(คลิปเต็ม) เลิก "แบล็กลิสต์" ใช้ "เครดิตสกอริ่ง"? | ฟังหูไว้หู (17 ม.ค. 66)

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 16 ม.ค. 2023
  • ฟังหูไว้หู | 17 ม.ค. 66 On Air
    .
    เลิก "แบล็กลิสต์" ใช้ "เครดิตสกอริ่ง"?
    .
    ฟังหูไว้หู ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 21.00 น.
    ทางช่อง 9 MCOT HD หมายเลข 30

ความคิดเห็น • 215

  • @lekpornpoj
    @lekpornpoj ปีที่แล้ว +15

    การให้สินเชื่อเป็นเรื่องของธนาคารซึ่งส่วนใหญ่เป็นเอกชน ถ้าเครดิตลูกหนี้ไม่ดี จะไปบังคับให้ธนาคารปล่อยสินเชื่อได้อย่างไร เมื่อมีความเสี่ยงเพิ่ม แล้วถ้าลูกหนี้เบี้ยว จะทำยังไง

  • @khunmomsiri
    @khunmomsiri ปีที่แล้ว +20

    อาจารย์วีระเก่งมาก พูดอธิบายให้ชาวบ้านธรรมดาเข้าใจง่ายกว่าคุณอรรถวิทย์ นโยบายนี้ของพรรคกล้าฟังดูดีแต่จะทำได้ไหมนั่นอีกเรื่องเพราะคนไทย(อีกมากจำนวนนึง)ยังขาดวินัยและความรับผิดชอบทางการเงินเป็นนิสัย อีกอย่างไม่เห็นด้วยกับที่คุณอรรถวิทย์พูดว่าประเทศเราเป็นประเทศเดียวที่ยังใช้แต่เครดิตบูโรในการตัดสินใจของสถาบันการเงินในการออกสินเชื่อ ที่เยอรมันนีก็ยังใช้ระบบนี้ (ที่เยอรมันนีเขาใช้คำว่า Schufa) อย่างเข้มแข็งในการออกสินเชื่อ ใช่ค่ะที่เยอรมันนีก็ใช้ระบบการคำนวน Credit score ผ่านการชำระค่าน้ำค่าไฟค่าภาษีและประวัติต่างๆในการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตหรือแอพพลิเคชั่นทางการเงินแบบที่คุณอรรถวิทย์พูดเป๊ะเลย แต่ถ้าคุณติดแบล๊คลิสต์กับทาง Schufa มาก่อนหน้านี้แล้ว ต่อให้ปัจจุบันคุณจะมีประวัติการใช้จ่ายดีแค่ไหนก็อย่าหวังว่าธนาคารในเยอรมันนีจะปล่อยสินเชื่อ คืออันนี้เจอมากับตัวสามีเองที่เคยติดแบล๊คบิสต์และใช้หนี้ทั้งหมดจบไปแล้วเมื่อกว่าสิบปีก่อน สามียังต้องใช้ทนายในการยื่นขอต่อศาลเพื่อขอลบชื่อออกจากแบล๊คลิสต์ แล้วจึงสามารถกู้เงินได้อีกครั้งในการซื้อบ้าน คนเยอรมันกลัวการติดแบล๊คลิส์จากเครดิตบูโรมากๆ ส่วนตัวเองคิดว่ารัฐบาลเยอรมันเข้มงวดแบบนี้มันก็ช่วยให้คนของเขามีวินัยทางการเงินที่ดีมาก ที่เยอรมันนีสำหรับคนเยอรมันไม่มีสีเทาค่ะมีแต่ขาวกับดำ

    • @pawinsaiwiwat180
      @pawinsaiwiwat180 ปีที่แล้ว +9

      บริษัทเครดิตบูโร มี Credit Score มานานหลายปีแล้วค่ะ นโยบายนี้ มัน too late มากๆ
      ตอนแรกว่าจะโพสต์พรุ่งนี้ แต่อดใจไม่ได้ เพราะในคลิปมีการให้ข้อมูลผิดพลาดเต็มไปหมด
      เข้าประเด็นเลยละกันค่ะ
      1. Credit score ไม่ใช่เรื่องใหม่ และบริษัทเครดิตบูโร เค้ามีมานานแล้ว
      2. สถาบันการเงินไม่ได้ส่งข้อมูลการชำระหนี้และการเป็นหนี้ของลูกค้าที่มีการค้างชำระหนี้เท่านั้นค่ะ มันไม่มีระบบแบล็คลิสต์
      มันเป็นการส่งข้อมูล facts คุณจะจ่ายงวดตรงเวลาหรือจ่ายไม่ตรง สถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกบริษัทเครดิตบูโรตามกฏหมาย มีหน้าที่ต้องส่งข้อมูลให้บริษัทเครดิตบูโรตามกฏหมายค่ะ
      และการรายงานข้อมูล fact แบบนี้ ทำกันทั่วโลกค่ะ
      3. การเสนอว่า จะไม่ให้สถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกของบริษัทเครดิตบูโรตามกฏหมาย ได้รับข้อมูลพฤติกรรมการชำระหนี้ของลูกค้าเลย โดยจะให้สถาบันการเงินได้ไปแต่คะแนนที่คำนวณมาจากการคำนวณปนๆ หลายสิ่งอย่างเท่านั้น ... แล้วสถาบันการเงินทั้งหลายจะรู้ยอดหนี้คงค้างรวมทั้งหมดของคนขอกู้ภายในระบบการเงินไทยได้ยังไง จะเตรียมตัวรับมือได้ยังไงเมื่อลูกหนี้เริ่มไปค้างชำระที่สถาบันการเงินอื่น และตัวเองอาจจะกลายเป็นรายต่อไปที่ไม่ได้เงิน
      .. ถ้าแก้ กฏหมาย เป็นแบบที่เสนอตามนโยบายนี้จริง สิ่งที่จะเกิดตามมา คือ คนจะไปขอกู้หลายสถาบันซ้อนๆ กันเยอะขึ้น เพราะแต่ละสถาบันไม่รู้ภาระหนี้ที่มีอยู่ของลูกค้ารายนี้ สถาบันการเงินก็จะไม่กล้าปล่อยเพราะไม่รู้ว่าคนที่มาขอกู้ไปค้างหนี้ที่อื่นไว้เท่าไหร่
      สิ่งที่เสนอปรับแก้กฏหมายมานั้น จะทำให้เกิดปัญหาทางเศรษฐศาสตร์ที่เรียกว่า asymmetric information ค่ะ โดยหลักแล้ว asymmetric information จะก่อให้เกิด market failure หรือความล้มเหลวของตลาดค่ะ
      4. ทุกสถาบันการเงิน เค้ามี credit scoring model ของตัวเค้าเองมากันหลาย 10 ปีแล้วค่ะ
      📌
      ก่อนเสนออะไรแบบนี้ ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า credit scoring modelling มี 2 แบบค่ะ
      1. แบบที่ใช้ข้อมูลการชำระหนี้และการเป็นหนี้ในอดีตเพื่อบอกถึงพฤติกรรมเสี่ยง เพราะมีสมมติฐานว่าถ้าคนๆ นึงมีพฤติกรรมอย่างไรในอดีต ก็มีโอกาสมีพฤติแบบเดียวกันในอนาคต
      อันนี้คือแบบที่ บริษัทเครดิตบูโรคำนวณอยู่ และสถาบันการเงินทั้งหลายก็สามารถซื้อข้อมูล credit score นี้ได้
      score แบบนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลพฤติกรรมบนกิจกรรมชีวิตอื่นของคนหรือธุรกิจนั้น เช่น น้ำไฟ รายได้ อะไรอื่นมาประกอบ ... เพราะเป็นการใช้ข้อมูลเครดิตของแต่ละคนที่มีสินเชื่อหรือบัตรเครดิตที่มีอยู่ทั้งหมดในระบบการเงินไทยในการคำนวณ เรียกว่ามี full credit information
      2. แบบที่ใช้ข้อมูลพฤติกรรมการชำระหนี้และยอดหนี้ รวมถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น รายได้ transaction อื่นๆ มาประกอบเพื่อทำนายโอกาสผิดนัดชำระหนี้จากความสามารถในการชำระหนี้ อันนี้เป็นการทำ credit scoring/rating ขององค์กรใดองค์กรหนึ่งที่ไม่ได้มีฐานข้อมูลระดับชาติ
      ... ที่ต้องใช้ข้อมูลปัจจัยอื่น ก็เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำนาย ไม่ใช่เพื่อเป็นการปรับให้ credit score ดูบวก หรือดูดีขึ้น
      นั่นเพราะว่าไม่ได้มีข้อมูลหนี้และการชำระหนี้ของคนๆ นั้นที่มีอยู่ในระบบการเงินไทยทั้งหมด มันยังมีอะไรที่ต้องทาย ต้องเดา ก็เอาปัจจัยอื่นมาช่วยทาย ช่วยเดา
      และในปัจจุบัน credit score ของบริษัทเครดิตบูโร เค้าก็ไม่ได้ใช้แค่ข้อมูลหนี้และการชำระหนี้นะคะ เค้าใช้ข้อมูลประเภทอื่นด้วยเพื่อประเมินความเสี่ยงของธุรกิจ ... เพราะฉะนั้นที่เสนอปรับแก้มาในคลิป มันช้าไปแล้วค่ะ เค้าทำกันไปหมดแล้ว
      และเรื่องแบล็คลิสต์เพียงเพราะผิดนัดชำระหนี้ครั้งเดียว มันไม่น่าจะเป็นเกณฑ์ที่เกี่ยวอะไรกับเครดิตบูโรค่ะ ไม่งั้นสถาบันการเงินทั้งหลายคงไม่เหลือคนให้ปล่อยกู้ได้แล้วค่ะ
      โดยทั่วไป การจะปล่อยสินเชื่อให้คนที่เคยมีหนี้ค้างชำระหรือไม่ มันขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการความเสี่ยงและการกำหนดระดับความเสี่ยงที่รับได้ของเหล่าสถาบันการเงินทั่วโลก ... เค้าเรียกว่า risk management ค่ะ ใครอื่นจะออกกฏบังคับให้ปล่อยหรือไม่ปล่อยสินเชื่อกลุ่มเสี่ยงได้คะ
      ก่อนเสนอ ควรศึกษาข้อมูลเชิงลึก หรือมีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องในปัจจุบัน เพื่อให้รู้สิ่งที่เป็นไปในปัจจุบัน เพื่อจะได้นำเสนอการเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคต ไม่ใช่เพื่ออดีตที่ผ่านมาแล้ว
      #เศรษฐศาสตร์วันละนิด
      ที่มาของรูปและประเด็นในโพสต์นี้
      th-cam.com/video/URBUR0nrpgc/w-d-xo.html
      facebook.com/100051922635891/posts/pfbid0GNgEMZxqHoFFh4j7ddeHdz2eDJMVJj143gUNsehWicFrL5CQKsnNLUxk8UruWQWnl/?mibextid=UUgoR4

    • @pataivasupanrajit3815
      @pataivasupanrajit3815 ปีที่แล้ว

      @@pawinsaiwiwat180 รูปเคารพ ที่กำหนดตัวอักษรบนกระดาษฯ /กติกาโลกเขียนไว้ โดยมนุษย์เพื่อมนุษย์...สากลปฏิบัติ เสมือนต้องกราบไหว้บูชา ด้วยกฏนี้/ จะรู้มากกว่านี้ไม่มีกฏฯไหนโดยมนุษย์ ที่ตรงข้อเท็จจริง-ระหว่างกับความจริงที่จะแยก 5.5 ล้าน ความเหมือนความต่างได้... ก็หมุนๆเหมาๆ ตามโลกไป!!!

  • @sittiphoomthaweekarn5899
    @sittiphoomthaweekarn5899 ปีที่แล้ว +9

    อาจารย์วีระ รู้เรื่อง บูโร มากกว่า อรรถวิท อรรถวิท จับเพะชนแกะ ระบบมันก็ถูกต้องแล้วรายงานก็ตามจริง จ่ายช้าก็คือช้า ก็ต้องมีในระบบ เพื่อให้คนให้กู้ตัดสินใจ
    แบบใหม่ใช้เครดิตรสกอริ่งกู้ 5 อย่าง ถึงมีจ่ายดีมากกว่า 4 อย่าง จ่ายไม่ดี 1 อย่าง ต่อให้เงินเดือนเป็นแสน Bank ก็ไม่สนใจหรอก ก็ดูแต่ที่จ่ายไม่ดี 1 อย่างนั่นแหละ ... มันก็ไม่ปล่อยอยูดี
    เอาค่าไฟ ค่าน้ำ มาเวทน้ำหนักด้วย ได้อย่างไร มีใครที่ไม่จ่ายบ้าง เพราะมันต้องใช้งานทุกวัน ยิ่งบอกว่าเอาประวัตร เป๋าตังค์ Sopee , Lazada มาคิดด้วย ปญอ สุด ซื้อของพวกนี้ ไม่จ่ายเงิน เขาก็ไม่ส่งให้ ก็สรุปว่าจ่ายทุกคน ... ให้ดูข้อมูลพวกนี้ได้ แต่ไม่ให้คนให้กู้เห็นข้อมูลการชำระเงิน งง ไหม

    • @user-dm4tm9xy5n
      @user-dm4tm9xy5n ปีที่แล้ว +2

      มีคนเข้าใจอาจารย์แล้ว ..

    • @GGcxvw558
      @GGcxvw558 ปีที่แล้ว

      นี้แหละถูก พวกน้ำไฟจะมีน้ำหนักแค่ไหนเชียว สั่งของ เพื่อ? เขาคงจะส่งอะเนาะ มันใช้เป็นคะแนนไม่ได้
      จ่ายช้า แถมค้างมานาน bank เขาก็จะจ้องตัวนั้นแหละว่าทำไม มันคืออาการคนชักหน้าไม่ถึงหลัง

  • @eddyeddy9802
    @eddyeddy9802 ปีที่แล้ว +27

    คุณหลบแบลคลิสต์ มันจะไม่กระทบแค่คนปล่อยสินเชื่อจะรับความเสี่ยงที่มากขึ้นนะครับ แต่คนที่ไม่มีประวัติการผ่อนมาก่อนจะถือเป็นกลุ่มเสี่ยงหมดเลย ทำให้การกู้ทั้งระบบยากขึ้น เพราะเขาจะเลือกปล่อยกู้เฉพาะคนมีประวัติผ่อนดีเท่านั้น หรือถ้าจะปล่อยกู้ให้คนไม่เคยมีประวัติมาก่อน จะให้วงเงินที่น้อยลงมากๆ

  • @winaiassawatham7816
    @winaiassawatham7816 ปีที่แล้ว +14

    ก่อนอื่นของชมเชยรายการที่เอานโยบายที่พรรคการเมืองหาเสียงมาถกเถียงให้ชัดเจน ไม่ให้ฝ่ายการเมืองพูดแต่เรื่องดีเท่านั้น เรื่องระบบบูโร ถ้าทำให้เกิดภาระความรับผิดชอบต่อองค์กรที่ต้องส่งข้อมูล โดยไม่มีประโยชน์อันใดด้วย องค์กรไหนๆ ก็คงไม่อยากเข้าร่วมเพราะเป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายและความรับผิดชอบ การที่นำส่งไม่ครบความจริงแล้วเป็นผลดีมีทั้งผลดีและไม่ดี แล้วแต่กรณีเป็นราย ๆ ไป แต่การจะเอาการใช้จ่ายจำเป็นค่าน้ำค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ไปร่วมด้วยเป็นเรื่องสร้างความยุ่งยากซับซ้อนเข้าไปอีก เพราะบางครั้งคนก็จ่ายค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ ล่าช้าแต่ไม่ได้มีปัญหาในการหามาชำระ แต่ติดขัดว่าไม่ได้จ่ายผ่านออนไลน์หรือแอฟต่าง ๆ การใช้ฐานข้อมูลเรื่องเงินกู้ยืมผมคิดเพียงพอแล้ว การปล่อยให้เข้าถึงสินเชื่อสำหรับซื้อสินค้าบริการง่ายเกินไป ผลดีมีแต่ผู้ขาย แต่ในแง่ระบบเงินจะสร้างปัญหามากกว่า เพราะผู้ขายทำการตลาดมุ่งเน้นขาย แต่ถ้าผู้ซื้อเข้าถึงสินเชื่อง่ายเกินไป ก็จะเกิดการใช้จ่ายแบบไม่มีความรอบคอบ แค่ปัจจุบันนี้ สินค้าที่มีมูลค่าให้ไม่มีต้องมีชำระเงินเดือนดาวน์ ก็เกิดหนี้เสียมากมายแล้ว เพราะบางคนไม่สนใจกำลังซื้อของตัวเองอยากได้ของมาก่อน บางครั้งยังมีการตลาดแถมทอง ให้สินเชื่อเกินมูลค่าสินค้าเพื่อจูงใจให้ซื้อ พอมีหนี้เน่าคนที่เป็นหนี้ดีก็จะกระทบเพราะสุดท้าย ธนาคารก็จะปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อชดเชยหนี้เสีย จากทรัพย์สินที่ยึดคืนมาแล้วขายทอดตลาดไม่ครอบคลุมหนี้

    • @pawinsaiwiwat180
      @pawinsaiwiwat180 ปีที่แล้ว +3

      บริษัทเครดิตบูโร มี Credit Score มานานหลายปีแล้วค่ะ นโยบายนี้ มัน too late มากๆ
      ตอนแรกว่าจะโพสต์พรุ่งนี้ แต่อดใจไม่ได้ เพราะในคลิปมีการให้ข้อมูลผิดพลาดเต็มไปหมด
      เข้าประเด็นเลยละกันค่ะ
      1. Credit score ไม่ใช่เรื่องใหม่ และบริษัทเครดิตบูโร เค้ามีมานานแล้ว
      2. สถาบันการเงินไม่ได้ส่งข้อมูลการชำระหนี้และการเป็นหนี้ของลูกค้าที่มีการค้างชำระหนี้เท่านั้นค่ะ มันไม่มีระบบแบล็คลิสต์
      มันเป็นการส่งข้อมูล facts คุณจะจ่ายงวดตรงเวลาหรือจ่ายไม่ตรง สถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกบริษัทเครดิตบูโรตามกฏหมาย มีหน้าที่ต้องส่งข้อมูลให้บริษัทเครดิตบูโรตามกฏหมายค่ะ
      และการรายงานข้อมูล fact แบบนี้ ทำกันทั่วโลกค่ะ
      3. การเสนอว่า จะไม่ให้สถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกของบริษัทเครดิตบูโรตามกฏหมาย ได้รับข้อมูลพฤติกรรมการชำระหนี้ของลูกค้าเลย โดยจะให้สถาบันการเงินได้ไปแต่คะแนนที่คำนวณมาจากการคำนวณปนๆ หลายสิ่งอย่างเท่านั้น ... แล้วสถาบันการเงินทั้งหลายจะรู้ยอดหนี้คงค้างรวมทั้งหมดของคนขอกู้ภายในระบบการเงินไทยได้ยังไง จะเตรียมตัวรับมือได้ยังไงเมื่อลูกหนี้เริ่มไปค้างชำระที่สถาบันการเงินอื่น และตัวเองอาจจะกลายเป็นรายต่อไปที่ไม่ได้เงิน
      .. ถ้าแก้ กฏหมาย เป็นแบบที่เสนอตามนโยบายนี้จริง สิ่งที่จะเกิดตามมา คือ คนจะไปขอกู้หลายสถาบันซ้อนๆ กันเยอะขึ้น เพราะแต่ละสถาบันไม่รู้ภาระหนี้ที่มีอยู่ของลูกค้ารายนี้ สถาบันการเงินก็จะไม่กล้าปล่อยเพราะไม่รู้ว่าคนที่มาขอกู้ไปค้างหนี้ที่อื่นไว้เท่าไหร่
      สิ่งที่เสนอปรับแก้กฏหมายมานั้น จะทำให้เกิดปัญหาทางเศรษฐศาสตร์ที่เรียกว่า asymmetric information ค่ะ โดยหลักแล้ว asymmetric information จะก่อให้เกิด market failure หรือความล้มเหลวของตลาดค่ะ
      4. ทุกสถาบันการเงิน เค้ามี credit scoring model ของตัวเค้าเองมากันหลาย 10 ปีแล้วค่ะ
      📌
      ก่อนเสนออะไรแบบนี้ ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า credit scoring modelling มี 2 แบบค่ะ
      1. แบบที่ใช้ข้อมูลการชำระหนี้และการเป็นหนี้ในอดีตเพื่อบอกถึงพฤติกรรมเสี่ยง เพราะมีสมมติฐานว่าถ้าคนๆ นึงมีพฤติกรรมอย่างไรในอดีต ก็มีโอกาสมีพฤติแบบเดียวกันในอนาคต
      อันนี้คือแบบที่ บริษัทเครดิตบูโรคำนวณอยู่ และสถาบันการเงินทั้งหลายก็สามารถซื้อข้อมูล credit score นี้ได้
      score แบบนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลพฤติกรรมบนกิจกรรมชีวิตอื่นของคนหรือธุรกิจนั้น เช่น น้ำไฟ รายได้ อะไรอื่นมาประกอบ ... เพราะเป็นการใช้ข้อมูลเครดิตของแต่ละคนที่มีสินเชื่อหรือบัตรเครดิตที่มีอยู่ทั้งหมดในระบบการเงินไทยในการคำนวณ เรียกว่ามี full credit information
      2. แบบที่ใช้ข้อมูลพฤติกรรมการชำระหนี้และยอดหนี้ รวมถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น รายได้ transaction อื่นๆ มาประกอบเพื่อทำนายโอกาสผิดนัดชำระหนี้จากความสามารถในการชำระหนี้ อันนี้เป็นการทำ credit scoring/rating ขององค์กรใดองค์กรหนึ่งที่ไม่ได้มีฐานข้อมูลระดับชาติ
      ... ที่ต้องใช้ข้อมูลปัจจัยอื่น ก็เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำนาย ไม่ใช่เพื่อเป็นการปรับให้ credit score ดูบวก หรือดูดีขึ้น
      นั่นเพราะว่าไม่ได้มีข้อมูลหนี้และการชำระหนี้ของคนๆ นั้นที่มีอยู่ในระบบการเงินไทยทั้งหมด มันยังมีอะไรที่ต้องทาย ต้องเดา ก็เอาปัจจัยอื่นมาช่วยทาย ช่วยเดา
      และในปัจจุบัน credit score ของบริษัทเครดิตบูโร เค้าก็ไม่ได้ใช้แค่ข้อมูลหนี้และการชำระหนี้นะคะ เค้าใช้ข้อมูลประเภทอื่นด้วยเพื่อประเมินความเสี่ยงของธุรกิจ ... เพราะฉะนั้นที่เสนอปรับแก้มาในคลิป มันช้าไปแล้วค่ะ เค้าทำกันไปหมดแล้ว
      และเรื่องแบล็คลิสต์เพียงเพราะผิดนัดชำระหนี้ครั้งเดียว มันไม่น่าจะเป็นเกณฑ์ที่เกี่ยวอะไรกับเครดิตบูโรค่ะ ไม่งั้นสถาบันการเงินทั้งหลายคงไม่เหลือคนให้ปล่อยกู้ได้แล้วค่ะ
      โดยทั่วไป การจะปล่อยสินเชื่อให้คนที่เคยมีหนี้ค้างชำระหรือไม่ มันขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการความเสี่ยงและการกำหนดระดับความเสี่ยงที่รับได้ของเหล่าสถาบันการเงินทั่วโลก ... เค้าเรียกว่า risk management ค่ะ ใครอื่นจะออกกฏบังคับให้ปล่อยหรือไม่ปล่อยสินเชื่อกลุ่มเสี่ยงได้คะ
      ก่อนเสนอ ควรศึกษาข้อมูลเชิงลึก หรือมีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องในปัจจุบัน เพื่อให้รู้สิ่งที่เป็นไปในปัจจุบัน เพื่อจะได้นำเสนอการเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคต ไม่ใช่เพื่ออดีตที่ผ่านมาแล้ว
      #เศรษฐศาสตร์วันละนิด
      ที่มาของรูปและประเด็นในโพสต์นี้
      th-cam.com/video/URBUR0nrpgc/w-d-xo.html
      facebook.com/100051922635891/posts/pfbid0GNgEMZxqHoFFh4j7ddeHdz2eDJMVJj143gUNsehWicFrL5CQKsnNLUxk8UruWQWnl/?mibextid=UUgoR4

  • @anusorn7
    @anusorn7 ปีที่แล้ว +9

    พิธีกรชาย ชอบพูดสวน ตอนเขากำลังอธิบาย เสียอารมณ์

    • @nawusayipsunam1643
      @nawusayipsunam1643 ปีที่แล้ว +1

      พิธีกรชายมารยาทไม่ดี ชอบขัดทั้งๆที่สาระไม่มาก น่าจะปล่อยให้แขกพูดให้จบก่อนครับ

  • @nithiket2448
    @nithiket2448 ปีที่แล้ว +6

    ถ้ายกเลิกได้ ก็จะดีครับ ถ้าทำได้จริง ทำจริงนะครับ เพราะเหมือนปิดกันคนที่เคยติด แล้วปัจจุบัน การเงินเขาดีขึ้นมาแล้ว แต่มันยังติด อยู่ในระบบครับ

  • @pairatyimwilai4411
    @pairatyimwilai4411 ปีที่แล้ว +5

    หัวข้อวันนี้ เวลาน้อยไปครับ เราเลยเห็นอ.วีระจี้ ตัด (แบบคนรู้แล้ว) มากไปหน่อย ย้ำว่าเพราะเวลามีแค่นี้ เรื่องที่เราควรรู้เพิ่มเติมไปด้วยในมุมมองผม คือ ข้อมูลด้านอื่นที่เอามาใช้ จะเอามาอย่างไร แล้วตัวอย่างการประมวลผล ตัวอย่างการคำนวณสกอร์ จากข้อมูลประวัติการชำระหนี้ การจ่ายค่าไฟ การซื้อของออนไลน์ พวกนี้แปลงมาเป็นสกอร์อย่างไร ถ้าได้เห็นตัวอย่างสักนิดจะดีมาก

  • @akaradatea9394
    @akaradatea9394 ปีที่แล้ว +11

    อาจารย์ วีระ เก่งมากครับ ฟังบุบเข้าใจปับแล้ว อธิบายเจ้าใจง่าย ขอบคุณครับ

    • @pawinsaiwiwat180
      @pawinsaiwiwat180 ปีที่แล้ว

      บริษัทเครดิตบูโร มี Credit Score มานานหลายปีแล้วค่ะ นโยบายนี้ มัน too late มากๆ
      ตอนแรกว่าจะโพสต์พรุ่งนี้ แต่อดใจไม่ได้ เพราะในคลิปมีการให้ข้อมูลผิดพลาดเต็มไปหมด
      เข้าประเด็นเลยละกันค่ะ
      1. Credit score ไม่ใช่เรื่องใหม่ และบริษัทเครดิตบูโร เค้ามีมานานแล้ว
      2. สถาบันการเงินไม่ได้ส่งข้อมูลการชำระหนี้และการเป็นหนี้ของลูกค้าที่มีการค้างชำระหนี้เท่านั้นค่ะ มันไม่มีระบบแบล็คลิสต์
      มันเป็นการส่งข้อมูล facts คุณจะจ่ายงวดตรงเวลาหรือจ่ายไม่ตรง สถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกบริษัทเครดิตบูโรตามกฏหมาย มีหน้าที่ต้องส่งข้อมูลให้บริษัทเครดิตบูโรตามกฏหมายค่ะ
      และการรายงานข้อมูล fact แบบนี้ ทำกันทั่วโลกค่ะ
      3. การเสนอว่า จะไม่ให้สถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกของบริษัทเครดิตบูโรตามกฏหมาย ได้รับข้อมูลพฤติกรรมการชำระหนี้ของลูกค้าเลย โดยจะให้สถาบันการเงินได้ไปแต่คะแนนที่คำนวณมาจากการคำนวณปนๆ หลายสิ่งอย่างเท่านั้น ... แล้วสถาบันการเงินทั้งหลายจะรู้ยอดหนี้คงค้างรวมทั้งหมดของคนขอกู้ภายในระบบการเงินไทยได้ยังไง จะเตรียมตัวรับมือได้ยังไงเมื่อลูกหนี้เริ่มไปค้างชำระที่สถาบันการเงินอื่น และตัวเองอาจจะกลายเป็นรายต่อไปที่ไม่ได้เงิน
      .. ถ้าแก้ กฏหมาย เป็นแบบที่เสนอตามนโยบายนี้จริง สิ่งที่จะเกิดตามมา คือ คนจะไปขอกู้หลายสถาบันซ้อนๆ กันเยอะขึ้น เพราะแต่ละสถาบันไม่รู้ภาระหนี้ที่มีอยู่ของลูกค้ารายนี้ สถาบันการเงินก็จะไม่กล้าปล่อยเพราะไม่รู้ว่าคนที่มาขอกู้ไปค้างหนี้ที่อื่นไว้เท่าไหร่
      สิ่งที่เสนอปรับแก้กฏหมายมานั้น จะทำให้เกิดปัญหาทางเศรษฐศาสตร์ที่เรียกว่า asymmetric information ค่ะ โดยหลักแล้ว asymmetric information จะก่อให้เกิด market failure หรือความล้มเหลวของตลาดค่ะ
      4. ทุกสถาบันการเงิน เค้ามี credit scoring model ของตัวเค้าเองมากันหลาย 10 ปีแล้วค่ะ
      📌
      ก่อนเสนออะไรแบบนี้ ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า credit scoring modelling มี 2 แบบค่ะ
      1. แบบที่ใช้ข้อมูลการชำระหนี้และการเป็นหนี้ในอดีตเพื่อบอกถึงพฤติกรรมเสี่ยง เพราะมีสมมติฐานว่าถ้าคนๆ นึงมีพฤติกรรมอย่างไรในอดีต ก็มีโอกาสมีพฤติแบบเดียวกันในอนาคต
      อันนี้คือแบบที่ บริษัทเครดิตบูโรคำนวณอยู่ และสถาบันการเงินทั้งหลายก็สามารถซื้อข้อมูล credit score นี้ได้
      score แบบนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลพฤติกรรมบนกิจกรรมชีวิตอื่นของคนหรือธุรกิจนั้น เช่น น้ำไฟ รายได้ อะไรอื่นมาประกอบ ... เพราะเป็นการใช้ข้อมูลเครดิตของแต่ละคนที่มีสินเชื่อหรือบัตรเครดิตที่มีอยู่ทั้งหมดในระบบการเงินไทยในการคำนวณ เรียกว่ามี full credit information
      2. แบบที่ใช้ข้อมูลพฤติกรรมการชำระหนี้และยอดหนี้ รวมถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น รายได้ transaction อื่นๆ มาประกอบเพื่อทำนายโอกาสผิดนัดชำระหนี้จากความสามารถในการชำระหนี้ อันนี้เป็นการทำ credit scoring/rating ขององค์กรใดองค์กรหนึ่งที่ไม่ได้มีฐานข้อมูลระดับชาติ
      ... ที่ต้องใช้ข้อมูลปัจจัยอื่น ก็เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำนาย ไม่ใช่เพื่อเป็นการปรับให้ credit score ดูบวก หรือดูดีขึ้น
      นั่นเพราะว่าไม่ได้มีข้อมูลหนี้และการชำระหนี้ของคนๆ นั้นที่มีอยู่ในระบบการเงินไทยทั้งหมด มันยังมีอะไรที่ต้องทาย ต้องเดา ก็เอาปัจจัยอื่นมาช่วยทาย ช่วยเดา
      และในปัจจุบัน credit score ของบริษัทเครดิตบูโร เค้าก็ไม่ได้ใช้แค่ข้อมูลหนี้และการชำระหนี้นะคะ เค้าใช้ข้อมูลประเภทอื่นด้วยเพื่อประเมินความเสี่ยงของธุรกิจ ... เพราะฉะนั้นที่เสนอปรับแก้มาในคลิป มันช้าไปแล้วค่ะ เค้าทำกันไปหมดแล้ว
      และเรื่องแบล็คลิสต์เพียงเพราะผิดนัดชำระหนี้ครั้งเดียว มันไม่น่าจะเป็นเกณฑ์ที่เกี่ยวอะไรกับเครดิตบูโรค่ะ ไม่งั้นสถาบันการเงินทั้งหลายคงไม่เหลือคนให้ปล่อยกู้ได้แล้วค่ะ
      โดยทั่วไป การจะปล่อยสินเชื่อให้คนที่เคยมีหนี้ค้างชำระหรือไม่ มันขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการความเสี่ยงและการกำหนดระดับความเสี่ยงที่รับได้ของเหล่าสถาบันการเงินทั่วโลก ... เค้าเรียกว่า risk management ค่ะ ใครอื่นจะออกกฏบังคับให้ปล่อยหรือไม่ปล่อยสินเชื่อกลุ่มเสี่ยงได้คะ
      ก่อนเสนอ ควรศึกษาข้อมูลเชิงลึก หรือมีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องในปัจจุบัน เพื่อให้รู้สิ่งที่เป็นไปในปัจจุบัน เพื่อจะได้นำเสนอการเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคต ไม่ใช่เพื่ออดีตที่ผ่านมาแล้ว
      #เศรษฐศาสตร์วันละนิด
      ที่มาของรูปและประเด็นในโพสต์นี้
      th-cam.com/video/URBUR0nrpgc/w-d-xo.html
      facebook.com/100051922635891/posts/pfbid0GNgEMZxqHoFFh4j7ddeHdz2eDJMVJj143gUNsehWicFrL5CQKsnNLUxk8UruWQWnl/?mibextid=UUgoR4

  • @keatisaksri-on6535
    @keatisaksri-on6535 ปีที่แล้ว +23

    มองร้าย = ส่งเสริมให้คนก่อหนี้ง่ายขึ้น // มองดี = ช่วยเปิดโอกาสให้เข้าถึงสินเชื่อตามสภาพของแต่ละคน

    • @user-mu2zs5dc9q
      @user-mu2zs5dc9q ปีที่แล้ว

      ใช่เลยครับผม ส่วนตัวผมมองว่า หลัง จากผ่าน วิกฤต คนมักจะ บอบช้ำ เพราะฉะนั้นจึงต้องออกมาตรการที่ช่วยเหลือฟื้นฟูเยียวยา เพื่อให้ไปต่อได้ ไม่ใช่ออกมาตรการคุมกำเนิด เพื่อไม่ให้โต จนเกินไปแบบนี้ไม่ใช่

    • @user-xr6mz8ei7g
      @user-xr6mz8ei7g ปีที่แล้ว +1

      ผมว่าเอียงไปทางมองร้ายมากกว่า ส่งเสริมให้กู้

    • @BUDDY-.-JA_4199
      @BUDDY-.-JA_4199 ปีที่แล้ว +1

      มองใหม่ ตามคลิป คือ เดิมทีแค่ yes or no ถ้าไม่ได้ จะไปดอกแพง เขาแค่ให้โอกาส คนที่พอได้ดอกต่ำ ได้ถูกพิจารณา

    • @1jury233
      @1jury233 ปีที่แล้ว

      เหรียญมีสองด้าน เช่นกัน

    • @user-xr6mz8ei7g
      @user-xr6mz8ei7g ปีที่แล้ว

      @@BUDDY-.-JA_4199 สุดท้ายปลายทางก็ก่อหนี้ครับ

  • @9genuine
    @9genuine ปีที่แล้ว +3

    อยากได้คะแนนเสียงจนหน้ามืดตามัว ... เป็นวิธีการหาเสียงที่พังมาก เสียดายที่เราแอบเชียร์พรรคนี้ แต่พอเห็นนโยบายนี้ ก็ "เลิกกัน"

  • @nirotemangkornsri7418
    @nirotemangkornsri7418 ปีที่แล้ว +3

    ประเด็นแรก สรุปก็ขึ้นกับระบบการคิดคะแนนนั่นแหละ ลูกหนี้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ปัญหาคือปัจจัยอะไรที่นำมาคิดคะแนน แล้วถ่วงน้ำหนักยังไง ซึ่งปกติธนาคารก็จะใช้อยู่แล้วเช่นเวลาขอสินเชื่อก็จะขอหน้าสมุด บ/ช หรือสลิปเงินเดือน หรือหลักประกันอื่นๆซึ่งก็ขึ้นกับเงื่อนไขแต่ละธนาคาร การคิดสกอริ่ง ก็เอาสิ่งเหล่านี้มาทำให้เป็นมาตรฐานเดียว ทีนี้ก็อยู่ที่ธนาคารจะเชื่อถือคะแนนนี้มากน้อยแค่ไหน หรือสบายใจพิจารณาเอง
    ประเด็นที่ 2 ถ้าหากมีการคิดสกอริ่ง ถ้ามีโครงการใดๆทางการเงินจากภาครัฐที่สนับสนุนประชาชน เกณฑ์การช่วยเหลือต้อง "บังคับ" ให้คิดจากสกอริ่งหรือคะแนนกลางนี้เป็นหลัก ไม่ใช่ว่าธนาคารรับการสนับสนุนจากภาครัฐไปแล้วเอาไปปล่อยให้ลูกค้าของตัวเองเป็นหลัก ตัวอย่างโครงการอะไรหลายๆอย่างเกี่ยวกับสินเชื่อช่วงโควิดเนี่ย สุดท้ายก็ตกแค่ลูกค้าธนาคารนั้นๆเท่านั้นเอง ส่วนคนนอกขาจรก็จะตอบกลับง่ายๆว่าคุณสมบัติไม่ครบ

    • @user-pt8rm6rs7v
      @user-pt8rm6rs7v ปีที่แล้ว

      นโยบายแบบนี้ผิดหวังสำหรับคนติดบูโรนึกว่าจะปิดแล้วบูโรหาย

  • @PPA1119
    @PPA1119 ปีที่แล้ว +2

    ลบอะไรก็ไม่มีประโยชน์ เพราะ ธนาคารหรือบริษัทเงินทุน ต่างมีข้อมูลเก็บไว้เป็นของตนเอง ใครเคยติดต่ออะไรไว้เขาจดจำไว้หมด ใครคิดว่าลบเครดิตพูโลแล้วจะมีผลดี ผิดหมดไม่มีประโยชน์อะไรเลย

  • @mercedezbenz4476
    @mercedezbenz4476 ปีที่แล้ว +2

    หน้าที่ของลูกหนี้ คือการชำระหนี้ มันปกติ ก็เลยจดแค่ลูกหนี้ที่ไม่ได้ทำหน้าที่ของลูกหนี้ คือพวกผิดนัดชำระ ดังนั้นมันจะมีแต่ลูกหนี้ที่ปกติ กับลูกหนี้ที่มีประวัติผิดนัด ผมไม่เห็นด้วยกับระบบที่พรรคกล้านำเสนอเลย

  • @Pete_dp
    @Pete_dp ปีที่แล้ว +14

    เห็นด้วยกับการยกเลิกแบล็คลิส เพราะบางคนอาจจะเคยผิดชำระหนี้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่ปัจจุบันชำระหนี้หมดแล้ว แต่เวลาไปกู้ดันกลับไม่ได้ ถึงแม้ว่ารายได้อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถกู้ได้

    • @chupongpanodom6370
      @chupongpanodom6370 ปีที่แล้ว +2

      ก็ผ่อนสินค้าเพื่อให้เกิดประวัติดีต่ออีก 2 ปีสิครับ แค่นี้ประวัติเก่าก็หายแล้ว ถ้ามีประวัติเก่าค้าง จะไปกู้ของแพงอย่างบ้านก็ไม่ผ่านหรอก

    • @Pete_dp
      @Pete_dp ปีที่แล้ว +1

      @@chupongpanodom6370 พูดง่ายเนอะครับ เงินสำหรับทำธุรกิจ หรือซื้อบ้านมันรอนานขนาด นั้นได้หรอ (บางช่วงอัตราดอกเบี้ยต่ำก็ต้องรีบกู้) ผมเองก็มีประสบการณ์ตรงคือไปค้ำหนี้ให้กับคนนึง แล้วเขาดันผิดชำระหนี้แต่ภายหลังแก้ไขปัญหานั้นเรียบร้อยแล้ว 2 ปีต่อมาผมจะกู้ซื้อบ้านประมาณ 10ล้าน แต่ธนาคารปฏิเสธ โดยมีเหตุผลว่าเคยติดแบล็คลิสเมื่อ 2 ปีก่อน ทั้งๆที่ฐานรายได้ผมมีความสามารถที่จะชำระหนี้ก้อนนี้หลายเท่า ผมเลยเห็นด้วยกับคุณอรรถวิชไงครับ ที่เขาบอกว่าธนาคารควรดูปัจจัยปัจจุบันของผู้กู้เป็นหลัก

    • @toomdeedenon3126
      @toomdeedenon3126 ปีที่แล้ว

      Blacklist เป็นแค่คำที่ธนาคารใช้อ้างไม่ปลีอยสินเขื่อ ส่วนในเครดิตบูโร มีแต่ข้อมูลว่าคนมีหนี้ ผ่อนชำระแบบไหน ปกติ ค้างไม่เกิน3เดือน หรือโดนดำเนินคดีอยู่ ในเวลา 3ปี ที่สถาบันการเงินส่งข้อมูลเข้ามาแจ้ง เพราะตอนนี้เขาเก็บข้อมูลแค่3ปี แต่ขัอมูลธนาคารอาจจะเก็บไว้ เป็น 10ปี เพราะไม่มีกฏหมายห้ามธนาคารเก็บข้อมูล ที่สำคัญเงินที่
      ปล่อยกู้ไม่ใช่ของอรรถวิช จะไปบอก สั่งธนาคาร ให้ปล่อยกู้ ให้คิดแบบนั้น แบบนี้ ไม่ได้

  • @chalermyouttwongsawiwatana1770
    @chalermyouttwongsawiwatana1770 ปีที่แล้ว

    ชื่นชอบ เทปนี้ มาก ครับ
    อาจารย์ ช่วยตบให้เข้าใจง่าย คุณอรรถวิชช์ ก็ให้ข้อมูลดี ครับ

  • @tomsettanan6914
    @tomsettanan6914 ปีที่แล้ว +2

    ค่อยๆครับอาจารย์ ฟังเค้าอธิบายให้จบก่อน แล้วค่อยถามแทรกดีไหมครับ

    • @user-eo6xi9kn6y
      @user-eo6xi9kn6y ปีที่แล้ว

      ชอบถามแทรก เร่ืองยิ่งบานปลาย กลายเป้นไม่รู้เรื่อง

  • @ThePeteBkk
    @ThePeteBkk ปีที่แล้ว +2

    ผมคิดว่าเครดิตสกอริ่ง ไม่ได้แก้ปัญหากู้เงินของประชาชนและมีข้อเสียมากกว่าข้อดี
    1. ถึงแม้ว่าแบล๊กลิส กรีนลิส บลูลิซ หรือจะสีอะไรก็ตาม จะถูกกำจัดออกไปและใช้เครดิตสกอร์ริ่งแทน มันยังจะมีอยู่ดีโดยผู้ให้กู้จะไม่ปล่อยกู้หากคะแนนสกอร์จะต่ำกว่าคะแนนที่เขารับได้ โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องภายในหรือขึ้นอยู่กับดุลพินิจของธนาคาร รัฐจะมาบังคับให้เขาปล่อยกู้ไม่ได้ มันเป็นเรื่องภายในของธนาคารโดยธนาคารจะขอข้อมูลอื่นๆ จากผู้ขอกู้เพื่อจะประกอบการพิจารณา ทั้งนี้ผู้กู้จะไม่ทราบว่าข้อมูลชิ้นใดจะทำให้เขากู้ไม่ได้หรืออยู่ในบัญชีดำ (แบล๊กลิส) ธนาคารไม่ต้องอธิบาย และข้อมูลที่ธนาคารได้จากเครดิตบูโรเป็นเพียงหนึ่งในข้อมูลที่จะใช้พิจารณา และผมไม่เชื่อว่าธนาคารไหนจะยอมถ้าจะได้แค่เครดิตสกอร์อย่างเดียวมาพิจารณาปล่อยกู้
    2. ทุกวันนี้ก็มีบริษัทจะปล่อยกู้โดยโฆษณาว่าหากติดแบล๊กลิสก็กู้ได้ แน่หล่ะที่ดอกเบี้ยจะแพงขึ้น แต่นี่มันก็สะท้อนความเสี่ยงที่จะโดนเบี้ยวหนี้ ใช่หรือไม่
    3. ข้อมูลเชิงบวกที่จะต้องให้เครดิตบูโรในการคำนวณตัวสกอร์ริ่ง มันเกินความจำเป็นที่ต้องนำข้อมูลส่วนตัวไปให้ผู้อื่น ยิ่งในขณะที่ตนเองไม่กะว่าจะกู้เงินใคร ตอนนี้ข้อมูลที่เก็บคือข้อมูลหนี้ที่มีอยู่ในปัจจุบันหรือ ถ้าจะย้อนกลับไปในอดีต ก็มีจำนวนจำกัด ข้อมูลที่เป็นผู้กู้ที่ไม่ดี ไม่ชำระหนี้ก็จะโดนกำจัดหลังสามปี ยกตัวอย่าง แต่ตอนนี้โครดิตบูโรก็จะมีข้อมูลการใช้น้ำใช้ไฟ ข้อมูลส่วนตัวในพฤติกรรมชีวิต และอื่นๆ ซึ่งโดยปรกติ เราไม่ต้องแชร์กับใคร ถ้าธนาคารจะขอเพื่อประกอบการกู้เป็นครั้งคราวก็ไปอย่าง ไม่ใช้ต้องให้อยู่ตลอดเวลากับบุคคลที่สาม เราให้ข้อมูลเหล่านี้กับธุรกิจบางอย่างที่เราใช้บริการ แต่ไม่ให้เขาไปแชร์ข้อมูลนี้กับใครยกเว้นที่เรายินยอม แต่นี่ไม่ใช่ เครดิตบูโรจะขอไปก่อนเลย
    หากพรรคการเมืองต้องการให้ประชาชนได้เข้าถึงทุนง่ายขึ้น นโยบายเปิดให้มีผู้ปล่อยกู้เพิ่มมากขึ้นและลดการฮั้วกันระหว่างสถาบันการเงินน่าจะดีกว่า การที่มีผู้เล่นมากขึ้นก็จะแข่งขัน (อย่างปลอดภัย)มากขึ้น การปล่อยกู้ก็ละเอียดอ่อนมากขึ้น ในอดีตเราเคยทำแบบนี้มาแล้วแต่ก็ล้มเหลวเพราะว่าการกำกับดูแลและลงโทษสถาบันการเงินมันอ่อน ยิ่งเครดิตฟองซิเอร์หรือบริษัทเงินทุน ส่วนมากก็คือบริษัทลูกของธนาคารเอง เขาจะแข่งกับบริษัทพ่อแม่เขาหรือ ในที่สุดเขาก็ฮั้วกัน เป็นมวยล้มต้มคนดูในที่สุด ไม่ต่างอะไรกับการปล่อยกู้ยานพาหนะที่รัฐพยายามทำให้ผู้บริโภคได้ประโยชน์มากขึ้น แต่ก็ออกมาครึ่งๆกลางๆ ไม่ทราบว่าจะด้วยแรงกำไร/แรงเงินที่ทำให้รัฐฝ่อหรือไม่ ซึ่งผมคิดว่าเครดิตสกอร์ริ่งก็จะได้ผลลัพธ์เชิงบวกน้อยกว่ามาก ดูเหมือนประชาชนจะได้อะไร แต่ในที่สุดเสียมากกว่าได้

  • @kukkik6839
    @kukkik6839 ปีที่แล้ว +1

    เครดิตบูโรเก็บประวัติภาระหนี้สินและประวัติชำระเงิน ธนาคารที่ขอประวัติมาก็ไปพิจารณาเอาว่าจะอนุมัติสินเชื่อหรือไม่ อย่าใช้คำว่า blacklist ให้คนทั้งประเทศเข้าใจผิด
    คำว่า blacklist หมายถึง คนที่มีชื่อในรายการ blacklist ห้ามทำธุรกรรม เช่น ระบบฝากถอนของธนาคาร ใครมีชื่อใน blacklist ของปปง., ก่อการร้าย, ล้มละลาย ห้ามทำธุรกรรมทุกกรณี
    ส่วนข้อเสนอที่แสดงแค่คะแนนเครดิต ไปสรุปรายละเอียเลยว่าใช้เงื่อนไขอะไรบ้าง ไม่ใช่ลอยๆ แบบนี้ ยิ่งห้ามแสดงประวัติ แบงค์ไม่เห็นข้อมูล ยิ่งระวังมากไปกันใหญ่ คนที่มีวินัยการชำระเงินในอดีตก็อยากโชว์ประวัติให้เห็นมากกว่าปะ

  • @user-rr8zd5nr4b
    @user-rr8zd5nr4b ปีที่แล้ว +2

    ภาษาชาวบ้านแล้วแบบนี้กับบางคนใช้คำว่าดินพอกหางหมู ถ้าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น จะไม่เสียหายต่อระบบหรอครับ

  • @user-ul1ez5ok9h
    @user-ul1ez5ok9h ปีที่แล้ว +6

    ใช้ scoring ได่ แต่ไม่ใช่รายงานแค่ scoring ต้องรายงานรายละเอียดขอมูลทั้งหมดครับ ถ้าไม่รายงาน ธนาคารและสถาบันการเงินจะยิ่งระวังและกู้เงินยากมากขึ้น

    • @GGcxvw558
      @GGcxvw558 ปีที่แล้ว

      ถูก จริงถ้าไม่ให้ข้อมูลเขาเขาก็ต้องระวังมากขึ้น เป็นปกติ
      หรือไม่ก็ตั้งองค์กรแชร์ข้อมูลเองเลย คราวนี้แหละตรวจสอบยากกว่าเดิมอีก

    • @toomdeedenon3126
      @toomdeedenon3126 ปีที่แล้ว

      ใช่ ธนาคาร สถาบันการเงินจะยิ่งขอข้อมูลมากขึ้น ยิ่งยุ่งยาก และสุดท้ายอาจจะตัดปัญหาเพราะต้นทุนสูงขึ้น ปล่อยสินเชื่อยากกว่าเดิม

  • @lugiamonster
    @lugiamonster ปีที่แล้ว +3

    ส่วนตัว ไม่ต้องการให้องค์กรราชการบันทึกข้อมูลตัวเลขของการชำระปกติประจำเดือน เข้าไปกับธุรกรรมเอกชน เราสามารถสร้างสเตทเม้นด้วยวินัยตัวเอง และถึงแม้จะมีวิกฤตวินัยก็จะช่วยให้เกิดการแก้ไขปัญหาได้ทั้งในทางธุรกรรม และการใช้จ่ายปกติ

  • @apichit-yu
    @apichit-yu ปีที่แล้ว +1

    ปกติผู้ปล่อยสินเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นธนาคารหรือไม่ ก็ทำ credit scoring อยู่แล้วนะครับ ข้อมูลจากเครดิตบูโร ก็เป็นส่วนหนึ่งในการทำ ส่วนข้อมูลอื่นๆก็ขึ้นอยู่กับผู้ปล่อยสินเชื่อจะใช้ประเมินตามเกณฑ์

  • @lifeguard2921
    @lifeguard2921 ปีที่แล้ว +4

    เชิญอุ้งอิงมาคุยเรื่อง600 บาทขั้นต่ำกับป.ตรี 25,000 หน่อยครับเชื่อว่าคนรอฟังเยอะ

    • @pairatyimwilai4411
      @pairatyimwilai4411 ปีที่แล้ว

      อ.วีระแกมีแนวคิดแบบนั้นอยู่นะ เคยพูดในอีกรายการว่าจะทำแบบนั้น เอานโยบายมาสับให้ดูกันไปเลย หวังว่าจะได้ทำจริง เพราะนโยบายพวกนี้ ฟังเองอาจได้แค่ เข้าใจ กับ ไม่เข้าใจ

  • @pichetlaosittisuk2261
    @pichetlaosittisuk2261 ปีที่แล้ว +2

    นโยบายดีมาก ยุติธรรมกับคนที่ชำระหนี้ตรงเวลาสม่ำเสมอจะได้กู้ดอกถูก เป็นแรงจูงใจให้คนอยากชำระหนี้ตรงเวลา

  • @termsaksritrirat7458
    @termsaksritrirat7458 ปีที่แล้ว +1

    ข้อทักท้วงของ อจ. ถูกต้องครับ

  • @user-ki5rj3bb5r
    @user-ki5rj3bb5r ปีที่แล้ว

    Ok ชัดเจนเลือก

  • @pachara875
    @pachara875 ปีที่แล้ว +1

    ตามความเห็น ให้ข้อมูลการชำระเงินเเบบเดิมถูกเเล้ว ถังเก็บเเค่ 3 ปี ถ้าจะกู้ต่อต้องสร้างวินัยการเงินขึ้นมาเองให้ได้ก่อนไปกู้ใหม่ ส่วน scoring เป็นหน้าที่ของเเต่ละธนาคารหรือสถาบันการเงินเอาข้อมูลมาพิจารณาเองเเล้วให้ score อยู่เเล้ว ยกเว้นว่าจะออกนโยบายช่วยเหลือคนที่ชำระเงินไม่ได้ช่วงโควิดจริงๆ เท่านั้น เพราะวินัยการเงินปัจจุบันเป็นสิ่งที่สำคัญ

  • @beer-fv3yk
    @beer-fv3yk ปีที่แล้ว

    สวัสดีค่ะ

  • @user-ph7yv8hc8l
    @user-ph7yv8hc8l ปีที่แล้ว

    😮

  • @xxxkanchana2931
    @xxxkanchana2931 ปีที่แล้ว

    พิธีกรมีความรู้จริงๆ พยายามให้ชาวบ้านเข้าใจง่ายๆ แต่คือขัดจังหวะแขกรับเชิญตลอด ไม่ปล่อยให้เขาพูดให้จบก่อนแล้วค่อยอธิบาย แทรกตลอดเลย ดูแล้วอดหงุดหงิดไม่ได้เลย

  • @pansinghaprathumsri7396
    @pansinghaprathumsri7396 ปีที่แล้ว

    อจ.ด้วยความเคารพ.. ให้แขกพูดยาวๆอธิบายก่อนได้ไหมครับ

  • @ck0805000200
    @ck0805000200 ปีที่แล้ว

    ชอบๆ

  • @PerfectDCoLtd
    @PerfectDCoLtd ปีที่แล้ว +6

    สรุปคือ แบบเดิม ก็ยังมีประวัติ์เก็บไว้อยู่ เพียงแต่ ต้องขอรายละเอียดเพิ่ม ต่อไปแบ็งค์ก็ให้เซ้นต์อนุมัติ์เพื่อขอเช็ครายละเอียด ประวัติืที่เก็บไว้ 3ปี ด้วย อยู่ดี ถ้าไม่เซ้นต์ ก็จะบอกว่า ข้อมูลไม่พอในการ พิจราณา สินเชื่อ

  • @jamesfurthertechnology
    @jamesfurthertechnology ปีที่แล้ว +5

    ชอบ ep นี้ครับ อาจารย์วีระและคุณอรรถวิชญ์ใจถึงมาก

    • @pawinsaiwiwat180
      @pawinsaiwiwat180 ปีที่แล้ว

      บริษัทเครดิตบูโร มี Credit Score มานานหลายปีแล้วค่ะ นโยบายนี้ มัน too late มากๆ
      ตอนแรกว่าจะโพสต์พรุ่งนี้ แต่อดใจไม่ได้ เพราะในคลิปมีการให้ข้อมูลผิดพลาดเต็มไปหมด
      เข้าประเด็นเลยละกันค่ะ
      1. Credit score ไม่ใช่เรื่องใหม่ และบริษัทเครดิตบูโร เค้ามีมานานแล้ว
      2. สถาบันการเงินไม่ได้ส่งข้อมูลการชำระหนี้และการเป็นหนี้ของลูกค้าที่มีการค้างชำระหนี้เท่านั้นค่ะ มันไม่มีระบบแบล็คลิสต์
      มันเป็นการส่งข้อมูล facts คุณจะจ่ายงวดตรงเวลาหรือจ่ายไม่ตรง สถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกบริษัทเครดิตบูโรตามกฏหมาย มีหน้าที่ต้องส่งข้อมูลให้บริษัทเครดิตบูโรตามกฏหมายค่ะ
      และการรายงานข้อมูล fact แบบนี้ ทำกันทั่วโลกค่ะ
      3. การเสนอว่า จะไม่ให้สถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกของบริษัทเครดิตบูโรตามกฏหมาย ได้รับข้อมูลพฤติกรรมการชำระหนี้ของลูกค้าเลย โดยจะให้สถาบันการเงินได้ไปแต่คะแนนที่คำนวณมาจากการคำนวณปนๆ หลายสิ่งอย่างเท่านั้น ... แล้วสถาบันการเงินทั้งหลายจะรู้ยอดหนี้คงค้างรวมทั้งหมดของคนขอกู้ภายในระบบการเงินไทยได้ยังไง จะเตรียมตัวรับมือได้ยังไงเมื่อลูกหนี้เริ่มไปค้างชำระที่สถาบันการเงินอื่น และตัวเองอาจจะกลายเป็นรายต่อไปที่ไม่ได้เงิน
      .. ถ้าแก้ กฏหมาย เป็นแบบที่เสนอตามนโยบายนี้จริง สิ่งที่จะเกิดตามมา คือ คนจะไปขอกู้หลายสถาบันซ้อนๆ กันเยอะขึ้น เพราะแต่ละสถาบันไม่รู้ภาระหนี้ที่มีอยู่ของลูกค้ารายนี้ สถาบันการเงินก็จะไม่กล้าปล่อยเพราะไม่รู้ว่าคนที่มาขอกู้ไปค้างหนี้ที่อื่นไว้เท่าไหร่
      สิ่งที่เสนอปรับแก้กฏหมายมานั้น จะทำให้เกิดปัญหาทางเศรษฐศาสตร์ที่เรียกว่า asymmetric information ค่ะ โดยหลักแล้ว asymmetric information จะก่อให้เกิด market failure หรือความล้มเหลวของตลาดค่ะ
      4. ทุกสถาบันการเงิน เค้ามี credit scoring model ของตัวเค้าเองมากันหลาย 10 ปีแล้วค่ะ
      📌
      ก่อนเสนออะไรแบบนี้ ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า credit scoring modelling มี 2 แบบค่ะ
      1. แบบที่ใช้ข้อมูลการชำระหนี้และการเป็นหนี้ในอดีตเพื่อบอกถึงพฤติกรรมเสี่ยง เพราะมีสมมติฐานว่าถ้าคนๆ นึงมีพฤติกรรมอย่างไรในอดีต ก็มีโอกาสมีพฤติแบบเดียวกันในอนาคต
      อันนี้คือแบบที่ บริษัทเครดิตบูโรคำนวณอยู่ และสถาบันการเงินทั้งหลายก็สามารถซื้อข้อมูล credit score นี้ได้
      score แบบนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลพฤติกรรมบนกิจกรรมชีวิตอื่นของคนหรือธุรกิจนั้น เช่น น้ำไฟ รายได้ อะไรอื่นมาประกอบ ... เพราะเป็นการใช้ข้อมูลเครดิตของแต่ละคนที่มีสินเชื่อหรือบัตรเครดิตที่มีอยู่ทั้งหมดในระบบการเงินไทยในการคำนวณ เรียกว่ามี full credit information
      2. แบบที่ใช้ข้อมูลพฤติกรรมการชำระหนี้และยอดหนี้ รวมถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น รายได้ transaction อื่นๆ มาประกอบเพื่อทำนายโอกาสผิดนัดชำระหนี้จากความสามารถในการชำระหนี้ อันนี้เป็นการทำ credit scoring/rating ขององค์กรใดองค์กรหนึ่งที่ไม่ได้มีฐานข้อมูลระดับชาติ
      ... ที่ต้องใช้ข้อมูลปัจจัยอื่น ก็เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำนาย ไม่ใช่เพื่อเป็นการปรับให้ credit score ดูบวก หรือดูดีขึ้น
      นั่นเพราะว่าไม่ได้มีข้อมูลหนี้และการชำระหนี้ของคนๆ นั้นที่มีอยู่ในระบบการเงินไทยทั้งหมด มันยังมีอะไรที่ต้องทาย ต้องเดา ก็เอาปัจจัยอื่นมาช่วยทาย ช่วยเดา
      และในปัจจุบัน credit score ของบริษัทเครดิตบูโร เค้าก็ไม่ได้ใช้แค่ข้อมูลหนี้และการชำระหนี้นะคะ เค้าใช้ข้อมูลประเภทอื่นด้วยเพื่อประเมินความเสี่ยงของธุรกิจ ... เพราะฉะนั้นที่เสนอปรับแก้มาในคลิป มันช้าไปแล้วค่ะ เค้าทำกันไปหมดแล้ว
      และเรื่องแบล็คลิสต์เพียงเพราะผิดนัดชำระหนี้ครั้งเดียว มันไม่น่าจะเป็นเกณฑ์ที่เกี่ยวอะไรกับเครดิตบูโรค่ะ ไม่งั้นสถาบันการเงินทั้งหลายคงไม่เหลือคนให้ปล่อยกู้ได้แล้วค่ะ
      โดยทั่วไป การจะปล่อยสินเชื่อให้คนที่เคยมีหนี้ค้างชำระหรือไม่ มันขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการความเสี่ยงและการกำหนดระดับความเสี่ยงที่รับได้ของเหล่าสถาบันการเงินทั่วโลก ... เค้าเรียกว่า risk management ค่ะ ใครอื่นจะออกกฏบังคับให้ปล่อยหรือไม่ปล่อยสินเชื่อกลุ่มเสี่ยงได้คะ
      ก่อนเสนอ ควรศึกษาข้อมูลเชิงลึก หรือมีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องในปัจจุบัน เพื่อให้รู้สิ่งที่เป็นไปในปัจจุบัน เพื่อจะได้นำเสนอการเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคต ไม่ใช่เพื่ออดีตที่ผ่านมาแล้ว
      #เศรษฐศาสตร์วันละนิด
      ที่มาของรูปและประเด็นในโพสต์นี้
      th-cam.com/video/URBUR0nrpgc/w-d-xo.html
      facebook.com/100051922635891/posts/pfbid0GNgEMZxqHoFFh4j7ddeHdz2eDJMVJj143gUNsehWicFrL5CQKsnNLUxk8UruWQWnl/?mibextid=UUgoR4

    • @jamesfurthertechnology
      @jamesfurthertechnology ปีที่แล้ว +1

      @@pawinsaiwiwat180 คนละประเด็นคนละ point กันกับของคุณอรรถวิชญ์ครับ ผมเข้าใจ passion ของคุณอรรถวิชญ์ในการทำเรื่องนี้ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร และนโยบายนี้น่าจะมีผลทำให้ได้คะแนนเสียงจากคนที่มีประวัติหนี้เสียอีกหลายล้านคน แต่ในความเป็นจริงมันทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะระบบการเงินการธนาคารไทยจะไม่ได้รับความเชื่อถือจากธนาคารประเทศอื่น เวลาธนาคารไทยไปขอกู้จากธนาคารในต่างประเทศเพื่อมาปล่อยกู้ให้กับลูกค้ารัฐหรือเอกชนในประเทศก็จะยากขึ้นและต้องจ่ายดอกเบี้ยแพงขึ้น

  • @vipoosirirugs236
    @vipoosirirugs236 ปีที่แล้ว +1

    วิทยากรขัดขวางการอธิบายมากไป

  • @onggamer13
    @onggamer13 ปีที่แล้ว +1

    เขาใช้เก็บแค่ฐานข้อมูล แบล็คลิสเป็นชื่อเรียกกันเอง เราต้องลดหนี้ครัวเรือนทำไมไม่ส่งเสริมการลดหนี้บ้างอะ เอาเวลาคิดนโยบายอันอื่นมาดีกว่า น่าจะเป็น หรือ ใช้ดิจิตอลเทคโนโลยีมาส่งเสริมระบบราชการแทนการสื่อสารด้วยหนังสือต่างๆ น่าจะดีกว่านะครับ วันๆนั่งตรวจแต่หนังสือบ้าบอคอแตกทำงานซ้ำซ้อน

  • @Tyoaewt666
    @Tyoaewt666 ปีที่แล้ว +1

    หาก อ. จะพูดแทรกทั้งเทป ทุกเทปขนาดนี้จะเชิญมาร่วมรายการทำไมครับ

  • @use20567
    @use20567 ปีที่แล้ว +2

    ชอบนโยบายนี้มากค่ะ ไให้ไอโอประเมินแบะคัดกฤติกรรมการใช้เงินของคนผ่านแอฟเข้าใจคุณอรรถวิทแล้วค่ะชอบๆ

    • @pawinsaiwiwat180
      @pawinsaiwiwat180 ปีที่แล้ว +2

      ถ้ามีคนติดแบล็คลิสมากู้เงินคุณจะให้กู้มั้ย?

    • @GGcxvw558
      @GGcxvw558 ปีที่แล้ว

      เม้นแบบนี้แสดงว่าคุณยังไม่เข้าใจ
      แอพไม่ใช่สาระด้วยซ้ำ

  • @sumitja900
    @sumitja900 ปีที่แล้ว +5

    ถ้าชาวบ้านทั่วไปมาคุยกับคุณวีระ พูดหมกๆวนไปวนมา รับรองโดนกัดขาดสองท่อนไปแล้ว

  • @noriko2524
    @noriko2524 ปีที่แล้ว +8

    อ.มาพูดเองเลยมั้ย ไม่ให้เขาพูดให้จบก่อนละ

  • @niorbox
    @niorbox ปีที่แล้ว

    แล้วทำไม shopee lazada GRAB etc
    เค้าต้องแชร์ข้อมูลให้ด้วยล่ะครับ คุณจะไปออกกมบังคับให้เค้าให้ข้อมูลหรือ ...

  • @name..9116
    @name..9116 ปีที่แล้ว +1

    พรรคไหน.. ปิดทรัสต์/ไฟแนนซ์.. ล่ะ
    ใช้หนึ้ไป7แสนล้าน/ผ่านมา20กว่าปียังค้างอยู่6.8แสนล้าน​ นึกถึง.. แมงสาบ🤩

  • @family7052
    @family7052 ปีที่แล้ว

    👍🏽👍🏽👍🏽👍🏽

  • @santi4411198
    @santi4411198 ปีที่แล้ว +1

    เพิ่มภาระงาน ทำงานซ้ำซ้อน จะเอาค่าน้ำค่าไฟเข้าไปในระบบ Cradit รู้หรือเปล่าจะทำให้เพิ่มต้นทุนการปล่อยกู้ และจะทำให้ปล่อยยากขึ้น เกิดจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ช้า…นับรวมหมด..

  • @1914aloha
    @1914aloha ปีที่แล้ว +1

    ออกนโยบายเอาใจคนเป็นหนี้ แต่ไม่ได้ประโยชน์ และยิ่งทำให้คนมีหนี้มากขึ้น

  • @beenil9123
    @beenil9123 ปีที่แล้ว

    คิดได้ยังไง กรณ์ อยุ่วงการการเงิน มาตลอด อยุ่กระทรวงการคลัง แต่ดันออกนโยบายที่มันขัดกับวินัยทางการคลัง เพื่อคะแนนเสียงอันเล็กน้อย นี่เรอจะให้ ปชช เลือก

  • @khamsuksirpanya7208
    @khamsuksirpanya7208 ปีที่แล้ว

    สุดยอดครับอาจารย์👍👍👍

  • @user-pj8wd7ks6f
    @user-pj8wd7ks6f ปีที่แล้ว +2

    ไม่เห็นด้วยกับนโยบายเรื่องนี้ โดยเฉพาะราชการเป็นผู้ทำ

  • @NK-ng3tl
    @NK-ng3tl ปีที่แล้ว +4

    เดิมมีแต่ลบ กับ ศูนย์ ....แก้ให้มีบวก แล้วสรุปเป็นแต้ม ผู้ให้กู้จะได้ดูความเสี่ยงในการคิดดอกเบี้ย ก้อแค่นั้นแหละ

  • @ViVo-ew4cn
    @ViVo-ew4cn ปีที่แล้ว +3

    บ้าไปแล้ว.....ขืนเอา ค่าไฟค่าน้ำ ค่าโทรศัพท์ ค่าอื่นๆเข้าไปด้วย ยิ่งจะกู้ลำบาก ลองดูสิครับ มีคนค้างค่าโทรศัพท์ กี่สิบล้าน กี่เบอร์ที่ทิ้งค้าง ค่าไฟ ค่าน้ำ ไม่ใช่จะไม่ค้างครับ โดนตัดน้ำตัดไฟกันขนาดไหน เห้อ.....

    • @acat2555
      @acat2555 ปีที่แล้ว +3

      ผมมับ้านให้เช่า คนเช่าค้างประตำทั้งน้ำทั้งไฟ แบบนี้เจ้าของบ้านซวยด้วย

    • @GGcxvw558
      @GGcxvw558 ปีที่แล้ว

      @@acat2555 เออจริง ลืมนึกเคสนี้เลย
      น้ำไฟชื่อเข้าของบ้าน ซวยไม่รู้ตัว
      ยิ่งมีหลายหลังไม่อยากคิด😂😂

    • @toomdeedenon3126
      @toomdeedenon3126 ปีที่แล้ว +1

      จริง ยิ่งคนไทย มีนิสัยมีเงินไว้ใช้ส่วนตัวก่อน หนี้สินค่อยจ่ายวันสุดท้าย ก่อนจะโดนตัดไฟ ตัดน้ำ ทีนี้แหละ จะโดนทุกหย่อมหญ้า รากหญ้าก็ตายหมด🤣

  • @oatrobot9848
    @oatrobot9848 ปีที่แล้ว

    ให้เค้าอธิบายก่อนสิครับ แล้วอาจารย์จะสรุปตอยท้ายก็ได้ ฟังแล้วมันพูดขาดๆกายๆนะครับ ขอบคุณครับ

  • @user-xr3ni6ly5e
    @user-xr3ni6ly5e ปีที่แล้ว

    คนที่ควรใจเย็น คืออาจารย์ครับ

  • @valeriebwiese9462
    @valeriebwiese9462 ปีที่แล้ว

    จังหวะ....
    สำคัญมาก.ในการสนทนา ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะขัดจังหวะ อรรถรสเสียหมด แม้ว่าจะอยากจะซักค้านอย่างไรก๋ต้องรอให้อีกฝ่ายกล่าวเสนอให้จบเสียก่อน
    ไม่ชมรายการนี้แล้วค่ะ bye

  • @richman8780
    @richman8780 ปีที่แล้ว +1

    ถ้าจะกังวนว่าจะมีคนที่ค้างค่าน้ำไฟหากจะดูประวัติ เชื่อเถอาะมีไม่มากที่จะได้ค้างค่าน้ำไฟ ทุกวันนี้ประชาชนรากหญ้า แทบไม่ได้ค้างค่าน้ำไฟหรอกเพราะไม่เกิน2เดือนมันก็ตัดไฟตัดน้ำละ ไม่มีก็ต้องดิ้นหามาจายจนได้

  • @user-ko5ux9hk7d
    @user-ko5ux9hk7d ปีที่แล้ว

    โต้แย้ง กันฟัง แล้ว จับ ใจ
    ความ ไม่รู้ เรื่อง ครับ

  • @pterapathana
    @pterapathana ปีที่แล้ว

    ครั้งแรกที่เห็นด้วยกับอรรถวิท และครั้งแรกที่เริ่มลำคานอาจารย์ เป็นคนรวยไม่เข้าใจคนจนแถมไม่เปิดโอกาสให้คนจน

  • @hectorsalamanca6222
    @hectorsalamanca6222 ปีที่แล้ว

    ชอบอาจารย์วีระ เวอชั่น ดุ เหมือนในรายการคุยได้คุยดี 5555

  • @user-xr6mz8ei7g
    @user-xr6mz8ei7g ปีที่แล้ว +1

    หลบแบลคลิ้สเพื่อก่อหนี้เพิ่ม ปัญหาไม่จบครับปัญหามันอยู่ที่วินัยคนกู้

  • @JatupornChinrungrueng
    @JatupornChinrungrueng ปีที่แล้ว

    คือจะเอามาคิดคะแนน บวก ลบ อาจจะเป็นศูนย์ หรือยิ่งบวกยิ่งดี ทั้งที่ไปติดหนี้บางอย่างไม่จ่าย ไม่หนี จะเอา บุญมาล้างกรรม แล้วคนที่รับกรรมไม่ซวยเหรอ

  • @weerachaiseeta6632
    @weerachaiseeta6632 ปีที่แล้ว +1

    การเก็บคะแนนจากประวัติการชำระค่าน้ำค่าไฟ ถ้าในกรณีที่เป็นบ้านที่ให้ญาติพี่น้องอยู่ หรือบ้านที่มีคนเช่าอยู่ไม่ใช่บ้านที่ผู้ขอกู้อยู่เอง แบบนั้นก็จะไม่ได้ข้อมูลที่ถูกต้องนะครับ

  • @sunin432
    @sunin432 ปีที่แล้ว +1

    นักการเมืองขายข่าว // บริษัทไฟแนนซ์ ธนาคาร เค้าก็เอาข้อมูลบูโรไปใส่ระบบ แล้วคำนวณเครดิต score ออกมาสิ
    สมมุติติด อยู่ที่ กรมบังคับคดี ฉีอโกงเค้ามา แบบนี้ ธนาคารเค้าก็ต้องการข้อมูล ถึงแม้จะผ่านมา 3 ปี 8ปี ใครก็ไม่ปล่อยหลอกครับ

  • @johnrunways776
    @johnrunways776 ปีที่แล้ว

    นโยบายดีนะ ดีมากด้วย แต่ก็เข้าใจยากมาก ๆ ด้วยเช่นกัน ... และที่สำคัญยากที่จะสื่อสารให้คนเข้าใจได้ในวงกว้าง

  • @auychair.9431
    @auychair.9431 ปีที่แล้ว

    เจ้าของเงิน เขาพิจารณาให้กู้ เป็นสิทธิ์ของเขา นักการเมือง นำเงินส่วนตัวมาปล่อยกู้เิอง

  • @cccc8732
    @cccc8732 ปีที่แล้ว

    ดีเซลคือต้นทุน หัวใจคนระดับล่างๆ ผมคิดว่าสมควรที่จะอุ้มราคาอย่างที่ว่า คือเอารายได้จาก 91-95-โซฮอล์ มาช่วยเฉลี่ย เพื่อสังคมไปด้วยกัน น่าจะช่วยกันได้ดีครับ

  • @AisAis-os7mc
    @AisAis-os7mc ปีที่แล้ว

    จริงเลย ข้อสอบร้อยข้อ ผิดข้อเดียว ตกชั้นเลย

  • @user-dm4tm9xy5n
    @user-dm4tm9xy5n ปีที่แล้ว +1

    อาจารย์วีระ เคยกล่าวแล้ว ว่าจะจัดหนัก นโยบาย ....

  • @joomsunee151
    @joomsunee151 ปีที่แล้ว +3

    อย่าโกหก ขายฝัน กล้า แต่ไม่กล้า โดน กรณ์ หลอกมาแล้ว เอกสารมี แสดง (ขอมาได้)นะ

    • @hectorsalamanca6222
      @hectorsalamanca6222 ปีที่แล้ว +1

      กร อภิสิทธิ์ ชวน หลีกภัย พวกนี้เก่งเรื่องขายฝัน น้ำลายเยอะ

    • @13ileclub16
      @13ileclub16 ปีที่แล้ว +3

      @@hectorsalamanca6222 วิกฤติเศรษฐกิจทั้งต้มยำกุ้ง ทั้งแฮมเบอร์เก้อ..ก็พรรคที่มรึงด่าทั้งนั้นที่มันเข้ามาแก้ !!

    • @hectorsalamanca6222
      @hectorsalamanca6222 ปีที่แล้ว

      @@13ileclub16 มั่วแล้วไอ้สามกีบชังชาติ ลุงตู่ลุงป้อมต่างหากที่แก้ พรรค ปชป ขายฝันน้ำลายเยอะ เหม็นขี้ฟัน

    • @Pete_dp
      @Pete_dp ปีที่แล้ว +1

      โกหกอย่างไร เพราะกรณีที่คุณอรรถวิชบรรยาคือสิ่งชาวบ้านหลายคนเจอ

  • @andyl.l.5662
    @andyl.l.5662 ปีที่แล้ว

    มันคือการล้างไพ่
    ถ้านั่นคือการให้โอกาสครั้งใหม่

  • @suwanasawachinda6228
    @suwanasawachinda6228 ปีที่แล้ว

    เชื่อว่า....
    พวกเจ้าสัวนายทุนสถาบันการเงินจะรวมตัวคัดค้าน
    ไม่ให้ยกเลิก....
    , ไม่ให้ทำเป็นคะแนนเครดิต (ทั้ง BL. & NCB.)

  • @GGcxvw558
    @GGcxvw558 ปีที่แล้ว

    Scoring ผมเข้าใจนะว่าต่างประเทศมี ไม่ติดที่เราจะทำ
    แต่raw data ที่เป็นบริบทต้องมีให้สถาบันการเงินด้วย ไม่ใช่การหมกไม่ยอมบอก อันนี้น่าเกลียด

  • @zenitht
    @zenitht ปีที่แล้ว

    พิธีกร ผู้ชาย เป็นคนเข้าใจยาก

  • @user-wx7yr5tc2t
    @user-wx7yr5tc2t ปีที่แล้ว

    แล้วเคยชำระหนี้เสีย แต่เคลียร์หมดแล้ว มีประวัติชำระดีมาเป็นปีๆ แต่ไม่มีธนาคารใหน ปล่อยกู้ คือถ้าคน5 ล้านคนมีสกอร์ดี ขึ้นได้รับเงินกู้ แล้วจะมีเงินหมุนเวียน ในระบบ อีกหลายล้านๆในระบบ

  • @pinyomeechumna9349
    @pinyomeechumna9349 ปีที่แล้ว +1

    นโยบายนี้ไม่ได้คะแนนเสียงหรอก ชาวบ้านฟังไม่รู้เรื่อง

  • @adisakb4573
    @adisakb4573 ปีที่แล้ว

    มีนะดีแล้วแค่นี้ก็กู้หนี้ยืมสินกันเยอะเกิน ควรมีวินัยในการเงิน ไม่งั้นมีอะไรกู้ดะ

  • @user-ly4pq3rm2y
    @user-ly4pq3rm2y ปีที่แล้ว

    นักธุรกิจ ที่เป็นหนี้ร้อยล้าน พันล้าน ยังมีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน กู้เงินมาฟื้นฟูกิจการ หรือกู้เงินมาพยุงธุรกิจ
    แต่ประชาชนทั่วไป มีหนี้สินหลักแสน กลับไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ เพื่อฟื้นตัวจากการเป็นหนี้

  • @GGcxvw558
    @GGcxvw558 ปีที่แล้ว +4

    ถ้าธนาคารเขาไม่เห็นเขาก็ปรับเกณฑ์ขึ้นสิครับ
    ค้างเล็กค้างน้อยธนาคารเขามีวิจารณะญานอยู่แล้ว ถ้าชี้แจงได้ก็จบ คะแนนอย่างนี้ไม่มีประโยชน์อะไรพาลแต่มีปัญหา
    ต่อให้มันปล่อยได้จริงแบบเบลอๆไป npl พุ่งทำไง Scoring อยากทำ ทำไป แต่ไม่ต้องมาซ่อน raw data
    คุยกันให้จบเคลียล์ดีกว่า ตรงไปตรงมา มีหนี้กี่อันถ้าจบแล้วธนาคารเขาไม่ได้ติดอะไรหรอก
    อย่าหวังเอาแต่คะแนนเสียง จนสร้างความหายนะให้แก่สังคม

    • @GGcxvw558
      @GGcxvw558 ปีที่แล้ว

      ถ้าคุณจะช่วยคนไปหาวิธีแก้ fruad ดีกว่า อันนี้น่ากลัวกว่าบูโรเยอะ แถมโดนทีตลอดชีวิต ไม่มีสิทธิ์แก้ตัว

    • @toomdeedenon3126
      @toomdeedenon3126 ปีที่แล้ว

      +1

  • @user-qr8ur9ob9k
    @user-qr8ur9ob9k ปีที่แล้ว

    ฟังเสียง อ.แล้วหายงัวเงียเลยไม่งั้นคงจะหรับต่อได่อีกได้ความรุ้จริงข้าแต่เราไม่มี คอม เลยไม่มีความรู้ทางนี้เลยขัาต้องขอโทษจริงๆข้า สวัดดีข้า

  • @chainarongmhadtong8663
    @chainarongmhadtong8663 ปีที่แล้ว

    ผมเชื่อมั่นครับ เชื่อมั่น อ.สุรพล โอภาสเสถียร ว่าทำแบบที่ทำมาดีแล้ว

  • @ruklfc2400
    @ruklfc2400 ปีที่แล้ว

    เคยติดแบล็คลิสต์ นานแล้ว พอจะไปซื้อรถไฟแนนซ์บอกว่าติดแบล็คลิส 10 ปี มันไม่เห็นเหมือนกับที่กฏหมายบอกเลย
    เจ้าหน้าที่บอกประวัติเสีย อืม

  • @user-iq6mo8kv9d
    @user-iq6mo8kv9d ปีที่แล้ว

    ไม่ตกผลึก

  • @warisaravichaipunpuk1671
    @warisaravichaipunpuk1671 ปีที่แล้ว

    ฟังไปฟังมา เหมือนดาบสองคม ดีก้อมี ร้ายก้อมี อาจทำให้ปล่อยยากเข้าไปอีก เปรียบเทียบ
    วีแชท ของจีน เขาเห็นพฤติกรรมการใช้จ่ายลูกค้าผ่านวีแชท ถึงพิจารณาปล่อยกู้เอง แข่งกับแบงค์จีนค่ะ

  • @weed4903
    @weed4903 ปีที่แล้ว

    ดีสำหรับคนไม่มีสิทธิเข้าถึงเงินกู้ เพราะ พฤติกรรมการชำระเงินไม่ดีไง จะมาออกนโยบายแบบนี้ ถาม สถาบันการเงินยัง เขาจะยอมให้คุณทำเหรอ??? แล้วเขาจะยอมคุณทำไม ในเมื่อมันทำให้เขาเสี่ยงมากขึ้น

  • @sahaschairugmanus
    @sahaschairugmanus ปีที่แล้ว +1

    คนไม่มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจเเอาแต่คิดจินตนาการไปเอง ความคิดแบบเด็กๆ แต่ในเชิงปฏิบัติทำได้ยาก ข้อมูลดิบดีแล้ว แต่อยู่ที่วิธีการของธนาคารและมาตรการของแบ้งค์ชาติที่จะทำให้คอสของธนาคารลดลงแล้วสามารถปล่อยกู้ได้ในอัตราดอกเบี้ยถูกลง ยกตัวอย่างเช่น มาตรการตั้งสำรองเท่ากับจำนวนเงินทีี่ปล่อยกู้ มาตรการการยึดทรัพย์ ฯลฯ ยกตัวอย่างกระบวนการยึดทรัพย์ของไทยยืดเยื้อมาก เป็นคอสของธนาคารแล้วมันก็ตกมาถึงผู้เป็นหนี้ ตรงนี้ถ้าคนมีสมองเปลี่ยนได้จะเป็นประโยชน์มากขึ้น เป็นต้น ยกตัวอย่างวิธีการลงเครดิต เช่นหากมีผู้กู้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่ไม่มีปัญญาจ่ายหนี้ แต่ปิดบัญชีไปโดยโอนยกทรัพย์สินที่ไปค้ำประกันไว้ให้ทางธนาคารไป อย่างนี้ต้องบันทึกเป็นเครดิตปรกติ 10 และปิดบัญชีไปแล้วลงว่า 11 ตามแบบที่เคยลงๆๆมา ดังนั้นก็จะไม่มีประวัติใดๆ เพราะถือว่าได้ปิดบัญชีไปแล้วเป็นต้น

  • @user-bv3xz1gk7i
    @user-bv3xz1gk7i ปีที่แล้ว +6

    ไม่ไหว มั่วมาก ค่าน้ำค่าไฟ ก็กู้มาจ่ายได้ ยิ่งเอามาดูยิ่งมั่ว จะละเอียดขึ้นทำไม
    เพราะมันวัดกันที่การกู้ แล้วก็จ่ายคืนตรงเวลา มันสะท้อนถึงความมีวินัยทางการเงินอยู่แล้ว
    พวกนี้น่าจะยิ่งปล่อยกู้ให้ แต่กลับสนับสนุนให้พวกที่กู้แล้วไม่ค่อยจ่าย มากู้ได้อีก
    โดยอาศัยการดูรายจ่ายอื่นๆที่เหมือนดูจ่ายได้ มันยิ่งทำให้เกิดปัญหาเข้าไปอีก
    เกิดหนี้ซ้ำซ้อนเข้าไปอีก

    • @user-mu2zs5dc9q
      @user-mu2zs5dc9q ปีที่แล้ว +1

      นโยบายนี้เกิดขึ้นเพราะคนที่โดนผมกระทบจากโควิด
      ก่อนหน้าโควิดจะมา พวกเขาใสสะอาดมากๆ
      แต่พอโควิดผ่านไป เขากลับมัวหมอง แต่อาจไม่ถึงกับล้ม แต่มันไม่ใสแล้ว
      แบบนี้ก็กู้มาแก้ปัญหา มาขยายธุรกิจไม่ได้สิ
      มองให้รอบด้านนึกถึงใจเขาใจเรา
      มองผ่านมุมมองคนอื่นบ้าง
      อย่ามองแต่มุมตัวเองเป็นหลัก

    • @pairatyimwilai4411
      @pairatyimwilai4411 ปีที่แล้ว +1

      ผมว่า เขามองช่องลักษณะนี้ด้วยนะ คือ ตรงที่เขาเน้นว่า มันมีแต่ขาวกับดำ ได้ กับไม่ได้ แทนที่จะ ได้ดอกต่ำ ได้ดอกสูง ไม่ได้เลย เขาคงยิงเน้นจุดนี้ คือก็ปล่อยกู้ในดอกที่สูงหน่อย ขายตรงนี้น่ะ

    • @GGcxvw558
      @GGcxvw558 ปีที่แล้ว +1

      @@user-mu2zs5dc9q covid เขาก็มีรหัสพิเศษให้อยู่แล้ว
      แต่นี้จะล้างทั้งระบบ ไม่ใช่

    • @user-mu2zs5dc9q
      @user-mu2zs5dc9q ปีที่แล้ว

      @@GGcxvw558 ถ้าไม่ล้างทั้งระบบ คนปล่อย จะไม่ยอมปล่อย เพราะเห็น ว่าติดนิดติดหน่อย ก็หาข้องอ้างไม่ให้ แต่รูปแบบใหม่ เปลี่ยนเป็น คะแนน อารมณ์ เด็กทำคะแนนได้ 79 ปัดขึ้นเป็น เกรด4 แต่ถ้า ได้ 85หรือ 90ขึ้น เปลี่ยนเป็น ดอกถูกๆ ถูกกว่า เดิมที่เคยได้ แบบ ดำกับขาว

  • @verachonraungsamer6989
    @verachonraungsamer6989 ปีที่แล้ว +1

    ทุกวันนี้มันก็มีสกอร์อยู่แล้ว

  • @songforlife3121
    @songforlife3121 ปีที่แล้ว

    การปล่อยสินเชื่อ สถาบันการเงินมีเครื่องมือวิเคราะห์ความสามารถในการชำระหนี้อยู่แล้ว ลูกค้าบางประวัติเครดิตเสีย ก็ยังสามารถปล่อยสินเชื่อได้ credit bureau ก็แค่มีไว้กีดกันลูกค้ารายย่อย สามปีที่ผ่านมา ปชช ไทยมีblacklist ติดตัวเพิ่มขึ้นอีกเยอะ ผมเห็นด้วยน่ะครับที่ควรset zeroใหม่ ให้โอกาส ปชช ได้สร้างเครดิตใหม่ แอพเงินกู้ ยังไม่เช็คประวัติเลย

  • @pvmilk
    @pvmilk ปีที่แล้ว

    ไม่เห็นด้วยกับการหมกเม็ด ประวัติการชำระหนี้
    แต่เห็นด้วยกับการบังคับให้แบงค์แข่งขันกันมากขึ้น แบงค์รวยกันเหลือเกิน ไม่ค่อยทำอะไรให้เป็นประโยชน์เลย

  • @sCisSoRzzz
    @sCisSoRzzz ปีที่แล้ว +2

    scoring มันมีมานานแล้วมั้ง

  • @eimmybb_five-o7899
    @eimmybb_five-o7899 ปีที่แล้ว

    ไปๆมาๆคุณเอ๋ อรรถวิชช์โดนอ.วีระสวนกลับแบบคุณเอ๋แทบไปไม่เป็นน่ะคร้าบ

  • @ktygtrann9174
    @ktygtrann9174 ปีที่แล้ว

    ได้สักเล่มฟรีๆก็ยังดี แค่3เล่มผมก็หมดหวังเลยสิครับ

  • @1914aloha
    @1914aloha ปีที่แล้ว

    ค่าน้ำค่าไฟ ที่ต้องจ่ายตรงเพราะมันโดนบังคับ ถ้าไม่จ่ายก็ไม่มีน้ำไฟใช้ ไม่ใช่ว่าเป็นรับที่รับผิดชอบหนี้ได้ดี คนละเรื่อง

  • @user-jk1uh6ki8z
    @user-jk1uh6ki8z ปีที่แล้ว +1

    รู้จักแต่ซิฟิลิสท์😄

    • @acat2555
      @acat2555 ปีที่แล้ว

      พี่ใหญ่ หนองในเลยนะนั้น

  • @suksangwansoongsak1258
    @suksangwansoongsak1258 ปีที่แล้ว

    ผมว่าผมเห็นด้วยนะกับคุณอรรถวิท มันควรจะเป็นแบบนั้น ดอกเบี้ยควรเป็นขั้นบันได ตามความเสี่ยง ไม่ใช่แบ่ง แบบขาวกับดำ

  • @wasantoch
    @wasantoch ปีที่แล้ว

    ไม่ต้องหลบแบล็คลิสหรอก แค่หนีคดีออกนอกประเทศจนหมดอายุความค่อยกลับมาเสวยสุขแบบชิวๆ

  • @SUSEJ66
    @SUSEJ66 ปีที่แล้ว

    กลุ่มคนพวกนี้ มากกว่าครึ่งเป็นพวกไม่มีระเบียบวินัยในการใช้เงิน
    ให้โอกาสคนพวกนี้ ก็ไม่ต่างจากการปล่อยพวกติดยา ค้ายา ฆ่าข่มขื่น ออกมาจากคุก
    พอออกมาก็ทำร้ายคนดี และสังคมอีก

  • @user-eh1bh7px2k
    @user-eh1bh7px2k ปีที่แล้ว

    ค่าไฟเอฟทีที่ปรับใหม่ทำไมใช้ประเภทค่าไฟมาเป็นเกรณ์แทนที่จะใช้จำนวนหน่วยการใช้เป็นเกรณ์ไม่สมกับความหมายที่ว่าค่าไฟผันแปรที่ใช้เยอะจ่ายเยอะไม่ใช่เหรอ อย่างนี้เท่ากับช่วยคนรวยทำลายคนทำมาค้าขายเล็กๆน้อยนี่คับ

  • @gozillaultraphone5788
    @gozillaultraphone5788 ปีที่แล้ว

    ผมว่าเกิน30%ของประชากรกู้ไม่ผ่าน อันนี้ก็แล้วแต่แบงค์ไม่ให้กู้ก็ไม่ต้องมีหนี้เพิ่ม ประวัติ10ปี ยังเอามาประเมิน ชะตากรรมแบงค์ก็ตัวใครตัวมัน

  • @lungmheechannel
    @lungmheechannel ปีที่แล้ว

    เคยเชียร์คุณกรณ์ครับ ตอนนี้เลิกละ 5555

  • @user-bd3hc8kb1n
    @user-bd3hc8kb1n ปีที่แล้ว

    สรุปอาจารย์ผู้มากกว่าแขกรายการ ไม่ยอมให้แขกรายการพูดเลยตอบแทนเองหมด