ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
🔴 สเปรย์เคลือบเงาสีรถ 🔴เคลือบรถด้วยชั้นฟิลม์เซรามิก 🌞💋สูตรเข้มข้นพิเศษ my car crystal wax💋กันรอยขีดข่วน ฟื้นฟูสีรถที่ซีด กันความร้อน กันน้ำ กันคราบขี้นก กันฝุ่น 💋🌈จัดโปรโมชั่น จากราคา 990 ลดราคาเหลือ 390 เท่านั้น🌈💋ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกได้เลย lin.ee/FIhLaNw💋ฟรีค่าจัดส่ง บริการเก็บเงินปลายทาง ทั่วประเทศ ✈
สรุป วิ่งปกติ ทางไม่ชัน ใช้ D ทางขึ้นเขาลงเขา ใช้เกียร์ต่ำลงมา ลองใส่ที่ 3 ถ้าเหมือนรถมันไม่ไหว ลงมา2 ถ้า2 ก็ยังไม่ค่อยดี เรายังต้องเบรคเยอะ ลงมา1-Lวิ่งไปสักพัก ทางถนนเรียบ ไม่ชัน ไม่เกิดอุปสรรค ก็กลับไปใส่D ใช้เกียร์ตามสภาพถนน
Tubelvlaster ขอบคุณค่ะที่อธิบายให้เข้าใจง่าย
ขอบคุณที่รอธิบาย
สามารถเปลี่ยนเกียร์ในขณะที่รถวิ่งอยู่ที่ความเร็วเท่าไหร่ค่ะหรือว่าเปลี่ยนได้เลยโดยไม่ต้องแตะเบรก
@@PooPoo-zk3yt เกียร์ 2 และเกียร์ 1 หรือ L ใช้ในรอบความเร็ว! ต่ำๆ ครับ! เช่น ขึ้นเนิน ขึ้นเขา ลงเขา ส่วน D3 เอาไว้เร่งแซง! ประมาณนี้ครับ. แต่ขับในเมืองแทบจะไม่ได้ใช้เลย! ขนาดขึ้นลานจอดรถในห้าง เกียร์ D ยังไหวเลยครับ! เกียร์มันจะปรับของมันเอง!
@@PooPoo-zk3yt แต่ละตำแหน่งจะมีช่วงความเร็วของมัน ในคู่มือจะบอกไว้ครับ รถส่วนใหญ่ ตำแหน่ง P,R,N,D จะกำหนดตัวอักษรเหมือนกันแต่ตำแหน่งเกียร์ต่ำอื่นๆ อาจกำหนดแตกต่างกันยกตัวอย่างP,R,N,D,3,2,1บางรุ่นอาจเป็นP,R,N,D4,D3,Lหรือ P,R,N,D,S,Lแล้วแต่รุ่น/ยี่ห้อผมจึงใช้ว่า ให้ลดเกียร์ทีละ Stepอธิบายง่ายๆคือ step ถัดไป ความเร็วสูงสุดของเกียร์นั้น จะต่ำลงไปเรื่อยๆ ตาม stepจึงควรต้องลดความเร็วให้อยู่ในเกณฑ์ ของ step ถัดไปที่เราจะเลื่อนคันเกียร์ไปหาเสียก่อนหมายความว่า เรายังจำเป็น ต้องใช้/เหยียบเบรกให้ความเร็วรถลดต่ำลงมาอยู่ในเกณฑ์ของ step ต่อไปก่อนเช่น จาก D4 จะเลื่อนไป D3 ถ้าคู่มือบอกว่า ความเร็วของ D3 สูงสุดไม่เกิน 80 km/ hr เราก็ต้อง เหยียบเบรคให้ความเร็วตกลงมาต่ำกว่า 80 Km/hr ก่อน แล้วจึงเลื่อนคันเกียร์ไป D3 ได้อย่างไรก็ตาม บนเขาที่ชันมาก เราคงไม่ขับ 100 km/hr อยู่แล้ว ครับแต่คนชำนาญหรือนักซิ่งเขาอาจขับได้ คนไม่ชำนาญ ไม่ได้เรียน ไม่ได้ฝึกมา ไม่มีความรู้เรื่องเทคนิครถยนต์ และไม่ชำนาญเส้นทาง อย่าขับเร็วครับ ถือว่าประมาทมากครับดังนั้น เวลาขับรถบนเขา ควรใช้ความเร็วที่เหมาะสม อยู่ในเกณฑ์ที่ไม่สุ่มเสี่ยงเวลาลงเขา ถ้าเราใช้ความเร็วต่ำพอ ( เช่น ต่ำกว่า 60 km/ hrเมื่อเจอทางลงชันมาก เราสามารถเปลี่ยนจาก D4 มา D3 ได้เลย รถจะตื้อ จนช้าลง โดยไม่ต้องเหยียบเบรก ( engine brake มาช่วยแล้ว) ถ้าเรารู้สึกว่ามัน ok แล้ว มันหน่วงพอสมควร รถไม่ไหลลงพรวด จนใจหาย ความเร็วลดลงมาในระดับควบคุมได้ ก็ พอแค่นั้น แล้วก็คุมพวงมาลัยไปตามทางลง แต่ถ้ารู้สึกว่ายังไม่พอ ก็เลื่อนไป D2 อีก step หลักพิจารณาอีกข้อ คือ เราต้องสังเกตว่า ทางลงมันชันมากแค่ไหน ยิ่งชันมาก ยิ่งต้องลดความเร็วให้ต่ำมากที่สุดก่อนลงทางชัน แล้วเลื่อนมาเกียร์ต่ำสุดเลย คือ step สุดท้ายเลย ไม่ว่าจะใช้ตัวอักษร หรือตัวเลขอะไรอาจเป็นเลข 1 หรือ อักษร L ( low gear)หลายท่าน อาจไม่เข้าใจความหมายของแต่ละตำแหน่งผมขออธิบายคร่าวๆดังนี้ตำแหน่ง D ถ้าใน spec บอกว่า รถคันนี้มีกี่ speed ( กี่เกียร์) เช่น บอกว่ารุ่นนี้มี 5 speed ตำแหน่ง D ก็จะเป็นออโต้5 speedคือ เกียร์จะเปลี่ยนขึ้น/ลง้อง ตามสภาพการขับขี่ ตามความเร็วรถ และ สภาพถนน ( ขึ้นเนินลงเนินที่ไม่ชันมาก)ตามที่เราเหยียบคันเร่ง โดยมันจะทำงานได้ 5 speed อัตโนมัติตำแหน่ง D4 ก็คือ ทำงานแบบออโต้ เหมือนกรณีแรก แต่มีแค่ 4 speedตำแหน่งอื่นๆที่เหลือ ก็คล้ายกันยกเว้นรถที่ขายในบางประเทศ ภูมิประเทศ ภูมิอากาศต่างกัน เขาอาจออกแบบต่างจากรถที่มาขายบ้านเราเขตร้อน เช่น ในเมืองหนาว อาจมีสวิทช์ Winter mode พิ่มเติม เพื่อล็อคให้แต่ละตำแหน่งเป็นเกียร์นั้นเกียร์เดียว เช่น ตำแหน่งสอง 2 ถ้ากด Winter mode มันจะล็อคให้ตำแหน่งนี้มีเกียร์ 2 เกียร์เดียว ตำแหน่ง 3 ก็เป็นเกียร์ 3 เกียร์เดียว เป็นต้น คือในการออกตัวบนหิมะ หรือน้ำแข็ง ถ้าใช้ L ล้อจะฟรี ถ้าไม่มีระบบ Traction Controlเขาจึงแนะนำให้อกรถด้วยเกียร์ 2 หรือ 3 บนหิมะ หรือน้ำแข็ง จึงจำเป็นต้องกดสวิทช์ Winter Mode แล้วเลื่อนคันเกียร์ไปที่ 2 หรือ 3 ตามความเหมาะสม
ลงเขายาวๆนานๆโค้งเยอะๆอย่างลงจากดอยอินทนนท์ ถ้าไม่ใช้แรงอัดจากกระบอกสูบช่วยเบรก (engine brake) ด้วยการเลื่อนคันเกียร์มาตำแหน่งเกียร์ต่ำ ทีละ step ( ขึ้นอยู่กับองศาความลาดชันในขณะนั้น ) ผ้าเบรกมีสิทธิ์ไหม้ จะเบรกไม่อยู่ (เกิดอาการที่เรียกว่า brake fade) เวลาเกิดปัญหานี้ขึ้นมาขณะลงเขาชันและเป็นทางโค้งมีเหวละก็ ใจหล่นไปตาตุ่มครับ เวลาเหยียบเบรก แป้นเบรกจะรู้สึกแข็งเหมือนปกติ แต่เบรกไม่อยู่ครับ ถ้าเจอแบบนี้ให้รู้เลยว่าผ้าเบรกมัน fade แล้ว (เบรกไม่อยู่เพราะผ้าเบรกไหม้ ถ้าสังเกตจะเริ่มได้กลิ่นไหม้)คนไทยจำนวนมาก ยังไม่เข้าใจวิธีขับรถเกียร์ออโต้ขึ้นเขา ลงเขา ผมลงจากดอยอินทนนท์เมื่อหลายปีมาแล้ว รถข้างหน้าแทบทุกคันโดยเฉพาะที่ติดป้ายทะเบียน กทม เลียเบรก ไฟเบรกติดยาวตลอดแทบทุกโค้ง มีสิทธิ์เกิดอุบัติเหตุเพราะผ้าเบรกไหม้ได้ครับ คุณภาพของผ้าเบรกที่ใช้ก็มีส่วน ถ้าใช้ของไม่ได้มาตรฐาน เวลาขับลงเขาและใช้เบรกหนักๆบ่อยๆ ความร้อนจะสูงมาก ผ้าเบรกที่ไม่ได้มาตรฐานจะ fade ได้ง่ายครับปัญหาอีก 2 อย่าง ที่อาจจะเกิดเวลาที่ขับรถลงเขาที่ลาดชันเป็นระยะทางยาวๆ แล้วใช้เบรกอย่างเดียว ไม่ใช้เกียร์ต่ำช่วย ก็คือความร้อนที่เกิดจากการใช้เบรกอย่างหนักที่สะสมบริเวณคาลิปเปอร์เบรกนั้น นอกจากทำให้ผ้าเบรกไหม้ได้แล้ว จานดิสก์เบรกก็จะร้อนจัดจนจานแดงได้เลย ประสิทธิภาพระบบเบรกจะตกต่ำอย่างมาก จนถึง 0% เลย คือเบรกไม่อยู่เพราะผ้าเบรกมันไหม้ อีกประการก็คือ ความร้อนที่สูงจัดในบริเวณนั้น อาจทำให้น้ำมันเบรกในท่อสายอ่อนและในห้องลูกสูบแคลิปเปอร์เบรกเดือดเป็นฟองได้ ถ้าเกิดอาการนี้ขึ้นมาด้วย ก็อันตราย อาการเริ่มแรก เวลาเหยียบเบรกจะรู้สึกว่าเบรกมันจมต่ำลง กว่าปกติ ความรู้สึกเหมือนเหยียบลงบนยางหยุ่นๆหรือเหมือนเหยียบฟองน้ำหยุ่นๆ กรณีเลวร้ายแป้นเบรกจะจมติดพื้นเลย แต่เบรกไม่ทำงาน ภาษาชาวบ้านคือ "เบรกแตก" อาการจะเหมือนกรณีท่อน้ำมันเบรกแตก/รั่วแบบนี้อันตรายมากครับปกติแล้ว น้ำมันเบรกคุณภาพดีจะมีจุดเดือดสูง แต่ถ้าน้ำมันเบรกที่ใช้ไม่ได้มาตรฐานก็อาจจะเกิดปัญหานี้ได้ แม้ว่าเราใช้น้ำมันเบรกคุณภาพดี แต่ถ้าใช้มานานมาก มันก็เสื่อมคุณภาพนะครับ เพราะมันดูดความชื้นเข้าไปได้ง่ายมากๆ เมื่อมีความชื้นเข้าไปนานๆเข้า จุดเดือดจะต่ำลงมาก ผู้ผลิตรถยนต์จึงแนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเบรกทุกๆ 1 หรือ 2 ปี แล้วแต่ยี่ห้อรถและชนิดของน้ำมันเบรกที่ใช้ (มีหลาย spec) แต่บางทีเจ้าของรถก็ไม่ทราบ แถมช่างบางคนก็ไม่ปฏิบัติงานตามมาตรฐาน ทำงานแบบสุกเอาเผากินสรุปว่า 1. ผู้ใช้รถ ควรต้องศึกษาเพิ่มเติมพอสมควรในเรื่องของการขับขี่ให้ถูกวิธี ควรอ่านคู่มือการใช้รถ และทำความเข้าใจให้ดีเกี่ยวกับรถที่ตนใช้ การใช้งานอุปกรณ์ต่างๆต้องใช้อย่างไรจึงจะถูกต้อง รายละเอียดมันเยอะ หลายๆบริษัทก็มีเปิดฝึกอบรม ก็ควรจะเข้าไปร่วม 2. ผ้าเบรก น้ำมันเบรก ควรเลือกใช้ที่ได้คุณภาพมาตรฐาน รวมทั้งอะไหล่อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และผู้ร่วมใช้รถใช้ถนน ตลอดจนคนเดินเท้า3. ดูแลรถให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ตามกำหนดวาระก่อนเดินทางไกลทุกครั้งควรต้องตรวจสภาพและเตรียมรถให้ดี4. ขับอย่างระมัดระวัง ขับด้วยความมีสติ เคารพกฏจราจรและเคารพสิทธิ์ของผู้อื่น สุดท้าย ต้องไม่ประมาทขอบคุณท่านเจ้าของคลิปที่แบ่งปันความรู้ที่เป็นประโยชน์ครับ
ขอบคุณมากๆสำหรับความรู้ใหม่นะคะ👍👍👍
SwingEzzZZ ผมขับกลับจากดอยห้วยน้ำดังตอนลงเขาไม่พักเลย กลิ่นเบรคไม่มี ดิ่งยาวถึงกรุงเทพ ถ้าคนไม่รู้เรื่องนี้หรือไม่ชินทางลำบากครับ อย่าเล่นกับเขากับดอยเลย
SwingEzzZZ สุดยอดมากครับ ได้ความรู้มาอีกเพียบเลย ขอบคุณหลายๆเด้อที่ช่วยแบ่งปัน...เยี่ยม!
ขอบคุณครับ
รถ มิราจ ถ้าลงเขาชันๆยาวๆ สัมภาระเต็มคนเต็ม มีวิธีลงแบบไหนคับ หน้าหนาวต้องเอามีราจไป อินทนนท์ อ่างขาง ดอยหลวงเชียงดาว คับ
น่าจะมีคำอธิบายให้ชัดเจนเข้าใจง่ายกว่านี้นะครับ อย่างเช่นอธิบายว่าเวลาเปลี่ยนเกีร์ย รถเกีร์ยออร์โต สามารถโยกคันเกีร์ยเปลี่ยนได้เลย ไม่ต้องแตะเบรคเวลาเปลี่ยน จะไม่มีปัญหาเรื่องระบบเกีร์ยแน่นอน เพราะรถออกแบบมาแบบนี้ อะไรก็ว่าไป อธิบายให้ความรู้แบบครบเซตเข้าใจในระบบไปด้วยเลยน่าจะดีกว่านะครับ .เวลาเปลี่ยนเกีร์ยก็ให้ค่อยเปลี่ยนไปทีละสเต็ปด้วยรึป่าวก็ว่าไป..น่าจะดีครับ ขอบคุณที่ให้ความรู้ครับ
อยู่ๆก็เด้งขึ้นมา เอ้า เรียนด้วยค่ะ ขับเป็นแต่อัตโนมือ ส่วนอัตโนมัติขับไม่เป็นค่ะ 👍😅บอบคุณค่ะครู 💐🤗
เข้าใจง่ายจริงไปคับคลิปนี้ ผมขับแต่เกียร์ธรรมดา ขับออโต้ขึ้นเขายังสงสัยทำไมอมืดๆ
ผมทำไว้เรียบร้อยเเล้วครับ เข้าไปดูได้เลยครับ
เยี่ยมครับ ส่วนใหญ่จะไม่รุ้
จำเป็นต้องดูไว้ครับปกติผมขับรถเยอะมาก ท่องเที่ยวภาคเหนือ ใช้เกียร์ธรรมดาล่าสุดไปดอยอ่างขาง ตอนลง ชัน และต่อเนื่องยาวๆใช้เกียร์ออโต้ Suv 4WD เผลอไปแตะเบรคบ่อยๆยาวๆเพราะไม่ค่อยได้ใช้ ผลคือเบรคไหม้ ควันขึ้น จอดสักพัก ไปต่อควรรู้ไว้ มีประโยชน์มากครับ
เคยมีคนรู้จักเล่าให้ฟังเหมือนกันว่าเบรกไหม้ระหว่างไปอ่างขาง
พอดูคลิปนี้เสร็จ ได้ขับรถขึ้นเขาที่ชันมาก นึกถึงคลิปนี้เลยค่ะขอบคุณมากๆ มีประโยชน์มากค่ะ
ทางขึ้นมันไม่เท่าไหร่หรอก ส่วนมาก ดีธรรมดาขึ้นไหว นอกจากมันจะชันมากจริงๆหรือรถเราหนักมากจริงๆ แต่เวลาลงสำคัญ ต้องใช้เกียร์ต่ำช่วยเพื่อไม่ให้แรงโน้มถ่วงทำให้รถลงเร็วเกินไป ถ้าใช้แต่เบรคจะทำให้เบรคไหม้ อาการเบรคไหม้คือเบรคไม่อยู่ต้องเหยียบเบรคลึกขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายจะเบรคไม่อยู่และตกเขาได้ ผู้ขับต้องสังเกตุอาการรถ ถ้าเป็นแบบนั้นต้องจอดพักรถให้เบรคเย็น ก็สามารถไปต่อได้ การใช้เกียร์ต่ำเป็นการช่วยลดภาระการทำงานของเบรค เพราะการใช้เกียร์ต่ำเป็นการควบคุมความเร็วของรถได้ระดับหนึ่งแล้ว ที่เหลือก็ใช้เบรคช่วยประคอง
ส่วนวิธีการใช้เบรค อย่าเหยียบเบรคแช่ไว้ตลอดทาง ถ้าต้องการลดความเร็วก็เยียบ ถ้าเป็นทางโค้ง ให้ลดความเร็วก่อนถึงโค้ง ถ้าวิ่งมาเร็วแล้วเบรคพร้อมกับหักพวงมาลัยอาจทำให้รถเสียหลักยิ่งถ้าฝนตกด้วยมีโอกาสสูงมาก ปล. ถ้าคุณคับช้ามากจนรถข้างหลังยาวเป็นหาวว่าว ถ้ามีจังหวะทางตรงก็หลบซ้ายให้คันหลังแซงด้วยครับ เป็นมารยาทปล2. เป็นคลิปที่ไม่ละเอียดเลยครับ ถ้าคนไม่เป็นมาดู ไม่เข้าใจแน่นอน
ชอบ ได้ประโยชน์มั๊กๆ
ขอบคุณครับได้ความรู้เพิ่ม
ขอบคุณครับพี่ พี่พูดได้น่าฟังครับสบายๆกันเองมาก ติดตามตลอดนะครับ
ถ้าทางลงชันๆผมเเนะนำ ให้เบรกเหมือนกระชั้นชิดให้รถเกือบหยุดเเล้วปล่อยเบรค ถ้าจะทำเเบบนี้ได้ต้องดูรถหลังด้วยนะครับ ถ้ามีรถหลังตามมาให้เบรคเหมือนปกติ
ชอบมากๆค่ะ แต่ถ้าทำ ภาพ 2 colum คู่กันไป จะเป็นคลิป ที่ ดีมากๆเลยค่ะเพราะ มีผู้หญิงที่ รอดูอีกเยอะค่ะ แขร์ต่อให้เพื่อนแล้ว ลองดูนะคะ ❤
ขอบคุณมากครับ
จากประสบการณ์ ทึ่เคยลงดอย ถ้าดอยอินทนนท์ รถเก๋งนั่ง4คน รับรองเบรคมีกลิ่นแน่นอน แต่เคยนั่งแค่2 ไม่เป็นอะไร สรุป อาจจะตัองพักจอดเป็นช่วงๆ เวลาลงถัานั่งหลายๆคน ถ้าให้ดี กระบะดีกว่า
เกียรออโต ที่ตำแหน่ง D เมื่อรอบเครื่องถึงมันจะพยายามเปลี่ยนขึ้นเกียร์สูงตลอด คราวนี้เวลา ขึ้นเขา เราจะเหยียบคันเร่ง พอเหยียบมากเกียร์ก็เปลี่ยนขึ้นเกียร์สูง แรงก็ไม่มีสิครับ คนไม่รู้เรื่องก็ลนลานอะไรจะเกิดขึ้นพอหมดแรงรถก็จะไหลถอยหลัง สติไม่ดีก็มีคว่ำมีตกข้างทาง พอรถเริ่มไต่ทางชันเราต้องรักษารอบกับแรงขับของรถไว อย่าให้มันเปลี่ยนขึ้นเกียร์สูง โดยโยกคันเกียร์ลงมาที่ D3 กรณีไม่ชันมาก หรือ 2 กรณีที่ชันมาก เสียงเครื่องจะดังสนั่นไม่ต้องกลัวครับตราบใดที่รอบเครื่องไม่ถึงขีดแดงเครื่องเรารับไหว รถก็จะมีแรงพาตัวเองขึ้นไปที่อัตราทดต่ำแรงบิดมากเพียงพอที่จะพาตัวเองขึ้นทางชันไปได้ เมื่อเข้าสู่ทางเรียบก็เปลี่ยนขึ้น D3 D ต่อไป
ไม่มั้ง ขับ D ปกติเมื่อถึงเนินชันเกียร์จะทดลงมาเองโดยอัติโนมัติตามความสูงของเนิน ไม่งั้นเขาจะเรียกว่าเกียร์อัติโนมัติเหรอ
ถ้าขึ้นเนินชันมาก ไว้ใจไม่ได้นะ ต้องควบคุมเอง อย่าเชื่อขนาดนั้น ให้ดูรอบ อย่าปล่อยจนหมดแรง จะไม่มีแรงส่ง
สงสัย ถ้ารถไม่มีแรงขึ้น มันไม่ลดเกียร์เองลงมาหรอ
@@winner1338 เกียร์มันเปลี่ยนตามรอบเครื่องนะครับ สมมติคุณเร่งที่ 4000 รอบ เกียร์เปลี่ยนเป็นเกียร์สูง รอบจะตกลงแต่รถขึ้นเขาอยู่ รอบต่ำที่เกียร์สูง แต่รถไม่มีความเร็วจะเกิดอะไรขึ้นครับ
@@jathurongs9974 ถ้ารอบมันต่ำ เกียร์ออโต้มันก็ลดเกียร์ลงมาเองไม่ใช่หรอครับขับมา 120 ปล่อยไหลไม่เหยียบคันเร่ง จนรถจอดนิ่ง เกียร์มันก็ลดลงมาเองเรื่อยไม่ใช่หรอครับ
ส่วนตัวผม ใช้ D D3 ขึ้นคับ ท่าลงก็ D3D2D1 คับ คันไหนมีสปอร์ต ก็กดไว้คับ ไม่ต้องเหยียบคันเร่ง การขึ้นเขาเอาจริงๆ ผมขับเกียออโต้ขึ้นทับเบิกครั้งแรกผมใช้L เกียผมไหม้คับ ช่วงขึ้นมันยาว หลังจากนั้น ผมใช้ D34 ขึ้นตลอดคับ ท่ารถเริ่มช้ารอบต่ำกว่า 2000 ให้กดกระแทกคันเร่ง มันจะ ลดเกียให้ พอความเร็วได้มันจะเพื่มเกียให้เอง คุมรอบให้อยู่ ประมาณ 2000-3000 รอบ ตอนขึ้น ท่าเราใช้เกีย1-2ขึ้น อัตราทดมันไม่เหมือน เกียธรรมดา มันจะเป็นการ ลากเกีย1หรือ2 ระยะทางยาวๆ รอบเครื่องสูง แต่รถมันไม่ขึ้น เพราะแผ่นครัชในเกียมันเล็กๆไม่เหมือนเกียธรรมดา ทำให้ครัชไหม้เกียลื่น หรือ เครื่องฮีท ได้คับ แนะนำใช้ D34 ขึ้นคับ ส่วนรถเครื่องเล็กหรือ cvt ให้หาจังหวะส่งรถขึ้น ไม่ตามคันหน้า หาจังหวะส่งดีๆ
ได้ความรู้ดีมากเลยครับ! แต่ ยังไง ขึ้นเขาลงเขา เกียร์ธรรมดา ดีกว่า ออโต้ แยะ ที่ยุโรป ถึงนิยมใช้ MT กันน่ะครับ!
กำลังไปจ.เลยพรุ่งนี้ได้ความรู้เลยครับ
ไม่เห็นด้วยนะที่ตอนขึ้นเขาให้ทดเกียร์ลงมาที่D3ให้ใช้เกียร์Dนั่นแหละ ถ้ากำลังไม่พอเกียร์จะทดให้อัตโนมัติแต่ตอนลงเขาควรจะปรับมาที่D3หรือต่ำกว่าเพื่อให้เครื่องยนต์ช่วยลดความเร็วengine break ช่วยในการเบรคเพื่อไม่ให้เบรคทำงานหนักซึ่งอาจเบรคไม่อยู่และผ้าเบรคไหม้ได้
เขาอาจจะเคยชินในการขับแบบนนั้นครับ หรือไม่ก็จำมาจากการฝึกหัดขับรถ หรือจำต่อๆกันมา แต่จำมาแบบผิดๆถูกๆ
พูดถูก ขับขึ้นเขา ใช่เกียร d ปกติ ขึ้นได้ รถมันมีระบบถดเกียร์อัตโนมัติอยู่ ยิ่งรุ่นใหม่ยิ่งขึ้นสบาย
ถ้าเป็นเขาที่สามารถทำความเร็วได้เรื่อยๆก็ไม่ต้องเปลี่ยน แต่ถ้าเป็นเขาที่มีรถบรรทุกเยอะ ต้องการแซงก็อาจจะเปลี่ยนตามจังหวะของรถนั่นแหละ
กำลังไปดอยทางชัน(auto1300)สามารถเปลี่ยนเกียร์ในระหว่างขับได้ไหมครับ ต้องยกคันเร่งไหมหรือมันปรับระบบให้เองมาสด้า2017 ครับ
มันง่ายนะแต่ที่คุณพูดมันสับสนงง
สุดยอด ขอบพระคุณนะคับ
ขอแชร์ประสบการณ์นะครับ.... เราเคยทำแบบในคลิปนี้แล้วรู้สึกว่าเครื่องจะร้อนเร็วมากอะครับ ขึ้นไปได้แปบเดียว แทบจะ overheat - หลังๆมาเลยใช้ D ธรรมดา รู้สึกจะดีขึ้นมาก...... เราใช้รถ honda type z ครับ
สิ่งที่สงสัยสัยอยากรู้คือจังหวะเปลี่ยนจากเกียร์Dมาเป็นD3,D2,Lเราต้องแตะเบรคก่อนหรือเปล่าครับขอบคุณครับ
ไม่ต้องครับ เปลี่ยนได้เลย
ช่วงที่เปลี่ยนเกียร์รถจะกระตุกไหมคะ
สอนเข้าใจง่ายดีคะ ขอบคุณมาก
ผมขึ้นเขาใช้ D ตลอด ยกเว้นเวลาลงเขา ค่อยทดเกียร์ 3-2-1 ตามความชันของถนน เพื่อช่วยไม่ให้เบรคไหม้...ซึ่งในการขึ้นเขาไม่จำเป็นต้องทดเกียร์ เพราะตำแหน่ง D มันก็เปลี่ยนให้เราตามรอบอยู่แล้ว ก็เลยงงว่าขึ้นเขา ทำไมต้องทดเกียร์....ผมคนดอยใช้รถบนดอยตลอด ขึ้นเขาไม่เคยทดเกียร์ นอกเสียจากว่าขณะขึ้นเขาเราต้องการแซงรถคันหน้า ดังนั้น เพื่อให้การแซงพ้นจึงต้องทดเกียร์ช่วย แต่ถ้าขับปกติขึ้นเขา ไม่ต้องทดเกียร์ก็ได้อยู่แล้ว ทดบ่อยๆเดี๋ยวเกียร์พังอีก 555
ทดเพื่อถนอม คลัชครับไม่ให้ไหม้หรือหมดไวส่วนทดเกียร์บ่อยไม่พังครับ อย่าให้เกิน redline
ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ
ขาขึ้นไม่ต้องตบลงก็ได้ D ก็ขึ้นได้ ถ้ากำลังไม่พอรถมันก็ตบเกียร์ลงให้เองอยู่แล้ว แค่รักษารอบให้ดี อย่าให้รอบสูงมากเป็นเวลานาน เพราะอาจจะทำให้ความร้อนขึ้นได้ ริยสัก 2-3000 กำลังดีส่วนขาลง ไม่ต้องรีบลง ตบเกียร์ต่ำช่วยให้เบรคทำงานน้อยลง ปลอดภัยและประหยัดผ้าเบรค
ขึ้น D ได้ครับ **แต่คลัชจะไปไวกว่าปกติ กว่ารถที่ใช้เกียร์ต่ำช่วยครับ
ทางลาดชันต่อเนื่อง ถ้าอยากขึ้นแบบนิ่มๆ ใส่เกียร์ 3 หรือ 2 ไปเลย แล้วแต่ความชัน กดคันเร่งนิ่งๆ ให้อยู่ระหว่าง 2-3 พันรอบอย่างท่านว่า จะไม่มีจังหวะที่รถเสียกำลัง เร่งๆ ผ่อนๆ เปลี่ยนเกียร์ขึ้นลง
เอาใว้สอนคนที่ยังใม่รุ้ครับปราชทั้งหลายใจเย็นๆ555
5555ใช่มีเเต่เก่งๆๆ
จริงครับ ผมพึ่งหัดขับรถมทหาความรู้ มีแต่เซียนทั้งนั้นเลย คนแนะนำน้อยมากกกกก
ใช่ครับกำลังมาหาความรู้ ผมกำลังจะซื้อรถเกียร์ออร์โต้มือสองไว้ขับไปเที่ยวอีก 1 คัน ปกติใช้แต่เกียร์ธรรมดามาตลอด ดันมาเจอแต่ระดับปรมาจารย์ขิงใส่กันแทนที่จะแนะนำเพิ่มเติมกันดีๆ แต่เจ้าของอธิบายได้สั้นและกระชับมากสุด บางช่องอธิบายเวิ่นเว้อเกินดูนานพางง
@@MT-je8gl ใส่เกียร์Dนั้นละครับ ไม่ต้องเปลี่ยนเหมือนเขาหรอกครับ เกียร์Dมันก็ขึ้นเขาได้ครับ แถมปลอดภัยกว่าเปลี่ยนเกียร์เองอีกครับ
@@gofl2552 ขอบคุณมากครับ ตอนนี้ซื้อรถเก๋งวีออสมือสองมาใช้งานละครับ เริ่มพอจะเข้ามือแล้ว
ขอบคุณหลายเด้อ
แนะนำถนนสาย4025 น้ำตกแจ้ซ้อน-บ.ป่าเมี้ยง-กิ่วฝิ่น-แม่กำปอง ครับ..สายนี้ขับสนุก
โหดครับสายนี้ ผมไปเที่ยวแม่แจ๋มหลายครั้ง ก็ใช้ทางเส้นนี้ครับ แต่ใช้ไมตี้เอ๊กซ์มีพาวเวอร์นะครับ สาวมือเป็นระวิงครับ
ขอบคุณมากๆค่ะ
ผมขับมิตซูขึ้นเขาดอยแม่สลอง ใช้เกียร์Dเกียร์
มิตซูเขาแน่นอนอยู่แล้วเรื่องแบบนี้
ใช่ครับขับขึ้นแบบสบายๆๆเลยนะ
สอบถามค่ะ เวลาเราเปลี่ยนเกียร์ d4-3-2-1 ต้องเหยียบเบรคก่อนเปลี่ยนเกียร์ไหมคะ
ไม่ต้องครับ เเค่ชะลอรถ เท่านั้นครับ
อืม ใช้แบบนี้เช่นกัน บางคนบอกเราไม่โปร คือเราคิดนะว่าก็ทำให้มันปลอดภัย และมันก็ดูไม่ฝืนตอนเร่งรอบ( ภาษาเค้าใช้งี้มั้ยอะ พอดีนี่ไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก แต่เวลาขับมันรู้สึกได้ )เราจะไปฝืนมันทำไม ก็แค่ลดเกียร์ตอนขึ้น และลง ใครจะโปรไม่โปร ถ้าถึงอย่างปลอดภัย และดูแลการใช้งานของรถได้ นี่ก็ไม่ซีเรียสนะ ปกติเป็นคนขี้กลัวด้วย จะไม่ค่อยชอบขับเร็ว หรือไปจี้ตูดจนเกินไป ก็จะโดนตบไฟเร่งตลอดเหมือนกัน ส่วนใหญ่จะเป็นทะเบียน กรุงเทพฯ ก็คิดนะว่า กุขึ้น ลงเขา เป็นประจำตั้งแต่กุยังขับไม่เป็น ถ้ามึงรีบมึงไปเลย แต่กุเห็นตกเหวมาเยอะแล้วไม่รู้กี่ศพต่อกี่ศพ กุไม่รีบ
ขอบคุนความรู้ทั้งนั้นเลยคับ
ขอบคุณค่ะ ขอบคุณที่ทำคลิปดีดีมาให้ดู ทำต่อไปเรื่อยๆนะคะ
ขับขึ้นผมว่ามันไม่ยากหรอกถ้ารถมีกำลังพอ หรือรถใหม่ๆแต่ลงเขายากกว่า ลงจากอินทนน ทางลงยาวๆเห็นบางคนเบรคตลอดทาง
ตายมาเยอะคับพวกใช้เบรคอย่างเดียวตอนลงเขายาวๆๆ !!! ไม่ใช้รอบเครื่องยนต์ช่วยเบรค
ตอนขึ้นใช้ D ก๊อได้ รอบมันจะทดให้เองตอนลง เอาแบบให้เข้าใจง่ายๆ ใช้เบรคให้น้อยที่สุด คือทดเกียรให้ลงมาต่ำสุด เพื่อให้รอบเครื่องเป็นตัวฉุดรถให้เดินช้าๆ ที่สุดถ้ารถเกียร์ออโต้ มี 4x4 ( H / L ) ด้วย ใส่ 4x4 Lลงมาเรยคับ ผมลงจากภูทับเบิก ใส่ 4x4 ( L ) แบบไม่ต้องแตะเบรคเรยคับ
เวลาเราจะเปลี่ยนจากเกียร์ D ปกติ ไปเป็นเกียร์ ดี 3 หรือ2 เราต้องปล่อยคันเร่งไหม หรือเร่งไปปกติ
ไฟกระพริบที่ 4 L ตลอดครับ จะปรับให้หายไป..ทำอย่างไรครับ อิซูซุ รุ่นโกลด์ซีรี่ 4×4ครับ
ของผมต้องกด 4H แล้ว กด 2H อีกที (2005)
รุ่นใหม่ๆ ที่ไม่มี D3 2 L ต้องทำยังไงครับ
ขึ้นเขาใช้ตัวDก็ได้ครับ แต่ตอนลงต้องใช้S กรณีไม่มี D3 หรือL
แล้วเวลาเปลี่ยนเกียร์ ต้องเหยียบเบรคก่อนมั้ยคะ หรือเปลี่ยนได้เลย
สอนแบบงงๆค่ะ
ต้องสอนพวก ขับรถบัส หรือรถบรรทุก มักใช้วิธีแตะเบรค เวลาลงทางลาด ผ้าเบรคจะร้อน จนเบรคชำรุด สุดท้ายเบรคแตกไปชนรถคันอื่น เสียหาย หรือถึงแก่ความตาย
นอกเรื่อง รูปปกคลิปคือที่ไหนครับ วิวสวย
D3 ทำหน้าที่เหมือนกับปุ่มโอเวอร์ไดร์ไม่ใช่หรอครับ เพียงแค่รถรุ่นใหม่ๆไม่มีแบบปุ่มให้กด ทางลงลาดชันต้องใช้ 2 กะ1
กูมั่ยรู้ กูมึน ถ้าเป็น เกียร์นี้ในโตโยต้าที่คนชอบเรียกว่าโอเวอร์ไดร์ พอมาขับ mg ตบแล้วไม่รู้สึกอะไรเลย แต่ตบตอนขึ้นเนินช่วยได้เยอะ งงเลยถ้าคิดว่าตบแล้วมันจะเร่งเอาไว้ใช้ตอนแซงในmgคิดผิดนะครับอันนี้บอกเฉยๆ
สอบถามครับ จะเปลี่ยนลดเกียร์มาเป็นเกียร์ 2 และเกียร์ L ผมควรจะเปลี่ยนเกียร์ตอนความเร็วประมาณเท่าไหร่ครับจึงจะปลอดภัยไม่ทำให้รถกระชาก
และขออนุญาตถามเพิ่มเติมอีกข้อหนึ่ง คือผมมีรถอีกคันหนึ่งเริ่มเก่าแล้ว เป็นรถโตโยต้าโซลูน่า เป็นเกียร์ออโต้รุ่นเก่าแบบตรงไม่มีขั้นบันได แบบนี้เวลาผมขับรถขึ้นเนินเขาถ้าผมจะลดเป็นเกียร์ 2 หรือ L ผมสามารถเปลี่ยนเกียร์ในขณะที่รถกำลังเคลื่อนที่อยู่ได้หรือไม่ครับ หรือต้องจอดรถก่อนเพื่อเปลี่ยนเกียร์ครับ รบกวนผู้รู้ผู้ชำนาญช่วยชี้แจงหน่อยครับ ขอบพระคุณครับ
@@ภาณุสุวรรณสุนทร คิดเเบบถนอมเกียร์ เเละเครื่องยนต์นะครับ (เปรียบเทียบอัตรา) เกียร์1 รอบอยู่ที่ไม่เกิน 30 ก.ม. ต่อชั่วโมง เกียร์ 2 ไม่เกิน 40 ก.ม.ต่อชั่วโมงเกียร์3 ไม่เกิน 50ก.ม.ต่อชั่วโมง ส่วนรอบเครื่องประมาณ 2000 ถึง2500 สำหรับผมๆว่ากำลังนุ่มๆพอดีครับ คุณก็ต้องช่างน้ำหนักรอบเครื่อง+ ความเเรงสมรรถนะของเครื่องของรถยนต์คุณด้วย จุดพิกัดรอบความเร็วที่เหมาะสมที่จะทดเกียร์ต่ำกว่า D ถ้าสังเกตุเเบบไวทันการณ์รอบหน้าปัดน่าจะอยู่ที่ประมาณ 40 ก.ม.ต่อชั่วโมงครับ
ขอสอบถามเทียบเกียร์ นิสสันโน้ตกับyaris ative ระหว่างปุ่มover driveของnote คือเกียร์ Sของyaris ไหม และเกียร์Lของ noteคือเกียร์B ของyarisไหมครับ
เยี่ยมครับ👍👍👍
ขึ้นเขาเกียรออโต้ ไม่ค้องเปลี่ยนก็ได้ มันทดไปเกียร์ 2-1 เองแต่ลงเขาต้องเปลี่ยน
ช่านย
ใช่คับ แค่กระแทกคันเร่ง มันก็ลด เกียให้แล้ว ท่าเกิดคนขับเป็นแต่ออโต้ ไม่รู้จังหวะเปลี่ยนเกียคืน น้ำมันเกียเดือดเกียไหม้ได้เลยนะ ใช้แต่รอบสูงๆแต่รถไม่ขึ้น
ดีมากๆชอบๆ
กำลังหัดขับเกียร์ออโต้ไอ้ที่เขาบอกDมา3 นี่คือพลักมาเลยโดยไม่แตะเบรกใช้ไหม โดยจังหวะนั้นรถต้องไม่เร็วด้วย กรณีขับขึ้นและลงเขา และ3มา2 มาL นี่คือพลักเลยใช่ไหมค่ะ เราไม่รู้จริงๆกำลังหัดขับ ศึกษาไว้ก่อน
พี่ครับ อยากให้ทำคลิป เกียร์ออโต้กับเกียร์ธรรมาดาแบบไหนดีกว่ากันครับ
ลักษณะมันใช้งาน ต่างกัน ครับ เกียร์ธรรมดา จะสามารถเร่งเเละ สามารถเปลี่ยนรอบเครื่องตามใจผู้ขับขี่มากกว่าครับ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการ บรรทุก เเละ คนที่ใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อเพิ่มความสนุกในการขับขี่ กับ สายซิ่ง ส่วนเกียร์ออโต้ ใช่ง่ายขับขี่ง่าย เเละ เพื่อความสะดวกในการใช้งานในชีวิตประจำวันครับ รอบเครื่องอาจจะสั่งการไม่ได้ดังใจเท่าไหร่ครับ ถึงเเม้จะมีเกียร์ธรรมดาเเบบอิเล็กทอนิกมาเพิ่มให้เเต่อัตตราการทดก็ไม่เหมือนเกียร์ธรรมดาอยู่ดีครับ มีทั้งข้อดีเเละข้อเสียครับ
จานเบรคสีรุ้ง ผมเจอมาเยอะ กดเบรคจนจมแป้น แต่รถไม่หยุด อิอิ
ในขณะรถกำลังวิ่งและเรากำลังจะเปลี่ยนเกียร์มาใช้เกียร์ต่ำ d-3 ,2,และL ต้องเหยียบแบรคนิดนึงตอนเปลี่ยนเกียร์มั้ยครับ หรือไม่ต้องเหยียบเบรคตอนเปลี่ยนเกียร์ แต่ยังคงรักษาความเร็วไว้คงที่รึป่าวครับ
ผมใช้วิธีผ่อน..แล้วเปลี่ยนได้เลย..ไม่มีปัญหา...
ผ่อนคันเร่งนิดนึงใช่มั้ยครับ
ครับ..ตามจังหวะ..ผ่อน..
เวลาจะดันต้องผ่อนคันเร่งหรือป่าว
ผมผลักมาไส่เกียตำ่1หรือ2ครับ
D4ใช้สำหรับ
ถ้ารถAltis ปี2010 ล่ะครับ เวลาลงเขาจะขับอย่างไรครับ
มีตัวอักษรอื่นไหมครับที่ เพิ่มจากเกียร์ D มา นั้นละครับ เป็นเกียร์สำหรับการทดรอบเครื่อง การใช้งานเหมือนกันกับในคลิปที่สอนเลยครับ
ขับง่ายคับ
ขาขึ้นใช้d ปกติได้เลยครับระบบเปลี่ยนเกียร์เองเล่นเกียร์ใช้ขาลงดูรอบให้สัมพันธ์กับการลดเกียร์ด้วยนะครับไม่ใช่ลงมาเป็นร้อยและดึงเกียร์ลง..รับรองพังครับ
เห็นด้วยครับ ขาขึ้น ใช้เกียร์ D ปกตินั่นแหละครับ ถ้ามันอืดไม่มีแรง ก็ kickdown ให้เกียร์เปลี่ยนต่ำลงมาเอง ไม่ต้องโยกเกียร์อะไรเลยครับ
รถผม. กระบะ มีแต่ S และ ใช้S+- บ่อย ทางชันมากๆ โค้งเยอะชันถ้าไปใช้D รถก็แย่ดิค้าบ เข้าใจคำว่าประสิทธิภาพไหมท่าน ผมแซงประจำเลยคงใช้D กันเยอะ แล้วถ้าเก๋งหรือเครื่องเบนซิล ใช้D นี่ รถพังมาหลายคันแล้ว ชันโค้งมากๆอย่างทับเบิก ผมเคยขับเก๋ง1.5 ขึ้นอินทนนท์ ยังต้องใช้S +- รุ่นที่ใช้มี แพดเดิ้ลชิพ ใช้d รถจะไม่ไหว รอบขึ้นสูง _แล้วท่านคิดว่าเขาทำมาทำไมเกียร์เพิ่ม _ก็เพื่อ ขึ้นลงเขา สายลุยโคลน4*4
คือเกียร์อัตโนมัติมันคิกดาวเองนะท่าน ผมขับขึ้นมาเป็น10รอบละเกียdตลอด พอขึ้นไม่ไหวเกียร์มันจะเปลี่ยนเอง คืองงจะทำให้มันวิชาการเพื่อ
ถามหน่อยครับ ถ้าเวลาเหยียบคั่นเร่งไปแล้วเวลาเปี่ยนเกียรแบบไม่ต้องเหยียบเบลคมันจะดับไหมมครัล
ไม่ดับครับ
ไม่ดับครับ ดันเกียร์ได้เลย เกียร์ D กับ D3 ผลักสลับได้ตลอด
เวลาจะสตาสรถ เวลาจะออกเกียรต้องทำไงครับสมมุติว่าผมสตาสรถแล้วแล้วใส่เกียรรถจะพุ้งไปข้างหน้าไหมม
Pop mapk สตาร์เสร็จกลัวรถพุ่งเหยียบเบรคไว้ก่อนเลยครับ จะออกตัวค่อย ค่อยปล่อยเท้า ครับ
อ้าว ปกติตอนเปลี่ยนเกียร์ จะไม่แตะเบรกก่อนเหรอ ?
เจออำเภอสังขละบุรีลงเขายาว1กม.เกียร์1เท่านั้น พังแน่นอน
ทางขึ้นดอยหรือเปล่าครับ
ผมซื้อรถเก่ามา ไอ้ปุ่ม. โอเวอร์ ไดร์ฟ มันใช้ยังไงครับ ใช้ช่วงไหน แล้วเวลาขึ้นเขาลงเขาเราใช้ไหมครับ แอดเวนเจอร์ ไทรุ่ง
รถวิ่งใส่เกียร์จากDเปลี่ยนไปD3-2-1ต้องแตะเบรกหรือหยุดรถหรือเปล่าครับ
ไม่ต้องครับ ใส่ได้เลย
แล้วรถออโต้ ที่ใช้paddle ship ละคับ
ลักษณะการใช้เหมือนกันเลยครับ
ใช้สนุกเลยท่าน ปรับเหมือนเกียร์ธรรมดาเลย. สนุกสุดสำหรับ. S+-
@@mycarchannel1275 ขอบคุณมากคับ
@@gothailandstudio2980 จะลองใช้ดูคับท่านขอบคุณครับผม
ตอนรถวิ่งอยู่เปลี่ยนเกียใด้มั้ยครับหรือต้องจอดก่อนถึงเปลี่ยนเกียครับ ถ้ารถกำลังวิ่งแล้วถ้าเปลี่ยนใด้ จะใช้ความเร็วเท่าไรครับถึงเลื่อนเปลี่ยนเกียต่ำใด้ครับ
เวลาเปลี่ยนเกียร์ให้ชลอรถ ครับ ขึ้นอยู่กับความเร็วที่ใช้อยู่ครับ ถ้าใช้ความเร็วประมาณ 40 ก็เบาลงมาประมาณ 30 เเล้วเปลี่ยนได้เลยครับ
รถผมเกียร์ออโต้ แต่เวลาขึ้นเขาผมเปลี่ยนเป็นเกียร์ธรรมดาคับ ผ่านแพทเดอร์ชิบ
มาสด้า3เครื่อง2,000cc.ขับขึ้นเขาได้สบายๆ
เสริมนิดนึงครับ เกียร์ L ใช้ได้แค่ช่วงสั้นๆครับ ขาขึ้นไม่จำเป็นต้องใช้ ใช้แค่ D2 พอถ้าชันมาก ขาลงถ้าไม่ชันมากก็ไม่ต้องใช้ ถ้าลงชันมากๆก็ให้ใช้แค่ช่วงสั้นๆ แล้วย้ำเบรคช่วยเอา อย่าเลียเบรค เกียร์ L จุดประสงค์หลักคือ เอาไว้เสริมแรงเวลารถติดหล่ม หรือต้องปีนขอบที่ต้องใช้กำลังเพิ่ม ถ้าลากยาวๆอาจเสียหายได้ครับ
รถทุกรุ่นมีสเปคบอกแรงบิดสูงสุด คือแรงที่ใช้ลากจูงหรือปีนป่าย เช่นรถรุ่นนึงบอกว่าแรงบิดสูงสุดที่ 3000 รอบ เราก็ใช้รอบประมาณนั้นในแต่ละเกียร์ ถ้าเข้าเกียร์ D แล้วรอบมันน้อยกว่า 3000 รอบ เราก็ kickdown ให้เกียร์เปลี่ยนต่ำลง (หรือโยกเกียร์ตามแต่ถนัดของแต่ละบุคคล) รอบเครื่องก็จะกลับไปที่ 3000 รอบ ประมาณนี้ ถ้ารอบเครื่องสูงเกินแรงบิดสูงสุด เกียร์ D ก็จะเปลี่ยนเอง
ถ้าเจอรถจอดหรือติด ได้ใช้แน่นอนครับ
OKรู้เรื่อง...
ต้องเหยียบเบรคไหมคะ ถ้าเปลี่ยนเกียร์
ไม่ต้องครับ เปลี่ยนได้เลย
ที่น่ากลัวคือโค้งพับผ้าแล้วชันดิ่งเลย ไม่ว่าขาขึ้นหรือลง อย่าเร็วมากแต่ตอนสับเกียร์หรือแตะเบรคต้องไว
สอบถามครับ...ขณะที่รถวิ่งอยู่แล้วตบเกียร อยากถามว่าเกียรออโต้ไม่พังหรือมีปัญหาหรือครับ(ตอบด้วยครับ)
ไม่พังครับ
@@mycarchannel1275 ต้องใช้ความเร็วเท่าไหร่ถึงจะตบเกียร์ได้(เข้าเกียร์ขณะรถวิ่ง)ขอบคุณมากๆครับ🙏🙏🙏👍👍👍😍😍😍
ความเร็วไม่เกิน 40 กิโลเมตรครับ หากทดเกียร์เพื่อให้เป็นเกียร์ต่ำครับ
@@mycarchannel1275 ขอบพระคุณเป็นอย่างมากครับ ผมใช้รถมาเกือบ10ปีแล้ว บอกตรงๆไม่กล้าตบเกียร์เลยครับ กลัวเกียร์พัง ต้องชะลอรถทุกครั้งถึงจะเข้าเกียร์😍😍😍👍👍👍🙏🙏🙏
เปลี่ยนได้เลยไหมคะ กดเบรกไหมคะ
เปลี่ยนได้เลยครับ เเค่ชลอรถ ครับ
@@mycarchannel1275 ขอบคุณค่ะ
ของผมรถอเมร่า เกียร์ p r n d Lเดินหน้าd ถ้าจะใส่เกีย L(เกียสโลว์) ต้องจอดก่อนไหม หรือผ่อนแล้วใส่เลย
ผ่อนเเล้วใส่ได้เลยครับ
@@mycarchannel1275 ขอบคุณคับ
มีกะบะเก่า ช่วยแนะนำหน่อยคับ อยากไปกะเขาบ้าง หลายคริปมีแต่รถใหม่ๆ
เดียวเอากระบะ มือสองมารีวิวบ้างครับ ขอบคุณที่เเนะนำครับ
สอนเปลี่ยนเกียร์... แต่ไม่ถ่ายให้ดูทางขึ้นทางลง ให้ดูแต่เปลี่ยนเกียร์เพื่อ???
ก็จริงนะ ถ้าคนขับเป็นใหม่ๆคงไม่รู้ว่าจังหวะไหนใช้เกียร์ไหน
ถ้าจะเข้าใจยากขนาดนี้แนะนำ รร สอนขับรถนะ
จริงๆแล้ว ถ้าขึ้นเขาอย่างเดียวเขา D เลยคับ ระบบมันจะทำให้เองอยู่แล้ว แต่ๆๆๆ ตอนลงเขาถ้าเนินลงชันมากๆ ต้องเข้าเกียร์ 3>2>1 แล้วแต่ความชันของเนินลงคับ ไม่ควรใช้เบรคอย่างเดียว เพราะผ้าเบรคจะไหมหรือน้ำมันเบรคเดือดแล้วจะหยุดรถไม่ได้เลย!!!
ช่วยสอนมารยาทมือใหม่ ขับรถลงเขา ให้ทางรถขึ้นเขาด้วยครับ
อยากให้เอBenz มารีวิวบ้างจังค่ะ
ได้เลยครับ เดียวมีโอกาสรีวิวBenz ครับขอบคุณที่ติดตามนะคนับ
ขึ้นเขาไม่ต้องเปลี่ยน. ตอนลงต้องเปลี่ยน ย้ำว่าต้องเปลี่ยน
แล้วถ้าลงเขาแบบทางชันมากแล้วใช้เกียร์D2,D1แล้วพอถึงทางเรียบปกติจะใส่เกียร์Dต้องหยุดรถหรือชลอรถเผื่อจะใส่เกียร์มั้ยครับ
ไม่ต้องหยุดรถ ใส่เกียร์ได้เลย จะถอนคันเร่งก่อนนิดนึงก็ได้ครับ
เยี่ยม....
ສະບາຍດີຂໍຖມມແດ່ວ່າເວລາເຮົາເລັ່ງຄວາມແຮງ60ກ່ວາໂຕດີຈະເຕັ້ນແມບໆບໍ່ຮູ້ວ່າລົດເກິດຫຍັງຂື້ນລົດເພຫວາ
จริงๆใช้ D ขึ้นลง เลยก็ได้ แล้วคุมเบรคเอา
ธิติพงษ์ สาระวะ คุมเบรค ๆ ถ้าเบรคไหม้ จะเอาอะไรคุม
พูดซะดูยาก กูใข้ดีกับโอเวอร์ไดร์จบทุกเขาทั่วไทย
พูด.. สับ.. สน..วก.. ไป..วก.. มา.. ฟังไม่รู้เรื่อง... ต้องพูด.. เป็น.. คั่นตอน.. เปรียบ.. เทียบ.. เกียร.. ตํ่า..คือ.. 1...2....ขึ้นหรือ...ลง...เขา...ต้อง..ถ่าย..ทอด...ไห้..เป็น..อย่าไปอวด..เอฟ..ชี...มาก...หรือ..อวด..เก่ง..คน.ที่เก่ง..ก็..มี...มาก..มาย..นะครับ..
เปลี่ยนเกีร์ยขณะที่รถกำลังวิ่งอยู่ ได้ใช่มั๊ยครับ..เกีร์ยไม่พัง รถไม่กระตุก ไม่เกิดอุบัติเหตุใชมั๊ยครับ..ผมไม่กล้าเปลี่ยนเกีร์ยขณะที่รถยังวิ่งอ่ะครับ ดูหายคลิปล่ะ ไม่มีใครบอกเรื่องเปลี่ยนเกีร์ยเลยครับ
สามารถเปลี่ยนได้เลยครับ ชลอรถเเล้วเปลี่ยนได้เลยครับ
D3ก็ขึ้นได้. ขนาดรถผม เอ็นจีวี ดันมาแล้วทุกดอย. จ.น่าน.
เวลาเปลี่ยนเกียต้องเยียบเบรกไหม
ไม่ต้องครับ
วิธีขับรถขึ้นเขาด้วยเกียออโต้: เหยียบคันเร่ง กับ เบรค ให้เหมาะสม
ขึ้นเขาก็ใส่ D ซิครับเดี๋ยวเกียร์มันก็เปลี่ยนตามกำลังรถเอง อย่างในรูปเป็นเกียร์ออโต้ 4 สปีด เกียร์ก็จะวิ่งที่ 4321 ตามลำดับ แต่ถ้าลงเขาเราถึงใส่ 3 หรือ 2 ตามความชัน
แล้วถ้ามีแค่เกียร์ D กับ S ทำยังไงครับ ต้องใส่ S แล้วใส่เกียร์ manual เอาใช่ไหมครับ
ง่าย ๆ คือ เอ็นจิ้นเบรค
🔴 สเปรย์เคลือบเงาสีรถ 🔴เคลือบรถด้วยชั้นฟิลม์เซรามิก 🌞
💋สูตรเข้มข้นพิเศษ my car crystal wax
💋กันรอยขีดข่วน ฟื้นฟูสีรถที่ซีด กันความร้อน กันน้ำ กันคราบขี้นก กันฝุ่น 💋
🌈จัดโปรโมชั่น จากราคา 990 ลดราคาเหลือ 390 เท่านั้น🌈
💋ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกได้เลย lin.ee/FIhLaNw
💋ฟรีค่าจัดส่ง บริการเก็บเงินปลายทาง ทั่วประเทศ ✈
สรุป วิ่งปกติ ทางไม่ชัน ใช้ D
ทางขึ้นเขาลงเขา ใช้เกียร์ต่ำลงมา
ลองใส่ที่ 3 ถ้าเหมือนรถมันไม่ไหว ลงมา2
ถ้า2 ก็ยังไม่ค่อยดี เรายังต้องเบรคเยอะ ลงมา1-L
วิ่งไปสักพัก ทางถนนเรียบ ไม่ชัน ไม่เกิดอุปสรรค
ก็กลับไปใส่D
ใช้เกียร์ตามสภาพถนน
Tubelvlaster ขอบคุณค่ะที่อธิบายให้เข้าใจง่าย
ขอบคุณที่รอธิบาย
สามารถเปลี่ยนเกียร์ในขณะที่รถวิ่งอยู่ที่ความเร็วเท่าไหร่ค่ะหรือว่าเปลี่ยนได้เลยโดยไม่ต้องแตะเบรก
@@PooPoo-zk3yt เกียร์ 2 และเกียร์ 1 หรือ L
ใช้ในรอบความเร็ว! ต่ำๆ ครับ! เช่น ขึ้นเนิน ขึ้นเขา ลงเขา ส่วน D3 เอาไว้เร่งแซง! ประมาณนี้ครับ. แต่ขับในเมืองแทบจะไม่ได้ใช้เลย! ขนาดขึ้นลานจอดรถในห้าง เกียร์ D ยังไหวเลยครับ! เกียร์มันจะปรับของมันเอง!
@@PooPoo-zk3yt แต่ละตำแหน่งจะมีช่วงความเร็วของมัน ในคู่มือจะบอกไว้ครับ รถส่วนใหญ่ ตำแหน่ง P,R,N,D จะกำหนดตัวอักษรเหมือนกัน
แต่ตำแหน่งเกียร์ต่ำอื่นๆ อาจกำหนดแตกต่างกัน
ยกตัวอย่าง
P,R,N,D,3,2,1
บางรุ่นอาจเป็น
P,R,N,D4,D3,L
หรือ P,R,N,D,S,L
แล้วแต่รุ่น/ยี่ห้อ
ผมจึงใช้ว่า ให้ลดเกียร์ทีละ Step
อธิบายง่ายๆคือ step ถัดไป ความเร็วสูงสุดของเกียร์นั้น จะต่ำลงไปเรื่อยๆ ตาม step
จึงควรต้องลดความเร็วให้อยู่ในเกณฑ์ ของ step ถัดไปที่เราจะเลื่อนคันเกียร์ไปหาเสียก่อน
หมายความว่า เรายังจำเป็น ต้องใช้/เหยียบเบรกให้ความเร็วรถลดต่ำลงมาอยู่ในเกณฑ์ของ step ต่อไปก่อน
เช่น จาก D4 จะเลื่อนไป D3 ถ้าคู่มือบอกว่า ความเร็วของ D3 สูงสุดไม่เกิน 80 km/ hr เราก็ต้อง เหยียบเบรคให้ความเร็วตกลงมาต่ำกว่า 80 Km/hr ก่อน แล้วจึงเลื่อนคันเกียร์ไป D3 ได้
อย่างไรก็ตาม บนเขาที่ชันมาก เราคงไม่ขับ 100 km/hr อยู่แล้ว ครับ
แต่คนชำนาญหรือนักซิ่งเขาอาจขับได้ คนไม่ชำนาญ ไม่ได้เรียน ไม่ได้ฝึกมา ไม่มีความรู้เรื่องเทคนิครถยนต์ และไม่ชำนาญเส้นทาง อย่าขับเร็วครับ ถือว่าประมาทมากครับ
ดังนั้น เวลาขับรถบนเขา ควรใช้ความเร็วที่เหมาะสม อยู่ในเกณฑ์ที่ไม่สุ่มเสี่ยง
เวลาลงเขา ถ้าเราใช้ความเร็วต่ำพอ ( เช่น ต่ำกว่า 60 km/ hr
เมื่อเจอทางลงชันมาก เราสามารถเปลี่ยนจาก D4 มา D3 ได้เลย รถจะตื้อ จนช้าลง โดยไม่ต้องเหยียบเบรก ( engine brake มาช่วยแล้ว) ถ้าเรารู้สึกว่ามัน ok แล้ว มันหน่วงพอสมควร รถไม่ไหลลงพรวด จนใจหาย ความเร็วลดลงมาในระดับควบคุมได้ ก็ พอแค่นั้น แล้วก็คุมพวงมาลัยไปตามทางลง แต่ถ้ารู้สึกว่ายังไม่พอ ก็เลื่อนไป D2 อีก step
หลักพิจารณาอีกข้อ คือ เราต้องสังเกตว่า ทางลงมันชันมากแค่ไหน ยิ่งชันมาก ยิ่งต้องลดความเร็วให้ต่ำมากที่สุดก่อนลงทางชัน แล้วเลื่อนมาเกียร์ต่ำสุดเลย คือ step สุดท้ายเลย ไม่ว่าจะใช้ตัวอักษร หรือตัวเลขอะไร
อาจเป็นเลข 1 หรือ อักษร L ( low gear)
หลายท่าน อาจไม่เข้าใจความหมายของแต่ละตำแหน่ง
ผมขออธิบายคร่าวๆดังนี้
ตำแหน่ง D ถ้าใน spec บอกว่า รถคันนี้มีกี่ speed ( กี่เกียร์) เช่น บอกว่ารุ่นนี้มี 5 speed ตำแหน่ง D ก็จะเป็นออโต้5 speed
คือ เกียร์จะเปลี่ยนขึ้น/ลง้อง ตามสภาพการขับขี่ ตามความเร็วรถ และ สภาพถนน ( ขึ้นเนินลงเนินที่ไม่ชันมาก)ตามที่เราเหยียบคันเร่ง โดยมันจะทำงานได้ 5 speed อัตโนมัติ
ตำแหน่ง D4 ก็คือ ทำงานแบบออโต้ เหมือนกรณีแรก แต่มีแค่ 4 speed
ตำแหน่งอื่นๆที่เหลือ ก็คล้ายกัน
ยกเว้นรถที่ขายในบางประเทศ ภูมิประเทศ ภูมิอากาศต่างกัน เขาอาจออกแบบต่างจากรถที่มาขายบ้านเราเขตร้อน เช่น ในเมืองหนาว อาจมีสวิทช์ Winter mode พิ่มเติม เพื่อล็อคให้แต่ละตำแหน่งเป็นเกียร์นั้นเกียร์เดียว เช่น ตำแหน่งสอง 2 ถ้ากด Winter mode มันจะล็อคให้ตำแหน่งนี้มีเกียร์ 2 เกียร์เดียว
ตำแหน่ง 3 ก็เป็นเกียร์ 3 เกียร์เดียว เป็นต้น คือในการออกตัวบนหิมะ หรือน้ำแข็ง ถ้าใช้ L ล้อจะฟรี ถ้าไม่มีระบบ Traction Control
เขาจึงแนะนำให้อกรถด้วยเกียร์ 2 หรือ 3 บนหิมะ หรือน้ำแข็ง จึงจำเป็นต้องกดสวิทช์ Winter Mode แล้วเลื่อนคันเกียร์ไปที่ 2 หรือ 3 ตามความเหมาะสม
ลงเขายาวๆนานๆโค้งเยอะๆอย่างลงจากดอยอินทนนท์ ถ้าไม่ใช้แรงอัดจากกระบอกสูบช่วยเบรก (engine brake) ด้วยการเลื่อนคันเกียร์มาตำแหน่งเกียร์ต่ำ ทีละ step ( ขึ้นอยู่กับองศาความลาดชันในขณะนั้น ) ผ้าเบรกมีสิทธิ์ไหม้ จะเบรกไม่อยู่ (เกิดอาการที่เรียกว่า brake fade)
เวลาเกิดปัญหานี้ขึ้นมาขณะลงเขาชันและเป็นทางโค้งมีเหวละก็ ใจหล่นไปตาตุ่มครับ เวลาเหยียบเบรก แป้นเบรกจะรู้สึกแข็งเหมือนปกติ แต่เบรกไม่อยู่ครับ ถ้าเจอแบบนี้ให้รู้เลยว่าผ้าเบรกมัน fade แล้ว (เบรกไม่อยู่เพราะผ้าเบรกไหม้ ถ้าสังเกตจะเริ่มได้กลิ่นไหม้)
คนไทยจำนวนมาก ยังไม่เข้าใจวิธีขับรถเกียร์ออโต้ขึ้นเขา ลงเขา ผมลงจากดอยอินทนนท์เมื่อหลายปีมาแล้ว รถข้างหน้าแทบทุกคันโดยเฉพาะที่ติดป้ายทะเบียน กทม เลียเบรก ไฟเบรกติดยาวตลอดแทบทุกโค้ง มีสิทธิ์เกิดอุบัติเหตุเพราะผ้าเบรกไหม้ได้ครับ คุณภาพของผ้าเบรกที่ใช้ก็มีส่วน ถ้าใช้ของไม่ได้มาตรฐาน เวลาขับลงเขาและใช้เบรกหนักๆบ่อยๆ ความร้อนจะสูงมาก ผ้าเบรกที่ไม่ได้มาตรฐานจะ fade ได้ง่ายครับ
ปัญหาอีก 2 อย่าง ที่อาจจะเกิดเวลาที่ขับรถลงเขาที่ลาดชันเป็นระยะทางยาวๆ แล้วใช้เบรกอย่างเดียว ไม่ใช้เกียร์ต่ำช่วย ก็คือความร้อนที่เกิดจากการใช้เบรกอย่างหนักที่สะสมบริเวณคาลิปเปอร์เบรกนั้น นอกจากทำให้ผ้าเบรกไหม้ได้แล้ว จานดิสก์เบรกก็จะร้อนจัดจนจานแดงได้เลย ประสิทธิภาพระบบเบรกจะตกต่ำอย่างมาก จนถึง 0% เลย คือเบรกไม่อยู่เพราะผ้าเบรกมันไหม้ อีกประการก็คือ ความร้อนที่สูงจัดในบริเวณนั้น อาจทำให้น้ำมันเบรกในท่อสายอ่อนและในห้องลูกสูบแคลิปเปอร์เบรกเดือดเป็นฟองได้ ถ้าเกิดอาการนี้ขึ้นมาด้วย ก็อันตราย อาการเริ่มแรก เวลาเหยียบเบรกจะรู้สึกว่าเบรกมันจมต่ำลง กว่าปกติ ความรู้สึกเหมือนเหยียบลงบนยางหยุ่นๆหรือเหมือนเหยียบฟองน้ำหยุ่นๆ กรณีเลวร้ายแป้นเบรกจะจมติดพื้นเลย แต่เบรกไม่ทำงาน ภาษาชาวบ้านคือ "เบรกแตก" อาการจะเหมือนกรณีท่อน้ำมันเบรกแตก/รั่ว
แบบนี้อันตรายมากครับ
ปกติแล้ว น้ำมันเบรกคุณภาพดีจะมีจุดเดือดสูง แต่ถ้าน้ำมันเบรกที่ใช้ไม่ได้มาตรฐานก็อาจจะเกิดปัญหานี้ได้
แม้ว่าเราใช้น้ำมันเบรกคุณภาพดี แต่ถ้าใช้มานานมาก มันก็เสื่อมคุณภาพนะครับ เพราะมันดูดความชื้นเข้าไปได้ง่ายมากๆ เมื่อมีความชื้นเข้าไปนานๆเข้า จุดเดือดจะต่ำลงมาก ผู้ผลิตรถยนต์จึงแนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเบรกทุกๆ 1 หรือ 2 ปี แล้วแต่ยี่ห้อรถและชนิดของน้ำมันเบรกที่ใช้ (มีหลาย spec) แต่บางทีเจ้าของรถก็ไม่ทราบ แถมช่างบางคนก็ไม่ปฏิบัติงานตามมาตรฐาน ทำงานแบบสุกเอาเผากิน
สรุปว่า
1. ผู้ใช้รถ ควรต้องศึกษาเพิ่มเติมพอสมควรในเรื่องของการขับขี่ให้ถูกวิธี ควรอ่านคู่มือการใช้รถ และทำความเข้าใจให้ดีเกี่ยวกับรถที่ตนใช้ การใช้งานอุปกรณ์ต่างๆต้องใช้อย่างไรจึงจะถูกต้อง รายละเอียดมันเยอะ หลายๆบริษัทก็มีเปิดฝึกอบรม ก็ควรจะเข้าไปร่วม
2. ผ้าเบรก น้ำมันเบรก ควรเลือกใช้ที่ได้คุณภาพมาตรฐาน รวมทั้งอะไหล่อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และผู้ร่วมใช้รถใช้ถนน ตลอดจนคนเดินเท้า
3. ดูแลรถให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ตามกำหนดวาระก่อนเดินทางไกลทุกครั้งควรต้องตรวจสภาพและเตรียมรถให้ดี
4. ขับอย่างระมัดระวัง ขับด้วยความมีสติ เคารพกฏจราจรและเคารพสิทธิ์ของผู้อื่น
สุดท้าย ต้องไม่ประมาท
ขอบคุณท่านเจ้าของคลิปที่แบ่งปันความรู้ที่เป็นประโยชน์ครับ
ขอบคุณมากๆสำหรับความรู้ใหม่นะคะ👍👍👍
SwingEzzZZ ผมขับกลับจากดอยห้วยน้ำดัง
ตอนลงเขาไม่พักเลย กลิ่นเบรคไม่มี ดิ่งยาวถึงกรุงเทพ ถ้าคนไม่รู้เรื่องนี้หรือไม่ชินทาง
ลำบากครับ อย่าเล่นกับเขากับดอยเลย
SwingEzzZZ สุดยอดมากครับ ได้ความรู้มาอีกเพียบเลย ขอบคุณหลายๆเด้อที่ช่วยแบ่งปัน...เยี่ยม!
ขอบคุณครับ
รถ มิราจ ถ้าลงเขาชันๆยาวๆ สัมภาระเต็มคนเต็ม มีวิธีลงแบบไหนคับ หน้าหนาวต้องเอามีราจไป อินทนนท์ อ่างขาง ดอยหลวงเชียงดาว คับ
น่าจะมีคำอธิบายให้ชัดเจนเข้าใจง่ายกว่านี้นะครับ อย่างเช่นอธิบายว่าเวลาเปลี่ยนเกีร์ย รถเกีร์ยออร์โต สามารถโยกคันเกีร์ยเปลี่ยนได้เลย ไม่ต้องแตะเบรคเวลาเปลี่ยน จะไม่มีปัญหาเรื่องระบบเกีร์ยแน่นอน เพราะรถออกแบบมาแบบนี้ อะไรก็ว่าไป อธิบายให้ความรู้แบบครบเซตเข้าใจในระบบไปด้วยเลยน่าจะดีกว่านะครับ .เวลาเปลี่ยนเกีร์ยก็ให้ค่อยเปลี่ยนไปทีละสเต็ปด้วยรึป่าวก็ว่าไป..น่าจะดีครับ ขอบคุณที่ให้ความรู้ครับ
อยู่ๆก็เด้งขึ้นมา เอ้า เรียนด้วยค่ะ ขับเป็นแต่อัตโนมือ ส่วนอัตโนมัติขับไม่เป็นค่ะ 👍😅
บอบคุณค่ะครู 💐🤗
เข้าใจง่ายจริงไปคับคลิปนี้ ผมขับแต่เกียร์ธรรมดา ขับออโต้ขึ้นเขายังสงสัยทำไมอมืดๆ
ผมทำไว้เรียบร้อยเเล้วครับ เข้าไปดูได้เลยครับ
เยี่ยมครับ ส่วนใหญ่จะไม่รุ้
จำเป็นต้องดูไว้ครับ
ปกติผมขับรถเยอะมาก ท่องเที่ยวภาคเหนือ ใช้เกียร์ธรรมดา
ล่าสุดไปดอยอ่างขาง ตอนลง ชัน และต่อเนื่องยาวๆ
ใช้เกียร์ออโต้ Suv 4WD เผลอไปแตะเบรคบ่อยๆยาวๆ
เพราะไม่ค่อยได้ใช้
ผลคือเบรคไหม้ ควันขึ้น จอดสักพัก ไปต่อ
ควรรู้ไว้ มีประโยชน์มากครับ
เคยมีคนรู้จักเล่าให้ฟังเหมือนกันว่าเบรกไหม้ระหว่างไปอ่างขาง
พอดูคลิปนี้เสร็จ ได้ขับรถขึ้นเขาที่ชันมาก นึกถึงคลิปนี้เลยค่ะขอบคุณมากๆ มีประโยชน์มากค่ะ
ทางขึ้นมันไม่เท่าไหร่หรอก ส่วนมาก ดีธรรมดาขึ้นไหว นอกจากมันจะชันมากจริงๆหรือรถเราหนักมากจริงๆ แต่เวลาลงสำคัญ ต้องใช้เกียร์ต่ำช่วยเพื่อไม่ให้แรงโน้มถ่วงทำให้รถลงเร็วเกินไป ถ้าใช้แต่เบรคจะทำให้เบรคไหม้ อาการเบรคไหม้คือเบรคไม่อยู่ต้องเหยียบเบรคลึกขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายจะเบรคไม่อยู่และตกเขาได้ ผู้ขับต้องสังเกตุอาการรถ ถ้าเป็นแบบนั้นต้องจอดพักรถให้เบรคเย็น ก็สามารถไปต่อได้ การใช้เกียร์ต่ำเป็นการช่วยลดภาระการทำงานของเบรค เพราะการใช้เกียร์ต่ำเป็นการควบคุมความเร็วของรถได้ระดับหนึ่งแล้ว ที่เหลือก็ใช้เบรคช่วยประคอง
ส่วนวิธีการใช้เบรค อย่าเหยียบเบรคแช่ไว้ตลอดทาง ถ้าต้องการลดความเร็วก็เยียบ ถ้าเป็นทางโค้ง ให้ลดความเร็วก่อนถึงโค้ง ถ้าวิ่งมาเร็วแล้วเบรคพร้อมกับหักพวงมาลัยอาจทำให้รถเสียหลักยิ่งถ้าฝนตกด้วยมีโอกาสสูงมาก
ปล. ถ้าคุณคับช้ามากจนรถข้างหลังยาวเป็นหาวว่าว ถ้ามีจังหวะทางตรงก็หลบซ้ายให้คันหลังแซงด้วยครับ เป็นมารยาท
ปล2. เป็นคลิปที่ไม่ละเอียดเลยครับ ถ้าคนไม่เป็นมาดู ไม่เข้าใจแน่นอน
ชอบ ได้ประโยชน์มั๊กๆ
ขอบคุณครับได้ความรู้เพิ่ม
ขอบคุณครับพี่ พี่พูดได้น่าฟังครับสบายๆกันเองมาก ติดตามตลอดนะครับ
ถ้าทางลงชันๆผมเเนะนำ ให้เบรกเหมือนกระชั้นชิดให้รถเกือบหยุดเเล้วปล่อยเบรค ถ้าจะทำเเบบนี้ได้ต้องดูรถหลังด้วยนะครับ ถ้ามีรถหลังตามมาให้เบรคเหมือนปกติ
ชอบมากๆค่ะ แต่ถ้าทำ ภาพ 2 colum คู่กันไป จะเป็นคลิป ที่ ดีมากๆเลยค่ะเพราะ มีผู้หญิงที่ รอดูอีกเยอะค่ะ แขร์ต่อให้เพื่อนแล้ว ลองดูนะคะ ❤
ขอบคุณมากครับ
จากประสบการณ์ ทึ่เคยลงดอย ถ้าดอยอินทนนท์ รถเก๋งนั่ง4คน รับรองเบรคมีกลิ่นแน่นอน แต่เคยนั่งแค่2 ไม่เป็นอะไร สรุป อาจจะตัองพักจอดเป็นช่วงๆ เวลาลงถัานั่งหลายๆคน ถ้าให้ดี กระบะดีกว่า
เกียรออโต ที่ตำแหน่ง D เมื่อรอบเครื่องถึงมันจะพยายามเปลี่ยนขึ้นเกียร์สูงตลอด คราวนี้เวลา ขึ้นเขา เราจะเหยียบคันเร่ง พอเหยียบมากเกียร์ก็เปลี่ยนขึ้นเกียร์สูง แรงก็ไม่มีสิครับ คนไม่รู้เรื่องก็ลนลานอะไรจะเกิดขึ้นพอหมดแรงรถก็จะไหลถอยหลัง สติไม่ดีก็มีคว่ำมีตกข้างทาง พอรถเริ่มไต่ทางชันเราต้องรักษารอบกับแรงขับของรถไว อย่าให้มันเปลี่ยนขึ้นเกียร์สูง โดยโยกคันเกียร์ลงมาที่ D3 กรณีไม่ชันมาก หรือ 2 กรณีที่ชันมาก เสียงเครื่องจะดังสนั่นไม่ต้องกลัวครับตราบใดที่รอบเครื่องไม่ถึงขีดแดงเครื่องเรารับไหว รถก็จะมีแรงพาตัวเองขึ้นไปที่อัตราทดต่ำแรงบิดมากเพียงพอที่จะพาตัวเองขึ้นทางชันไปได้ เมื่อเข้าสู่ทางเรียบก็เปลี่ยนขึ้น D3 D ต่อไป
ไม่มั้ง ขับ D ปกติเมื่อถึงเนินชันเกียร์จะทดลงมาเองโดยอัติโนมัติตามความสูงของเนิน ไม่งั้นเขาจะเรียกว่าเกียร์อัติโนมัติเหรอ
ถ้าขึ้นเนินชันมาก ไว้ใจไม่ได้นะ ต้องควบคุมเอง อย่าเชื่อขนาดนั้น ให้ดูรอบ อย่าปล่อยจนหมดแรง จะไม่มีแรงส่ง
สงสัย ถ้ารถไม่มีแรงขึ้น มันไม่ลดเกียร์เองลงมาหรอ
@@winner1338 เกียร์มันเปลี่ยนตามรอบเครื่องนะครับ สมมติคุณเร่งที่ 4000 รอบ เกียร์เปลี่ยนเป็นเกียร์สูง รอบจะตกลงแต่รถขึ้นเขาอยู่ รอบต่ำที่เกียร์สูง แต่รถไม่มีความเร็วจะเกิดอะไรขึ้นครับ
@@jathurongs9974 ถ้ารอบมันต่ำ เกียร์ออโต้มันก็ลดเกียร์ลงมาเองไม่ใช่หรอครับ
ขับมา 120 ปล่อยไหลไม่เหยียบคันเร่ง จนรถจอดนิ่ง เกียร์มันก็ลดลงมาเองเรื่อยไม่ใช่หรอครับ
ส่วนตัวผม ใช้ D D3 ขึ้นคับ ท่าลงก็ D3D2D1 คับ คันไหนมีสปอร์ต ก็กดไว้คับ ไม่ต้องเหยียบคันเร่ง การขึ้นเขาเอาจริงๆ ผมขับเกียออโต้ขึ้นทับเบิกครั้งแรกผมใช้L เกียผมไหม้คับ ช่วงขึ้นมันยาว
หลังจากนั้น ผมใช้ D34 ขึ้นตลอดคับ ท่ารถเริ่มช้ารอบต่ำกว่า 2000 ให้กดกระแทกคันเร่ง มันจะ ลดเกียให้ พอความเร็วได้มันจะเพื่มเกียให้เอง คุมรอบให้อยู่ ประมาณ 2000-3000 รอบ ตอนขึ้น ท่าเราใช้เกีย1-2ขึ้น อัตราทดมันไม่เหมือน เกียธรรมดา มันจะเป็นการ ลากเกีย1หรือ2 ระยะทางยาวๆ รอบเครื่องสูง แต่รถมันไม่ขึ้น เพราะแผ่นครัชในเกียมันเล็กๆไม่เหมือนเกียธรรมดา ทำให้ครัชไหม้เกียลื่น หรือ เครื่องฮีท ได้คับ แนะนำใช้ D34 ขึ้นคับ ส่วนรถเครื่องเล็กหรือ cvt ให้หาจังหวะส่งรถขึ้น ไม่ตามคันหน้า หาจังหวะส่งดีๆ
ได้ความรู้ดีมากเลยครับ! แต่ ยังไง ขึ้นเขาลงเขา เกียร์ธรรมดา ดีกว่า ออโต้ แยะ ที่ยุโรป ถึงนิยมใช้ MT กันน่ะครับ!
กำลังไปจ.เลยพรุ่งนี้ได้ความรู้เลยครับ
ไม่เห็นด้วยนะที่ตอนขึ้นเขาให้ทดเกียร์ลงมาที่D3ให้ใช้เกียร์Dนั่นแหละ ถ้ากำลังไม่พอเกียร์จะทดให้อัตโนมัติแต่ตอนลงเขาควรจะปรับมาที่D3หรือต่ำกว่าเพื่อให้เครื่องยนต์ช่วยลดความเร็วengine break ช่วยในการเบรคเพื่อไม่ให้เบรคทำงานหนักซึ่งอาจเบรคไม่อยู่และผ้าเบรคไหม้ได้
เขาอาจจะเคยชินในการขับแบบนนั้นครับ หรือไม่ก็จำมาจากการฝึกหัดขับรถ หรือจำต่อๆกันมา แต่จำมาแบบผิดๆถูกๆ
พูดถูก ขับขึ้นเขา ใช่เกียร d ปกติ ขึ้นได้ รถมันมีระบบถดเกียร์อัตโนมัติอยู่ ยิ่งรุ่นใหม่ยิ่งขึ้นสบาย
ถ้าเป็นเขาที่สามารถทำความเร็วได้เรื่อยๆก็ไม่ต้องเปลี่ยน แต่ถ้าเป็นเขาที่มีรถบรรทุกเยอะ ต้องการแซงก็อาจจะเปลี่ยนตามจังหวะของรถนั่นแหละ
กำลังไปดอยทางชัน(auto1300)สามารถเปลี่ยนเกียร์ในระหว่างขับได้ไหมครับ ต้องยกคันเร่งไหมหรือมันปรับระบบให้เองมาสด้า2017 ครับ
มันง่ายนะแต่ที่คุณพูดมันสับสนงง
สุดยอด ขอบพระคุณนะคับ
ขอแชร์ประสบการณ์นะครับ.... เราเคยทำแบบในคลิปนี้แล้วรู้สึกว่าเครื่องจะร้อนเร็วมากอะครับ ขึ้นไปได้แปบเดียว แทบจะ overheat - หลังๆมาเลยใช้ D ธรรมดา รู้สึกจะดีขึ้นมาก...... เราใช้รถ honda type z ครับ
สิ่งที่สงสัยสัยอยากรู้คือจังหวะเปลี่ยนจากเกียร์Dมาเป็นD3,D2,Lเราต้องแตะเบรคก่อนหรือเปล่าครับ
ขอบคุณครับ
ไม่ต้องครับ เปลี่ยนได้เลย
ช่วงที่เปลี่ยนเกียร์รถจะกระตุกไหมคะ
สอนเข้าใจง่ายดีคะ ขอบคุณมาก
ผมขึ้นเขาใช้ D ตลอด ยกเว้นเวลาลงเขา ค่อยทดเกียร์ 3-2-1 ตามความชันของถนน เพื่อช่วยไม่ให้เบรคไหม้...ซึ่งในการขึ้นเขาไม่จำเป็นต้องทดเกียร์ เพราะตำแหน่ง D มันก็เปลี่ยนให้เราตามรอบอยู่แล้ว ก็เลยงงว่าขึ้นเขา ทำไมต้องทดเกียร์....ผมคนดอยใช้รถบนดอยตลอด ขึ้นเขาไม่เคยทดเกียร์ นอกเสียจากว่าขณะขึ้นเขาเราต้องการแซงรถคันหน้า ดังนั้น เพื่อให้การแซงพ้นจึงต้องทดเกียร์ช่วย แต่ถ้าขับปกติขึ้นเขา ไม่ต้องทดเกียร์ก็ได้อยู่แล้ว ทดบ่อยๆเดี๋ยวเกียร์พังอีก 555
ทดเพื่อถนอม คลัชครับไม่ให้ไหม้หรือหมดไว
ส่วนทดเกียร์บ่อยไม่พังครับ อย่าให้เกิน redline
ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ
ขาขึ้นไม่ต้องตบลงก็ได้ D ก็ขึ้นได้ ถ้ากำลังไม่พอรถมันก็ตบเกียร์ลงให้เองอยู่แล้ว
แค่รักษารอบให้ดี อย่าให้รอบสูงมากเป็นเวลานาน เพราะอาจจะทำให้ความร้อนขึ้นได้ ริยสัก 2-3000 กำลังดี
ส่วนขาลง ไม่ต้องรีบลง ตบเกียร์ต่ำช่วยให้เบรคทำงานน้อยลง ปลอดภัยและประหยัดผ้าเบรค
ขึ้น D ได้ครับ **แต่คลัชจะไปไวกว่าปกติ กว่ารถที่ใช้เกียร์ต่ำช่วยครับ
ทางลาดชันต่อเนื่อง ถ้าอยากขึ้นแบบนิ่มๆ ใส่เกียร์ 3 หรือ 2 ไปเลย แล้วแต่ความชัน กดคันเร่งนิ่งๆ ให้อยู่ระหว่าง 2-3 พันรอบอย่างท่านว่า จะไม่มีจังหวะที่รถเสียกำลัง เร่งๆ ผ่อนๆ เปลี่ยนเกียร์ขึ้นลง
เอาใว้สอนคนที่ยังใม่รุ้ครับ
ปราชทั้งหลายใจเย็นๆ555
5555ใช่มีเเต่เก่งๆๆ
จริงครับ ผมพึ่งหัดขับรถมทหาความรู้ มีแต่เซียนทั้งนั้นเลย คนแนะนำน้อยมากกกกก
ใช่ครับกำลังมาหาความรู้ ผมกำลังจะซื้อรถเกียร์ออร์โต้มือสองไว้ขับไปเที่ยวอีก 1 คัน ปกติใช้แต่เกียร์ธรรมดามาตลอด ดันมาเจอแต่ระดับปรมาจารย์ขิงใส่กันแทนที่จะแนะนำเพิ่มเติมกันดีๆ แต่เจ้าของอธิบายได้สั้นและกระชับมากสุด บางช่องอธิบายเวิ่นเว้อเกินดูนานพางง
@@MT-je8gl ใส่เกียร์Dนั้นละครับ ไม่ต้องเปลี่ยนเหมือนเขาหรอกครับ เกียร์Dมันก็ขึ้นเขาได้ครับ แถมปลอดภัยกว่าเปลี่ยนเกียร์เองอีกครับ
@@gofl2552 ขอบคุณมากครับ ตอนนี้ซื้อรถเก๋งวีออสมือสองมาใช้งานละครับ เริ่มพอจะเข้ามือแล้ว
ขอบคุณหลายเด้อ
แนะนำถนนสาย4025 น้ำตกแจ้ซ้อน-บ.ป่าเมี้ยง-กิ่วฝิ่น-แม่กำปอง ครับ..สายนี้ขับสนุก
โหดครับสายนี้ ผมไปเที่ยวแม่แจ๋มหลายครั้ง ก็ใช้ทางเส้นนี้ครับ แต่ใช้ไมตี้เอ๊กซ์มีพาวเวอร์นะครับ สาวมือเป็นระวิงครับ
ขอบคุณมากๆค่ะ
ผมขับมิตซูขึ้นเขาดอยแม่สลอง ใช้เกียร์Dเกียร์
มิตซูเขาแน่นอนอยู่แล้วเรื่องแบบนี้
ใช่ครับขับขึ้นแบบสบายๆๆเลยนะ
สอบถามค่ะ เวลาเราเปลี่ยนเกียร์ d4-3-2-1 ต้องเหยียบเบรคก่อนเปลี่ยนเกียร์ไหมคะ
ไม่ต้องครับ เเค่ชะลอรถ เท่านั้นครับ
อืม ใช้แบบนี้เช่นกัน บางคนบอกเราไม่โปร คือเราคิดนะว่าก็ทำให้มันปลอดภัย และมันก็ดูไม่ฝืนตอนเร่งรอบ
( ภาษาเค้าใช้งี้มั้ยอะ พอดีนี่ไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก แต่เวลาขับมันรู้สึกได้ )
เราจะไปฝืนมันทำไม ก็แค่ลดเกียร์ตอนขึ้น และลง ใครจะโปรไม่โปร ถ้าถึงอย่างปลอดภัย และดูแลการใช้งานของรถได้ นี่ก็ไม่ซีเรียสนะ ปกติเป็นคนขี้กลัวด้วย จะไม่ค่อยชอบขับเร็ว หรือไปจี้ตูดจนเกินไป ก็จะโดนตบไฟเร่งตลอด
เหมือนกัน ส่วนใหญ่จะเป็นทะเบียน กรุงเทพฯ ก็คิดนะว่า กุขึ้น ลงเขา เป็นประจำตั้งแต่กุยังขับไม่เป็น ถ้ามึงรีบมึงไปเลย แต่กุเห็นตกเหวมาเยอะแล้วไม่รู้กี่ศพต่อกี่ศพ กุไม่รีบ
ขอบคุนความรู้ทั้งนั้นเลยคับ
ขอบคุณค่ะ ขอบคุณที่ทำคลิปดีดีมาให้ดู ทำต่อไปเรื่อยๆนะคะ
ขับขึ้นผมว่ามันไม่ยากหรอกถ้ารถมีกำลังพอ หรือรถใหม่ๆ
แต่ลงเขายากกว่า ลงจากอินทนน ทางลงยาวๆเห็นบางคนเบรคตลอดทาง
ตายมาเยอะคับพวกใช้เบรคอย่างเดียวตอนลงเขายาวๆๆ !!! ไม่ใช้รอบเครื่องยนต์ช่วยเบรค
ตอนขึ้นใช้ D ก๊อได้ รอบมันจะทดให้เอง
ตอนลง เอาแบบให้เข้าใจง่ายๆ ใช้เบรคให้น้อยที่สุด คือทดเกียรให้ลงมาต่ำสุด เพื่อให้รอบเครื่องเป็นตัวฉุดรถให้เดินช้าๆ ที่สุด
ถ้ารถเกียร์ออโต้ มี 4x4 ( H / L ) ด้วย ใส่ 4x4 L
ลงมาเรยคับ ผมลงจากภูทับเบิก ใส่ 4x4 ( L ) แบบไม่ต้องแตะเบรคเรยคับ
เวลาเราจะเปลี่ยนจากเกียร์ D ปกติ ไปเป็นเกียร์ ดี 3 หรือ2 เราต้องปล่อยคันเร่งไหม หรือเร่งไปปกติ
ไฟกระพริบที่ 4 L ตลอดครับ จะปรับให้หายไป..ทำอย่างไรครับ
อิซูซุ รุ่นโกลด์ซีรี่ 4×4ครับ
ของผมต้องกด 4H แล้ว กด 2H อีกที (2005)
รุ่นใหม่ๆ ที่ไม่มี D3 2 L ต้องทำยังไงครับ
ขึ้นเขาใช้ตัวDก็ได้ครับ แต่ตอนลงต้องใช้S กรณีไม่มี D3 หรือL
แล้วเวลาเปลี่ยนเกียร์ ต้องเหยียบเบรคก่อนมั้ยคะ หรือเปลี่ยนได้เลย
สอนแบบงงๆค่ะ
ต้องสอนพวก ขับรถบัส หรือรถบรรทุก มักใช้วิธีแตะเบรค เวลาลงทางลาด ผ้าเบรคจะร้อน จนเบรคชำรุด สุดท้ายเบรคแตกไปชนรถคันอื่น เสียหาย หรือถึงแก่ความตาย
นอกเรื่อง รูปปกคลิปคือที่ไหนครับ วิวสวย
D3 ทำหน้าที่เหมือนกับปุ่มโอเวอร์ไดร์ไม่ใช่หรอครับ เพียงแค่รถรุ่นใหม่ๆไม่มีแบบปุ่มให้กด ทางลงลาดชันต้องใช้ 2 กะ1
กูมั่ยรู้ กูมึน ถ้าเป็น เกียร์นี้ในโตโยต้าที่คนชอบเรียกว่าโอเวอร์ไดร์ พอมาขับ mg ตบแล้วไม่รู้สึกอะไรเลย แต่ตบตอนขึ้นเนินช่วยได้เยอะ งงเลยถ้าคิดว่าตบแล้วมันจะเร่งเอาไว้ใช้ตอนแซงในmgคิดผิดนะครับอันนี้บอกเฉยๆ
สอบถามครับ จะเปลี่ยนลดเกียร์มาเป็นเกียร์ 2 และเกียร์ L ผมควรจะเปลี่ยนเกียร์ตอนความเร็วประมาณเท่าไหร่ครับจึงจะปลอดภัยไม่ทำให้รถกระชาก
และขออนุญาตถามเพิ่มเติมอีกข้อหนึ่ง คือผมมีรถอีกคันหนึ่งเริ่มเก่าแล้ว เป็นรถโตโยต้าโซลูน่า เป็นเกียร์ออโต้รุ่นเก่าแบบตรงไม่มีขั้นบันได แบบนี้เวลาผมขับรถขึ้นเนินเขาถ้าผมจะลดเป็นเกียร์ 2 หรือ L ผมสามารถเปลี่ยนเกียร์ในขณะที่รถกำลังเคลื่อนที่อยู่ได้หรือไม่ครับ หรือต้องจอดรถก่อนเพื่อเปลี่ยนเกียร์ครับ รบกวนผู้รู้ผู้ชำนาญช่วยชี้แจงหน่อยครับ ขอบพระคุณครับ
@@ภาณุสุวรรณสุนทร คิดเเบบถนอมเกียร์ เเละเครื่องยนต์นะครับ (เปรียบเทียบอัตรา) เกียร์1 รอบอยู่ที่ไม่เกิน 30 ก.ม. ต่อชั่วโมง เกียร์ 2 ไม่เกิน 40 ก.ม.ต่อชั่วโมงเกียร์3 ไม่เกิน 50ก.ม.ต่อชั่วโมง ส่วนรอบเครื่องประมาณ 2000 ถึง2500 สำหรับผมๆว่ากำลังนุ่มๆพอดีครับ คุณก็ต้องช่างน้ำหนักรอบเครื่อง+ ความเเรงสมรรถนะของเครื่องของรถยนต์คุณด้วย จุดพิกัดรอบความเร็วที่เหมาะสมที่จะทดเกียร์ต่ำกว่า D ถ้าสังเกตุเเบบไวทันการณ์รอบหน้าปัดน่าจะอยู่ที่ประมาณ 40 ก.ม.ต่อชั่วโมงครับ
ขอสอบถามเทียบเกียร์ นิสสันโน้ตกับyaris ative ระหว่างปุ่มover driveของnote คือเกียร์ Sของyaris ไหม และเกียร์Lของ noteคือเกียร์B ของyarisไหมครับ
เยี่ยมครับ👍👍👍
ขึ้นเขาเกียรออโต้ ไม่ค้องเปลี่ยนก็ได้ มันทดไปเกียร์ 2-1 เอง
แต่ลงเขาต้องเปลี่ยน
ช่านย
ใช่คับ แค่กระแทกคันเร่ง มันก็ลด เกียให้แล้ว ท่าเกิดคนขับเป็นแต่ออโต้ ไม่รู้จังหวะเปลี่ยนเกียคืน น้ำมันเกียเดือดเกียไหม้ได้เลยนะ ใช้แต่รอบสูงๆแต่รถไม่ขึ้น
ดีมากๆชอบๆ
กำลังหัดขับเกียร์ออโต้ไอ้ที่เขาบอกDมา3 นี่คือพลักมาเลยโดยไม่แตะเบรกใช้ไหม โดยจังหวะนั้นรถต้องไม่เร็วด้วย กรณีขับขึ้นและลงเขา และ3มา2 มาL นี่คือพลักเลยใช่ไหมค่ะ เราไม่รู้จริงๆกำลังหัดขับ ศึกษาไว้ก่อน
พี่ครับ อยากให้ทำคลิป เกียร์ออโต้กับเกียร์ธรรมาดาแบบไหนดีกว่ากันครับ
ลักษณะมันใช้งาน ต่างกัน ครับ เกียร์ธรรมดา จะสามารถเร่งเเละ สามารถเปลี่ยนรอบเครื่องตามใจผู้ขับขี่มากกว่าครับ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการ บรรทุก เเละ คนที่ใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อเพิ่มความสนุกในการขับขี่ กับ สายซิ่ง
ส่วนเกียร์ออโต้ ใช่ง่ายขับขี่ง่าย เเละ เพื่อความสะดวกในการใช้งานในชีวิตประจำวันครับ รอบเครื่องอาจจะสั่งการไม่ได้ดังใจเท่าไหร่ครับ ถึงเเม้จะมีเกียร์ธรรมดาเเบบอิเล็กทอนิกมาเพิ่มให้เเต่อัตตราการทดก็ไม่เหมือนเกียร์ธรรมดาอยู่ดีครับ มีทั้งข้อดีเเละข้อเสียครับ
จานเบรคสีรุ้ง ผมเจอมาเยอะ กดเบรคจนจมแป้น แต่รถไม่หยุด อิอิ
ในขณะรถกำลังวิ่งและเรากำลังจะเปลี่ยนเกียร์มาใช้เกียร์ต่ำ d-3 ,2,และL ต้องเหยียบแบรคนิดนึงตอนเปลี่ยนเกียร์มั้ยครับ หรือไม่ต้องเหยียบเบรคตอนเปลี่ยนเกียร์ แต่ยังคงรักษาความเร็วไว้คงที่รึป่าวครับ
ผมใช้วิธีผ่อน..แล้วเปลี่ยนได้เลย..ไม่มีปัญหา...
ผ่อนคันเร่งนิดนึงใช่มั้ยครับ
ครับ..ตามจังหวะ..ผ่อน..
เวลาจะดันต้องผ่อนคันเร่งหรือป่าว
ผมผลักมาไส่เกียตำ่1หรือ2ครับ
D4ใช้สำหรับ
ถ้ารถAltis ปี2010 ล่ะครับ เวลาลงเขาจะขับอย่างไรครับ
มีตัวอักษรอื่นไหมครับที่ เพิ่มจากเกียร์ D มา นั้นละครับ เป็นเกียร์สำหรับการทดรอบเครื่อง การใช้งานเหมือนกันกับในคลิปที่สอนเลยครับ
ขับง่ายคับ
ขาขึ้นใช้d ปกติได้เลยครับ
ระบบเปลี่ยนเกียร์เอง
เล่นเกียร์ใช้ขาลงดูรอบให้สัมพันธ์กับการลดเกียร์ด้วยนะครับไม่ใช่ลงมาเป็นร้อยและดึงเกียร์ลง..รับรองพังครับ
เห็นด้วยครับ ขาขึ้น ใช้เกียร์ D ปกตินั่นแหละครับ ถ้ามันอืดไม่มีแรง ก็ kickdown ให้เกียร์เปลี่ยนต่ำลงมาเอง ไม่ต้องโยกเกียร์อะไรเลยครับ
รถผม. กระบะ มีแต่ S และ ใช้S+- บ่อย ทางชันมากๆ โค้งเยอะชัน
ถ้าไปใช้D รถก็แย่ดิค้าบ เข้าใจคำว่าประสิทธิภาพไหมท่าน ผมแซงประจำเลยคงใช้D กันเยอะ แล้วถ้าเก๋งหรือเครื่องเบนซิล ใช้D นี่ รถพังมาหลายคันแล้ว ชันโค้งมากๆอย่างทับเบิก ผมเคยขับเก๋ง1.5 ขึ้นอินทนนท์ ยังต้องใช้S +- รุ่นที่ใช้มี แพดเดิ้ลชิพ ใช้d รถจะไม่ไหว รอบขึ้นสูง
_แล้วท่านคิดว่าเขาทำมาทำไมเกียร์เพิ่ม _ก็เพื่อ ขึ้นลงเขา สายลุยโคลน4*4
คือเกียร์อัตโนมัติมันคิกดาวเองนะท่าน ผมขับขึ้นมาเป็น10รอบละเกียdตลอด พอขึ้นไม่ไหวเกียร์มันจะเปลี่ยนเอง คืองงจะทำให้มันวิชาการเพื่อ
ถามหน่อยครับ ถ้าเวลาเหยียบคั่นเร่งไปแล้วเวลาเปี่ยนเกียรแบบไม่ต้องเหยียบเบลคมันจะดับไหมมครัล
ไม่ดับครับ
ไม่ดับครับ ดันเกียร์ได้เลย เกียร์ D กับ D3 ผลักสลับได้ตลอด
เวลาจะสตาสรถ เวลาจะออกเกียรต้องทำไงครับสมมุติว่าผมสตาสรถแล้วแล้วใส่เกียรรถจะพุ้งไปข้างหน้าไหมม
Pop mapk สตาร์เสร็จกลัวรถพุ่งเหยียบเบรคไว้ก่อนเลยครับ จะออกตัวค่อย ค่อยปล่อยเท้า ครับ
อ้าว ปกติตอนเปลี่ยนเกียร์ จะไม่แตะเบรกก่อนเหรอ ?
เจออำเภอสังขละบุรีลงเขายาว1กม.เกียร์1เท่านั้น พังแน่นอน
ทางขึ้นดอยหรือเปล่าครับ
ผมซื้อรถเก่ามา ไอ้ปุ่ม. โอเวอร์ ไดร์ฟ มันใช้ยังไงครับ ใช้ช่วงไหน แล้วเวลาขึ้นเขาลงเขาเราใช้ไหมครับ แอดเวนเจอร์ ไทรุ่ง
รถวิ่งใส่เกียร์จากDเปลี่ยนไปD3-2-1ต้องแตะเบรกหรือหยุดรถหรือเปล่าครับ
ไม่ต้องครับ ใส่ได้เลย
แล้วรถออโต้ ที่ใช้paddle ship ละคับ
ลักษณะการใช้เหมือนกันเลยครับ
ใช้สนุกเลยท่าน ปรับเหมือนเกียร์ธรรมดาเลย. สนุกสุดสำหรับ. S+-
@@mycarchannel1275 ขอบคุณมากคับ
@@gothailandstudio2980 จะลองใช้ดูคับท่านขอบคุณครับผม
ตอนรถวิ่งอยู่เปลี่ยนเกียใด้มั้ยครับหรือต้องจอดก่อนถึงเปลี่ยนเกียครับ ถ้ารถกำลังวิ่งแล้วถ้าเปลี่ยนใด้ จะใช้ความเร็วเท่าไรครับถึงเลื่อนเปลี่ยนเกียต่ำใด้ครับ
เวลาเปลี่ยนเกียร์ให้ชลอรถ ครับ ขึ้นอยู่กับความเร็วที่ใช้อยู่ครับ ถ้าใช้ความเร็วประมาณ 40 ก็เบาลงมาประมาณ 30 เเล้วเปลี่ยนได้เลยครับ
รถผมเกียร์ออโต้ แต่เวลาขึ้นเขาผมเปลี่ยนเป็นเกียร์ธรรมดาคับ ผ่านแพทเดอร์ชิบ
มาสด้า3เครื่อง2,000cc.ขับขึ้นเขาได้สบายๆ
ขอบคุณครับ
เสริมนิดนึงครับ เกียร์ L ใช้ได้แค่ช่วงสั้นๆครับ ขาขึ้นไม่จำเป็นต้องใช้ ใช้แค่ D2 พอถ้าชันมาก ขาลงถ้าไม่ชันมากก็ไม่ต้องใช้ ถ้าลงชันมากๆก็ให้ใช้แค่ช่วงสั้นๆ แล้วย้ำเบรคช่วยเอา อย่าเลียเบรค เกียร์ L จุดประสงค์หลักคือ เอาไว้เสริมแรงเวลารถติดหล่ม หรือต้องปีนขอบที่ต้องใช้กำลังเพิ่ม ถ้าลากยาวๆอาจเสียหายได้ครับ
รถทุกรุ่นมีสเปคบอกแรงบิดสูงสุด คือแรงที่ใช้ลากจูงหรือปีนป่าย เช่นรถรุ่นนึงบอกว่าแรงบิดสูงสุดที่ 3000 รอบ เราก็ใช้รอบประมาณนั้นในแต่ละเกียร์ ถ้าเข้าเกียร์ D แล้วรอบมันน้อยกว่า 3000 รอบ เราก็ kickdown ให้เกียร์เปลี่ยนต่ำลง (หรือโยกเกียร์ตามแต่ถนัดของแต่ละบุคคล) รอบเครื่องก็จะกลับไปที่ 3000 รอบ ประมาณนี้ ถ้ารอบเครื่องสูงเกินแรงบิดสูงสุด เกียร์ D ก็จะเปลี่ยนเอง
ถ้าเจอรถจอดหรือติด ได้ใช้แน่นอนครับ
OKรู้เรื่อง...
ต้องเหยียบเบรคไหมคะ ถ้าเปลี่ยนเกียร์
ไม่ต้องครับ เปลี่ยนได้เลย
ที่น่ากลัวคือโค้งพับผ้าแล้วชันดิ่งเลย ไม่ว่าขาขึ้นหรือลง อย่าเร็วมากแต่ตอนสับเกียร์หรือแตะเบรคต้องไว
สอบถามครับ...ขณะที่รถวิ่งอยู่แล้วตบเกียร อยากถามว่าเกียรออโต้ไม่พังหรือมีปัญหาหรือครับ(ตอบด้วยครับ)
ไม่พังครับ
@@mycarchannel1275 ต้องใช้ความเร็วเท่าไหร่ถึงจะตบเกียร์ได้(เข้าเกียร์ขณะรถวิ่ง)ขอบคุณมากๆครับ🙏🙏🙏👍👍👍😍😍😍
ความเร็วไม่เกิน 40 กิโลเมตรครับ หากทดเกียร์เพื่อให้เป็นเกียร์ต่ำครับ
@@mycarchannel1275 ขอบพระคุณเป็นอย่างมากครับ ผมใช้รถมาเกือบ10ปีแล้ว บอกตรงๆไม่กล้าตบเกียร์เลยครับ กลัวเกียร์พัง ต้องชะลอรถทุกครั้งถึงจะเข้าเกียร์😍😍😍👍👍👍🙏🙏🙏
เปลี่ยนได้เลยไหมคะ กดเบรกไหมคะ
เปลี่ยนได้เลยครับ เเค่ชลอรถ ครับ
@@mycarchannel1275 ขอบคุณค่ะ
ของผมรถอเมร่า เกียร์ p r n d L
เดินหน้าd ถ้าจะใส่เกีย L(เกียสโลว์) ต้องจอดก่อนไหม หรือผ่อนแล้วใส่เลย
ผ่อนเเล้วใส่ได้เลยครับ
@@mycarchannel1275 ขอบคุณคับ
มีกะบะเก่า ช่วยแนะนำหน่อยคับ อยากไปกะเขาบ้าง หลายคริปมีแต่รถใหม่ๆ
เดียวเอากระบะ มือสองมารีวิวบ้างครับ ขอบคุณที่เเนะนำครับ
สอนเปลี่ยนเกียร์... แต่ไม่ถ่ายให้ดูทางขึ้นทางลง ให้ดูแต่เปลี่ยนเกียร์เพื่อ???
ก็จริงนะ ถ้าคนขับเป็นใหม่ๆ
คงไม่รู้ว่าจังหวะไหนใช้เกียร์ไหน
ถ้าจะเข้าใจยากขนาดนี้แนะนำ รร สอนขับรถนะ
จริงๆแล้ว ถ้าขึ้นเขาอย่างเดียวเขา D เลยคับ ระบบมันจะทำให้เองอยู่แล้ว แต่ๆๆๆ ตอนลงเขาถ้าเนินลงชันมากๆ ต้องเข้าเกียร์ 3>2>1 แล้วแต่ความชันของเนินลงคับ ไม่ควรใช้เบรคอย่างเดียว เพราะผ้าเบรคจะไหมหรือน้ำมันเบรคเดือดแล้วจะหยุดรถไม่ได้เลย!!!
ช่วยสอนมารยาทมือใหม่ ขับรถลงเขา ให้ทางรถขึ้นเขาด้วยครับ
อยากให้เอBenz มารีวิวบ้างจังค่ะ
ได้เลยครับ เดียวมีโอกาสรีวิวBenz ครับขอบคุณที่ติดตามนะคนับ
ขึ้นเขาไม่ต้องเปลี่ยน. ตอนลงต้องเปลี่ยน ย้ำว่าต้องเปลี่ยน
แล้วถ้าลงเขาแบบทางชันมากแล้วใช้เกียร์D2,D1แล้วพอถึงทางเรียบปกติจะใส่เกียร์Dต้องหยุดรถหรือชลอรถเผื่อจะใส่เกียร์มั้ยครับ
ไม่ต้องหยุดรถ ใส่เกียร์ได้เลย จะถอนคันเร่งก่อนนิดนึงก็ได้ครับ
เยี่ยม....
ສະບາຍດີຂໍຖມມແດ່ວ່າເວລາເຮົາເລັ່ງຄວາມແຮງ60ກ່ວາໂຕດີຈະເຕັ້ນແມບໆບໍ່ຮູ້ວ່າລົດເກິດຫຍັງຂື້ນລົດເພຫວາ
จริงๆใช้ D ขึ้นลง เลยก็ได้ แล้วคุมเบรคเอา
ธิติพงษ์ สาระวะ คุมเบรค ๆ ถ้าเบรคไหม้ จะเอาอะไรคุม
พูดซะดูยาก กูใข้ดีกับโอเวอร์ไดร์จบทุกเขาทั่วไทย
พูด.. สับ.. สน..วก.. ไป..วก.. มา.. ฟังไม่รู้เรื่อง... ต้องพูด.. เป็น.. คั่นตอน.. เปรียบ.. เทียบ.. เกียร.. ตํ่า..คือ.. 1...2....ขึ้นหรือ...ลง...เขา...ต้อง..ถ่าย..ทอด...ไห้..
เป็น..อย่าไปอวด..เอฟ..ชี...มาก...หรือ..อวด..เก่ง..
คน.ที่เก่ง..
ก็..มี...มาก..มาย..นะครับ..
เปลี่ยนเกีร์ยขณะที่รถกำลังวิ่งอยู่ ได้ใช่มั๊ยครับ..เกีร์ยไม่พัง รถไม่กระตุก ไม่เกิดอุบัติเหตุใชมั๊ยครับ..ผมไม่กล้าเปลี่ยนเกีร์ยขณะที่รถยังวิ่งอ่ะครับ ดูหายคลิปล่ะ ไม่มีใครบอกเรื่องเปลี่ยนเกีร์ยเลยครับ
สามารถเปลี่ยนได้เลยครับ ชลอรถเเล้วเปลี่ยนได้เลยครับ
D3ก็ขึ้นได้. ขนาดรถผม เอ็นจีวี
ดันมาแล้วทุกดอย. จ.น่าน.
เวลาเปลี่ยนเกียต้องเยียบเบรกไหม
ไม่ต้องครับ
วิธีขับรถขึ้นเขาด้วยเกียออโต้: เหยียบคันเร่ง กับ เบรค ให้เหมาะสม
ขึ้นเขาก็ใส่ D ซิครับเดี๋ยวเกียร์มันก็เปลี่ยนตามกำลังรถเอง อย่างในรูปเป็นเกียร์ออโต้ 4 สปีด เกียร์ก็จะวิ่งที่ 4321 ตามลำดับ แต่ถ้าลงเขาเราถึงใส่ 3 หรือ 2 ตามความชัน
แล้วถ้ามีแค่เกียร์ D กับ S ทำยังไงครับ ต้องใส่ S แล้วใส่เกียร์ manual เอาใช่ไหมครับ
ง่าย ๆ คือ เอ็นจิ้นเบรค