล้วก็ไม่สามารถเพิ่มข้อมูลลงไปได้อีก สิ่งที่น่าสนใจคือ ถ้าเหตุการณ์นั้นรวมทั้งความรู้สึกกลัว เสียใจ งุนงงสับสนที่อยู่ดีๆก็โดนเด็กผู้ชายที่ตัวเองชอบบอกว่าเกลียดกับโดนขู่ฆ่าแบบไม่มีเหตุผล(สมมติว่าตีความเป็นรูปแบบนึงของพฤติกรรมก้าวร้าวของผู้ชายละกัน)มันถูกเก็บไว้ในจิตใต้สำนึกของนางเอก แล้วถ้าวันนึงมีสิ่งเร้ามากระตุ้น เช่น ไปเจอพฤติกรรมแบบเดียวกันจากคนรักรึผู้ชายที่ตัวเองชอบ ความรู้สึกแบบเดียวกับในวัยเด็กมันจะกลับมาเลยนะคะ แล้วมันจะเป็นปัญหาในเรื่องความสัมพันธ์กับเพศตรงข้ามในระยะยาวด้วย

[@moonlightsonata1483]

@@takdanaikreawareewong7233 คิดยังไงกับ 3 ข้อที่ว่า จงแสดงความคิดเห็นมา 10คะแนน555

[@takdanaikreawareewong7233]

@@moonlightsonata1483 ชั้นอ่านแล้วคิดว่า
.
.
.
.
.
.
.
.
ชั้นหลับฝันดีแน่คืนนี้ เพราะฉะนั้นชั้นจะหลับสัก 1 ตื่นแล้วมาลงรายละเอียดให้ฟังอีกที
3/10