ภาคนี้คะแนนให้ 8/10 ครับโดยรวมถ้าทุกคนไม่คาดหวังจากภาคแยกไว้เยอะก็สนุกและดูเพลินครับ ตัวละครเอกของเรื่อง Arthur และ Lee ถือว่าชอบและเคมีดูโรแมนติกเลยครับ ฉากไต่สวนถือว่าชอบและลุ้นมากในแต่ละคำพูดของตัวละคร เพลงดนตรีถือว่าชอบและเข้ากับตัวหนังเลยครับ
Harvey Dent เวอร์ชั่นนี้ที่แสดงโดย Harry Lawtey บทบาทและคาแรคเตอร์ถือว่าชอบดีเลยครับดูเป็นอัยการและคนมีความรู้ดี ถ้ามีภาคต่อคงเป็น Two Face เพราะฉากที่เห็นว่าไม่เสียชีวิตหน้าตามีผลจากการระเบิดด้วย
under dog ที่เชียร์ไม่ขึ้น ไม่มี pay off ตอนจบ จะไปดูมันถูกย่ำยีทำไมให้ปวดใจ ตอนนี้รายได้เปิดตัวน้อยกว่ามอเบียสอีก เป็นบทเรียนให้สตูดิโอว่าทำในสิ่งที่คนไม่อยากดูก็รับผลไปซะ
' ธี่หยด 2 ' คือเรื่องราวของอะไร th-cam.com/video/afprb-lzHG0/w-d-xo.htmlsi=CH4qFc6u5LaE8Iib
ผมไม่มีปัญหาเรื่องเพลงนะ แต่มีปัญหาตอนจบมากกว่า และอีกเรื่องที่น่าผิดหวังที่สุดคือผู้กำกับไม่เอาข้อดีต่างๆหรือสิ่งที่คนชอบภาคแรกมาใช้ต่อยอดเลย ทั้งเรื่องการหัวเราะ ทั้งเรื่องการระเบิดอารมย์ของตัว Joker เอง โดยรวมสำหรับผมคือน่าผิดหวังครับ
รู้สึกเหมือนกันเลยครับ แต่มันกินยาเลยซึมๆไม่ระเบิดอารมณ์เข้าใจได้ หัวเราะก็ใส่มานิดนึง เสียดายหลายอย่างในภาคแรกเลยครับ
@@luckypisist มีช่วงที่ตัวละครคนแคระออกมา ช่วงนั้นผมตื่นเต้นขึ้นมาหน่อย เหมือนเห็นบรรยกาศภาคแรกกลับมาหน่อย
ช่วงท้ายตอนระเบิดในศาล แอบคิดว่าสนุกตึงๆแน่นอน ผืดคาดเลย
ผู้กำกับต้องการลดระดับความ ยิ่งใหญ่ ความเท่ ความอะไรต่างๆที่คนเชิดชูในตัวโจ๊กเกอร์ ทิ้งไปในภาคนี้ครับ เพราะผู้ร้ายไม่ควรถูกได้รับการยกย่อง เพราะความสำเร็จของภาคแรก มันทำให้อเมริกาต้องเฝ้าระวังอะไรเยอะมาก
เห็นด้วยนะครับ เหมือน ผกก.โดนเบื้องบนไม่ก็รัฐ แทรกแซงเนื้อหารึเปล่า
ผมว่าหนังถ่ายทอดได้ดีนะคับ ผมชอบมาก ไม่รู้ว่าตีความการกำกับของภาคนี้ถูกไหม สำหรับคิดว่า คนดูคาดหวังความเป็นโจ๊กเกอร์มากเกินไปว่า มันต้องมีโน่นนี่นั้นเกิดขึ้น ตัว Arthur เอง ไม่ได้อยากเป็น joker แต่แรก แต่ด้วยความรู้สึกดีความหลงในตัว harley quinn(เลดี้ กาก้า) ที่เข้ามาปั่นให้เขาเป็นโจ๊กเกอร์ แต่สุดท้ายแล้วเขาก็เลือกที่นะเป็น Arthur ซึ่ง Quinn ก็ผิดหวัง ****ถ้าเปรียบหนังเรื่องนี้ Arthur คือ นักแสดง ส่วน Quinn คือ ผู้ชมที่เข้ามาดูหนัง(มีความความหวังในตัวนักแสดงและเนื้อเรื่องให้เป็นไปในมุมมองที่ตัวเองต้องการ) แต่พอสุดท้ายไม่เป็นไปตามที่หวังก็ผิดหวัง เหมือน Quinn ที่ผิดหวังในตัว Arthur หนังถ่ายทอดถอดอาการจิต โรคจิต ของคน 2 คน
ผมว่าหนังเสนอแบบล้ำลึกมากนะ แถมมีเพลงไพเราะอีก งง และ งง ว่าทำไม ไม่ชอบกัน หรือ ประเด็นมันบางไป แค่กาก้ามาชอบ พอมาเห็นความจริงว่า...เลยไม่ชอบ
รีวิวดีครับพี่ ชี้ให้เห็นข้อดีข้อเสียชัดเจนครับ สำหรับผมก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบเรื่องนี้ตามข้อดีที่พี่บอกแหละ แต่ผมโชคดีที่ไม่ติดข้อเสียมากครับ เลยอยู่ในฝั่งที่ชอบมากกว่าเกลียดเรื่องนี้ครับ
ขออนุญาติเสริมข้อมูลนะครับ The Joker ภาคแรก Frank Sinatra คือเพลง That's Life ครับ
Yeahhhhhhh
ภาคนี้คะแนนให้ 8/10 ครับโดยรวมถ้าทุกคนไม่คาดหวังจากภาคแยกไว้เยอะก็สนุกและดูเพลินครับ ตัวละครเอกของเรื่อง Arthur และ Lee ถือว่าชอบและเคมีดูโรแมนติกเลยครับ ฉากไต่สวนถือว่าชอบและลุ้นมากในแต่ละคำพูดของตัวละคร เพลงดนตรีถือว่าชอบและเข้ากับตัวหนังเลยครับ
เอ๊ะใจแต่แรกกับกาตูนต้นเรื่องแล้ว ยิ่งดูยิ่งสงสารอาเทอร์ ตอนฉากจบนี่ผมรู้สึกดีใจกับอาเทอเลยว่าดีแล้วไปจากโลกนี้ได้เสียที ส่วนตัวว่าสนุกมากนะครับเล่นกับมุมมอง เล่นกับอารมณ์
ยิ่งมาเรื่องดราม่ารีวิวต่างๆนี่ยิ่งเห็นชัดของความยึดมั่นในโจ้กเกอของคนดู เทียบกับความยึดมั่นของลี ได้อย่างชัดเจนมาก
พอเค้าไม่ใช่ในสิ่งที่เรารัก เราชอบ
มันก็ไร้ค่าโดยสิ้นเชิง พร้อมจะเกลียดชังโดยทันที. Thats life.
เฉยๆครับดูแล้วไม่รู้สึกอะไร ขนาดขับรถกลับบ้านยังลืมไปแล้วว่าไปดูมา
มองว่าเป็นความขบถต่อสตูดิโอได้ไหมครับ ไม่ใช่ว่าทำงานแบบส่งๆไปไม่มืออาชีพ แต่ตั้งใจเลือกแนวทางนำเสนอที่มั่นใจว่าคนดูจะไม่ชอบแน่ๆ พอรายได้ไม่ดีก็จะได้ไม่ต้องถูกกดดันให้ทำต่อแล้วไรงี้
ผู้กับไม่น่าคิดงั้นครับ ถ้าทำงั้นคือไม่มืออาชีพ แน่นอน
ทำแบบนั้นจะเสียเครดิตตัวเอฃด้วยน่ะครับ
ทำแบบนี้จะเสียชื่อตัวเอง คงไม่มีสตูไหนกล้าจ้างนะ
ถ้าเขามีแนวคิดแบบนั้นก็ไม่ควรมาทำหนังครับ
ผมว่าผู้กำกับเกั่งนะคีดอีกมูมเราผู้ชมก็เหมือนแฟนด้อมของjokerในเรื่องทุกฯคนล้วนอยากให้อาเทอกายเป็นjokerทุกคนผีดหวังที่ตัวเขาไม่ได้เป็นjoker
คิดเหมือนกันเลยค่ะ หนังย้ำเราว่าอาร์เธอร์ไม่ใช่โจ๊กเกอร์ เราเหมือนแฟนด้อมโจ๊กเกอร์ เหมือนลีจริงๆค่ะ หนังเรื่องนี้มีความเรียลสูงมาก อาเธอร์ทั้งแก่ ทั้งผอมแห้ง จะบ้าระห่ำมาระเบิดเมือง มันเกินจริงไปค่ะ
เหมือนภาคนี้เค้ากำลังพยายามที่จะ ย้ำเตือนคนดูหรือเปล่าคะว่า อาร์เธอร์ก็คืออาร์เธอร์ค่ะ
คนธรรมดาไม่ใช่โจ๊กเกอร์แบบที่เราหวัง สังเกตุว่าบทจะย้ำเตือนเสมอ ส่วนคนดูก็เหมือนลีค่ะ หวังว่าจะได้เห็นอาร์เธอร ในบทของโจ๊กเกอร์ แต่สุดท้ายก็ต้องผิดหวัง มีแต่คนสนใจโจ๊กเกอร์แต่ไม่ได้สนใจอาร์เธอร์เพราะเขาไม่ใช่โจ๊กเกอร์ ส่วนตอนจบแอบอึ้งเหมือนกันค่ะ แต่คิดว่าหนังปูเรื่องหรือเปล่าคะ เพราะคนนั้นเขายังหนุ่มยังแน่น แถมบ้าอีก ไม่ได้ผอมแห้งสู้ไม่เป็นเหมือนอาร์เธอร์ค่ะ อันนี้แค่เดาเล่นๆนะคะ 😊
ใช่ครับ เอามีดกรีดปากตัวเองแล้วด้วย กลายไปเป็นโจกเกอร์ของโนแลน
@@sunsaridaiemudom9608 เราคิดแบบเดียวกันค่ะ ถ้าแบบนั้นเราอาจจะได้ดูโจ๊กเกอร์แบบโคตรบ้าสะใจ จากคนๆนี้ก็ได้ หวังว่าเขาจะทำต่อนะ 🤣
เพิ่งว่างไปดูเมื่อวาน ส่วนตัวชอบมากกก มันเหมือนเอาคนดูเข้าไปมีส่วนร่วมอยู่ในหนัง เหมือนขยายเรื่องราวในหนังให้ออกมาสู่โลกความจริง ว่า คนดู.. คุณเลือกฝั่งไหน ฝั่งต้องการ Joker? ฝั่งต้องการ Arthur? คุณเข้าใจจริงๆแน่หรือเปล่า ว่าจริงๆแล้ว ทั้ง Joker และ Arthur ก็คือคนคนเดียวกันนั่นแหล่ะ
ถ้าตั้งชื่อหนังอีกแบบนึง ส่วนตัวผมจะให้ภาคแรกชื่อ Joker ส่วนภาคสองชื่อ Arthur Fleck ผมชอบเมสเสจของหนังมากเลยนะ มันไม่ใช่หนังภาคต่อ แต่เป็นหนังภาคคู่ขนาน เป็นหนังคู่ที่เล่าเรื่องราวสองด้านของคนคนเดียวกัน
ภาคแรกมีไว้สำหรับคนรัก Joker อยากได้ความเดือด ความสะใจ ความดิบเถื่อน ส่วนภาคสองมีไว้สำหรับคนรัก Arthur Fleck ซึ่งเป็นแค่คนธรรมดาน่าสงสาร เป็น loser เป็นคนแปลกๆฟุ้งๆ ชอบใจลอย สมาธิสั้น (ก็เลยมีดนตรีในหัวโผล่มาอยู่เรื่อย จนเรารู้สึกว่ามีเยอะเกิน แต่นั่นแหล่ะ Arthur ล่ะ) พอมองแบบนี้แล้ว ผมกลับมองว่าทุกอย่างมันคลิก เข้ากันหมดเลย ทั้งความแฟนตาซี ความมิวสิเคิล และส่วนประกอบต่างๆในหนังภาคนี้ และหนังทั้งสองภาคก็เติมเต็มซึ่งกันและกันได้ดีมาก
สุดท้ายแล้ว พวก loser ในหนังที่ออกมาประท้วงก็แค่ชอบ Joker อยากเห็น Arthur Fleck ที่เป็น Joker คนพวกนี้ก็เป็นแค่พวกที่ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ไม่ได้กล้าหือกับระบบอย่างที่ Joker ทำ แต่ก็ต้องการให้ Joker แสดงความดิบเถื่อนสนองความต้องการตัวเอง โดยตัวเองเชียร์อยู่ข้างนอก หรือแม้แต่อยู่แค่หน้าจอด้วยซ้ำ (เหมือนอย่าง Lee ที่ idolize ความดิบเถื่อน แต่จริงๆ ตัวเองก็ไม่ได้เคยเผาบ้าน พ่อไม่ได้ตาย ชีวิตไม่ได้บัดซบอย่างที่โกหก ชีวิตก็ปกติสุขดี แค่เบียว Joker) ในทางกลับกัน ทนายกับเพื่อนคนแคระ ก็ต้องการแค่ Arthur Fleck ไม่ต้องการ Joker โดยเฉพาะทนายนี่ พยายามจะสรุปว่า Arthur เป็นโรคสองบุคลิกเสียให้ได้ ทุกคนเลือกไปฝั่งใดฝั่งหนึ่ง (Joker หรือ Arthur Fleck) แต่ไม่มีสักคนที่จะมองความต้องการที่แท้จริงของ Arthur ว่าจริงๆแล้ว Joker และ Arthur ก็คือคนเดียวกันนั่นแหล่ะ คนที่บอบช้ำถูกกระทำจากสังคมจนเก็บกด จนสุดท้ายก็ระเบิดความบ้าคลั่งออกมา และสุดท้ายแล้วก็ยังเป็นคนไร้พลัง ที่ต้องอยู่ภายใต้ระบบ ต้องมาเข้าคุกถูกคุมขังจากความผิดที่ตัวเองก่อไม่ต่างจากคนอื่น เป็นคนธรรมดาที่ก็แค่ต้องการความรัก ต้องการการยอมรับ ต้องการครอบครัว ต้องการเพื่อน ต้องการชีวิตที่ปกติ ฉากสุดท้ายในศาลที่บอกว่า "ไม่มี Joker หรอก" กับฉากอกหักที่บันไดที่บอกว่า "ผมก็คือผมคนเดิมที่ฆ่า Murray Franklin" ทั้งหมดมันสื่อว่า ทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็คือเขานี่แหล่ะ คนเดิมและคนเดียว มนุษย์ธรรมดาๆที่มีรัก มีโลภ มีโทสะ ไม่ต่างจากคนอื่น Joker และ Arthur ไม่ใช่สองร่างหรือสองบุคลิก แต่เป็นคนคนเดียวกัน
ฉากจบสุดท้ายที่ปิดฉากความเป็นหนังภาคคู่ขนานได้อย่างสมบูรณ์ก็คือ คนที่เป็น idol (ภาคที่แล้วคือ Murray พิธีกร ส่วนภาคนี้คือ Joker) เมื่อความจริงเปิดเผยว่า จริงๆแล้ว คุณก็ไม่ได้เป็นอย่างที่สาวกแฟนคลับคุณอยากให้เป็น "คุณก็จะได้รับสิ่งที่คุณสมควรได้รับ!" "You get what you deserve!" นั่นคือความตาย เป็นฉาก climax ของทั้งสองภาค ที่เป็นฉากเดียวกันแต่มองจากคนละมุมมอง
ปล. แต่ผมก็เข้าใจคนที่ไม่ชอบอ่ะนะ มันอาจจะน่าผิดหวังในฐานะหนังฮีโร่ ประเด็นคือ ผมไม่เคยมองหนัง Joker ของ Todd ว่าเป็นหนังฮีโร่มาตั้งแต่แรกอ่ะ เรียกว่าเป็นหนังที่ไม่ได้อยู่ในหมวดหนังฮีโร่ เพียงแต่เอาตัวละครจากคอมมิกมาใช้ก็ได้ ผมก็เลยไม่ติดเลยว่า Joker จะมาทรงไหน ไม่จำเป็นต้องเป็น Joker ที่เป็น criminal mastermind อย่างที่เคยเป็นมาก็ได้ ไม่ต้องเป็น Joker ที่สุดจะทรงพลังและคาดเดาไม่ได้ก็ได้ แล้วก็จะไม่สนใจและไม่คิดทฤษฎีร้อยแปดด้วย ว่าจะต้องมี Batman อยู่ในจักรวาลนี้ หรือจะต้องไปเชื่อมจักรวาลกับ The Batman ของ Matt Reeves หรือจะต้องมีคนอื่นมาสานต่อเจตนารมณ์ Joker กลายเป็น Joker คนใหม่หรืออะไร ผมว่าเรื่องพวกนั้นมันไม่เกี่ยวอะไรกับหนังเรื่องนี้แม้แต่น้อยเลย
ผมให้ 8.5/10 โดยรวมชอบและสนุกภาคนี้ สิ่งที่ชอบ เนื้อเรื่องที่ต่อจากภาคแรกแบบตรงเลยและเล่าได้ดาร์ค ฉากไต่สวนในศาลทำออกมาดีและลุ้นในแต่ละคำพูดของตัวละคร Arthur / Joker ภาคนี้ยังบทบาทชอลโรคจิตบ้าและน่าสงสารไปด้วย Lady Gaga บทบาท Harley Quinn อาจจะไม่เด่นมากแต่ก็สวยและเคมีเข้ากับ Joker ตัวละครอื่นบทบาทดีและชอบครับ ดนตรีประกอบฉากทำออกมาดี เพลงประกอบที่ร้องโดย Joker และ Harley Quinn ถือว่าเพราะและความหมายดี ดราม่าของอาเธอร์ถือว่าน่าสงสารและหดหู่เลย สิ่งที่ไม่ชอบ ตอนจบที่จบง่ายไปหน่อย เนื้อหาบางเรื่องเล่าน้อย
เห็นด้วยเต็มๆเลยครับว่า ไม่ควรทำเป็นมิวสิคคัล ผมไม่ชอบหนังแนวนี้เลย และผมเห็นแววว่าไม่น่าจะไปรอดตั้งแต่ประกาศว่าจะทำเป็นมิวสิคคัลละ แต่ก็พยายามคิดได้ว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ ผมเคยวิเคราะห์กับหนังเรื่องอื่นๆแล้วว่า ถ้าเรื่องนั้นไม่ได้วางแผนว่าจะทำภาคต่อ แต่โดนเข็นโดนดันให้มีภาคต่อให้ได้ ส่วนใหญ่ทำออกมาไม่สนุก แล้วพอได้ทำภาคต่อ ค่ายก็ให้อิสระเต็มที่เลย เชื่อใจ ภาคแรกทำเงินดีอาจจะมีบลีฟนั่นนี่ไว้บ้างทำให้หนังอยู่ในกรอบที่ต้องการ พอภาคสองเหมือนพยายามยื่นข้อเสนอให้ผู้กำกับล่อให้มาทำภาคต่อ เดี๋ยวให้อิสระเต็มที่เลยอยากทำอะไรแนวไหนจัดไปเลย ค่ายต้องการแค่ชื่อผู้กำกับกับชื่อหนังภาคต่อแค่นั้น ผู้กำกับก็ได้ใจเลยทีนี้ อยากลองทำอะไรแปลกใหม่โดยไม่สนว่าจะเป็นยังไง เพราะตัวเองไม่ได้ตั้งใจจะทำต่ออยู่แล้ว มันเลยเป็นเหมือนงานลองผิดลองถูกที่ผู้กำกับอาจจะไม่มีโอกาสได้ทำแต่อยากลองทำ แนวมิวสิคคัลสมัยนี้ไม่ค่อยเวิร์คไปเสนอค่ายไหนก็ไม่ค่อยมีใครอยากให้ทำ พอค่ายให้อิสระมาแบบนี้ เข้าทางเลย มันไม่ใช่ว่าผู้กำกับไม่ตั้งใจทำนะ ตั้งใจทำแต่ตั้งใจทำในแบบที่ตัวเองอยากลองทำ ไม่ได้ตั้งใจทำในแบบที่ให้คนดูอยากดู
แบบนี้คือจะเสียดายเลยโอกาสจะได้มีภาคต่อคงยาก นอกจากค่ายจะเสี่ยงอีก แน่นอนว่าผู้กำกับคนเดิมคงไม่มาละ ถ้าค่ายอยากได้ภาคต่อจริงๆคงหาผู้กำกับใหม่แล้วบลีฟให้เอาโทนเดียวกับภาคแรก หรือไม่ก็หาผู้กำกับใหม่กับการเปิดเรื่องราวตัวร้ายอื่นแทนไปเลย เพราะค่ายรู้แล้วว่าถ้าทำหนังตัวร้ายโทนโจ๊กเกอร์ภาคแรกแล้วเวิร์ค คนดูชอบ แนวสมจริง ดูที่มาที่ไปของตัวร้ายกว่าจะมาเป็นตัวร้ายมันเริ่มมาจากอะไร
หนังศาลผมไม่ติดนะ ส่วนตัวชอบ แต่มีไม่ค่อยเยอะ
การตีความของโจ๊กเกอร์ พลังของโจ๊กเกอร์ ผมว่าการตีความไปในทิศทางที่ว่าเป็นตัวร้ายคอยปั่นประสาทเล่นจิตวิทยา ถ้าเทียบสำรับไพ่ โจ๊กเกอร์คือไพ่ที่แปลกแยกแตกต่างไม่เข้าพวก ถ้าเทียบในสังคม โจ๊กเกอร์คือคนที่มีมุมมองทัศนคติความคิดแตกต่างจากสังคม ถ้าเทียบกับโรคก็เหมือนกับมะเร็งที่ค่อยๆกัดกินแผ่ขยายไปทั่วร่างกาย แต่ผมชอบนะ ในจักรวาลแบทแมน มันจะมีความยุติธรรมอยู่3แบบ ยุติธรรมตามกฎหมายของเมือง ยุติธรรมตามแบบแบทแมน ยุติธรรมตามแบบโจ๊กเกอร์ โจ๊กเกอร์ไม่ใช่ตัวร้ายจ๋าๆทำอะไรไม่มีเหตุผล แต่เหตุผลที่ทำนั้นมีเพื่อความยุติธรรมในอีกมุม เรียกว่าใช้วิธีเดียวกับแบทแมนแต่แค่มีมุมมองเกี่ยวกับความยุติธรรมความถูกต้องที่แตกต่าง การตีความให้โจ๊กเกอร์เป็นตัวร้ายจ๋าๆแบบตามฉบับตัวเลวทั่วๆไปอยากครองโลกอยากครองเมืองทำให้มิติของโจ๊กเกอร์นั้นตื้นเขินไม่น่าติดตาม แต่โจ๊กเกอร์ที่ถูกตีความออกมาเกี่ยวกับจิตวิทยา อันนี้ชอบตั้งแต่ของเดอะดาร์คไนท์ละ อันนั้นไม่ได้อยากครองเมืองหรือเงิน แค่อยากโชว์ด้านมืดอีกมุมให้แบทแมนดูเพื่อเอาชนะอุดมการณ์ของแบทแมนว่าสิ่งที่แบทแมนทำนั้นมันไม่ถูกต้อง อุดมการณ์ที่ตัวเองทำนั้นถูกต้องกว่า แบทแมนแก้ปัญหาที่ปลายเหตุจัดการตัวร้ายทีละตัว แต่โจ๊กเกอร์จะจัดการปัญหาที่ต้นเหตุล้มล้างระบบที่ทำให้เมืองมันเละโดยไม่สนผลกระทบอะไรที่ตามมา คล้ายๆกับธานอสในMCU อยากช่วยจักรวาลแต่วิธีการแตกต่างจากฮีโร่
เข้าใจคำว่า…“อยู่ๆก็ร้องเพลงแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย“ เพราะเรื่องนี้เลย
ภาคแรก เจ๋ง
ไม่ต้องคิด วางแผนในใจอะไร
แต่ปลุกระดมทำเมืองพังไปทั้งแถบ
ผมชอบน้ำเสียงพี่จีนจัง เป็นคนพูดคำหยาบแล้วดูไม่หยาบเลย555 ผมไม่ชอบภาคนี้อะ บทเหมือนมันไม่เดินจริงๆแหละตา todd แกคงลืมคำว่า show don't tell
คุยเรื่อง THE PENGUIN หน่อยครับ หนังดีย์มากๆ
Musical ก็ไม่ได้แย่ซะทีเดียวนะครับ มันจะมีทั้งส่วนที่อยู่ในหัว กับส่วนที่ร้องเพลงบนโลกจริง ส่วนที่ร้องในโลกจริงมันยังรู้สึกทีอารมณ์ร่วมอยู่บ้าง แต่ส่วนที่อยู่ในหัวมันขัดจังหวะหนังมากๆเลย
ชอบที่พี่จีน รีวิวมาก ข้อดีข้อเสียชัดเจน ทำให้ตัดสินใจได้ว่า จะไปดูหรือไม่
ร้องให้ให้กับอาเธอร์ สองซีน กับโจ้กเกอร์คือ เฉยๆ
วาคีน เล่นได้ลึกจนรู้สึกถึงความโดดเดี่ยว ไม่เป็นที่ยอมรับในสังคมได้ลึกซึ้งมาก เสียงหัวเราะที่ออกมา จริงๆ มันคือความระทมทุกข์ ของโลกที่โหดร้ายในทุกๆแง่ กับตัวเขา ไ่ม่มีพารทไหนที่ใจดีกับอาเธอร์เลย คือก็เข้าใจได้ว่าทำไมอาเธอรเขาสร้างจินตนาการโลกของโจ้กเกอร์ขึ้นมาเพื่อปกป้องตัวเอง
ทุกตัวละครเฉยๆ กาก้าดีงามอยู่แล้ว เรื่องก็ปกติไม่ได้แย่ เพลงยืดหน่อย ไม่ได้ขยายความกระจ่างให้เนื้อเรื่องมากนักค่ะ 😊
Harvey Dent เวอร์ชั่นนี้ที่แสดงโดย Harry Lawtey บทบาทและคาแรคเตอร์ถือว่าชอบดีเลยครับดูเป็นอัยการและคนมีความรู้ดี ถ้ามีภาคต่อคงเป็น Two Face เพราะฉากที่เห็นว่าไม่เสียชีวิตหน้าตามีผลจากการระเบิดด้วย
ท็อด ฟิลลิปอาจจงใจทำภาคต่อแบบประชดค่ายหนังก็ได้😅 ก็บอกว่าไม่ทำภาคต่อแล้วไงงง จะมาบังคับกันอีก555 ภาค 2 เลยเอาให้แน่ใจว่าไม่มีภาค 3
หนังมันไปต่อได้ค่ะถ้าเขาจะทำต่อ เพราะตอนจบเขาปูเอาไว้แล้วค่ะ หนังมันเฉลยแล้ว 🤣
หนังแนวศาลยุคนี้ไม่มีที่ยืน??
แล้ว Oppenheimer ล่ะ?
แต่เห็นด้วยนะที่บอกหนังมีมุมมองน้อยมากจริงๆ
แล้วเสือกมีงบ 200M ได้แค่นี้... ภาคแรกดูแพงกว่าอีก
กำลังรอข่องนี้รีวิวเลยครับ
ส่วนตัวผมว่ามันสนุกนะ เป็นหนังที่สนุกมากเรื่องหนึ่ง
ชอบคุณจีนส์วิเคราะห์😊❤😊
ผิดหวังกับภาคนี้ หนีไปดู the penguin ก็ได้ครับพี่ เขาทำถึงมากครับ 😊😊
ผมว่า โจ๊กเกอร์เวอร์ชั่นนี้ น่าสงสารที่สุด เพราะเขาคือเหยื่อของคนที่เข้ามา และสังคม
ประเด็นที่เล่าต่อดี และเราเห็นอาเธอร์อยู่บนทางสองแพร่ง จะเป็นอาเธอร์ หรือ โจ๊กเกอร์
ถ้าตัดเรื่องยัดเพลงออกไป หนังมันจะสนุกกว่านี้
อยากถามผู้จัดรอบโรงของหนังแต่ละเรื่อง ใช้เกณฑ์อะไรในการจัดโรง Joker หนังฟอร์มใหญ่เลยนะ ทำไมมีแค่ 3 โรง เมเจอร์รัชโยธิน เราทึ้งนะ เขาต้องวิเคราะห์ พิจารณาหนังได้แน่ ๆ อยากฟังบทวิจารณ์จากคนจัดหนังเข้าโรง
ตัดได้ 3 อย่างครับ 1.ตัด GAGA 2. ตัดบทเพลง 3. COURT ROOM ผมชอบภาคเรกมาก ภาคนี้เอาไป 4 พอ จริงๆไม่ต้องมีก็ได้ภาคนี้ T^T
ต่อไปมันจะเป็นหนังที่ดีครับ วันนี้มันแย่เพราะความผิดหวัง, อคติ ฯ คนที่ชอบภาคแรกต่อให้บอกว่าไม่คาดหวังนะ แต่ลึกๆแล้วก็ต้องการ "ความอร่อยที่ตนเคยลิ้มลอง" แต่ภาคนี้เขาเสิร์ฟอีกรสชาติ พอรสมันไม่ใช่ที่คาดหวัง, ที่จำได้, ที่ต้องการ ฯ ไม่แปลกที่หลายคนจะถุยทิ้ง แต่ถ้าเราวางอคติได้แล้วมาชิ้มดีๆโดยเข้าใจว่า "นี่คืออีกเมนู" เราจะเข้าใจอาหารจานนี้มากขึ้น ซึ่งมันก็มีความซับซ้อนในแบบของมัน ถ้าคุณพยายามจะเข้าใจมันไม่แพ้ภาคแรกหน่ะนะ
จุดประสงค์ ของภาค2คือแบบมันแปลกใหม่นะเเต่ผมไม่รู้ว่ามีอะไรต้องตีความไหมเพราะฉากจบ
ตอนนั้นผมอายุ16ไปดูตอนนั้นคือชอบฉากจบมาก
ออกจากโรงยังเอาไปนึกคิดแต่ภาค2
คือมันเหมือนไม่สุดไม่มีอะไรหน้าจดจำ
แต่มันก็ไม่ได้แย่มันมีความสนุกในเรื่องของมันอยู่
แต่ก็ หนะงมันแปลกดีอีกแบบเหมือนเราดู
ความคิดของคนที่มีอาการทางจิต
โดยรวมไม่ได้มีอะไรหน้าจดจำ
แต่ก็ยังคงสนุก
แฟนเลดี้กาก้าตอบเลยครับว่าการแสดงถือว่าทำได้ดีตามเกณฑ์ การร้องเพลงก็ดีตามมาตรฐาน (ไม่ถึงขั้นยอดเยี่ยม) ส่วนความเป็น Harley Quinn ก็ถือว่ากลางไม่รู้สึกว่าเป็นตามเวอร์ชั่นที่เราเคยรู้จักจริงๆแหละ
เป็นเพราะผู้บริหารเข้ามาก้าวก่ายไหมครับ ถึงเป็นแบบนี้
ถ้าภาค3ต้องมีคนได้แรงบันดาลใจจากอาเธอ ร์แล้วมาเป้นโจ๊กเกอร์ถ้าเป้นแบบนี้น่าจะเหมาะ นะครับพี่ว่าเหมาะป่ะ
That's Life ของ Frank Sinatra ครับ ไม่ใช่ That's me
😅😅
คนดู = อยากได้โจ๊กเกอร์ที่เป็นบุคคล หรือ รูปธรรม
หนัง = เอาความคลั่งลัทธิโจ๊กเกอร์ของสาวกไป พร้อมกับมิวสิคคัลบ้ากีของอาเธอร์ 🤣🤣🤣
เพลง that's life ครับ
ส่วนตัวชอบภาคนี้ค่ะ มันช่วยขยายความเป็นผู้ป่วยArthurและฆาตกรJoker ผลกระทบจากภาค1 และความน่ากลัวของการบูชาตัวบุคคล แต่ไม่ชอบMusical อย่างที่พี่จีนบอกเลยค่ะเพลงเพราะหมดเลย แต่ทำเป็นMusicalทำไม5555555
ภาค2 ผมนั่งดูไปครึ่งเรื่องเดินออกไปซื้อ ไส้กรอกชีส+เติมน้ำ กลับมาดูหนังแม่งยังไม่ไปไหน นักแสดงดีมากนะครับแต่แม่งอะไรไม่รู้ดูแล้วเบื่อ
ชอบjokerดูภาค1 ชอบอาเธอร์ เฟล็ก ดูภาค2
อยากดูเพราะภาคหนึ่ง พอเข้าไปดูหนังอะไรเนี๊ยะ ไม่ค่อยอินกับหนังเลย เลยออกจากโรงหนังไปทำหน้าดีกว่า😂😂
ภาคแรกลุ้นแทบเยี่ยวเล็ด ภาคนี้ก้ยังสนุก แต่แค่ เดินออกไปฉี่ หลายรอบแค่นั้นเอง ไปดูคำวิจารช่วงแรก อยุ 62 ก้หวาดหวั่น ตอนนี้หดเหลือแค่ สามสิบกว่า ภาคนี้หนังกระแสมากๆ โอ๊ยนะ 😂😂😂😂😂
ส่วนตัวภาคนี้ไม่โดนผมเท่าไหร่เลย
รู้สึกว่าส่วนเพลงเป็นส่วนเกะกะของเรื่องด้วยซ้ำ
อารมณ์ว่าเวลาเพลงออกแล้วเรื่องไม่เดินเลย
(บางเรื่องมันเอาฉากเพลงมาเดินเรื่องแบบรวมฉากมอนทาจไรงี้มั่งนะ อันนี้คือไม่เดินเลย)
แล้วแต่ละเพลงรู้สึกไม่โดนใจเท่าไหร่
เนื้อเรื่องมีอะไรน่าน่าสนใจได้อยู่แต่มันรู้สึกไปไม่สุดแบบงงๆ
ตัวละครทำอะไรแบบงงๆ บางที (ถึงมันจะเป็นคนบ้าก็เหอะ)
มาหลังตรงช่วงโค้งสุดท้ายแบบเห้ยๆๆ
ดูแบบไหนดีครับ ภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ
ผิดหวังครับ ผมเข้าไปดูโดยคิดว่าเป็นหนังเพลงอย่างดีก็มีสัก 3-4 ฉากที่เป็นเพลงเต็มๆ แต่นี้มีเพลงแทบทุก 5 นาที บอกตรงๆไม่อินเสียความรู้สึกแบบเดียวกับ harley quinn เลยครับ😂😂😂
ตอนภาคแรกที่มีซีนโจ๊กเกอรืเต้นทางแปลก ก็เลยคงจะเคลิ้มอยากฉีกแนวทำแบบมิวสิคคัลล่ะดูแล้ว ก็ว่าคงจะอาร์ตได้เสียงตอบรับที่จะดี
ผมดูผมก็คิดว่าเพลงมันเยอะไป
และคิดว่าท้ายๆจะมีอะไรเดือดๆแต่ก็ไม่มีเลย
ผกก อาจจะอยากทำอะไรใหม่ๆมั้ง ไม่งั้นอีตาวาคีนมันคงไม่เล่น ละก้หาทางลงให้เลยจบแบบนั้น
ชอบฉากเปิดของเรื่องที่โคตรชอบอย่างฮามากกครับที่เป็นการ์ตูน Joker อย่างชอบ 555
ผมเข้าใจโจ๊กเกอร์เป็นอย่างดี ผลกระทบทางจิตใจทำให้คนหนึ่งคนเป็นบ้าได้ เช่นผมคนนึงก็โดนเช่นกัน
เห็นด้วยกับส่วนดีที่ชอบเหมือนๆกัน ไม่เห็นด้วยกับส่วนที่คุณไม่ชอบ ผมโคตรชอบเลย ช่างแม่งภาคแรก งานศิลปะต้องกล้านำเสนอแบบนี้แหล่ะดีจัดดีจริง
ชอบตรงบอกว่า "พี่มีวิธีอยู่ 108 ดันเลือกใช้วิธีที่ 109" ขำจริงอันนี้😂
รู้สึกเฉยๆหลังดูจบ และเห็นอาเธอร์ปกติที่สุดตอนควินบอกเลิก เธอผิดหวังที่สุดท้ายแล้วอาเธอร์ไม่ได้คลั่งเป็นโจ๊กเกอร์แบบที่เธอหวัง แต่การให้ตอนท้ายจบแบบนั้น ปิดตำนานง่ายไปป่าว? นึกว่าจะกลายเป็นโจ๊กเกอร์ที่ไม่สนควิน สนแต่แผนการ
นึกถึง Sister Sage รัยงี้ 55
ค่ายเค้าอยากได้เงินเอง บังคับให้เค้าทำภาคต่อ รู้ว่ายังไงก้อได้ตัง ถึงหนังจะไม่ดีเหมือนภาคแรก ค่ายก้อต้องรับให้ได้ แต่อย่าไปว่าผู้กำกับ และ นักแสดงเลยครับ เค้าถูกบังคับให้ทำภาคต่อ แค่เพียงหนังภาคแรกมันออกมาประสบความสำเร็จ ต้องด่าค่ายเต็มๆ เพราะเหมือนผู้กำกับเค้าไม่พร้อมไม่อยากจะทำ แล้วก้อไม่รู้ว่าทางค่ายหรือนายทุน เข้ามาแซกแซงรึเปล่าด้วย เพราะภาคแรกมันเดือดแบบ18+ ภาค2ไม่รู้เค้าอยากให้คนเข้าดูได้ทุกเพศทุกวัยรึเปล่า สุดท้าย แม่งไม่เวิร์ค ภาค2ทำมาฆ่าภาคแรกชัดๆ พี่จีนให้คะแนนเท่าในใจผมเลยอ่ะ เสียดายอ่ะ อุส่ารอคอย
ชอบอยู่นะ แต่ไม่เท่าภาคแรก เพลงก็ใส่มาผิดจังหวะไปหน่อย
สำหรับผม ผมก็ไม่ค่อยชอบฉากจบนี้เหมือนกันครับ แต่ผมตีความได้ว่า ภาคนี้ น่าจะสื่อถึงการส่งต่อ ของโรค folie a deux มั้งครับ คือการส่งต่อของ อาการ โรคจิตร่วม ก็คือ ผู้คนต่างๆก็เป็น joker เหมือนติดโรคไปแล้ว แต่ก็ไม่ค่อยชอบอยู่ดีว่า ให้ Arther ตัดสินใจแบบนั้นในตอนท้ายเรื่อง
Joker 2019 ดีมาก แต่ Joker 2 ก็ดีในอีกแบบได้เห็นจุดจบที่น่าสงสารของอาเธอร์
โอเค 👌🏻
โจ้กเกอร์ตัวนี้ เป็นมายาที่ป่วย และจบลงแบบอนาจใจในแบบอาเทอร์ แต่มันมีตัวป่วยจิต ที่รุนแรงกว่าได้กำเนิดขึ้น ตัวนี้อาจกระชากไปแนวแอ้กชั่นก็ได้หรือเขย่าขวัญก็ได้
under dog ที่เชียร์ไม่ขึ้น ไม่มี pay off ตอนจบ จะไปดูมันถูกย่ำยีทำไมให้ปวดใจ
ตอนนี้รายได้เปิดตัวน้อยกว่ามอเบียสอีก เป็นบทเรียนให้สตูดิโอว่าทำในสิ่งที่คนไม่อยากดูก็รับผลไปซะ
พูดถึง อาเธอร์ ผมนึกถึงแค่หลานของ แน้ก!!ชาลี
ความน่าสนใจในตัวหนังไปอยู่ที่ตัวละคร“ฮาวี เดน”
ไม่น่าเลยภาค2 😅😅😂
เอาตรงๆภาคนี้ไม่แนะนำให้ดูครับ เอาเงินไปดูเรื่องอื่นดีกว่าผมดูแล้วแทบหลับ
ขนาดชอบภาคแรกมากๆยังไม่ชอบภาคนี้เลยครับ
ส่วนตัวผมนะ ร้องเพลงเยอะไปไหนเอาสะเลดี้กาก้าใช้คุ้มมากกก
อยากรู้ว่าบ้านเราจะมีแฟนคลับ lady gaga ไหม แต่ผมไม่ได้เป็นแฟนคลับนางนะ แค่อยากรู้ว่าจะมีไหม!? 🤔
มีครับ ช่วงนี้มีอีเวนต์นัดกันไปดูเรื่องนี้ด้วยครับ
แฟนคลับนางเยอะนะ ยิ่งLgbt ยิ่งเยอะ ผมชายแท้ยังชอบเพลงนางเลย
เราค่ะ เป็นผู้หญิงแท้ๆ ชอบมาก
ไม่มีเพลงก็เฉยค่ะ เนื้อเรื่องเบาอ่ะ
รอรีวิวพี่จีน😊
ตอนท้ายนางบอก หยุดร้องเพลงสักที หยุดได้แล้ววววว
สำหรับผม ว่ามัน ควรมีแบทโรเบิร์ตมา จะดี
38:17 ตลกตอนที่พี่จีนชักปืน🤣
ภาคที่มีก็ได้ ไม่มีก็ไม่เป็นไร เอาเป็นว่าคือ ภาค 1.5 555😂
มีหนังเรื่องไหนอีกเนี่ยที่พี่จีนให้5/10😱
♥️
++ จบแบบ ทิ้งภาพเบลอๆ กรีดหน้า😅++
คนเขาชอบโซดาลอยไม่มิกซ์ๆ 😂😂😂🍻
เอ้าพี่จีน ไม่เคยฟัง กาก้า กับ ป๋าโทนี่ บาเนท เหรอ แกร้อง แจ๊สเป็นเรื่องปรกติอยู่แล้ว😅
เห็นคนบ่นหนังไม่ดีเยอะ แต่รายได้เปิดตัว เอาเรื่องเหมือนกัน
อาจจะได้แค่อาทิตย์แรกครับ คนแห่ไปดูเพราะคาดหวังสูง แต่ถ้าเจอรีวิวกันหลายภาคส่วนเละขนาดนี้ คนที่ลังเลอยุ่ น่าจะเททิ้งไม่ดูแล้ว ผมคือ 1 ในนั้น
@@artitvasuhirun9184 หนังไม่ดีก็คว่ำตั้งแต่วีคแรกแล้วครับ ไอ้ประเทศอื่นนี่ เค้าน่าจะเสพอะไรที่มากกว่าความเป็น Joker มากกว่า พรีวิว คำวิจารณ์ก็แย่ขนาดนั้น คนที่ไม่ชอบมั่นใจว่าจะไม่ดูแต่แรกแล้ว
ผมว่า Todd phillips ก็ไม่ใช่ผู้กำกับที่มือดีอยู่แล้ว joker1 ก็ไม่ได้ดีอะไรมาก ถ้าไม่ได้นักแสดงอย่าง วาคีน ที่แบกหนังทั้งเรื่อง
That’s life - Frank Sinatra***** 😂
👍
รู้สึกว่าภาค 2 ร้องเพลงเยอะเหมือนแค่ต้องการใช้ Lady Gaga ให้คุ้มๆ
แต่โดยรวมโคตรน่าเบื่อ
ไม่ค่อยชอบค่ะ... บอกตรงมันมีเพลงมากเกินไป...แถมพระเอกมันเป็นโจ๊กเกอร์แล้วแต่ภาคนี้มันอ่อนแอมาก มันไม่อินเลย
มันคือหนังที่ควรทุนต่ำสิบล้านดอลลาร์ ดันทำใหญ่ เจ๊งสิ
ตกลงมันควรไปดูมั้ยนะ
ควรไปดูด้วยตาตัวเองค่ะ 😊
@@ekkawitsrinama5628 ผมผู้อยู่ฝั่งผิดหวังแนะนำอย่างนี้ครับ ถ้าอยากดูควรไปดูในโรงครับ ไม่ว่าชอบหรือไม่ชอบผมว่าคุ้มค่าแก่เวลาที่ได้ไปดูนะ
ปมมันลึกไป หนังดี แต่เกลียดเพลง 555
รู้สึกไปไม่สุด แทนที่จะบ้าให้สุด ระเบิดเมือง
ไม่ใช่แนวเลยครับสำหรับตัวเอง
ผิดหวังมาก
1/10 ครับภาคนี้
ภาคแรก ทำรายได้ไว้สูงมาก เราก็เข้าไปดู ก็ไม่ได้ชอบอะไร ภาค2 เลยไม่ได้ดู
40 s
ผมว่าห่วย ภาคนี้ เเถมจบเเบบนี้
กูจะบ้าเเทน ผิดหวัง
หลับ ไป 3 รอบ 😂😂
พี่จีน **ต้อง** ไปดู สวย สลับร่าง
พอไม่มีพิมพ์เขียว taxi driver ละก็พังแบบนี้
ดู มาแล้ว เป็นประสบการณ์ดูหนังที่แปลกดี
ใครจะไม่ดู ก็เรื่องของมึงจรัา
นี่แหละ ฝืนหนัง