ฎีกา InTrend EP.12 “ก๊อป” ภาพคนอื่นมาใส่เว็บสินค้าตัวเองจะผิดหรือไม่

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 5 ต.ค. 2024
  • ฎีกา InTrend ep.12 “ก๊อป” ภาพคนอื่นมาใส่เว็บสินค้าตัวเองจะผิดหรือไม่
    The Host : กองสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ สำนักงานศาลยุติธรรม
    Guest Host : สรวิศ ลิมปรังษี
    ที่ปรึกษา : สรวิศ ลิมปรังษี, สุริยัณห์ หงษ์วิไล, จีรวรรณ เจริญยศ
    Show Creator : นันทวัลย์ นุชนนทรี, ศณิฏา จารุภุมมิก
    Episode Producer & Editor : ศณิฏา จารุภุมมิก, ปนัสยา ชื่นอุระ
    Sound Designer & Engineer : กฤตภาส ทองแจ้ง, กิติชัย โล่สุวรรณ
    Coordinator & Admin : สุภาวัชร์ ดลมินทร์, โสรัตน์ ไวศยดำรง
    Art Director : สุภาวัชร์ ดลมินทร์, ปันจารีณ์ สุวรรณโภชน์ ทศพร ศิลาบำเพ็ญ
    Webmaster : ผุสชา เรืองกูล, วชิระ โรจน์สุธีวัฒน์
    ในการทำธุรกิจผ่านระบบออนไลน์ทุกวันนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของหลาย ๆ คน เพราะเป็นวิธีการที่ทุกคนมีช่องทางเข้าถึงได้โดยไม่ต้องเสียเงินเสียทอง ถือเป็นช่องทางทำมาหากินที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ วิธีการสร้างสีสันให้กับสื่อออนไลน์ที่ปรากฏแทบทุกครั้งคือการอาศัยภาพ ทั้งภาพนิ่งหรือเคลื่อนไหวเป็นวิดีโอมาประกอบทำให้สินค้าที่เสนอขายดูดีและน่าสนใจขึ้น พ่อค้าแม่ค้าที่ต้องการสร้างสีสันแบบนี้บางคนจึงเอาสะดวกเข้าว่าไป “ก๊อปปี้” หรือทำสำเนาภาพถ่ายที่คนอื่นทำขึ้นแล้วเอามาใช้กับสินค้าของตัวเอง ตอนนี้จึงจะนำปัญหาของการกระทำแบบนี้มาพูดคุยกันว่าถ้าทำแบบนี้เข้าจะเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายอะไรบ้างหรือไม่ หรืออาจจะเกิดความรับผิดทางกฎหมายแบบใดบ้าง
    นางสวยทำสินค้าเป็นผลิตภัณฑ์ครีมถนอมผิวที่โฆษณาบรรยายสรรพคุณว่าจะทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ดูอ่อนกว่าวัย ยิ่งใช้ผิวพรรณจะลดริ้วรอยที่เกิดตามวัยให้น้อยลง นางสวยใช้การโฆษณาขายสินค้าของตนผ่านสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ วันหนึ่ง นางสวยไปเห็นภาพโฆษณาของสินค้าของนางเกษที่เป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผิวพรรณเช่นกัน นางเกษได้ถ่ายภาพของบุคคลที่อ้างว่าเป็นลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของตนรายหนึ่งก่อนและหลังใช้สินค้าของนางเกษเพื่อแสดงให้เห็นความเปลี่ยนแปลงว่าเมื่อใช้สินค้าของนางเกษแล้วจะทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งดูอ่อนกว่าวัยขึ้น และริ้วรอยบนใบหน้าจะค่อย ๆ หายไป นางสวยจึง “ก๊อปปี้” ภาพดังกล่าวจากเว็บไซต์ของนางเกษแล้วนำไปใส่ไว้ในเว็บไซต์ของตนเพื่อแสดงว่าหากใช้ผลิตภัณฑ์ของนางสวยแล้วจะได้ผลอย่างที่ปรากฏในภาพนั้น นางเกษมาพบเห็นเข้าจึงฟ้องดำเนินคดีกับนางสวย
    ปัญหาประการแรกคงเป็นเรื่องของ “ภาพถ่าย” ที่ไป “ก๊อปปี้” นี้จะเกี่ยวข้องกับกฎหมายเรื่อง “ลิขสิทธิ์” เพราะเป็นงานลักษณะหนึ่งที่กฎหมายลิขสิทธิ์ให้ความคุ้มครองไว้ด้วย ในแง่หนึ่งอาจจะมองว่าการถ่ายภาพใบหน้าคนสองภาพแล้วนำมาประกอบเข้าด้วยกันให้เห็นความแตกต่าง ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการสร้างสรรค์อะไรที่จะต้องไปคุ้มครอง ไม่เหมือนกับการแต่งนิยายที่มีการผูกเรื่องราวให้น่าสนใจและชวนติดตาม
    ในเรื่องนี้อาจจะทำความเข้าใจได้ไม่ยากว่า ความคุ้มครองของกฎหมายนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ “คุณค่าทางศิลปะ” ของภาพถ่ายนั้นว่าจะมีความสวยงาม ดูแล้วน่าชื่นชมมากน้อยเพียงใด เหตุผลประการหนึ่งคงเป็นเพราะว่าคุณค่าทางศิลปะและความสวยงามนั้นมักเป็นเรื่องของความรู้สึกคนที่แตกต่างกันออกไป ภาพที่คนหนึ่งมองว่าสวย อีกคนอาจบอกว่าดูแล้วไม่เห็นจะมีอะไรก็ได้
    ในอีกแง่หนึ่ง แม้การถ่ายภาพที่ทุกวันนี้แทบทุกคนมี “กล้อง” พกพาติดตัว เพราะโทรศัพท์เคลื่อนที่ส่วนใหญ่ก็มักมีกล้องมาให้ด้วยจะดูเหมือนไม่ต้องใช้จิตนาการหรือความสามารถทางศิลปะของคนถ่ายสักเท่าใด แต่ทุกครั้งที่เราหยิบกล้องมาถ่าย อย่างน้อยเราก็ต้องตัดสินใจเลือกมุมกล้องว่าจะถ่ายจากมุมใดภาพจึงจะออกมาตามที่ต้องการ จะมากจะน้อยการถ่ายภาพจึงมีการใช้กำลังความสามารถของเราไปทำให้เกิดภาพถ่ายนั้นขึ้นมา แม้อาจจะไม่มากนัก แต่ก็เป็นไปตามลักษณะของการถ่ายภาพที่การทำเพียงแค่นั้นก็ทำให้เกิดภาพถ่ายได้แล้ว ทำให้ “ภาพถ่าย” ที่ไม่ว่าจะสวยงามหรือไม่ก็ตามก็เป็นสิ่งที่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายลิขสิทธิ์ด้วยอย่างหนึ่ง
    เมื่อนางสวยไป “ก๊อปปี้” ภาพถ่ายของนางเกษมา นางสวยจึงได้ละเมิดลิขสิทธิ์ของนางเกษแล้ว ซึ่งอาจเกิดความรับผิดทั้งทางแพ่งและทางอาญาได้
    ปัญหาเรื่องนี้ยังมีอีกแง่มุมคือ การที่นางสวยนำภาพของนางเกษไปประกอบในเว็บไซต์ในลักษณะที่จะสื่อทำนองว่าหากใช้ผลิตภัณฑ์ของนางสวยแล้วจะได้ผลตามที่ปรากฏในภาพนั้น ทั้ง ๆ ที่ความจริงลูกค้าที่ปรากฏในภาพเป็นลูกค้าของนางเกษและการที่ได้ผลผิวพรรณเปล่งปลั่งเป็นเพราะการใช้สินค้าของนางเกษ ไม่ได้เกิดจากการใช้สินค้าของนางสวยอย่างที่นางสวยพยายามโฆษณา
    ตามกฎหมายว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ได้กำหนดไว้กรณีหนึ่งว่า การนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมหรือเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ถือเป็นความผิดอาญาข้อหาหนึ่งด้วย
    การที่นางสวยนำภาพของนางเกษไปประกอบในเว็บไซต์และใช้ประกอบกับสินค้าของตนเอง นางสวยต้องการจะสื่อว่าผลลัพธ์ตามภาพเป็นสิ่งที่จะเกิดจากการใช้สินค้าของตน ซึ่งเป็นความเท็จที่จะทำให้ประชาชนที่มาอ่านดูเว็บไซต์เข้าใจผิดไปว่าหากใช้สินค้าของนางสวยแล้วผิวพรรณตนเองจะดูเปล่งปลั่งเหมือนบุคคลที่ปรากฏในภาพถ่าย จึงทำให้การนำภาพถ่ายดังกล่าวไปใช้กับสินค้าของตนเองบนเว็บไซต์เป็นความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ด้วย
    การโฆษณาขายสินค้าบนโลกออนไลน์เป็นเรื่องที่สามารถทำได้อยู่แล้ว แต่การจะทำในลักษณะใดก็ต้องอยู่ในกรอบกติกาที่ควรจะเป็นด้วย การไปนำภาพถ่ายของคนอื่นมาใช้จึงนอกจากจะถือว่าเป็นการก๊อปปี้ที่ละเมิดลิขสิทธิ์แล้ว หากนำไปใช้เพื่อทำให้ประชาชนเข้าใจข้อมูลที่ผิดยังอาจเป็นความผิดตามกฎหมายเป็นอีกความผิดหนึ่งด้วย
    (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5422/2561)

ความคิดเห็น • 4