ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
เมื่อใดรัฐบาลไทย ให้ความสำคัญกับรถประเภทนี้ ซึ่งที่จริงแล้วกรุงเทพตรอกซอกซอยมีแทบบนถนนทุกสายซึ่งเหมาะกับรถประเภทนี้มาก มีแต่เกรย์มาร์เก๊ตนำเข้ามาขายแต่ราคาขายรวมภาษีตกคันละล้านอัพเกือบๆล้านห้า ซึ่งผู้บริโภคที่สนใจรถประเภทนี้ต้องถอดใจไปเล่นรถที่ผลิตในประเทศและราคาถูกกว่ามาก
ความคิดแกนหลักคือ รถ kei-car ในไทยถ้าจะทำได้คือ ไทยต้องเป็นผู้ผลิตแบรนด์ตัวเองครับ ผมคิดว่า kei-car คือการแก้ปัญหาของสังคม, เศรษฐกิจ, อุตสาหกรรมญี่ปุ่น ถ้าจะมา ไม่ใช่แค่เอาตัวรถมา แต่ "เอาเขามาใช้ทั้งยวง" น่าจะเหนื่อย สู้ให้ผู้ผลิตทำรถเล็กในไทย ดีใกล้เคียงแบบ kei car ในขนาดตัวถังที่คนไทยยอมรับ จะง่ายกว่ามากครับ
ถ้าดูราคาในญี่ปุ่นจริงๆ ตัวรถ Kei car ราคาไม่ถูกครับ บางนุ่นซื้อรถ B segment ได้สบายๆ แต่รัฐบาลญี่ปุ่นลดภาษีประจำปี ลดค่าทางด่วน ในตจว. สามารถซื้อโดยไม่ยื่นที่จอดแน่นอนได้ เห็นได้ว่ากฎหมายมัน support มากครับ ถ้าประกอบขายไทย จินตนาการว่า Honda N-One ราคาเกือบเท่า City Hatchback โดยไม่มีสิทธิ์ทางภาษี หรืออะไรเลย มันก็ไม่ควรจะขายออกจริงไหมครับ
หลักๆเลยคือแพงฉิบ..ทั้งที่เป็นรถประหยัดดูดีเหมาะกับเมือง
@@cwfqayinใส่ระบบไฮบริดมาสิคับ ขายกระจาย
ส่วนตัวเป็นคนที่ชอบ K-Car มาก
คนไทยไม่ได้มองว่ารถเป็นแค่ยานพาหนะแบบคนญี่ปุ่น คนไทยมองว่ารถคือเครื่องมือแสดงฐานะ ใครขับK- car คงจะถูกมองว่าโคตรกระจอกทันที ขนาด ECO- Car เครื่อง1,200 มันยังขิงกันเลย 😄 ส่วนตัวผมโคตรชอบเลย K-car ใครไปญี่ปุ่นเห็นแล้วชอบกันทุกคน
คำถามแรก ทำไมรัฐฯญี่ปุ่น ถึงหนุน k-car ถ้าเห็นขนาดถนนนอกเขตเมือง หรือขนาดที่จอดรถในเมือง ..เราก็พอเข้าใจแต่พอจะเอาออกมาขายนอกประเทศ กลับเน้นขนาดที่ใหญ่ นั่งได้เยอะแต่ถ้ามอง suzuki carry หรือ calibean ที่เข้าข่าย k-car ด้วยราคา ก็พอขายได้อยู่
เมืองไทยปรับเป็นซิตี้คาร์ไง นั่งสบาย ขนาดไม่เล็ก ญี่ปุ่นใช้เคคาร์ก็น่าจะประหยัดภาษี ค่าบำรุง พื้นที่จอดที่จำกัดอีก
เพราะมันกิยน้ำมันน้อย ปตท ไม่ชอบ เลยสั่งรัฐบาลตั้งภาษีขวางไว้ 5555 ต้องแพงจะได้เข้าถึงยาก
จิงๆ น่าสนับสนุน สะดวก ประหยัด
ดูแล้วนึกถึง Suzuki Celerio ครับ พิกัดรถใกล้เคคาร์มากๆ (เข้าใจว่าเพราะออกแบบโดยอินเดีย เลยได้อิทธิพล Maruti Suzuki มาเยอะ) แต่ได้เครื่องที่โตกว่า คือ 1.0 ลิตร แต่ที่น่าตลก (แต่ก็เข้าใจได้) คืออัตราสิ้นเปลืองเจ้าเซเลฯ ทำกันได้ระดับ 18-20 กม./ลิตร ในการใช้งานจริงเลยด้วย ดีกว่าเคคาร์ 660cc ซะอีก คิดว่าคงเป็นเพราะกำลังเครื่องมันบาลานซ์กับตัวรถมากกว่าที่เคคาร์ยุคใหม่เป็นอยู่แม้ออพชั่นจะน้อยแต่ราคาก็น่ารัก (เป็นผลทางตรงจากการต้องกดต้นทุนรถ เห็นว่าต้นทุนมันไม่ได้หนีรถใหญ่กว่าอย่างพวกซับคอมแพกต์คาร์เครื่อง 1.2 ลิตรมากนัก แต่ถ้าแพงไปมันจะขายไม่ได้) แต่ราคาถูกขนาดนี้มันก็ยังขายได้แค่เดือนละหลักร้อยคันต้นๆ ไม่ได้เยอะเลย แต่ขายได้เรื่อยๆ จนตอนนี้อายุตลาดก็หลายปีแล้วก็ยังขายได้น่าเสียดายว่าโครงการอีโคคาร์ของภาครัฐจะหมดลงในปี 2025 นี้ เจ้าเซเลฯ ก็จะเลิกผลิตเวลานั้นพร้อมๆ กับการปิดโรงงาน Suzuki ในไทยเหมือนกัน เพราะยอดขายตอนนี้หากไม่มีมาตรการรัฐมาซัพพอร์ตอีกต่อไปก็คงไม่สามารถทำกำไรได้แล้วครับ
น่าเองมาขายในไทยมากๆๆ
ถ้าจะทำเองคงค้องเป็น ev ไปแล้วละแบบค่ายจีน จะผลิตให้คุ้มโมลด์คือส่งออก แล้วจะส่งไปประเทศไหนได้ก็ได้แค่ญี่ปุ่น หรือไม่ก็อินเดีย หรือจีน แต่เคคาร์แบบนี้ ต้องไปกลุ่มผู้หญิงทำงานใช้ในเมืองนั่นแหละ
ใกล้เคียงสุด คงเป็นเป่าจูน เย็บ ที่กำลังจะเปิดขาย ถ้ามิตซู เอาปาเจโร่มินิ มาลงตลาด ก็วัดกันได้
ในแง่ของขนาดตัวถัง เอาเล็กแบบเคคาร์เป๊ะๆเลยคงยากเพราะเล็กเกินไป แต่ถ้าในแง่ของขนาดเครื่องยนต์ มีความเป็นไปได้ที่ค่ายญี่ปุ่นอาจจะหันมาทำรถน้ำมันที่เครื่องยนต์ขนาดประมาณนี้ในไทย เพราะมีความประหยัด อาจประหยัดกว่ารถอีวีบางรุ่นบางยี่ห้อด้วย น่าจะใช้จุดเด่นนี้มาแข่งขันกับรถอีวีได้
เครื่องยนต์ 660 cc non turbo นี่ก็น่ากังวลหลายด้านนะครับ เรากำลังคิดว่าข้าม step ไปเป็น EV Kei Car นี่น่าสนใจกว่าครับ มอเตอร์ไฟฟ้ายังไงขับขี่ไม่มีเครียดนะผมว่า
ที่ขนาดใกล้เคียงเคคาร์ที่สุดในเมืองไทยคือ ซูซูกิ เซเลริโอ้
มันบาง ไม่ผ่านความปอดภัย ขับแบบไทยไม่ได้ ยังกินน้ำมันอยู่ทางไกลไม่คุ้ม
รถในเมืองไทย ราคาเฉียดล้านแล้ว คนไทยส่วนใหญ่ต้องการรถราคาเยาว์ทึ่ใช้งานได้จริง สบายกระเป๋าอาจจะเป็นรถสำรองหรือไว้วิ่งระยะใกล้ไปใช้งานในเมือง
suzuki celerio ตัวเริ่มต้น ราคา 338000 บาท แต่คนไทยส่วนใหญ่ไม่ใช้ เพราะมองว่ามันเชย ไม่เท่
อยากให้จีนทำเคคาร์ไฟฟ้า ราคาเท่า neta v
เบื่อฟังแล้ว เหตุผลที่ไม่เข้ามาขายในไทยขอฟังเหตุผลที่มีโอกาสเข้ามาขายไทยบ้าง
บอกตรง ๆ ไม่มีเลยครับ
ไม่ต้องพูดถึงkei carหรอกครับ สำหรับผม ใช้แค่โดเรม่อน ยังว่าเล็กไปเลย (ไม่งั้นผมไม่รีบเปลี่ยนมาใช้ตาเพชรภายในครึ่งเดือนหรอกครับ😅)
คำถามแรก ทำไมรัฐฯญี่ปุ่น ถึงหนุน k-car ถ้าเห็นขนาดถนนนอกเขตเมือง (รัฐฯไม่ต้องทำถนนใหญ่) หรือขนาดที่จอดรถในเมือง (ที่ดินแพง) ..เราก็พอเข้าใจแต่พอจะเอาออกมาขายนอกประเทศ กลับเน้นขนาดที่ใหญ่ นั่งได้เยอะแต่ถ้ามอง suzuki carry หรือ caribian ที่เข้าข่าย k-car ด้วยราคา ก็พอขายได้อยู่
ซดน้ำมันระดับ 9กิโลลิตร ขนาดคนรักชอบจริงๆ ยังถึงกับร้อง
เหมาะอย่างยิ่งกับการบังคับใช้ความเร็ว80กิโลเมตร/ชั่วโมง
ยุคสมัยเปลี่ยน เวลาเปลี่ยน ตอนนี้คือเวลาของรถที่คุ้มค่าคุ้มราคาครับ
มันประหยัดน้ำมันไป เจ้าของปั้มเลยไม่ชอบ แค่นั้นแหละคับ อิอิ
ถ้าเอาเข้ามาขายราคาไม่แพง รัฐ จะเอากำไรภาษีจากที่ไหน 😂
นี่คือใจความหลักครับ 55+ ญี่ปุ่นขายได้เพราะพรีวิลเลจสารพัด
Kei car เกิดจากรัฐบาลญี่ปุ่นหลังสงคราม ต้องการให้ประเทศเดินหน้า โดยให้ประชาชนมีรถใช้ครับ คำถามคือบ้านเราตอนนี้ ยังอยากให้ประชาชนมีรถใช้เยอะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ กว่านี้ไหมครับ
@@cwfqayin นี่ล่ะครับ หัวใจของ kei car จริงๆภ
@@cwfqayin มีรถราคาถูกใช้ ไม่ดียังไง คนจนมีสิทธิ์ไหมคะ เขาซื้อมาใช้ก็จ่ายภาษีไหมคะ ระบบขนส่งสาธารณะ ประเทศไทย ไม่ได้ดีขนาดนั้นนะคะ รถยนต์อย่างน้อยก็กันแดดกันฝน ขนของได้มากกว่ารถมอไซค์นะคะ
@@metaxsea 1. คนรวยผู้มีอำนาจ คงไม่อยากให้รถติดมากไปกว่านี้มั้งครับ เดี๋ยวไม่มีที่เอาไว้ให้ S-Class มาวิ่งเล่น 2. ถ้าภาษีสรรพสามิตถูกลง สรรพากรก็งับภาษีได้น้อยลง คลังก็แห้งสิครับ
มาสิ 4-5 แสน ผมคนนึงละซื้อแน่ 660cc ประหยัดแน่นอน ประตูสไลด์ รับส่งลูก
6:40 สรุป
ซอยเลนเดียวก็กลับรถได้
รอซื้อเคคาร์อยู่นะ แต่ราคาต้องต่ำกว่า 4แสน
Kei-car ต้นทุนตัวรถจริงๆ ไม่น่าต่ำกว่า B-segment มาก หรือถ้าพวกกุ๊กกิ๊กเยอะๆ แบบญี่ปุ่น อาจจะแพงกว่าด้วยครับ แปลว่าถ้ามาประกอบไทย ราคายังไงก็แพงกว่า March หรือ Almera ยกเว้นรัฐจะยอมลดภาษีต่ำเตี้ย เช่น Eco Car 18% Kei Car 5% อะไรแบบนี้ ซึ่งอย่างว่า รัฐจะทำทำไมละครับ เหมือนเจาะรูคลังตัวเอง
ฟังแล้วมึน คุณกริต เรื่องที่รัฐบาลไทยต้อง subsidize ขั้นสุด ถึงจะเกิดได้เมื่อก่อนก็มีนี่ ซูซูกิ ฟรอนเต้ ไดฮัทสุ มีร่า ที่บ้านยังเกือบซื้อมาใช้เลย แต่ไปๆมาๆ เอารถซันนี่ มือสองแทน บีอะไรก็ไม่รู้เรียกไม่ถูก
Suzuki Caribean, Smart Fortwo (อันหลังของ Benz แต่เคยมี ver. Keicar ชื่อ Smart Kei) รถคิดว่า Kei Car ยุคก่อน character มันยังไม่ได้ญี่ปุ่นจ๋ามากแบบสมัยนี้ครับ รถญี่ปุ่นสมัยนี้ มันเหมือนนั่งตู้เสื้อผ้าไร้ความรู้สึก แค่ไปถึงที่หมาย ซึ่งดูแล้วคนไทยส่วนมากน่าจะยังไม่ชอบครับ ส่วนการแยกรุ่นผลิตให้ผู้บริโภคมีความหลากหลาย มันไม่น่าจะได้ครับ เพราะเราไม่มีแบรนด์ตัวเอง แถมประชากรเราน้อย และกำลังซื่อต่ำกว่ามากครับ
ผมกำลังมองว่าในสมัยก่อนมิติรถ kei-car กับ compact class มันไม่ได้ห่างชั้นกันมากทั้ง ขนาดกับราคา เหมือนสมัยนี้ครับ และรุ่นที่บอกว่าก็ไม่ได้ยั่งยืนในทางปฏิบัติเลยครับ suzuki fronte นี่ก็ไม่ได้ success เท่าไร daihatsu mira ก็ได้ภาษีกระบะสมัยนั้นช่วย ไม่เช่นนั้นราคากระฉูด พอโดนแก้กฏหมาย mira ก็ไปต่อไม่ได้ เลยคิดว่าเอาดีไซน์ kei-car มาประยุกต์ใช้น่าจะดีกว่าครับ ซึ่งผมมองว่ารถจีน เอา หลักการนี้มาทำแล้ว
พูดโดนใจมากครับ กว่า kei-car จะสวยคือ 30 ปีให้หลังจากปี 1949 เลยนะครับ 55+
ทำไหม มายอมผลิตขายในไทย
หลักๆราคารถเคคาร์เวลาเข้าสู่เมืองไทยจะแพงกว่ารถที่ผลิตในเมืองไทยซึ่งผู้บริโภคส่วนมากคิดว่าไม่คุ้มกับราคาเหตุผลที่สองสำหรับผู้ที่มีรายได้ดีก็อาจจะคิดว่าไม่เหมาะสมกับการจราจรในประเทศไทยเพราะไม่ได้เข้มงวดเหมือนของประเทศญี่ปุ่นโอกาสเกิดอุบัติเหตุมีมากเช่นเมาแล้วขับ คนคนขับหลับในจอดรถติดไฟแดงก็ยังมี รถคันอื่นขับมาชนในระหว่างจอดรอไฟแดง นอกจากนี้อุบัติเหตุทางรถมีให้เห็นบ่อยบ่อยเช่นแซงซ้าย ผ่าไฟแดง รถวัดใหญ่ขับกินเลน และอีกเยอะแยะ ขับรถในเมืองไทยต้องพึ่งดวงด้วยเลยไม่เหมาะสมสำหรับรถที่คันเล็กๆและบอบบาง
เมื่อใดรัฐบาลไทย ให้ความสำคัญกับรถประเภทนี้ ซึ่งที่จริงแล้วกรุงเทพตรอกซอกซอยมีแทบบนถนนทุกสายซึ่งเหมาะกับรถประเภทนี้มาก มีแต่เกรย์มาร์เก๊ตนำเข้ามาขายแต่ราคาขายรวมภาษีตกคันละล้านอัพเกือบๆล้านห้า ซึ่งผู้บริโภคที่สนใจรถประเภทนี้ต้องถอดใจไปเล่นรถที่ผลิตในประเทศและราคาถูกกว่ามาก
ความคิดแกนหลักคือ รถ kei-car ในไทยถ้าจะทำได้คือ ไทยต้องเป็นผู้ผลิตแบรนด์ตัวเองครับ ผมคิดว่า kei-car คือการแก้ปัญหาของสังคม, เศรษฐกิจ, อุตสาหกรรมญี่ปุ่น ถ้าจะมา ไม่ใช่แค่เอาตัวรถมา แต่ "เอาเขามาใช้ทั้งยวง" น่าจะเหนื่อย สู้ให้ผู้ผลิตทำรถเล็กในไทย ดีใกล้เคียงแบบ kei car ในขนาดตัวถังที่คนไทยยอมรับ จะง่ายกว่ามากครับ
ถ้าดูราคาในญี่ปุ่นจริงๆ ตัวรถ Kei car ราคาไม่ถูกครับ บางนุ่นซื้อรถ B segment ได้สบายๆ แต่รัฐบาลญี่ปุ่นลดภาษีประจำปี ลดค่าทางด่วน ในตจว. สามารถซื้อโดยไม่ยื่นที่จอดแน่นอนได้ เห็นได้ว่ากฎหมายมัน support มากครับ ถ้าประกอบขายไทย จินตนาการว่า Honda N-One ราคาเกือบเท่า City Hatchback โดยไม่มีสิทธิ์ทางภาษี หรืออะไรเลย มันก็ไม่ควรจะขายออกจริงไหมครับ
หลักๆเลยคือแพงฉิบ..ทั้งที่เป็นรถประหยัดดูดีเหมาะกับเมือง
@@cwfqayinใส่ระบบไฮบริดมาสิคับ ขายกระจาย
ส่วนตัวเป็นคนที่ชอบ K-Car มาก
คนไทยไม่ได้มองว่ารถเป็นแค่ยานพาหนะแบบคนญี่ปุ่น คนไทยมองว่ารถคือเครื่องมือแสดงฐานะ ใครขับK- car คงจะถูกมองว่าโคตรกระจอกทันที ขนาด ECO- Car เครื่อง1,200 มันยังขิงกันเลย 😄 ส่วนตัวผมโคตรชอบเลย K-car ใครไปญี่ปุ่นเห็นแล้วชอบกันทุกคน
คำถามแรก ทำไมรัฐฯญี่ปุ่น ถึงหนุน k-car ถ้าเห็นขนาดถนนนอกเขตเมือง หรือขนาดที่จอดรถในเมือง ..เราก็พอเข้าใจ
แต่พอจะเอาออกมาขายนอกประเทศ กลับเน้นขนาดที่ใหญ่ นั่งได้เยอะ
แต่ถ้ามอง suzuki carry หรือ calibean ที่เข้าข่าย k-car ด้วยราคา ก็พอขายได้อยู่
เมืองไทยปรับเป็นซิตี้คาร์ไง นั่งสบาย ขนาดไม่เล็ก ญี่ปุ่นใช้เคคาร์ก็น่าจะประหยัดภาษี ค่าบำรุง พื้นที่จอดที่จำกัดอีก
เพราะมันกิยน้ำมันน้อย ปตท ไม่ชอบ เลยสั่งรัฐบาลตั้งภาษีขวางไว้ 5555 ต้องแพงจะได้เข้าถึงยาก
จิงๆ น่าสนับสนุน สะดวก ประหยัด
ดูแล้วนึกถึง Suzuki Celerio ครับ พิกัดรถใกล้เคคาร์มากๆ (เข้าใจว่าเพราะออกแบบโดยอินเดีย เลยได้อิทธิพล Maruti Suzuki มาเยอะ) แต่ได้เครื่องที่โตกว่า คือ 1.0 ลิตร แต่ที่น่าตลก (แต่ก็เข้าใจได้) คืออัตราสิ้นเปลืองเจ้าเซเลฯ ทำกันได้ระดับ 18-20 กม./ลิตร ในการใช้งานจริงเลยด้วย ดีกว่าเคคาร์ 660cc ซะอีก คิดว่าคงเป็นเพราะกำลังเครื่องมันบาลานซ์กับตัวรถมากกว่าที่เคคาร์ยุคใหม่เป็นอยู่
แม้ออพชั่นจะน้อยแต่ราคาก็น่ารัก (เป็นผลทางตรงจากการต้องกดต้นทุนรถ เห็นว่าต้นทุนมันไม่ได้หนีรถใหญ่กว่าอย่างพวกซับคอมแพกต์คาร์เครื่อง 1.2 ลิตรมากนัก แต่ถ้าแพงไปมันจะขายไม่ได้) แต่ราคาถูกขนาดนี้มันก็ยังขายได้แค่เดือนละหลักร้อยคันต้นๆ ไม่ได้เยอะเลย แต่ขายได้เรื่อยๆ จนตอนนี้อายุตลาดก็หลายปีแล้วก็ยังขายได้
น่าเสียดายว่าโครงการอีโคคาร์ของภาครัฐจะหมดลงในปี 2025 นี้ เจ้าเซเลฯ ก็จะเลิกผลิตเวลานั้นพร้อมๆ กับการปิดโรงงาน Suzuki ในไทยเหมือนกัน เพราะยอดขายตอนนี้หากไม่มีมาตรการรัฐมาซัพพอร์ตอีกต่อไปก็คงไม่สามารถทำกำไรได้แล้วครับ
น่าเองมาขายในไทยมากๆๆ
ถ้าจะทำเองคงค้องเป็น ev ไปแล้วละแบบค่ายจีน จะผลิตให้คุ้มโมลด์คือส่งออก แล้วจะส่งไปประเทศไหนได้
ก็ได้แค่ญี่ปุ่น หรือไม่ก็อินเดีย หรือจีน แต่เคคาร์แบบนี้ ต้องไปกลุ่มผู้หญิงทำงานใช้ในเมืองนั่นแหละ
ใกล้เคียงสุด คงเป็นเป่าจูน เย็บ ที่กำลังจะเปิดขาย ถ้ามิตซู เอาปาเจโร่มินิ มาลงตลาด ก็วัดกันได้
ในแง่ของขนาดตัวถัง เอาเล็กแบบเคคาร์เป๊ะๆเลยคงยากเพราะเล็กเกินไป แต่ถ้าในแง่ของขนาดเครื่องยนต์ มีความเป็นไปได้ที่ค่ายญี่ปุ่นอาจจะหันมาทำรถน้ำมันที่เครื่องยนต์ขนาดประมาณนี้ในไทย เพราะมีความประหยัด อาจประหยัดกว่ารถอีวีบางรุ่นบางยี่ห้อด้วย น่าจะใช้จุดเด่นนี้มาแข่งขันกับรถอีวีได้
เครื่องยนต์ 660 cc non turbo นี่ก็น่ากังวลหลายด้านนะครับ เรากำลังคิดว่าข้าม step ไปเป็น EV Kei Car นี่น่าสนใจกว่าครับ มอเตอร์ไฟฟ้ายังไงขับขี่ไม่มีเครียดนะผมว่า
ที่ขนาดใกล้เคียงเคคาร์ที่สุดในเมืองไทยคือ ซูซูกิ เซเลริโอ้
มันบาง ไม่ผ่านความปอดภัย ขับแบบไทยไม่ได้ ยังกินน้ำมันอยู่ทางไกลไม่คุ้ม
รถในเมืองไทย ราคาเฉียดล้านแล้ว คนไทยส่วนใหญ่ต้องการรถราคาเยาว์ทึ่ใช้งานได้จริง สบายกระเป๋าอาจจะเป็นรถสำรองหรือไว้วิ่งระยะใกล้ไปใช้งานในเมือง
suzuki celerio ตัวเริ่มต้น ราคา 338000 บาท แต่คนไทยส่วนใหญ่ไม่ใช้ เพราะมองว่ามันเชย ไม่เท่
อยากให้จีนทำเคคาร์ไฟฟ้า ราคาเท่า neta v
เบื่อฟังแล้ว เหตุผลที่ไม่เข้ามาขายในไทย
ขอฟังเหตุผลที่มีโอกาสเข้ามาขายไทยบ้าง
บอกตรง ๆ ไม่มีเลยครับ
ไม่ต้องพูดถึงkei carหรอกครับ สำหรับผม ใช้แค่โดเรม่อน ยังว่าเล็กไปเลย (ไม่งั้นผมไม่รีบเปลี่ยนมาใช้ตาเพชรภายในครึ่งเดือนหรอกครับ😅)
คำถามแรก ทำไมรัฐฯญี่ปุ่น ถึงหนุน k-car ถ้าเห็นขนาดถนนนอกเขตเมือง (รัฐฯไม่ต้องทำถนนใหญ่) หรือขนาดที่จอดรถในเมือง (ที่ดินแพง) ..เราก็พอเข้าใจ
แต่พอจะเอาออกมาขายนอกประเทศ กลับเน้นขนาดที่ใหญ่ นั่งได้เยอะ
แต่ถ้ามอง suzuki carry หรือ caribian ที่เข้าข่าย k-car ด้วยราคา ก็พอขายได้อยู่
ซดน้ำมันระดับ 9กิโลลิตร ขนาดคนรักชอบจริงๆ ยังถึงกับร้อง
เหมาะอย่างยิ่งกับการบังคับใช้ความเร็ว80กิโลเมตร/ชั่วโมง
ยุคสมัยเปลี่ยน เวลาเปลี่ยน ตอนนี้คือเวลาของรถที่คุ้มค่าคุ้มราคาครับ
มันประหยัดน้ำมันไป เจ้าของปั้มเลยไม่ชอบ แค่นั้นแหละคับ อิอิ
ถ้าเอาเข้ามาขายราคาไม่แพง รัฐ จะเอากำไรภาษีจากที่ไหน 😂
นี่คือใจความหลักครับ 55+ ญี่ปุ่นขายได้เพราะพรีวิลเลจสารพัด
Kei car เกิดจากรัฐบาลญี่ปุ่นหลังสงคราม ต้องการให้ประเทศเดินหน้า โดยให้ประชาชนมีรถใช้ครับ คำถามคือบ้านเราตอนนี้ ยังอยากให้ประชาชนมีรถใช้เยอะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ กว่านี้ไหมครับ
@@cwfqayin นี่ล่ะครับ หัวใจของ kei car จริงๆภ
@@cwfqayin มีรถราคาถูกใช้ ไม่ดียังไง คนจนมีสิทธิ์ไหมคะ เขาซื้อมาใช้ก็จ่ายภาษีไหมคะ ระบบขนส่งสาธารณะ ประเทศไทย ไม่ได้ดีขนาดนั้นนะคะ รถยนต์อย่างน้อยก็กันแดดกันฝน ขนของได้มากกว่ารถมอไซค์นะคะ
@@metaxsea 1. คนรวยผู้มีอำนาจ คงไม่อยากให้รถติดมากไปกว่านี้มั้งครับ เดี๋ยวไม่มีที่เอาไว้ให้ S-Class มาวิ่งเล่น 2. ถ้าภาษีสรรพสามิตถูกลง สรรพากรก็งับภาษีได้น้อยลง คลังก็แห้งสิครับ
มาสิ 4-5 แสน ผมคนนึงละซื้อแน่ 660cc ประหยัดแน่นอน ประตูสไลด์ รับส่งลูก
6:40 สรุป
ซอยเลนเดียวก็กลับรถได้
รอซื้อเคคาร์อยู่นะ แต่ราคาต้องต่ำกว่า 4แสน
Kei-car ต้นทุนตัวรถจริงๆ ไม่น่าต่ำกว่า B-segment มาก หรือถ้าพวกกุ๊กกิ๊กเยอะๆ แบบญี่ปุ่น อาจจะแพงกว่าด้วยครับ แปลว่าถ้ามาประกอบไทย ราคายังไงก็แพงกว่า March หรือ Almera ยกเว้นรัฐจะยอมลดภาษีต่ำเตี้ย เช่น Eco Car 18% Kei Car 5% อะไรแบบนี้ ซึ่งอย่างว่า รัฐจะทำทำไมละครับ เหมือนเจาะรูคลังตัวเอง
ฟังแล้วมึน คุณกริต เรื่องที่รัฐบาลไทยต้อง subsidize ขั้นสุด ถึงจะเกิดได้
เมื่อก่อนก็มีนี่ ซูซูกิ ฟรอนเต้ ไดฮัทสุ มีร่า ที่บ้านยังเกือบซื้อมาใช้เลย แต่ไปๆมาๆ เอารถซันนี่ มือสองแทน บีอะไรก็ไม่รู้เรียกไม่ถูก
Suzuki Caribean, Smart Fortwo (อันหลังของ Benz แต่เคยมี ver. Keicar ชื่อ Smart Kei) รถคิดว่า Kei Car ยุคก่อน character มันยังไม่ได้ญี่ปุ่นจ๋ามากแบบสมัยนี้ครับ รถญี่ปุ่นสมัยนี้ มันเหมือนนั่งตู้เสื้อผ้าไร้ความรู้สึก แค่ไปถึงที่หมาย ซึ่งดูแล้วคนไทยส่วนมากน่าจะยังไม่ชอบครับ ส่วนการแยกรุ่นผลิตให้ผู้บริโภคมีความหลากหลาย มันไม่น่าจะได้ครับ เพราะเราไม่มีแบรนด์ตัวเอง แถมประชากรเราน้อย และกำลังซื่อต่ำกว่ามากครับ
ผมกำลังมองว่าในสมัยก่อนมิติรถ kei-car กับ compact class มันไม่ได้ห่างชั้นกันมากทั้ง ขนาดกับราคา เหมือนสมัยนี้ครับ และรุ่นที่บอกว่าก็ไม่ได้ยั่งยืนในทางปฏิบัติเลยครับ suzuki fronte นี่ก็ไม่ได้ success เท่าไร daihatsu mira ก็ได้ภาษีกระบะสมัยนั้นช่วย ไม่เช่นนั้นราคากระฉูด พอโดนแก้กฏหมาย mira ก็ไปต่อไม่ได้ เลยคิดว่าเอาดีไซน์ kei-car มาประยุกต์ใช้น่าจะดีกว่าครับ ซึ่งผมมองว่ารถจีน เอา หลักการนี้มาทำแล้ว
พูดโดนใจมากครับ กว่า kei-car จะสวยคือ 30 ปีให้หลังจากปี 1949 เลยนะครับ 55+
ทำไหม มายอมผลิตขายในไทย
หลักๆราคารถเคคาร์เวลาเข้าสู่เมืองไทยจะแพงกว่ารถที่ผลิตในเมืองไทยซึ่งผู้บริโภคส่วนมากคิดว่าไม่คุ้มกับราคา
เหตุผลที่สองสำหรับผู้ที่มีรายได้ดีก็อาจจะคิดว่าไม่เหมาะสมกับการจราจรในประเทศไทยเพราะไม่ได้เข้มงวดเหมือนของประเทศญี่ปุ่นโอกาสเกิดอุบัติเหตุมีมากเช่นเมาแล้วขับ คนคนขับหลับในจอดรถติดไฟแดงก็ยังมี รถคันอื่นขับมาชนในระหว่างจอดรอไฟแดง นอกจากนี้อุบัติเหตุทางรถมีให้เห็นบ่อยบ่อยเช่นแซงซ้าย ผ่าไฟแดง รถวัดใหญ่ขับกินเลน และอีกเยอะแยะ ขับรถในเมืองไทยต้องพึ่งดวงด้วยเลยไม่เหมาะสมสำหรับรถที่คันเล็กๆและบอบบาง