เปิด 7 เหตุผลว่าทำไมคนไทยมัก “แก่ก่อนรวย” | Mission To The Moon EP.1981
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 14 พ.ค. 2024
- สมัคร Mission Club | TH-cam Membership ได้ที่ www.youtube.com/@Missiontothe...
.
เชื่อว่าหลายคนมีความคิดที่ว่า
ถ้าตั้งใจทำงานหนักด้วยความสุจริต
เก็บออมเงินอย่างสม่ำเสมอ
สักวันเราจะต้อง “ร่ำรวย” ได้
.
แต่ปัญหาก็คือ กว่าจะถึงวันนั้นจริงๆ
เราอาจจะต้องรอไปจนแก่เฒ่า
หรือบางทีแล้วเราอาจไม่เคยได้สัมผัส
กับความร่ำรวยที่เราตั้งใจสร้างไว้เลยด้วยซ้ำ
.
ปัญหานี้เกิดขึ้นกับคนไทยหลายๆ คน
จนถึงขั้นเกิดเป็นประเด็น “คนไทยแก่ก่อนรวย” ขึ้นมา
ใน EP. นี้จะชวนมาทำความเข้าใจไปพร้อมๆ กันว่า
เพราะเหตุใดปัญหานี้จึงเกิดขึ้นกับคนไทย
.
.
เชิญรับฟังพร้อมๆ กันได้ใน MM Podcast EP.1981 | เปิด 7 เหตุผลว่าทำไมคนไทยมัก “แก่ก่อนรวย”
.
Timestamp:
00:00 Intro
03:26 ปัญหา “แก่ก่อนรวย” ของประเทศยากจนในเอเชีย
12:30 สภาพปัญหาโลกที่หนึ่งในประเทศโลกที่สาม
14:17 เหตุผลว่าทำไมคนไทย “แก่ก่อนรวย”
.
.
#การเงิน
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
.
.
ติดตาม Mission To The Moon Media ได้ที่
.
Website: bit.ly/3oHFe99
Facebook: bit.ly/32Oe4nW
Instagram: bit.ly/2OMR30ah
Twitter: bit.ly/2TyBOH6
Blockdit: bit.ly/3jI0pEk
TH-cam: bit.ly/3DWhaFG
TikTok: bit.ly/35Gq8aX
SoundCloud: bit.ly/3e4Tzax
Podbean: bit.ly/3oCqU1g
Spotify: spoti.fi/37MNajh
Apple Podcast: apple.co/3qiv2cp
Clubhouse: @mttmclub
Shopee : shope.ee/9eovnwIQUa
Lazada : s.lazada.co.th/l.XyN0
Line OA : lin.ee/UA8TjgJ
Line MyShop : shop.line.me/@missiontothemoon
สาเหตุทั้งเจ็ดข้อคือ อคติเชิงพฤติกรรม (ตัดสินใจไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง)
1. เน้นปัจจุบันมากกว่าอนาคต (ค่านิยม YOLO คือ ชีวิตนี้มีครั้งเดียว, ของมันต้องมี, คว้าความสุขตอนนี้มากกว่าอดเปรี้ยวไว้กินหวาน) ทำให้ออมน้อย
2. ยึดติดสภาวะที่เป็นอยู่ ทำให้ไม่ลองวิธีการอื่น ๆ เช่น ไม่ลองวิธีออมอื่นที่ไม่คุ้นเคย แม้ว่าผลตอบแทนจะดีกว่า
3. มองสั้น เลือกทางเลือกที่เน้นผลลัพธ์ระยะสั้นมากกว่าระยะยาว
4. กลัวความสูญเสียเกินไป
5. ไม่เข้าใจพลังของผลตอบแทนทบต้น
6. ฟุ่มเฟือยตามเพื่อนหรือคนใกล้ชิด
7. มองโลกอนาคตแง่ดีเกินจริง
ต่อให้ประชากรไทยเพิ่มขึ้น แต่ถ้าไม่มีคุณภาพ นอกจากจะไม่ช่วยพัฒนาประเทศแล้ว น่าจะเป็นภาระ หรืออาจมาวิ่งตีกันจนคนอื่นรับเคราะห์กรรมไปด้วยแบบที่เห็นในข่าว
สรุป ถ้าจะแก้ไขต้องแก้ในภาพรวม ไม่ใช่แค่เพิ่มจำนวนประชากร
ทุกวันนี้กลัวอย่างเดียวคือเจ็บป่วย เข้า รพ. ทีคือเงินหายหมด พ่อเคยป่วยโรคหัวใจ เข้า รพ. ทีจ่ายไปล้านกว่า แม่เข้า รพ. เพราะโควิดลงปอด อาทิตย์เดียวสามแสน ชีวิตไม่มีเงินคือตายจริงๆ แพงไปหมดทุกอย่างเดี๋ยวนี้
เห็นด้วยค่ะเจอแบบเดียวกันพ่อป่วยเข้าเอกชนผ่าตัด.ล้านกว่าบาท
@@amonratsiriwasanakhun2619 ยังไม่รวมค่ายาและนัดพบอีกเรื่อยๆ 😂
จริงครับสิ่งที่ทำให้คนล้มละลายคือเข้า รพ นี่แหละ
ปล้นแบบถูกกฏหมาย
ทำประกัน
อีกทางหนึ่งที่ช่วยได้บ้างคือ คนไทยต้องเลิกใส่ความคิดให้เด็ก ว่า โตขึ้นต้องเลี้ยงดูพ่อแม่ พ่อแม่เมื่อคิดได้ว่าต้องเลี้ยงดูตัวเองตอนแก่ เค้าจะคิดอีกแบบ จะเก็บเงินอีกแบบ จะมีลูกเมื่อพร้อม ไม่ใช่มีลูกให้มาเลี้ยงเราตอนแก่
ผมก็พ่อคนแล้ว ปัจจุบันลูกสาว 7 ขวบละครับ ผมจะบอกลูกเสมอว่า ลูกใช้ชีวิตของตัวเองให้เต็มที่ อยากทำอะไรในสิ่งที่ดีทำไปเลย พร้อมสนับสนุน สุขภาพของป๊า ป๊ารับผิดชอบตัวเองเสมอ ไม่ต้องกังวล
คนรุ่นใหม่สมัยนี้ก็คิดแบบนี้เป็นส่วนใหญ่แล้วละครับ แต่ต่อให้คิดเป็นกันแล้ว คนชนชั้นกลางวัยทำงานเขาก็ไม่ค่อยอยากจะมีลูกกัน ถ้าการใช้ชีวิตมันยังยากแบบนี้อยู่
คงไม่สามารถเพิ่มประชากรแล้วจริงๆ ต้องเปิดรับแรงงานต่างชาติมากขึ้นแล้วค่ะ เศรษฐกิจจะได้เดินค่ะ คนเก่าๆก็ต้องเรียนภาษาเพิ่ม ให้เมืองเป็นแบบ Inter ให้ได้
เห็นด้วยมาก ๆ ค่ะ ก่อนนี้ใช้ชีวิตแบบลืมตาย ลืมแก่ แต่เจอโควิด คิดได้เยอะเลยค่ะ อาจจะเป็นข้อดีของโควิด ช้าหน่อย แต่อย่างน้อยก็ค่อยๆ เริ่มเก็บ เพราะตอนนี้ไม่มีหนี้ และคิดก่อนใช้เยอะมากขึ้น
ชีวิตผมดีขึ้น สติผมดีขึ้น ความคิดผมดีขึ้น สภาพแวดล้อมในชีวิตผมดีขึ้น เพราะผมฟัง Mission To The moon
ค่าครองชีพมันพุ่งไวมาก สำหรับคนทั่วไป รายได้/เงินเดือน มันตามไม่ทัน ต่อให้ได้รับเงินเดือนเพิ่มทุกปี แต่ยังไงก็ตามไม่ทันจริงๆ
เพื่อนๆเราหลายๆคนคือน่าจะหนัก แบกทั้งลูกทั้งพ่อแม่ รุ่นคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่มีเงินเก็บ (ไม่พอ บางคนมีหนี้) พยายามกดดันให้ส่งเสีย ส่งเงินให้
เทียบเเล้ว คนที่ฐานะเพราะพ่อแม่ปู่ย่าทิ้งทรัพย์ตกทอดมา หรือทำธุรกิจจนรวย ก็ไม่ต้องเครียดมาก
คิดว่าในประเทศนี้คือถ้าไม่เกิดมามีเงินมีทองบ้าง ก็คือลำบากจริงๆ ลำบากมากๆ
หัวข้อดีมากๆครับ คอยมาเตือนกันเรื่อยๆนะครับ
คอนเท้นตอนนี้ดีมากๆๆค่ะ มีประโยชน์😊😊😊
เตรียมตัวให้พร้อม ไม่เป็นภาระลูกหลาน ให้เขาใช้ชีวิตของเขาไป
เมื่อก่อน ทำงาน เก็บเงิน แต่งงาน มีลูก มันง่ายมาก ต้นทุนชีวิตตอนนั้นยังไม่แพง แต่พอมาปัจจุบันถ้าต้นทุนชีวิตไม่ดี การจะได้ทำงานดีๆ มั่นคง เงินเดือนดี มันยากแล้ว ยิ่งถ้าไม่ได้จบสถาบันดัง ต้องไปเริ่มทำงานตามบริษัทเล็กๆ หรือไม่มุ่งสอบบรรจุราชการไปเลย การจะไปถึงขั้นนั้นได้ต้องใช้เวลา ไหนจะแบ่งเก็บเงินอีก
ส่วนเรื่องแต่งงานอย่าพูดถึงว่าจะได้แต่งก่อน 30 แล้วจะมีลูกได้เลยหลายคู่ได้แต่งกันหลัง 30 - 31 - 32 กันทั้งนั้น เรื่องมีลูกอย่าถามถึง หลายคู่ที่ทั้งยังไม่แต่งและแต่งแล้ว ยังเช่าอยู่ ก็อยู่ในช่วงทางสองแพร่ง ระหว่าง บ้าน กับ ลูก ที่ทั้งสองอย่างมีภาระระยะยาวพอกัน บางคู่มันไม่สามารถเลือกได้ทั้งสองอย่าง และมันยากมากๆ ที่จะทำสำเร็จได้ทั้งสองอย่างพร้อมกัน มันไม่ใช่เมื่อก่อน ไหนจะวางแผนเกษียณ ต้องแบ่งลงทุน และ บริหารหนี้สินยังไงให้จบก่อนเกษียณ โจทย์ชีวิตปัจจุบันยากขึ้น ความไม่แน่นอนมีสูง
ทุกอย่างมันแพงมากค่ะ สื่อทำร้ายคนมาก คนเปลี่ยนไป ป่าไม้ อากาศ ยาเสพติด….
ขอบคุณค่ะ ทำให้โฟกัสชัดเจนขึ้น 😊🙏✨
ขอบคุณค่ะ❤
ขอบคุณครับ
ปัญหาเชิงโครงสร้าง ถามว่ารัฐรู้ไหม รู้สิ แต่ก็ไม่ทำอะไรมากไปกว่านี้หรอก เราทุกคนก็รู้ดี สุดท้ายแล้ว ประชากรจะลดลง เศรษฐกิจจะเติบโตน้อยลง และไม่รู้อนาคตจะเป็นยังไงต่อ และผมไม่หวังพึ่งรัฐ หรือ ใครแน่นอน ทำงาน เก็บเงิน ลงทุน เกษียนด้วยตัวเองได้
ทำประกันสุขภาพช่วยได้เยอะ ให้ คิดว่ามันคือรายจ่ายที่ผมต้องจ่าย เหมือนค่าน้ำค่าไฟค่าส่วนกลางหมู่บ้าน ภาษี ค่าอินเทอร์เน็ต แต่ต้องดูแลสุขภาพให้ดีที่สุดด้วย กิน นอน ออกกำลังกาย ผมไม่ได้ทำงานขายเวลา ผมมีอาชีพของตัวเอง จัดสรรเวลาได้ ชีวิตเรียบง่าย มีเงินใช้ เงินเก็บ เงินลงทุน ไม่ได้เยอะ แต่จะพัฒนาตัวเอง หาข้อมูล หาความรู้ หาคอนเน็คชั่น ตามแผนที่วางไว้
Thanks for Mission To The Moon 🎉🎉❤❤❤❤❤
ค่าแรงก็กดกันจังเลย แล้วอยากให้คนมีลูกแต่เอาเปรียบกัน ส่วนตัวอนาคตถ้าต่างชาติพูดไทยได้ การศึกษาดีให้สัญชาติไปเลยย
ต้องมีความรู้เรื่องการลงทุน และการเงินส่วนบุคคล
ขอบคุณครับ... สาเหตุหลักๆปัญหาแก่ก่อนรวย มาจากความประมาท ตวามต้องการเสพสุขตามใจต้องการ ความเปรียบเทียบในสังคม ......แต่รายได้ไม่ได้ตามที่คิดไว้ ปัจจุบัน 40 ปลายๆ ถ้าไม่เก่ง บริษัทมันก็บีบ ให้ออกแล้ว
แนวความคิดข้อแรก เคยเป็นสูตรสำเร็จจริงๆ (เคยเป็น)
แล้วคนวางแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20ปี คือ... น่าเศร้า
กอช. ที่ตั้งในสมัยอภิสิทธ์ ยังมีอยู่เปล่าครับ
อย่าว่าแต่ไทย คนจนสูงวัย ฮ่องกง นี้ลำบากมากทั้งๆที่ GPD ฮ่องกงสูงมาก
เละเหมือนกันครับ 😅🤣
บางครั้งบอกว่า ลงทุนกับตัวเองเรื่องการลงทุนสำคัญนะคะ แต่นโยบายหรือแนวทางต้องหาเหมาะสมกับตัวเองค่ะ
อยู่คนเดียวไม่มีภาระ คิดถูกที่เลือกยุคนเดียว😅😅😅
ชอบ นาทีที่ 3.17 แต่ไม่จริง>"< 55555
❤❤
จากที่เจอในครอบครัวตัวเอง และครอบครัวของน้องๆพี่ๆพนักงานที่เคยได้ร่วมงานกันหลายๆภูมิภาค พบว่าคนวัย50+ ของแต่ละครอบครัวสร้างหนี้เก่งมากกก จะอยู่ได้อีกไม่นานแล้วขอใช้ชีวิตให้เต็มที่หน่อย ค่อยให้ลูกหลานรุ่นต่อไปจัดการหนี้ส่วนนี้แทน ทัศนคติแบบนี้ที่มากขึ้นเรื่อยๆทำให้รุ่นลูกหลานยังไม่ทันสร้างชีวิตของตัวเอง หนี้สินจากรุ่นก่อนหน้าก็มาจ่อรอแล้ว แถมยังต้องคอยดูแลคนสูงอายุในบ้านอีกสิ่งนี้คือหน้าที่ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องเจอ
ลูกหลานต้องใจแข็ง บริหารเงิน สอนเค้าด้วย ไม่ให้หมดหน้าตัก❤😅
มันจะรวยได้งัย เหลี่ยมกันเกือบทั้งประเทศ
เปลี่ยนเป็นโฟกัสให้คนมีคุณภาพแทนดีไหมครับ มีคนมากๆแต่ไม่มีคุณภาพ พาแต่จะสร้างแต่ปัญหา
คนน้อยลงก็ใช้จ่ายน้อยลง พื้นที่ทำมาหากินต่อประชากรเพิ่มขึ้น ทำไมไม่มองแบบนี้บ้าง
🎉
ค่าครองชีพยุคนี้สูงมากกกก
จะให้ทำไง สุดท้ายปัญหาบางอย่างมันเริ่มที่ตัวเองไม่ได้ ผลกระทบจากปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศนี้
✔️👍💯
เรื่องนนี้เรื่องใหญ่ครับ 😂
เปรียบเทียบแบบนี้ไม่ได้หรอก ปัญหามาจากโครงสร้างการจ้างงาน ประเทศโลกที่1 มีค่าเเรงที่สูงชั่วโมงการทำงานน้อยสามารถ ทำ 2 กะได้ในวัน้ดียว ไทยเค้าจ้างมาทำงานวันละ 8-12 ชม. แล้วจ่ายค่าเเรงที่ต่ำกว่าหลายเท่า แบบนี้มันจะมีเงินเก็บได้ไง
ค่าครองชีพเท่ามาเลย์กับไต้หวัน แต่รายได้ต่ำกว่า 2-5 เท่า
ทำประเทศให้น่าอยู่ คนจะกล้าให้ลูกเกิด
สวัสดค่ะตอนเช้าที่นะคะใช่คะพอร์ตกองทุนรวมและพอร์ตหุ้นติดลบคะขอบคุณข้อมูลที่ดีคะ
สูงวัยพิการ 3,000 บาทต่อเดือนก็มีอาหารกินแล้ว
14:45
พอร์ตแดง😅😅😅
แก่ก่อนรวย กับ ตายก่อนอยู่ดีกินดี อันไหนร้ายแรงกว่ากัน
แก่ก่อนรวยนะผมว่า เพราะแก่แล้วไม่มีตังค์ต้องอดๆอยากๆ ทุกข์ แต่ไม่ตายสักที แต่อีกอันก็สภาพที่เป็นอยู่อยู่แล้ว แล้วก็ตายไปเลย
แก่ก่อนรวยทรมานกว่าค่ะ ตายแล้วก็ตายเลย
คนแก่ อนุรักษ์นิยม ก็สอนเป็นอย่างเดียวคือ ออม และเส้นสาย ส่วนคนหนุ่มก็ฟุ้งเฟ้อ เห่อแบรนด์ พอ ๆ กัน บ้านเราเลย จนไปจนแก่ 5555
ประเทศมีผลครับ ฝากอีก 1 ข้อมี่ควรพูด
เอะอะก็อ้างเอกสารของฝรั่ง แต่ไม่เคยเอาหลักการของพระพุทธศาสนามาพูด โดยเฉพาะเรื่อง หัวใจเศรษฐี เออเกือบลืม ชาวพุทธแค่ในบัตรประชาชน
ก็ ... ประทานโทษนะครับเสธ. พระสงฆ์ในพุทธเถรวาทบ้านเราเคยลุกขึ้นมาพูดเรื่องการปรับวิถีชีวิตของฆราวาทเพื่อเตรียมเกษียณเหรอครับ
ผมไม่เคยได้ยินสงฆ์หรือนักบวชศาสนิกไหนพูดเรื่อง portfolio allocation หรือ dollar cost averaging เลยครับ เพราะว่าเรื่องทางเศรษฐศาสตร์ไม่ใช่ความถนัดของผู้นำศาสนานี่ครับ
และโดยส่วนตัว ผมเป็นพุทธแค่ในบัตร เพราะรู้สึกว่าปัจจุบันพฤติกรรมของสงฆ์ไม่น่าศรัทธาครับ ต้องขออภัยด้วยครับ แต่ ปสก. ส่วนตัวมันทำให้ผมไม่อยากข้องเกี่ยวกับตัวองค์กรศาสนาพุทธมากเกินกว่าที่จำเป็นครับ
อย่าเอาญี่ปุ่นไปเปรียบเทียบไทย คุณภาพชีวิตของคนญี่ปุ่นดีกว่าไทยหลายเท่า
มันต้องเพิ่มรายได้อย่างเดียวถึงแก้ไขได้
คงสมใจคนวางแผนกลยุทธ์ชาติ 555
ปัญหาคือ ตรรกะของคนในประเทศ
-ลัลลาเฮฮาหลังเลิกงานไปวันๆ
-ทำงานติดชิล เน้นสนุกไปวันๆ คนไทยสบายๆ ไม่จริงจังเรื่องชีวิต แต่จริงจังกับการ ใช้ชีวิตกูในแบบกู อัตตาตนเอง
-คนไทย ไม่มีจุดยืนของตัวเอง ตามกระแสได้ง่าย ทำอะไรตามๆกัน น้อยคนที่จะสร้างสรรอะไรขึ้นมาใหม่ๆ แล้วคนก็ทำตามๆกันอีก วนไป
-ประเทศไทยให้อิสระกับคนไทยเยอะมากกกกๆๆ รับทุกสิ่งทุกอย่างจากทุกมุมโลก.. อย่างจีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เค้าไม่ได้เปิดไปซะทั้งหมด.. ประเทศเหล่านี้ จะมีความ "อะไรก็ได้ =ไม่ได้" อยู่ในกฏของเค้า .. ประเทศไทย คือ "อะไรก็ได้= ก็ได้" ..เลยชิลๆไม่คิด ไม่เครียดเยอะ ทำไรไม่จริงจังแบบประเทศพวกนี้
-คนไทยอยู่ลำบากในแบบวิถีคนไทย ..แต่ไม่เคยลำบากในแบบที่ ประเทศอื่นเค้าเคยเจอก่อนที่เค้าจะเจริญ
-คนไทยหวังพึ่งคนอื่น ทุกอย่างต้องรอ .. พึ่งคนรอบข้าง พึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พึ่งรัฐบาล.. ระหว่างรอเวลา ก็ติดชิลๆกันไป.. บ่อยครั้งมันเลยเกิดสิ่งที่ผิดแผนขึ้นได้.. โดยลืมไปว่า สังคมต้องพึ่งพากัน ใจเค้าใจเรา ไม่ได้มีแค่ "ตัวเอง" "พวกพร้องตัวเอง" "ครอบครัวตัวเอง" .. สิ่งที่จะช่วยเปลี่ยนประเทศนี้ได้คือ เปลี่ยน(ตรรกะ)ตัวเอง แต่ละบุคคลก่อน เริ่มที่ตัวเองที่บ้าน ให้คนไทยตีโจทย์ให้แตกก่อนว่า ปัญหาเกิดจากทุกคนในประเทศ ส่วนเล็กๆน้อยๆที่ละเลยกัน มันก็เป็นปัญหาประเทศได้ เพราะมันคือภาพรวมประเทศ เช่นเรื่อง ขยะ
-คนไทยไม่เคยให้ลูกลำบาก ทำทุกอย่างเพื่อลูก และเพื่ออนาคตลูกจะได้กลับมาดูแลตนเอง
-ให้ค่ากับวุฒิการศึกษา หลายๆประเทศเค้าให้ค่ากับการ "ใช้ชีวิต ประสบการณ์การชีวิต" เมื่อหาเงินเองได้แล้ว ค่อยกลับมาเรียนระดับสูง ไม่ได้เน้นว่า "ต้องจบก่อนเพื่อแลกเงินที่ดีกว่า"
-ประเทศไทยเน้นศิลปะ บันเทิง มากกว่า พัฒนาการเงินและวิทยาศาสตร์ ..นั่นแหละ เล่นไปโลกออนไลน์ (คนไทยใช้เป็น สร้างไม่เป็น..เป็นแค่ user) พอเสพเยอะ เห็นอะไรเยอะเข้า อยากมี อยากได้ อยากทำตาม แบบคนอื่นเค้าบ้าง แล้วพอเกิดเป็นกระแส ก็ทำตามๆกัน พูดเหมือนๆกัน ตรรกะก็คล้อยตามๆกัน สื่อเสพมาไง ก็คล้อยตามแบบนั้น
-สื่อมีผลกับคนในประเทศนี้มาก ไม่ว่าจะ วงการดาราบันเทิง ไฮโซ ที่ชอบมาอวดนี่นั่นกัน ทำให้คนอยากจะได้อยากจะมี ไม่ว่าจะการกิน การใช้ชีวิต การท่องเที่ยว ทำให้คนยอมเสียเงินง่ายๆกับเรื่องที่ไม่จำเป็น
-มนุษย์ ไม่ได้เข้าใจ สัจธรรม ในความเป็นมนุษย์จริงๆ เลยหลงไปได้ง่ายกับสิ่งที่ปรุงแต่งขึ้น ไม่ว่าจะคนไทยหรือต่างชาติ ทุกคนตกในบ่วง ที่กำหนดกฏเกณฑ์ ค่านิยมที่ปรุงแต่งขึ้นมากันเอง และนั่นคือทุกข์ อยากสุขก็คือทุกข์ เมื่อมีความอยาก ไม่ว่าทุกข์นั้นจะมาในรูปแบบไหนของคนแต่ละคน แต่ละประเทศ มันไม่มีที่สมบูรณ์แบบ
ประเทศที่คิดว่าเค้ารวยนี่คทอ รายได้เยอะ แต่ภาษีของเขาก็เยอะและยุ่บยั่บ อันนี้ไม่พูด สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของคนๆนั้นเองนั่นแหละ
ภาษีเค้าไม่ได้เก็บดะตะพึดตะพือนะ เค้ามีเกณท์ขั้นต่ำ ยกเว้น ได้ลดได้คืนในคนเกษียณด้วย คนเค้าอยู่สบาย ได้ไปท่องเที่ยว นั่งจิบกาแฟอาบแดดที่สวยๆก็แล้วกัน ของกินที่ขายก็คัดแต่ของดีมีประโยชน์มาขายเช่นแครอท บร็อคโคลี่ สลัด มะเขือเทศ แอปเปิ้ล องุ่น ถั่วนัทต่างๆ ของไม่ได้ขึ้นราคาตามใจชอบแบบไทยด้วย ตามที่สังเกต
เพราะความเห็นแก่ตัวของนายทุน
ตอนแรกท้อมากเพราะครอบครัวไม่ได้เหลือมรดกอะไรไว้ให้เลย ต้องเริ่มต้นเองจาก0 แต่พึ่งมารู้ทีหลังว่าเขาเลี้ยงเรามาให้มีมายเซทการเงินที่ดีโดยไม่ได้สอนแต่ทำให้เราดูจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เราโชคดีมากที่ไม่ต้องห่วงว่าจะเอาเงินไหนเลี้ยงพ่อแม่ตอนแก่เพราะพวกท่านมีแผนของตัวเองพร้อมแล้ว เราเห็นตัวอย่างของคนที่ทำตัวจนๆและพึ่งได้เที่ยวต่างประเทศครั้งแรกตอน65แต่ก็มีความสุขดี ส่วนเราเองก็ใช้ชีวิตจนๆยังไม่คิดจะซื้อบ้านซื้อรถ มีความสุขกับการนั่งอ่านหนังสือเงียบๆ ที่เก็บเงินได้ก็เพราะความสุขของเราราคาถูก สุขเพราะเราชอบแบบนี้ไม่ได้อยากทำตามหรือซื้อของแพงๆไปอวดใคร
ไม่รวยไม่มีสิทธิ์แก่ เพราะฉะนั้นอย่าทำตัวแก่ เพราะสังคมไม่เห็นหัว ไม่ส่งสารคนแก่ๆจนๆช่วยตัวเองไม่ได้ เว้นแต่พวกปากหวานในโซเชียล ดังนั้นอย่ารีบแก่ดูแลตัวเองดีๆ จะได้มีแรงหาเงินได้นานๆ
ฟังแล้วเครียดค่ะ แต่ยอมรับว่า ควรตระหนักเรื่องนี้ให้มากขึ้นจริงๆ ขอบคุณที่ช่วยทำให้เห็นปัญหาที่ได้ชัดขึ้นค่ะ
เลิกเลี้ยงหอยเลิกขายโอเลี้ยง แค่นี้แหละ
สาเหตุทั้งเจ็ดข้อคือ อคติเชิงพฤติกรรม (ตัดสินใจไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง)
1. เน้นปัจจุบันมากกว่าอนาคต (ค่านิยม YOLO คือ ชีวิตนี้มีครั้งเดียว, ของมันต้องมี, คว้าความสุขตอนนี้มากกว่าอดเปรี้ยวไว้กินหวาน) ทำให้ออมน้อย
2. ยึดติดสภาวะที่เป็นอยู่ ทำให้ไม่ลองวิธีการอื่น ๆ เช่น ไม่ลองวิธีออมอื่นที่ไม่คุ้นเคย แม้ว่าผลตอบแทนจะดีกว่า
3. มองสั้น เลือกทางเลือกที่เน้นผลลัพธ์ระยะสั้นมากกว่าระยะยาว
4. กลัวความสูญเสียเกินไป
5. ไม่เข้าใจพลังของผลตอบแทนทบต้น
6. ฟุ่มเฟือยตามเพื่อนหรือคนใกล้ชิด
7. มองโลกอนาคตแง่ดีเกินจริง
❤❤
🤍
เพราะความเห็นแก่ตัวของนายทุน
เพราะความเห็นแก่ตัวของนายทุน
เพราะความเห็นแก่ตัวของนายทุน
เพราะความเห็นแก่ตัวของนายทุน